แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1163 บีบไม่แตกก็ไม่เป็นไร แค่เจาะทะลุได้ก็พอ

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1163 บีบไม่แตกก็ไม่เป็นไร แค่เจาะทะลุได้ก็พอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ลองอีกครั้ง!”

หลังจากล้มเหลวหนึ่งครั้ง หลิงม่อก็เริ่มจับจุดได้แล้ว…

“เขาไม่ทีทางเจาะทะลุเข้ามาได้แน่…” หัวหน้าทีมนิพพานสีหน้าไม่สู้ดีนัก ถูกจู่โจมสองครั้งติดกัน ถึงแม้ล้วนต้านรับไว้ได้แล้ว แต่อาการกลับไม่สู้ดีนัก “ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่ดูไม่มีประโยชน์คนนั้น จะมีพลังจิตโจมตีที่แข็งแกร่งขนาดนี้! แวบแรกที่เห็นว่าเธอเป็นคนลงมือยังนึกดูถูก ผลปรากฏว่าเกือบพลาดท่าเสียรู้ซะแล้ว และหลิงม่อ…พลังของหมอนั่นแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้หญิงคนนั้นเสียอีก…”

“แต่ว่า…เขาน่าจะถึงขีดจำกัดแล้วสินะ? ถึงจะพยายามอีกครั้ง อย่างมากก็รุนแรงกว่าครั้งแรกแค่เล็กน้อยเท่านั้น ใช่แล้ว! ไม่ผิดแน่ ผลลัพธ์จากสัมผัสรู้ของฉันบอกอย่างนี้ ไม่มีทางผิดพลาดแน่…” หัวหน้าทีมนิพพานกัดฟันกรอดคิดในใจ เขาถูกนิพพานส่งตัวมา และยังได้รับตำแหน่งหัวหน้า ย่อมมีฝีมือไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ท่ามกลางผู้มีพลังจิตทั้งหมดของนิพพาน เขาถือได้ว่าถูกจัดให้อยู่ในสามอันดับแรก ถึงแม้วิธีการสู้ไม่เหมือนหลิงม่อ พลังจิตก็ต่ำกว่าหลิงม่อมาก แต่ความสามารถด้านการสัมผัสรู้และม่านพลังสกัดกั้นของเขาถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว

ยิ่งเมื่ออยู่ในการต่อสู้ที่ต้องซุ่มโจมตี เขายิ่งได้เปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย…

แต่เริ่มแรกเขามองกู่ซวงซวงผิดไปจริงๆ…กู่ซวงซวงต่างกับหลิงม่อ เพราะพลังของเธอค่อนข้างสุดโต่ง นอกจากพลังสัมผัสรู้ที่อ่อนแอมากแล้ว พลังต่อสู้ทั้งหมดของเธอล้วนพุ่งเป้าไปที่พลังคลื่นสะท้าน และนั่นก็เป็นพลังจิตโจมตีที่ร้ายกาจมากอย่างหนึ่ง เพียงแต่กู่ซวงซวงยังมีพลังจิตไม่มากพอ บวกกับวิธีการต่อสู้ที่ตายตัว จึงยากที่จะประกอบให้เป็นพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งได้

ทว่าเรื่องนี้ก็เป็นการบ่งบอกว่าศักยภาพแฝงของกู่ซวงซวงนั้นสูงมาก ไม่อย่างนั้นหลิงม่อคงไม่เลือกให้เธอเข้าร่วมทีมปาฏิหาริย์ตั้งแต่แรก

“อย่างไรในอนาคตเราก็ต้องการคนช่วย…ยิ่งพลังของพวกเขาแข็งแกร่งเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยเราได้มากเท่านั้น และการที่เอาพวกเขามาไว้ข้างกายตั้งแต่แรก ก็ย่อมพึ่งพาได้มากกว่าอยู่แล้ว…” นี่คือความตั้งใจเดิมของหลิงม่อในการสร้างกลุ่มปาฏิหาริย์ขึ้นมา

ส่วนเรื่องพลังความสามารถ…ค่อยๆ ฝึกฝนก็ได้

พัฒนาการของกู่ซวงซวงก้าวหน้าช้ากว่าเพื่อนเล็กน้อย…แต่ด้วยการฝึกฝนขัดเกลาในช่วงที่ผ่านมา พลังของเธอเริ่มพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ แล้ว โดยเฉพาะเมื่อกี้ เธอสามารถดึงความสามารถทั้งหมดในตอนนี้ออกมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉะนั้น แม้แต่หัวหน้าทีมนิพพานก็ยังถูกเธอโจมตีจนได้รับบาดเจ็บ…

ทว่ากู่ซวงซวงกลับยังคงรู้สึกละอายใจ…ดังนั้นเรื่องที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ก็คือ เพราะเกิดความรู้สึกนี้ขึ้น เธอจึงสามารถเพ่งพลังจิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น…แต่ท่ามกลางความเลือนราง เธอก็ยังสัมผัสได้ถึงเรื่องสำคัญ…เวลานี้ทุกคนรวมถึงตัวเธอด้วย ล้วนกำลังจดจ้องแผ่นหลังของหลิงม่อ

“ต้องรีบแล้ว…อีกฝ่ายไม่มีทางยอมถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวแน่…ถ้าหากพวกเรายังเจาะทะลุไม่ได้ เกรงว่าอีกฝ่ายคงคิดหาทางบีบให้พวกเราเดินเข้าไปแน่นอน พอถึงตอนนั้นพวกเราก็จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ…” สวี่ซูหานคิดอย่างร้อนใจ

“โจมตีสองครั้งติดต่อกัน และฉันก็ตั้งใจโจมตีจุดเดียวกับที่กู่ซวงซวงโจมตีในครั้งแรก…ถึงแม้แกจะต้านทานได้ทั้งสองครั้ง แต่เมื่อกี้ฉันมองออกนะ…ตาข่ายพลังจิตผืนนี้ของแก เริ่มอ่อนลงแล้ว!”

สวบๆ!

หลิงม่อยกมือชี้ หนวดสัมผัสนับร้อยเส้นพลันพุ่งพรวดโจมตีออกไป

หนวดสัมผัสเหล่านี้ไม่ได้กระจายตัว ทว่าพุ่งเป้าไปยังจุดเดียวกัน จากนั้นก็พุ่งแหวกอากาศไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง!

“เมื่อกี้เป็นการโจมตีแบบรอบด้าน…แต่ครั้งนี้เป็นการเล็งเป้าไปยังจุดเดียว!”

“บีบไม่แตกแล้วยังเจาะไม่ทะลุอีกงั้นเหรอ? ทะลุซะเถอะ!”

ครืนนน!

เมื่อเสียงอื้ออึงดังขึ้นในสมองจนเกิดอาการมึนงงไปชั่วขณะ หัวหน้าทีมนิพพานที่เมื่อกี้ยังมั่นใจเต็มเปี่ยมพลันอึ้งงันไป

“ทะลุแล้ว? เร็วขนาดนี้เชียวหรือ?”

ราวกับว่า…ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา…

“เป็นไปไม่ได้…” หัวหน้าทีมนิพพานพึมพำ

ทว่าไม่นาน อาการปวดหัวราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ พลันถาโถมจู่โจมเข้ามาทันใด

“อ๊ากกกกก!”

หัวหน้าทีมนิพพานกรีดร้องอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส สองมือยกขึ้นกุมศีรษะโดยอัตโนมัติ และโขกศีรษะกับผนังด้านหลังอย่างไม่อาจควบคุมได้

“ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก!”

เขาโขกศีรษะกับผนังด้านหลังครั้งแล้วครั้งเล่า อยากให้ตัวเองหมดสติไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ถึงแม้ดวงตาทั้งสองข้างกลายเป็นสีดำแล้ว เขาก็ยังคงมีสติครบถ้วนเพราะความเจ็บปวด

“ไปตายซะๆ!”

ความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็จากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทว่าเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบากอีกครั้ง สีหน้ากลับดูย่ำแย่กว่าเก่ามาก

“พวกนั้น…เข้ามาแล้ว!”

ความเจ็บปวดทำให้หัวหน้าทีมนิพพานสูญเสียการควบคุมไปชั่วขณะ…ซึ่งนี่ก็หมายความว่า ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ม่านพลังสกัดกั้นที่ถูกเจาะทะลุจะไม่มีผู้ใดซ่อมแซม และหลังจากที่หลิงม่อเจาะทะลุได้อย่างรวดเร็ว เขาก็เดินออกจากปากบันได เข้ามายังทางเดินชั้นสองอย่างไม่ลังเล

“เร็วเข้า! ไม่มีใครอยู่บนทางเดิน!”

“โครม!”

ด้วยความเร็วของพวกซย่าน่า หลิงม่อที่พุ่งตัวออกมาคนแรกยังคงถูกทิ้งไว้ข้างหลังเหมือนทุกครั้ง

“เขาอยู่ฝั่งนั้น!”

หลิงม่อสัมผัสได้รางๆ ความรู้สึกที่เหมือนถูกสอดส่องได้หายไปแล้ว…แต่ด้วยพลังของอีกฝ่าย การโจมตีจากระยะไกลอย่างนี้ไม่อาจทำให้บาดเจ็บสาหัสได้ หลังจากความเจ็บปวดทรมานชั่วคราวผ่านไป ไม่นานศัตรูก็จะฟื้นคืนสติ

ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือทำเวลา!

“ผู้ลอบโจมตีพวกนั้นถูกยัยแมงมุมควบคุม…เรื่องสำคัญที่พวกเราต้องทำคือฆ่าผู้มีพลังจิตคนนี้เสีย! ถ้าหากโชคดี…กว่ายัยแมงมุมจะรู้ตัวพวกเราก็คงไปอยู่ตรงหน้าแล้ว!”

แต่หลิงม่อเองก็รู้ดี ว่ามันมีความเป็นไปได้น้อยมาก…เหล่า “คน” ที่ปรากฏตัวในครั้งนี้ สร้างความหวาดกลัวให้เขาเล็กน้อย…

ภายใต้สถานการณ์ที่พลังจิตใช้ไม่ได้ผล และในยามคับขัน บางที…พวกซย่าน่าอาจเป็นไพ่สังหารที่แท้จริง

“แต่ว่า…เป็นไปได้ก็ไม่อยากให้พวกเธอเสี่ยงอันตรายเลย…”

……

ขณะเดียวกับที่กำลังต่อสู้ หลิงม่อสัมผัสรู้ถึง “เมล็ดพันธุ์” ที่อยู่ในร่างกายตัวเองไปด้วย ทันทีที่มันมีความเปลี่ยนแปลง…

“พวกนั้นมุ่งหน้ามาทางฉันแล้ว…” หัวใจของหัวหน้าทีมนิพพานเต้นอย่างบ้าคลั่ง นี่เพิ่งจะผ่านไปเท่าไหร่เอง? หนึ่งวินาที…สองวินาที! เวลาเพียงสองวินาทีพวกเขาก็วิ่งมาถึงครึ่งทางเดินแล้ว!

“มุ่งหน้ามาทางฉันโดยตรง…ทำไมกัน? ถึงแม้ต้องการฆ่าฉัน แต่พวกนั้นไม่กลัวคนอื่นดักซุ่มอยู่หรือไง!” หัวหน้าทีมนิพพานเลือกซ่อนตัวอยู่ในจุดที่ปลอดภัยที่สุด แต่กลับไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพุ่งเข้ามาโดยตรงอย่างไร้ความเกรงกลัวอย่างนี้ ต้องบอกก่อนว่า ผู้รอดชีวิตทุกคนอาจเป็นผู้มีความสามารถพิเศษกันทั้งนั้น และผู้มีความสามารถพิเศษแต่ละคนล้วนมีพลังที่ต่างกัน ฉะนั้นถึงแม้อีกฝ่ายต้องการฆ่าเขา ก็ไม่มีทางพุ่งเข้ามาหาเขาตรงๆ อย่างนี้

“บ้าไปแล้ว! แต่มันไม่มีทางง่ายขนาดนั้นหรอกนะ!” หัวหน้าทีมนิพพานตวัดสายตามองไปยังตำแหน่งเหนือศีรษะของพวกหลิงม่อ อาศัยการมองเห็นจากมุมนี้ เขาสามารถมองเห็นตำแหน่งของพวกหลิงม่อ รวมถึงความเป็นไปได้ที่ตัวเองจะหนีได้อย่างชัดเจน

“ระยะห่างนี้ ถ้าหากพวกเขาขัดขวางได้ทันเวลา…”

“ม่านพลังฟื้นตัวเต็มที่แล้ว!” ซย่าน่าค้นพบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบๆ ทันที

“อืม แต่เรารู้ตำแหน่งของเขาชัดเจนแล้ว…” เพิ่งจะสิ้นเสียงพูดของหลิงม่อ ประตูห้องบานหนึ่งที่เขาวิ่งผ่านพลันถูกกระแทกปลิว ไม่นาน ประกายอาวุธมีคมเส้นหนึ่งก็พลันสับลงมาโดยมีเขาเป็นเป้าหมาย

—————————————————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1163 บีบไม่แตกก็ไม่เป็นไร แค่เจาะทะลุได้ก็พอ

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1163 บีบไม่แตกก็ไม่เป็นไร แค่เจาะทะลุได้ก็พอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ลองอีกครั้ง!”

หลังจากล้มเหลวหนึ่งครั้ง หลิงม่อก็เริ่มจับจุดได้แล้ว…

“เขาไม่ทีทางเจาะทะลุเข้ามาได้แน่…” หัวหน้าทีมนิพพานสีหน้าไม่สู้ดีนัก ถูกจู่โจมสองครั้งติดกัน ถึงแม้ล้วนต้านรับไว้ได้แล้ว แต่อาการกลับไม่สู้ดีนัก “ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่ดูไม่มีประโยชน์คนนั้น จะมีพลังจิตโจมตีที่แข็งแกร่งขนาดนี้! แวบแรกที่เห็นว่าเธอเป็นคนลงมือยังนึกดูถูก ผลปรากฏว่าเกือบพลาดท่าเสียรู้ซะแล้ว และหลิงม่อ…พลังของหมอนั่นแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้หญิงคนนั้นเสียอีก…”

“แต่ว่า…เขาน่าจะถึงขีดจำกัดแล้วสินะ? ถึงจะพยายามอีกครั้ง อย่างมากก็รุนแรงกว่าครั้งแรกแค่เล็กน้อยเท่านั้น ใช่แล้ว! ไม่ผิดแน่ ผลลัพธ์จากสัมผัสรู้ของฉันบอกอย่างนี้ ไม่มีทางผิดพลาดแน่…” หัวหน้าทีมนิพพานกัดฟันกรอดคิดในใจ เขาถูกนิพพานส่งตัวมา และยังได้รับตำแหน่งหัวหน้า ย่อมมีฝีมือไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ท่ามกลางผู้มีพลังจิตทั้งหมดของนิพพาน เขาถือได้ว่าถูกจัดให้อยู่ในสามอันดับแรก ถึงแม้วิธีการสู้ไม่เหมือนหลิงม่อ พลังจิตก็ต่ำกว่าหลิงม่อมาก แต่ความสามารถด้านการสัมผัสรู้และม่านพลังสกัดกั้นของเขาถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว

ยิ่งเมื่ออยู่ในการต่อสู้ที่ต้องซุ่มโจมตี เขายิ่งได้เปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย…

แต่เริ่มแรกเขามองกู่ซวงซวงผิดไปจริงๆ…กู่ซวงซวงต่างกับหลิงม่อ เพราะพลังของเธอค่อนข้างสุดโต่ง นอกจากพลังสัมผัสรู้ที่อ่อนแอมากแล้ว พลังต่อสู้ทั้งหมดของเธอล้วนพุ่งเป้าไปที่พลังคลื่นสะท้าน และนั่นก็เป็นพลังจิตโจมตีที่ร้ายกาจมากอย่างหนึ่ง เพียงแต่กู่ซวงซวงยังมีพลังจิตไม่มากพอ บวกกับวิธีการต่อสู้ที่ตายตัว จึงยากที่จะประกอบให้เป็นพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งได้

ทว่าเรื่องนี้ก็เป็นการบ่งบอกว่าศักยภาพแฝงของกู่ซวงซวงนั้นสูงมาก ไม่อย่างนั้นหลิงม่อคงไม่เลือกให้เธอเข้าร่วมทีมปาฏิหาริย์ตั้งแต่แรก

“อย่างไรในอนาคตเราก็ต้องการคนช่วย…ยิ่งพลังของพวกเขาแข็งแกร่งเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยเราได้มากเท่านั้น และการที่เอาพวกเขามาไว้ข้างกายตั้งแต่แรก ก็ย่อมพึ่งพาได้มากกว่าอยู่แล้ว…” นี่คือความตั้งใจเดิมของหลิงม่อในการสร้างกลุ่มปาฏิหาริย์ขึ้นมา

ส่วนเรื่องพลังความสามารถ…ค่อยๆ ฝึกฝนก็ได้

พัฒนาการของกู่ซวงซวงก้าวหน้าช้ากว่าเพื่อนเล็กน้อย…แต่ด้วยการฝึกฝนขัดเกลาในช่วงที่ผ่านมา พลังของเธอเริ่มพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ แล้ว โดยเฉพาะเมื่อกี้ เธอสามารถดึงความสามารถทั้งหมดในตอนนี้ออกมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉะนั้น แม้แต่หัวหน้าทีมนิพพานก็ยังถูกเธอโจมตีจนได้รับบาดเจ็บ…

ทว่ากู่ซวงซวงกลับยังคงรู้สึกละอายใจ…ดังนั้นเรื่องที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ก็คือ เพราะเกิดความรู้สึกนี้ขึ้น เธอจึงสามารถเพ่งพลังจิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น…แต่ท่ามกลางความเลือนราง เธอก็ยังสัมผัสได้ถึงเรื่องสำคัญ…เวลานี้ทุกคนรวมถึงตัวเธอด้วย ล้วนกำลังจดจ้องแผ่นหลังของหลิงม่อ

“ต้องรีบแล้ว…อีกฝ่ายไม่มีทางยอมถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวแน่…ถ้าหากพวกเรายังเจาะทะลุไม่ได้ เกรงว่าอีกฝ่ายคงคิดหาทางบีบให้พวกเราเดินเข้าไปแน่นอน พอถึงตอนนั้นพวกเราก็จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ…” สวี่ซูหานคิดอย่างร้อนใจ

“โจมตีสองครั้งติดต่อกัน และฉันก็ตั้งใจโจมตีจุดเดียวกับที่กู่ซวงซวงโจมตีในครั้งแรก…ถึงแม้แกจะต้านทานได้ทั้งสองครั้ง แต่เมื่อกี้ฉันมองออกนะ…ตาข่ายพลังจิตผืนนี้ของแก เริ่มอ่อนลงแล้ว!”

สวบๆ!

หลิงม่อยกมือชี้ หนวดสัมผัสนับร้อยเส้นพลันพุ่งพรวดโจมตีออกไป

หนวดสัมผัสเหล่านี้ไม่ได้กระจายตัว ทว่าพุ่งเป้าไปยังจุดเดียวกัน จากนั้นก็พุ่งแหวกอากาศไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง!

“เมื่อกี้เป็นการโจมตีแบบรอบด้าน…แต่ครั้งนี้เป็นการเล็งเป้าไปยังจุดเดียว!”

“บีบไม่แตกแล้วยังเจาะไม่ทะลุอีกงั้นเหรอ? ทะลุซะเถอะ!”

ครืนนน!

เมื่อเสียงอื้ออึงดังขึ้นในสมองจนเกิดอาการมึนงงไปชั่วขณะ หัวหน้าทีมนิพพานที่เมื่อกี้ยังมั่นใจเต็มเปี่ยมพลันอึ้งงันไป

“ทะลุแล้ว? เร็วขนาดนี้เชียวหรือ?”

ราวกับว่า…ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา…

“เป็นไปไม่ได้…” หัวหน้าทีมนิพพานพึมพำ

ทว่าไม่นาน อาการปวดหัวราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ พลันถาโถมจู่โจมเข้ามาทันใด

“อ๊ากกกกก!”

หัวหน้าทีมนิพพานกรีดร้องอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส สองมือยกขึ้นกุมศีรษะโดยอัตโนมัติ และโขกศีรษะกับผนังด้านหลังอย่างไม่อาจควบคุมได้

“ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก!”

เขาโขกศีรษะกับผนังด้านหลังครั้งแล้วครั้งเล่า อยากให้ตัวเองหมดสติไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ถึงแม้ดวงตาทั้งสองข้างกลายเป็นสีดำแล้ว เขาก็ยังคงมีสติครบถ้วนเพราะความเจ็บปวด

“ไปตายซะๆ!”

ความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็จากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทว่าเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบากอีกครั้ง สีหน้ากลับดูย่ำแย่กว่าเก่ามาก

“พวกนั้น…เข้ามาแล้ว!”

ความเจ็บปวดทำให้หัวหน้าทีมนิพพานสูญเสียการควบคุมไปชั่วขณะ…ซึ่งนี่ก็หมายความว่า ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ม่านพลังสกัดกั้นที่ถูกเจาะทะลุจะไม่มีผู้ใดซ่อมแซม และหลังจากที่หลิงม่อเจาะทะลุได้อย่างรวดเร็ว เขาก็เดินออกจากปากบันได เข้ามายังทางเดินชั้นสองอย่างไม่ลังเล

“เร็วเข้า! ไม่มีใครอยู่บนทางเดิน!”

“โครม!”

ด้วยความเร็วของพวกซย่าน่า หลิงม่อที่พุ่งตัวออกมาคนแรกยังคงถูกทิ้งไว้ข้างหลังเหมือนทุกครั้ง

“เขาอยู่ฝั่งนั้น!”

หลิงม่อสัมผัสได้รางๆ ความรู้สึกที่เหมือนถูกสอดส่องได้หายไปแล้ว…แต่ด้วยพลังของอีกฝ่าย การโจมตีจากระยะไกลอย่างนี้ไม่อาจทำให้บาดเจ็บสาหัสได้ หลังจากความเจ็บปวดทรมานชั่วคราวผ่านไป ไม่นานศัตรูก็จะฟื้นคืนสติ

ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือทำเวลา!

“ผู้ลอบโจมตีพวกนั้นถูกยัยแมงมุมควบคุม…เรื่องสำคัญที่พวกเราต้องทำคือฆ่าผู้มีพลังจิตคนนี้เสีย! ถ้าหากโชคดี…กว่ายัยแมงมุมจะรู้ตัวพวกเราก็คงไปอยู่ตรงหน้าแล้ว!”

แต่หลิงม่อเองก็รู้ดี ว่ามันมีความเป็นไปได้น้อยมาก…เหล่า “คน” ที่ปรากฏตัวในครั้งนี้ สร้างความหวาดกลัวให้เขาเล็กน้อย…

ภายใต้สถานการณ์ที่พลังจิตใช้ไม่ได้ผล และในยามคับขัน บางที…พวกซย่าน่าอาจเป็นไพ่สังหารที่แท้จริง

“แต่ว่า…เป็นไปได้ก็ไม่อยากให้พวกเธอเสี่ยงอันตรายเลย…”

……

ขณะเดียวกับที่กำลังต่อสู้ หลิงม่อสัมผัสรู้ถึง “เมล็ดพันธุ์” ที่อยู่ในร่างกายตัวเองไปด้วย ทันทีที่มันมีความเปลี่ยนแปลง…

“พวกนั้นมุ่งหน้ามาทางฉันแล้ว…” หัวใจของหัวหน้าทีมนิพพานเต้นอย่างบ้าคลั่ง นี่เพิ่งจะผ่านไปเท่าไหร่เอง? หนึ่งวินาที…สองวินาที! เวลาเพียงสองวินาทีพวกเขาก็วิ่งมาถึงครึ่งทางเดินแล้ว!

“มุ่งหน้ามาทางฉันโดยตรง…ทำไมกัน? ถึงแม้ต้องการฆ่าฉัน แต่พวกนั้นไม่กลัวคนอื่นดักซุ่มอยู่หรือไง!” หัวหน้าทีมนิพพานเลือกซ่อนตัวอยู่ในจุดที่ปลอดภัยที่สุด แต่กลับไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพุ่งเข้ามาโดยตรงอย่างไร้ความเกรงกลัวอย่างนี้ ต้องบอกก่อนว่า ผู้รอดชีวิตทุกคนอาจเป็นผู้มีความสามารถพิเศษกันทั้งนั้น และผู้มีความสามารถพิเศษแต่ละคนล้วนมีพลังที่ต่างกัน ฉะนั้นถึงแม้อีกฝ่ายต้องการฆ่าเขา ก็ไม่มีทางพุ่งเข้ามาหาเขาตรงๆ อย่างนี้

“บ้าไปแล้ว! แต่มันไม่มีทางง่ายขนาดนั้นหรอกนะ!” หัวหน้าทีมนิพพานตวัดสายตามองไปยังตำแหน่งเหนือศีรษะของพวกหลิงม่อ อาศัยการมองเห็นจากมุมนี้ เขาสามารถมองเห็นตำแหน่งของพวกหลิงม่อ รวมถึงความเป็นไปได้ที่ตัวเองจะหนีได้อย่างชัดเจน

“ระยะห่างนี้ ถ้าหากพวกเขาขัดขวางได้ทันเวลา…”

“ม่านพลังฟื้นตัวเต็มที่แล้ว!” ซย่าน่าค้นพบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบๆ ทันที

“อืม แต่เรารู้ตำแหน่งของเขาชัดเจนแล้ว…” เพิ่งจะสิ้นเสียงพูดของหลิงม่อ ประตูห้องบานหนึ่งที่เขาวิ่งผ่านพลันถูกกระแทกปลิว ไม่นาน ประกายอาวุธมีคมเส้นหนึ่งก็พลันสับลงมาโดยมีเขาเป็นเป้าหมาย

—————————————————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+