นางสนมแพทย์อัจฉริยะบทที่ 1021 กริช,จู่โจมพร้อมกัน

Now you are reading นางสนมแพทย์อัจฉริยะ Chapter บทที่ 1021 กริชจู่โจมพร้อมกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 1021 กริช,จู่โจมพร้อมกัน

“แกรก” เสียงกริชหล่นดังขึ้น ชายชุดดำรู้สึกว่ามือที่ถือมีดของเขาชา จากนั้นมีเลือดอุ่นไหลออกมาจากบาดแผล ชายชุดดำไม่สนบาดแผลที่มือของเขา เขารีบออกคำสั่งกับพวกของเขาที่อยู่ด้านหลังทันที “จัดการ รีบจัดการเฟิ่งชิงเฉินเร็ว”

“ขอรับ”

“เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า คิดจะสังหารนางมันก็ต้องถามข้าก่อนว่าเห็นด้วยกับพวกเจ้าหรือไม่” โจ่วอันชักดาบออกมา เข้ามาขวางอยู่ด้านหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน และบอกให้โจ่วอันหลบไป

ทางออกถูกชายชุดดำขวางไว้หมดแล้ว เฟิ่งชิงเฉินทำได้เพียงถอยหลังเท่านั้น ถอยจนหลังติดกำแพง เพื่อยกเวทีการต่อสู้ให้แก่โจ่วอัน ขณะเดียวกัน สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างเฟิ่งชิงเฉินทั้งสองคนเองก็ถอยออกมาพร้อมกับเฟิ่งชิงเฉินด้วยเช่นกัน

เฟิ่งชิงเฉินจับจ้องการต่อสู้ของเหล่าชายชุดดำกับโจ่วอันอยู่ตลอด เวลานี้นางไม่ได้สังเกตว่าสาวใช้ที่อยู่ด้านซ้ายของนางแอบนำมือไปไว้ด้านหลัง……

โจ่วอันซึ่งเป็นนักฆ่าปรากฏตัว เขาเชี่ยวชาญในกระบวนการสังหารเป็นอย่างมาก หลังจากสู้กับเหล่าชายชุดดำเป็นระยะเวลาครึ่งก้านธูป โจ่วอันรู้สึกแปลกใจกับชายชุดดำเหล่านี้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า “พวกเจ้าไม่ใช่นักฆ่า เหตุใดจึงต้องแสร้งทำเป็นเหมือนนักฆ่าด้วย?”

เมื่อชายชุดดำได้ยินคำพูดดังกล่าว มือของพวกเขาแข็งทื่อ หันมองซึ่งกันและกันเพื่อถามความเห็น ในเมื่อตัวตนของพวกเขาถูกเปิดเผยแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีกต่อไป

ชายชุดดำเลิกเล่นว่าตนเองเป็นนักฆ่า และใช้วิธีการต่อสู้ที่ตนเองถนัด ด้วยเหตุนี้ทำให้โจ่วอันที่ต้องเผชิญหน้ากับชายชุดดำสิบกว่าคนต้องใช้แรงในการต่อสู้มากกว่าปกติ

แต่โชคดีที่โจ่วอันไม่จำเป็นต้องสังหารชายชุดดำพวกนี้ เขามีหน้าที่แค่ถ่วงเวลาเพื่อรอให้คนของเสด็จอาเก้ามาถึงก็เพียงพอ

ดูเหมือนว่าชายชุดดำก็รู้ถึงจุดนี้เช่นกัน หากสู้ต่อไป รอให้คนของเสด็จอาเก้ามาถึง พวกเขาไม่เพียงแค่ไม่สามารถสังหารเฟิ่งชิงเฉินได้ แต่พวกเขาเองก็ไม่สามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้ ดังนั้นเหล่าชายชุดดำจึงเปิดเผยตนเองอย่างเต็มที่ โจมตีเข้าใส่โจ่วอันอย่างรุนแรงโดยไม่คิดชีวิต

เผชิญหน้ากับการโจมตีอันรุนแรงของชายชุดดำเหล่านี้ โจ่วอันสะบัดข้อมือ กวัดแกว่งดาบเพื่อป้องกันการโจมตีของชายชุดดำเหล่านั้น เขาแอบรู้สึกไม่ดีใจหัวใจ และโกรธที่สวนฮวาหยวนใหญ่เกินไป เหตุใดเสด็จอาเก้าจึงยังไม่ได้รับข่าวและรีบส่งคนมาช่วย

เฟิ่งชิงเฉินเองก็รู้สึกร้อนใจเช่นกัน เมื่อเห็นว่าโจ่วอันรับมือกับอีกฝ่ายได้ยาก เฟิ่งชิงเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็นำกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะออกมาต่อหน้าทุกคนเพื่อเตรียมนำสิ่งของที่อยู่ด้านในออกมา แต่ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังยกแขนเสื้อของนางขึ้น สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังทางซ้ายของนางก็เริ่มเคลื่อนไหว

สาวใช้คนดังกล่าวนำมีดเล่มหนึ่งออกมาจากด้านหลัง ยกมีดขึ้นและแทงมายังเฟิ่งชิงเฉิน ขณะเดียวกัน สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านขวาของเฟิ่งชิงเฉินอย่างตื่นตระหนกก็นิ่งสงบลงในทันที นางวิ่งพุ่งเข้ามาทางเฟิ่งชิงเฉินอย่างรุนแรง

เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวผ่านหน้าของนางไป และรู้สึกได้ถึงความผิดปกติในทันใด ไม่กังวลที่จะหยิบมันขึ้นมา เฟิ่งชิงเฉินมองซ้ายมองขวา เมื่อพบว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน นางก็แอบสบถออกมา “บัดซบที่สุด!”

ไม่มีเวลาให้เฟิ่งชิงเฉินได้คิดอะไรมากมาย สาวใช้ผู้นั้นถือมีดพุ่งเข้ามาหานางแล้ว และอีกคนก็กำลังกระโจนเข้าหานาง เฟิ่งชิงเฉินรู้ดี หากตนเองล้มลงพื้น สิ่งที่รอนางอยู่ก็มีเพียงแค่ความตายเท่านั้น

ตามเหตุผล ด้วยทักษะส่วนตัวของเฟิ่งชิงเฉิน แน่นอนว่านางสามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีของสาวใช้ทั้งสองจากทางด้านซ้ายและขวาได้ แต่ด้วยภาระของเสื้อผ้าบนร่างกาย แม้มันจะดูดี แต่มันก็เป็นตัวถ่วงในเวลาเดียวกัน เฟิ่งชิงเฉินทำตามสัญชาตญาณ แต่การเคลื่อนไหวของนางช้าลงครึ่งก้าว และการเคลื่อนไหวของมือก็ไม่สะดวกเหมือนปกติ

แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะตอบโต้กลับไปได้รวดเร็วเพียงพอ แต่นางก็ทำได้เพียงเลี่ยงจุดตายเท่านั้น มีดยังคงแทงเข้าไปที่ไหล่ของนาง เลือดสีแดงสดสาดออกมา ทำให้ชุดสีทองอันสง่างามของนางเปิดไปด้วยเลือด ไม่มีเวลาให้เฟิ่งชิงเฉินได้คิด วินาทีถัดมานางก็ถูกสาวใช้อีกคนชนจนล้มลงพื้น

“ไปตายซะ!” สาวใช้ทั้งสองก้าวเข้ามาในเวลาเดียวกัน ทับร่างของเฟิ่งชิงเฉินไว้กับพื้น คนหนึ่งนำมีดที่ปักอยู่ตรงหัวไหล่ของเฟิ่งชิงเฉินออกมา อีกคนคว้าคอของเฟิ่งชิงเฉินไว้ พยายามบีบคอของเฟิ่งชิงเฉินให้สิ้นลมหายใจ

“เอือก” เฟิ่งชิงเฉินร้องออกมาด้วยความทรมาน แอบสาปแช่งตนเองในใจ เหตุใดถึงได้โชคร้ายถึงเพียงนี้ สาวใช้สองคนนี้เป็นใครกันแน่

“พวกเจ้าเป็นใคร?” แม้ว่าร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินจะแข็งแกร่ง แต่ด้วยเสื้อผ้าบนร่างกายที่มันซับซ้อนเกินไป นางไม่สามารถสลัดสาวใช้ทั้งสองออกไปได้ภายในระยะเวลาอันสั้น นางทำได้เพียงคลุกคลีอยู่กับพวกนางทั้งสองเท่านั้น

สาวใช้ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรมาก พวกนางเพียงต้องการชีวิตของเฟิ่งชิงเฉินเท่านั้น ภายใต้การขัดขืนและดิ้นรนของเฟิ่งชิงเฉิน ในที่สุดสาวใช้ที่บีบของคอเฟิ่งชิงเฉินอยู่นั้นก็ไม่สามารถทนอีกต่อไปได้ นางทำได้เพียงปล่อยมือ เพียงแต่มีดที่ปักอยู่ตรงหัวไหลของเฟิ่งชิงเฉินนั้นถูกสาวใช้อีกคนดึงออกไปแล้ว

“อ่า……” มีดถูกดึงออกมาพร้อมกับเลือด เลือดพุ่งเข้าหน้าของสาวใช้ เฟิ่งชิงเฉินร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” โจ่วอันหันกลับมาถามเฟิ่งชิงเฉินระหว่างการต่อสู้อันดุเดือด

อย่าไปโทษเขาที่ไม่ช่วย เวลานี้ทางเขาเองก็ลำบากเช่นกัน แค่เขาสามารถต้านการโจมตีและขวางเหล่าชายชุดดำเอาไว้ได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

“ข้ายังไม่ตาย” ในระหว่างการดิ้นรน เฟิ่งชิงเฉินฉวยโอกาสในช่วงเวลานั้นถอดเสื้อผ้าของนางออก ไม่มีเสื้อผ้าเข้ามาเป็นภาระ มือและเท้าของเฟิ่งชิงเฉินเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วมากขึ้น แม้ว่าสาวใช้ทั้งสองจะมาเพื่อสังหารเฟิ่งชิงเฉิน แต่พวกนางก็ไม่ได้ผ่านการฝึกที่เข้มข้นมาแต่อย่างใด เมื่อเทียบกับผู้หญิงทั่วไป พวกนางก็แข็งแกร่งกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่นานความได้เปรียบจึงตกมาอยู่ทางฝั่งของเฟิ่งชิงเฉิน

เฟิ่งชิงเฉินงอขาของนาง จากนั้นสะบัดขึ้นไปด้านบน หัวเขาของนางกระแทกเข้าไปยังร่างของอีกฝ่าย ท่านี้ปกติใช้รับมือกับผู้ชาย แต่มันก็สามารถใช้กับผู้หญิงได้เช่นกัน ขอแค่แรงที่ใช้นั้นมากเพียงพอ

“เอือก” สาวใช้ที่ถือมีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ความละอายและความโกรธฉายแววออกมาให้เห็นจากดวงตาของนางอย่างชัดเจน มองมายังเฟิ่งชิงเฉินด้วยความดุร้ายอย่างเห็นได้ชัด แต่เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้สนใจสายตาของนางเลยแม้แต่น้อย อีกฝ่ายมาเพื่อสังหาร ต่อให้มองมาที่นางด้วยสายตาสังหารก็ไม่มีประโยชน์

เฟิ่งชิงเฉินฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายกำลังบาดเจ็บ กระชากผมของอีกฝ่าย แต่ด้วยอาการบาดเจ็บตรงหัวไหล่ข้างซ้าย ทำให้นางไม่มีแรงมากพอที่จะเหวี่ยงอีกฝ่ายออกไป ทำได้เพียงลากมาข้าง ๆ เท่านั้น

ส่วนอีกมือหนึ่งของเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ นางพยายามจับมือที่ถือมีดของอีกฝ่าย คิดจะทำให้มีดของอีกฝ่ายหล่นลงพื้น ทั้งสองตะลุมบอนกัน กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้น

ดูเหมือนว่าการตะลุมบอนของทั้งสองจะส่งผลประโยชน์มาทางเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินไม่เพียงแค่ยับยั้งสาวใช้ที่ถือมีดไว้ชั่วคราวเท่านั้น แต่นางยังเตะสาวใช้อีกคนออกไปด้วย หลังจากกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่สองสามรอบ ในที่สุดเฟิ่งชิงเฉินก็พบโอกาส นางออกแรงกับขาทั้งสองข้าง หนีบคอสาวใช้อีกคนหนึ่งไว้

สาวใช้ผู้นี้เคยบีบคอของเฟิ่งชิงเฉินมาก่อน เวลานี้รอยนิ้วมือของนางยังคงติดอยู่ที่คอของเฟิ่งชิงเฉิน อีกฝ่ายเป็นผู้ที่มาเพื่อต้องการทำร้ายนาง แน่นอนว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่มีทางเกรงใจ เฟิ่งชิงเฉินออกแรงที่ขาทั้งสองข้างให้มากขึ้นพร้อมกับบิดขา เมื่อได้ยินเสียง แคก คอของสาวใช้ผู้นั้นก็หักลง แลบลิ้นออกมาอย่างไร้ซึ่งลมหายใจ

รวดเร็วและดุดัน ไม่ว่าจะงดงามเพียงใด เฟิ่งชิงเฉินก็ยังคงเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง เป็นผู้หญิงที่เหี้ยมโหด เผชิญหน้ากับศัตรูอย่างไร้ความปรานี หลังจากจัดการกับสาวใช้ผู้นี้ได้ เฟิ่งชิงเฉินก็มุ่งสมาธิไปที่สาวใช้อีกคนหนึ่ง เมื่อต่อสู้กันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง แน่นอนว่าอีกฝ่ายก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฟิ่งชิงเฉิน

ในความเป็นจริง หากเฟิ่งชิงเฉินระมัดระวังสาวใช้สองคนนี้ตั้งแต่แรก ทุกอย่างก็คงไม่ต้องรุนแรงถึงเพียงนี้

สาวใช้ทั้งสองไม่ได้มีความพิเศษแต่อย่างใด ไม่มีวี่แววว่าเป็นผู้มีวิชาเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ เฟิ่งชิงเฉินจึงไม่เคยคิดมาก่อนว่า สาวใช้สองคนนี้จะลงมือกับนาง

แต่จากความเห็นของนาง สาวใช้ทั้งสองน่าจะเพิ่งตัดสินใจลงมือ ไม่เช่นนั้นพวกนางคงไม่เปิดโอกาสให้นางได้โต้กลับ

หลังจากเฟิ่งชิงเฉินปล้ำอยู่กับสาวใช้ที่ถือมีดอยู่หลายยก ไม่นานนางก็สามารถนำมีดในมือของอีกฝ่ายมาเป็นของตนเองได้ ปราศจากซึ่งความลังเล เฟิ่งชิงเฉินยกมีดขึ้นแทงเข้าไปบนร่างของอีกฝ่าย หมุนมีดในมือ เมื่อเห็นว่ามีดไม่ได้แทงเข้าสู่หัวใจ สาวใช้ร้องออกมาพร้อมกับออกแรงอย่างเต็มที่ ไม่เพียงแต่สามารถผลักเฟิ่งชิงเฉินออกมาได้เท่านั้น แต่นางยังสามารถลุกขึ้นมาจากพื้นได้อีกด้วย

ในตอนที่ความตายกำลังมาถึง ผู้คนมักจะมีแรงฮึดเกิดขึ้นมาเสมอ สาวใช้ผู้นั้นรอดพ้นจากความตาย ร่างกายของนางเต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่ง หลังจากลุกขึ้นมาจากพื้น นางใช้แรงของนางยกเก้าอี้ขึ้นมาและขว้างไปทางของเฟิ่งชิงเฉิน……

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *