แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 933 แดงกับดำ!

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 933 แดงกับดำ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ฮ่าฮ่าฮ่า…” ผีเสื้อหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พลางขยับร่างกายไปมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาขยับตัว ผีเสื้อที่อยู่บนร่างกายเขาเหล่านั้นก็ “กระพือ” ปีกไปมา ราวกับมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ทว่ามันไม่เพียงไม่ได้ดูสวยงาม แต่กลับให้ความรู้สึกน่าขนลุกแทน มีผีเสื้อรูปร่างบิดเบี้ยวน่ากลัว “กระพือ” ปีกไปมาอยู่ทั่วตัวคนเป็นๆ คนหนึ่ง คิดอย่างไรก็เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากอยู่ดี…

หลิงม่อมองดูเพียงแวบเดียว ก็รู้สึกตาลายขึ้นมาทันที จนถึงขั้นทำให้ควบคุมหนวดสัมผัสได้ช้าลงหนึ่งก้าว ขณะเดียวกันเสียงหัวเราะของผีเสื้อก็ดังชัดเจนขึ้นราวกับอยู่ข้างหู เสียงนั้นเดี๋ยวหญิงเดี๋ยวชาย บางครั้งก็ดังขึ้นพร้อมกันทั้งสองเสียง เมื่อผ่านไปนานเข้า ก็รู้สึกราวกับว่ามีผีเสื้อนับไม่ถ้วนกำลังพยายามมุดเข้าไปในสมองผ่านรูหู

“แย่แล้ว!”

หลิงม่อรีบยกมือปิดหู จากนั้นก็สะบัดหัวไปมา

เผลอใจลอยแวบเดียว ผีเสื้อก็หลบการโจมตีจากหนวดสัมผัสเขาไปได้กว่าครึ่งแล้ว กระทั่งหนวดสัมผัสบางส่วนถึงขั้นสลายหายไปกลางอากาศทันที

“ไม่คิดเลยว่าจะมีไม้นี้ซ่อนอยู่ด้วย…” หลิงม่อคิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จะว่าไปแล้ว ถึงแม้หนวดสัมผัสทางจิตจะสามารถควบคุมได้อย่างใจ แต่ระหว่างใช้มันก็ยังได้รับผลกระทบจากสภาพดวงจิตของหลิงม่ออยู่ หากเขาถูกทำให้ไขว้เขว หรือถูกโจมตีด้วยพลังจิตอื่นๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อความแม่นยำในการควบคุม ยิ่งจำนวนหนวดสัมผัสมีเยอะ ผลกระทบที่จะได้รับก็ยิ่งมากขึ้น…ในทางกลับกัน ระดับความแกร่งพลังจิตของตัวผู้ใช้ สามารถลดผลข้างเคียงประเภทนี้ให้เบาลงได้ หากมีพลังจิตที่แข็งแกร่งในระดับหนึ่ง ก็จะสามารถมองข้ามปัญหานี้ไปได้ หรือกระทั่งทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บได้เลยทีเดียว

แน่นอนหากดูจากพลังของหลิงม่อในปัจจุบัน เขายังไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ในความจริงจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เคยเห็นผู้มีพลังจิตหรือซอมบี้กลายร่างทำได้ถึงขั้นนั้นเลยซักคน…ในความคิดเขา บางทีอาจมีแค่แหล่งแพร่เชื้อของผู้มีพลังจิตที่ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาคนนั้นเพียงคนเดียว ที่สามารถทำได้ถึงขั้นนั้น…

“ชิ…ถ้ามีโอกาสล่ะก็ จะต้องตามหาเจ้าตัวแพร่เชื้อตัวนั้นให้เจอ…รอยสักผีเสื้อของคนคนนี้สามารถส่งผลกระทบต่อดวงจิตผ่านการมองเห็นได้ แถมทั้งตัวเขาก็มีแต่ผีเสื้อเต็มไปหมด หากใครมองเขาด้วยตาเปล่า ก็ไม่อาจหลบเลี่ยงผลกระทบนี้ได้…ส่วนเสียงหัวเราะของเขา น่าจะเป็นคลื่นเสียงพิเศษชนิดหนึ่งที่เกิดจากการดัดแปลงเส้นเสียงของเขา…”

ไม่นานหลิงม่อก็วิเคราะห์ความสามารถใหม่ของผีเสื้อออกอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน หนวดสัมผัสส่วนที่เหลือของเขาก็ได้พุ่งตามไปติดๆ อย่างไม่ลดละ

“หึหึ แกน่าจะได้เห็นสีหน้าของแกตอนนี้นะ! เป็นไงล่ะ คิดไม่ถึงใช่ไหม? แกคิดว่าฉันจะสู้ผู้มีพลังจิตไม่ได้จริงๆ น่ะหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า…แต่ก็จริงล่ะนะ คนที่อยู่ใน “กองกำลังขนาดใหญ่” มีกินมีใช้ แถมยังมีอาวุธปืนอย่างแก จะเข้าใจได้ยังไงว่าคนอย่างพวกฉันต้องใช้ชีวิตหลบซ่อนอยู่ในซอกหลืบอย่างยากลำบากขนาดไหนกว่าจะรอดมาได้? พวกฉันไม่เหมือนพวกแกหรอกนะ ชีวิตในแต่ละวันของพวกฉัน แลกมาด้วยการเสี่ยงชีวิตทุกครั้ง ทุกยี่สิบสี่ชั่วโมงในหนึ่งวัน ไม่มีวินาทีไหนที่รู้สึกปลอดภัยเลย พวกแกได้ใช้ชีวิตโดยมีมนุษย์รายล้อมรอบตัว แต่พวกฉันกลับต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางซอมบี้!” ผีเสื้อพลันหันหน้าอีกครึ่งซีกมา ใบหน้าครึ่งที่ถูกปีกสีดำสยายปกคลุมเผยสีหน้าแปลกๆ เหมือนทั้งกำลังหยิ่งผยองได้ใจ และเหมือนโกรธแค้นด้วย ในขณะเดียวกันเสียงที่จะชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิง ก็พลันเปลี่ยนเป็นเสียงผู้ชายคลุ้มคลั่งทันใด

เขายกแขนขึ้น และพาร่างกายโฉบหลบหนวดสัมผัสออกไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว

“แกนี่โยนความผิดให้คนอื่นเก่งดีนะ” หลิงม่อพูดเสียงเย็นชา “เส้นทางการใช้ชีวิตเป็นสิ่งที่แต่ละคนเลือกด้วยตัวเอง แม้จะเป็นคนที่อยู่ในค่าย ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ชีวิตสุขสบายไปวันๆ โดยไม่ต้องแลกอะไรเลย ดูเหมือนว่ากาก็คงต้องเข้าฝูงกา หงส์ก็คงต้องเข้าฝูงหงส์สินะ…สำหรับเรื่องที่ตัวเองไม่รู้ดี พวกแกมักชอบตัดสินส่งเดชตามใจตัวเอง กับซอมบี้ก็ทำอย่างนี้ กับมนุษย์ก็ทำเหมือนกัน”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…แกจะไปเข้าใจอะไร!”

ผีเสื้อโฉบหลบหนวดสัมผัสอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ตะโกนก้องอย่างบ้าคลั่ง “แกไม่มีความสามารถอย่างอื่นแล้วหรอ? พลังแค่นี้แกยังกล้าบอกว่า…” เขายังพูดไม่ทันจบ ทันใดนั้นก็ต้องเบิกตากว้าง ร่างกายเขาเสียศูนย์ จึงต้องก้าวถอยหลังอย่างควบคุมไม่ได้

และในระหว่างนี้ ดวงตาทั้งคู่ของเขาก็ก้มมองเท่าตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ…บนรูแผลสองสามแผลที่โผล่ขึ้นมา เลือดสีแดงฉานกำลังไหลซึมออกมาช้าๆ…

“ดูเหมือนแค่พลังนี้ แกก็รับมือได้ลำบากแล้วนี่…” หลิงม่อบอก

ผีเสื้อเดินเซไปเล็กน้อย แล้วไม่นานก็ร้องเสียงดังขึ้นทันใด “อ๊ากก! แกทำตั้งแต่เมื่อไหร่…”

“ตั้งแต่แรก ถ้าหากไม่ได้ถูกแกรบกวนไปเล็กน้อย เมื่อกี้แกคงโดนไปเต็มๆ แล้วล่ะ” หลิงม่อตอบคำถามเหมือนรู้ใจ

เพียงแต่ท่าที “ตรงไปตรงมา” ของเขานี้ กลับทำให้สีหน้าของผีเสื้อบิดเบี้ยวขึ้นมาทันที “แกกล้าทำน้องฉันเจ็บ ย๊ากกกก!” ฝ่ามือข้างที่ถูกผีเสื้อสีดำแผ่ปกคลุมกำหมัดแน่น ขณะเดียวกันผีเสื้อพวกนั้นก็นูนขึ้นจากผิวหนังชั้นนอก ทำให้ดูน่ากลัวขึ้นอีก ถึงแม้จะอยู่ห่างกันไกลขนาดนี้ หลิงม่อก็ยังรู้สึกได้ว่าแขนข้างนั้นกำลังรวบรวมอะไรซักอย่างอยู่

“ฉิบหายแล้ว ไอ้โรคจิตคลั่งน้องสาวกำลังจะปล่อยท่าไม้ตายแล้ว” แม้สถานการณ์คับขัน หลิงม่อก็ยังไม่ลืมที่จะค่อนแคะซักเล็กน้อย

ทว่าไม่นาน สีหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอย่างรวดเร็ว…อุตส่าห์เตรียมลอบโจมตีอยู่ตั้งนานแต่กลับทำได้แค่แทงทะลุฝ่าเท้าของหมอนั่น เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน ในขณะที่กำลังลอบคิดเสียดายอยู่นั้น หลิงม่อก็เพิ่มความระแวดระวังต่อคนคนนี้มากขึ้นไปอีก

“แกจำได้ใช่ไหม ที่เมื่อกี้ฉันบอกว่าพวกฉันมีกันสองคน…” อยู่ๆ ผีเสื้อก็พูดโพล่งขึ้นมา

“หมายความว่ายังไง นั่นมันก็แค่ความเพ้อฝันของพวกโรคจิตคลั่งน้องสาวไม่ใช่หรอ…” ไม่รอให้หลิงม่อได้ใคร่ครวญอย่างละเอียด ผีเสื้อพลันกระโจนมาข้างหน้า และพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูง

เดิมทีระยะห่างระหว่างทั้งสองไม่ถึงห้าสิบเมตรอยู่แล้ว สำหรับผีเสื้อ ระยะทางที่สั้นเพียงเท่านี้แค่พริบตาเดียวก็ถึงแล้ว

“หากถูกประชิดตัว เขาก็จบเห่แล้ว!” ถังฮ่าวที่ยืนอยู่ข้างหลังพลันเบิกตากว้าง จ้องมองภาพตรงหน้าอย่างเนื้อเต้น

ตั้งแต่ตอนที่เริ่มสู้กันจนถึงตอนนี้ เขาเห็นเพียง “การโจมตีไร้รูป” รวมถึงพลังจิตก่อกวนจากหลิงม่อเท่านั้น…ถึงแม้เขาจะยังมีพลังอื่นซ่อนอยู่ แต่ในฐานะที่เป็นผู้มีพลังจิตซึ่งมีความสามารถด้านการต่อสู้ระยะประชิดไม่ต่างจากคนทั่วไป ถ้าหากถูกผีเสื้อประชิดเข้าข้างหน้า เขาต้องตายแน่ๆ!

ปัญหาในตอนนี้คือ ผีเสื้อจะสามารถประชิดเข้าไปได้หรือไม่? และหลิงม่อจะยืนมองดูเขาประชิดเข้าหาตัวเองอยู่เฉยๆ หรือ?!

ถังฮ่าวยืนลุ้นอย่างระทึกใจอยู่ข้างหลัง

แม้แต่เสี่ยวป๋ายที่กำลังหิ้วปีกเขาก็ร้อง “แบ๊” ออกมาเบาๆ ด้วย ราวกับกำลังลังเลว่าจะเข้าไปช่วยดีไหม สำหรับหมีแพนด้ากลายพันธุ์ตัวหนึ่ง การตัดสินใจอันซับซ้อนนี้ เห็นชัดว่าเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับมัน…

แต่ผีเสื้อและหลิงม่อที่กำลังอยู่ในการต่อสู้ที่แท้จริง กลับมีความรู้สึกที่ต่างกันออกไปในขณะนี้

คมปลาบ แต่ก็รวดเร็วด้วยเช่นกัน ในเสี้ยววินาทีที่ผีเสื้อพุ่งทะยานเข้ามา หลิงม่อรู้สึกราวกับมีใบมีดบางๆ เล่มหนึ่งตวัดเข้ามาที่ดวงตาตัวเอง

ผีเสื้อมากมายนับไม่ถ้วนเบียดเสียดอยู่ด้วยกัน พวกมันพุ่งเข้ามายังเขาโดยที่มีผีเสื้อตัวที่อยู่บนใบหน้าบินนำ ถ้าหากถูกพวกมันล้อมไว้ได้ สิ่งที่หลงเหลืออยู่หลังจากที่พวกมันจากไป อาจเป็นโครงกระดูกเปล่าก็ได้

นี่ไม่ใช่ผีเสื้อธรรมดาทั่วไป แต่เป็นผีเสื้อที่อยู่ในสภาวะซอมบี้…

“ถังฮ่าวไม่ได้บอกหมด ความสามารถสายกลายพันธุ์นี้ ความจริงเกิดจากการแปลงร่างที่ถูกดัดแปลงไป มันคือการเพิ่มลักษณะเด่นบางอย่างของซอมบี้ลงไปบนพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว…” หลิงม่อรู้สึกเพียงว่าหนังศีรษะพลันตึงชา ทันใดนั้นเขาหลับตาแน่น

มองไม่ได้…ห้ามฟังด้วย…หากถูกก่อกวนเข้า คนที่จะถูกโจมตีในวินาทีถัดไป เกรงว่าจะต้องเป็นตัวเขาเองเสียแล้ว

ในวินาทีนี้ หลิงม่อพลันรวบรวมพลังจิตให้สูงขึ้นกว่าเดิม หนวดสัมผัสสีเลือดมากมายพุ่งออกมาจากดวงแสงแห่งจิตของเขาอย่างต่อเนื่อง และรายล้อมตัวเขาราวกับพายุไร้รูปที่กำลังก่อตัว

ขณะเดียวกัน ผีเสื้อที่กำลังพุ่งทะยานออกมาด้วยความเร็วสูงพลันหดม่านตาทันใด ดวงตาข้างที่เป็นสีดำยังคงบ้าคลั่ง แต่ข้างที่เป็นสีแดงกลับเผยแววตาที่ต่างออกไป

“ถึงแม้มองไม่เห็น แต่น้องผีเสื้อกลับไวต่อการเปลี่ยนแปลงของการไหลเวียนของอากาศ…ดังนั้นเราถึงได้หลบการโจมตีของมันพ้น แต่ตอนนี้สิ่งที่อยู่รอบตัวมัน…คืออะไรกันแน่?”

ในเวลาสั้นๆ เพียงไม่ถึงหนึ่งวินาที หลิงม่อก็ให้ความรู้สึกที่ต่างไปราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ

ข้างกายเขา ราวกับมีการไหลเวียนของอากาศที่ทั้งรุนแรง และบิดเบือนกลุ่มหนึ่ง แต่เขาที่ยืนอยู่ตรงกลาง กลับดูสงบนิ่ง และไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย…

“แต่ว่า ยังไงฉันก็ยังหลบได้อยู่ดี!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด