แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1060 คนที่ถูกล้อมน่ะ แกต่างหาก…

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1060 คนที่ถูกล้อมน่ะ แกต่างหาก… at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พวก? ดูเหมือนว่าฉัน…เดาถูกจริงๆ ด้วยสินะ” พอเห็นว่าตัวเองถูกล้อมอีกครั้ง หลิงม่อกลับมีสีหน้าเรียบเฉยใจเย็น

ชายหนุ่มกำลังหัวเราะเย็นชา พอเห็นการตอบสนองอย่างนี้ของหลิงม่อ ก็พลันขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ อดถามขึ้นไม่ได้ว่า “เดา? เดาอะไรของแก?”

ขณะที่ถาม ในใจเขาเกิดความกลัวรางๆ…เมื่อกี้อีกฝ่ายทำเขาเกือบตายได้ยังไง ตอนนี้เขายังกลัวไม่หายเลย…เอาเป็นว่า ถึงแม้เพิ่งเจอหลิงม่อไม่ถึงสิบวินาที แต่ชายหนุ่มความมั่นใจและทะนงตนในตอนแรกของเขา เวลานี้ได้มลายหายไปแล้ว และตอนนี้ เขาเพิ่งจะกลับมาได้เปรียบเล็กน้อย แต่อีกฝ่ายกลับพูดจาไม่สะทกสะท้าน ทำให้เขาใจคอไม่ดี

“แม่เอ็ง…ใจเย็นก่อน! เจ้าเด็กบ้านี่แค่ทำเป็นเข้มเข้าข่มเท่านั้นแหละ ตอนนี้คนที่กุมทุกอย่างไว้คือฉันคนนี้ต่างหาก! ไม่อย่างไรก็ตาม ขอเพียงไม่เปิดโอกาสให้มันโจมตี วันนี้คนที่ตายจะต้องเป็นมันแน่นอน…”

“ช่างเถอะ ฉันก็ไม่ได้อยากรู้นัก แกไป…”

“ชายหนุ่มเพิ่งจะอ้าปาก ก็ได้ยินหลิงม่อพูดขึ้นมาก่อนว่า “เมื่อกี้ตอนที่เห็นแกฉันก็กำลังคิด ว่าในเมื่อแกไม่ใช่ผู้มีพลังจิต แล้วแกควบคุมแมงมุมพวกนี้ได้ยังไง และรับรู้สถานการณ์ภายนอกผ่านพวกมันได้ยังไง? แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว คนที่ควบคุมแมงมุมพวกนั้นจริงๆ ไม่ใช่นาย แต่เป็นแมงมุมตัวใหญ่พวกนี้สินะ? พวกมันอาศัยอยู่ในตัวแกได้ ย่อมมีวิธีสื่อสารกับแกเช่นกัน เพียงแต่ว่า…ต้องส่งผ่านแมงมุมพวกนี้ตั้งสองครั้งกว่าข้อมูลจะมาถึงแก มันก็เลยไม่ค่อยแม่นยำไงล่ะ…ส่วนทำไมแกถึงเลือกฉัน ก่อนหน้านี้ฉันยังคิดว่าเป็นเพราะตัวตนของฉัน แต่เพิ่งมารู้ตอนนี้ ที่แท้ฉันคิดมากไปเอง แกก็แค่มั่นใจว่าฉันเป็นหนึ่งในคนที่หมดสติ ก็เลยไล่กัดฉันไม่ปล่อยสินะ”

“หึหึ ก็นึกว่าจะพูดอะไรซะอีก…” ฟังจบ ชายหนุ่มทั้งตกตะลึง แต่ขณะเดียวกันก็โล่งอกด้วยเช่นกัน เขามองหลิงม่ออย่างดูแคลน บอกว่า “จะตายอยู่ร่อมร่อยังมีแก่ใจพูดเรื่องพวกนี้อีกหรอ? ดูท่า แกคงคิดจะถ่วงเวลาสินะ? แต่ไม่มีประโยชน์หรอก ถึงแม้ฉันจะวิเคราะห์สถานการณ์ของศัตรูทุกคนไม่ได้ แต่อย่างน้อยฉันก็ใช้แมงมุมถ่วงเวลาพวกนั้นไว้ได้”

“ดังนั้นถึงได้บอกไง ว่าเงื่อนไข…คือต้องเป็นคนเท่านั้น…” หลิงม่อกลับเผยสีหน้าดูแคลนออกมา พลางส่ายหน้าไปมา แล้วพูดขึ้น

ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นอีกครั้ง แล้วพูดอย่างมีน้ำโห “แกกำลังพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่กันแน่วะ…”

พูดยังไม่ทันจบ เขาพลันยกแขนขึ้น แมงมุมสิบกว่าตัวกระโดดออกจากแขนเขา พุ่งตรงไปยังหลิงม่อ

แมงมุมเหล่านี้มีขนาดตัวเท่าหัวแม่มือ และมองแวบแรกก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันตรายแล้ว ทันทีที่สัมผัส อย่าว่าแต่โดนกินเลย เกรงว่าแค่โดนกัดครั้งเดียว ก็อันตรายถึงชีวิตแล้ว และพอพวกมันพุ่งเข้ามาโจมตี แมงมุมตัวเล็กที่อยู่รอบๆ ก็พรั่งพรูเข้ามาด้วย พริบตาเดียว พวกมันก็บีบให้หลิงม่อตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน

“สามวิ…สองวิ…” หลิงม่อยืนอยู่ที่เดิม พลางพึมพำด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไป

นั่นทำให้ชายหนุ่มยิ่งใจคอไม่ดี แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว เขาทำได้เพียงข่มความไม่สบายใจไว้ แล้วหัวเราะเย้ย “แกกำลังนับถอยหลังให้เวลาชีวิตที่เหลือของตัวเองสินะ…วางใจ แกจะไม่ตายทรมานนักหรอก เพียงแต่หลังตาย แกจะไม่เหลือแม้แต่กระดูก น้ำย่อยของเจ้าเปี๊ยกพวกนี้ เทียบได้กับน้ำกรดเข้มข้นเชียวนะ…”

“งั้นหรอ?” หลิงม่อพลันเงยหน้าขึ้น และส่งยิ้มยะเยือกให้ชายหนุ่ม

เขาพลันก้าวถอย ชายหนุ่มเห็นก็ตะโกนเสียงดัง “ไม่มีประโยชน์หรอก! ถึงแกจะสลัดแมงมุมน้อยพวกนั้นหลุด แต่แกตามความเร็วของแมงมุมใหญ่ไม่ทันแน่นอน!”

เมื่อชายหนุ่มตะโกนเสียงดัง แมงมุมใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงต่างกระโจนออกมาตามๆ กัน และพ่นใยไปข้างหน้าเส้นหนึ่ง

เพราะมีใยแมงมุมช่วย พวกมันจึงเคลื่อนเข้าใกล้หลิงม่อที่กำลังอาศัยหนวดสัมผัสถอยหลังอย่างรวดเร็ว และพุ่งตัวไปที่หน้าของเขา

พอเห็นเหล่าแมงมุมใหญ่ใกล้โจมตีสำเร็จ ชายหนุ่มพลันคลายใจไม่น้อย “เดิมทีฉันก็ไม่ได้อยากฏฆ่าพวกแกหรอก แต่ใครใช้ให้พวกไม่ยอมออกไปจากที่นี่กันล่ะ…เรื่องแบบนี้ จะโทษฉันก็ไม่ได้…”

อาจเพราะใจเต้นไม่เป็นส่ำหลายครั้งติดกัน ตอนนี้พอเห็นสถานการณ์เริ่มมั่นคง ชายหนุ่มจึงเริ่มพูดมากอีกครั้ง

เพียงแต่ “คำแก้ตัว” อย่างนี้ของเขา หลิงม่อกลับไม่คิดจะฟังอยู่แล้ว เขาจ้องเหล่าแมงมุมที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างไม่ละสายตา ทันใดนั้นก็คำรามเสียงต่ำ “หนึ่ง!”

“ยังจะนับอีก…”

ชายหนุ่มหมายจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้น เขาสัมผัสได้ถึงกระแสลมแรงพุ่งออกมาจากตรอกเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง

เมื่อกระแสลมแรงสายนั้นพุ่งผ่านตรงกลางระหว่างเขากับหลิงม่อไป เขาจึงเพิ่งค้นพบอย่างตกตะลึงว่า…สิ่งที่หยุดอยู่ไม่ไกล และพุ่งชนแมงมุมของเขาที่อยู่ตรงหน้าหลิงม่อจนกระเด็นออกไปแทบหมดนั้น กลับเป็น…เงาสีขาวขนาดใหญ่!

“แบ๊!”

หมีแพนด้ากลายพันธุ์ที่ร่างกายพองโตค่อยๆ หมุนกายกลับมา แววตาของมันดุดันสุดขีด เวลานี้ทั่วทั้งตัวของมันมีแต่แมงมุมเกาะอยู่เต็มไปหมด ทำให้ดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

แต่สำหรับชายหนุ่ม สิ่งที่น่ากลัวที่สุด กลับเป็นตัวหมีแพนด้าตัวนั้นเอง….

“สะ…สัตว์กลายพันธุ์…” ชายหนุ่มปากอ้าตาค้าง พึมพำตะกุกตะกัก

เห็นชัดว่าเขาเคยเจอสัตว์กลายพันธุ์มาก่อน…แต่อสุรกายดุร้ายที่รูปร่างใหญ่โต แล้วยังสามารถยืนอยู่ได้ทั้งที่ถูกแมงมุมจำนวนมากโจมตีอย่างนี้ เขากลับเพิ่งเคยเจอครั้งแรก!

และดูท่าทางของหมีแพนด้าตัวนี้ เห็นชัดว่าเพื่อรีบวิ่งมาที่นี่ให้ทัน มันจึงเมินการโจมตีทั้งหมดจากแมงมุมพวกนั้น…มันวิ่งเร็วมาก เร็วจนแมงมุมพวกนี้รายงานเขาไม่ทัน

“ทำไมถึง…มี…”

ไม่รอให้ชายหนุ่มหายตกใจจากการปรากฏตัวกะทันหันของหมีแพนด้ากลายพันธุ์ สถานการณ์ฝั่งหลิงม่อก็มีการเปลี่ยนแปลง

เดิมทีเขายังลอบคิดอย่างสะใจ ดูจากสถานการณ์เมื่อกี้ แม้ว่าหมีแพนด้ากลายพันธุ์จะพุ่งชนแมงมุมจำนวนมากจนกระเด็นออกไป แต่ก็ยังมีแมงมุมจำนวนหนึ่งกระโดดใส่หลิงม่ออยู่ดี และเพียงเท่านั้น มันก็มากพอที่ทำให้เขาตายได้แล้ว…

แต่ตอนนี้พอเขาหันไปมอง กลับต้องตกตะลึงจนสมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ…

ด้านซ้ายและขวาของหลิงม่อ ปรากฏเงาร่างอรชรงดงามฝั่งละเงา หนึ่งในนั้นถือมีดสั้น ส่วนอีกหนึ่งใช้อาวุธที่ดูเหมือนจันทร์ครึ่งเสี้ยว…ใต้เท้าของพวกเธอ มีศพของแมงมุมมากมายนอนเกลื่อนอยู่เต็มไปหมด

เมื่อเขามองไปที่พวกเขา เงาร่างอรชรหนึ่งในนั้นกำลังลดมีดสั้นลงช้าๆ…พวกเธอทั้งสองมองมาที่ชายหนุ่มพร้อมกัน และบนดวงหน้าที่งดงามหาที่เปรียบไม่ได้นั้น กลับมีดวงตาสีแดงสองคู่ปรากฏอยู่!

“ซะ…ซอมบี้!”

ชายหนุ่มรู้สึกราวกับว่าร่างกายตัวเองแข็งค้างไปแล้ว…ทำไมซอมบี้ถึงมาโผล่อยู่ที่นี่ได้ล่ะ!

สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าซอมบี้ หายไปจากอำเภอหลีหมิงตั้งนานแล้วนี่…

และพอมองดูดีๆ ดวงตาของซอมบี้สองตัวนั้นก็ต่างกัน ซ้ำยังไม่เหมือนกับซอมบี้ในความทรงจำของเขาด้วย…

นอกจากนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือ ทำไมซอมบี้พวกนั้น…แล้วก็สัตว์กลายพันธุ์ตัวนั้น ถึงได้ทำท่าเหมือนเป็นพวกเดียวกับเจ้าเด็กหนุ่มนั่นล่ะ!

หรือว่า…

“แกก็เป็น…ซอมบี้…”

ชายหนุ่มโพล่งออกมาอย่างขวัญผวา ตอนนี้เขาเข้าใจสิ่งที่หลิงม่อพูดเมื่อกี้แล้ว…แมงมุมพวกนี้สามารถรั้งคนไว้ได้ แต่เงื่อนไขก็คือ ฝ่ายที่เขาจะรั้งต้องเป็นคนเท่านั้น!

เดิมทีก่อนหน้านี้ที่เขาใช้แมงมุมฝูงใหญ่ไล่ล่าหลิงม่อ เขาก็ได้เปิดโอกาสให้ซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้สลัดแมงมุมที่เหลือทิ้งได้…และพอเขาปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์ ความจริงซอมบี้พวกนี้ก็อยู่ห่างจากเขาไม่ไกลแล้ว…แต่เนื่องจากความบกพร่องในการส่งต่อข้อมูล เขากลับคิดอย่างโลกสวย ว่าพวกเธอจะต้องตามมาไม่ทันแน่…และหลิงม่อ ก็จะต้องกลายเป็นคนที่สองที่ถูกเขาฆ่าอย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้…ตอนนี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่วะเนี่ย!

“ใช่แล้ว!” ท่ามกลางความสับสันงุนงง ชายหนุ่มพลันเบิกตากว้าง ฉุกคิดถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งขึ้นมา “ยังมี…อีกหนึ่ง…”

เขาจำได้แม่น ว่าเป้าหมายมีทั้งหมด…ห้าคน…

ซอมบี้สาวสองตัว เจ้าเด็กหนุ่มที่ตัวตนไม่ชัดเจนนี่อีกหนึ่ง รวมถึงหมีแพนด้ากลายพันธุ์ตัวนั้นที่กำลังพยายามส่ายลำตัวไปมา เพื่อพยายามสลัดแมงมุมที่เกาะตามตัวออกไปให้หมด ถ้าอย่างนั้น…อีกหนึ่งคนล่ะ?

ชายหนุ่มพลันรู้สึกเหงื่อโชกไปทั้งตัว เขายืนตัวสั่นเทา และค่อยๆ เหลือบมองด้านหลังด้วยหางตา

เด็กสาวผมยาวคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ข้างหลังเขาเงียบๆ เด็กสาวคนนี้สวมเครื่องแบบนักเรียกครบชุด แต่ในมือกลับถือเคียวดาบที่สูงกว่าตัวเธอไว้…บนคมดาบที่สะท้อนแสงเยือกเย็น เขามองเห็นดวงตาของเธอ แล้วยังมีสีหน้าที่ดูเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม…แต่ดูเหมือนทั้งโกรธ และเต็มไปด้วยแววตาเย้ยหยันนั่นอีก…

“หาฉันอยู่หรอ?” เด็กสาวเอียงคอ ดวงตาสีแดงกระพริบปริบๆ พลางถามเสียงเบา

“อ๊ากกกกกก!!!!!!!”

—————————————————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1060 คนที่ถูกล้อมน่ะ แกต่างหาก…

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1060 คนที่ถูกล้อมน่ะ แกต่างหาก… at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พวก? ดูเหมือนว่าฉัน…เดาถูกจริงๆ ด้วยสินะ” พอเห็นว่าตัวเองถูกล้อมอีกครั้ง หลิงม่อกลับมีสีหน้าเรียบเฉยใจเย็น

ชายหนุ่มกำลังหัวเราะเย็นชา พอเห็นการตอบสนองอย่างนี้ของหลิงม่อ ก็พลันขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ อดถามขึ้นไม่ได้ว่า “เดา? เดาอะไรของแก?”

ขณะที่ถาม ในใจเขาเกิดความกลัวรางๆ…เมื่อกี้อีกฝ่ายทำเขาเกือบตายได้ยังไง ตอนนี้เขายังกลัวไม่หายเลย…เอาเป็นว่า ถึงแม้เพิ่งเจอหลิงม่อไม่ถึงสิบวินาที แต่ชายหนุ่มความมั่นใจและทะนงตนในตอนแรกของเขา เวลานี้ได้มลายหายไปแล้ว และตอนนี้ เขาเพิ่งจะกลับมาได้เปรียบเล็กน้อย แต่อีกฝ่ายกลับพูดจาไม่สะทกสะท้าน ทำให้เขาใจคอไม่ดี

“แม่เอ็ง…ใจเย็นก่อน! เจ้าเด็กบ้านี่แค่ทำเป็นเข้มเข้าข่มเท่านั้นแหละ ตอนนี้คนที่กุมทุกอย่างไว้คือฉันคนนี้ต่างหาก! ไม่อย่างไรก็ตาม ขอเพียงไม่เปิดโอกาสให้มันโจมตี วันนี้คนที่ตายจะต้องเป็นมันแน่นอน…”

“ช่างเถอะ ฉันก็ไม่ได้อยากรู้นัก แกไป…”

“ชายหนุ่มเพิ่งจะอ้าปาก ก็ได้ยินหลิงม่อพูดขึ้นมาก่อนว่า “เมื่อกี้ตอนที่เห็นแกฉันก็กำลังคิด ว่าในเมื่อแกไม่ใช่ผู้มีพลังจิต แล้วแกควบคุมแมงมุมพวกนี้ได้ยังไง และรับรู้สถานการณ์ภายนอกผ่านพวกมันได้ยังไง? แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว คนที่ควบคุมแมงมุมพวกนั้นจริงๆ ไม่ใช่นาย แต่เป็นแมงมุมตัวใหญ่พวกนี้สินะ? พวกมันอาศัยอยู่ในตัวแกได้ ย่อมมีวิธีสื่อสารกับแกเช่นกัน เพียงแต่ว่า…ต้องส่งผ่านแมงมุมพวกนี้ตั้งสองครั้งกว่าข้อมูลจะมาถึงแก มันก็เลยไม่ค่อยแม่นยำไงล่ะ…ส่วนทำไมแกถึงเลือกฉัน ก่อนหน้านี้ฉันยังคิดว่าเป็นเพราะตัวตนของฉัน แต่เพิ่งมารู้ตอนนี้ ที่แท้ฉันคิดมากไปเอง แกก็แค่มั่นใจว่าฉันเป็นหนึ่งในคนที่หมดสติ ก็เลยไล่กัดฉันไม่ปล่อยสินะ”

“หึหึ ก็นึกว่าจะพูดอะไรซะอีก…” ฟังจบ ชายหนุ่มทั้งตกตะลึง แต่ขณะเดียวกันก็โล่งอกด้วยเช่นกัน เขามองหลิงม่ออย่างดูแคลน บอกว่า “จะตายอยู่ร่อมร่อยังมีแก่ใจพูดเรื่องพวกนี้อีกหรอ? ดูท่า แกคงคิดจะถ่วงเวลาสินะ? แต่ไม่มีประโยชน์หรอก ถึงแม้ฉันจะวิเคราะห์สถานการณ์ของศัตรูทุกคนไม่ได้ แต่อย่างน้อยฉันก็ใช้แมงมุมถ่วงเวลาพวกนั้นไว้ได้”

“ดังนั้นถึงได้บอกไง ว่าเงื่อนไข…คือต้องเป็นคนเท่านั้น…” หลิงม่อกลับเผยสีหน้าดูแคลนออกมา พลางส่ายหน้าไปมา แล้วพูดขึ้น

ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นอีกครั้ง แล้วพูดอย่างมีน้ำโห “แกกำลังพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่กันแน่วะ…”

พูดยังไม่ทันจบ เขาพลันยกแขนขึ้น แมงมุมสิบกว่าตัวกระโดดออกจากแขนเขา พุ่งตรงไปยังหลิงม่อ

แมงมุมเหล่านี้มีขนาดตัวเท่าหัวแม่มือ และมองแวบแรกก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันตรายแล้ว ทันทีที่สัมผัส อย่าว่าแต่โดนกินเลย เกรงว่าแค่โดนกัดครั้งเดียว ก็อันตรายถึงชีวิตแล้ว และพอพวกมันพุ่งเข้ามาโจมตี แมงมุมตัวเล็กที่อยู่รอบๆ ก็พรั่งพรูเข้ามาด้วย พริบตาเดียว พวกมันก็บีบให้หลิงม่อตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน

“สามวิ…สองวิ…” หลิงม่อยืนอยู่ที่เดิม พลางพึมพำด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไป

นั่นทำให้ชายหนุ่มยิ่งใจคอไม่ดี แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว เขาทำได้เพียงข่มความไม่สบายใจไว้ แล้วหัวเราะเย้ย “แกกำลังนับถอยหลังให้เวลาชีวิตที่เหลือของตัวเองสินะ…วางใจ แกจะไม่ตายทรมานนักหรอก เพียงแต่หลังตาย แกจะไม่เหลือแม้แต่กระดูก น้ำย่อยของเจ้าเปี๊ยกพวกนี้ เทียบได้กับน้ำกรดเข้มข้นเชียวนะ…”

“งั้นหรอ?” หลิงม่อพลันเงยหน้าขึ้น และส่งยิ้มยะเยือกให้ชายหนุ่ม

เขาพลันก้าวถอย ชายหนุ่มเห็นก็ตะโกนเสียงดัง “ไม่มีประโยชน์หรอก! ถึงแกจะสลัดแมงมุมน้อยพวกนั้นหลุด แต่แกตามความเร็วของแมงมุมใหญ่ไม่ทันแน่นอน!”

เมื่อชายหนุ่มตะโกนเสียงดัง แมงมุมใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงต่างกระโจนออกมาตามๆ กัน และพ่นใยไปข้างหน้าเส้นหนึ่ง

เพราะมีใยแมงมุมช่วย พวกมันจึงเคลื่อนเข้าใกล้หลิงม่อที่กำลังอาศัยหนวดสัมผัสถอยหลังอย่างรวดเร็ว และพุ่งตัวไปที่หน้าของเขา

พอเห็นเหล่าแมงมุมใหญ่ใกล้โจมตีสำเร็จ ชายหนุ่มพลันคลายใจไม่น้อย “เดิมทีฉันก็ไม่ได้อยากฏฆ่าพวกแกหรอก แต่ใครใช้ให้พวกไม่ยอมออกไปจากที่นี่กันล่ะ…เรื่องแบบนี้ จะโทษฉันก็ไม่ได้…”

อาจเพราะใจเต้นไม่เป็นส่ำหลายครั้งติดกัน ตอนนี้พอเห็นสถานการณ์เริ่มมั่นคง ชายหนุ่มจึงเริ่มพูดมากอีกครั้ง

เพียงแต่ “คำแก้ตัว” อย่างนี้ของเขา หลิงม่อกลับไม่คิดจะฟังอยู่แล้ว เขาจ้องเหล่าแมงมุมที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างไม่ละสายตา ทันใดนั้นก็คำรามเสียงต่ำ “หนึ่ง!”

“ยังจะนับอีก…”

ชายหนุ่มหมายจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้น เขาสัมผัสได้ถึงกระแสลมแรงพุ่งออกมาจากตรอกเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง

เมื่อกระแสลมแรงสายนั้นพุ่งผ่านตรงกลางระหว่างเขากับหลิงม่อไป เขาจึงเพิ่งค้นพบอย่างตกตะลึงว่า…สิ่งที่หยุดอยู่ไม่ไกล และพุ่งชนแมงมุมของเขาที่อยู่ตรงหน้าหลิงม่อจนกระเด็นออกไปแทบหมดนั้น กลับเป็น…เงาสีขาวขนาดใหญ่!

“แบ๊!”

หมีแพนด้ากลายพันธุ์ที่ร่างกายพองโตค่อยๆ หมุนกายกลับมา แววตาของมันดุดันสุดขีด เวลานี้ทั่วทั้งตัวของมันมีแต่แมงมุมเกาะอยู่เต็มไปหมด ทำให้ดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

แต่สำหรับชายหนุ่ม สิ่งที่น่ากลัวที่สุด กลับเป็นตัวหมีแพนด้าตัวนั้นเอง….

“สะ…สัตว์กลายพันธุ์…” ชายหนุ่มปากอ้าตาค้าง พึมพำตะกุกตะกัก

เห็นชัดว่าเขาเคยเจอสัตว์กลายพันธุ์มาก่อน…แต่อสุรกายดุร้ายที่รูปร่างใหญ่โต แล้วยังสามารถยืนอยู่ได้ทั้งที่ถูกแมงมุมจำนวนมากโจมตีอย่างนี้ เขากลับเพิ่งเคยเจอครั้งแรก!

และดูท่าทางของหมีแพนด้าตัวนี้ เห็นชัดว่าเพื่อรีบวิ่งมาที่นี่ให้ทัน มันจึงเมินการโจมตีทั้งหมดจากแมงมุมพวกนั้น…มันวิ่งเร็วมาก เร็วจนแมงมุมพวกนี้รายงานเขาไม่ทัน

“ทำไมถึง…มี…”

ไม่รอให้ชายหนุ่มหายตกใจจากการปรากฏตัวกะทันหันของหมีแพนด้ากลายพันธุ์ สถานการณ์ฝั่งหลิงม่อก็มีการเปลี่ยนแปลง

เดิมทีเขายังลอบคิดอย่างสะใจ ดูจากสถานการณ์เมื่อกี้ แม้ว่าหมีแพนด้ากลายพันธุ์จะพุ่งชนแมงมุมจำนวนมากจนกระเด็นออกไป แต่ก็ยังมีแมงมุมจำนวนหนึ่งกระโดดใส่หลิงม่ออยู่ดี และเพียงเท่านั้น มันก็มากพอที่ทำให้เขาตายได้แล้ว…

แต่ตอนนี้พอเขาหันไปมอง กลับต้องตกตะลึงจนสมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ…

ด้านซ้ายและขวาของหลิงม่อ ปรากฏเงาร่างอรชรงดงามฝั่งละเงา หนึ่งในนั้นถือมีดสั้น ส่วนอีกหนึ่งใช้อาวุธที่ดูเหมือนจันทร์ครึ่งเสี้ยว…ใต้เท้าของพวกเธอ มีศพของแมงมุมมากมายนอนเกลื่อนอยู่เต็มไปหมด

เมื่อเขามองไปที่พวกเขา เงาร่างอรชรหนึ่งในนั้นกำลังลดมีดสั้นลงช้าๆ…พวกเธอทั้งสองมองมาที่ชายหนุ่มพร้อมกัน และบนดวงหน้าที่งดงามหาที่เปรียบไม่ได้นั้น กลับมีดวงตาสีแดงสองคู่ปรากฏอยู่!

“ซะ…ซอมบี้!”

ชายหนุ่มรู้สึกราวกับว่าร่างกายตัวเองแข็งค้างไปแล้ว…ทำไมซอมบี้ถึงมาโผล่อยู่ที่นี่ได้ล่ะ!

สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าซอมบี้ หายไปจากอำเภอหลีหมิงตั้งนานแล้วนี่…

และพอมองดูดีๆ ดวงตาของซอมบี้สองตัวนั้นก็ต่างกัน ซ้ำยังไม่เหมือนกับซอมบี้ในความทรงจำของเขาด้วย…

นอกจากนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือ ทำไมซอมบี้พวกนั้น…แล้วก็สัตว์กลายพันธุ์ตัวนั้น ถึงได้ทำท่าเหมือนเป็นพวกเดียวกับเจ้าเด็กหนุ่มนั่นล่ะ!

หรือว่า…

“แกก็เป็น…ซอมบี้…”

ชายหนุ่มโพล่งออกมาอย่างขวัญผวา ตอนนี้เขาเข้าใจสิ่งที่หลิงม่อพูดเมื่อกี้แล้ว…แมงมุมพวกนี้สามารถรั้งคนไว้ได้ แต่เงื่อนไขก็คือ ฝ่ายที่เขาจะรั้งต้องเป็นคนเท่านั้น!

เดิมทีก่อนหน้านี้ที่เขาใช้แมงมุมฝูงใหญ่ไล่ล่าหลิงม่อ เขาก็ได้เปิดโอกาสให้ซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้สลัดแมงมุมที่เหลือทิ้งได้…และพอเขาปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์ ความจริงซอมบี้พวกนี้ก็อยู่ห่างจากเขาไม่ไกลแล้ว…แต่เนื่องจากความบกพร่องในการส่งต่อข้อมูล เขากลับคิดอย่างโลกสวย ว่าพวกเธอจะต้องตามมาไม่ทันแน่…และหลิงม่อ ก็จะต้องกลายเป็นคนที่สองที่ถูกเขาฆ่าอย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้…ตอนนี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่วะเนี่ย!

“ใช่แล้ว!” ท่ามกลางความสับสันงุนงง ชายหนุ่มพลันเบิกตากว้าง ฉุกคิดถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งขึ้นมา “ยังมี…อีกหนึ่ง…”

เขาจำได้แม่น ว่าเป้าหมายมีทั้งหมด…ห้าคน…

ซอมบี้สาวสองตัว เจ้าเด็กหนุ่มที่ตัวตนไม่ชัดเจนนี่อีกหนึ่ง รวมถึงหมีแพนด้ากลายพันธุ์ตัวนั้นที่กำลังพยายามส่ายลำตัวไปมา เพื่อพยายามสลัดแมงมุมที่เกาะตามตัวออกไปให้หมด ถ้าอย่างนั้น…อีกหนึ่งคนล่ะ?

ชายหนุ่มพลันรู้สึกเหงื่อโชกไปทั้งตัว เขายืนตัวสั่นเทา และค่อยๆ เหลือบมองด้านหลังด้วยหางตา

เด็กสาวผมยาวคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ข้างหลังเขาเงียบๆ เด็กสาวคนนี้สวมเครื่องแบบนักเรียกครบชุด แต่ในมือกลับถือเคียวดาบที่สูงกว่าตัวเธอไว้…บนคมดาบที่สะท้อนแสงเยือกเย็น เขามองเห็นดวงตาของเธอ แล้วยังมีสีหน้าที่ดูเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม…แต่ดูเหมือนทั้งโกรธ และเต็มไปด้วยแววตาเย้ยหยันนั่นอีก…

“หาฉันอยู่หรอ?” เด็กสาวเอียงคอ ดวงตาสีแดงกระพริบปริบๆ พลางถามเสียงเบา

“อ๊ากกกกกก!!!!!!!”

—————————————————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+