บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] 533: ดั่งเซียนดาบลงมาจุติ

Now you are reading บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] Chapter 533: ดั่งเซียนดาบลงมาจุติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 533: ดั่งเซียนดาบลงมาจุติ

ตอนที่ 533: ดั่งเซียนดาบลงมาจุติ

แสงสีชาดอันหมุนวนยังคงล่องลอยอยู่กับสายฝนบนสนามต่อสู้

เสียงแตกแหลมชัดยังคงกังวาน

ผู้คนในชุมนุมมวลพฤกษาต่างก็ตกตะลึง

ด้วยการสะบัดแขนเสื้อคราเดียว เขาก็สามารถขยี้ผนึกโลหิตอสูรสวรรค์ได้

ดีดนิ้วเพียงครั้งเดียว ดับจันทร์โลหิตแห่งรัตติกาลมารสังหาร!

แม้ว่าศึกนี้เพิ่งเริ่มได้ไม่นาน ทว่าอำนาจร้ายกาจที่ซูอี้แสดงยามถูกดูแคลนนั้นราวกับพายุโหม …ล้วนส่งผลกระทบต่อจิตใจทุกผู้ ณ ที่นั้น!

ผู้ฝึกตนซึ่งไม่ได้ประเมินค่าซูอี้สูงนักต่างตะลึงงันจนพูดไม่ออก

“ซูอี้ผู้นี้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ…”

กู่ชางหนิงกล่าวอย่างเหม่อลอย

ไม่กี่วันก่อน เขาได้ประจักษ์แล้ว ณ หอโคมเขียวฮ่วนซีชา ว่าซูอี้สังหารซือคงเป้าอย่างไร

ทว่าเทียบกันแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซูอี้ในยามนี้แข็งแกร่งกว่ามาก!

ควรทราบว่าพลังของหวนเฉ่าโหยวนั้นท้าทายอำนาจสวรรค์ และในหมู่ตัวตนยุคโบราณเหล่านี้ เขายังเป็นตัวตนระดับสูงสุด แข็งแกร่งพอจะข้ามวิถีไปสังหารผู้ฝึกตนในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณได้

ทว่ายามนี้ แม้ว่าหวนเฉ่าโหยวจะแสดงไม้ตายเช่นจันทร์โลหิตแห่งรัตติกาลมารสังหาร ทว่าก็ยังคงถูกนิ้วของซูอี้ฟันสะบั้น!

“สุดยอด สุดยอดจริง ๆ!”

นัยน์ตาของเฉิงผูทอประกาย จิตต่อสู้ในใจถูกกระตุ้นเสียจนรั้งไม่อยู่

เช่นเดียวกันนั้น… ไม่ว่าจะเป็นฉือเจี่ยนซู่ หลี่หานเติง หรือหลวงจีนเฉินลวี่ พวกเขาต่างก็มีสีหน้าจริงจัง!

คราวก่อน ซูอี้ไม่ได้เข้าร่วมชุมนุมมวลพฤกษา

กล่าวตรง ๆ แล้ว นี่คือวันแรกที่พวกเขาได้พบซูอี้ จึงต่างเหมือนคนแปลกหน้าระหว่างกัน ไม่ได้เข้าใจหรือข้องเกี่ยวอันใดกัน

จึงเป็นเหตุให้พวกเขาต่างประหลาดใจเมื่อเห็นว่าซูอี้กล้าประชันกับหวนเฉ่าโหยวเมื่อครู่ และหลายคนกระทั่งสงสัยว่าซูอี้กำลังคิดแกว่งเท้าหาเสี้ยน!

ทว่ายามนี้… ไม่มีผู้ใดกล้าคิดเช่นนั้นอีกแล้ว!

กระทั่งผู้เก่งกล้ายุคปัจจุบันยังประหลาดใจในฝีมือของซูอี้!

“ชายผู้นี้… แข็งแกร่งเพียงไร!?” เซียนหานเยียนตะลึงเล็กน้อย

นางแอบกังวลก่อนหน้านี้ และไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดเขาต้องไปประลองกับหวนเฉ่าโหยวด้วย

ทว่ายามนี้ ชั่วขณะที่ตะลึง นางพลันตระหนักว่าก่อนหน้านี้… ตัวนางดูจะถือซูอี้เป็นคนรุ่นหลังเสมอ

แม้ว่าเหวินซินจ้าวจะแสดงความชื่นชมต่อซูอี้มากกว่าหนึ่งครั้ง นางก็ยังเคลือบแคลงอยู่เสมอ

ไม่ต้องสงสัยเลย สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาของนางพิสูจน์แล้วว่าตัวนางคิดผิด!

“คนผู้นี้ร้ายกาจยิ่งกว่าตอนที่เขาอยู่ในทะเลวิญญาณโกลาหลชัด ๆ…”

เก๋อเฉียนกลืนน้ำลายดังเอื๊อก

ในขณะเดียวกัน

เหล่าคนใหญ่คนโตบนแท่นหยกก็ไม่อาจนิ่งเฉยเช่นกัน พวกเขาแตกฮือ หันมองหน้ากัน และต่างเห็นความแปลกใจในสีหน้าของคนรอบ ๆ ตัว

แต่เดิม คนมากมายเตรียมใจรอดูเรื่องสนุก

ไม่ได้คาดไว้ว่าฝีมือของซูอี้จะลบล้างความคิดของพวกเขาโดยสิ้นเชิง ทำให้พลันตระหนักว่าก่อนหน้าตนเองดูแคลนซูอี้มากเกินไป…

ความรู้สึกเช่นนี้ราวถูกตบหน้า ทำให้คนใหญ่คนโตเหล่านี้รู้สึกทั้งเศร้าและย่ำแย่

เมื่อจักรพรรดิเซี่ยรับชมฉากนี้ เขาพลันนึกยินดีในใจขึ้นมา! หากพวกเจ้าเฒ่าเหล่านี้รู้ว่าเมื่อสองสามวันก่อน หวนเฉ่าโหยวเกือบถูกซูอี้ที่ควบคุมค่ายกลจิ๋วติ่งพิทักษ์แดนสังหารไป พวกเขาจะรู้สึกเช่นไรหนอ?

บนสนามต่อสู้

สีหน้าของหวนเฉ่าโหยวเปลี่ยนไปชั่วขณะ

จันทร์โลหิตแห่งรัตติกาลมารสังหารคือหนึ่งในท่าไม้ตายของเขา มันอาจไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่เพียงพอจะทำให้ผู้ฝึกตนในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณบาดเจ็บสาหัส หรือถูกสังหารได้

ทว่าซูอี้กลับสามารถทำลายท่าสังหารนี้ได้เพียงดีดนิ้ว

ดังนั้นหวนเฉ่าโหยวจะไม่รู้สึกตกใจได้เช่นไร?

เขาไม่กล้าคิดต่อแล้ว

ซูอี้เพียงเดินทอดน่องเข้ามาใกล้ ทว่าตัวเขากลับถูกพลังปราณของอีกฝ่ายพันธนาการไว้เสียแน่นหนา!

นี่ยังสื่อได้ด้วยว่าแม้เขาจะหลบ ก็คงไม่สามารถรับมือกับการโจมตีถัดไปของซูอี้ได้อยู่ดี!

หวนเฉ่าโหยวสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าซูอี้ถือไพ่เหนือกว่านับแต่ยามที่อีกฝ่ายก้าวเข้ามาใกล้เมื่อครู่

เมื่อซูอี้ลงมือ มันหมายความว่าพลกำลังที่สั่งสมจะถูกปลดปล่อยเยี่ยงแผ่นดินเคลื่อนและคลื่นถาโถม!

พลังเช่นนั้นย่อมเกินคาดเดา

ดังนั้นหวนเฉ่าโหยวจึงไม่กล้ารอช้า

เขาต้องหยุดซูอี้ และเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้ในคราเดียว!

ตู้ม!

ร่างของหวนเฉ่าโหยวพลันพุ่งโจมตีซูอี้ราวลูกธนูที่ถูกปล่อยจากคันศร

ก่อนจะทันได้เข้าใกล้ ฝ่ามือกลายเป็นเกร็งดั่งมีด ตัดผ่านนภาเข้าใส่!

มีดสีเลือดยาวเจ็ดฉื่อก่อตัวขึ้น มีลวดลายอาคมแปลก ๆ จารึกไว้แน่นขนัดทั่วใบมีดโค้งสีเลือด

เมื่อปราณมีดยาวเจ็ดฉื่อปรากฏขึ้นกะทันหัน บรรยากาศน่ากลัวกดดันแห่งการทำลายล้างก็แผ่ออกมา

เวิงจิ่วซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามต่อสู้นักตื่นตกใจกลัว

ผู้ฝึกตนในชุมนุมมวลพฤกษารู้สึกเจ็บจี๊ดที่นัยน์ตา ท่ามกลางภวังค์ พวกเขาเหมือนจะเห็นทะเลปราณมีดสีเลือดทะลักโปรยปรายราวกับน้ำตก

การไหลบ่านี้สะท้านนภาสะเทือนแดนดิน

มีดธารโลหิตอสนีบาตทมิฬ!

นี่ก็เป็นท่าไม้ตายของหวนเฉ่าโหยวเช่นกัน และอำนาจของมันก็แข็งแกร่งกว่าจันทร์โลหิตแห่งรัตติกาลมารสังหารมากนัก

หลังจากฟาดฟันมีด หวนเฉ่าโหยวก็ไม่ทำอันใด แขนเสื้อของเขาพองตัว และจู่ ๆ เขาก็สะบัดหลาวสีเพลิงเล่มหนึ่งลอยขึ้นไปบนอากาศ ส่งเสียงหวีดหวิวเสียดแก้วหู

หลาวสังหารปีศาจ!

สมบัติลับโบราณแห่งจิตวิญญาณวิถีมาร สร้างขึ้นเพื่อสังหารวิญญาณโดยเฉพาะ มันพิสดารและน่ากลัวเกรง ยากจะต้านรับ

“ไป!”

หวนเฉ่าโหยวตะโกน

ฉัวะ!

หลาวสังหารปีศาจพุ่งหายไปในอากาศธาตุ

ไม่ว่าใครก็เห็นได้ว่าหวนเฉ่าโหยวเริ่มเผยไพ่ตายโดยไม่ปิดบัง!

ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชาสะท้านโลกาเช่นมีดธารโลหิตอสนีบาตทมิฬ หรือสมบัติวิเศษอันไร้ปรานีเช่นหลาวสังหารปีศาจ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต่างอันตรายถึงตายสำหรับผู้ฝึกตนในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณขั้นต้น!

เมื่อพวกเขาได้เห็นภาพนี้ เหล่าคนใหญ่คนโตบนแท่นหยกก็พากันสะท้านเฮือกอย่างอดไม่ได้ ร่างหนาวเยือกเล็กน้อย

“กลจิ๊บจ๊อย”

ดวงตาของซูอี้เต็มไปด้วยความดูแคลน

เขายื่นมือขวาออกควักบางอย่างในความว่างเปล่า ราวกับกำลังหยิบของออกจากกระเป๋าอย่างตามอำเภอใจ

เรื่องไม่น่าเชื่อคือ มีดธารโลหิตอสนีบาตทมิฬยาวเจ็ดฉื่อซึ่งแผ่บรรยากาศทำลายล้างน่าหวาดกลัวถูกซูอี้ใช้มือขวาคว้าไว้ราวกับจับอสรพิษตัวยาว

วู้ม!

มีดธารโลหิตอสนีบาตทมิฬเจ็ดฉื่อดิ้นรนรุนแรง กระแสอสนีบาตแล่นเปรี้ยงน่ากลัว ทว่ากลับไม่อาจทำร้ายซูอี้ได้แม้ปลายก้อย!

ในทางกลับกัน ซูอี้เพิ่มแรงที่มือของเขา

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

ปราณมีดเจ็ดฉื่อซึ่งเพียงพอจะเป็นอันตรายถึงตายสำหรับผู้ฝึกตนในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณขั้นต้นพลันระเบิดแหลกสลายคามือของซูอี้ ลำแสงสีเลือดโปรยปรายดั่งน้ำตก ดูราวทรายเม็ดเล็กละเอียดทะลักไหลผ่านง่ามนิ้วมือ

แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง…

เคร้ง!

ดาบเล็กสีเขียวครามพุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของซูอี้ แหวกผ่านอากาศ

เคร้ง!!!

เสียงระเบิดดังลั่นอุบัติขึ้น

ภายใต้สายตาไม่เชื่อของผู้คน อากาศสั่นไหวรุนแรง หลาวสังหารปีศาจปรากฏขึ้นตรงหน้าซูอี้ ห่างไปเพียงหนึ่งฉื่อเท่านั้น!

และขณะนี้ มันก็กำลังถูกดาบเล่มน้อยสีเขียวครามฟันใส่อย่างแรง!

ท่ามกลางแสงสีพร่างพราว หลาวสังหารปีศาจส่งเสียงครวญน่ากลัว ก่อนจะถูกฟาดฟันกระเด็นไป เกิดรอยฟันขึ้นบนพื้นผิวสมบัติชิ้นนี้

ในพริบตา ท่าไม้ตายทั้งสองของหวนเฉ่าโหยวต่างถูกทำลายดุจหักไม้ไผ่!!

ผู้คนฮือฮา เสียงอุทานอย่างตกใจดังกระหน่ำดั่งหม้อระเบิด

สีหน้าของหวนเฉ่าโหยวเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง แววตาฉายชัดถึงความไม่เชื่อ

คนผู้นี้… แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน!?

“ตาข้าแล้ว”

ด้วยเสียงแผ่วเบา ในที่สุดซูอี้ก็ลงมือ

ตู้ม!

ภาวะดาบทะยานพุ่งจากร่างสูงผอมเพรียวของเขาดั่งผืนฟ้าลวง เกิดภาพคลื่นน้ำลวงตาจากปราณดาบไร้สีกระเพื่อมอยู่รอบร่าง ส่งเสียงครวญดาบระเบิดออกเป็นช่วง ๆ

ในพริบตา บรรยากาศเฉยเมยของซูอี้ก็ถูกสลับด้วยอำนาจอันคมกริบไร้ที่เปรียบ ดวงตาของเขาเปิดปิดด้วยความดูแคลน

เขาดูเที่ยงตรงราวเซียนดาบท่องนภา สำแดงฤทธาสู่โลกหล้า!

“เป็นภาวะดาบที่น่ากลัวนัก!”

นักดาบในงานชุมนุมมวลพฤกษาเช่น อวี่เหวินซู่ หลี่หานเติง เหวินซินจ้าว และเยว่ซือฉานต่างตกตะลึง

ในสายตาผู้อื่น ยามนี้ซูอี้เปลี่ยนไปราวคนละคน ท่วงท่าของเขาดั่งเซียนดาบลงมาจุติ!

“นี่มัน…”

ไม่รู้ว่าคนมากมายเพียงไรที่ตกตะลึง ม่านตาของพวกเขาหดตัว

หวนเฉ่าโหยวผู้เผชิญหน้ากับซูอี้ตรง ๆ เริ่มหายใจลำบาก ม่านตาหดตัวดั่งเข็ม นี่หรือคือพลังที่แท้จริงของชายผู้นี้!?

โดยไม่ให้โอกาสครุ่นคิด ซูอี้ชี้นิ้วที่ตรงดั่งดาบวาดไปบนอากาศ

เคร้ง!

อำนาจที่สั่งสมไว้นานของเขาเปลี่ยนเป็นปราณดาบสามฉื่อ สีโปร่งใส ไร้รูปไร้ลักษณ์ จังหวะวิถีเร้นลับรวมตัวกันในนั้น

มันเรียบง่ายยิ่ง ดุจดั่งการก้าวย่างเดินตรง

นี่คือดาบที่สุดแสนจะเรียบง่าย

เรียบง่ายไร้กลใด

ทว่าภาวะดาบที่สั่งสมในนั้นอยู่ในระดับอันน่าเหลือเชื่อ

เปลือกตาของหวนเฉ่าโหยวกระตุกอย่างบ้าคลั่ง ผิวเสียวแปลบ หัวใจสั่นเทา สัมผัสอันตรายยิ่งยวดทำให้เขาไม่อาจทนไหว

“เปิด!”

หวนเฉ่าโหยวคำรามด้วยแววตาบ้าคลั่งดุร้าย

เคร้ง!

ง้าวสั้นสีชาดเล่มหนึ่งปรากฏบนมือ ฟาดฟันอย่างกราดเกรี้ยว

ง้าวศพโลหิตเพลิงทะยาน!

นี่คือสมบัติปีศาจซึ่งหวนเฉ่าโหยวภูมิใจที่สุด ราชันย์มารเทียนอวี้ บรรพชนของเขาสร้างมันขึ้นมาเองเพื่อทายาทสายตรงผู้สืบสายเลือดราชันย์มาร

สมบัติปีศาจชิ้นนี้เพียงพอจะทำให้ ‘สายเลือดที่แท้จริงของอสูรสวรรค์’ ทวีคูณอำนาจได้!

แต่เดิม หวนเฉ่าโหยวตั้งใจจะใช้สมบัติปีศาจนี้เป็นไพ่ตายเมื่อต้องประชันกับบุคคลอันดับหนึ่งในชุมนุมมวลพฤกษา

ทว่ายามนี้ เขาไม่ใส่ใจเรื่องนั้นอีกต่อไป!

ตู้ม!

ง้าวสั้นกวาดผ่านนภา พลังมารสีเลือดสยายผ่านเวหา อำนาจทำลายล้างที่ระเบิดออกมาปกคลุมสนามประลองจนดูเหมือนทะเลเพลิงมารคลั่ง

เห็นได้ชัดเจนว่าภายใต้การโจมตีนี้ ภาพหลอนปีศาจได้ปรากฏขึ้นมากมายบนฟ้า ตนแล้วตนเล่าราวกับก้าวออกมาจากแดนปีศาจโบราณ พลังอันแข็งแกร่งและความน่ากลัวของพวกเขาไร้ประมาณ

อย่าว่าแต่ปีศาจโบราณและเหล่าอัจฉริยะแห่งโลกเหล่านั้นเลย กระทั่งเหล่าคนใหญ่คนโตบนแท่นหยกยังตกใจสุดขีดกับภาพที่เห็น ร่างของพวกเขาเกร็งแข็ง หนังศีรษะชาวาบ

ไม่มีผู้ใดจินตนาการได้ว่าหวนเฉ่าโหยวผู้ต่อสู้ยิบตาจะมีอำนาจน่ากลัวเกรงเยี่ยงนี้!

ทว่า…

ครู่ต่อมา ภาพอันน่าเหลือเชื่อก็ปรากฏสู่สายตาทุกผู้ทุกคน

หลังจากการปรากฏปราณดาบสามฉื่อของซูอี้ เพลิงมารสีเลือดต่างสลายหายไปหมดสิ้น

ภาพหลอนมากมายของเหล่าปีศาจที่เหมือนเดินออกมาจากแดนปีศาจโบราณต่างถูกปราณดาบสามฉื่อกวาดล้างหายไปราวกระดาษก่อนทันได้สำแดงฤทธิ์!

สนามต่อสู้ซึ่งแต่เดิมดูราวอเวจีสีชาดพลันถูกแทนที่ด้วยปราณดาบไร้สีอันไร้เทียมทาน

เคร้ง!!!

เมื่อปราณดาบสามฉื่อกวาดลง ง้าวศพโลหิตเพลิงทะยานที่หวนเฉ่าโหยวแสนภาคภูมิพลันกระเด็นออกไปพร้อมเสียงกรีดร้องสะเทือนเมฆา

หวนเฉ่าโหยวตกใจเสียจนเซถอยหลัง

ถอยไปเก้าครั้งเก้าครา

ทุกย่างก้าวซวนเซ พื้นของสนามประลองสั่นไหวรุนแรง สีหน้าของหวนเฉ่าโหยวซีดลงทุกขณะ

เมื่อก้าวครั้งที่เก้า ทายาทแห่งตระกูลปีศาจหวน ตัวตนร้ายกาจโบราณผู้เลื่องชื่อด้านความโหดร้ายบ้าคลั่งก็มีสีหน้าซีดจนแทบโปร่งใส อกของเขากระเพื่อมขึ้นลงราวต้องการสูบลมเข้าไป

ท้ายที่สุด เขาก็พลันกระอักเลือดคำโตออกมา

โลหิตอาบย้อมทั่วอาภรณ์สีหยกที่สวมใส่!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *