ราชินีพลิกสวรรค์ 441 นี่เรียกว่าทุนของความหยิ่งผยอง

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 441 นี่เรียกว่าทุนของความหยิ่งผยอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คําพูดของ​เจียง​หลี​ ดังก้อง​อยู่​นาน​บน​ลาน​กว้าง​ที่​ซาก​กำ​แพ​งอ​วิ๋นเมิ่ง​

ทุกคน​ยังคง​ตกตะลึง​ ไม่เคย​คาดคิด​มาก่อน​ว่า​นาง​จะสังหาร​หัวหน้า​ลูกศิษย์​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​เช่นนี้​

ณ เวลานี้​ ดูเหมือนว่า​เรื่อง​จะจบ​ยาก​แล้ว​

หลาย​คน​ถอย​ออก​ไป​อย่าง​เงียบๆ​ พวกเขา​ไม่ได้​เกี่ยวข้อง​หรือ​รู้จัก​กับ​เจียง​หลี​ ไม่มีทาง​ที่​พวกเขา​จะต้อง​มีส่วน​ร่วมใน​เรื่อง​นี้​

ถ้าหาก​คน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​เริ่ม​บ้าคลั่ง​ขึ้น​มา และ​คิด​ว่า​พวกเขา​เป็น​ผู้สมรู้ร่วมคิด​ พวกเขา​ก็​จะตาย​อย่าง​ไร้​ความเป็นธรรม​

แต่​ขณะที่​ทุกคน​กําลังถอยกลับ​ มู่ชิงเหยียน​ก็​ก้าว​ออกมา​และ​ตะโกน​ว่า​ “พวก​เจ้าคิด​ว่า​พวก​เจ้าจะหนีรอด​จาก​เรื่อง​ไป​ได้​หรือ​ ข้า​จะบอก​พวก​เจ้าว่า​ ใน​ตอนแรก​ พวกเขา​แอบ​ส่งคน​ไป​แจ้งข่าว​ที่​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ เพื่อ​จะพา​พวก​เจ้าทั้งหมด​กลับ​ไป​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ มอบ​ทุกอย่าง​ที่​ได้รับ​จาก​กำ​แพ​งอ​วิ๋นเมิ่ง​มา ตอนนี้​ข้า​เกรง​ว่า​คน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​คงจะ​มาถึงแล้ว​”

ทันทีที่​นาง​พูด​จบ​ ราวกับ​จะพิสูจน์​สิ่งที่​นาง​พูด​นั้น​ไม่มีผิด​ บน​ฟ้าก็​ปรากฏ​เสียงดัง​กลางอากาศ​อย่าง​ต่อเนื่อง​

ฟิ้วๆๆๆๆ!​

เงาแต่ละ​ร่าง​ก็​ลอย​ลงมา​ที่​ขอบ​ลาน​กว้าง​ยิ่ง​อยู่​ยิ่ง​เยอะ​ ไม่นาน​ก็​มีผู้คน​นับ​พัน​ปรากฏตัว​ขึ้น​ ล้อมรอบ​ทุกคน​บน​ลาน​กว้าง​เอาไว้​

เสื้อผ้า​ของ​พวกเขา​เหมือนกัน​ทั้งหมด​คือ​มาจาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​

“ถูก​ล้อม​แล้ว​จริง​หรือ​”

“คน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​นั้น​ช่างน่ารังเกียจ​นัก​!”

“น่ารังเกียจ​และ​ไร้ยางอาย​สิ้นดี​!”

“คน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ทําตัวโอหัง​เกินไป​แล้ว​ ความเข้าใจ​ตระหนัก​ใน​ซาก​กำแพง​ล้วน​อาศัย​วาสนา​ของ​ตน​ พวกเขา​ไม่มีความสามารถ​ที่จะ​เข้าไป​ ตอนนี้​กลับ​คิด​จะมาแย่งชิง​”

“ถุย​! เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ช่างหน้าไม่อาย​!”

“…”

ทุกคน​ก่อนหน้านี้​ ต่าง​ดูถูก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​และ​แอบ​เข้ามา​ใกล้​กัน​ พวกเขา​มอง​ไป​ยัง​ศิษย์​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ที่​กําลังกดขี่ข่มเหง​อยู่​รอบ​ๆ

เมื่อ​เฟิ่งเซียน​เห็น​ว่า​กําลังเสริม​มาถึงแล้ว​ นาง​ก็​แสดงท่าทาง​หยิ่งยโส​ออกมา​ นาง​ไม่ได้​รู้สึก​เสียใจ​กับ​การตาย​ของ​เฟิ่งเทียน​ นาง​รู้สึก​ว่า​นั่น​เป็นความ​อัปยศอดสู​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​

นาง​มอง​ไป​ที่​มู่ชิงเหยียน​ที่อยู่​ท่ามกลาง​ฝูงชน​และ​ยิ้ม​เย้ยหยัน​ “มู่ชิงเหยียน​เจ้ามัน​สุนัข​ข้างทาง​ เจ้ากลัว​หรือยัง​”

มู่ชิงเหยียน​ทําหน้า​เย็นชา​ ไม่เถียง​กับ​นาง​ แต่​เดิน​ตรง​ไปหา​เจียง​หลี​แทน​

เมื่อ​เผชิญ​กับ​การ​ถูก​ล้อม​อย่าง​หนาแน่น​ เจียง​หลี​ก็​ไม่ได้​แสดง​สีหน้าที่​เคร่งเครียด​หรือ​กังวล​ออกมา​

อย่างไรก็ตาม​ การแสดงออก​ของ​นางใน​สายตา​ของ​เฟิ่งเซียน​นั้น​เป็น​เพียง​การ​แสร้ง​ทําเป็น​สงบนิ่ง​

“จับ​คน​พวก​นี้​ให้​หมด​!” เฟิ่งเซียน​ออกคําสั่ง

“ขอรับ​”

คน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ตะโกน​ออกมา​

“สู้กับ​พวก​มัน​!”

“ใช่! สู้กับ​พวกเขา​ แย่​สุด​ก็​แค่​ตาย​ ดีกว่า​ถูกจับ​ไป​ทรมาน​!”

“ใช่! สิ่งที่​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ทําใน​วันนี้​ จะต้อง​ได้รับ​การ​ลงโทษ​อย่าง​แน่นอน​!”

“…”

ฝูงชน​มีความโกรธ​และ​มีเจตนารมณ์​ที่จะ​ต่อสู้​กัน​ สงคราม​นี้​ถูก​กระตุ้น​โดย​ความ​บ้าอำนาจ​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​

เมื่อ​ทั้งสองฝ่าย​ชักดาบ​ออกมา​ เจียง​หลี​กลับ​มอง​กง​เสวี่ยฮ​วา​อย่าง​สนุก​ กง​เสวี่ยฮ​วา​จัดแจง​เสื้อผ้า​ของ​ตน​ “เจ้ามอง​ข้า​ทำไม​”

“ถึงเวลา​แล้ว​เจ้าออกโรง​แล้ว​” เจียง​หลี​ยิ้ม​อย่าง​มีเสน่ห์​ให้​เขา​

กง​เสวี่ยฮ​วา​ตะลึงงัน​ แล้ว​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​คําพูดนาง​ในทันที​ เขา​หัวเราะ​และ​ส่ายหน้า​ ภายใต้​การ​ชี้นําของ​เจียง​หลี​ เขา​กระแอม​ไอ​ออกมา​สอง​ครั้งก่อน​จะเดิน​ออกมา​

“นอกจาก​เฟิ่งเซียน​แล้ว​ มีใคร​อีก​ที่​สามารถ​ตัดสินใจ​ได้​” กง​เสวี่ยฮ​วา​เอา​มือ​ไขว้หลัง​ เงยหน้า​ยืดอก​ ทําหน้า​เย่อหยิ่ง​

เฟิ่งเซียน​ยิ้มเยาะ​และ​กล่าว​อย่าง​เย้ยหยัน​ว่า​ “ตอนนี้​เจ้าขอ​ความเมตตา​หรือ​ มัน​สาย​ไป​แล้ว​!”

แต่​กง​เสวี่ยฮ​วา​ไม่สนใจ​นาง​ เหลือบมอง​ฝูงชน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​อย่าง​ดูถูก​ เขา​ไม่เชื่อ​ว่า​ส่งคน​มามากมาย​ จะไม่มีผู้นําเลย​หรือ​

ตามที่​คาด​ไว้​ หลังจากที่​เฟิ่งเซียน​ถูก​เมิน​ ชาย​วัยกลางคน​ก็​เดิน​ออก​มาจาก​ฝูงชน​และ​ยืน​อยู่​ข้างๆ​เฟิ่งเซียน​

“ท่าน​คือ​…” เขา​ถามอย่าง​ระวัง​ไม่ได้​เหมือน​อย่าง​เฟิ่งเซียน​

“ท่าน​ลุง​รอง​ ทําไมท่าน​ถึงสุภาพ​กับ​เจ้าโจร​น้อย​นี่​นัก​” เฟิ่งเซียน​กล่าว​อย่าง​ไม่พอใจ​

เฟิ่งเอ้อร์​ส่ายหน้า​ช้าๆ กับ​นาง​ มองดู​กง​เสวี่ยฮ​วา​อย่าง​ระมัดระวัง​

กง​เสวี่ยฮ​วา​ยิ้ม​ “ยังมี​คน​ที่​ยัง​มอง​สถานการณ์​ออก​” พูด​ไป​เขา​ก็​หยิบ​ป้าย​หยก​ออก​มาจาก​อก​แล้ว​โยน​ใส่เฟิ่งเอ้อร์​

เฟิ่งเอ้อร์​ใช้สอง​มือ​รับ​ไว้​ เมื่อ​มอง​ดี​ๆ ดวงตา​ก็​หด​เล็ก​ลง​ทันที​ วัง​เทียน​อู่​กง​!

มือ​ของ​เขา​สั่น​เล็กน้อย​ และ​ถูก​ซ่อน​ไว้​ทันที​ เขา​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ๆ และ​พยายาม​สงบสติอารมณ์​ เขา​ตําหนิเฟิ่งเทียน​กับ​เฟิ่งเซียน​และ​ตําหนิพวกเขา​ที่​ยั่วยุ​คน​ที่​พวกเขา​ไม่ควร​ไป​ยุ่ง​ด้วย​

“ขอ​ถามชื่อเสียงเรียงนาม​ของ​คุณชาย​” เฟิ่งเอ้อร์​ลอง​เอ่ย​ถามอย่าง​ระมัดระวัง​

กง​เสวี่ยฮ​วา​ยิ้ม​สดใส​มากขึ้น​ “ข้า​แซ่กง​”

แซ่กง​

เฟิ่งเอ้อร์​หายใจ​แรง​ ดวงตา​คู่​นั้น​เกือบจะ​ถลึง​ออกมา​ ใน​วัง​เทียน​อู่​กง​ มีเพียง​ครอบครัว​เดียว​ที่​แซ่กง​!

“ขอ​เสียมารยาท​ถามอีกครั้ง​ นาย​ท่าน​กง​คือ​…”

“ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​” คิ้ว​ของ​กง​เสวี่ยฮ​วา​ยกขึ้น​ เอว​ตั้งตรง​ขึ้น​

ฉึก​

เฟิ่งเอ้อร์​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​ๆ จน​เกือบจะ​กัด​ลิ้น​ตัวเอง​จน​ขาด​ อันตราย​มาก​! น่า​ตกใจ​มาก​! เกือบ​ถึงจุด​หายนะ​แล้ว​

“ที่แท้​ก็​นาย​น้อย​กง​นี่เอง​ เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ข้า​เสียมารยาท​แล้ว​!” เฟิ่งเอ้อร์​ยกมือ​ทั้งสอง​ข้าง​คืน​ป้าย​ให้​กง​เสวี่ยฮ​วา​ทันที​ เอว​ก็​โค้ง​งอ​ลง​

วัง​เทียน​อู่​กง​! นาย​น้อย​!

ทุกคน​ต่าง​ตกใจ​ พวกเขา​คิดไม่ถึง​ว่า​บุรุษ​รูปหล่อ​ที่​ต่ำต้อย​นี้​จะมีภูมิหลัง​ที่​ยิ่งใหญ่​เช่นนี้​ วัง​เทียน​อู่​กง​! นั่น​เป็นหนึ่ง​ใน​เจ็ด​กลุ่ม​อำนาจ​ระดับสูง​ คน​ภายใน​ล้วน​เป็น​บุคคล​ที่​สามารถ​เดิน​เริง​ไป​ทั่ว​ดินแดน​ซีฮวง​ได้​ ยิ่งไปกว่านั้น​…นาย​น้อย​มาด้วย​ตนเอง​หรือ​

รอบ​นี้​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​เจอ​ตอ​เข้า​แล้ว​เป็นแน่​

หลาย​คน​แอบ​คิด​เรื่อง​นี้​ก็​มีความรู้สึก​สะใจไม่น้อย​

“ท่าน​ลุง​รอง​ ท่าน​จะเกรงใจ​เขา​ขนาด​นั้น​ทําไมกัน​” เฟิ่งเซียน​เคยชิน​กับ​การ​ถูก​ตามใจ​และ​ไม่ค่อย​ออกจาก​เขตแดน​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ นาง​ไม่รู้​และ​ไม่ชัดเจน​เกี่ยวกับ​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​วัง​เทียน​อู่​กง​

“เจ้าหุบปาก​ซะ กลับ​ไป​แล้ว​ค่อย​จัดการ​เจ้า” เฟิ่งเอ้อร์​พูด​อย่าง​เกรี้ยวกราด​

เฟิ่งเซียน​งุนงง​และ​รู้สึก​ผิด​มากขึ้น​ นาง​กระทืบเท้า​อย่าง​แรง​ “ท่าน​ลุง​รอง​ พ่อ​ข้า​เรียก​ท่าน​มา ให้​ท่าน​มาช่วย​คนนอก​รังแก​ข้า​หรือ​”

“ข้า​บอก​ให้​เจ้าหุบปาก​!” เฟิ่งเอ้อร์​กล่าว​เสียง​เข้ม​อีก​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​

เมื่อ​หันกลับ​ไป​มอง​กง​เสวี่ยฮ​วา​ ก็​ฝืนยิ้ม​ออกมา​อีกครั้ง​ “นาย​น้อย​ ทำให้​ท่าน​ต้อง​เห็น​เรื่อง​น่าอับอาย​แล้ว​ ข้า​ไม่รู้​ว่า​นาย​น้อย​จะเดินทาง​มายัง​ที่นี่​ มีเรื่อง​ล่วงเกิน​มากมาย​ อย่า​ได้​ถือโทษ​เลย​”

“วันนี้​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ของ​พวก​เจ้าทําให้ข้า​ได้​มีประสบการณ์​เพิ่มขึ้น​จริงๆ​!” กง​เสวี่ยฮ​วา​กล่าว​อย่าง​ยิ้มแย้ม​

แผ่น​หลัง​ของ​เฟิ่งเอ้อร์​เย็นเยียบ​ และ​หยาดเหงื่อ​เย็น​หยด​ลง​มาจาก​มุมขมับ​ของ​เขา​ “นี่​….นี่​เป็น​แค่​เรื่องไร้สาระ​ของ​พวก​ที่​โง่เขลา​ทั้งนั้น​”

“เรื่องไร้สาระ​หรือ​” กง​เสวี่ยฮ​วา​พูด​อย่าง​สนุกสนาน​

เฟิ่งเอ้อร์​ยิ้ม​อย่าง​ไม่เต็มใจ​ แต่​ทำได้​เพียง​พยักหน้า​

“ได้​ ข้า​จะถือว่า​มัน​เป็น​เรื่องไร้สาระ​ เช่นนั้น​ตอนนี้​เรา​ไปกันได้​หรือยัง​” กง​เสวี่ยฮ​วา​มอง​เขา​อย่าง​ติดตลก​

“แน่นอน​ๆ! แท้จริง​แล้ว​ซาก​กำ​แพ​งอ​วิ๋นเมิ่ง​นี่​ก็​ไปมา​ได้​ตามใจ​ นาย​น้อย​พูด​เกินไป​แล้ว​ แต่​นาย​น้อย​ยาก​ที่จะ​มาเยือน​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ ไม่ไป​นั่ง​พัก​หน่อย​หรือ​ และ​ให้​เรา​ได้​แสดง​ความเคารพ​ต่อ​มิตรภาพ​ใน​ฐานะ​ของ​เจ้าบ้าน​” เฟิ่งเอ้อร์​รีบ​พูด​

ขณะเดียวกัน​ ภายใต้​การ​ชี้นําจาก​สายตา​ของ​เขา​ คน​ที่​ล้อมวง​ไว้​อย่าง​แน่นหนา​ก็​ถอย​ไป​ด้าน​ข้าง​ แล้ว​หยุด​วงล้อม​

“ท่าน​ลุง​รอง​ ท่าน​บ้า​ไป​แล้ว​หรือ​ ปล่อย​พวกเขา​ไป​ได้​อย่างไร​! นาง​คน​นั้น​เป็น​คน​ฆ่าเฟิ่งเทียน​!” เฟิ่งเซียน​ตะโกน​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​ดุร้าย​ ดวงตา​อาฆาต​ของ​นาง​มอง​ไป​ที่​เจียง​หลี​

ดวงตา​ของ​เฟิ่งเอ้อร์​เป็นประกาย​ เขา​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​เจียง​หลี​ที่​กําลังเก็บตัว​อยู่​อย่าง​เงียบๆ​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด