กาลหนึ่งเคยมีเขากระบี่วิญญาณ 7 พวกวิปริตตายไปให้หมด!

Now you are reading กาลหนึ่งเคยมีเขากระบี่วิญญาณ Chapter 7 พวกวิปริตตายไปให้หมด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 7 พวกวิปริตตายไปให้หมด!

 

พ่อบ้านและผู้คุ้มกันช่วยกันแบกหญิงสาวเข้าไปข้างใน โดยตั้งใจจะพาไปชำระร่างกายในห้องอาบน้ำ แต่แล้วพวกเขาก็ได้ยินน้ำเสียงหมดความอดทนของอาจารย์เซียนระเบิดก้องหู

“พอที จะมากพิธีอะไรนักหนา พาตัวผู้หญิงคนนั้นเขามาได้แล้ว ระยำจริง! เรื่องง่ายๆ แค่นี้ก็ทำไม่ได้ เลี้ยงเสียข้าวสุกแท้ๆ!”

ก่อนที่เสียงของเขาจะเงียบไป กลุ่มหมอกใสก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศและตกลงมาบนร่างของหญิงสาว กวาดเอากลิ่นสุราเหม็นคลุ้งออกไปและแทนที่ด้วยกลิ่นน้ำหอม

ผู้คุ้มกันทั้งสองตัวสั่นเทิ้ม นี่มันอาคมของโลกเซียนชัดๆ! พวกเขาเพิ่งได้ประจักษ์อาคมของโลกเซียนด้วยสายตาตัวเอง! แม้จะเป็นอาคมง่ายๆ ที่เพียงปัดเป่ากลิ่นสุราออกไป… แต่ในเมื่ออาจารย์เซียนเรียกกลุ่มหมอกใสมาได้ เขาย่อมเรียกสายฟ้าจากในอากาศ รวมถึงลูกไฟได้ด้วยเช่นกัน… ช่างวิเศษจริงๆ

หลังจากได้ยินเสียงเร่งเร้าของอาจารย์เซียน พ่อบ้านก็รีบตอบกลับ “ท่านอาจารย์เซียน ประสบการณ์ของแม่นางคนนี้ดูท่าว่า…”

“หืม เรื่องราวในชีวิตนางจะสลักสำคัญอะไร พานางเข้ามาเร็ว!”

คนทั้งสามรีบอุ้มหญิงสาวเข้าไปในอาคารหลัก และพบว่าผู้บำเพ็ญเซียนผู้นี้มีท่าทีไม่พอใจ เขาปลดกระดุมเสื้อพลางนั่งลงบนเตียงด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร

เบื้องหลังของผู้บำเพ็ญเซียนมีหญิงสาวสองคนนอนอยู่ ร่องรอยของเลือดยังเห็นได้ตามส่วนลับอีกทั้งน้ำตาก็ยังกลบดวงตา พวกนางทั้งคู่สิ้นสติไปแล้ว

“ระยำเอ๊ย! ทำไมนางต้องมาเดินพลังลมปราณของตัวเองตอนนี้ด้วย…แล้วใครจะช่วยเพิ่มพลังปราณให้กับข้า หญิงปุถุชนจะทนทานต่อตะบองทองคำของข้าได้อย่างไร”

ดูเหมือนว่านี่เป็นวิธีบำเพ็ญเซียนของคนทั้งคู่ หากว่าเริ่มแล้วก็จะต้องทำต่อเนื่องกันทุกวันไม่มีวันพัก และตอนนี้ตบะขั้นฝึกปราณของทูตระดับสี่ดาวก็ทะยานถึงช่วงสำคัญของการบำเพ็ญเซียน ดังนั้นนางจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรวบรวมพลังอิทธิฤทธิ์เตรียมพร้อมสู่ตบะขั้นต่อไป ทว่าผู้อาวุโสระดับหกดาวกลับต้องขัดสนเพราะไม่มีบุคคลช่วยในการบำเพ็ญเซียนคู่ แต่การบำเพ็ญเซียนคู่ของเขาก็ยังต้องดำเนินต่อไป ดังนั้นเขาจึงต้องใช้หญิงสาวปุถุชนหลายคนเพื่อชดเชยไปก่อน โชคร้ายที่หญิงสาวธรรมดามิอาจทานทนการร่วมสังวาสที่รุนแรงเป็นเวลานานได้ แก่นในกายพวกนางถูกสูบจนแห้งเหือด แต่ก็ยังมิอาจเติมเต็มช่องว่างตามร่องฟันของผู้บำเพ็ญเซียนเฒ่าด้วยซ้ำ

ผู้บำเพ็ญเซียนเฒ่ารู้สึกสิ้นหวัง เขาปรารถนาจะออกไปฉุดหญิงสาวจากครอบครัวที่น่านับถือในอำเภอนี้กลับมา ทว่าคุณภาพของหญิงสาวในอำเภอนี้ก็ต่ำเสียจนเขาอาจต้องใช้หญิงสาวเป็นร้อยๆ คนเพื่อดับไฟที่ผลาญอยู่ในวิหารหยกของเขา และอาจดับได้เพียงชั่วเวลาไม่นานเท่านั้น… ทว่าหากเขาทำเช่นนี้จริงๆ แม้ว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างเขากับผู้พิพากษาอำเภอจะดีเพียงไร แต่ก็ไม่มีทางรอดตัวจากการกระทำนี้แน่ และหากเขาทำให้จังหวัดตงเต้าต้องโกรธแค้น สำนักเจ็ดดาราจะย่อมต้องเผชิญปัญหาใหญ่แน่นอน

แต่แล้วในช่วงเวลาคับขันนี้ สวรรค์ก็ลืมตาและมอบโอกาสดีงามให้กับเขา หญิงสาวผู้งดงามชวนตะลึงได้ตกจากฟ้าลงมาสู่ตักของเขาจริงๆ!

แน่ล่ะว่าหากเขาซื่อตรงกับตัวเอง หญิงสาวผู้นี้นับว่าห่างจากคำว่าชวนตะลึงอยู่โข แต่หน้าตาของนางก็ดีไม่หยอก อีกทั้งยังมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ ทั้งสองสิ่งนี้ยากที่จะมีพร้อมในคนคนเดียว แม้จะหาถึงร้อยคนไม่ได้ แต่เพียงเท่านี้ก็อาจช่วยปรนเปรอความต้องการในวันนี้ของเขา ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เร่งด่วนได้ ผู้ฝึกเซียนเฒ่ารู้สึกได้ว่าหากเขาไม่สามารถเติมเต็มความต้องการได้ภายในหนึ่งชั่วยาม ลมปราณของเขาอาจแตกซ่านได้!

ดังนั้นในเวลานี้ ต่อให้หญิงสาวมีพื้นเพย่ำแย่แค่ไหนเขาก็ไม่สน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่พื้นเพคลุมเครือเลย เขาสนเพียงได้ร่วมสังวาสเท่านั้น! อีกทั้งเขายังวางค่ายกลที่แน่นหนาเอาไว้ในอาคารนี้แล้ว ยังจะมีอะไรต้องกลัวอีกเล่า

แต่สำหรับบางคน น่าแปลกที่ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นเหลือเกิน กระทั่งขั้นตอนต่างๆ ก็ถูกข้ามไปตั้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำ แต่งตัวและอื่นๆ ซึ่งเขาอาจใช้เวลาเหล่านั้นคิดแผนต่อไปได้ ทว่าตอนนี้เขากลับถูกหามมาจากหน้าประตูจนถึงอาคารหลักโดยไม่มีอุปสรรคแม้แต่น้อย! เอาเข้าจริงเขายังไม่ทันเตรียมใจเลยด้วยซ้ำ!

ระยำเถอะ! นี่ล้อกันเล่นหรืออย่างไร ยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจหรือคิดแผนการอะไรสักอย่าง แล้วนี่เขาจะต้องไปเผชิญหน้ากับเจ้าปีศาจแล้วหรือนี่

การต้องรับมือกับผู้บำเพ็ญเซียนขั้นสร้างฐานถือว่าท้าทายอย่างยิ่งยวดสำหรับหวังลู่ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีแผนการรองรับไว้ และยิ่งเมื่อเขาอยู่ในที่ของศัตรู ซึ่งย่อมต้องมีกลไกมากมาย ก่อนหน้านี้จากคำบอกเล่าของเหวินเป่า หวังลู่แน่ใจว่าที่นี่ต้องมีการวางค่ายกลอย่างน้อยสามชั้นแน่

จากตำราที่อธิบายวิธีวางค่ายกลทั่วไป ค่ายกลสามชั้นในจวนรับรองนี้เชื่อมต่อกับจิตดั้งเดิมในวิหารหยกของผู้บำเพ็ญเซียน หมายความว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงแค่เพียงเล็กน้อย ชายแก่ผู้นี้ย่อมต้องรู้สึกได้อย่างแน่นอน อีกทั้งผู้บำเพ็ญเซียนเฒ่าอาจจะร่ายอาคมไว้ทุกมุมของจวนก็เป็นได้ ไม่มีมุมใดหลงเหลือให้แอบซ่อนได้เลย

สิ่งนี้จัดได้ว่าเป็นทักษะพื้นฐานเพื่อควบคุมอาณาเขตของตัวเอง ไม่ใช่สิ่งแปลกประหลาดหรือมีพลังอันใด เป็นเพียงแค่การสำแดงทักษะเบื้องต้นของผู้ฝึกเซียนเท่านั้น ก่อนหน้านี้ตอนที่เหวินเป่าเล่าประสบการณ์ของเขาให้ฟัง หวังลู่ก็รู้สึกได้ว่าชายผู้นี้รับมือไม่ง่าย ทุกวันนี้ผู้บำเพ็ญเซียนจากสำนักสวะมักมีพื้นฐานไม่แน่นนัก ทุกคนมุ่งเน้นไปที่ขั้นตบะ เร่งรีบก้าวไปข้างหน้าในเส้นทางบำเพ็ญเซียนโดยที่ไม่ใส่ใจสิ่งอื่น ซึ่งทำให้การบำเพ็ญเซียนของพวกเขากลวงโล่ง ดังนั้นจึงมักพ่ายแพ้ให้กับผู้บำเพ็ญเซียนจากสำนักชั้นนำ รวมทั้งเกรงกลัวคนพวกนั้นจนหัวหด

ก่อนหน้านี้ จากประสบการณ์การฆ่าทูตระดับสี่ดาวถึงสองคนโดยไม่ต้องลงแรงมากนัก หวังลู่จึงไม่ได้ใส่ใจผู้อาวุโสระดับหกดาวคนนี้สักเท่าไหร่ ทว่าดูท่าแล้วสุนัขตัณหากลับผู้ชื่นชอบการเสพสังวาสคนนี้มีพื้นฐานแน่นไม่เบา ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะรับมือ… ดังนั้นเขาจึงยืนกรานที่จะใช้วิธีลอบจู่โจม

ทว่าตอนนี้นั้นยากที่จะบอกได้ว่าเขาโชคดีหรือว่าโชคร้าย มองในแง่ดี ขณะนี้ในหัวของฝ่ายตรงข้ามเต็มไปด้วยตัณหาซึ่งอาจทำให้ความสามารถของเขาลดลงได้หกถึงเจ็ดส่วน แต่หากมองในแง่ร้าย… หวังลู่เองก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย

ทว่าสุดท้ายแล้ว ลูกเลี้ยงหน้าตาน่าชังก็ย่อมต้องเผชิญหน้าผู้เป็นบิดาและมารดาเลี้ยงของตนอยู่ดี “เอาเถอะ หน้าสิ่วหน้าขวานขนาดนี้ เป็นอย่างไรก็เป็นกัน!”

——

คนสองสามคนแบกหวังลู่มาจนถึงอาคารหลัก หลังจากที่พ่อบ้านสั่งให้พวกที่เหลือวางหวังลู่ลงบนพื้น เขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม อยากจะประจบประแจงอาจารย์เทพเซียนเฒ่าด้วยการเอ่ยชมเรื่องอาคมเต็มแก่ แต่ผลที่ได้รับคือเขาถูกชายแก่ดวงตาแดงก่ำตบหน้าเข้าเต็มแรง แล้วสั่งให้ไสหัวออกจากห้องไป ผู้คุ้มกันอีกสองคนตื่นตระหนกแล้วรีบถอยฉากออกไปจากห้องจากนั้นก็ปิดประตูลงทันที

พอพ้นประตูทั้งสองก็ถอนหายใจ รู้สึกสงสารหญิงขี้เมารักคุดไม่น้อย… นางจะยังมีชีวิตอยู่ถึงพรุ่งนี้เช้าหรือไม่นะ ก่อนหน้านี้ แม้ว่าหญิงสาวหลายคนที่ถูกส่งมาให้อาจารย์เซียนจะไม่ได้ถูกฆ่าตายที่นี่ แต่หลังจากนั้นเมื่อหมอตรวจดูอาการของพวกนาง ก็กล่าวว่าพวกนางเจ็บปวดแสนสาหัสและต้องพักฟื้นนานสามถึงห้าเดือนเลยทีเดียว และนั่นเป็นกรณีที่อาจารย์เซียนยังควบคุมตัวเองได้ แต่เวลานี้ตาแก่นี่ใกล้เป็นบ้าอยู่รอมร่อ ไม่แน่ว่า…

ขณะเดียวกัน ภายในห้อง ชายแก่ก็มิอาจทนต่อ ‘ความโหยหาและหิวกระหาย’ ได้อีกต่อไป เมื่อได้เห็นหญิงขี้เมากองอยู่บนพื้น โดยเฉพาะหน้าอกอวบอิ่มที่เผยออกมาบางส่วน เขาก็ไม่สามารถควบคุมเพลิงปรารถนาที่แผดเผาอยู่ในวิหารหยกของตัวเองได้ จึงเอื้อมมือไปถอดชุดของนางออกพร้อมรอยยิ้มสัปดน

แม่สาวน้อยเอ๋ย ข้ามาแล้ว!

ทว่าหญิงสาวกลับลุกขึ้นมาอย่างไม่คาดฝัน เปลื้องกระโปรงหรูหราตัวยาวออกแล้วเหวี่ยงมันขึ้นไปในอากาศบดบังการมองเห็นของชายแก่เสียสิ้น

การกระทำที่หุนหันนี้ทำเอาชายชราตกใจแทบสิ้นสติ เขาไม่คาดคิดสักนิดว่าหญิงสาวลึกลับที่เขามองว่าเป็นดังหยาดน้ำฟ้าที่ประพรมลงมาบนหน้าแท้จริงแล้วก็คือนักฆ่า!

ตอนที่นางถูกพาเข้ามาในลานบ้าน เขาได้สำรวจนางแล้วในขั้นต้นและพบว่านางไม่มีตบะเซียนอยู่ในร่าง จึงยืนกรานหนักแน่นให้พานางเข้ามา ไม่น่าเชื่อเลยว่า พวกเขาจะปล่อยให้ผู้บำเพ็ญเซียนขั้นฝึกปราณจากสำนักใหญ่ที่มีทักษะแน่นอย่างคาดไม่ถึงเข้ามาได้! แม้ขั้นเซียนของคนผู้นี้ไม่สูงนัก แต่หากมีความสามารถในการซ่อนตบะเซียนแล้วล่ะก็ นั่นก็แปลว่าคนผู้นี้ย่อมเป็นอัจฉริยะอย่างไม่ต้องสงสัย! เพราะความเลินเล่อชั่วขณะของเขา จึงถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้!

ทว่าชายแก่ผู้นี้ก็คู่ควรกับการเป็นผู้อาวุโสระดับหกดาว เพราะขณะกำลังตื่นตะลึงอยู่นั้น เขาก็สามารถโต้กลับได้

ชายแก่ดึงเอาพลังอิทธิฤทธิ์จากวิหารหยกมายังส่วนบนของร่างกาย ทั้งตัวของเขาผ่อนคลายลง จากนั้นร่างกายส่วนบนก็พองขึ้น ผิวก็ดูคล้ายจะค่อยๆ เงาขึ้น และในที่สุดร่างกายส่วนบนของเขาก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้าเสียอีก!

หนำซ้ำ…

“แข็ง! สั่น! แกร่ง!”

เขาโพล่งสามคำนี้ออกมาแทบจะในเวลาเดียวกัน และอาคมก็พุ่งเป้าไปที่นักฆ่าซึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้กระโปรงยาวได้เหมาะเจาะอย่างน่าทึ่ง

เมื่อเผชิญหน้ากับนักฆ่า ปฏิกิริยาตอบสนองของคนส่วนใหญ่คือหลบหรือไม่ก็ตั้งรับ ทว่าเมื่ออิงตามสถิติของผู้เชี่ยวชาญแล้ว การตอบสนองที่ดีที่สุดคือการโต้กลับในชั่วขณะที่วิกฤตนั่นเอง ขณะที่นักฆ่าจะลอบสังหารเป้าหมาย การตั้งรับของพวกเขาจะตกลง และไม่ว่าจะพยายามกลับมาตั้งรับเพียงไรก็ไม่มีเวลาเตรียมตัวมากพอ ทว่ากลับกันหากคนผู้นั้นเสี่ยงที่จะโต้กลับ ก็อาจจะรอดออกมาแบบยังมีลมหายใจก็ได้ อาจจะฟังดูบ้าบอ แต่ก็เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ นี่คือองค์ความรู้แสนมีค่าที่ผู้บำเพ็ญเซียนเฒ่าเรียนรู้เมื่อครั้งอยู่ในสำนักระดับกลางของพันธมิตรหมื่นเซียนตอนที่ยังหนุ่มกว่านี้

ขั้นแรก เขาต้องตั้งรับและโต้กลับไปพร้อมกัน เขาต้องร่ายอาคมเพื่อขึงร่างนักฆ่าผู้นี้ และใช้ร่างกายที่น่ายำเกรงของตบะขั้นสร้างฐานปกป้องชีวิตเอาไว้ เขามั่นใจมากว่าหากคู่ต่อสู้ไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเขาหลายเท่า อย่างน้อยเขาย่อมรอดการจู่โจมครั้งแรก ยิ่งกว่านั้น หากนักฆ่าพลาดที่จะสังหารเป้าหมายภายในการจู่โจมครั้งแรก ก็เป็นการยากที่จะจะจู่โจมครั้งต่อไปสำเร็จ…

แน่นอนว่าขณะที่ผู้บำเพ็ญเซียนเฒ่ากำลังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ตรงหน้า กระโปรงตัวยาวก็ค่อยๆ ตกลงมาจากกลางอากาศ และนักฆ่าที่ซ่อนอยู่หลังกระโปรงก็ถูกอาคมสามครั้งซ้อนของเขาตรึงเอาไว้อย่างเหมาะเหม็ง การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายแข็งทื่อและเชื่องช้าลง

ทว่าเขาก็ยังมิอาจวางใจได้ เพราะแม้เขาจะสกัดการโจมตีครั้งแรกไปได้ กระบวนท่าสังหารของอีกฝ่ายก็ยังไม่ยุติ

จู่ๆ ผมที่ยาวราวกับน้ำตกของหญิงสาวก็แผ่กระจายหมายจะพุ่งมาพันตัวเขาเอาไว้!

นี่มันกลยุทธ์น่าขนลุกอะไรกัน!? ผู้บำเพ็ญเซียนเฒ่าอดประหลาดใจไม่ได้ ทว่าเขาก็รีบปลดปล่อยพลังอิทธิฤทธิ์และร่ายอาคมออกมาอย่างไม่ลังเล กลุ่มผมสีดำจึงมิอาจเข้ามาใกล้เขาได้อีกแม้แต่น้อย

ทว่าจิตใจของผู้บำเพ็ญเซียนเฒ่าเริ่มหวั่นไหว มีบางอย่างผิดปกติ เขาเอื้อมมือไปจับที่ลำคอของตนในทันที แล้วก็พบว่าบนลำคอมีไหมล่องหนอยู่

ระยำแท้! กลุ่มผมนั่นเป็นแค่ตัวล่อเท่านั้น! อาวุธที่แท้จริงก็คือสิ่งนี้ต่างหาก! แม้ไหมนี้จะไม่ทำให้ถึงตาย แต่หากมันพันคอเขาก็จะทำให้เขาร่ายอาคมได้ยากขึ้น และหากเป็นเช่นนั้นเขาต้องตกที่นั่งลำบากแน่!

โชคดีที่เขาบำเพ็ญตบะมาเกือบร้อยปีแล้ว ดังนั้นแม้ขั้นตบะของเขาจะยังไม่สูงนัก แต่เขาก็มีสัญชาตญาณที่เฉียบคม ซึ่งสามารถช่วยชีวิตตนในช่วงวิกฤตเช่นนี้ได้!

ในเมื่อเขาเจอไหมล่องหนนี่แล้ว แปลว่ามันไม่อาจทำงานจนลุล่วงได้ ชายแก่ใช้นิ้วหมุนไหมดังกล่าวแล้วดึงมันทิ้ง ตอนนี้ไพ่ไม้ตายของฝ่ายตรงข้ามถูกเปิดโปงเสียแล้ว ดังนั้นสิ่งเดียวที่นักฆ่าจะทำได้ก็คือดิ้นรนเอาตัวรอดจากอาคมทั้งสามของชายชรา

เมื่อรู้ว่าส่วนที่ยากที่สุดจบลงแล้ว ชายชราก็เบาใจลง แล้วค่อยๆ สืบเท้าเข้าไปใกล้นักฆ่าสาวผู้ฮึกเหิมอย่างช้าๆ!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ส่วนล่างของชายแก่ก็แข็งขืนขึ้นมาทันที!

ทว่าครั้งนี้กระโปรงตัวยาวลงมากองอยู่ที่พื้นแล้ว เผยให้เห็นเรือนร่างของนักฆ่าสาว ส่วนบนนั้นไม่ต้องเอ่ยถึงอีกให้มากความ แต่ภายใต้ชุดชั้นในของนักฆ่า เค้าโครงของสิ่งสิ่งหนึ่งที่อยู่ตรงหว่างขากลับปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด

มังกรที่กำลังผงาดของชายแก่คอพับคออ่อนไปในทันที “ข้าว่าแล้ว! นักฆ่าสาวสวยอะไรนั่นโกหกทั้งเพ!”

แต่จะว่าไป… จะด้นสดอีกสักหน่อยก็ไม่น่าเป็นอะไร อย่างไรเสียใบหน้านี่ก็งามดีไม่หยอก! ดังนั้นแม้ว่าส่วนล่างของเขาจะต้องรอเตรียมการอีกพักหนึ่ง แต่เพลิงปรารถนาในจิตใจกลับลุกโชนขึ้นแล้ว

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากเบื้องหลัง ทำเอาไฟราคะร่วงลงไปที่ตาตุ่ม

“พวกวิปริตตายไปให้หมด!”

พลังหมัดรุนแรงที่สามารถเจาะทะลวงสนามพลังซึ่งปกป้องร่างกายของเขา รวมทั้งเจาะทะลุกระจกดวงจิตมณีที่เจ็ด ซึ่งเป็นอุปกรณ์วิเศษขั้นสูงที่เขาใช้ป้องกันตัวเองเป็นด่านที่สองก็ฟาดลงมาที่หลังศีรษะของเขา พลังที่รุนแรงราวกับพายุที่โหมกระหน่ำในทะเลทำเอาสติของเขากระเจิง วิหารหยกสั่นสะท้าน

ภาพที่เห็นเบื้องหน้าดำมืด แล้วเขาก็สลบไป

………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด