สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 150 ทะเลเพลิง

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 150 ทะเลเพลิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 150 ทะเลเพลิง[รีไรท์]

บทที่ 150 ทะเลเพลิง[รีไรท์]
ฉู่เหินที่เห็นภาพนี้ก็ได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตะลึง พื้นที่นั้นเป็นความรับผิดชอบของคนในหน่วยหนึ่ง ไม่คิดว่าคนคนนั้นจะสะเพร่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้ แต่ตอนนี้เรื่องมันเกิดไปแล้วจะโทษพวกเขาก็ไม่ได้
ฉู่เหินทนเห็นเด็กถูกไฟคลอกไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้ไม่ได้ เขาเริ่มคิดถึงอดีตที่น่าเวทนาของตนเอง และเผลอเห็นภาพตัวเองซ้อนทับกับเด็กคนนี้
ถ้าชีวิตของเขาไม่ได้พบกับหวงเจี้ยนหมิง ป่านนี้ชายหนุ่มก็คงจะนอนตายเป็นหมาข้างถนนไปแล้ว ดังนั้นถ้าเป็นไปได้เขาจึงไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม
ทันใดนั้นฉู่เหินก็รีบพุ่งตัวเองออกไป มันเป็นความเร็วระดับที่เกือบจะเท่าความเร็วของแสง เมื่อร่างของเขาเลือนหายไปก็มีคำพูดออกมา
“พวกนายอยู่ที่นี่ไปนะ ฉันจะไปช่วยเขาเอง”
โจวหู่มองไปที่ฉู่เหินอย่างตกตะลึง เขาเองก็คิดว่าจะออกไปช่วยเด็กคนนั้นอยู่เหมือนกัน หากแต่เขาก็หาหนทางไม่ได้เลย ไม่ใช่ว่าเขากลัวตายหรอก แต่ถ้าเกิดว่าเขาตายก่อนจะเข้าไปช่วยได้ นั่นมันก็คงเป็นการตายที่ศูนย์เปล่า
ไม่เพียงแค่โจวหู่เท่านั้น ทุก ๆ คนเองก็คิดเหมือนกัน ทว่าเมื่อทุกคนเห็นฉู่เหินที่พุ่งออกไปแบบนั้น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอาย บางคนเองก็คิดว่าเขานั้นบ้าบิ่นไปหน่อย แต่ถ้าเกิดว่าฉู่เหินตายในกองเพลิงนั่นละก็ภารกิจของพวกเขาก็จะล้มเหลว
“ฉู่เหินอายุยังน้อย เขาบ้าระห่ำเกินไปแล้ว มีหวังเขาได้ตายในนั้นแน่ ๆ แล้วถ้าภารกิจของเราล้มเหลว มันก็เป็นความผิดของเขา!”
ฮวยเหรินกู๋คือหนึ่งในสิบคนของกลุ่มมังกร เขาเป็นคนขี้อิจฉาแถมยังใจแคบ ถ้าไม่ใช้เพราะว่าอีกไม่นานเขาจะเลื่อนขั้นเป็นยอดฝีมือแล้วละก็ ฮวยเหรินกู๋คงจะโดนเตะออกจากกลุ่มมังกรไปแล้วแน่ ๆ
คำพูดที่แฝงเจตนาว่าร้ายของเขา เริ่มทำให้คนอื่น ๆ ไม่พอใจขึ้นมาบ้างแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่อาจทำอะไรได้เพราะคนที่พูดนั้นอีกแค่ก้าวเดียวก็สามารถเข้าสู่ระดับยอดฝีมือได้แล้ว อีกทั้งคนที่หนุนหลังคนผู้นี้ก็ยังใหญ่พอตัวอีกด้วย ดังนั้นแม้ว่าชื่อเสียงของฮวยเหรินกู๋จะเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะกล้าหาเรื่องเขา
และด้วยคำพูดแบบนั้น มันก็ทำเอาฮวยเหรินกู๋ดูเป็นผู้ร้ายขึ้นมาทันที แน่อยู่แล้วล่ะว่าฮวยเหรินกู๋คือผู้ร้ายที่ยิ่งกว่าตัวร้ายเสียอีก
คนอื่น ๆ ในกลุ่มได้แต่อดทนคำพูดนั่น แต่โจวหู่ไม่จำเป็นต้องอดทน เดิมทีโจวหู่เองก็ฝึกฝนพลังจนถึงระดับยอดฝีมือแล้ว ถ้าไม่มีฉู่เหินละก็เขาก็คือคนที่เก่งที่สุดในนี้
“ไอ้หนุ่ม ถ้าไม่ใช่เพราะปู่แกเป็นที่นับหน้าถือตา ฉันคนนี้คงจัดการแกไปนานแล้ว!” โจวหู่ตะโกนด้วยความโมโห คำพูดดังกล่าวทำเอาทุกคนในทีมยิ้มออกมาได้ พวกเขารู้ดีว่าโจวหู่นั้นก็คือผู้ฝึกยุทธระดับยอดฝีมือที่เก่งพอตัว
“ฉันไม่ได้พูดถึงแกสักหน่อย แกมาแส่อะไรด้วย คิดว่าตัวเองเก่งนักเหรอ แกก็แค่ระดับยอดฝีมือคนหนึ่งแหละหว่า พี่ชายฉันพลังระดับปรมาจารย์ยังเก่งกว่าแกอีก ถ้าแกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายนิ้ว พี่ชายฉันจะตามฆ่าแกจนสุดหล้าฟ้าเขียวแน่” ฮวยเหรินกู๋พูดออกมาด้วยความโอหัง
“ไอ้เวรตะไลเอ๊ย มาลองดูว่าถ้าฉันฆ่าแกซะตอนนี้ พี่ชายของแกจะสามารถเอาชีวิตแกคืนมาได้ไหม?” พวกคนในทีมได้ยินโจวหู่แบบนั้นก็เริ่มนั่งไม่ติด ตอนนี้ไม่ได้สู้กับพวกสัตว์ประหลาด แต่กลับหันมาสู้กันเองซะแล้ว
ฮวยเหรินกู๋ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เสียแล้ว ไม่มีใครกล้าพูดอะไร แต่โจวหู่นั้นรับไม่ได้ เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้าด่าฮวยเหรินกู๋ยกใหญ่
ส่วนฉู่เหินเองก็ยังคงพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วสูงสุดในขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอยู่ ชายหนุ่มเคลื่อนตัวราวกับลูกธนูที่ออกจากแล่ง
เขาวิ่งไปถึงตัวเด็กน้อยด้วยเวลาน้อยกว่า 20 นาที เด็กคนนี้ยังคงนอนหลับอยู่ด้วยความสงบ ฉู่เหินยิ้มออกมาทันทีที่เห็นแบบนั้น เขาโอบเด็กน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมกอดและเตรียมหมุนตัวออกจากที่นี่
ทันทีที่เขาวิ่งออกมาได้ไม่ไกลนัก ไฟก็ลามมาถึงที่หมายพอดี ฉู่เหินสัมผัสได้ว่าพื้นดินกำลังสั่นอย่างรุนแรง มันทำให้เขารู้ว่าต้นไฟได้ลงไปถึงที่หมายแล้ว ฉู่เหินต้องรีบออกจากบริเวณนี้ให้เร็วที่สุดไม่งั้นจะต้องโดนระเบิดทิ้งไปด้วยกันแน่ ๆ
ฉู่เหินรู้ว่าตอนนี้คือช่วงที่อันตรายที่สุด เขาวิ่งต่อไปไม่กล้าแม้จะหยุดพัก เพราะความรู้สึกอันตรายที่ไล่หลังตามเขามาติดๆ
ฉู่เหินคาดเดาไม่ผิด เพราะแม้แต่เขาจะหันกลับไปมองก็ยังไม่กล้า ทันทีที่เขาวิ่งหนีไปอีกทางหนึ่ง พื้นที่ที่ชายหนุ่มเคยอยู่ก็พลันระเบิดทันที เปลวไฟขนาดใหญ่พุ่งทะยานขึ้นมาพร้อมกับคลื่นความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่ว
ไฟนั่นสูงกว่า 5 เมตร โชคยังดีที่ฉู่เหินนั้นรวดเร็วพอที่จะหนีออกมาได้ทันเวลา เพียงชั่วพริบตา พื้นที่ตรงที่เขาเคยอยู่ก็ลุกท่วมด้วยไฟ
ฉู่เหินกลืนน้ำลายอย่างหมดห่วง ถ้าหากโดนไฟพวกนี้เข้าไปละก็จะต้องจบสิ้นแน่ ๆ ร่างกายของเขาน่าจะต้องได้รับบาดเจ็บหนัก
โชคยังดีที่เขาหลบมันได้ เสาเพลิงพวยพุ่งขึ้นไล่ตามหลังตลอดเวลาราวกับมังกรเพลิง
ยิ่งฉู่เหินวิ่งไปเรื่อย ๆ มันก็ยิ่งมีไฟเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่านั้น เหงื่อของชายหนุ่มเริ่มไหลออกมาพร้อมกับความหวาดกลัวที่เพิ่มขึ้น ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่มันก็ดูเหมือนว่าเด็กในอ้อมแขนของเขาจะยังไม่ตื่นขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้เขาถูกห้อมล้อมไปด้วยไฟจำนวนมหาศาล ความหวั่นใจเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉู่เหิน แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่าร่างของเด็กคนนี้กลับเก็บรวบรวมไฟพวกนั้นเข้าไปในร่างกายได้ ยิ่งเด็กคนนั้นดูดกลืนไปมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งปรากฏร่องรอยบางอย่างมากขึ้นเรื่อย ๆ บนร่างของเด็กน้อย
สิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่นอน เท่าที่ฉู่เหินรู้มายังไม่เคยมีการพบเด็กคนไหนที่สามารถดูดซับเปลวเพลิงได้มาก่อน แม้เขาจะเคยพบเรื่องราวมามากมาย แต่ฉู่เหินก็ไม่เคยเจอเข้ากับเรื่องแบบนี้มาก่อน
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ สายตาของฉู่เหินก็เหลือบไปเห็นก้อนหินที่กำลังพุ่งมาหาเขา มันคงจะมาจากแรงระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้แน่นอน
ฉู่เหินขยับร่างของตัวเองหลบมันทันควัน ทว่าในจังหวะที่เขากำลังหลบนั้น มันก็ได้มีหินมากมายกระเด็นมาหาชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ถึงเขาจะรวดเร็วแค่ไหน แต่ฉู่เหินก็ไม่อาจหลบหลีกหินพวกนี้ได้หมดแน่ๆ
เมื่อเห็นแบบนั้นชายหนุ่มจึงเรียกกระดองเต่าออกมาใช้ในการป้องกันตัวเองทันที แต่ในครั้งนี้เขากลับไม่ได้ใช้มันป้องกันตัวเอง หากแต่หมอบคลานไปกับพื้น เพราะที่พื้นตอนนี้อันตรายเกินไป แต่ใครจะไปรู้ว่าในจังหวะนั้นเองก็มีเสาเปลวไฟจะทะลุขึ้นมาจากพื้นดิน!
Next

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 150 ทะเลเพลิง

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 150 ทะเลเพลิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 150 ทะเลเพลิง[รีไรท์]

บทที่ 150 ทะเลเพลิง[รีไรท์]
ฉู่เหินที่เห็นภาพนี้ก็ได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตะลึง พื้นที่นั้นเป็นความรับผิดชอบของคนในหน่วยหนึ่ง ไม่คิดว่าคนคนนั้นจะสะเพร่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้ แต่ตอนนี้เรื่องมันเกิดไปแล้วจะโทษพวกเขาก็ไม่ได้
ฉู่เหินทนเห็นเด็กถูกไฟคลอกไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้ไม่ได้ เขาเริ่มคิดถึงอดีตที่น่าเวทนาของตนเอง และเผลอเห็นภาพตัวเองซ้อนทับกับเด็กคนนี้
ถ้าชีวิตของเขาไม่ได้พบกับหวงเจี้ยนหมิง ป่านนี้ชายหนุ่มก็คงจะนอนตายเป็นหมาข้างถนนไปแล้ว ดังนั้นถ้าเป็นไปได้เขาจึงไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม
ทันใดนั้นฉู่เหินก็รีบพุ่งตัวเองออกไป มันเป็นความเร็วระดับที่เกือบจะเท่าความเร็วของแสง เมื่อร่างของเขาเลือนหายไปก็มีคำพูดออกมา
“พวกนายอยู่ที่นี่ไปนะ ฉันจะไปช่วยเขาเอง”
โจวหู่มองไปที่ฉู่เหินอย่างตกตะลึง เขาเองก็คิดว่าจะออกไปช่วยเด็กคนนั้นอยู่เหมือนกัน หากแต่เขาก็หาหนทางไม่ได้เลย ไม่ใช่ว่าเขากลัวตายหรอก แต่ถ้าเกิดว่าเขาตายก่อนจะเข้าไปช่วยได้ นั่นมันก็คงเป็นการตายที่ศูนย์เปล่า
ไม่เพียงแค่โจวหู่เท่านั้น ทุก ๆ คนเองก็คิดเหมือนกัน ทว่าเมื่อทุกคนเห็นฉู่เหินที่พุ่งออกไปแบบนั้น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอาย บางคนเองก็คิดว่าเขานั้นบ้าบิ่นไปหน่อย แต่ถ้าเกิดว่าฉู่เหินตายในกองเพลิงนั่นละก็ภารกิจของพวกเขาก็จะล้มเหลว
“ฉู่เหินอายุยังน้อย เขาบ้าระห่ำเกินไปแล้ว มีหวังเขาได้ตายในนั้นแน่ ๆ แล้วถ้าภารกิจของเราล้มเหลว มันก็เป็นความผิดของเขา!”
ฮวยเหรินกู๋คือหนึ่งในสิบคนของกลุ่มมังกร เขาเป็นคนขี้อิจฉาแถมยังใจแคบ ถ้าไม่ใช้เพราะว่าอีกไม่นานเขาจะเลื่อนขั้นเป็นยอดฝีมือแล้วละก็ ฮวยเหรินกู๋คงจะโดนเตะออกจากกลุ่มมังกรไปแล้วแน่ ๆ
คำพูดที่แฝงเจตนาว่าร้ายของเขา เริ่มทำให้คนอื่น ๆ ไม่พอใจขึ้นมาบ้างแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่อาจทำอะไรได้เพราะคนที่พูดนั้นอีกแค่ก้าวเดียวก็สามารถเข้าสู่ระดับยอดฝีมือได้แล้ว อีกทั้งคนที่หนุนหลังคนผู้นี้ก็ยังใหญ่พอตัวอีกด้วย ดังนั้นแม้ว่าชื่อเสียงของฮวยเหรินกู๋จะเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะกล้าหาเรื่องเขา
และด้วยคำพูดแบบนั้น มันก็ทำเอาฮวยเหรินกู๋ดูเป็นผู้ร้ายขึ้นมาทันที แน่อยู่แล้วล่ะว่าฮวยเหรินกู๋คือผู้ร้ายที่ยิ่งกว่าตัวร้ายเสียอีก
คนอื่น ๆ ในกลุ่มได้แต่อดทนคำพูดนั่น แต่โจวหู่ไม่จำเป็นต้องอดทน เดิมทีโจวหู่เองก็ฝึกฝนพลังจนถึงระดับยอดฝีมือแล้ว ถ้าไม่มีฉู่เหินละก็เขาก็คือคนที่เก่งที่สุดในนี้
“ไอ้หนุ่ม ถ้าไม่ใช่เพราะปู่แกเป็นที่นับหน้าถือตา ฉันคนนี้คงจัดการแกไปนานแล้ว!” โจวหู่ตะโกนด้วยความโมโห คำพูดดังกล่าวทำเอาทุกคนในทีมยิ้มออกมาได้ พวกเขารู้ดีว่าโจวหู่นั้นก็คือผู้ฝึกยุทธระดับยอดฝีมือที่เก่งพอตัว
“ฉันไม่ได้พูดถึงแกสักหน่อย แกมาแส่อะไรด้วย คิดว่าตัวเองเก่งนักเหรอ แกก็แค่ระดับยอดฝีมือคนหนึ่งแหละหว่า พี่ชายฉันพลังระดับปรมาจารย์ยังเก่งกว่าแกอีก ถ้าแกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายนิ้ว พี่ชายฉันจะตามฆ่าแกจนสุดหล้าฟ้าเขียวแน่” ฮวยเหรินกู๋พูดออกมาด้วยความโอหัง
“ไอ้เวรตะไลเอ๊ย มาลองดูว่าถ้าฉันฆ่าแกซะตอนนี้ พี่ชายของแกจะสามารถเอาชีวิตแกคืนมาได้ไหม?” พวกคนในทีมได้ยินโจวหู่แบบนั้นก็เริ่มนั่งไม่ติด ตอนนี้ไม่ได้สู้กับพวกสัตว์ประหลาด แต่กลับหันมาสู้กันเองซะแล้ว
ฮวยเหรินกู๋ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เสียแล้ว ไม่มีใครกล้าพูดอะไร แต่โจวหู่นั้นรับไม่ได้ เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้าด่าฮวยเหรินกู๋ยกใหญ่
ส่วนฉู่เหินเองก็ยังคงพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วสูงสุดในขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอยู่ ชายหนุ่มเคลื่อนตัวราวกับลูกธนูที่ออกจากแล่ง
เขาวิ่งไปถึงตัวเด็กน้อยด้วยเวลาน้อยกว่า 20 นาที เด็กคนนี้ยังคงนอนหลับอยู่ด้วยความสงบ ฉู่เหินยิ้มออกมาทันทีที่เห็นแบบนั้น เขาโอบเด็กน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมกอดและเตรียมหมุนตัวออกจากที่นี่
ทันทีที่เขาวิ่งออกมาได้ไม่ไกลนัก ไฟก็ลามมาถึงที่หมายพอดี ฉู่เหินสัมผัสได้ว่าพื้นดินกำลังสั่นอย่างรุนแรง มันทำให้เขารู้ว่าต้นไฟได้ลงไปถึงที่หมายแล้ว ฉู่เหินต้องรีบออกจากบริเวณนี้ให้เร็วที่สุดไม่งั้นจะต้องโดนระเบิดทิ้งไปด้วยกันแน่ ๆ
ฉู่เหินรู้ว่าตอนนี้คือช่วงที่อันตรายที่สุด เขาวิ่งต่อไปไม่กล้าแม้จะหยุดพัก เพราะความรู้สึกอันตรายที่ไล่หลังตามเขามาติดๆ
ฉู่เหินคาดเดาไม่ผิด เพราะแม้แต่เขาจะหันกลับไปมองก็ยังไม่กล้า ทันทีที่เขาวิ่งหนีไปอีกทางหนึ่ง พื้นที่ที่ชายหนุ่มเคยอยู่ก็พลันระเบิดทันที เปลวไฟขนาดใหญ่พุ่งทะยานขึ้นมาพร้อมกับคลื่นความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่ว
ไฟนั่นสูงกว่า 5 เมตร โชคยังดีที่ฉู่เหินนั้นรวดเร็วพอที่จะหนีออกมาได้ทันเวลา เพียงชั่วพริบตา พื้นที่ตรงที่เขาเคยอยู่ก็ลุกท่วมด้วยไฟ
ฉู่เหินกลืนน้ำลายอย่างหมดห่วง ถ้าหากโดนไฟพวกนี้เข้าไปละก็จะต้องจบสิ้นแน่ ๆ ร่างกายของเขาน่าจะต้องได้รับบาดเจ็บหนัก
โชคยังดีที่เขาหลบมันได้ เสาเพลิงพวยพุ่งขึ้นไล่ตามหลังตลอดเวลาราวกับมังกรเพลิง
ยิ่งฉู่เหินวิ่งไปเรื่อย ๆ มันก็ยิ่งมีไฟเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่านั้น เหงื่อของชายหนุ่มเริ่มไหลออกมาพร้อมกับความหวาดกลัวที่เพิ่มขึ้น ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่มันก็ดูเหมือนว่าเด็กในอ้อมแขนของเขาจะยังไม่ตื่นขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้เขาถูกห้อมล้อมไปด้วยไฟจำนวนมหาศาล ความหวั่นใจเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉู่เหิน แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่าร่างของเด็กคนนี้กลับเก็บรวบรวมไฟพวกนั้นเข้าไปในร่างกายได้ ยิ่งเด็กคนนั้นดูดกลืนไปมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งปรากฏร่องรอยบางอย่างมากขึ้นเรื่อย ๆ บนร่างของเด็กน้อย
สิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่นอน เท่าที่ฉู่เหินรู้มายังไม่เคยมีการพบเด็กคนไหนที่สามารถดูดซับเปลวเพลิงได้มาก่อน แม้เขาจะเคยพบเรื่องราวมามากมาย แต่ฉู่เหินก็ไม่เคยเจอเข้ากับเรื่องแบบนี้มาก่อน
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ สายตาของฉู่เหินก็เหลือบไปเห็นก้อนหินที่กำลังพุ่งมาหาเขา มันคงจะมาจากแรงระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้แน่นอน
ฉู่เหินขยับร่างของตัวเองหลบมันทันควัน ทว่าในจังหวะที่เขากำลังหลบนั้น มันก็ได้มีหินมากมายกระเด็นมาหาชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ถึงเขาจะรวดเร็วแค่ไหน แต่ฉู่เหินก็ไม่อาจหลบหลีกหินพวกนี้ได้หมดแน่ๆ
เมื่อเห็นแบบนั้นชายหนุ่มจึงเรียกกระดองเต่าออกมาใช้ในการป้องกันตัวเองทันที แต่ในครั้งนี้เขากลับไม่ได้ใช้มันป้องกันตัวเอง หากแต่หมอบคลานไปกับพื้น เพราะที่พื้นตอนนี้อันตรายเกินไป แต่ใครจะไปรู้ว่าในจังหวะนั้นเองก็มีเสาเปลวไฟจะทะลุขึ้นมาจากพื้นดิน!
Next

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+