ราชินีพลิกสวรรค์ 442 ไปกับข้าเถอะ

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 442 ไปกับข้าเถอะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แต่​ไม่รอ​ให้​เจียง​หลี​ได้​อ้า​ปาก​ กง​เสวี่ยฮ​วา​ขยับ​อย่าง​รวดเร็ว​ ยืน​ขวาง​ตรงหน้า​เฟิ่งเอ้อร์​เพื่อ​บัง​เจียง​หลี​ไว้​

“นาง​คือ​คน​ที่จะ​เป็น​แขก​ของ​ข้า​กลับ​ไป​ที่​วัง​เทียน​อู่​กง​ เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ของ​เจ้าอย่า​คิด​ทำร้าย​นาง​ มิฉะนั้น​ อย่า​โทษ​ว่า​ข้า​เลียนแบบ​พวก​เจ้าเขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ รวบ​รวมกำลัง​เพื่อ​ปล้น​ฆ่าคน​”

ปาก​ของ​เฟิ่งเอ้อร์​กระตุก​อย่าง​แรง​แววตา​ยาก​ที่จะ​คาดเดา​

เขา​กำลัง​วิเคราะห์​คำพูด​ของ​กง​เสวี่ยฮ​วา​ ใน​คำพูด​ที่​เขา​ใส่ใจเจียง​หลี​ดูเหมือน​จะพิสูจน์​ว่า​ตัวตน​ของ​นาง​นั้น​ไม่ธรรมดา​

ตอนนี้​คนอื่น​ก็​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​หญิงสาว​ที่​เก่งกาจ​คน​นี้​ มีความสัมพันธ์​ที่​ดี​กับ​วัง​เทียน​อู่​กง​ แม้แต่​นาย​น้อย​ยัง​ปฏิบัติ​ต่อ​นาง​ด้วย​ความสุภาพ​ ถึงขั้น​ไม่ลังเล​ที่จะ​เปิดศึก​กับ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​

“ไม่ได้​ นาง​ต้อง​อยู่​ที่นี่​ ศิษย์เอก​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​จะตาย​ไป​อย่าง​ไร้ค่า​อย่างนั้น​หรือ​” เฟิ่งเซียน​พูด​ออกมา​อย่าง​ทน​ไม่ได้​

“เจ้าหุบปาก​สักที​ วัง​เทียน​อู่​กง​เป็นที่​ที่​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​จะไป​หาเรื่อง​ได้​หรือ​” เฟิ่งเอ้อร์​มอง​ไป​ยัง​เฟิ่งเซียน​อย่าง​ดุร้าย​

เฟิ่งเซียน​ไม่พอใจ​ แต่​เพราะ​คำ​ของ​ท่าน​ลุง​รอง​จึงไม่กล้า​พูด​อีก​

อย่างไรก็ตาม​ นาง​ยังคง​ใช้ดวงตา​อาฆาต​จ้องมอง​ไป​ยัง​เจียง​หลี​

“ก็​แค่​คน​ไร้ค่า​ตาย​ไป​คนเดียว​ มัน​คุ้ม​ค่าที่​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ต้อง​ทุ่มเท​หนัก​เพียงนี้​หรือ​” กง​เสวี่ยฮ​วา​กล่าว​อย่าง​ไม่ใส่ใจ

คน​ไร้ค่า​หรือ​

ใน​ตา​เฟิ่งเอ้อร์​เต็มไปด้วย​ม่าน​หมอก​อัน​มืดมน​ แต่​ไม่กล้า​ให้​กง​เสวี่ยฮ​วา​เห็น​

เขา​กวาด​ผ่าน​ร่าง​ของ​เฟิ่งเทียน​ หัวใจ​เจ็บ​เหมือน​ถูก​แทง​ เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ต้อง​เสีย​พลังงาน​และ​ทรัพยากร​เท่าไหร่​เพื่อ​ฝึกฝน​เฟิ่งเทียน​มา

วันนี้​ เขา​กลับ​ตาย​ไป​เช่นนี้​

แต่ว่า​ มีคำ​หนึ่ง​ของ​กง​เสวี่ยฮ​วา​ที่​พูด​ถูกต้อง​ เพราะ​คนตาย​เพียง​คนเดียว​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ไม่จำเป็นต้อง​สร้าง​ความเกลียดชัง​และ​ความแค้น​กับ​วัง​เทียน​อู่​กง​

“เพราะ​…เฟิ่งเทียน​ความสามารถ​ไม่เทียบเท่า​ เป็น​คน​ไร้ค่า​เสีย​จริง​” เฟิ่งเอ้อร์​เก็บ​ความโกรธ​แล้ว​ยิ้ม​ออกมา​

“ถ้าเป็น​เช่นนั้น​ ยัง​จะต้อง​อธิบาย​อะไร​อีก​ไหม​” กง​เสวี่ยฮ​วา​ยักคิ้ว​

“ไม่จำเป็น​ ไม่จำเป็น​” เฟิ่งเอ้อร์​ฝืนยิ้ม​

กง​เสวี่ยฮ​วา​ยิ้ม​ด้วย​ความพึงพอใจ​ ยก​มือขึ้น​และ​พูด​เสียงดัง​ “ทุกท่าน​ ลง​เขา​ไป​เถอะ​”

“ขอบ​คุณนาย​น้อย​! ขอบคุณ​แม่นาง​!”

“ขอบ​คุณนาย​น้อย​! ขอบคุณ​แม่นาง​!”

“…”

หลังจากที่​ทุกคน​ขอบคุณ​แล้ว​ พวกเขา​ก็​ลง​เขา​ด้วยกัน​ ไม่ว่า​เจียง​หลี​จะมีความสัมพันธ์​กับ​วัง​เทียน​อู่​กง​หรือไม่​ก็ตาม​ พลัง​การต่อสู้​ที่​นาง​แสดง​ออกมา​ สมควร​ได้รับ​ความเคารพ​จาก​พวกเขา​

เพราะ​นี่​คือ​โลก​ที่​ศิลปะ​การต่อสู้​เป็นที่​เคารพนับถือ​! ใครก็ตาม​ที่​มีหมัด​ใหญ่​และ​หนัก​กว่า​จะได้รับ​ความชื่นชม​และ​ความเคารพ​

มองดู​คน​กลุ่ม​นี้​เดิน​จากไป​น้อยลง​ไป​เรื่อยๆ​ ใน​ดวงตา​ของ​เฟิ่งเซียน​เกือบจะ​ลุกเป็นไฟ​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เมื่อ​นาง​เห็น​ท่าน​ลุง​รอง​ของ​นาง​ยังคง​ยืน​อยู่​หน้า​กง​เสวี่ยฮ​วา​ด้วย​รอยยิ้ม​ นั่น​ยิ่ง​ทำให้​นาง​รู้สึก​โกรธ​มากขึ้น​

นาง​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​มู่ชิงเหยียน​ที่​ยืน​เคียงข้าง​กับ​เจียง​หลี​ พูด​เสียงดัง​ “เจ้ายัง​ไม่รีบ​ไสหัว​มากับ​ข้า​”

นาง​ไม่สามารถ​ลงโทษ​คนอื่น​ได้​ แต่​หาก​จะลงโทษ​ศิษย์​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​คง​ไม่มีใคร​ว่า​อะไร​ได้​

มู่ชิงเหยียน​เงยหน้า​ช้าๆ มอง​ไป​ที่​เฟิ่งเซียน​และ​ยิ้ม​ให้​ “แม่นาง​เฟิ่งเซียน​คง​ลืม​ ข้า​ไม่ได้​เป็น​ศิษย์​ของ​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​แล้ว​”

“เจ้า! เจ้าคิด​ว่า​มีต้นไม้​ใหญ่​ไว้​ให้​หลบ​แล้ว​หรือ​ ข้า​จะบอก​เจ้าไว้​ ว่า​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​จะไม่ปล่อย​เจ้าไป​แน่​” เฟิ่งเซียน​พูด​ขู่​

มู่ชิงเหยียน​ไม่กลัว​แต่​ยังคง​เงียบสงบ​ “ข้า​รอ​อยู่​”

พูด​จบ​ นาง​ไม่ได้​มอง​เฟิ่งเซียน​แต่​หันไป​รอบ​ๆ และ​พยักหน้า​เล็กน้อย​กับ​เจียง​หลี​เพื่อ​บอกลา​

“เดี๋ยว​สิ” เจียง​หลี​เรียก​นาง​ไว้​

มู่ชิงเหยียน​มอง​ไป​อย่าง​งุนงง​

“เจ้าไป​กับ​ข้า​” เจียง​หลี​พูด​กับ​นาง​

มู่ชิงเหยียน​มอง​นาง​ด้วย​ความประหลาดใจ​ นาง​รู้สึก​ตื่นเต้น​และ​แปลกใจ​เล็กน้อย​ มาก​ไป​กว่า​นั้น​นาง​….มีความลังเล​เล็กน้อย​

“เจ้าไม่อยาก​เจอ​เจียง​เฮ่าหรือ​” เจียง​หลี​ถาม

มู่ชิงเหยียน​หลบตา​ลง​เล็กน้อย​ ก้มหน้า​พูด​เสียง​เบา​ว่า​ “ได้​เจอ​แล้ว​อย่างไรเล่า​”

ดวงตา​ของ​เจียง​หลี​เป็นประกาย​ นาง​กล่าว​เสียงต่ำ​ว่า​ “ทําไมเจ้าไม่มีชีวิต​อยู่​เพื่อ​ตัวเอง​สักครั้ง​ล่ะ​ ทําตามใจ​มัน​ยาก​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​”

มู่ชิงเหยียน​มอง​นาง​อย่าง​งุนงง​ ไม่รู้​ว่า​จะพูด​อะไร​ดี​

เจียง​หลี​กลับ​ไม่เกลี้ยกล่อม​อีกต่อไป​ แต่​มอง​กง​เสวี่ยฮ​วา​แล้ว​กล่าว​เสียง​สบาย​ๆ ว่า​ “ฮวา​ฮวา​ ไป​กัน​เถอะ​”

“ได้​สิ!” กง​เสวี่ยฮ​วา​ยิ้ม​สดใส​

เขา​พูด​กับ​เฟิ่งเอ้อร์​ว่า​ “ถ้าเช่นนั้น​แล้ว​ ข้า​ขอตัว​ก่อน​ล่ะ​”

“นาย​น้อย​เดินทาง​ปลอดภัย​” เฟิ่งเอ้อร์​ยิ้ม​

ทั้ง​สามคน​ลง​เขา​ด้วยกัน​

หลังจาก​การ​ที่​ทั้ง​สามไป​จาก​พวกเขา​แล้ว​ รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​เฟิ่งเอ้อร์​ก็​ค่อยๆ​ จางหาย​ไป​

“ท่าน​ลุง​รอง​ ทำไม​ท่าน​ถึงกลัว​พวกเขา​นัก​” เฟิ่งเซียน​บ่น​อย่าง​ทน​ไม่ได้​

เฟิ่งเอ้อร์​หันไป​รอบ​ๆ ด้วย​สีหน้า​เศร้าหมอง​และ​ตะโกน​ว่า​ “หุบปาก​ มัน​เป็นปัญหา​ที่​เจ้าและ​เฟิ่งเทียน​ก่อ​ไว้​ รีบ​กลับ​ไป​กับ​ข้า​ไป​อธิบาย​ทุกอย่าง​ให้​พ่อเจ้า​ฟังเอง​”

เฟิ่งเซียน​ถูก​คำราม​จน​ใจสั่น​กลัว​ ท่าทาง​ป่าเถื่อน​ก็​เปลี่ยนเป็น​เจียมเนื้อเจียมตัว​ในที่สุด​

ทั้ง​สามคน​เดินลง​เนินเขา​ ทันใดนั้น​แสงสีขาว​เรือง​ผ่าน​และ​ตก​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เจียง​หลี​

เจียง​หลี​อุ้ม​มัน​ไว้​แน่น​และ​ลูบ​ขน​ของ​มัน​อย่าง​ใกล้ชิด​ “ข้า​รู้​ว่า​เจ้าจะปรากฏตัว​ออกมา​เอง​”

เจ้าเดรัจฉาน​น้อย​ถูไปมา​ใน​อ้อมแขน​ของ​นาง​อย่าง​ใกล้ชิด​ เปิดปาก​หาว​อีกครั้ง​แล้ว​ค่อยๆ​ กวาด​มอง​ไป​ยัง​กง​เสวี่ยฮ​วา​ก่อนที่จะ​หลับตา​และ​นอนหลับ​ต่อ​

กง​เสวี่ยฮ​วา​ก็​รู้สึก​รอบตัว​เย็น​ลง​ พร้อม​บ่นพึมพำ​ “ทำไม​อยู่​ๆ ก็​รู้สึก​หนาว​ขึ้น​มา ยิ่ง​หนาว​มาก​ขึ้นไป​อีก​ล่ะ​”

เจียง​หลี​มอง​เขา​อย่าง​สงสัย​ และ​กอด​เจ้าเปี๊ยก​ใน​อ้อมแขน​ของ​นาง​อย่าง​ระมัดระวัง​

ระหว่างทาง​ มู่ชิงเหยียน​ค่อนข้าง​เงียบ​

มีกง​เสวี่ยฮ​วา​ตาม​อยู่​ เจียง​หลี​ยัง​ไม่สะดวก​ที่จะ​พูดคุย​กับ​นาง​นัก​

แต่​สิ่งที่​นาง​ควรจะ​พูด​ก็​เหมือน​จะพูด​ไป​แล้ว​ และ​ส่วนที่เหลือ​ก็​ขึ้นอยู่กับ​มู่ชิงเหยียน​ไป​ทบทวน​เอง​ หาก​เจียง​เฮ่าไม่ต้อง​กังวล​เรื่อง​ตบแต่ง​ภรรยา​ นาง​ที่​เป็น​น้องสาว​ก็​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​มาก​นัก​

“เจียง​หลี​ เจ้าดู​สิว่า​เมื่อกี้​ข้า​ก็​เพิ่ง​ช่วย​เจ้าไป​ ตอนนี้​เจ้าควรจะ​ตาม​ข้า​กลับ​ไป​ที่​วัง​เทียน​อู่​กง​แล้ว​หรือไม่​” เมื่อ​เดิน​ถึงตีนเขา​ กง​เสวี่ยฮ​วา​ยิ้ม​และ​หัวเราะ​

เจียง​หลี​ยิ้ม​อย่าง​ขี้เล่น​ “เจ้าช่วย​ข้า​เมื่อไหร่​กัน​”

กง​เสวี่ยฮ​วา​หน้า​เปลี่ยนสี​ ชี้ไป​ทาง​เจียง​หลี​พร้อม​พูด​ “เจ้าอย่า​เป็น​คน​ประเภท​พอ​ข้าม​แม่น้ำ​เสร็จ​ก็​ทุบ​สะพาน​นะ​! คิด​จะใช้คน​เสร็จ​แล้ว​เขี่ย​ทิ้ง​เลย​รึ​ ถ้าหาก​เมื่อกี้​ข้า​ไม่เปิดเผย​ตัวตน​ เรา​จะสามารถ​ออกมา​ง่ายๆ​ อย่างนี้​หรือ​”

“เจ้าก็​บอก​พวกเรา​แล้ว​” เจียง​หลี​ยิ้ม​เหมือน​ดอกไม้​ “คน​ที่​เขา​เฟิ่งอู่​ซาน​ต้องการ​จับ​ไม่ใช่แค่​ข้า​คนเดียว​ แต่​คือ​ทั้งหมด​ ตัวตน​เจ้าใน​ฐานะ​นาย​น้อย​แห่ง​วัง​เทียน​อู่​กง​ ยังไง​ก็​ถูก​เปิดเผย​ไม่ช้าก็เร็ว​ มิฉะนั้น​ เจ้าจะเอาตัวรอด​ยังไง​ ดังนั้น​ เจ้าไม่ได้​ช่วย​ข้า​เลย​”

กง​เสวี่ยฮ​วา​ขมวดคิ้ว​เมื่อ​ได้ยิน​และ​ถอนหายใจ​ในที่สุด​ “ข้า​คิด​ว่า​ข้า​เป็น​คน​ที่​เล่นลิ้น​ได้​เก่ง​แล้ว​ ไม่คิด​ว่า​วันนี้​เจ้าจะทำให้​ข้า​พูดไม่ออก​”

“ข้อเท็จจริง​ได้​พิสูจน์​แล้ว​ว่า​เล่นลิ้น​ไม่ใช่วิธี​ที่​ถูกต้อง​ ความจริง​ก็​คือ​ความจริง​” เจียง​หลี​เลิกคิ้ว​ขึ้น​ แสดงออก​ว่า​สาแก่ใจ​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด