นางสนมแพทย์อัจฉริยะบทที่ 535 ความรู้สึกของชายหนุ่ม เสด็จอาเก้าหึง

Now you are reading นางสนมแพทย์อัจฉริยะ Chapter บทที่ 535 ความรู้สึกของชายหนุ่ม เสด็จอาเก้าหึง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 535 ความรู้สึกของชายหนุ่ม เสด็จอาเก้าหึง
เย่เย่ได้รับบาดเจ็บเพียงผู้เดียว เขาถูกรายล้อมไปด้วยหมอหลวงสี่ห้าคน ส่วนซูหว่าน ถึงแม้นางจะแค่ตกใจเกินไป แต่นางก็มีหมอหลวงและหมอผู้หญิงสองคนดูแลอย่างไม่ห่าง

ในขณะที่ทหารองครักษ์ทั้งเจ็ดที่ถูกงูกัด และทหารยามสิบห้าคนที่ได้รับบาดเจ็บ มีแค่หมอยาเพียงสามคนคอยทำความสะอาดกแผลให้

เมื่อเห็นว่าหมอยาตัวน้อยกำลังรีบมองหายาและปาดเหงื่อ เฟิงชิงเฉินก็ถอนหายใจและไม่พูดอะไร

แม้มือจะไม่ได้หยิบจับอะไร แต่จริงๆแล้วกำลังมองหาโอกาสในนำยาจากกล่องเครื่องมือแพทย์อันชาญฉลาดออกมา

เฟิ่งชิงเฉินออกมาข้างนอกและยาซ่อนไว้ที่เอว จากนั้นขอให้หัวหน้าทหารรักษาการณ์บอกให้หมอยาตัวน้อยคนนั้นออกไปก่อน นางจะได้ไม่มีอุปสรรคในการช่วยชีวิตคน

หัวหน้าองครักษ์รีบทำตามที่เฟิ่งชิงเฉินต้องการ หมอยาตัวน้อยไม่เก่งเรื่องการแพทย์แต่กลับมีอารมณ์รุนแรง เมื่อได้ยินดังนั้นก็พุ่งเข้ามาดุว่า “ให้ข้าออกไปเหรอ? ทำไมหล่ะ?” เขาหันกลับมามองตัวเองอย่างจริงจังพร้อมกับบอกว่า ได้ ข้าออกไปก็ได้ หากเจ็บถึงแก่ชีวิตก็อย่ามาโทษข้า และอย่ามาขอร้องให้ข้าช่วย คิดว่าข้าอยากรักษานักหรือ รอความตายไปเถอะ ดูซิว่าพวกเจ้าจะมีชีวิตอยู่จนหมอหลวงมาไหม?”

หัวหน้าองครักษ์เหงื่อออกมาก และขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่ได้ดูถูกหมอยา แต่มีคนที่สามารถถอนพิษงูได้มีเพียงไม่กี่คน

หมอยาตัวน้อยไม่เชื่อ เขาถอนหายใจสองครั้ง สายตาจับจ้องไปที่เฟิ่งชิงเฉินชั่วขณะ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักเฟิ่งชิงเฉิน แต่พวกเขาเห็นชุดที่เฟิ่งชิงเฉินใส่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นคนมีเกียรติ แม้ว่าพวกเขาไม่พอใจ แต่พวกเขาก็ยังเชื่อฟัง

หมอยาตัวน้อยสองคนจากไป ห้องก็เงียบลงทันที องครักษ์ที่บาดเจ็บกำลังนอนอยู่ ซึ่งสะดวกสำหรับเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินถอดยาผูกไว้รอบเอวออกแล้ววางไว้

องครักษ์ตกตะลึงพร้อมกับคิดในใจ เฟิ่งชิงเฉิงเก่งมากที่สามารถนำสิ่งเหล่านี้เข้ามาในเขตวังได้ มันวิเศษมากแสงสีเงินเป็นมีด ดูใบมีดของนางคมมาก

“ไปเอาไวน์ที่แอลกอฮอล์เยอะที่สุดมาสองขวด” เฟิ่งชิงเฉินไม่ปล่อยองครักษ์ทุกคนอยู่ในห้องอีกต่อไป นางสร้างเงื่อนไขต่างๆ โดยให้ผู้ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดออกจากห้อง และมีเพียงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้นที่อยู่ในห้อง นางหยิบหลอดเข็มและเซรั่มออกมา ฉีดเซรุ่มให้กับองครักษ์ที่ถูกพิษงู และตรวจสอบบริเวณที่ถูกกัด

“บัดซบ! เป็นไปได้ยังไง?” เมื่อหัวหน้าองครักษ์เข้ามาพร้อมกับขวดไวน์ เขาได้ยินเฟิ่งชิงเฉินสบถ

“คุณเฟิ่ง มีอะไรหรือเปล่า?” หัวหน้าองครักษ์รีบวิ่งไปข้างหน้า

เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าหัวหน้าองครักษ์กำลังวิ่งเข้ามา และนางพูดอย่างไม่คิด “เจ้าทำอะไรลงไป เห็นไหมว่าพิษของเขี้ยวงูอยู่ที่บาดเผล เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันอันตรายเพียงใด หากผิดพลาดครั้งเดียวเจ้าจะฆ่าคนตายได้เลย ทำไมเจ้าไม่ระวังเลย เจ้าไม่มีความรับผิดชอบ…” ใครเป็นอาจารย์?

เวลาถัดมาเฟิ่งชิงเฉินกลั้นใจทันที บัดซบ นางพูดจริงอย่างที่ผู้ช่วยศัลยกรรมบอก เฟิ่งชิงเฉินสูดลมหายใจและบอกตัวเองให้สงบลง

ด้วยยาถอนพิษของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี อาการของผู้ป่วยจะไม่แย่ลงและยานั้นช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ แต่พิษที่ขานี้ร้ายแรง เกรงว่า…จะไม่รอด

องครักษ์ผงะ แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินพูด แต่เขารู้ว่าเขาทำอะไรผิดและขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เฟิ่งชิงเฉินไม่มีเวลาสนใจ “ออกไปนำกล่องยาของข้ามาที่นี่ เอามาเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”

เฟิ่งชิงเฉินนั่งยองนานเกินไปจนขาของนางไม่มีแรงพยุงตัว นางคุกเข่าลงกับพื้นและจับร่างกายส่วนล่างขององครักษ์ไว้แล้วใช้มีดคว้านเนื้อที่ถูกเขี้ยวพิษของงูออก

“อา…” องครักษ์ที่หมดสติอยู่ตัวกระตุกด้วยความเจ็บปวด และหัวหน้าองครักษ์รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว

ฟะ…พิษพุ่งออกมา เฟิ่งชิงเฉินเตรียมพร้อมแล้ว นางเอนหลังเล็กน้อย นางหรี่ตาลงเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดพิษเข้าตา หยิบผ้าขาวที่หมอยาเตรียมขึ้นมาให้ และพันไว้รอบๆ เพื่อป้องกันไม่ให้พิษไหลออกมาแรง เมื่อหันหลังกลับ นางเห็นว่าหัวหน้าองครักษ์ยังคงอยู่ที่นั่น เฟิ่งชิงเฉินก็ตะคอกเขาอย่างโกรธเคือง “เจ้าทำอะไร? ยังไม่รีบไปอีก”

“ทราบแล้ว ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้” หัวหน้าองครักษ์วางไวน์ลงบนพื้นแล้ววิ่งออกไป ราวกับว่ามีสุนัขชั่วร้ายไล่ตามเขาอยู่ข้างหลังเขา

เดิมทีเฟิ่งชิงเฉินตั้งใจจะพันแผลให้คนอื่น แต่ตอนนี้นางทำได้แค่มุ่งความสนใจไปที่คนที่ถูกเขียวงูพิษกัดที่บาดแผลเท่านั้น

พิษผสมกับเลือดไหลออกมา และสีหน้าขององครักษ์ดูน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อยๆ หากยังคงไหลอยู่เช่นนี้ เลือดในร่างกายก็จะระบายออกหมด แต่นางไม่สามารถให้เลือดเขาในที่สาธารณะได้

“ทำให้ดีที่สุด เชื่อในโชคชะตา ที่เหลือขึ้นอยู่กับนาง หากขาสามารถใช้การได้ นางจะพยายาม แต่หากถึงคราววิกฤต นางจะจำเป็นต้องตัดขาเพื่อความอยู่รอด”

คำพูดเหล่านี้ทำให้องครักษ์ที่ได้รับบาดเจ็บคนอื่นๆตัวสั่นด้วยความกลัว พวกเขามองดูบาดแผลโดยไม่รู้ตัวและต่างรอคอยและกลัวว่าเฟิ่งชิงเฉินจะวินิจฉัยให้ตัดขา

เฟิ่ชิงเฉินลุกขึ้นไปที่ลับสายตา นางเปิดใช้งานกระเป๋าอัจฉริยะอีกครั้ง และหยิบเซรุ่มพร้อมกับกระบอกใส่เลือดออกมา เมื่อนางกลับมา เลือดขององครักษ์ที่หลั่งออกมาก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง

“ยาถอนพิษและเซรุ่มได้ผล” ในที่สุดเฟิ่งชิงเฉินก็ยิ้มออก นางก็มีความสุขเหลือเกิน แต่เขี้ยวที่เป็นพิษอยู่ในร่างกายนานเกินไป นางไม่รู้ว่าอาการจะกำเริบซ้ำหรือเปล่า

เมื่อเลือดที่ไหลออกมาเป็นสีแดงสด เฟิ่งชิงเฉินก็โรยยาและพันผ้าพันแผล “คืนนี้เป็นช่วงอันตราย ตราบใดที่พิษงูไม่เกิดซ้ำ มีโอกาส 70%ขาของพวกเจ้าจะไม่ถูกตัดออก”

มีเพียง 70% เพราะองครักษ์เสียเลือดมากเกินไป และนางต้องคิดหาวิธีที่จะให้เลือดแก่ทหาร

นอกจากคนทั้งเจ็ดที่ถูกงูพิษกัดแล้ว ยังมี 15 คนที่ได้รับบาดเจ็บไม่เบา หลายคนขาหักเพราะตกจากที่สูง เด็กคนนี้อายุเพียง 17 ปี ได้รับบาดเจ็บจนตอนนี้ยังไม่ร้อง

เฟิ่งชิงเฉินนึกถึงยุคปัจจุบันที่คนหนุ่มสาวถูกตัดนิ้ว เมื่อเห็นความประหม่าของอีกฝ่าย เฟิ่งชิงเฉินก็ยกนิ้วให้อีกฝ่ายและ ปลอบโยนเขาว่า “เจ้าเก่งมาก! อย่ากังวลเลย เชื่อข้า เจ้าจะไม่เป็นไร”

“โอ้……”

องครักษ์ไม่กี่คนที่ได้รับบาดเจ็บก็ขยิบตาให้องครักษ์หนุ่ม ป๊าบ… สีหน้าองครักษ์หนุ่มแดงก่ำ และเขาไม่กล้ามองเฟิ่งชิงเฉิน

ไม่รู้ว่าองครักษ์หนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ เฟิ่งชิงเฉินรักษาแผลให้เขา แต่เขาไม่ตอบสนอง “อาการบาดเจ็บของเจ้าค่อนช้างซับซ้อน ข้าสามารถรักษาขั้นพื้นฐานให้เจ้าเพื่อประทังอาหการ เดี๋ยวซักครู่เจ้าเข้าวังกับข้า และค่อยจัดการขั้นตอนต่อไป”

“โอ้ ดี ดี” องครักษ์หนุ่มหน้าแดงและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่เฟิ่งชิงเฉิน เขาไม่สามารถขยับได้ ไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินไปที่ไหนดวงตาคู่นั้นของเขามองตามเหมือนพบรัก

เมื่อเสด็จอาเก้าเดินเข้ามาเห็นฉากนี้ สีหน้าเขาก็เคร่งขรึมทันที…

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *