ราชินีพลิกสวรรค์ 438 เจ้ากล้าแตะต้องนางก็ลองดู!

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 438 เจ้ากล้าแตะต้องนางก็ลองดู! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“…”

บน​แท่น​ว่างเปล่า​นี้​ เหลือ​เพียง​คน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​เท่านั้น​

คน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ ต่าง​ก็​มองหน้า​กัน​ รู้สึก​อาย​เป็นอย่างมาก​!

กำ​แพ​งอ​วิ๋นเมิ่ง​นี้​จงใจทำ​อย่างนี้​กับ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​จริง​หรือ​ ทำไม​คนอื่น​ถึงได้​ถูก​ดูด​เข้าไป​กัน​หมด​แล้ว​ เหลือ​เพียง​คน​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ไว้​ล่ะ​

โอ๊ะ​ ไม่สิ คน​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​มีมู่ชิงเหยียน​เข้าไป​น่ะ​

แต่​!

พวกเขา​ล่ะ​ เหตุใด​ถึงได้​รู้สึก​ว่า​ถูก​ทอดทิ้ง​อย่างไร​อย่างนั้น​กัน​ หรือว่า​ คน​ที่​ถูก​ดูด​เข้าไป​นั้น​ ต่าง​ก็​เป็น​เทียน​เจียว​ขั้น​เทพ​

คน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ที่​เหลือ​ รวมทั้ง​ศิษย์​พี่​เป็น​เพียงแค่​คน​กระจอก​อย่างนั้น​รึ​

ศิษย์​ทั้งหลาย​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ มีความรู้สึก​ว่า​หน้า​เต็มไปด้วย​ความ​หม่นหมอง​

เฟิ่งเทียน​และ​เฟิ่งเซียน​สอง​คนมีสี​หน้า​ย่ำแย่​ไม่แพ้​กัน​ สายตา​ก็​น่ากลัว​เหลือเกิน​ ไม่เหมือนกับ​ตอนแรก​ที่​ดู​เย่อหยิ่ง​

“ข้า​จะทุบ​กำแพง​นี้​ซะ!” เฟิ่งเทียน​กล่าว​อย่าง​โกรธแค้น​

เฟิ่งเซียน​ตกใจ​ และ​กล่าว​ออกมา​ว่า​ “ท่าน​เป็นบ้า​ไป​แล้ว​หรือ​! นี่​เป็น​กำแพง​ศักดิ์สิทธิ์​นะ​! หาก​ท่าน​ทำลาย​มัน​ จะทำให้​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​พบ​เจอ​แต่​โชคร้าย​!”

ไม่มีความรู้สึก​รักใคร่​เหมือน​แต่ก่อน​จาก​น้ำเสียง​ที่​พูด​ออกมา​

เฟิ่งเทียน​เพียงแค่​พูดเล่น​ แต่กลับ​ถูก​เฟิ่งเซียน​คิด​เป็นเรื่อง​จริงจัง​ สีหน้า​ของ​เขา​ก็​ย่ำแย่​ขึ้น​อีก​ และ​จ้อง​นาง​ด้วย​สายตา​เย็นชา​

เฟิ่งเซียน​ถูก​เขา​จ้อง​จน​ตัวสั่น​ น้ำเสียง​ก็​เริ่ม​อ่อน​ลง​ “ศิษย์​พี่ใหญ่​เจ้าคะ​ ข้า​…ข้า​มิได้​หมายความ​เช่นนั้น​เจ้าคะ​…ข้า​เพียงแค่​เป็นห่วง​ว่า​ท่าน​จะกระทำการ​วู่วาม​เจ้าค่ะ​”

เฟิ่งเทียน​หัวเราะ​ “เจ้าวางใจ​เถอะ​ ข้า​ไม่หุนหันพลันแล่น​หรอก​ และ​จะไม่สร้าง​ปัญหา​ให้​กับ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​แน่นอน​”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​เฟิ่งเซียน​ก็​โล่งใจ​

นาง​ถามต่อไป​ว่า​ “แล้ว​ต่อไป​เรา​ควร​ทำ​อย่างไร​ต่อ​เจ้าคะ​”

“รอ”​ เฟิ่งเทียน​หัวเราะ​ เขา​ไม่เชื่อ​หรอก​ ว่า​คน​ที่​ถูก​ดูด​เข้าไป​นั้น​จะไม่กลับ​ออกมา​อีก​เลย​

เจียง​หลี​ที่​ยืน​อยู่​หน้า​กระจก​เมื่อ​เห็นภาพ​นั้น​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​ นาง​มิได้​สนใจ​นัก​ แน่นอน​ว่าที่​นาง​ได้​นำ​ทุกคน​เข้ามา​หมด​นั้น​ มิได้​เพียงแค่​อยาก​จะทำให้​เฟิ่งเทียน​และ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​อับอาย​แค่นั้น​ แต่​ที่​สำคัญ​คือ​แผนการ​ที่​เฟิ่งเทียน​ได้​วาง​ไว้​ก่อนหน้า​นั้น​ต่างหาก​

ถึงขนาด​กล้า​ระดม​คน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​มาเชียว​ อยาก​ครอบครอง​ทุกอย่าง​ภายใน​คราว​เดียว​รึ​ คิด​จริงๆ​ หรือว่า​ซีฮวง​นี้​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ใหญ่​กว่า​ใคร​ เจียง​หลี​หันหลัง​และ​หัวเราะ​

หลังจากที่​เจียง​หลี​หันหลัง​ไป​นั้น​ กระจก​ที่​สามารถ​มอง​ทะลุ​ได้​ก็​หาย​ไป​ด้วย​เช่นกัน​

เจียง​หลี​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ กง​เสวี่ยฮ​วา​เคย​พูด​ไว้​ ซาก​กำแพง​แตกหัก​นี้​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​กลอง​ศิลาจารึก​ แต่ว่า​ตั้งแต่​ที่​นาง​เข้ามา​ กลับ​ไม่มีเบาะแส​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​กลอง​ศิลาจารึก​เลย​สักนิด​

“กลอง​ศิลาจารึก​…” เจียง​หลี​พึมพำ​

ทันใดนั้น​เอง​ นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​ใต้เท้า​ของ​นาง​ว่างเปล่า​ และ​ตกลง​ไป​ด้านล่าง​ทั้งตัว​

นาง​มิได้​รู้สึก​ตกใจ​ แต่กลับ​มอง​ซ้าย​แล​ขวา​ มีภาพ​ต่างๆ​ เกิดขึ้น​มากมาย​ใน​หัว​ของ​นาง​ ภาพ​เหล่านี้​…ดูเหมือน​เป็น​ความทรงจำ​ใน​กำ​แพ​งอ​วิ๋นเมิ่ง​

ภาพ​เหล่านั้น​ กำแพง​อวิ๋นเมิ่ง​มิได้​เป็น​เหมือน​ที่​นาง​เห็น​ตอนนี้​ใน​ตอนแรก​ มัน​ไม่ใช่ซาก​กำแพง​แตกหัก​ แต่​เป็น​ภูเขา​สูงตระหง่าน​ทั้ง​ลูก​

ภูเขา​ที่​ไม่เหมือน​ภูเขา​ลูก​อื่น​ หาก​จะพูดถึง​ความแตกต่าง​แล้ว​นั้น​ มัน​ดู​สูงและ​สง่ากว่า​ภูเขา​ลูก​อื่น​

มีพืชสีเขียว​ขจี​ สาย​หมอก​ล้อมรอบ​ และ​มีบุปผา​หลากหลาย​สายพันธุ์​นับไม่ถ้วน​อยู่​บน​ภูเขา​ ซึ่งเหมาะกับ​ชื่อ​ ‘อวิ๋นเมิ่ง’​ …ม่าน​หมอก​นิมิต​นี้​ยิ่งนัก​

อยู่​มาวันหนึ่ง​ ท้องฟ้า​เปลี่ยนไป​อย่าง​กะทันหัน​ จาก​ท้องฟ้า​ที่​สดใส​กลายเป็น​มืดครึ้ม​ แสงสว่าง​ก็​ถูก​ปิดบัง​ไป​หมด​ และ​มีรอยแตก​มากมาย​เกิดขึ้น​บน​ท้องฟ้า​

เสียง​ขนาด​มหึมา​ดัง​ออกมา​!

ท้องฟ้า​ที่​เต็มไปด้วย​รอยแตก​เกิด​รู​ออกมา​อย่าง​กะทันหัน​ มีแสงสว่างจ้า​ตกลง​มาจาก​รู​นั่น​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​มีเปลวไฟ​อยู่​ด้านหลัง​ ไฟนั่น​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เข้าใกล้​ก็​ทำให้​พื้นดิน​ลุก​เต็มไปด้วย​ไฟ

และ​ไฟนั่น​ก็​ระเบิด​ขึ้น​ท่ามกลาง​อากาศ​ แยก​ออก​เป็น​เก้า​เสี่ยง​และ​พุ่ง​ไป​ยัง​คนละ​ทิศทาง​

หนึ่ง​ใน​นั้น​ ก็​พุ่ง​มายัง​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​

ใน​ภาพ​นั้น​ เจียง​หลี​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ไฟที่​พุ่ง​มาจาก​บน​ฟ้าแทน​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​อย่างไร​อย่างนั้น​ และ​ดูเหมือน​นาง​จะเห็น​ก้อน​กลม​ๆ ก้อน​หนึ่ง​อยู่​ใน​กองไฟ​……

กลอง​ศิลาจารึก​! เจียง​หลี​ตกตะลึง​

ภาพ​เกิดขึ้น​ไว​มาก​ นาง​ไม่ทัน​เห็น​อักษร​คล้าย​งูไฟกำลัง​เลื้อย​สลัก​อยู่​บน​กลอง​ศิลาจารึก​นั่น​

มีจริง​ด้วย​!

เจียง​หลี​ใจเต้น​

กลอง​ศิลาจารึก​ยิ่ง​ใกล้​เข้ามา​แล้ว​ เจียง​หลี​ยืน​อยู่​ใน​มุมมอง​ของ​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​ เห็น​กลอง​ศิลาจารึก​ที่​พุ่ง​เข้ามา​ทาง​ ‘ตัวเอง​’ นาง​สัมผัส​ได้​ถึงแรงกดดัน​สูงจาก​กลอง​นั่น​

เป็น​พลัง​ที่​น่ากลัว​เสีย​จริง​! เจียง​หลี​ตกใจ​

ดูเหมือนว่า​ เมื่อ​ต้อง​อยู่​ต่อหน้า​พลัง​ที่​น่าหวาดกลัว​เช่นนี้​แล้ว​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​ต้อง​เกรงกลัว​พลัง​ที่​ไม่สามารถ​ต้านทาน​นี้​ได้​

ตู้​ม!

ในที่สุด​กลอง​ศิลาจารึก​ก็​กระแทก​เข้ากับ​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​แล้ว​ และ​เมื่อ​เปลวไฟ​ลุกลาม​มัน​ก็​ผ่า​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​ออก​เป็น​สอง​ซีก​ หนึ่ง​ใน​นั้น​ต้านทาน​พลัง​นั้น​ไม่ไหว​ กลายเป็น​หิน​ธรรมดา​นับไม่ถ้วน​ตกลง​ไป​ กับ​อีก​ซีก​หนึ่ง​ที่​ไม่แตกสลาย​ ก็​กลายเป็น​แท่น​ใน​ทุกวันนี้​

ในขณะที่​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​ถูก​แยก​ออก​นั้น​ เดิม​เป็น​พื้นผิว​ที่​หยาบกระด้าง​ แต่​เพราะ​ถูก​ไฟลุกลาม​กลอง​ศิลาจารึก​มัน​เลย​ใสดุจ​แก้ว​ใส

กลอง​ศิลาจารึก​มิได้​หยุด​แค่นี้​ แต่กลับ​ใช้เขา​อวิ๋นเมิ่ง​เป็น​กระดาน​โดด​น้ำ​ แล้ว​โดด​ขึ้นไป​ใน​อากาศ​อีกครั้ง​แล้ว​ตกลง​มายัง​ที่ไหน​สัก​แห่ง​

ตู้​มๆๆๆๆๆๆๆๆ!

ใน​ภาพ​สุดท้าย​ เจียง​หลี​ได้ยิน​เสียงดัง​ออกมา​เก้า​เสียง​ ไฟบน​ท้องฟ้า​ก็​หาย​ไป​ หลังจากที่​พื้นดิน​เริ่ม​มีเสียงดัง​ขึ้น​ ก็​เริ่ม​สั่น​ไหว​ทันที​

เมื่อ​นึกถึง​ตำนาน​ที่​นาง​เคย​ได้ยิน​มาเกี่ยวกับ​กลอง​กลอง​ศิลาจารึก​นี้​ นาง​ก็​เริ่ม​เดา​ได้​แล้ว​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​

!

เจียง​หลี​เดิน​สะดุด​ และ​หลุด​จาก​ความทรงจำ​ของ​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​

เมื่อ​ยืน​อยู่​บน​พื้น​แข็ง​แล้ว​ นาง​ก็​ยังคง​รู้สึก​ว่า​ใจเต้น​แรง​อย่าง​บ้าคลั่ง​อยู่​ กลอง​หิน​มีอยู่​จริงๆ​ กลอง​ศิลาจารึก​ทำให้​ต้าฮวง​แบ่ง​ออก​เป็น​เก้า​แคว้น​ดินแดน​ และ​ที่​กลายเป็น​จิ่วฮ​วงใน​ทุกวันนี้​ก็​เป็น​เรื่องจริง​เช่นกัน​

ถ้าเช่นนี้​แล้ว​ กฎ​สูงสุด​ที่​สลัก​ไว้​บน​กลอง​ศิลาจารึก​ตามที่​ตำนาน​เล่า​ไว้​มีอยู่​จริง​หรือไม่​

หลังจากที่​สะสมกลอง​ศิลาจารึก​ได้​ครบ​แล้ว​ และ​เข้าใจ​ใน​กฎ​สูงสุด​นี้​แล้ว​ จะสามารถ​ทะลุ​มิติ​และ​ไป​สู่โลก​อีก​โลก​หนึ่ง​ได้​จริง​หรือ​

คำถาม​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​หัว​เจียง​หลี​เรื่อยๆ​ เจียง​หลี​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​นั้น​รู้​เกี่ยวกับ​โลก​ใบ​นี้​น้อย​เกินไป​จริงๆ​

แม้กระทั่ง​ตอนนี้​ นาง​ก็​ยัง​ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​นาง​ถึงได้​เข้าไป​ใน​กำ​แพ​งอ​วิ๋นเมิ่ง​ได้​ และ​เหตุใด​ถึงได้​มีความรู้สึก​เช่นนี้​ ดูเหมือน​ ทุกสิ่ง​ที่​นาง​ต้องการ​ล้วน​จะปรากฏ​อยู่​ตรงหน้า​นาง​ทั้งหมด​

นอก​กำ​แพ​งอ​วิ๋นเมิ่ง​ บน​ต้นไม้​ที่​เป็น​พุ่ม​สีเขียวชอุ่ม​โบราณ​ที่ไหน​สัก​แห่ง​ มีสัตว์​ขน​ยาว​นั่ง​อยู่​ ดวงตา​สีใสของ​มัน​มอง​ไป​ยัง​ทาง​กำ​แพ​งอ​วิ๋นเมิ่ง​ เงียบ​ไม่พูด​อะไร​ ขอ​แค่​หลี​เอ๋อร์​ของ​เขา​ มีความสุข​ก็​พอแล้ว​

บน​แท่น​ของ​กำ​แพ​งอ​วิ๋นเมิ่ง​ ห่าง​จาก​วันที่​คนอื่น​ถูก​ดูด​เข้าไป​แล้ว​เป็นเวลา​หนึ่ง​วัน​

เฟิ่งเทียน​หมด​ความอดทน​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ สายตา​ที่​จ้องมอง​กำ​แพ​งอ​วิ๋นเมิ่ง​นั้น​เต็มไปด้วย​ความโกรธ​

ทันใดนั้น​เอง​ เงาบน​กำแพง​แตกหัก​ที่​ราวกับ​กระจก​นั้น​ก็​สั่น​ไหว​ มีคน​คน​หนึ่ง​เหมือน​ถูก​ผลัก​ออกมา​ และ​ยืน​อย่าง​ไม่มั่นคง​

คน​ที่​ปรากฏ​ออกมา​ ทำให้​เหล่า​ลูกศิษย์​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ตา​เบิก​กว้าง​

ใน​ระยะเวลา​ไล่เลี่ย​ มีคน​ถูก​ผลัก​ออก​มาจาก​กำแพง​เยอะ​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ใบหน้า​ของ​พวกเขา​เต็มไปด้วย​ความระลึกถึง​และ​ความเสียดาย​

ผู้คน​เหล่านั้น​ที่​ถูก​ดูด​เข้าไป​ก็​ค่อยๆ​ ถูก​ผลัก​ออก​มายัง​แท่น​เหมือนเดิม​

คน​ที่​ออกมา​คน​สุดท้าย​คือ​มู่ชิงเหยียน​และ​กง​เสวี่ยฮ​วา​

มู่ชิงเหยียน​ยัง​ไม่ทัน​ยืน​นิ่ง​ ก็​มีฝ่ามือ​ที่​ผสม​กับ​พลัง​วิญญาณ​ก็​ตบ​ลง​ตรง​แก้ม​ของ​นาง​ “มู่ชิงเหยียน​เจ้าช่างบังอาจ​ยิ่งนัก​!”

!

แต่​ฝ่ามือ​นั้น​ก็​หยุด​อย่าง​กะทันหัน​

มือ​ของ​เฟิ่งเซียน​ไม่สามารถ​ขยับ​ได้​ และ​หันไป​มอง​ผู้หญิง​ที่​เดิน​ออกจาก​กำแพง​อย่าง​ตกใจ​

“เจ้ากล้า​แตะต้อง​นาง​ก็​ลองดู​!” คำพูด​ที่​เฉียบขาด​ออกจาก​ปาก​ของ​นาง​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด