นางสนมแพทย์อัจฉริยะบทที่ 441 อุบัติเหตุ เล่นไปตามเกมเอาให้เจ้าตายไปเลย

Now you are reading นางสนมแพทย์อัจฉริยะ Chapter บทที่ 441 อุบัติเหตุ เล่นไปตามเกมเอาให้เจ้าตายไปเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ออกเมืองไปอย่างสง่า กลับเข้าเมืองมาอย่างถ่อมตน เฟิ่งชิงเฉินเป็นเช่นนี้ หากมิใช่เพราะองครักษ์ของเสด็จอาเก้าคอยคุ้มครอง ทุกๆ คนคงจะสงสัยว่าเฟิ่งชิงเฉินถูกเสด็จอาเก้าทอดทิ้ง หรือคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินทำให้เสด็จอาเก้าโกรธเคือง จนเสด็จอาเก้าโกรธเคืองและไล่เฟิ่งชิงเฉินกลับมา

ทุกคนคิดต่างกัน ต่างก็พูดหลายความเป็นไปได้ ส่วนเจ้าตัวนั้นคนหนึ่งก็อยู่ที่นอกเมืองไม่ได้กลับมาเมืองหลวง อีกคนก็เมื่อกลับมาก็เข้าไปที่จวนทันที และไม่พบใครทั้งนั้น

ส่งผลให้ข่าวลือยิ่งลือยิ่งเกินจริงมากขึ้น บางคนบอกว่าเสด็จอาเก้ารังเกียจเฟิ่งชิงเฉิน เพราะนางไม่ใช่คู่แข่งของซูหว่าน บางคนก็คิดว่าเฟิ่งชิงเฉินโกรธเสด็จอาเก้า เพราะอย่างไรก็ตามการแข่งขันระหว่างนางและซูหว่านเกิดขึ้นเพราะเสด็จอาเก้า

แน่นอนว่านี่ถือเป็นข่าวลือที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล มีบางข่าวลือที่ดูเกินจริงไปโดยบอกว่า เสด็จอาเก้าให้เฟิ่งชิงเฉินรับแขก แต่เฟิ่งชิงเฉินไม่ยอมและโกรธเคือง จึงกลับมาที่เมือง

เสด็จอาเก้าไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง จึงไม่มีใครปราบปรามพวกมันได้ ดังนั้นข่าวลือที่น่าเกลียดเช่นนี้จึงถูกเผยแพร่ออกมา สุดท้ายทุกคนได้ข้อสรุปว่า การแข่งฉินในวันพรุ่งนี้ เฟิ่งชิงเฉินแพ้อย่างแน่นอน!

แน่นอนว่าข่าวลือนี้ก็แพร่กระจายถึงหูซูหว่านเช่นกัน อันที่จริงหลังจากคืนนั้นที่เย่เย่แยกกับซีหลินเทียนอวี่ไปแล้ว เขามาหาซูหว่านในทันที และเล่าเรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าออกเมืองด้วยกันให้นางฟังแล้ว

ในตอนแรก ซูหว่านไม่ได้ใส่ใจ แต่เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินกลับมาที่เมืองหลวงเพียงลำพัง ซูหว่านก็อดไม่ได้ที่จะคิดมาก

“ท่านพี่ว่าเสด็จอาเก้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?” ซูหว่านคิดจากใจจริงว่าเสด็จอาเก้าเป็นคนที่ลึกลับ เดาใจไม่ออกเสียจริง

“บางทีอาจเป็นไปได้ตามที่ซีหลิงเทียอวี่กล่าว เสด็จอาเก้าขอให้เฟิ่งชิงเฉินรักษาซีหลินเทียนอวี่ ก่อนหน้านี้เสด็จอาเก้า แสดงท่าทีห่วงใยมีใจให้เฟิ่งชิงเฉิน อาจจะทำเพื่อให้เฟิ่งชิงเฉินพยายามรักษาซีหลินเทียนอวี่อย่างเต็มที่” เย่เย่ไม่เคยคิดว่าเสด็จอาเก้าจะทำดีต่อเฟิ่งชิงเฉินอย่างไม่มีเหตุผล ผู้หญิงที่ไม่มีค่าใดๆ เลย ไม่คู่ควรแก่ความสนใจของเสด็จอาเก้า

มันเหมือนกับว่าเขาชอบซูหว่าน แต่หากซูหว่านไม่ใช่ลูกสาวของภรรยาใหญ่ในตระกูลซู เขาไม่มีทางที่จะเสียเวลาเช่นนี้กับนาง หากว่าซูหว่านมีสถานะอย่างอื่น เขาสามารถแต่งงานกับนางด้วยกำลังได้เลย

“ถ้าเป็นกรณีนี้ หมายความว่าเสด็จอาเก้าไม่ได้มีเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในใจจริงๆ มิเช่นนั้นเขาไม่มีทางที่จะให้เฟิ่งชิงเฉินไปรักษาโรคขาของซีหลิงเทียนอวี่ในเวลานี้อย่างแน่นอน” ดวงตาของซูหว่านเป็นประกายด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย นึกถึงความเย่อหยิ่งของเสด็จอาเก้าในตอนแรก และการเอาอกเอาใจของเฟิ่งชิงเฉิน นางก็ยิ่งคิดว่ามีความเป็นไปได้เช่นนี้อย่างแน่นอน

เสด็จอาเก้าก็แค่ใช้ประโยชน์จากตัวเฟิ่งชิงเฉินเท่านั้นเอง

“อาจจะเป็นไปได้ หากสนใจจริงๆ เฟิ่งชิงเฉินแข่งฉินกับเจ้า ก็จะไม่ใช้ฉินสายน้ำแข็งที่ฮองเฮาให้อย่างแน่นอน ข้าจำได้ว่ามีฉินที่ดีอยู่ในจวนเสด็จอาเก้า” เย่เย่พยายามพูดสิ่งที่ซูหว่านอยากฟังออกมา เพราะการเล่นฉินนั้นต้องเล่นอย่างใจเย็น

“ฮ่าฮ่า…” ซูหว่านยิ้มอย่างอ่อนโยน “ข้าคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นคนพิเศษขนาดไหนเสียอีก ที่แท้ก็เป็นแค่หมาก ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารเสียจริง”

“เฟิ่งชิงเฉินน่าสงสารจริง ๆ แต่ก็ไม่สมควรที่จะได้รับความเห็นใจจากน้องสาว น้องสาวเร่งไปพักผ่อนเถิด สะสมพลังกายใจเอาไว้ให้ดี วันพรุ่งนี้ไปเช่นงานเฟิ่งชิงเฉินให้หมดความหยิ่งยโสเสียหน่อย คืนนี้พี่จะไปจับตาดูเฟิ่งชิงเฉินที่จวนเฟิ่ง ไม่ให้นางมีโอกาสใช้เล่ห์อุบาย” การแข่งฉิน หมากรุก หนังสือ และวาดภาพกับซูหว่านนั้น นอกจากจะใช้เล่ห์อุบายแล้ว เฟิ่งชิงเฉินไม่มีโอกาสชนะเลย นี่เป็นความจริงที่ทุกคนต่างก็ทราบดี

“พี่ชายดีกับหว่านหว่านอย่างมาก หากมีพี่ชายอยู่หว่านหว่านไม่กลัวกระไรทั้งสิ้น” ใบหน้าของซูหว่านเต็มไปด้วยความชื่นชม นัยน์ตาของนางที่อ่อนโยนเป็นครั้งคราว ทำให้เย่เย่หลงอย่างมาก เขาเร่งส่งสายตาที่ลึกซึ้งกลับมา “ลูหากว่าพี่ไม่ดีต่อหว่านหว่าน แล้วจะดีต่อใครกัน หว่านหว่านสบายใจได้เลย เรื่องอื่นๆ พี่ชายจะจัดการให้เอง”

เย่เย่เป็นคนที่ใจกล้าหาญและระมัดระวังอย่างมาก เขารู้ดีว่านอกลานเล็กๆ ที่เฟิ่งชิงเฉินอาศัยอยู่ชั่วคราวนั้น มีทหารลับมากมาย เขาได้หลีกหนีพวกเขาไปอย่างชาญฉลาด เย่เย่หาที่ซ่อนอยู่บนต้นไม้ตรงข้ามห้องของเฟิ่งชิงเฉินจนได้ และซ่อนตัวเอาไว้

แม้ว่าระยะจะห่างไกลเล็กน้อย แต่เขาสามารถเห็นสถานการณ์ในห้องของเฟิ่งชิงเฉินและลานบ้านเล็ก ๆ ทั้งหมดได้อย่างชัดเจน เมื่อเฟิ่งชิงเฉินหรือผู้คนในที่อาศัยในจวนนี้มีท่าทีผิดปกติ เขาจะสามารถทราบได้ในทันที

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เย่เย่พบว่าเฟิ่งชิงเฉินแบกสัมภาระไป และเอาไปเผาทิ้งที่ห้องครัวตอนที่ไม่มีใครสังเกต มันอยู่ไกลมาก อีกทั้งมืดมาก เย่เย่จึงมองไม่ชัดว่าเฟิ่งชิงเฉินเผ่าอะไรไป และเฟิ่งชิงเฉินเองก็ระวังอย่างมาก หลังจากที่นางแน่ใจว่าสิ่งนั้นถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านไปแล้วจึงจากไป

เย่เย่หาวด้วยความเบื่อหน่าย ผ่านไปสักพัก จู่ๆ เขาก็มีอาการปวดที่คอ ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อ

แย่แล้ว หลงกลแล้ว

เย่เย่อยากจะหันหลังกลับไป แต่มันก็ไม่ทันแล้ว ท้ายที่สุดเขาหลับตาลงทั้งสองข้างและล้มลงไปทางข้างหลัง หลานจิ่วชิงรับตัวเขาเอาไว้ และหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นก็ส่งสัญญาณมือไปที่ทหารลับ

“นายท่าน” ทหารลับปรากฏตัวต่อหน้าหลานจิ่วชิงราวกับวิญญาณ

“ส่งคนนี้ไปให้ปู้จิงหยุน ให้เขาโดนยังไงเอาคืนอย่างนั้น” หลานจิ่วชิงกล่าวอย่างชั่วร้าย

ตอนนั้นเย่เย่จับตัวปู้จิงหยุนไป และถอดทุกอย่างของเขาออกแล้ววางตัวปู้จิงหยุนไว้บนจานกลม ปู้จิงหยุนจะไม่มีวันลืมความอัปยศนี้ไปจนวันตาย ตอนนี้เย่เย่ตกอยู่ในมือเขาแล้ว ผลที่จะตามมานั้นสามารถคิดตามได้เลย………

นายน้อยเย่ที่เปลือยกาย คงไม่กล้าออกไปข้างนอกอีกเป็นเวลานาน

“ขอรับ นายท่าน” ทหารมืดแบกเย่เย่แล้ววิ่งตรงไปที่จวนซู

เอาล่ะ ตัวตลกที่ซ่อนอยู่ในที่ลับจัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ว่า….. พวกเขาก็ยังไม่ค้นพบความลับของฉินสายน้ำแข็ง

ต้องยอมรับว่า กลอุบายของฮองเฮานั้นยอดเยี่ยมมาก ยอดเยี่ยมเสียจนทั้งๆ ที่เขารู้ว่ามันมีปัญหา แต่เขาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร หลานจิ่วชิงอุ้มฉินเอาไว้และเดินเข้าห้องของเฟิ่งชิงเฉิน เป็นไปตามคาด ประโยคแรกของเฟิ่งชิงเฉินคือ ” จิ่วชิง ได้ข้อสรุปรึยัง?”

“ยัง” เขาไม่อยากให้เฟิ่งชิงเฉินผิดหวัง แต่เขาเองไม่สามารถเปลี่ยนความจริงได้

“แม้แต่คนของเจ้าก็สืบไม่พบ หรือว่าฉินนี้มันไม่มีปัญหาแต่แรกอยู่แล้ว?” เฟิ่งชิงเฉินถามคำถามในใจออกมา

“ข้าหวังว่ามันจะไม่มีเช่นกัน แต่เจ้าและข้าต่างก็ทราบดีว่าฮองเฮาเป็นคนอย่างไร เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่ฉินนี้จะไม่มีปัญหาใดๆ” สิ่งของที่ฮองเฮามอบให้มักจะธรรมดาอย่างมาก แต่มีเพียงฉินนี้ที่มีที่มาค่อนข้างน่าสนใจ

“ตอนเย็นองค์รัชทายาทส่งสารมา และกล่าวโดยอ้อมเรื่องฉินสายน้ำแข็ง ให้ข้าระวังให้ดี” องค์รัชทายาทเองยังดูออกเลย แล้วนางจะยังหลอกตัวเองได้อย่างไร

“ช่วงนี้องค์รัชทายาทกดดันอย่างมาก จักรพรรดิได้ให้องค์ชายที่โตแล้วหลายคนอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ นั่นหมายความว่าท่านกำลังจะแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่ ฉะนั้นในเวลาแบบนี้องค์รัชทายาทจะต้องไม่ทำอะไรพลาด” จักรพรรดิเองก็คงทราบว่าองค์รัชทายาทคงมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่นาน ฉะนั้นจึงให้องค์ชายอื่นๆ ต่างก็อยู่ที่นี่ต่อ

“เป็นตระกูลจักรพรรดิที่เลือดเย็นที่สุด องค์รัชทายาทก็น่าสงสารเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะการสนับสนุนจากเสด็จอาเก้า สงสัยเขาคงถูกถอนตำแหน่งไปนานแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจและกล่าว ความสนใจทั้งหมดของนางจดจ่อไปที่ฉินสายน้ำแข็ง จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นความประหลาดใจในแววตาของหลานจิ่วชิง

ใช่ ประหลาดใจ

หลานจิ่วชิงไม่คาดคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินจะพูดเรื่องที่ลับเช่นนี้กับเขา มันดูเหมือนเป็นประโยคที่ธรรมดาอย่างมาก แต่กลับดูสนิท เพราะเฟิ่งชิงเฉินไม่เคยพูดถึงเรื่องคนอื่นต่อหน้าเขา

ดวงตาของหลานจิ่วชิงกะพริบเล็กน้อย และเขาถามต่ออย่างไม่แน่นอนว่า “เจ้าหมายความว่าที่ผ่านมานี้เสด็จอาเก้าคอยปกป้ององค์รัชทายาทอยู่ตลอดงั้นหรือ? เพราะกระไร?”

มือของเฟิ่งชิงเฉินที่กำลังลูบฉินอยู่ก็ชะงัก นางเงยหน้าและยิ้ม “ข้าก็ว่าไปเรื่อยเปื่อย เจ้าอย่าคิดจริงจัง”

จากนั้น นางก็เปลี่ยนหัวข้อในการสนทนา ดวงตาของหลานจิ่วชิงหรี่ลง เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันเศร้าใจหรือดีใจ แต่มีสิ่งหนึ่งที่สามารถมั่นใจได้ นั่นก็คือเฟิ่งชิงเฉินจะไม่เปิดเผยเรื่องของเขากับผู้อื่นเช่นกัน

ผู้หญิงคนนี้มีความลับอยู่มากมาย แต่กลับเปิดความลับไว้แน่นอย่างมาก

ทั้งสองคนต่างก็มีความกังวลของตัวเอง และพูดคุยกันไปคนละเรื่อง เมื่อเสียง”แท๊ะ” ดังขึ้น เฟิ่งชิงเฉินอุทาน ” จิ่วชิง ข้าพบแล้ว เจ้าดูนี่…”

“ไม่คาดคิดว่าจะเป็นของเช่นนี้ ฮองเฮาจิตใจโหดเหี้ยมยิ่งนัก” หลานจิ่วชิงก้มลงไปและดีใจอย่างมากที่เฟิ่งชิงเฉินโชคดี ลับตาเช่นนี้ นางก็ยังหามันเจอจนได้……..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *