ราชินีพลิกสวรรค์ 440 กวาดล้างครั้งยิ่งใหญ่

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 440 กวาดล้างครั้งยิ่งใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พรวด​ดด!​

เลือด​ที่​เฟิ่งเทียน​พ่น​ออกมา​วาด​เป็น​เส้นโค้ง​ยาว​ใน​อากาศ​

ร่างกาย​ของ​เขา​ราวกับ​ว่าว​ที่​ปลิว​ว่อน​ กระแทก​เข้ากับ​ลาน​กว้าง​และ​ลาก​ไกล​ออก​ไป​ด้านหลัง​

ฉาก​นี้​ทําให้ทุก​คนใน​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ตกตะลึง​ คนอื่นๆ​ บน​ลาน​กว้าง​ต่าง​เงียบสงัด​

เฟิ่งเทียน​กุม​หน้าอก​และ​ลุกขึ้น​มา แสงทอง​บน​ร่าง​ของ​เขา​เปลี่ยนเป็น​หมอง​คล้ำ​ และ​พลัง​วิญญาณ​ ของ​เขา​นั้น​เบาบาง​ลง​

ดวงตา​ของ​เขา​จ้องมอง​ไป​ที่​เจียง​หลี​อย่าง​เย็นชา​ พร้อม​ยก​มือขึ้น​เช็ด​เลือด​ออกจาก​มุมปาก​ “ดีมาก​ เจ้าทําให้ข้า​โมโห​แล้ว​จริงๆ​”

เจียง​หลี​เลิกคิ้ว​ขึ้น​ ด้วย​สีหน้า​เย้ยหยัน​

แต่​กง​เสวี่ยฮ​วา​กลั้น​หัวเราะ​ออกมา​ไม่ได้​ “ไม่ได้​ยั่วโมโห​เจ้ามาตลอด​หรือ​ คน​แพ้​อย่าง​เจ้า ทําไมถึงมีหน้า​มาพูด​เช่นนี้​ได้​”

เมื่อ​ทุก​คนใน​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ได้ยิน​คําพูดเหล่านี้​ ก็​รู้สึก​ว่า​ตน​เสียหน้า​

แต่​เนื่องจาก​ศักดิ์ศรี​ของ​เฟิ่งเทียน​ใน​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ พวกเขา​จึงไม่กล้า​แสดงอาการ​นั้น​ออกมา​

อย่างไรก็ตาม​ การ​ที่​พวกเขา​ไม่กล้า​ แต่​นั่น​ไม่ได้​หมายความว่า​เฟิ่งเซียน​ไม่กล้า​ นาง​มอง​ไป​ที่​เฟิ่งเทียน​ด้วย​ความโกรธ​ “ศิษย์​พี่ใหญ่​ ทําไมเจ้าถึงไร้ประโยชน์​นัก​ การ​ถูก​ตบ​เช่นนี้​ทําให้เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​เสียหน้า​ เจ้ารีบ​ฆ่านาง​เสีย​!”

“หุบปาก​!” เฟิ่งเทียน​โกรธ​มาก​ พร้อม​ยัง​ถูก​เฟิ่งเซียน​ตําหนิอีกครั้ง​ในเวลานี้​ ความโกรธ​ของ​เขา​ได้​ไป​ลง​ที่​นาง​หมด​

เฟิ่งเซียน​ถูก​เขา​คํารามใส่จน​อึ้ง​ไป​ ครู่หนึ่ง​ก็​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​ดุร้าย​ว่า​ “เจ้าตะโกน​ใส่ข้า​ทําไม แน่จริง​เจ้าก็​ฆ่าพวก​นาง​ให้ได้​สิ!”

เมื่อ​เห็น​พวก​นาง​ทะเลาะ​กัน​ เจียง​หลี​ก็​หันไป​พูด​กับ​กง​เสวี่ยฮ​วา​ “นี่​คือ​กลุ่ม​อำนาจ​ระดับ​กลาง​ที่ว่า​หรือ​”

กง​เสวี่ยฮ​วา​กล่าว​ต่อ​ “ถึงได้​ให้​เจ้าไป​กับ​ข้า​ไงเล่า​” พูด​จบ​ก็​เหลือบตา​มอง​

เจียง​หลี​มอง​จน​รู้สึก​เย็นวาบ​ และ​ถอน​สายตา​กลับมา​

เฟิ่งเทียน​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​ๆ เพื่อ​สงบสติอารมณ์​

เขา​จะสู้อีกครั้ง​ เพื่อ​ลบล้าง​ความอัปยศ​!

“สายฟ้า​พิฆาต​!” เฟิ่งเทียน​ตะโกน​ออกมา​ แสงของ​พลัง​วิญญาณ​ที่อยู่​ข้าง​หลังเขา​ตก​ลงมา​บน​ร่าง​ของ​เขา​ ทําให้เฟิ่งเทียน​รู้สึก​กระปรี้กระเปร่า​อย่าง​หา​ที่​เปรียบ​ไม่ได้​

พลัง​วิญญาณ​คํารามอย่าง​เกรี้ยวกราด​ สะท้าน​ฟ้าสะเทือน​ดิน​ ทำให้​ผู้คน​ตกตะลึง​

ในเวลานี้​ เฟิ่งเทียน​กำ​สิบ​นิ้ว​เข้าด้วยกัน​ ตั้งท่า​กำหมัด​ ยก​แขน​ขึ้น​เหนือศีรษะ​และ​กระโดด​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​ การเคลื่อนไหว​ของ​วิญญาณ​ยุทธ์​ที่อยู่​ข้างหลัง​สอดคล้อง​กับ​เขา​ ยก​กําปั้นขึ้น​เหมือนกัน​

“ไป​ตาย​ซะ!” เฟิ่งเทียน​คํารามอย่าง​โกรธเกรี้ยว​ และ​ยก​มือขึ้น​จาก​ฟ้าและ​พุ่ง​เข้าใส่​เจียง​หลี​ พลัง​โจมตี​นี้​น่ากลัว​กว่า​ครั้งก่อน​อย่าง​มาก​ ราวกับว่า​เขา​หลอม​รวม​ความโกรธ​ทั้งหมด​เข้ากับ​การ​โจมตี​นี้​

เหล่า​ฝูงชน​ถูก​ท่าทาง​ของ​เฟิ่งเทียน​ทำให้​สั่นสะท้าน​

แม้แต่​กง​เสวี่ยฮ​วา​ก็​หน้า​เปลี่ยนสี​ ดวงตา​ฉายแวว​เคร่งเครียด​ มู่ชิงเหยียน​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​เจียง​หลี​รู้สึก​กระวนกระวายใจ​ขึ้น​มาทันที​ กังวล​ว่า​เจียง​หลี​จะรับ​การ​โจมตี​นี้​ไม่ไหว​

บน​ลาน​กว้าง​ มีเพียง​คน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ที่​แสดง​ความตื่นเต้น​ โดยเฉพาะ​เฟิ่งเซียน​ที่​ตื่นเต้น​จน​ทําให้ใบ​หน้าที่​งดงาม​นั้น​ดู​ดุร้าย​ขึ้น​มา

วิญญาณ​ยุทธ์​ปกคลุม​ร่าง​ของ​เฟิ่งเทียน​ และ​ชก​ไป​ที่​นาง​ด้วย​หมัด​คำราม​

พลัง​วิญญาณ​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ระเบิด​ออก​มาจาก​ร่าง​ของ​เขา​ หาก​เจียง​หลี​ถูก​โจมตี​จะต้อง​เหลว​เป็น​โคลน​อย่าง​แน่นอน​

นี่​ถึงจะเป็นความ​แข็งแกร่ง​ที่​แท้จริง​ของ​เทียน​เจียว​อันดับ​หนึ่ง​ใน​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​!

หลาย​คน​นึก​คิดในใจ​ของ​พวกเขา​

เมื่อ​เห็น​ว่าการ​โจมตี​กําลังจะมาถึง เมื่อ​เฟิ่งเทียน​เห็น​ว่า​เจียง​หลี​ยืน​นิ่ง​อย่าง​หวาดกลัว​ ดวงตา​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความตื่นเต้น​

อย่างไรก็ตาม​ ในขณะนั้น​เอง​ ทุกคน​ก็​เห็น​เจียง​หลี​ค่อยๆ​ ยก​มือขวา​ขึ้น​และ​ตวัด​ไป​ที่​ท้องฟ้า​อย่าง​เฉยชา​

ฉาก​นี้​ทําให้ผู้คน​นับไม่ถ้วน​แสดง​สีหน้า​หวาดกลัว​ออกมา​

เก่งกาจ​เพียงนั้น​เชียว​หรือ​! กง​เสวี่ยฮ​วา​พึมพำ​

นาง​บ้า​ไป​แล้ว​หรือ​

ภายในใจ​ของ​หลาย​ๆ คน​เกิด​คําถามนี้​ขึ้น​มา

คน​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​แสดง​สีหน้า​แดกดัน​ ช่างน่าขัน​เสีย​จริง​ เมื่อ​ครู่​พวกเขา​รู้สึก​ว่า​เจียง​หลี​ร้ายกาจ​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​ ดูท่า​ตอนนี้​นาง​จะเป็น​เพียง​สตรี​บ้า​นาง​หนึ่ง​เท่านั้น​

คิด​จะรับ​การต่อสู้​ที่​มีทักษะ​พรสวรรค์​ของ​ศิษย์​พี่ใหญ่​ของ​พวกเขา​ด้วย​มือเปล่า​เช่นนี้​หรือ​ ช่างรนหาที่​ตาย​เสีย​จริง​ เป็น​ความฝัน​ที่​โง่เขลา​

แต่ว่า​ พวกเขา​ก็​ไม่สามารถ​ละสายตา​ได้​ เจียง​หลี​ยก​มือขึ้น​ พลัง​วิญญาณ​ใต้​ผิวขาว​ใสของ​นาง​ไหลผ่าน​ ร่างกาย​ที่​ขาวนวล​ของ​นาง​มีพลัง​วิญญาณ​ที่​มากกว่า​ผู้อื่น​ถึงสองเท่า​ และ​เข้า​ใจถึงพลัง​แห่ง​เจตจำนง​ที่​ควบคุม​จิต​ให้​ไม่ย่อท้อ​ การ​โจมตี​ที่​ดู​เรียบง่าย​ของ​นาง​นั้น​ มีแก่นแท้​ที่​นาง​ได้​เรียนรู้​มาอย่าง​กลมกลืน​

ฟู่ว!​

ความดุร้าย​ใน​ดวงตา​ของ​เฟิ่งเทียน​ยัง​ไม่จางหาย​ไป​ แต่กลับ​ถูก​ตี​กระเด็น​ออก​ไป​อีกครั้ง​

การ​โจมตี​ที่​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​ ภายใต้​การ​ตบ​เบา​ๆ ของ​เจียง​หลี​กลับ​พังทลาย​ลง​ แม้แต่​พลัง​วิญญาณ​ก็​คํารามออกมา​ด้วย​ความเจ็บปวด​และ​กระจาย​หาย​ไป​จาก​ข้างหลัง​

กรอบแกรบ​ๆ!

เสียง​กระดูก​แตก​ดัง​กึกก้อง​

ผู้คน​เห็น​เพียง​แขน​สอง​ข้าง​ของ​เฟิ่งเทียน​ที่​ลอย​ออก​ไป​และ​มีท่าทาง​ที่​บิดเบี้ยว​

มีเลือด​ไหล​ออก​มาจาก​ปาก​ของ​เขา​อีกครั้ง​ และ​พ่น​กระจาย​ลงพื้น​

หัวใจ​ของ​ทุกคน​ที่อยู่​บน​ลาน​กว้าง​หยุด​เต้น​และ​จ้องมอง​อย่าง​ตกตะลึง​กับ​ฉาก​นี้​ ไม่มีคําใด​ที่จะ​อธิบาย​ได้​ การ​ตบ​แบบ​สบาย​ๆ นั้น​ทําให้พวกเขา​ตกตะลึง​เป็นอย่างมาก​เพราะ​มัน​ส่งผล​ต่อ​พวกเขา​เช่นกัน​

นาง​ทําได้เยี่ยง​ไร​!

นาง​แข็งแกร่ง​แค่​ไหน​กัน​เชียว​

หัวใจ​ของ​ทุกคน​สั่นสะท้าน​อย่าง​บ้าคลั่ง​ พวกเขา​มอง​ไป​ที่​หญิงสาว​ที่​มีเสน่ห์​ นาง​ยังคง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ไม่ได้​เปลี่ยน​ที่​ไป​ไหน​ หลัง​ตรง​ตระหง่าน​ ผม​สีดําปลิว​ไสว​ ไม่ขยับเขยื้อน​

“มัน​สุดยอด​ไป​เลย​! เป็น​นาง​ปีศาจ​จริงๆ​ ด้วย​! อย่างไรก็ตาม​ต้นกล้า​ที่​ดี​เช่นนี้​ ต้อง​พา​กลับ​วัง​เทียน​อู่​กง​ให้ได้​!” เมื่อ​เห็น​ฉาก​อัน​น่าสะพรึงกลัว​นี้​ ดวงตา​ของ​กง​เสวี่ยฮ​วา​ก็​ส่อง​ประกาย​เจิดจ้า​มากขึ้น​

เขา​มอง​ไป​ที่​เจียง​หลี​ราวกับว่า​เขา​เห็น​สมบัติ​ล้ำค่า​

นอกจากนี้​ กง​เสวี่ยฮ​วา​ก็​เตรียม​รับ​การ​โจมตี​ใน​ใจ การ​โจมตี​เมื่อ​ครู่​ของ​เจียง​หลี​ ทําให้เขา​รู้สึก​ขนลุกขนพอง​ ช่างเป็นการ​โจมตี​ที่​หนักแน่น​และ​มั่นคง​จริงๆ​

เฟิ่งเซียน​และ​ทุกคน​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ถูก​บดขยี้​โดย​ไม่ทัน​ตั้งตัว​ เมื่อ​มอง​ไป​ที่​เฟิ่งเทียน​ ดวงตา​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยนไป​

เฟิ่งเทียน​พ่ายแพ้​ให้​กับ​เจียง​หลี​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ และ​ยัง​เป็น​วิธีการ​ที่​หยาบ​เช่นนี้​ ศักดิ์ศรี​ของ​เขา​ถูก​เหยียบย่ำ​จมลง​ใต้​โคลน​แล้ว​

“ข้า​…ข้า​จะฆ่าเจ้า!” ในเวลานี้​ เฟิ่งเทียน​ลืม​ทุกอย่าง​ไป​แล้ว​ เขา​เพียง​ต้องการ​เอาชีวิต​เจียง​หลี​เพื่อ​ล้าง​ความ​อัปยศอดสู​ของ​ตน​ใน​วันนี้​

เขา​ลุกขึ้น​มาอย่าง​ล้มลุกคลุกคลาน​ แขน​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เขา​อ่อน​ราวกับ​โคลน​ดิน​ กวัดแกว่ง​ไปมา​และ​พุ่ง​เข้าหา​เจียง​หลี​อีกครั้ง​

ครั้งนี้​ คน​จาก​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​เงียบ​และ​จ้องมอง​เขา​ด้วย​สายตา​ดูถูก​ ไม่มีใคร​หยุด​เขา​

แม้แต่​เฟิ่งเซียน​ก็​ยัง​มอง​เขา​ด้วย​ใบ​หน้าที่​ผิดหวัง​ นาง​รู้สึก​ว่าการ​ที่​เขา​ตาย​เช่นนี้​ดีกว่าการ​มีชีวิต​อยู่​เป็น​คน​ที่​ไร้ค่า​

เขา​พุ่ง​ไปหา​เจียง​หลี​ และ​มือ​ของ​เจียง​หลี​ก็​ตกลง​ไป​ที่​ลําคอของ​เฟิ่งเทียน​และ​ค่อยๆ​ บีบ​ลง​ ทันใดนั้น​เขา​ก็​หายใจไม่ออก​ ทําให้เฟิ่งเทียน​ตื่น​รู้​ขึ้น​มา

“อย่า​… อย่า​ฆ่าข้า​…ได้​โปรด​…” ความเกลียดชัง​ใน​ดวงตา​ของ​เฟิ่งเทียน​จางหาย​ไป​ และ​ความกลัว​ก็​เริ่ม​แผ่​กระจาย​ออก​ไป​

เจียง​หลี​กลับ​ยิ้ม​หยอกล้อ​และ​กล่าว​ด้วย​เสียง​ที่​เกียจคร้าน​ว่า​ “เมื่อกี้​เจ้าไม่ได้คิด​จะฆ่าข้า​แค่​ครั้ง​เดียว​ ทําไม ข้า​ดู​นิสัย​ดี​ขนาด​นั้น​เลย​หรือ​”

“เจ้า…เจ้าฆ่าข้า​…เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​จะไม่ปล่อย​เจ้าไป​แน่​!” การอ้อนวอน​ขอ​ความเมตตา​ไม่ได้ผล​ เฟิ่งเทียน​ทําได้เพียง​ข่มขู่​เท่านั้น​

เจียง​หลี​ยิ้ม​อย่าง​เหยียด​หด​และ​ส่ายหน้า​เบา​ๆ “เช่นนั้น​เจ้าก็​คง​ไม่ได้​อยู่​เห็น​ต่อไป​แล้ว​ล่ะ​”

แกร็ก!​

เจียง​หลี​บิด​ข้อมือ​ ดวงตา​ของ​เฟิ่งเทียน​มอง​ตรง​และ​สายตา​ของ​เขา​ก็​ค่อยๆ​ จางหาย​ไป​

“เจ้า…เจ้าฆ่าเขา​!” เฟิ่งเทียน​ตาย​แล้ว​ เฟิ่งเซียน​ถึงได้​รู้สึกตัว​

เจียง​หลี​ยิ้มเยาะ​อย่าง​หยิ่งยโส​ ทิ้ง​ศพ​ไว้​ข้างๆ​ แล้ว​กล่าว​กับ​คน​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ว่า​ “หาก​ต้อง​การแก้แค้น​แทน​เขา​ ข้า​จะรอ​อยู่​ที่นี่​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด