นางสนมแพทย์อัจฉริยะบทที่ 395 หญิงงาม ความตั้งใจของหลานจิ่วชิง

Now you are reading นางสนมแพทย์อัจฉริยะ Chapter บทที่ 395 หญิงงาม ความตั้งใจของหลานจิ่วชิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 395 หญิงงาม ความตั้งใจของหลานจิ่วชิง
หลังจากซุนเจิ้งเต้าเข้าไปแล้ว เขาขอให้คนใช้เอาเตาไฟทั้งหมดออหไป นอกจากซุนฮูหยินแล้ว คนอื่นๆถูกไล่ออกไปทั้งหมด เหตุผลที่ให้คือห้ามรบกวนเขาช่วยคน

หวังจิ่นหลิงแสดงความไม่พอใจออกมา ตี๋ตงหมิงเข้าไปสอบถาม แต่ซุนเจิ้งเต้ากล่าวว่า “หากต้องการช่วยชีวิตเฟิ่งชิงเฉิน ต้องทำตามที่ข้าบอก จะไปทำกระไรก็ไป อยู่ที่นี่ก็ช่วยกระไรมิได้ มีข้าอยู่เฟิ่งชิงเฉินไม่เป็นกระไรหรอก”

เกี๊ยะ… ซุนเจิ้งเต้าปิดประตูต่อหน้าตี๋ตงหมิง เกือบจะกระแทกจมูกที่สูงโด่งของตี๋ตงหมิงจนหักแล้ว

นี่คือความมั่นใจในตนเองและความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ตี๋ตงหมิงเอ่ยปากอยากจะกล่าวบางอย่าง เขาไม่เคยเจอคนทำเช่นนี้ใส่เขามาก่อน และไม่เคยถูกปิดประตูใส่เช่นนี้ แต่เมื่อคิดได้ว่าซุนเจิ้งเต้าทำเพื่อช่วยชีวิตเฟิ่งชิงเฉิน สุดท้ายเขาก็ถอยไปอย่างเงียบๆ “จิ่นหลิง มีซุนเจิ้งเต้าอยู่ ชิงเฉินจะไม่เป็นไร เจ้าจะรออยู่ที่นี่ต่อหรือไม่?”

รอ รอแน่นอน หากไม่ได้รับข่าวว่าเฟิ่งชิงเฉินปลอดภัยดี เขาไม่สบายใจ แต่ว่า….

ซุนเจิ้งเต้าพูดถูก เขาอยู่ที่นี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ จะเอาเวลามารออย่างสูญเปล่าก็ไม่ดี อีกสองวันจะเป็นงานเลี้ยงที่เขานั้นรับหน้าที่หัวหน้าตระกูลแล้ว เขามีเรื่องมากมายที่ต้องทำ อีกทั้งยังมีกิจการของเมืองชิงสุ่ยอีก

เรื่องทุกอย่างทับถมมาที่เขา เขาไม่มีเวลามาเสียเปล่าที่นี่

“ตงหมิง ส่งคนไปเฝ้าอยู่นอกจวนซุน จะต้องปกป้องเฟิ่งชิงเฉินให้ดี” หวังจิ่นหลิงหันหลังและเดินไปที่ประตู

คุณชายใหญ่ของตระกูลหวังอาจจะดื้อเป็นครั้งคราวได้ แต่หัวหน้าตระกูลหวังทำเช่นนั้นมิได้ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเอาแต่ใจ ไม่ว่าจะเป็นห่วงมากแค่ไหน เขาก็ต้องทำหน้าที่และสิ่งที่ควรทำให้เรียบร้อย

ตี๋ตงหมิงเร่งพยักหน้า “ไม่ต้องกังวล ข้าจะปกป้องเฟิ่งชิงเฉินให้ดี หากมีข่าวกระไรข้าจะแจ้งให้เจ้าทราบทันที”

“อืม” แม้ว่าเขาจะลังเลใจมาก แต่หวังจิ่นหลิงก็หันหลังกลับและเดินจากไปอย่างเด็ดขาด

ความรักของชายหญิงไม่ใช่เรื่องต้องห้าม แต่เงื่อนไขคือต้องมีความพร้อมมากพอ ทำให้แม้ระหว่างที่เจ้ามีที่ความสัมพันธ์กับหญิงอื่น คู่ต่อสู้ของเจ้าก็มิกล้าที่จะลงมือทำกระไร แต่ตอนนี้เขายังไม่พร้อม

ตี๋ตงหมิงส่งคนไปเฝ้าอยู่ที่นอดจวนซุน ในช่วงเวลานี้ซูเหวินชิงมา ได้ยินว่าเฟิ่งชิงเฉินได้รับบาดเจ็บจนหมดสติไป เขาสีหน้าขาดซีดขึ้นมาทัน เขาไม่รอให้ตี๋ตงหมิงอธิบายชัดเจน ซุนเจิ้งเต้ามีวิธีช่วยเฟิ่งชิงเฉิน ซูเหวินชิงเร่งหันกลับและวิ่งไปที่จวนซู

“จบแล้ว ปู้จิงหยุนตายแน่ จิ่วชิงกำชับแล้วกำชับอีก ให้เขาดูแลเฟิ่งชิงเฉินให้ดี แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับประสบอุบัติเหตุต่อหน้าต่อตาพวกเขา จิ่วชิงจะต้องแยกร่างปู้จิงหยุนออกอย่างแน่นอน”

ทันทีที่ซูเหวินชิงกลับไปที่จวนซู ก็ถามว่าปู้จิงหยุนอยู่ที่ใด

“คุณชายใหญ่ คุณชายจิงหยุนอยู่ที่ลานเหอเซียง”

“ลานเหอเซียง? ช่างโรแมนติกเสียจริง เวลานี้แล้วยังอยู่เป็นเพื่อนเป่าเอ๋ออีก ข้ายอมใจจริงๆ จวนเจิ้นกั๋วมีแต่ชายหลงใหลในความรักหรืออย่างไร? ที่ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อหญิงสาวเพียงคนเดียว?” ซูเหวินชิงโกรธเคืองอย่างมาก จิ่วชิงให้ปู้จิงหยุนอยู่ที่นี่ มิใช่ให้เขาอยู่เป็นเพื่อนเป่าเอ๋อ ปู้จิงหยุนมีเรื่องมากมายที่ต้องทำ อีกอย่างเป่าเอ๋อมีสาวใช้คอยดูแลอยู่แล้ว

เมื่อซูเหวินชิงเดินออกไปนอกลานเหอเวียง เขาก็ได้ยินปู้จิงหยุนกำลังรับปากกับเป่าเอ๋อว่า ” เป่าเอ๋อไม่ต้องกังวล วันนี้ข้าจะพาจิ่วชิงกลับมาให้ได้ เจ้ารักษาตัวไปเถอะ”

พูดจาเกินจริงเหลือเกิน ไม่กลัวหักหน้าตัวเองหรืออย่างไร

ซูเหวินชิงลูบหน้าผากของตน เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็หยุดฝีเท้าลง รอให้ปู้จิงหยุนออกมา แล้วดึงเขาไปอย่างรวดเร็ว

“ซูเหวินชิง เจ้าทำกระไร?” ปู้จิงหยุนตกใจอย่างมาก และโจมตี แต่พบว่าคนที่ดึงเขาไปคือซูเหวินชิง

“ข้ากำลังทำอะไรงั้นหรือ? ปู้จิงหยุน เจ้ากำลังจะตายอยู่แล้ว ยังจะมาโวยวายอีก” ซูเหวินชิงอยากจะเปิดหัวปู้จิงหยุนมาดูเสียจริงว่ามีกระไรอยู่ด้านใน นอกว่าป่าเอ๋อแล้วไม่มีเรื่องอื่นเลยหรืออย่างไร?

ปู้จิงหยุนตกตะลึงครู่หนึ่ง เมื่อนึกถึงการแสดงออกที่ผ่านมาของตน เขาเริ่มกังวล “เกิดอะไรขึ้น?” ดูเหมือนว่าช่วงนี้เขาไม่ได้ทำการทำงานเลย? หากว่าไม่ได้ทำงานก็คงไม่มีความผิดพลาด

ซูเหวินชิงลากปู้จิงหยุนออกจากลานเหอเซียงไป ช่วยไม่ได้ เป่าเอ๋อได้รับผลกระทบทางใจมากมิได้ ฉะนั้นพวกเขาจึงผิดบังเรื่องเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้ ไม่ให้นางทราบ

“ปู้จิงหยุน เมื่อคืนเฟิ่งชิงเฉินถูกมือสังหารล้อมเฆ่า ตอนนี้ไม่รู้รอดชีวิตหรือยัง?” ข่าวลือเขาว่ากันเช่นนี้ ทั้งที่เฟิ่งชิงเฉินแค่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เมื่อซูเหวินชิงพูดกลับบอกว่าไม่รู้นางรอดชีวิตหรือยัง

“ว่าอย่างไรนะ? เกิดเรื่องขึ้นกับเฟิ่งชิงเฉินหรือ? ข้าแค่ไม่ได้ดูนางเพียงวันเดียว นางก็เกิดเรื่องแล้วหรือ? ไม่สิ ข้าส่งคนไปปกป้องนางแล้ว” ปู้จิงหยุนตกใจในตอนแรก จากนั้นก็สงสัย

ซูเหวินชิงมองบน ” เจ้าไม่ต้องอธิบายให้ข้าฟัง เจ้าไปอธิบายกับจิ่วชิงเถอะ เจ้าควรแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว จิ่วชิงให้ความสำคัญกับชิงเฉินอย่างมาก หากว่าชิงเฉินเป็นกระไรไป จิ่วชิงไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”

สีหน้าของปู้จิงหยุนขมขื่น “ข้าจะทำอย่างไรดี? ข้ารับปากเป่าเอ๋อไปว่าจะพาจิ่วชิงมาพบนางในวันนี้ หากว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้น งานนี้คงยากแล้วล่ะ เหวินชิงช่วยข้าที ช่วยพาจิ่วชิงมาดูเป่าเอ๋อที”

ไอ้นี่มันบ้าไปแล้ว จนตอนนี้ก็ยังคิดถึงแต่เรื่องฉินเป่าเอ๋อ ซูชิงเหวินกล่าวอะไรไม่ออก เขาปล่อยปู้จิงหยุน ” ช่างเถอะ ข้าไม่สนเจ้าแล้ว ข้าจะไปดูเฟิ่งชิงเฉินที่จวนซุน เจ้าจะไปด้วยหรือไม่?”

ถือเป็นการชดใช้ความผิด

“ได้”

ปู้จิงหยุนตอบรับอย่างเด็ดขาด เขาคิดว่าหากเฟิ่งชิงเฉินไม่ตาย เขาก็จะสามารถไปหาจิ่วชิงและพาตัวจิ่วชิงมาพบเป่าเอ๋อได้

แต่ทันทีที่เขาเดินไปที่หน้าประตูจวนซู เสียงสาวใช้ก็ดังมาจากข้างหลัง “คุณชายจิงหยุน คุณชายจิงหยุน คุณหนูอาการกำเริบอีกแล้ว”

บ้าจริง เอาอีกแล้วหรือ!

ซูเหวินชิงปวดหัวอย่างมาก นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่นางกำเริบ เป็นหญิงงามขี้โรคของจริง ผู้หญิงแบบนี้ไม่ว่าชายที่ไหนก็คงรับไม่ไหว อ่อนแอยิ่งกว่าแก้วเสียอีก

ปู้จิงหยุนหยุดลงและหันกลับมาทันที “เป่าเอ๋อเป็นอะไร?”

“คุณหนูหน้าขาวซีด หายใจเร็ว และเหงื่อออกทั่วร่างกาย คุณชายรีบไปดูเถอะ หม่อมฉันไม่ทราบจะทำอย่างไรดี?” สาวใช้ตกใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา

“เหวินชิง?” ปู้จิงหยุนมองไปที่ซูเหวินชิง ความหายชัดเจนอย่างมาก เขาจะไปดูเป่าเอ๋อ

ตัวปัญหาเสียจริง ซูเหวินชิงระงับความโกรธในใจของเขา “ไปเถอะ เดี๋ยวข้าไปดูเฟิ่งชิงเฉินที่จวนซุนเอง หากว่ามีข่าวกระไรข้าจะติดต่อเจ้าทันที”

“ได้” ปู้จิงหยุนวิ่งไปที่ลานเหอเซียง ซูเหวินชิงส่ายหน้าไม่เลิก และกล่าวในใจว่า ฉินเป่าเอ๋อเป็นเช่นนี้ยังจะอยากแต่งงานกับจิ่วชิง? หากเทียบกับฉินเป่าเอ๋อ เขาชอบเฟิ่งชิงเฉินมากกว่า นอกจากเรื่องชื่อเสียงไม่ดีแล้ว ด้านอื่นๆของเฟิ่งชิงเฉินเทียบจิ่วชิงได้ทุกเรื่อง อย่างน้อยนางไม่เป็นภาระจิ่วชิง

ฉินเป่าเอ๋อดูเป็นหญิงงามขี้โรค แม้ว่านางจะถูกลิขิตมาเป็นภรรยาของจิ่วชิง แต่ก็คงไม่มีโอกาสได้มีความสุขกับมัน ไม่รู้จริงๆ ว่าอาจารย์และอาจารย์หญิงของจิ่วชิงนั้นคิดอย่างไร ฮองเฮาเป็นง่ายเช่นนี้เลยหรือ แม่แห่งแผ่นดินมันง่ายเช่นนั้นเลยหรือ

ฉินเป่าเอ๋อเป็นเช่นนี้ อย่าว่าแต่ช่วยให้จิ่วชิงประสบความสำเร็จเลย นางไม่เป็นภาระของจิ่วชิงก็บุญแค่ไหนแล้ว หากว่าจิ่วชิงแต่งงานกับฉินเป่าเอ๋อจริงๆ ฉินเป่าเอ่อคงเป็นภาระเขาอย่างมาก

ซูเหวินชิงไม่เข้าใจจริงๆ ว่าจิ่วชิงรับเป่าเอ๋อมาทำไม ให้นางอยู่ในป่าลึกก็ดีอยู่แล้วมิใช่หรือ เพราะถึงอย่างไรก็มีคนใช้ดูแล รับนางมาเหมือนรับภาระมา

หรือว่าจิ่วชิงรับนางมาเพื่อให้พวกเขารู้ว่าฉินเป่าเอ๋อไม่คู่ควรกับเขา?

ซูเหวินชิงส่ายหน้า จิ่วชิงไม่ใช่คนที่คิดมากเช่นนี้ เขาคงแค่อยากให้เป่าเอ๋อรู้วิถีชีวิตของเขา และเข้าใจว่าชีวิตต่อไปนี้ จะอันตรายและไม่สงบเพียงใด

ถ้าหลานจิ่วชิงรู้ว่าซูเหวินชิงคิดเช่นนี้ คงจะพยักหน้าอย่างเต็มใจอย่างแน่นอน เหวินชิง นายรู้ความจริง!

เขาแค่อยากให้โลกเข้าใจว่าไม่ใช่ว่าหลานจิ่วชิงผิดสัญญาไม่แต่งงานกับเป่าเอ๋อ แต่เป็นเพราะเป่าเอ๋อไม่คู่ควรกับเขา เขาไม่มีเวลามาใส่ใจผู้หญิงคนหนึ่ง และไม่มีทางที่จะเสียเวลาไปกับการอยู่เคียงข้างผู้หญิงคนหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน เขายังต้องการให้ฉินเป่าเอ๋อรู้ว่า การแต่งงานกับเขา หากไม่สามารถยืนเคียงข้างเขาได้ เช่นนั้นก็ต้องทนต่อความเดียวดาย หลานจิ่วชิงไม่มีทางที่จะทิ้งหน้าที่สำคัญไปเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งอย่างแน่นอน ไม่มีทางที่จะออกจากวงการเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งอย่างแน่นอน…

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *