นางสนมแพทย์อัจฉริยะบทที่ 818 กลัว

Now you are reading นางสนมแพทย์อัจฉริยะ Chapter บทที่ 818 กลัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 818 กลัว

เนื้อเข้าไปในปากของหมาป่า จะให้หมาป่าสุภาพได้อย่างไร เวลานี้แววตาของเสด็จอาเก้าเต็มไปด้วยแสงแห่งอันตราย เฟิ่งชิงเฉินซึ่งกำลังอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น เขาได้ทิ้งความกลัดกลุ้มจำนวนมากไว้ด้านหลังของนาง ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินตอบสนองออกมา มือของเสด็จอาเก้าก็ถูไปที่โคนขาของนางแล้ว

“เอ๋ เจ้ากำลังทำอะไร” เฟิ่งชิงเฉินตกใจเป็นอย่างมาก ร้องออกมา ต้องการรุกออกจากเตียงหยก

แต่เมื่อลงเรือของโจรมาแล้ว โจรที่ไหนจะยอมให้เจ้าหนีไปแต่โดยดี เสด็จอาเก้าใช้มือข้างหนึ่งกดนางไว้ อีกข้างหนึ่งลูบไปมาที่ต้นขาของนาง ขณะเดียวกันก้มศีรษะ นำหน้าผากไปสัมผัสกับหลังของเฟิ่งชิงเฉินพร้อมกล่าวออกมาอย่างอบอุ่นว่า “ที่นี่ข้าจะทำอะไรอย่างอื่นได้อีก นอกจากจะทำกับเจ้า?”

เสด็จอาเก้าพูดออกมาด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง อารมณ์ในการพูดของเขาไม่เปลี่ยนแปลง เขาไม่ได้สบถหรือดุด่าแต่อย่างใด เขาแค่พูดในสิ่งที่เขาคิด

“เจ้า……อันธพาล” เฟิ่งชิงเฉินครุ่นคิดอยู่นาน นางไม่รู้ว่าควรจะพูดออกไปอย่างไร คำพูดนี้ของเสด็จอาเก้ามันไม่ได้ลึกล้ำแต่อย่างใด นางไม่จำเป็นต้องคิดมากก็สามารถเข้าใจความหมายของมันได้

“ทำกับเจ้า” คำพูดนี้มันเป็นคำพูดที่นางได้ยินบ่อยในค่ายทหาร และมีอีกหลายคำที่หยาบคายกว่านี้ นางคุ้นชินกับพวกมันโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อได้ยินเสด็จอาเก้าพูดออกมาในเวลานี้ ร่างกายของนางกลับรู้สึกกระสับกระส่าย

“แม้ข้าจะไม่ใช่สุภาพบุรุษ แต่ข้าก็ไม่ใช่อันธพาล” เสด็จอาเก้าพลิกอยู่บนร่างของเฟิ่งชิงเฉิน ลูบไล้ต้นขาของเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้เฟิ่งชิงเฉินสั่นสะท้าน แต่ทุกครั้งกลับหยุดอยู่ตรงโคนขา ราวกับว่าต้องการทรมานนาง

“เจ้าไม่ใช่อันธพาล แล้วเจ้าเป็นอะไร” เฟิ่งชิงเฉินสูดลมหายใจเข้า ต้องการพลิกตัวเพื่อไปเผชิญหน้ากับเสด็จอาเก้า แต่เสด็จอาเก้าไม่ยอม เขาบังคับให้เฟิ่งชิงเฉินเผชิญหน้ากับเขาจากทางด้านหลัง ยื่นมือสอดใต้รักแร้ไปยังหน้าอกของเฟิ่งชิงเฉิน “ข้าคือเจ้าหนี้ มาที่นี่เพื่อรับของขวัญ ในเมื่อข้าเป็นคนรับของขวัญ แน่นอนว่าข้าขอรับมันด้วยตัวเอง”

เฟิ่งชิงเฉินลูบไล้ไปตรงหน้าอกอันนุ่มนวลของเฟิ่งชิงเฉิน ก้มศีรษะลงบนหลังของเฟิ่งชิงเฉินและจูบอย่างละเอียดอ่อนนับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แผลเป็น เสด็จอาเก้าจูบมันอย่างนุ่มนวลที่สุด

หันหลังให้เสด็จอาเก้า มองไม่เห็นและไม่รู้ว่าเสด็จอาเก้ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกไม่สบายใจพร้อมคาดหวังในเวลาเดียวกัน ความกังวลใจและความรู้สึกดังกล่าวทำให้นางตื่นเต้นได้ง่ายขึ้น

เสด็จอาเก้า เห็นว่าผิวของเฟิ่งชิงเฉินแดงก่ำด้วยความหลงใหลและความปรารถนา ดวงตาของเขาดูอ่อนโยนลงมาก เขาไม่ทรมานเฟิ่งชิงเฉินอีกต่อไป เสด็จอาเก้าบีบกลีบดอกไม้ใต้ร่างของนางเบา ๆ และในไม่ช้าก็มีน้ำผึ้งไหลออกมาจากกลีบดอกไม้ในร่างของนาง

ภายใต้บรรยากาศเช่นนี้ ภายใต้การเย้ายวนของเสด็จอาเก้า หากไม่รู้สึกหวั่นไหวหรือเคลิ้มตาม แบบนั้นเจ้าก็คงมีปัญหาทางด้านอารมณ์และความรู้สึก

ไม่ว่าเบาหรือหนัก ตื้นหรือลึก ร่างทั้งร่างของเฟิ่งชิงเฉินราวกับเป็นอัมพาต ดวงตาของนางพร่ามัว เฟิ่งชิงเฉินพยายามดิ้นรนอย่างเหนื่อยหอบ แต่มันไม่ใช่การปฏิเสธ มันคือความต้องการที่มากกว่าเดิม

ไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้กันมาสักระยะ ทักษะของเสด็จอาเก้าไม่ได้ถดถอย แต่มันกลับมีความพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ประกอบกับสภาพแวดล้อมในบ่อน้ำพุ เฟิ่งชิงเฉินไม่สามารถหลบหนีจากกรงเล็บของเสด็จอาเก้าได้ นางทำได้เพียงปล่อยให้เสด็จอาเก้าทำในสิ่งที่เขาต้องการเท่านั้น

เสด็จอาเก้าไม่ใช่คนใจร้อน ต่อให้เขาร้อนรนแค่ไหนเขาก็ไม่เคยมองข้ามความรู้สึกของเฟิ่งชิงเฉิน เขามักจะนึกถึงเฟิ่งชิงเฉินอยู่เสมอ ต้องการให้นางรักและมีความสุขกับเขามากขึ้นไปอีก

เสด็จอาเก้าพยายามเล้าโลมเฟิ่งชิงเฉินอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้นางมีอารมณ์ และยอมรับตนเองได้มากขึ้น นิ้วของเสด็จอาเก้าลูบไล้อยู่ด้านนอก วาดเป็นวงกลม แต่ก็ยังไม่ได้ใส่มันเข้าไป ทำให้ขาของเฟิ่งชิงเฉินกางออกเล็กน้อยอย่างมีความหวังโดยที่นางเองก็ไม่รู้ตัว

“ชอบหรือไม่?”

“อ่า ชอบ……” เฟิ่งชิงเฉินนอนคว่ำอยู่บนเตียงหยก นางหายใจลำบาก ประกอบกับสิ่งซึ่งเสด็จอาเก้าทำกับนางตอนนี้ ทำให้นางยิ่งพูดไม่ชัดเข้าไปใหญ่

เสด็จอาเก้าพอใจกับการแสดงออกของเฟิ่งชิงเฉินในเวลานี้เป็นอย่างมาก เขาชอบเห็นเฟิ่งชิงเฉินไร้เรี่ยวแรง ไร้ซึ่งกำลังขัดขืนภายใต้ร่างกายของเขา มีเพียงสิ่งสิ่งนี้ของเฟิ่งชิงเฉินเท่านั้น เฟิ่งชิงเฉินถึงสามารถทำให้เขาบ้าคลั่งได้

“ต้องการมากกว่านี้ไหม?”

“ต้องการ……” เฟิ่งชิงเฉินทำผิดต่อตนเองโดยไม่อาย ร่างกายของนางถูกเสด็จอาเก้าเล้าโลมจนลุกเป็นไฟ แต่ตอนนี้ร่างกายของนางกลับว่างเปล่า นางต้องการให้เสด็จอาเก้าเติมเต็มร่างกายของนางให้เร็วที่สุด

“งั้นก็มาเลย” เสด็จอาเก้าค่อย ๆ ใช้แรงที่ปลายนิ้วของเขา แหย่มันไปด้านหน้า เมื่อเข้าไปแล้ว เสด็จอาเก้าไม่ได้รีบร้อน เขาไม่ได้กระดิกหรือกระตุกแต่อย่างใด เขาเคลื่อนนิ้วไปด้านหน้ามากขึ้น จากนั้นนิ้วของเขาก็สัมผัสกับผนังด้านในอย่างนุ่มนวล การระเบิดครั้งนี้ทำให้เฟิ่งชิงเฉินตัวสั่น และอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงออกมา

“อ่า อ่า……” ความรู้สึกนี้ดูเหมือนจะพอใจ แต่ก็ดูเหมือนจะต้องการมากกว่านี้ เสด็จอาเก้าเข้าใจเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงจงใจหยุดการเคลื่อนไหว รอให้เฟิ่งชิงเฉินร้องขอเขาออกมาอีกครั้ง

เฟิ่งชิงเฉินขยับร่างกายของนางอย่างสลดใจ เห็นเสด็จอาเก้าไม่ให้ความร่วมมือ นางพึมพำออกมาอีกครั้ง “ยังต้องการมากกว่านี้……”

“ข้าจะสนองให้เจ้า” เสด็จอาเก้าคิดว่าเขาอ่อนโยนและใส่ใจกับเรื่องบนเตียงมากของเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างมาก ตราบใดที่เฟิ่งชิงเฉินเอ่ยปากของออกมา เขาก็จะตอบสนองความต้องการของนาง แต่แน่นอนว่าเขาไม่สามารถให้ทั้งหมดในคราเดียว ทุกอย่างมันต้องค่อยไปค่อยไป แบบนั้นถึงจะน่าลิ้มรส

เสด็จอาเก้าดึงนิ้วของเขาออกมา วินาทีหลังจากนั้น นิ้วกลางและนิ้วชี้ของเขาขยับมาชิดกัน ผนังด้านในที่แน่นก็หดตัวลงอย่างกะทันหันภายใต้แรงกระแทก โอบนิ้วของเสด็จอาเก้าด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบในทันที ทำให้ร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินรู้สบายและผ่อนคลายขึ้นโดยไม่รู้ตัว และให้ความร่วมมือกับเสด็จอาเก้าเป็นอย่างดี

“อ้าขาออก” เสด็จอาเก้าคุกเข่าบนเตียงหยก กางขาของเฟิ่งชิงเฉินออกพร้อมกระตุกนิ้วไปมา จากนั้นก็ทำให้กลีบดอกไม้ของเฟิ่งชิงเฉินขยายออก เนื่องจากหากแน่นเกินไปอาจทำให้รู้สึกเจ็บ ต้องรู้ก่อนว่าพวกเขาไม่ได้ทำกันมามากกว่าสามเดือนแล้ว ตรงนั้นของเฟิ่งชิงเฉินแน่นมากกว่าเดิม และของเขาเองก็แข็งไม่น้อยกว่าที่ผ่านมา

แม้จะยังไม่ได้สอดใส่เข้าไป แต่มันก็สามารถตอบสนองความต้องการของเฟิ่งชิงเฉินได้ ทำให้นางไปถึงจุดสูงสุด จากนั้นน้ำผึ้งก็ไหลออกมาตามนิ้วของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินนอนอยู่บนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง

หลังจากนั้นไม่นาน นางเงยหน้าขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า “ข้าเหนื่อยแล้ว”

“ข้ายังไม่ได้เริ่มเลยด้วยซ้ำ” เสด็จอาเก้ายิ้มออกมา นำน้ำผึ้งเหล่านั้นปาดไปทั่วร่างกายของเฟิ่งชิงเฉิน ใช้นิ้วบีบกลีบดอกไม้ของเฟิ่งชิงเฉินเป็นครั้งคราว เพื่อทำให้เฟิ่งชิงเฉินส่งเสียงร้องออกมาสองสามครั้งจนพอใจ

เฟิ่งชิงเฉินส่งเสียงต่อต้านออกมา พยายามดิ้นรน บิดร่างกายของตนเอง เสด็จอาเก้าราวกับไม่ได้ยินเสียงของนาง เขาเข้าใจเฟิ่งชิงเฉิน ดังนั้นจึงรู้ว่าตอนไหนนางพูดจริง ตอนไหนนางพูดเล่น ตอนนี้เฟิ่งชิงเฉินบอกว่าไม่ต้องการ แต่แท้จริงแล้วความต้องการของนางไม่ได้ลดน้อยลงเลย

ทุกคำพูดที่เฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาตอนอยู่บนเตียง ไม่ว่านางจะพูดอะไรออกมาเสด็จอาเก้าจะตัดสินทันทีว่ามันเป็นความจริง แต่หากเป็นคำพูดที่เขาไม่อยากได้ยิน เขาจะตัดสินว่ามันเป็นเท็จในทันที

แน่นอนเสด็จอาเก้าเองก็กังวลว่าร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินจะรับได้หรือไม่ แต่เขาก็รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดนั้น อย่างน้อยเรื่องที่ทำให้เขาพอใจ เฟิ่งชิงเฉินสามารถทำได้อย่างแน่นอน

ภายใต้การขัดขืนอย่างรุนแรงของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าถอดเสื้อคลุมบนร่างกายของเขาออก เผยให้เห็นน้องชายของเขาที่กำลังสัมผัสอยู่กับแผ่นหลังของเฟิ่งชิงเฉิน เขาเคลื่อนไหวไปมา อยากจะบอกกับเฟิ่งชิงเฉินว่าเขาอดทนรอมานานแล้ว

เป็นอย่างที่คิด เสด็จอาเก้าเข้าสู่สนามรบโดยไร้เครื่องป้องกัน เขาเข้ามาในห้องแห่งนี้โดยใส่เสื้อคลุมเพียงตัวเดียว ไม่มีอะไรมากกว่านั้น มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ และเสื้อคลุมนี้ก็ไถลลงกับพื้นพร้อมกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว

ร้อนดุจเปลวเพลิง ใหญ่และหนา ทำเอาเฟิ่งชิงเฉินตกใจจนไม่กล้าขยับ เพราะกลัวว่าเสด็จอาเก้าจะใส่มันเข้ามาอย่างกะทันหันโดยไม่สนร่างกายของนาง และออกอาละวาดราวกับคนบ้าคลั่ง

สำหรับเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้ามีความอดทนเป็นพิเศษ เมื่อเห็นร่างกายที่ผ่อนคลายของเฟิ่งชิงเฉินตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง เสด็จอาเก้าไม่ได้เร่งรีบ เดิมตามทิศทางของเฟิ่งชิงเฉิน ปลอบโยนนางอย่างนุ่มนวล

“วางใจ ข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้า”

อย่างน้อยก็ไม่มีทางเป็นเหมือนครั้งแรก ที่ทำให้เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้สึกอื่นใดนอกจากความรู้สึกเจ็บปวด มีแค่ตอนท้ายเท่านั้นที่รู้สึกมีความสุขเพียงเล็กน้อย……

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *