แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1006 มาทำให้ตกใจเล่นหรอ?

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1006 มาทำให้ตกใจเล่นหรอ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เดี๋ยวก่อน!”

เห็นเด็กสาวถอยเข้าไปในไอหมอกมืดทีละก้าวๆ สวี่ซูหานรีบตะโกนเรียก แต่เธอเพิ่งจะเดินออกไปได้ก้าวเดียว ก็ถูกหลิงม่อดึงข้อมือไว้ทันที ขณะเดียวกัน สวี่ซูหานรู้สึกว่าสายตาของเด็กสาวตวัดมาที่ตัวเอง…

“อา…”

ในเวลาสองวินาทีต่อมา สวี่ซูหานได้แต่ยิ่งนิ่งงันอยู่กับที่ เบิกตากว้างจ้องเด็กสาว จนกระทั่งเงาร่างของเธอหายไปจากครรลองสายตา ไม่นานเธอพลันทรุดนั่งลง พิงผนังด้านข้าง บนใบหน้าสะท้อนแววตื่นกลัวสุดขีด…

“เธอ…” สวี่ซูหานพยายามพูดอะไรบางอย่าง เธอหันไปมองหลิงม่อที่ดึงตัวเองไว้ สุดท้ายก็ได้แต่พูดออกมาแค่ตำสองคำ “ขอบคุณ…”

ถ้าหากไม่ได้หลิงม่อ เมื่อกี้เธอคง…

สวี่ซูหานไม่กล้าคิดอีก เธอรู้สึกได้อย่างรุนแรง…ที่เธอหวาดกลัวขนาดนี้ ไม่ได้เป็นเพราะอารมณ์หวาดกลัวที่หลงเหลืออยู่ในตัวเธอแน่นอน แต่เป็นเพราะตัวตนของเด็กสาวคนนั้น ที่ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวที่เกิดจาสัญชาตญาณ…แต่เธอสัมผัสถึงกลิ่นอายที่เกี่ยวกับเชื้อไวรัสจากร่างกายของเด็กสาวไม่ได้เลย…

ถ้าอย่างนั้นเธอคือมนุษย์งั้นหรอ?

ไม่…ไม่มีทางเป็นมนุษย์แน่…แต่ในเมื่อไม่ใช่มนุษย์ แล้วเธอเป็นอะไรล่ะ…

“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลิงม่อนวดขมับยืนตัวตรง พลางถามโดยไม่หันมามอง

“ไม่เป็นไร”

สวี่ซูหานและอวี่เหวินซวนตอบพร้อมกัน พอได้ยินเสียงเธอเลยเพิ่งฉุกคิดได้ว่าอวี่เหวินซวนถูกโจมตีจนตัวปลิวออกไป จึงรีบหันกลับไปดูทันที

ท่ามกลางความมืด อวี่เหวินซวนพยายามหยัดยืนขึ้น และเดินโซซัดโซเซมาทางพวกเขา เหมือนแค่หกล้มไปเท่านั้น ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากนัก แต่ถึงอย่างนั้น สวี่ซูหานก็ยังคงรู้สึกเย็นสะท้านไปทั้งตัวอยู่ดี

อวี่เหวินซวนถูกโจมตีจนตัวปลิวออกไปเป็นคนแรก ต่อมาก็หลิงม่อที่การโจมตีถูกขัดขวาง กระทั่งถูกเล่นงานโดยทำให้พลังสะท้อนกลับ และจากนั้น ก็คือเธอซึ่งถูกทำให้ช็อกค้างเพียงเพราะสายตาคู่นั้น…เด็กสาวคนนั้นไม่ได้ลงมือเด็ดขาด แต่พลังที่เธอแสดงออกมาแสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่า สามต่อหนึ่ง แต่พวกเธอกลับไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงในการโต้กลับ…

คิดถึงตรงนี้ สวี่ซูหานก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้ ขณะที่ตอนนั้น เธอกลับรู้สึกได้ว่ามือของหลิงม่อกำข้อมือของเธอแน่นขึ้น “ไม่ต้องกลัว มันเป็นแค่การประมือเพื่อหยั่งเชิงครั้งหนึ่งเท่านั้น”

“ใช่แล้ว พวกเราคิดในแง่ดีก็ได้” อวี่เหวินซวนยกมือเช็ดหน้า บอกว่า “เป็นฝ่ายได้เปรียบขนาดนี้ แต่กลับไม่ฆ่าพวกเรา คิดว่าเป็นเพราะอะไรกัน?”

“อื่ม…” หลิงม่อพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของอวี่เหวินซวน

“เธออยากทรมานพวกเราจนตาย?” สวี่ซูหานนึกถึงคำพูดประโยคสุดท้ายของเด็กสาว ถ้าหากเธอเป็นเด็กสาวคนหนึ่งจริงๆ คงไม่แปลกที่จะทำเรื่องอย่างนี้ บางทีสำหรับเธอ การดื่มดำกับความสนุกสนานอาจสำคัญกว่าผลลัพธ์ก็เป็นได้

“อาจเป็นไปได้ อีกอย่างถึงแม้เป็นอย่างนั้น พวกเราก็ถือว่ายืดเวลาออกไปได้บ้าง ไม่ใช่หรอ?” อวี่เหวินซวนพูดอย่างมองโลกในแง่ดี ทว่าถึงจะพูดอย่างนี้ แต่จากสายตาอันบ้าคลั่งสุดขีดของเขา ดูออกว่าความตกตะลึงที่เด็กสาวคนเมื่อกี้สร้างให้เขาไม่ได้น้อยไปกว่าสวี่ซูหานเลย

ในเวลานี้ อยู่ๆ หลิงม่อกลับดึงเธอไปข้างหลังตัวเอง ปากก็พูดว่า “เอาล่ะ ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องเธอแล้ว…อย่าลืมสิ เธอยังเหลือใครอีกคนไว้ให้เราจัดการนะ”

“ขึกๆ…” พอเห็นทั้งสามคนต่างหันมามองตัวเองเป็นตาเดียว ถังฮ่าวที่กำลังเอียงคอพลันอ้าปาก เปล่งเสียงฟังไม่ได้ศัพท์ออกมา ดวงตาทั้งคู่ของเขาแดงก่ำไปทั้งดวง อาการที่แสดงออกทางร่างกายก็ดูเหมือนจะเข้าสู่สภาวะซอมบี้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว…

“แต่สายตาเขายังเป็นมนุษย์อยู่เลยนี่นา…” สวี่ซูหานพึมพำ

เป็นอย่างที่เธอพูดจริงๆ ถ้าหากดูแค่สายตา แววตาของเขาตื่นตัวชัดเจนยิ่งกว่าตอนที่หลิงม่อเจอเขาเสียอีก แต่ร่างกายเขา…

ขณะที่สวี่ซูหานพูดจบ เขาพลันตั้งคอขึ้นแล้วอ้าปากกว้าง เปล่งเสียงคำรามเดือดดาล “กรรร!”

สิ้นเสียงคำราม ขาทั้งสองข้างที่ลากถูไปกับพื้นกพลันงอลงไป ในขณะที่ดวงตาจับจ้องมาที่พวกเขาเขม็ง

“หลีกไป!” หลิงม่อตะโกนเสียงเบา

“ปึก!”

ถังฮ่าวยันขาทั้งสองข้างกับพื้นอย่างแรง ร่างทั้งร่างพุ่งเข้ามาราวกับลูกระเบิด และพอได้ยินเสียงตะโกนเตือน สวี่ซูหานกับอวี่เหวินซวนก็โฉบหลบออกไปด้านข้าง หลิงม่อกลับกระโดดขึ้นกลางอากาศจากจุดเดิม ห้อยตัวอยู่บนเพดาน ขณะที่เท้าทั้งสองข้างแนบติดกับผนังแน่นราวกับถูกเชือกมัดติดไว้

“กรร กรรรร!”

ถังฮ่าวคำรามเสียงดังลั่น พลางพุ่งตัวไปยังด้านล่างหลิงม่อ การระเบิดของเขาดูแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด ถ้าหากปะทะซึ่งหน้า ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบในชั่วพริบตา และพอนึกถึงเด็กสาวคนนั้น พวกเขายิ่งไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองบาดเจ็บง่ายๆ ดังนั้นหลังจากเห็นอีกฝ่ายแสดงพลังอันสุดยอดในวินาทีนั้น หลิงม่อก็ได้ตัดสินใจเลือกทางที่ถูกต้องที่สุด

ซ่อนเร้นคมดาบ! (หมายถึงกลยุทธ์ซ่อนความสามารถเพื่อหลอกศัตรู)

“ขึก…” ถังฮ่าวในตอนนี้เหมือนกระดูกในร่างกายอยู่ผิดที่ไปหมด ร่างกายยามพุ่งมข้างหน้าเอียงซ้ายเอียงขวา ทว่าหลังจากเห็นว่าพวกหลิงม่อต่างหลบหลีก เขากลับเบรกไม่ทัน เพียงแต่ในเสี้ยววินาทีที่ใกล้พุ่งผ่านหลิงม่อไป อยู่ๆ เขาก็เริ่มลดความเร็ว แต่…

“โครม!”

ราวกับพุ่งชนหอกเหล็กที่มองไม่เห็น ถังฮ่าวตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ ทั่วทั้งร่างกายตั้งแต่บนจรดล่างมีเลือดพุ่งออกมาหลายจุด เขาอ้าปากลั่นร้องโหยหวน ร่างกายเสียการทรงตัวเพราะพลังดีดกลับนี้

“ตอนนี้แหละ!”

สวี่ซูหานเหลือบมองหลิงม่อแวบหนึ่ง ก่อนจะพุ่งกระโจนเข้าไป ในนี้คนที่จะสามารถกำราบเจ้าหมอนี่ในระยะประชิดได้ ก็มีแต่เธอเท่านั้น และภายใต้สถานการณ์ที่เธอไม่อาจเผชิญหน้ากับเด็กสาวคนนั้นได้ หลิงม่อคือคนที่ควรออมพลังต่อสู้ไว้มากที่สุด…เวลาอย่างนี้ เธอต้องเป็นคนลงมือ!

แต่ในขณะที่เธอยื่นมือออกไปหมายจะตะครุบไหล่ถังฮ่าว ถังฮ่าวที่ตอนแรกล้มลงไปแล้วกลับหมุนหัวกลับมา ราวกับคอของเขาติดแกนหมุนไว้ หัวของเขาจึงสามารถหมุนได้ร้อยกว่าองศาอย่างนี้…

“ขึก…”

ถังฮ่าวอ้าปากงับมาทางสวี่ซูหานทันที ขณะเดียวกันแขนของเขาก็บิดหมุนในองศาที่แปลกประหลาด พุ่งเข้ามาที่ลำคอของเธอ

สวี่ซูหานไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ พอเห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้กำลังอ้าปากพ่นเลือดพุ่งเข้าใส่ตัวเอง เธอแทบยกแขนขึ้นปัดป้องไม่ทันด้วยซ้ำ…

ทว่าในตอนนั้นเอง ประกายไฟกลุ่มหนึ่งพลันระเบิดบนหัวของถังฮ่าว ขณะเดียวกัน เงาร่างหนึ่งพลันโหนลงมาจากข้างบน และแทงเข่าใส่ท้ายทอยของถังฮ่าวอย่างแรง

“กรรร!”

ถังฮ่าวลั่นร้องเจ็บปวด ล้มลงไปทั้งที่คอยังบิดหมุนอยู่อย่างนั้น ทันทีที่ล้มถึงพื้นโคลน เปลวไฟบนหัวเขาก็สลัวลง หลิงม่อที่อยู่ข้างบนทิ้งตัวลงพื้น ขมวดคิ้วพลางยืนมือปัดบนหัวเขา เพื่อดับไฟให้มอดสนิท

“เธอโอเคใช่ไหม?” หลิงม่อถาม

สวี่ซูหานยังคงเบิกตากว้าง ได้ยินก็รู้สึกกระอ่วนใจ “โอเค…”

ในฐานะซอมบี้ เธอกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย…

“ขอบใจนะ ถ้าเธอไม่ลงมือพวกฉันก็คงร่วมมือกันไม่ได้” หลิงม่อกลับยิ้มแล้วบอก

“นั่นมัน…” สวี่ซูหานรู้สึกละอายจริงๆ…นี่มันน่าอายจะตาย! นายไม่ต้องขอบคุณดีกว่า…ถึงคำพูดจะฟังดูจริงใจมากก็ตาม…

ดีที่หลิงม่อหันกลับไปสนใจถังฮ่าวแล้ว ดูเหมือนเขาใช้พลังจิตมัดมือมัดเท้าถังฮ่าวเอาไว้ จากนั้นก็เดินไปหยุดข้างๆ สัตว์ประหลาดตัวนี้ ถามว่า “ตกลงว่าแกอยู่ที่นี่ต่อเพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่?”

“ฉันก็อยากถามเหมือนกัน” อวี่เหวินซวนตบฝ่ามือไปมา พลางถาม

เทียบกับเด็กสาวคนนั้น สัตว์ประหลาดตัวนี้อ่อนหัดมาก…ไหนเธอบอกว่านี่คือผลงานสมบูรณ์แบบที่แท้จริงไม่ใช่หรอ? แล้วนี่มันอะไร? หลอกให้พวกเขากลัวเล่น?

“กร๊อบแกร๊บๆๆ…”

หัวของถังฮ่าวพลันค่อยๆ หมุนกลับตำแหน่งเดิม เขาจ้องหน้าหลิงม่อด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวชั่วร้าย ขณะที่ลำคอยังคงมีเสียง “ขึกๆ” เปล่งออกมาไม่หยุด

ไม่รอให้พวกหลิงม่อพูดอะไร ทันใดนั้นเลือดสองสายก็ไหลออกมาจากดวงตาเขา เขาพยายามเค้นเสียงพูดออกมาอย่างยากลำบาก “ฆะ…ฆ่าฉัน…ฆ่าฉัน…ซะ”

“ฉันไม่เข้าใจ” หลิงม่อกลับยังคงพูดต่อ “แกตั้งตารอวันที่จะได้เป็นอย่างนี้มาตลอดไม่ใช่หรอ? มีร่างกายอย่างสัตว์ประหลาด แต่ขณะเดียวกันก็ยังรักษาสติปัญญาของตัวเองไว้ได้ สถานการณ์ตอนนี้สำหรับแก น่าจะสมใจแกที่สุดแล้วไม่ใช่หรอ”

เขาไม่ได้จงใจพูดเสียดสีหรือถากถาง…ความจริงแล้ว สิ่งที่เขาพูด คือสิ่งที่ถังฮ่าวเคยบอกเขาในตอนแรกเท่านั้น…

“ถ้าแก…ไม่ฆ่าฉัน…แกจะเสียใจ…” ถังฮ่าวพูดน้ำตานองหน้า…

——————————————

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1006 มาทำให้ตกใจเล่นหรอ?

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1006 มาทำให้ตกใจเล่นหรอ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เดี๋ยวก่อน!”

เห็นเด็กสาวถอยเข้าไปในไอหมอกมืดทีละก้าวๆ สวี่ซูหานรีบตะโกนเรียก แต่เธอเพิ่งจะเดินออกไปได้ก้าวเดียว ก็ถูกหลิงม่อดึงข้อมือไว้ทันที ขณะเดียวกัน สวี่ซูหานรู้สึกว่าสายตาของเด็กสาวตวัดมาที่ตัวเอง…

“อา…”

ในเวลาสองวินาทีต่อมา สวี่ซูหานได้แต่ยิ่งนิ่งงันอยู่กับที่ เบิกตากว้างจ้องเด็กสาว จนกระทั่งเงาร่างของเธอหายไปจากครรลองสายตา ไม่นานเธอพลันทรุดนั่งลง พิงผนังด้านข้าง บนใบหน้าสะท้อนแววตื่นกลัวสุดขีด…

“เธอ…” สวี่ซูหานพยายามพูดอะไรบางอย่าง เธอหันไปมองหลิงม่อที่ดึงตัวเองไว้ สุดท้ายก็ได้แต่พูดออกมาแค่ตำสองคำ “ขอบคุณ…”

ถ้าหากไม่ได้หลิงม่อ เมื่อกี้เธอคง…

สวี่ซูหานไม่กล้าคิดอีก เธอรู้สึกได้อย่างรุนแรง…ที่เธอหวาดกลัวขนาดนี้ ไม่ได้เป็นเพราะอารมณ์หวาดกลัวที่หลงเหลืออยู่ในตัวเธอแน่นอน แต่เป็นเพราะตัวตนของเด็กสาวคนนั้น ที่ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวที่เกิดจาสัญชาตญาณ…แต่เธอสัมผัสถึงกลิ่นอายที่เกี่ยวกับเชื้อไวรัสจากร่างกายของเด็กสาวไม่ได้เลย…

ถ้าอย่างนั้นเธอคือมนุษย์งั้นหรอ?

ไม่…ไม่มีทางเป็นมนุษย์แน่…แต่ในเมื่อไม่ใช่มนุษย์ แล้วเธอเป็นอะไรล่ะ…

“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลิงม่อนวดขมับยืนตัวตรง พลางถามโดยไม่หันมามอง

“ไม่เป็นไร”

สวี่ซูหานและอวี่เหวินซวนตอบพร้อมกัน พอได้ยินเสียงเธอเลยเพิ่งฉุกคิดได้ว่าอวี่เหวินซวนถูกโจมตีจนตัวปลิวออกไป จึงรีบหันกลับไปดูทันที

ท่ามกลางความมืด อวี่เหวินซวนพยายามหยัดยืนขึ้น และเดินโซซัดโซเซมาทางพวกเขา เหมือนแค่หกล้มไปเท่านั้น ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากนัก แต่ถึงอย่างนั้น สวี่ซูหานก็ยังคงรู้สึกเย็นสะท้านไปทั้งตัวอยู่ดี

อวี่เหวินซวนถูกโจมตีจนตัวปลิวออกไปเป็นคนแรก ต่อมาก็หลิงม่อที่การโจมตีถูกขัดขวาง กระทั่งถูกเล่นงานโดยทำให้พลังสะท้อนกลับ และจากนั้น ก็คือเธอซึ่งถูกทำให้ช็อกค้างเพียงเพราะสายตาคู่นั้น…เด็กสาวคนนั้นไม่ได้ลงมือเด็ดขาด แต่พลังที่เธอแสดงออกมาแสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่า สามต่อหนึ่ง แต่พวกเธอกลับไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงในการโต้กลับ…

คิดถึงตรงนี้ สวี่ซูหานก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้ ขณะที่ตอนนั้น เธอกลับรู้สึกได้ว่ามือของหลิงม่อกำข้อมือของเธอแน่นขึ้น “ไม่ต้องกลัว มันเป็นแค่การประมือเพื่อหยั่งเชิงครั้งหนึ่งเท่านั้น”

“ใช่แล้ว พวกเราคิดในแง่ดีก็ได้” อวี่เหวินซวนยกมือเช็ดหน้า บอกว่า “เป็นฝ่ายได้เปรียบขนาดนี้ แต่กลับไม่ฆ่าพวกเรา คิดว่าเป็นเพราะอะไรกัน?”

“อื่ม…” หลิงม่อพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของอวี่เหวินซวน

“เธออยากทรมานพวกเราจนตาย?” สวี่ซูหานนึกถึงคำพูดประโยคสุดท้ายของเด็กสาว ถ้าหากเธอเป็นเด็กสาวคนหนึ่งจริงๆ คงไม่แปลกที่จะทำเรื่องอย่างนี้ บางทีสำหรับเธอ การดื่มดำกับความสนุกสนานอาจสำคัญกว่าผลลัพธ์ก็เป็นได้

“อาจเป็นไปได้ อีกอย่างถึงแม้เป็นอย่างนั้น พวกเราก็ถือว่ายืดเวลาออกไปได้บ้าง ไม่ใช่หรอ?” อวี่เหวินซวนพูดอย่างมองโลกในแง่ดี ทว่าถึงจะพูดอย่างนี้ แต่จากสายตาอันบ้าคลั่งสุดขีดของเขา ดูออกว่าความตกตะลึงที่เด็กสาวคนเมื่อกี้สร้างให้เขาไม่ได้น้อยไปกว่าสวี่ซูหานเลย

ในเวลานี้ อยู่ๆ หลิงม่อกลับดึงเธอไปข้างหลังตัวเอง ปากก็พูดว่า “เอาล่ะ ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องเธอแล้ว…อย่าลืมสิ เธอยังเหลือใครอีกคนไว้ให้เราจัดการนะ”

“ขึกๆ…” พอเห็นทั้งสามคนต่างหันมามองตัวเองเป็นตาเดียว ถังฮ่าวที่กำลังเอียงคอพลันอ้าปาก เปล่งเสียงฟังไม่ได้ศัพท์ออกมา ดวงตาทั้งคู่ของเขาแดงก่ำไปทั้งดวง อาการที่แสดงออกทางร่างกายก็ดูเหมือนจะเข้าสู่สภาวะซอมบี้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว…

“แต่สายตาเขายังเป็นมนุษย์อยู่เลยนี่นา…” สวี่ซูหานพึมพำ

เป็นอย่างที่เธอพูดจริงๆ ถ้าหากดูแค่สายตา แววตาของเขาตื่นตัวชัดเจนยิ่งกว่าตอนที่หลิงม่อเจอเขาเสียอีก แต่ร่างกายเขา…

ขณะที่สวี่ซูหานพูดจบ เขาพลันตั้งคอขึ้นแล้วอ้าปากกว้าง เปล่งเสียงคำรามเดือดดาล “กรรร!”

สิ้นเสียงคำราม ขาทั้งสองข้างที่ลากถูไปกับพื้นกพลันงอลงไป ในขณะที่ดวงตาจับจ้องมาที่พวกเขาเขม็ง

“หลีกไป!” หลิงม่อตะโกนเสียงเบา

“ปึก!”

ถังฮ่าวยันขาทั้งสองข้างกับพื้นอย่างแรง ร่างทั้งร่างพุ่งเข้ามาราวกับลูกระเบิด และพอได้ยินเสียงตะโกนเตือน สวี่ซูหานกับอวี่เหวินซวนก็โฉบหลบออกไปด้านข้าง หลิงม่อกลับกระโดดขึ้นกลางอากาศจากจุดเดิม ห้อยตัวอยู่บนเพดาน ขณะที่เท้าทั้งสองข้างแนบติดกับผนังแน่นราวกับถูกเชือกมัดติดไว้

“กรร กรรรร!”

ถังฮ่าวคำรามเสียงดังลั่น พลางพุ่งตัวไปยังด้านล่างหลิงม่อ การระเบิดของเขาดูแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด ถ้าหากปะทะซึ่งหน้า ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบในชั่วพริบตา และพอนึกถึงเด็กสาวคนนั้น พวกเขายิ่งไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองบาดเจ็บง่ายๆ ดังนั้นหลังจากเห็นอีกฝ่ายแสดงพลังอันสุดยอดในวินาทีนั้น หลิงม่อก็ได้ตัดสินใจเลือกทางที่ถูกต้องที่สุด

ซ่อนเร้นคมดาบ! (หมายถึงกลยุทธ์ซ่อนความสามารถเพื่อหลอกศัตรู)

“ขึก…” ถังฮ่าวในตอนนี้เหมือนกระดูกในร่างกายอยู่ผิดที่ไปหมด ร่างกายยามพุ่งมข้างหน้าเอียงซ้ายเอียงขวา ทว่าหลังจากเห็นว่าพวกหลิงม่อต่างหลบหลีก เขากลับเบรกไม่ทัน เพียงแต่ในเสี้ยววินาทีที่ใกล้พุ่งผ่านหลิงม่อไป อยู่ๆ เขาก็เริ่มลดความเร็ว แต่…

“โครม!”

ราวกับพุ่งชนหอกเหล็กที่มองไม่เห็น ถังฮ่าวตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ ทั่วทั้งร่างกายตั้งแต่บนจรดล่างมีเลือดพุ่งออกมาหลายจุด เขาอ้าปากลั่นร้องโหยหวน ร่างกายเสียการทรงตัวเพราะพลังดีดกลับนี้

“ตอนนี้แหละ!”

สวี่ซูหานเหลือบมองหลิงม่อแวบหนึ่ง ก่อนจะพุ่งกระโจนเข้าไป ในนี้คนที่จะสามารถกำราบเจ้าหมอนี่ในระยะประชิดได้ ก็มีแต่เธอเท่านั้น และภายใต้สถานการณ์ที่เธอไม่อาจเผชิญหน้ากับเด็กสาวคนนั้นได้ หลิงม่อคือคนที่ควรออมพลังต่อสู้ไว้มากที่สุด…เวลาอย่างนี้ เธอต้องเป็นคนลงมือ!

แต่ในขณะที่เธอยื่นมือออกไปหมายจะตะครุบไหล่ถังฮ่าว ถังฮ่าวที่ตอนแรกล้มลงไปแล้วกลับหมุนหัวกลับมา ราวกับคอของเขาติดแกนหมุนไว้ หัวของเขาจึงสามารถหมุนได้ร้อยกว่าองศาอย่างนี้…

“ขึก…”

ถังฮ่าวอ้าปากงับมาทางสวี่ซูหานทันที ขณะเดียวกันแขนของเขาก็บิดหมุนในองศาที่แปลกประหลาด พุ่งเข้ามาที่ลำคอของเธอ

สวี่ซูหานไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ พอเห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้กำลังอ้าปากพ่นเลือดพุ่งเข้าใส่ตัวเอง เธอแทบยกแขนขึ้นปัดป้องไม่ทันด้วยซ้ำ…

ทว่าในตอนนั้นเอง ประกายไฟกลุ่มหนึ่งพลันระเบิดบนหัวของถังฮ่าว ขณะเดียวกัน เงาร่างหนึ่งพลันโหนลงมาจากข้างบน และแทงเข่าใส่ท้ายทอยของถังฮ่าวอย่างแรง

“กรรร!”

ถังฮ่าวลั่นร้องเจ็บปวด ล้มลงไปทั้งที่คอยังบิดหมุนอยู่อย่างนั้น ทันทีที่ล้มถึงพื้นโคลน เปลวไฟบนหัวเขาก็สลัวลง หลิงม่อที่อยู่ข้างบนทิ้งตัวลงพื้น ขมวดคิ้วพลางยืนมือปัดบนหัวเขา เพื่อดับไฟให้มอดสนิท

“เธอโอเคใช่ไหม?” หลิงม่อถาม

สวี่ซูหานยังคงเบิกตากว้าง ได้ยินก็รู้สึกกระอ่วนใจ “โอเค…”

ในฐานะซอมบี้ เธอกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย…

“ขอบใจนะ ถ้าเธอไม่ลงมือพวกฉันก็คงร่วมมือกันไม่ได้” หลิงม่อกลับยิ้มแล้วบอก

“นั่นมัน…” สวี่ซูหานรู้สึกละอายจริงๆ…นี่มันน่าอายจะตาย! นายไม่ต้องขอบคุณดีกว่า…ถึงคำพูดจะฟังดูจริงใจมากก็ตาม…

ดีที่หลิงม่อหันกลับไปสนใจถังฮ่าวแล้ว ดูเหมือนเขาใช้พลังจิตมัดมือมัดเท้าถังฮ่าวเอาไว้ จากนั้นก็เดินไปหยุดข้างๆ สัตว์ประหลาดตัวนี้ ถามว่า “ตกลงว่าแกอยู่ที่นี่ต่อเพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่?”

“ฉันก็อยากถามเหมือนกัน” อวี่เหวินซวนตบฝ่ามือไปมา พลางถาม

เทียบกับเด็กสาวคนนั้น สัตว์ประหลาดตัวนี้อ่อนหัดมาก…ไหนเธอบอกว่านี่คือผลงานสมบูรณ์แบบที่แท้จริงไม่ใช่หรอ? แล้วนี่มันอะไร? หลอกให้พวกเขากลัวเล่น?

“กร๊อบแกร๊บๆๆ…”

หัวของถังฮ่าวพลันค่อยๆ หมุนกลับตำแหน่งเดิม เขาจ้องหน้าหลิงม่อด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวชั่วร้าย ขณะที่ลำคอยังคงมีเสียง “ขึกๆ” เปล่งออกมาไม่หยุด

ไม่รอให้พวกหลิงม่อพูดอะไร ทันใดนั้นเลือดสองสายก็ไหลออกมาจากดวงตาเขา เขาพยายามเค้นเสียงพูดออกมาอย่างยากลำบาก “ฆะ…ฆ่าฉัน…ฆ่าฉัน…ซะ”

“ฉันไม่เข้าใจ” หลิงม่อกลับยังคงพูดต่อ “แกตั้งตารอวันที่จะได้เป็นอย่างนี้มาตลอดไม่ใช่หรอ? มีร่างกายอย่างสัตว์ประหลาด แต่ขณะเดียวกันก็ยังรักษาสติปัญญาของตัวเองไว้ได้ สถานการณ์ตอนนี้สำหรับแก น่าจะสมใจแกที่สุดแล้วไม่ใช่หรอ”

เขาไม่ได้จงใจพูดเสียดสีหรือถากถาง…ความจริงแล้ว สิ่งที่เขาพูด คือสิ่งที่ถังฮ่าวเคยบอกเขาในตอนแรกเท่านั้น…

“ถ้าแก…ไม่ฆ่าฉัน…แกจะเสียใจ…” ถังฮ่าวพูดน้ำตานองหน้า…

——————————————

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+