แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1014 เด็กสาวในอำพัน

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1014 เด็กสาวในอำพัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“…” ในช่องว่างที่ทั้งแคบและอึดอัดนี้ หลิงม่อจ้องตากับสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดอย่างเงียบงัน…

หลายวินาทีผ่านไป เขาเลื่อนสายตาออกไป แล้วเริ่มพุ้ยของเหลวชั้นนี้ออกอย่างยากลำบาก

เนื่องจากเจ้าสิ่งนี้ยังไม่จับตัวกันอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นถึงแม้ในสถานการณ์ที่หุ่นซอมบี้ไม่มีแรง หลิงม่อก็ยังใช้เล็บอันแหลมคมของมันขุดตัวสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดออกมาได้

เพียงแต่ในขณะที่สัตว์ประหลาดไอหมอกมือตัวนั้นเพิ่งจะยื่นมือออกมา หมายจะปีนออกจากรอยแหวกนั้น หลิงม่อกลับกระโจนเข้าไปทันที…

“แกว๊กๆ…” สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดพยายามขัดขืน แต่มือข้างนั้นของมันถูกหุ่นซอมบี้จับไว้แล้ว แถมร่างกายยังติดอยู่ในชั้นของเหลวหนืดอีก ถึงแม้มันมีเรี่ยวแรงมากกว่าซอมบี้สภาพร่อแร่ตัวนี้หลายขุม แต่เมื่อตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ติดอยู่ในที่แคบ และเสียเปรียบอย่างนี้ สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดจึงตกเป็นรองทันที

หลิงม่อฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายยังไม่ทันยื่นมืออีกข้างออกมา เอามือตัวเองล้วงเข้าไปก่อน…

“หื้ม?”

ด้านในชั้นของเหลวหนืดนั้น สิ่งแรกที่เขาคลำเจอคือผิวหนังอ่อนนุ่ม…ทว่าไม่นาน เขาก็เริ่มควานมือสะเปะสะปะไปทั่ว

“รีบบอกมา แกเป็นใครกันแน่? ฉันดูออกนะ ว่าแกอยากเข้ามาในนี้เอง ใช่ไหมล่ะ? มนุษย์ประหลาดที่ถูกยัดเข้ามาเมื่อกี้ ความจริงแกเป็นคนส่งมันมาเองใช่ไหม? ที่แกทำอย่างนี้ ก็เพื่อจะทำให้สัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างบนนี้หมดแรง…จากนั้นแกก็จะฉวยโอกาสเคลื่อนไหวสินะ? ถ้าหากที่ฉันเดามาถูกทั้งหมด ถ้าอย่างนั้นฉันมีคำถาม บอกวมา ทำไมต้องเลือกฉัน? ตกลงว่า…” หลิงม่อกดเสียงต่ำ เค้นถาม

“แกว๊กๆ…”

สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดพยายามดิ้นพล่าน จนสุดท้ายก็พลิกตัวได้สำเร็จ หลิงม่อพลันรู้สึกว่าแผ่นหลังแนบติด “ไข่” เหล่านั้น ผ่านไปไม่นาน มือเขาก็หลุดออกจากตัวอีกฝ่าย

ไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดตัวนั้นใช้วิธีอะไร ถึงได้สร้างรูข้างบนหัว และพยายามเบียดตัวออกไปจนได้ พอเห็นอีกฝ่ายกำลังคลานลึกเข้าไปข้างใน หลิงม่อก็คว้าข้อเท้าของมันทันที…ถึงแม้ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นใคร แต่หลิงม่อมั่นใจในการคาดเดคาของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าเพราะเหตุนี้ เขากลับรู้สึกโมโหมากกว่าเดิม…

สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดถลึงตาจ้องเขา แต่กลับไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด ได้แต่ลากหุ่นซอมบี้คลานต่อไปด้วย หลังผ่านไป 4 – 5 วินาที หลิงม่อก็รู้สึกว่ารอบข้างเริ่มว่างเปล่าแล้ว…ช่องว่างระหว่าง “ไข่” เหล่านั้นกับหุ่นซอมบี้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด…ไม่นาน เขากับสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดก็มาถึงบริเวณขอบของหลุมขนาดใหญ่หลุมหนึ่ง…

หลุมนี้ดูไม่ลึกมาก ด้านบนเต็มไปด้วย “ไข่” จำนวนมหาศาล…และมองจากตรงนี้ขึ้นไป ก็จะเห็นและเข้าใจ “ลำดับขั้น” ของสัตว์ประหลาดใต้ดินเหล่านี้ ด้านนอกสุดคือมนุษย์ประหลาด ต่อมาเป็นสัตว์ประหลาดไอหมอกมืด ลึกเข้ามาเป็นพวก “มนุษย์หน้าอืด” และตรงกลางสุด ก็คือสัตว์ประหลาดที่ล่อพวกเขาเข้ามาในตอนแรกสุดนั่นเอง…นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสัตว์ประหลาดเปลี่ยนหน้าอยู่ตัวหนึ่งด้วย…

“ไม่น่าล่ะช่องทางเดินที่ทอดยาวมาสู่ที่นี่ถึงได้มีการคุ้มกันแน่นหนานัก…ที่แท้ที่นี่ก็คือฐานทัพใหญ่ของพวกมันนี่เอง… แต่มีกันเยอะขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือสัตว์ประหลาดตัวที่อยู่ข้างนอกนั้นตัวเดียว? พวกนี้…คงไม่ได้ใกล้ ‘ลืมตาดูโลก’ แล้วหรอกนะ? หลิงม่อจ้องมองสัตว์ประหลาดพวกนั้นปากอ้าตาค้าง ขณะที่เขากวาดมองพวกมันทีละตัวๆ อยู่ๆ หน้าอกของพวกมันบางตัวก็กระเพื่อมขึ้นลง

“ชั้นของเหลวหนืดนั่น…มีฟองอากาศอยู่หรอ? ถ้าไม่อย่างนั้นพวกมันจะหายใจได้ไง?” ไม่ต้องคิดหลิงม่อก็รู้ ว่าในของเหลวหนืดเหล่านั้นมีเชื้อไวรัสผสมอยู่ด้วย ระหว่างที่ถูกของเหลวหนืดห่อหุ้ม เชื้อไวรัสที่ผสมอยู่ในนั้นจะแทรกซึมผ่านผิวหนังเข้าไปในร่างกายของสัตว์ประหลาดพวกนี้ และเริ่ม “ปรับโครงสร้าง” ร่างกายของพวกมัน น่าเสียดายที่เวลามีจำกัด จะให้เขาลองสัมผัสประสบการณ์นั้นด้วยตัวเองก็คงไม่ทัน…

คิดถึงตรงนี้ อยู่ๆ หลิงม่อก็มีความคิดแปลกๆ ผุดขึ้นมา…

“ถังฮ่าวเคยมาที่นี่!”

เรื่องนี้แทบไม่ต้องสงสัยเลย…และเป็นไปได้มากว่าเส้นทางที่ถังฮ่าวใช้ อาจไม่ใช่ทางเดียวกับพวกเขา ไม่แน่ว่า ผู้รอดชีวิตพวกนั้นอาจมีวิธีมาที่นี่อย่างปลอดภัย…แต่สิ่งที่หลิงม่อกำลังคิดถึงจริงๆ ในตอนนี้ กลับเป็น—ถังฮ่าวกับผีเสื้อ บางทีอาจมีเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วย พวกเขาสามคน อย่างน้อยต้องเคยเข้ามาในหลุมนี้ ไม่แน่ว่า พวกเขาอาจเจอวิธีแปลงร่างจากที่นี่ก็ได้ เพียงแต่เรื่องที่ดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญพวกนี้ ความจริงแล้วกลับเป็นแผนการของเด็กผู้หญิงคนนั้นทั้งหมด…

“จากที่ถังฮ่าวเคยเล่า คนที่มีพลังนี้เป็นคนแรก ก็คือผีเสื้อ…แต่ถ้าหากพลังของผีเสื้อได้มาจากการที่เด็กผู้หญิงคนนั้นพาเขามาเจอล่ะ? ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างก็เข้าเค้าแล้ว! ตอนแรกคนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นหมายตาคือผีเสื้อ ต่อมา ภายใต้การชี้นำของเด็กผู้หญิงคนนั้นผีเสื้อเริ่มออกตามหาผู้รอดชีวิตทั่วทิศ จากนั้นก็เปลี่ยนพวกเขามาเป็นตัวทดลองของตัวเองทีละตคนๆ ไม่สิ บางทีอีกหนึ่งบุคลิกของผีเสื้อ ความจริงก็คือเธอเอง…จะว่าไปเวลาเธอพูด ก็รู้สึกคุ้นหูแปลกๆ อยู่เหมือนกัน…นอกจากนี้ เพื่อที่จะควบคุมพวกเขาให้ดีขึ้น เธอได้สร้างเรื่องโกหกที่ว่าสามารถกำจัดผลข้างเคียงได้ขึ้นมา…หรือพูดอีกอย่างคือ เธอได้ทำให้พวกนั้นกตระหนักถึงผลข้างเคียง เพื่อทำให้พวกเขารั้งอยู่ที่นี่ต่อไป ถ้าไม่อย่างนั้นสถานที่ที่ไม่เหมาะแก่การอาศัยอยู่อย่างนี้ พวกเขาไม่มีทางอยู่มานานขนาดนี้ได้แน่…หลังจากที่ผู้รอดชีวิตที่อยู่รอบๆ ถูกพาตัวมาจนหมด พวกเราก็มาปรากฏตัวที่นี่พอดี แต่ในตอนนี้ ตอนที่การทดลองของเด็กผู้หญิงคนนั้นก็กำลังเข้าสู่ช่วงท้าย ความอดทนของผู้รอดชีวิตพวกนั้นก็หมดลง!”

หลิงม่อพลันกระจ่างทันใด…เข้าใจหมดแล้ว หากเป็นอย่างนี้ เขาก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว!

“เดิมทีเด็กผู้หญิงคนนี้ตั้งใจจะให้ผู้รอดชีวิตเหล่านี้ดำเนินแผนการ แต่กลับไม่คิดว่าจะถูกเราขัดขวาง…บางเธออาจเห็นเราตั้งแต่ตอนที่บังคับหุ่นซอมบี้ให้แอบเข้ามาในบริษัทลอว์สันแล้วก็ได้…ตอนนั้น ใครกันแน่ที่เห็นเรา…” หลิงม่อทวนความจำอย่างรวดเร็ว

ร่างกายร่างนี้เป็นของหุ่นซอมบี้ และความสามารถในการจดจำของซอมบี้ ก็เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดามาก…ระหว่างที่หลิงม่อกำลังควานหาข้อมูลในความทรงจำ เขารู้สึกราวกับมีภาพสไลด์ไหลผ่านหน้าตัวเองไปอย่างรวดเร็ว…

“เป็นเธอ!”

หลิงม่อพลันชะงักหยุด และเบิกตาค้าง

ตอนแรกเขานึกว่าจะเป็นซอมบี้ร่างแม่ฟางอิ๋ง แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาเห็น กลับเป็นซอมบี้ตัวน้อยที่หลบอยู่หลังม่านหน้าต่าง…เสี่ยวเยว่เอ๋อ หรือพูดให้ถูกก็คือ ปรสิตที่อยู่ในปากของเธอ…

ด้านหลังม่านหน้าต่าง มันกำลังจ้องมองลงมาที่ซอมบี้ตัวนี้ที่จู่ๆ ก็เริ่มขยับตัว…และก่อนหน้านี้ ก็เป็นมันที่จ้องพวกหลิงม่อซึ่งหลบอยู่หลังรถบัส…มันจ้องมองพวกหลิงม่อมาโดยตลอด และหลิงม่อก็เพิ่งมารู้ตัวเอาป่านนี้…

“มันถูกเราฆ่าไปแล้ว…แต่เสี่ยวเยว่เอ๋อยังไม่ตาย…” หลิงม่อขนลุก อยู่ๆ เขาก็เข้าใจ ทำไมเด็กผู้หญิงคนนั้นถึงได้ดูมั่นอกมั่นใจขนาดนั้น…เพราะว่าเธอลอบสังเกตการณ์พวกเขามาตั้งแต่ต้นจนจบ กระทั่งตอนที่หลิงม่อไม่รู้อะไร เธอได้พบและมีปฏิสัมพันธ์กับเขาแล้ว แต่ว่า เธอรู้หรือเปล่าว่านั่นคือหลิงม่อ…

หลิงม่อกำลังครุ่นคิดปัญหานี้ นอกจากนี้ เขาก็ยังลอบดีใจรางๆ

อย่างน้อย ตอนนี้เขาก็รู้แล้ว…และก่อนหน้านี้ เขาก็เริ่มมีข้อสงสัยคล้ายๆ กันนี้มานานแล้วด้วย นั่นแสดงว่า ความมั่นใจของอีกฝ่ายมีช่องโหว่ให้โจมตีได้…

“แกว๊กๆ…”

สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดกลับคลานลงหลุมไปอย่างรีบร้อน มันลูบคลำตรงขอบหลุมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วอยู่ๆ ก็หันตัวมา ดึงหลิงม่อให้ลงไปด้วย

หลิงม่อพลันได้สติ รู้สึกหนังศีรษะตึงชาอย่างบ้าคลั่ง เขาหมายจะอ้าปากด่า แต่กลับถูกภาพตรงหน้าทำให้ช็อกค่างไปก่อน……

ร่างกายโปร่งใส ราวกับเครื่องประดับอำพันร่างหนึ่ง กำลังถูกทับอยู่ข้างล่างนี้…ของเหลวหนืดนอกตัวของมันถูกดูดกลืนเข้าไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงชั้นบางๆ เท่านั้น…ดังนั้นรูปร่างของมัน จึงปรากฏสู่สายตาหลิงม่ออย่างชัดเจน

นี่คือเรือนร่างที่ทั้งเล็กและบอบบาง ไม่ต่างจากมนุษย์เพศหญิงเลยแม้แต่น้อย…ดูจากความสูง มันน่าจะไม่ต่างจากอวี๋ซือหรานนัก แต่กลับผอมบางกว่าอวี๋ซือหราน ผมหยิกยาวสีดำหุ่อหุ้มร่างกายของมันไว้บางส่วนไปจนถึงข้อเท้า และตรงลำคอของมัน สัญลักษณ์คล้ายตะขาบตัวหนึ่งลากยาวไปจนถึงหัวไหล่ แต่สัญลักษณ์สีแดงเลือดนั้นกลับไม่ได้ดูน่าเกลียดน่ากลัว ตรงกันข้าม มันกลับเผยความงามที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือด และโหดเหี้ยมดุดันออกมาได้เป็นอย่างดี…

หลิงม่อถูกสัญลักษณ์นั้นดึงดูดสายตาทันที ผ่านไปหลายวินาที กว่าเขาจะเลื่อนสายตาไปมองใบหน้าของมัน…

“เชี่ยย!”

—————————————————————————–

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1014 เด็กสาวในอำพัน

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1014 เด็กสาวในอำพัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“…” ในช่องว่างที่ทั้งแคบและอึดอัดนี้ หลิงม่อจ้องตากับสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดอย่างเงียบงัน…

หลายวินาทีผ่านไป เขาเลื่อนสายตาออกไป แล้วเริ่มพุ้ยของเหลวชั้นนี้ออกอย่างยากลำบาก

เนื่องจากเจ้าสิ่งนี้ยังไม่จับตัวกันอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นถึงแม้ในสถานการณ์ที่หุ่นซอมบี้ไม่มีแรง หลิงม่อก็ยังใช้เล็บอันแหลมคมของมันขุดตัวสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดออกมาได้

เพียงแต่ในขณะที่สัตว์ประหลาดไอหมอกมือตัวนั้นเพิ่งจะยื่นมือออกมา หมายจะปีนออกจากรอยแหวกนั้น หลิงม่อกลับกระโจนเข้าไปทันที…

“แกว๊กๆ…” สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดพยายามขัดขืน แต่มือข้างนั้นของมันถูกหุ่นซอมบี้จับไว้แล้ว แถมร่างกายยังติดอยู่ในชั้นของเหลวหนืดอีก ถึงแม้มันมีเรี่ยวแรงมากกว่าซอมบี้สภาพร่อแร่ตัวนี้หลายขุม แต่เมื่อตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ติดอยู่ในที่แคบ และเสียเปรียบอย่างนี้ สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดจึงตกเป็นรองทันที

หลิงม่อฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายยังไม่ทันยื่นมืออีกข้างออกมา เอามือตัวเองล้วงเข้าไปก่อน…

“หื้ม?”

ด้านในชั้นของเหลวหนืดนั้น สิ่งแรกที่เขาคลำเจอคือผิวหนังอ่อนนุ่ม…ทว่าไม่นาน เขาก็เริ่มควานมือสะเปะสะปะไปทั่ว

“รีบบอกมา แกเป็นใครกันแน่? ฉันดูออกนะ ว่าแกอยากเข้ามาในนี้เอง ใช่ไหมล่ะ? มนุษย์ประหลาดที่ถูกยัดเข้ามาเมื่อกี้ ความจริงแกเป็นคนส่งมันมาเองใช่ไหม? ที่แกทำอย่างนี้ ก็เพื่อจะทำให้สัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างบนนี้หมดแรง…จากนั้นแกก็จะฉวยโอกาสเคลื่อนไหวสินะ? ถ้าหากที่ฉันเดามาถูกทั้งหมด ถ้าอย่างนั้นฉันมีคำถาม บอกวมา ทำไมต้องเลือกฉัน? ตกลงว่า…” หลิงม่อกดเสียงต่ำ เค้นถาม

“แกว๊กๆ…”

สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดพยายามดิ้นพล่าน จนสุดท้ายก็พลิกตัวได้สำเร็จ หลิงม่อพลันรู้สึกว่าแผ่นหลังแนบติด “ไข่” เหล่านั้น ผ่านไปไม่นาน มือเขาก็หลุดออกจากตัวอีกฝ่าย

ไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดตัวนั้นใช้วิธีอะไร ถึงได้สร้างรูข้างบนหัว และพยายามเบียดตัวออกไปจนได้ พอเห็นอีกฝ่ายกำลังคลานลึกเข้าไปข้างใน หลิงม่อก็คว้าข้อเท้าของมันทันที…ถึงแม้ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นใคร แต่หลิงม่อมั่นใจในการคาดเดคาของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าเพราะเหตุนี้ เขากลับรู้สึกโมโหมากกว่าเดิม…

สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดถลึงตาจ้องเขา แต่กลับไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด ได้แต่ลากหุ่นซอมบี้คลานต่อไปด้วย หลังผ่านไป 4 – 5 วินาที หลิงม่อก็รู้สึกว่ารอบข้างเริ่มว่างเปล่าแล้ว…ช่องว่างระหว่าง “ไข่” เหล่านั้นกับหุ่นซอมบี้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด…ไม่นาน เขากับสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดก็มาถึงบริเวณขอบของหลุมขนาดใหญ่หลุมหนึ่ง…

หลุมนี้ดูไม่ลึกมาก ด้านบนเต็มไปด้วย “ไข่” จำนวนมหาศาล…และมองจากตรงนี้ขึ้นไป ก็จะเห็นและเข้าใจ “ลำดับขั้น” ของสัตว์ประหลาดใต้ดินเหล่านี้ ด้านนอกสุดคือมนุษย์ประหลาด ต่อมาเป็นสัตว์ประหลาดไอหมอกมืด ลึกเข้ามาเป็นพวก “มนุษย์หน้าอืด” และตรงกลางสุด ก็คือสัตว์ประหลาดที่ล่อพวกเขาเข้ามาในตอนแรกสุดนั่นเอง…นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสัตว์ประหลาดเปลี่ยนหน้าอยู่ตัวหนึ่งด้วย…

“ไม่น่าล่ะช่องทางเดินที่ทอดยาวมาสู่ที่นี่ถึงได้มีการคุ้มกันแน่นหนานัก…ที่แท้ที่นี่ก็คือฐานทัพใหญ่ของพวกมันนี่เอง… แต่มีกันเยอะขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือสัตว์ประหลาดตัวที่อยู่ข้างนอกนั้นตัวเดียว? พวกนี้…คงไม่ได้ใกล้ ‘ลืมตาดูโลก’ แล้วหรอกนะ? หลิงม่อจ้องมองสัตว์ประหลาดพวกนั้นปากอ้าตาค้าง ขณะที่เขากวาดมองพวกมันทีละตัวๆ อยู่ๆ หน้าอกของพวกมันบางตัวก็กระเพื่อมขึ้นลง

“ชั้นของเหลวหนืดนั่น…มีฟองอากาศอยู่หรอ? ถ้าไม่อย่างนั้นพวกมันจะหายใจได้ไง?” ไม่ต้องคิดหลิงม่อก็รู้ ว่าในของเหลวหนืดเหล่านั้นมีเชื้อไวรัสผสมอยู่ด้วย ระหว่างที่ถูกของเหลวหนืดห่อหุ้ม เชื้อไวรัสที่ผสมอยู่ในนั้นจะแทรกซึมผ่านผิวหนังเข้าไปในร่างกายของสัตว์ประหลาดพวกนี้ และเริ่ม “ปรับโครงสร้าง” ร่างกายของพวกมัน น่าเสียดายที่เวลามีจำกัด จะให้เขาลองสัมผัสประสบการณ์นั้นด้วยตัวเองก็คงไม่ทัน…

คิดถึงตรงนี้ อยู่ๆ หลิงม่อก็มีความคิดแปลกๆ ผุดขึ้นมา…

“ถังฮ่าวเคยมาที่นี่!”

เรื่องนี้แทบไม่ต้องสงสัยเลย…และเป็นไปได้มากว่าเส้นทางที่ถังฮ่าวใช้ อาจไม่ใช่ทางเดียวกับพวกเขา ไม่แน่ว่า ผู้รอดชีวิตพวกนั้นอาจมีวิธีมาที่นี่อย่างปลอดภัย…แต่สิ่งที่หลิงม่อกำลังคิดถึงจริงๆ ในตอนนี้ กลับเป็น—ถังฮ่าวกับผีเสื้อ บางทีอาจมีเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วย พวกเขาสามคน อย่างน้อยต้องเคยเข้ามาในหลุมนี้ ไม่แน่ว่า พวกเขาอาจเจอวิธีแปลงร่างจากที่นี่ก็ได้ เพียงแต่เรื่องที่ดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญพวกนี้ ความจริงแล้วกลับเป็นแผนการของเด็กผู้หญิงคนนั้นทั้งหมด…

“จากที่ถังฮ่าวเคยเล่า คนที่มีพลังนี้เป็นคนแรก ก็คือผีเสื้อ…แต่ถ้าหากพลังของผีเสื้อได้มาจากการที่เด็กผู้หญิงคนนั้นพาเขามาเจอล่ะ? ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างก็เข้าเค้าแล้ว! ตอนแรกคนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นหมายตาคือผีเสื้อ ต่อมา ภายใต้การชี้นำของเด็กผู้หญิงคนนั้นผีเสื้อเริ่มออกตามหาผู้รอดชีวิตทั่วทิศ จากนั้นก็เปลี่ยนพวกเขามาเป็นตัวทดลองของตัวเองทีละตคนๆ ไม่สิ บางทีอีกหนึ่งบุคลิกของผีเสื้อ ความจริงก็คือเธอเอง…จะว่าไปเวลาเธอพูด ก็รู้สึกคุ้นหูแปลกๆ อยู่เหมือนกัน…นอกจากนี้ เพื่อที่จะควบคุมพวกเขาให้ดีขึ้น เธอได้สร้างเรื่องโกหกที่ว่าสามารถกำจัดผลข้างเคียงได้ขึ้นมา…หรือพูดอีกอย่างคือ เธอได้ทำให้พวกนั้นกตระหนักถึงผลข้างเคียง เพื่อทำให้พวกเขารั้งอยู่ที่นี่ต่อไป ถ้าไม่อย่างนั้นสถานที่ที่ไม่เหมาะแก่การอาศัยอยู่อย่างนี้ พวกเขาไม่มีทางอยู่มานานขนาดนี้ได้แน่…หลังจากที่ผู้รอดชีวิตที่อยู่รอบๆ ถูกพาตัวมาจนหมด พวกเราก็มาปรากฏตัวที่นี่พอดี แต่ในตอนนี้ ตอนที่การทดลองของเด็กผู้หญิงคนนั้นก็กำลังเข้าสู่ช่วงท้าย ความอดทนของผู้รอดชีวิตพวกนั้นก็หมดลง!”

หลิงม่อพลันกระจ่างทันใด…เข้าใจหมดแล้ว หากเป็นอย่างนี้ เขาก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว!

“เดิมทีเด็กผู้หญิงคนนี้ตั้งใจจะให้ผู้รอดชีวิตเหล่านี้ดำเนินแผนการ แต่กลับไม่คิดว่าจะถูกเราขัดขวาง…บางเธออาจเห็นเราตั้งแต่ตอนที่บังคับหุ่นซอมบี้ให้แอบเข้ามาในบริษัทลอว์สันแล้วก็ได้…ตอนนั้น ใครกันแน่ที่เห็นเรา…” หลิงม่อทวนความจำอย่างรวดเร็ว

ร่างกายร่างนี้เป็นของหุ่นซอมบี้ และความสามารถในการจดจำของซอมบี้ ก็เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดามาก…ระหว่างที่หลิงม่อกำลังควานหาข้อมูลในความทรงจำ เขารู้สึกราวกับมีภาพสไลด์ไหลผ่านหน้าตัวเองไปอย่างรวดเร็ว…

“เป็นเธอ!”

หลิงม่อพลันชะงักหยุด และเบิกตาค้าง

ตอนแรกเขานึกว่าจะเป็นซอมบี้ร่างแม่ฟางอิ๋ง แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาเห็น กลับเป็นซอมบี้ตัวน้อยที่หลบอยู่หลังม่านหน้าต่าง…เสี่ยวเยว่เอ๋อ หรือพูดให้ถูกก็คือ ปรสิตที่อยู่ในปากของเธอ…

ด้านหลังม่านหน้าต่าง มันกำลังจ้องมองลงมาที่ซอมบี้ตัวนี้ที่จู่ๆ ก็เริ่มขยับตัว…และก่อนหน้านี้ ก็เป็นมันที่จ้องพวกหลิงม่อซึ่งหลบอยู่หลังรถบัส…มันจ้องมองพวกหลิงม่อมาโดยตลอด และหลิงม่อก็เพิ่งมารู้ตัวเอาป่านนี้…

“มันถูกเราฆ่าไปแล้ว…แต่เสี่ยวเยว่เอ๋อยังไม่ตาย…” หลิงม่อขนลุก อยู่ๆ เขาก็เข้าใจ ทำไมเด็กผู้หญิงคนนั้นถึงได้ดูมั่นอกมั่นใจขนาดนั้น…เพราะว่าเธอลอบสังเกตการณ์พวกเขามาตั้งแต่ต้นจนจบ กระทั่งตอนที่หลิงม่อไม่รู้อะไร เธอได้พบและมีปฏิสัมพันธ์กับเขาแล้ว แต่ว่า เธอรู้หรือเปล่าว่านั่นคือหลิงม่อ…

หลิงม่อกำลังครุ่นคิดปัญหานี้ นอกจากนี้ เขาก็ยังลอบดีใจรางๆ

อย่างน้อย ตอนนี้เขาก็รู้แล้ว…และก่อนหน้านี้ เขาก็เริ่มมีข้อสงสัยคล้ายๆ กันนี้มานานแล้วด้วย นั่นแสดงว่า ความมั่นใจของอีกฝ่ายมีช่องโหว่ให้โจมตีได้…

“แกว๊กๆ…”

สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดกลับคลานลงหลุมไปอย่างรีบร้อน มันลูบคลำตรงขอบหลุมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วอยู่ๆ ก็หันตัวมา ดึงหลิงม่อให้ลงไปด้วย

หลิงม่อพลันได้สติ รู้สึกหนังศีรษะตึงชาอย่างบ้าคลั่ง เขาหมายจะอ้าปากด่า แต่กลับถูกภาพตรงหน้าทำให้ช็อกค่างไปก่อน……

ร่างกายโปร่งใส ราวกับเครื่องประดับอำพันร่างหนึ่ง กำลังถูกทับอยู่ข้างล่างนี้…ของเหลวหนืดนอกตัวของมันถูกดูดกลืนเข้าไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงชั้นบางๆ เท่านั้น…ดังนั้นรูปร่างของมัน จึงปรากฏสู่สายตาหลิงม่ออย่างชัดเจน

นี่คือเรือนร่างที่ทั้งเล็กและบอบบาง ไม่ต่างจากมนุษย์เพศหญิงเลยแม้แต่น้อย…ดูจากความสูง มันน่าจะไม่ต่างจากอวี๋ซือหรานนัก แต่กลับผอมบางกว่าอวี๋ซือหราน ผมหยิกยาวสีดำหุ่อหุ้มร่างกายของมันไว้บางส่วนไปจนถึงข้อเท้า และตรงลำคอของมัน สัญลักษณ์คล้ายตะขาบตัวหนึ่งลากยาวไปจนถึงหัวไหล่ แต่สัญลักษณ์สีแดงเลือดนั้นกลับไม่ได้ดูน่าเกลียดน่ากลัว ตรงกันข้าม มันกลับเผยความงามที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือด และโหดเหี้ยมดุดันออกมาได้เป็นอย่างดี…

หลิงม่อถูกสัญลักษณ์นั้นดึงดูดสายตาทันที ผ่านไปหลายวินาที กว่าเขาจะเลื่อนสายตาไปมองใบหน้าของมัน…

“เชี่ยย!”

—————————————————————————–

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+