ราชินีพลิกสวรรค์ 451 การต่อสู้ระหว่างปีศาจ

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 451 การต่อสู้ระหว่างปีศาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มู่เหยี่ยนฉือขอ​ท้า​เจียง​หลี​ เจียง​หลี​จะรับคำ​ท้า​หรือไม่​”

คำพูด​นี้​ดังก้อง​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ท้องฟ้า​ของ​วัง​เทียน​อู่​กง​

มู่ชิงเหยียน​ที่​วางแผน​จะไป​เดิน​ชมวัง​ หลังจากที่​ได้ยิน​คำพูด​นี้​ สีหน้า​ก็​ดู​ตื่น​ตระหนกตกใจ​ขึ้น​มา นาง​พูด​กับ​ลูกศิษย์​ที่​เดิน​นำทาง​นาง​ว่า​ “เร็ว​ รีบ​พา​ข้า​ไป​ที่​เวที​ประลอง​”

หลังจากที่​ลูกศิษย์​ของ​วัง​เทียน​อู่​กง​คนอื่นๆ​ ได้ยิน​ก็​อึ้ง​ไป​ครู่หนึ่ง​ แล้ว​เกิด​ความสนใจ​ขึ้น​มา

“มู่เหยี่ยนฉือคง​นั่ง​ไม่ติด​ อยาก​จะท้า​สู้กับ​เจียง​หลี​รึ​”

“ดู​แล้ว​คง​เป็น​เพราะ​เจียง​หลี​ทำลายสถิติ​ลง​ ทำให้​มู่เหยี่ยนฉือคน​ที่​คลั่งไคล้​การต่อสู้​นั่น​โมโห​หรือ​”

“ไม่ว่า​จะเพราะอะไร​ อย่างไร​พวกเรา​ก็​มีเรื่อง​สนุก​ๆ ให้​ดู​ นี่​คง​เป็น​การปะทะ​กัน​ระหว่าง​ปีศาจ​กับ​ปีศาจ​!”

“อืม​ เจียง​หลี​มีพรสวรรค์​มาก​ แล้ว​ยัง​รูปงาม​อีก​ ไม่รู้​ว่า​ฝีมือ​การต่อสู้​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

“เจอ​กับ​คนสวย​แบบนี้​ ข้า​ทำ​ไม่ลง​หรอก​ ยอม​ตาย​ด้วยมือ​ของ​นาง​ดีกว่า​ต้อง​ทำร้าย​นาง​”

“น่าเสียดาย​ที่​มู่เหยี่ยนฉือ​ไม่ใช่เจ้า ใน​หัว​ของ​เจ้านั่น​มีแต่​การต่อสู้​ เป็น​คน​ที่​คลั่งไคล้​การต่อสู้​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​ ต่อให้​สวย​กว่า​นี้​ ใน​สายตา​ของ​เขา​ก็​เป็น​แค่​โครงกระดูก​สีชมพู​”

“ไป​ๆๆ พวกเรา​รีบ​ไป​จับจอง​ที่นั่ง​กัน​เถอะ​!”

“รีบ​ทำไม​ เจียง​หลี​ยัง​ไม่รับคำ​ท้า​มิใช่หรือ​”

“…”

ณ ตำหนัก​เทียน​จื้อ​ เจียง​หลี​หยุด​เดิน​แล้ว​หันมา​มอง​เสียง​ท้า​สู้ที่​ดัง​ขึ้น​ไม่หยุด​จาก​ด้านนอก​

กง​เสวี่ยฮ​วา​กัดฟัน​พูด​ “มู่เหยี่ยนฉือ​นี่​รีบร้อน​จริงๆ​!” ทันที​หลังจากนั้น​เขา​ก็​หันมา​มอง​เจียง​หลี​ “เจียง​หลี​ เจ้าไม่ใช่ลูกศิษย์​วัง​เทียน​อู่​กง​ของ​ข้า​ ไม่ต้อง​สนใจ​คำ​ท้า​ของ​เขา​ก็ได้​”

“ข้า​รับคำ​ท้า​” เจียง​หลี​พูด​อย่าง​เย็นชา​

“ฮะ?” หง​เสวี่ยฮ​วา​อึ้ง​ไป​ มอง​นาง​ด้วย​ความ​ตะลึง​

เจียง​หลี​มอง​เขา​แล้ว​เลิกคิ้ว​

กง​เสวี่ยฮ​วา​ทำ​อะไร​ไม่ได้​จึงยิ้ม​ “เจ้าคิด​ดีแล้ว​หรือ​ เจ้าเพิ่งจะ​เป็นที่​สนใจ​ใน​วัง​เทียน​อู่​กง​ของ​ข้า​ ถ้าหากว่า​แพ้​เขา​ จะขายหน้า​เอา​นะ​”

เจียง​หลี​กลับ​ไม่คิด​เช่นนั้น​ “ทักษะ​การต่อสู้​ที่​เพิ่ง​ได้​เรียนรู้​มากำลัง​ต้อง​การคน​มาทดสอบ​อยู่​พอดี​”

“…” กง​เสวี่ยฮ​วา​ถูก​คำพูด​ของ​นาง​ทำให้​พูดไม่ออก​ ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​ความมั่นใจ​ที่​เต็มเปี่ยม​ของ​นาง​รึเปล่า​ที่​ทำให้​รู้สึก​แบบ​นั้น​ เขา​หยิบ​บางสิ่งบางอย่าง​ออกมา​แล้ว​ลาก​ไป​บน​ฟ้า

ทันใดนั้น​ควัน​สีแดง​ก็​พุ่ง​ไป​บน​ฟ้าแล้ว​ค่อยๆ​ จางหาย​ไป​

“นี่​คือ​การตอบรับ​คำ​ท้า​ ถ้าหาก​ไม่รับคำ​ท้า​ ก็​จะปล่อย​ควัน​สีเขียว​” กง​เสวี่ยฮ​วา​พูด​อธิบาย​

เจียง​หลี​พยักหน้า​ แล้ว​หันหน้า​หนี​อย่าง​ไม่สนใจ​ “ไป​กัน​เถอะ​ ไป​พบ​เจ้าของ​วัง​ก่อน​”

“รับคำ​ท้า​แล้ว​! รับคำ​ท้า​แล้ว​! เจียง​หลี​รับคำ​ท้า​แล้ว​!”

“เร็ว​เข้า​! รีบ​ไป​จอง​ที่นั่ง​ ไป​ช้าเดี๋ยว​ไม่มีที่​ดี​ๆ นั่ง​”

“ไป​ๆๆ!”

ใน​ตอนที่​เจียง​หลี​ก้าว​เข้าสู่​ตำหนัก​ เหล่า​ลูกศิษย์​ใน​แต่ละ​ส่วน​ของ​วัง​เทียน​อู่​กง​กลายเป็น​ลำแสง​มุ่งไป​ยัง​เวที​การ​ประลอง​

ระหว่างทาง​ มีคน​ต่อสู้​กัน​อยู่​ไม่น้อย​

กง​เสวี่ยฮ​วา​ผลัก​ประตู​ใหญ่​ของ​ตำหนัก​ แล้ว​เดิน​เข้าไป​กับ​เจียง​หลี​ ใน​ตำหนัก​โล่ง​มาก​ ไม่มีใคร​เลย​ มีเพียง​ชาย​วัยกลางคน​รูปงาม​ที่​สวมใส่​ชุด​สีขาว​คน​นั้น​นั่ง​อยู่​

“ท่าน​พ่อ​” กง​เสวี่ยฮ​วา​เรียก​ด้วย​ความ​นอบน้อม​

กง​ฉิงพยักหน้า​ แล้ว​มอง​เจียง​หลี​

สายตา​ที่​จ้องมอง​มีความกดดัน​ ทำให้​เจียง​หลี​รู้สึก​เหมือนว่า​ถูก​มอง​จน​เห็น​ถึงกระดูก​ นาง​ไม่ได้​แสดง​อะไร​ออกมา​ นาง​ทำความเคารพ​แล้ว​พูด​กับ​กง​ฉิงว่า​ “ข้าน้อย​คือ​เจียง​หลี​ ขอ​คารวะ​ใต้เท้า​”

“ที่นี่​ไม่มีคนอื่น​ เจ้าไม่จำเป็นต้อง​เกรงใจ​ ใน​เมื่อ​เจ้ากับ​ฮวา​ฮวา​เป็น​สหาย​กัน​ ก็​เรียก​ข้า​ว่า​ลุง​ก็ได้​” กง​ฉิง พูด​ด้วย​ใบหน้า​อมยิ้ม​

“ท่าน​ลุง​กง​” เจียง​หลี​เรียก​เขา​ใหม่​อย่าง​จริงใจ​

กง​ฉิงยิ้ม​กว้าง​ขึ้น​ เขา​พูดว่า​ “มู่ชิงเหยียน​ท้า​สู้เจ้า แล้ว​เจ้าก็​รับคำ​ท้า​แล้ว​ เช่นนั้น​ข้า​ก็​จะไม่ทำให้​เจ้าเสียเวลา​ ข้า​ขอ​ถามเจ้าเพียง​คำถาม​เดียว​ ทักษะ​การต่อสู้​ที่​เจ้าได้​มาจาก​แผนที่​ดารา​เทพ​สงคราม​ใช่วิชา​ใน​ตำนาน​หรือไม่​”

“วิชา​ใน​ตำนาน​หรือ​” กง​เสวี่ยฮ​วา​มอง​เจียง​หลี​ด้วย​ความ​ตะลึง​ มิน่าล่ะ​ชื่อ​ของ​นาง​ถึงได้​ปรากฏ​อยู่​อันดับ​แรก​!

เจียง​หลี​ยิ้ม​ แล้ว​พูดตาม​ความจริง​ว่า​ “ใช่วิชา​ใน​ตำนาน​หรือไม่​ข้า​ก็​ไม่รู้​ เพียงแต่​เป็น​วิชา​ที่​ทรงพลัง​เอา​มาก​ๆ ทักษะ​การต่อสู้​นี้​มีชื่อว่า​ฝ่ามือ​พลัง​ปีศาจ​”

“ฝ่ามือ​พลัง​ปีศาจ​รึ​” กง​ฉิงมอง​นาง​ด้วย​ความสนใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​

กง​เสวี่ยฮ​วา​ก็​ตั้งใจฟัง​ “ทักษะ​การต่อสู้​ใน​ตำนาน​! ทั้ง​ซีฮวง​คงจะ​มีไม่มาก​ เจ้านี่​ก็​โชคดี​จริงๆ​ นึกไม่ถึง​ว่า​จะได้​ทักษะ​การต่อสู้​ใน​ตำนาน​”

“อืม​” เจียง​หลี​พยักหน้า​ แล้ว​พูดถึง​วิชา​ฝ่ามือ​พลัง​ปีศาจ​คร่าวๆ​ “เวทย์​อาคม​นี้​สามารถ​เปลี่ยน​พลัง​วิญญาณ​ของ​ตัวเอง​เป็น​พลัง​ปีศาจ​ได้​”

“ทำไม​ถึงเป็น​พลัง​ปีศาจ​”

เจียง​หลี​คิด​แล้วก็​พูด​ตามที่​ตนเอง​เข้าใจ​ “ข้า​คิด​ว่า​พลัง​ปีศาจ​เป็น​พลัง​ที่​รุนแรง​กว่า​ บ้าคลั่ง​กว่า​ แข็งแกร่ง​กว่า​ แล้วก็​น่ากลัว​กว่า​พลัง​วิญญาณ​ ส่วน​รายละเอียด​ต้อง​สัมผัส​เอง​ถึงจะรู้​”

“เช่นนั้น​เจ้ายินยอม​บันทึก​วิชา​ฝ่ามือ​พลัง​ปีศาจ​ไว้​ที่​วัง​เทียน​อู่​กง​หรือไม่​” กง​ฉิงถาม

เจียง​หลี​พูด​ด้วย​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​ “เรื่อง​นี้​แน่นอน​อยู่แล้ว​” เรื่อง​นี้​กง​เสวี่ยฮ​วา​ได้​บอก​กับ​นาง​ก่อนที่จะ​ฝึกฝน​แล้ว​ ถ้าหาก​นาง​ไม่ยินยอม​ ก็​ไม่ควร​ใช้สถานที่​ของ​คนอื่น​ฝึกฝน​ ใน​เมื่อ​ยอมรับ​แล้ว​ ก็​ไม่มีเหตุผล​อะไร​ที่​ต้อง​เปลี่ยนใจ​

เพียงแต่​หลังจากที่​กง​ฉิงสั่งให้​คน​เอา​กระดาษ​กับ​พู่กัน​มาบันทึก​ กลับ​เกิดเรื่อง​แปลก​ๆ ขึ้น​

เจียง​หลี​ได้​วาด​วิชา​ฝ่ามือ​พลัง​ปีศาจ​ลง​บน​กระดาษ​ แต่​รอย​หมึก​กลับ​จางหาย​ไป​บน​กระดาษ​ ลอง​วาด​ใหม่​ดู​อยู่​หลาย​รอบ​ก็​เป็น​เหมือนเดิม​ วิชา​ฝ่ามือ​พลัง​ปีศาจ​ไม่สามารถ​ถูก​บันทึก​ได้​

“นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​” เจียง​หลี​ขมวดคิ้ว​อย่าง​จนปัญญา​

นอกจาก​ใช้หมึก​เขียน​ นาง​ยัง​ลอง​สลัก​ลง​บน​แผ่น​หิน​ แต่​ก็​ยังคง​ไม่ได้ผล​

“หรือว่า​จะขึ้นอยู่กับ​อารมณ์​ของ​มัน​อย่างนั้น​หรือ​” กง​เสวี่ยฮ​วา​พูด​อย่าง​หมด​คำ​จะพูด​

กง​ฉิงคิด​ไตร่ตรอง​อยู่​สักพัก​ แล้ว​มอง​เจียง​หลี​ นาง​รับรู้​ได้​ถึงสายตา​ของ​เขา​จึงเงยหน้า​ขึ้น​มาสบตา​เขา​

“เจียง​หลี​ ดู​แล้ว​วิชา​ฝ่ามือ​พลัง​ปีศาจ​คง​มีวาสนา​เพียงแค่​กับ​เจ้า คนอื่น​ไม่สามารถ​ฝึกฝน​ได้​ ฝึกฝน​อย่างไร​ก็​ไม่สำเร็จ​”

เจียง​หลี​ยิ้มแห้ง​ นาง​ตั้งใจ​จะบันทึก​วิชา​ด้วย​ความจริงใจ​ แต่กลับ​ไม่คิด​ว่า​ผลสุดท้าย​จะเป็น​เช่นนี้​

“ช่างเถอะ​ ดู​แล้ว​วิชา​ฝ่ามือ​พลัง​ปีศาจ​นี้​กับ​วัง​เทียน​อู่​กง​ของ​ข้า​คง​ไม่มีวาสนา​ต่อกัน​ ข้า​ก็​จะไม่ขอร้อง​เจ้าแล้ว​ เพียงแต่​เจ้าจงจำไว้​ว่า​ใน​เมื่อ​วิชา​ฝ่ามือ​พลัง​ปีศาจ​ได้​มาจาก​วัง​เทียน​อู่​กง​ของ​ข้า​ เช่นนั้น​เจ้าต้องห้าม​ใช้เวทย์​อาคม​อย่าง​ไร้​มโนธรรม​ และ​ทำ​เรื่อง​ชั่วร้าย​ต่างๆ​”

“ท่าน​พ่อ​ ท่าน​พูด​อะไร​เนี่ย​” กง​เสวี่ยฮ​วา​พูด​เตือน​พ่อ​ด้วย​ความไม่พอใจ​

กง​ฉิงจ้อง​เขา​ แล้ว​มอง​ไป​ยัง​เจียง​หลี​

เจียง​หลี​แววตา​เปล่งประกาย​ สบตา​กับ​กง​ฉิงอย่าง​ไม่หลบตา​ “ท่าน​ลุง​กง​วางใจ​เถิด​ เรื่อง​ผิด​ชอบ​ชั่ว​ดี​ ข้า​รู้ดี​”

“ดี​!” กง​ฉิงพยักหน้า​ “ไป​เถอะ​ ไป​ทำ​เรื่อง​ที่​เจ้าควร​ทำ​”

“ท่าน​ลุง​กง​ ข้า​ขอลา​!” เจียง​หลี​พยักหน้า​ แล้ว​ออกจาก​ตำหนัก​ไป​กับ​กง​เสวี่ยฮ​วา​

……

ณ เวที​ประลอง​ ซึ่งตั้งอยู่​บน​ภูเขา​เหมือนกัน​

ที่​เรียก​ว่า​เวที​ประลอง​แสดง​วิทยา​ยุทธ์​ก็เพราะว่า​ยอดเขา​ถูก​ทำให้​เป็น​พื้นที่ราบ​ เพราะ​ถูก​ทำให้​เป็น​พื้นที่ราบ​ ดังนั้น​ยอดเขา​ทั้ง​ห้า​ที่อยู่​รอบ​ๆ ก็​ดู​สูงกว่า​อย่าง​เห็นได้ชัด​ โอบล้อม​เวที​ประลอง​ไว้​ มองดู​เวที​ประลอง​จาก​ที่สูง​ก็​จะเห็น​ทุกอย่าง​

มอง​ไป​จาก​ที่​ไกลๆ​ ก็​จะเห็น​เหมือนกับ​มือ​ใหญ่​ๆ ที่​ยื่น​ออก​ไป​กลาง​เมฆหมอก​ เวที​ประลอง​ก็​คือ​กลางฝ่ามือ​ ยอดเขา​ทั้ง​ห้า​ล้วนแต่​เป็น​ที่นั่ง​ดู​การ​ประลอง​ที่​เป็นชั้นๆ​

จุด​เชื่อมต่อ​ของ​แต่ละ​ยอดเขา​กับ​สถานที่​นี้​ไม่ใช่สะพาน​ แต่​เป็น​โซ่เหล็ก​สีดำ​หนา​

ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้​ที่​ขึ้น​เวที​ประลอง​หรือว่า​ผู้ชม​การ​ประลอง​ ก็​ล้วนแต่​ต้อง​ผ่าน​โซ่เหล็ก​สีดำ​

ตอนนี้​ยอดเขา​ทั้ง​ห้า​ได้​เต็มไปด้วย​ผู้คน​ล้นหลาม​ และ​บน​เวที​ประลอง​มีคน​ๆ หนึ่ง​ที่​ร่าง​สูงใหญ่​ยืน​อยู่​อย่าง​สันโดษ​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด