แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1182 ฉันแค่ช่วยปกปิด!

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1182 ฉันแค่ช่วยปกปิด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังได้สติคืนมา หลิงม่อยื่นมือออกไปหาเย่เลี่ยน พูดด้วยรอยยิ้มบางๆ ว่า “มานี่ เด็กโง่ ฉันช่วยเช็ดมือให้”

เย่เลี่ยนเหม่อลอยครู่หนึ่ง จากนั้นค่อยๆ ยกมือข้างที่เต็มไปด้วยเลือดขึ้นมา…

เมื่อหลิงม่อก้มหน้าตั้งใจเช็ดมือให้อย่างจริงจัง เธอก็มองดูเขาอยู่ตลอด…

“นี่…พี่เย่เลี่ยนเป็นคนฆ่าเหรอ?” เสียงร่าเริงของซย่าน่าดังมาจากทางด้านหลัง

หลิงม่อกำก้อนกระดาษทิชชูเช็ดเลือดหันไปมอง จากนั้นก็วางมือลงบนศีรษะของพวกเธอ

“พวกเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ซย่าน่าเอียงคอส่งเสียงหัวเราะประหลาดพลางตอบคำถาม และอดไม่ได้ที่จะกลอกตาตามก้อนกระดาษกลมๆ นั่น “ก็สักพักหนึ่งแล้วน้า…ตั้งแต่ตอนที่ยัยหุ่นเชิดบอกว่าจับพี่ไม่สำเร็จนั่นล่ะ แต่จะว่าไปแล้ว ดูเหมือนเธออาฆาตแค้นพี่มากเลยนะ พี่หลิง พี่ไปทำเรื่องอะไรไม่ดีที่พูดไม่ได้ใช่หรือเปล่า เธอถึงมาให้พี่รับผิดชอบถึงที่แบบนี้?”

“เรื่องอะไรที่พูดไม่ได้…เธอก็พูดออกมาหมดแล้วไม่ใช่หรือไง!” หลิงม่อพูดขณะกลอกตา

หลี่ย่าหลินหันสายตามองตามไป ขณะเดียวกันก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ฉันรู้สึกคุ้นกับเธอจัง…แต่ว่าก็ไม่เคยเห็นใบหน้านี้ที่ไหนมาก่อน น่าแปลกจริงๆ…”

“ไม่แปลกหรอก เพราะคนที่มาไม่ใช่เจ้าตัว” หลิงม่อเห็นซอมบี้สาวทั้งสองเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ ก็เหวี่ยงแขนขว้างก้อนกระดาษทิชชูออกไปไกลๆ

ทว่าตอนที่ซย่าน่าและหลี่ย่าหลินเผยสีหน้าเสียดายและหันมองตามไปโดยอัตโนมัติ…ร่างเงาร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับที่ก้อนกระดาษลอยไป

“ฉันก็แค่…” สวี่ซูหานหยิบก้อนกระดาษนั่นขึ้นมา กำลังอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง…แต่ก็เงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเธอกลับหลังหันวิ่งตรงไปยังบันได “ฉันลงไปดูข้างล่างสักหน่อยดีกว่า! แล้วก็อันนี้…ฉันแค่จะช่วยเอาไปทิ้งให้! แม้จะเป็นวันสิ้นโลกก็อย่าทิ้งขยะซี้ซั้วตามใจชอบสิ!”

“ผู้ประกาศข่าว ฉันไปด้วย…” กู่ซวงซวงที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตะโกนขึ้น

“ไม่ต้องหรอก! ฟู่ว…”

“ทำไมเธอ…” กู่ซวงซวงหันกลับมามองพวกซย่าน่า แล้วถามขึ้น “พวกเธอไม่รู้สึกหรือว่าเสียงของผู้ประกาศข่าวสวี่ฟังดูแปลกๆ? เหมือนกับว่าลมหายใจฟังดูหนัก…อึ้ง…มาก…ขึ้นหน่อย…”

ขณะที่พูดใกล้จบ เสียงของกู่ซวงซวงก็เปลี่ยนไป…

สองคนตรงหน้านี้ ลมหายใจก็หนักอึ้งเหมือนกันเลย!

“เธอไปสำรวจห้องรอบๆ นี้ดู สำรวจดูว่าพวกเขาทิ้งของอะไรไว้ที่นี่หรือเปล่า” หลิงม่อพูดขึ้นด้วยความหวังดี

กู่ซวงซวงเพิ่งได้สติกลับมา รีบหันหลังวิ่งออกไปพลางตอบ “ดะ…ได้เลย!”

แปะ! แปะ!

หลิงม่อยกมือขึ้นตีหัวซย่าน่าและหลี่ย่าหลิน พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “อย่าแกล้งให้เพื่อนร่วมทีมกลัวสิ!”

ในขณะที่พูด เขาก็ไพล่มือไว้ด้านหลัง สะบัดไปมาสองสามทีเงียบๆ…

เจ็บจังโว้ย…

“ตีฉันทำไมเนี่ย ฉันก็แค่ช่วยปกปิดให้รุ่นพี่เอง ท่าทางที่เอาแต่จ้องคนอื่นจนน้ำลายไหลของเธอดูน่ากลัวจะตายไป” ซย่าน่าพูดอย่างน้อยใจ

หลี่ย่าหลินหัวเราะคิกคัก

“แล้วที่เธอสองคนจ้องคนอื่นน้ำลายไหลพร้อมกันมันไม่น่ากลัวหรือไง!” หลิงม่อยกมือขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าหลังจากที่รับรู้ว่าฝ่ามือยังคงตึงชา เขาก็ลดแขนลงด้วยท่าทีโกรธเคือง ไอแห้งๆ แล้วพูดขึ้น “ครั้งนี้จะปล่อยผ่าน อย่าให้มีครั้งต่อไปอีกล่ะ”

“แต่กลิ่นเลือดนั่นช่างเข้มข้นจริงๆ…ที่น่าแปลกก็คือ ศพร่างนี้มีกลิ่นเลือดของมนุษย์ธรรมดา แต่ก้อนกระดาษทิชชูเมื่อกี้กลับเป็นกลิ่นเลือดอีกกลิ่นหนึ่ง หอมมากเลย…” ซย่าน่าเลียริมฝีปากอย่างกระหาย

“เอาแต่กินอย่างเดียว!” หลิงม่อตอกกลับ แต่สายตาของเขากลับมีร่องรอยของความสงสัย

เขาหันกลับไปมองเย่เลี่ยน เย่เลี่ยนก็ยังคงมองพวกเขาอย่างงุนงงอยู่ตลอด

“หรือว่าการโจมตีของยัยเด็กโง่…จะโจมตีจุดสำคัญของฝ่ายตรงข้ามได้จริงๆ?”

เลือดที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์พวกนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งที่ติดมากับปรสิต…

แต่คิดไม่ถึงว่าเลือดพวกนั้น จะเหลือทิ้งไว้ที่มือเย่เลี่ยนทั้งหมด…

“พี่หลิง เมื่อกี้พี่…”

ซย่าน่าอ้าปากถาม หลิงม่อจึงเล่าเหตุการณ์ที่ตัวเขาต่อสู้กับหัวหน้าทีมนิพพานและหลิวหยางให้ฟังคร่าวๆ

รวมถึงผู้อยู่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดที่จริงๆ แล้วคือราชินีแมงมุม เขาก็พูดถึงเล็กน้อย

ซย่าน่าและหลี่ย่าหลินต่างหันมาสบตากัน พลันเผยแววเข้าใจอะไรออกมา

ร่างแม่กลายพันธุ์ร่างนั้น พวกเธอเคยเจอมาก่อนหน้านี้…

“มิน่าล่ะ…” ซย่าน่าพูดขึ้นเหมือนครุ่นคิดอะไร

“มีอะไรหรือ?” หลิงม่อเอ่ยถาม

ซย่าน่าเหลือบมองศพร่างนั้นพลางพูด “เธอทำท่าทางเหมือนรู้จักพวกเรา บอกว่าจะสู้กับพวกเรา แต่จริงๆ แล้วเป็นการหลบซ่อนรอโจมตีในที่มืดซะมากกว่า พวกเรากังวลว่าผู้ประกาศข่าวสวี่กับกู่ซวงซวงจะเจออันตรายที่ไม่คาดคิด ดังนั้นจึงทำได้เพียงรวมกลุ่มกันไว้”

“ใช่แล้ว เธอเคยบอกว่าเจ้าของร่างนี้ชื่อเวินเสี่ยวอวี่ แต่ให้พวกเราเรียกว่าสเตลล่า” หลี่ย่าหลินรีบพูดเสริม

“ยัยนี่ก็นะ เจอปุ๊บก็แนะนำตัวเองทันที…เวินเสี่ยวอวี่…น่าจะเป็นคนของนิพพานเหมือนกัน” เดิมทีหลิงม่ออยากจะค้นตัวเวินเสี่ยวอวี่เช่นกัน แต่พอเขาเปิดเผยเจตนานี้ไป ซย่าน่าและหลี่ย่าหลินก็ร่วมมือกันดูถูกเขาทันที

“ยัยนี่เป็นแค่ซากศพ!” ซย่าน่าเน้นย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“แล้วยังไงล่ะ!” หลิงม่อตอบกลับอย่างขุ่นเคือง

ทว่าพอเห็นร่างที่เต็มไปด้วยเลือด เขาก็วางมือไปเงียบๆ

ซอมบี้สาวทั้งสองช่วยค้นแทนเขา สรุปคือนอกเหนือจากของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นแล้ว ก็ไม่พบสิ่งของอย่างอื่นอีก

“ดูท่าเธอคงจะเป็นแค่ร่างปรสิตที่แข็งแกร่งมาก บางทีสำหรับตัวเธอเอง พลังสกัดกั้นอะไรพวกนี้คงไม่ใช่ของถนัด เป็นแบบนี้ คงหาความลับอะไรจากเธอไม่เจอหรอก” หลิงม่อพูดขึ้นอย่างนึกเสียดายหน่อยๆ

แน่นอนว่าราชินีแมงมุมเป็นพวกประเภทชอบไล่ล่า แต่มาดักซุ่มอยู่ที่ค่ายนิพพานของเขา ก็ไม่ใช่เรื่องวุ่นวายอะไร

สำคัญที่สุดคือหัวหน้าใหญ่นิพพานรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโกดังอาหารและคลังอาวุธ เขาดักซุ่มอยู่ที่นี่ได้ ใครจะรู้ว่าสถานที่อื่นยังปลอดภัยอยู่หรือไม่?

“พยานผู้รอดชีวิตถูกราชินีแมงมุมจัดการไปหมดแล้ว…ยัยนี่เก่งเรื่องการขัดขาคนอื่นไม่เบา” หลิงม่อพูดอย่างหมดหนทาง

จากการตายของเวินเสี่ยวอวี่ ในที่สุดม่านพลังสกัดกั้นก็หายไปทั้งหมดเสียที

และในขณะที่หลิงม่อกำลังพูดอยู่นั้น หลี่ย่าหลินก็สูดจมูกฟุดฟิดอย่างฉับพลัน “มีกลิ่นคาวเลือด…”

“มีเสียง…” ซย่าน่าก็พูดขึ้นหลังจากเงี่ยหูฟังอย่างละเอียด

หลิงม่อชะงักครู่หนึ่ง รีบร้อนสัมผัสรู้ทันที จากนั้นสีหน้าก็เคร่งเครียด “แย่แล้ว”

ตอนนี้เขาเข้าใจความหมายของประโยคที่เวินเสี่ยวอวี่พูดแล้ว…อย่าเพิ่งตายวันนี้!

“ยัยแมงมุมนั่นยังมีแผนสำรองเตรียมไว้อีก!”

ดูท่าถึงเจ้าตัวจะไม่ได้มาเอง แต่ก็ไม่ออมฝีมือให้สักนิดเลยสินะ!

“หลิงม่อ!” เสียงร้อนรนของสวี่ซูหานดังมาจากบนบันได จากนั้นร่างของเธอก็พุ่งมายังทางเดินอีกครั้ง

กู่ซวงซวงรีบวิ่งออกมาหลังจากได้ยิน และพูดด้วยสีหน้าซีดเซียว “ด้านล่าง…หน้าต่าง…”

“ฉันเข้าใจแล้ว ไป ลงไปกันให้หมด!” หลิงม่อพูดพร้อมโบกมือ

ระหว่างลงไปที่ชั้นล่าง เขาก็นึกย้อนภาพเหตุการณ์เมื่อกี้ที่เห็นผ่านเฮยซือ…

เฮยซือและอวี๋ซือหรานพุ่งไปยังด่านหน้าแล้ว…

เพื่อไม่ให้พวกหลิงม่อตกอยู่ในสถานกาณ์ถูกล้อมโจมตี พวกเฮยซือไม่แม้แต่คิดจะถอยกลับไปยังอาคารหอพัก แต่เป็นฝ่ายบุกไปตั้งรับด้วยตัวเอง

แต่การต่อสู้กับซอมบี้ในพื้นที่เปิดโล่ง อัตราเสี่ยงอันตรายจะพุ่งสูงขึ้นหลายระดับ…

ในขณะที่หลิงม่อพุ่งไป ก็มีซอมบี้รุมล้อมอยู่ “ด้านหน้า” หลายตัว เส้นไหมสีเงินจำนวนมากขยับวูบวาบ พยายามที่จะกำจัดพวกมันทิ้ง

อวี๋ซือหรานกำลังเข่นฆ่าโรมรันกับซอมบี้หลายตัวอยู่ไม่ไกล แต่สิ่งที่ทำให้หลิงม่อรู้สึกเย็นวาบไปทั่วสันหลังคือ ด้านหลังของซอมบี้พวกนี้ กลับมีซอมบี้เจ้าเมืองหนึ่งตัวกำลังสังเกตการณ์สถานการณ์การต่อสู้อยู่เงียบๆ…เขายืนอยู่บนกำแพงสูง ดูท่าทางไม่คิดยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ความอันตรายกลับมากขึ้นไปอีก

และในที่ไกลๆ ก็เริ่มมีเสียงสนั่นดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นชัดเจนว่าพวกอวี่เหวินซวนเริ่มต่อสู้กับซอมบี้แล้ว

ดูจากสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเดียว ซอมบี้ที่หลิงม่อเห็นมีไม่มาก…แต่เมื่อหลิงม่อเปลี่ยนไปใช้การมองเห็นของเสี่ยวป๋าย ความรู้สึกก็รุนแรงขึ้นมากในทันที…

ไม่ว่าด้านในหรือด้านนอกกำแพง ล้วนเต็มไปด้วยซอมบี้…

“ไม่ใช่ซอมบี้ธรรมดา…ไม่เช่นนั้นถึงจะเป็นระดับกลายพันธุ์ก็เถอะ ถ้าอยู่ในเงื้อมมือของเฮยซือและอวี๋ซือหรานแล้วไม่มีทางรอดไปได้แน่ แต่เห็นได้ชัดว่าซอมบี้พวกนั้นฉลาดกว่ามาก…รวมกลุ่มกันรุมสู้คนเดียว ป้องกันก็ดีมากด้วย…”

ถึงแม้พวกนั้นจะไม่สามารถทำอันตรายอะไรพวกเฮยซือได้ แต่ว่า…นี่มันตั้งใจรั้งพวกเธอไว้ จากนั้นก็จะรวมตัวไปจัดการกับมนุษย์พวกนั้นสินะ!

อีกทั้งตอนที่หลิงม่อกำลังจะพุ่งตัวไปชั้นสอง ซอมบี้เจ้าเมืองนั่น…ขยับแล้ว!

“กรร!”

เฮยซือระแวดระวังมันอยู่ตลอด ในเสี้ยววินาทีที่ซอมบี้เจ้าเมืองกระโดดลงมาจากกำแพง เส้นไหมสีเงินกลุ่มหนึ่งที่เธอเตรียมการไว้ล่วงหน้าก็มุดไปตามพงหญ้า

แต่ในตอนนี้เอง กลับมีเสียงตะโกนของหลิงม่อดังขึ้นในหัวของเธออย่างกะทันหัน “อย่าไป!”

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด