จอมศาสตราพลิกดาราบทที่ 404 แสดงแสนยานุภาพ

Now you are reading จอมศาสตราพลิกดารา Chapter บทที่ 404 แสดงแสนยานุภาพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การ​ปรากฏตัว​ของ​ห​ลี่​มู่ สำหรับ​พรรค​กระยาจก​แล้ว​เปรียบเสมือน​ยาใจ​ขนานใหญ่​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ เพราะ​เล่าลือ​กัน​ว่า​ไท่​ไป๋​อ๋อง​ห​ลี่​มู่ก็​เป็นยอด​ฝีมือ​สาย​ธรรมะ​ผู้​หนึ่ง​ อีก​ทั้ง​ยัง​ได้ยิน​อี​กว่า​เขา​มีความแค้น​กับ​พรรค​จันทรา​โลหิต​ ดู​จาก​ภาพ​เมื่อ​ครู่​ก็​เห็นได้ชัด​แล้ว​ว่า​ บุคคล​เยี่ยมยอด​ขั้น​เท​วะ​ใน​คำเล่าลือ​ผู้​นี้​ยืน​อยู่​ข้าง​พรรค​กระยาจก​

หลู่​ฉางฟู่ตอนนี้​ยัง​ดึง​สติ​กลับมา​ไม่ได้​

เด็กหนุ่ม​คน​นั้น​คือ​ห​ลี่​มู่ที่​ชื่อเสียง​สะท้าน​ยุทธ​ภพ​?

ทำไม​ถึงมาอยู่​กับ​ท่านหญิง​หวน​จูได้​?

อีก​อย่าง​ ยอด​คนใน​เรื่องเล่า​ที่​สังหาร​องค์​ชาย​ เด็ดหัว​องค์​รัชทายาท​ สังหาร​เท​วะ​ และ​ปลิด​ชีพ​ดาบ​จักรพรรดิ​ ไม่นึก​ว่า​ความจริง​จะเป็น​เด็กหนุ่ม​ที่​อายุ​น้อย​เพียงนี้​ สบาย​ๆ ถึงเพียงนี้​ ไม่มีท่าทาง​อย่าง​บุคคล​ผู้ยิ่งใหญ่​แม้แต่น้อย​ สวม​ชุด​ขอทาน​เก่า​ขาด​ ป้าย​โคลน​บน​หน้า​ บางที​นี่​ถึงจะเป็น​ผู้​สูงส่งที่​แท้จริง​กระมัง​

กลาง​ท้องฟ้า​ การต่อสู้​เริ่ม​ขึ้น​แล้ว​

ห​ลี่​มู่ใช้พลัง​ของ​ตัวเอง​คนเดียว​รับมือ​ปีศาจ​เพลิง​ดำ​และ​เหลียงจื้อ​ร่าง​มาร​

กล​อภินิหาร​พราว​พร่าง​ พลัง​น่า​เหลือเชื่อ​ และ​เคล็ด​การต่อสู้​อัน​น่าอัศจรรย์​ ถูก​สำแดง​ออก​มาจาก​มือ​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​ทั้ง​สาม ชวน​ให้​ผู้คน​เคลิบเคลิ้ม​ใหลหลง​ ยอด​ฝีมือ​พรรค​กระยาจก​ต่าง​ถอยหลัง​ไป​บริเวณ​ชายขอบ​ของ​เกาะ​ขอทาน​ จากนั้น​สร้าง​ค่าย​กล​ขึ้น​ต้านทาน​เศษเสี้ยว​พลัง​จาก​การต่อสู้​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​ชั้นยอด​

‘หมัด​เท​วะ​ร้อย​ลี้​’ กัว​ปู๋เอ้อร์​และ​ ‘เคลื่อน​กาย​ไร้​เงา’ ซุน​ฉางเฟิงก็​ถอย​ไป​จาก​วง​ต่อสู้​เช่นกัน​ ป้องกัน​สุดกำลัง​ แต่​ในขณะเดียวกัน​ใน​ดวงตา​ก็​ฉายแวว​หลงใหล​ มีเพียง​พวกเขา​สอง​คน​เท่านั้น​ที่​มองเห็น​พลัง​น่า​หวาดหวั่น​ที่ซ่อน​อยู่​ข้างหลัง​ภาพ​การต่อสู้​อัน​งดงาม​จนถึงที่สุด​เช่นนี้​ พวกเขา​ทั้งสอง​ติด​อยู่​ขั้น​เท​วะ​มานาน​ ทะลวง​ขั้น​มหา​เท​วะ​มาหลาย​ปี​ไม่มีหวัง​ ทว่า​บัดนี้​ ศึก​ใหญ่​ตรงหน้า​ทำให้​พวกเขา​มองเห็น​แสงแห่ง​ความหวัง​อัน​เลือนราง​ได้​เลาๆ​ แล้ว​

นี่​เป็น​โอกาส​ที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่งนัก​

พลัง​ที่​ปีศาจร้าย​นอก​พิภพ​ทั้งสอง​สำแดง​ออกมา​ไม่ใช่ของ​โลก​นี้​ วิชา​มากมาย​ล้วน​เป็น​พลัง​ธรรมชาติ​ ไม่เคย​พบเห็น​มาก่อน​ แต่​นี่​ก็​สมเหตุผล​แล้ว​ ใน​เมื่อ​เป็น​ศัตรู​ซึ่งมาจาก​โลก​ด้านนอก​ ทว่า​ห​ลี่​มู่เชี่ยวชาญ​จิต​ดาบ​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ตามเวลา​ที่​ผ่าน​ไป​ วิชา​หมัด​และ​วิชา​ดาบ​สลับ​สับเปลี่ยน​ไม่หยุด​ ระหว่าง​โจมตี​แต่ละ​กระบวนท่า​ก็​ปะทุ​พลัง​ที่​ไม่ใช่ของ​โลก​นี้​ออกมา​ เป็น​พลัง​ที่​ต่าง​จาก​พลัง​ปีศาจ​ของ​สอง​ปีศาจร้าย​นอก​พิภพ​ แต่กลับ​ดู​มั่นคง​ไม่เป็นรอง​ใคร​

ไท่​ไป๋​อ๋อง​ห​ลี่​มู่คน​นี้​มีความเป็นมา​อย่างไร​กัน​แน่​

ช่างลึกลับ​นัก​

หวา​งซืออวี่​ที่อยู่​ภายใต้​การปกป้อง​จาก​หยวน​โห่​ว​ก็​ถอย​ไป​ยัง​ริมหาด​หิน​ไกลๆ​ เงยหน้า​มอง​เงาร่าง​ห​ลี่​มู่ที่​ต่อสู้​กลางอากาศ​อย่าง​เหม่อลอย​

สำหรับ​เธอ​ เนื่อง​จากห​ลี่​มู่ลงมือ​เด็ด​ศีรษะ​จิ้น​อ๋อง​ทันที​ ศึก​ที่​ค่ายทหาร​วันนั้น​จึงไม่ได้​เห็น​เหตุการณ์​การต่อสู้​ที่​ดุเดือด​เท่าใด​ หาก​บอ​กว่า​ยุทธ​ภพ​ระดับ​ต่ำ​ที่​ไต่​กำแพง​เดิน​บน​หลังคา​เหมือน​ใน​ละครโทรทัศน์​ เธอ​ยัง​พอ​จะรับได้​ละ​ก็​ เช่นนั้น​ตอนนี้​เห็น​ห​ลี่​มู่ลงมือ​สะเทือน​ฟ้าดิน​ แหวก​ทำลาย​เมฆ ฉีก​ห้วง​อากาศ​ แสงจิต​ดาบ​มากมาย​วูบวาบ​ ประกาย​ดาบ​สาย​หนึ่ง​วูบ​ผ่าน​ก็​ตัด​ยอดเขา​ ผ่า​ปฐพี​ได้​ พลัง​และ​ฤทธิ์เดช​ที่​เหมือน​เทพ​เปิด​ฟ้าผ่า​แผ่นดิน​ใน​เทพนิยาย​เช่นนี้​ ทำให้​หวา​งซืออวี่​ตกตะลึง​สุดขีด​

และ​ตอนนี้​ เธอ​พลัน​เข้าใจ​ความหมาย​และ​พลัง​ที่​แท้จริง​ของ​คำ​ว่า​ห​ลี่​มู่แห่ง​เมือง​ขาว​พิสุทธิ์​แล้ว​

มิน่า​ หลังจากที่​ได้ยิน​ชื่อ​ของ​ห​ลี่​มู่ พรรค​กระยาจก​ทั้งหลาย​ต่าง​โห่ร้อง​ยินดี​อย่า​งอด​ไม่ได้​ ท่าทาง​ตื่นเต้น​ฮึกเหิม​เช่นนั้น​เหมือนว่า​ขอ​เพียง​ห​ลี่​มู่ปรากฏ​กาย​ แม้แต่​เคราะห์​ภัย​ครั้ง​ใหญ่​ก็​สามารถ​พลิก​สถานการณ์​ได้​…นี่​ก็​คือ​พลัง​ เสน่ห์​ และ​อำนาจ​บารมี​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​ชั้นยอด​

ข้าง​กาย​ของ​เธอ​ หมิง​เยวี่ย​น้อย​มอง​ชิงเฟิงด้วย​สีหน้า​โมโห​ “เจ้าจะบอก​หรือไม่​บอก​ ขา​ของ​เจ้าเกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​?”

ชิงเฟิงยิ้ม​เล็กน้อย​ “คุณชาย​ช่วย​ข้า​แก้แค้น​แล้ว​”

หมิง​เยวี่ย​ตอบ​ “ข้า​ไม่สน​ คุณชาย​ช่วย​เจ้าแก้แค้น​แล้ว​ แต่​ข้า​ยัง​ไม่ได้​ทำ​ เจ้าบอก​มานะ​ ใคร​เป็น​คน​ทำ​ ข้า​จะขุด​มัน​ขึ้น​จาก​สุสาน​มาฆ่าทิ้ง​อี​กรอ​บ.​..”

ชิงเฟิงบอก​ “กระดูก​สลาย​กลายเป็น​ผุยผง​ไป​แล้ว​ ยัง​จะมีสุสาน​อะไร​ที่ไหน​เล่า​”

“เจ้า…” ความโกรธ​บน​ใบหน้า​หมิง​เยวี่ย​จางหาย​ไป​แล้ว​ แต่​ขอบตา​แดงก่ำ​ “คนโง่​นี่​ ทำไม​ถึงไม่รู้จัก​ปกป้อง​ตัวเอง​ขนาด​นี้​…ดู​เจ้าสิ หนึ่ง​ปี​แล้วก็​ยัง​อ่อนแอ​แบบนี้​อีก​ ศึกษา​ของ​บ้าบอ​พวก​นั้น​ทำไม​ กิน​ได้​หรือ​อย่างไร​?”

ชิงเฟิงยิ้ม​บาง​ๆ ไม่ได้​โต้เถียง​กับ​นาง​

ในที่สุด​ก็ตาม​แม่เด็ก​โง่ทึ่ม​กลับมา​ได้​ อีก​ทั้ง​นาง​ยัง​ใช้ชีวิต​อย่าง​ยอดเยี่ยม​ สดใส​มีชีวิตชีวา​ เขา​วางใจ​ได้​แล้ว​ สำหรับ​ชิงเฟิงวันนี้​เป็น​วันที่​ดี​วันหนึ่ง​ ความรู้สึก​โชคดี​อัด​แน่น​อยู่​เต็มอก​

“รู้จัก​แต่​ยิ้ม​ทึ่ม​ๆ” หมิง​เยวี่ย​เอ่ย​อย่าง​โมโห​ “ช่างเถอะ​ ไม่ถือสา​เจ้าแล้ว​ วันหลัง​ให้​ข้า​เป็น​คน​ดูแล​คน​ทึ่ม​อย่าง​เจ้าก็แล้วกัน​ ข้า​จะเป็น​ขา​ของ​เจ้า ใคร​กล้า​รังแก​เจ้าข้า​จะฆ่ามัน​ ฆ่ามัน​ให้​หมด​ทั้ง​ตระกูล​เลย​”

พูด​แล้ว​นาง​ก็​เหลือบมอง​หยวน​โห่​วอ​ย่าง​ดุดัน​ “เจ้าลิง​ขน​ทอง​ มอง​อะไร​ ไม่รู้งาน​ขนาด​นี้​เลย​รึ​ เอา​เจ้าทึ่ม​นี่​มาไว้​บน​หลัง​ข้า​สิ”

หยวน​โห่​ว​ค่อนข้าง​หวาดกลัว​โล​ลิ​น้อย​ที่​ดุร้าย​คน​นี้​ เพราะ​ก่อนหน้านี้​มัน​เห็น​ความ​น่ากลัว​ของ​ภาพ​เหตุการณ์​ประหลาด​ ‘ดอกบัว​ขาว​กลาง​ฟ้าคราม​’ อีก​ทั้ง​โล​ลิ​น้อย​ยัง​มอง​ร่าง​ที่​แท้จริง​ของ​มัน​ออก​ใน​พริบตา​ มัน​รู้ตัว​ว่า​ไม่ใช่คู่มือ​ของ​นาง​ เสียแต่ว่า​เจ้านาย​ให้​มัน​ดูแล​ชิงเฟิง นี่​…

มัน​มอง​ชิงเฟิงเล็กน้อย​

ชิงเฟิงพยักหน้า​ให้​

หยวน​โห่​ว​คิด​ๆ แล้วก็​ย้าย​ชิงเฟิงไป​ไว้​ที่​หลัง​หมิง​เยวี่ย​

โล​ลิ​น้อย​ตัว​ไม่สูง ร่าง​ผอมบาง​ ชิงเฟิงอยู่​บน​หลัง​ของ​นาง​ดู​แล้ว​ไม่สมดุล​เอา​เสีย​เลย​ แต่​ก็​มั่นคง​เป็นอย่างมาก​

“ฮิๆ ชิงเฟิงหมิง​เยวี่ย​กลับมา​อยู่​ด้วยกัน​อีกครั้ง​แล้ว​” โล​ลิ​น้อย​ดีใจ​มาก​

ชิงเฟิงนั้น​กลับ​กำลัง​คิด​ว่า​ กลับ​ไป​แล้​วจะ​ใช้วิชา​เล่นแร่แปรธาตุ​หลอม​รถเข็น​ถอด​ได้​ประกอบ​ได้ที่​คุณชาย​เคย​บอก​ ถึงตอนนั้น​ไม่ว่า​หมิง​เยวี่ย​จะเข็น​หรือ​แบก​ขึ้น​หลัง​ก็​ทำได้​ทั้งนั้น​

นาง​แข็งแกร่ง​ขนาด​นี้​แล้ว​ แบก​ได้​แน่นอน​

เขา​ไม่คิด​จะปฏิเสธ​อะไร​พวก​นั้น​เลย​ อย่างไร​เสีย​ ชิงเฟิงหมิง​เย​วี่ย​ เมื่อ​อยู่​ข้าง​กาย​คุณชาย​ก็​เป็นหนึ่ง​เดียวกัน​

ตอนนี้​เอง​ ฉับพลัน​นั้น​กลาง​ท้องฟ้า​มีเสียงร้อง​น่าสังเวช​ดัง​มา

ห​ลี่​มู่เสมือน​เทพ​สังหาร​ จิต​ดาบ​ไร้​ลักษณ์​ฟ้าประทาน​หมุน​วน​รอบกาย​ เสื้อผ้า​บน​ร่าง​กลายเป็น​เศษปลิว​กระจาย​ไป​นาน​แล้ว​ เผย​ให้​เห็น​กล้ามเนื้อ​สีหยก​แข็งแรง​ราว​แกะสลัก​ขึ้น​มา มือซ้าย​ของ​เขา​หิ้ว​ศีรษะ​ที่​มีไฟสีแดง​ลุกไหม้​ ศีรษะ​นั้น​ถึงแม้ถูก​ตัดขาด​ก็​ยัง​มีชีวิต​ ส่งเสียงคำราม​โหยหวน​ และ​ยังคง​ดิ้นรน​…

นั่น​คือ​ศีรษะ​ของ​เหลียงจื้อ​ร่าง​มาร​

ห่าง​ออก​ไป​สามจั้ง ร่าง​ไร้​ศีรษะ​ของ​เหลียงจื้อ​กำลัง​ดิ้นรน​สะเปะสะปะ​อยู่​กลางอากาศ​ ประหนึ่ง​อยาก​จะหา​ศีรษะ​กลับคืน​มา ทว่า​ไม่อาจ​มองเห็น​ได้​ จึงเที่ยว​ชน​ไป​ทั่ว​ปาน​แมลงวัน​ไร้​หัว​

พลัง​ชีวิต​ของ​ปีศาจ​นอก​พิภพ​ช่างน่ากลัว​จริงๆ​

ห​ลี่​มู่ก็​ค่อนข้าง​แปลกใจ​ เขา​ใช้ไฟแท้​แห่ง​เต๋า​เผา​ศีรษะ​ของ​เหลียงจื้อ​แต่​ก็​เผา​ไม่ได้​ ต่อให้​ส่งไฟเข้าไป​ด้าน​ศีรษะ​ก็​ไม่อาจ​สังหาร​ได้​

ตอนนี้​เอง​ ปีศาจ​เพลิง​ดำ​โจมตี​เข้ามา​อีก​

ห​ลี่​มู่ใช้ศีรษะ​ของ​เหลียงจื้อ​ต่าง​ค้อน​ไฟ เข้า​ต่อสู้​อีกครั้ง​

ไม่นาน​นัก​ก็​เห็น​ร่าง​เหลียงจื้อ​ใช้มือ​ลูบ​ผ่าน​หัวนม​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​ตัวเอง​ จุด​นั้น​เปลี่ยนเป็น​ตา​ ในขณะเดียวกัน​ก็​ลูบ​สะดือ​เปลี่ยนเป็น​ปาก​ ก่อน​คำราม​ลั่น​ว่า​ “คืน​หัว​ข้า​มา” พลาง​พุ่ง​สังหาร​ไป​ยัง​ห​ลี่​มู่

“เอ๋​? เป็น​สิงเทียน​รึ​เจ้า…” ห​ลี่​มู่ตกใจ​

ใน​ตำนาน​ของ​โลก​ หลังจาก​เทพ​สงคราม​สิงเทียน​ถูก​ตัด​ศีรษะ​ก็​ใช้หัวนม​แทน​ตา​ ใช้สะดือ​แทน​ปาก​ แล้ว​บุก​ไป​ยัง​สวรรค์​ คนรุ่นหลัง​ขนานนาม​ว่า​เทพ​สงคราม​ เหลียงจื้อ​ที่​กลายเป็น​มาร​คน​นี้​มีพลัง​ของ​เทพ​สงคราม​ด้วย​?

แต่ว่า​ หลังจาก​เปลี่ยนแปลง​เช่นนี้​ พละกำลัง​ของ​เหลียงจื้อ​ก็​ลดลง​ไป​ขั้น​หนึ่ง​

ก่อนหน้านี้​ยาม​เขา​อยู่​ใน​ร่าง​สมบูรณ์​ ห​ลี่​มู่สู้หนึ่ง​ต่อ​สอง​ยัง​เป็น​ฝ่าย​ได้เปรียบ​ นับประสาอะไร​กับ​ตอนนี้​?

ไม่นาน​ เขา​คนเดียว​ก็​ควบคุม​ปีศาจร้าย​นอก​พิภพ​ทั้งสอง​ได้​

ทว่า​ห​ลี่​มู่ไม่ได้​เผย​ความเหนือกว่า​ออกมา​ กลับ​กำลัง​ค่อยๆ​ ฝึกฝน​ ใช้เนตร​สวรรค์​สำรวจ​ไม่หยุด​

หนึ่ง​เพื่อ​สำรวจ​จุดอ่อน​ของ​พวก​มัน​จะได้​โจมตี​ทีเดียว​ถึงตาย​ เลี่ยง​ไม่ให้​หนี​ไป​ได้​ อีก​ด้าน​หนึ่ง​ก็​เพื่อ​ศึกษา​สิ่งมีชีวิต​ที่​มาจาก​ห้วง​ดารา​สมุทร​เสียหน่อย​ ทำความเข้าใจ​ล่วงหน้า​ ถึงอย่างไร​ภายหลัง​ตน​ก็​ต้อง​ก้าว​ไป​สู่ห้วง​ดารา​สมุทร​ และ​ต่อกร​กับ​ขั้ว​อำนาจ​ที่จะ​ทำลาย​โล​ก.​..

ด้าน​ปีศาจ​เพลิง​ดำ​และ​เหลียงจื้อ​ร่าง​มาร​ตกเป็น​ฝ่าย​เสียเปรียบ​ แต่​ก็​สู้ตาย​ไม่ถอย​ บ้าคลั่ง​เป็นอย่างมาก​ ดุดัน​เป็น​อย่างยิ่ง​

‘หรือ​ไอ้​สอง​ตัว​นี้​จะมีแผน​สำรอง​อะไร​?’

ความคิด​หนึ่ง​ผุด​ขึ้น​มาใน​ใจของ​ห​ลี่​มู่

……

“ฮ่าๆ วันนี้​จะเป็น​วัน​ตาย​ของ​ห​ลี่​มู่”

ห่าง​ออก​ไป​สิบ​ลี้​ บน​เมฆสีโลหิต​ ‘จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​’ และ​สอง​คนสนิท​อ้วน​ผอม​ยืน​อยู่​ใน​ชั้น​เมฆ เฝ้าดู​การต่อสู้​ที่​ห่าง​ออก​ไป​ไกลๆ​ ใบหน้า​ฉาย​รอยยิ้ม​ย่ามใจ​

คนสนิท​อ้วน​เอ่ย​ขึ้น​ “ประมุข​หลักแหลม​นัก​ ท่าน​ฝึกฝน​ ‘คัมภีร์​ทะเล​โลหิต​ฉือหัง​ตู้​’ สามขั้นแรก​สำเร็จ​แล้ว​ รอ​ให้​ห​ลี่​มู่สู้กับ​ลิ่วล้อ​เสีย​ไห่​สอง​คน​นี้​จน​บาดเจ็บ​ไป​ทั้งคู่​ ก็​จะสังหาร​ห​ลี่​มู่ได้​”

คนสนิท​ผอม​ก็​กล่าว​อย่าง​นอบน้อม​ “ประมุข​หยั่งรู้​ฟ้าดิน​ ห​ลี่​มู่จะสู้อะไร​ได้​ เรา​ได้​ดู​เสือ​สู้กัน​บน​เขา​ นั่ง​รอ​รับประโยชน์​ได้​พอดี​” 

‘จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​’ พยักหน้า​อย่าง​ได้ใจ​ “ใช่แล้ว​ ความอัปยศ​เพียง​ชั่วประเดี๋ยว​นับ​เป็น​อะไร​ได้​ ขอ​แค่​ฆ่าห​ลี่​มู่ได้​ ชื่อเสียง​ข้า​ก็​จะสะท้าน​ภพ​ ฮ่าๆ ห​ลี่​มู่ก็​แค่​เด็ก​คน​หนึ่ง​ วันนี้​ คือ​วันที่​ข้า​จะได้​ล้าง​ความอัปยศ​”

……

“เวลา​พอสมควร​แล้ว​”

ห​ลี่​มู่เปิด​เนตร​สวรรค์​ มอง​ทะลุ​แก่นแท้​เคล็ด​วิชา​ของ​ปีศาจร้าย​ทั้งสอง​ พลัง​ของ​ปีศาจ​เพลิง​ดำ​อยู่​ที่​ไฟหิน​หลอมเหลว​ใน​กาย​และ​ค่าย​กล​ลาย​เต๋า​นอกกาย​ น่าจะเป็น​ปีศาจ​นรก​ที่​บรรลุ​บาง​ประเภท​ ส่วน​เหลียงจื้อ​ที่​กลายเป็น​มาร​คือ​ร่าง​ที่​ลงมา​เยือน​ไม่สมบูรณ์​

เขา​ลงมือ​ทันที​ ใช้เพลิง​จักรพรรดิ​กระตุ้น​จิต​ดาบ​ จิต​ดาบ​กลุ่ม​หนึ่ง​ฟัน​ออก​ไป​ ร่าง​ไร้​หัว​ของ​เหลียงจื้อ​ขาด​เป็น​ส่วน​ๆ ใน​พริบตา​ ประกายไฟ​วูบวาบ​ จากนั้น​ชิ้นส่วน​ร่าง​ก็​ร่วง​ลง​สู่พื้น​เหมือน​ท่อนไม้​ไหม้​เกรียม​…

“อะไร​กัน​?” ม่านตา​ของ​เทพ​ปีศาจ​เพลิง​ดำ​หด​เล็ก​ลง​ ตกใจ​ยิ่งนัก​

เขา​สัมผัส​ได้​ถึงพลัง​ทำลายล้าง​ที่​คุ้นเคย​จาก​ไฟใน​มือ​ห​ลี่​มู่ นั่น​เป็น​พลัง​แห่ง​ความตาย​ที่​มาก​พอ​จะทำให้​ผู้​แข็งแกร่ง​นับไม่ถ้วน​ใน​ห้วง​ดารา​สมุทร​หวาดกลัว​ทีเดียว​ ทำไม​ถึงไป​อยู่​ใน​มือ​ของ​เด็กหนุ่ม​บน​ดาว​พื้นเมือง​แห่ง​นี้​ได้​?

“เจ้าเป็น​ใคร​?” เทพ​ปีศาจ​เพลิง​ดำ​ถามอย่าง​ตกใจ​ “เจ้าต้อง​เป็น​ผู้มาเยือน​เหมือนกัน​แน่​ เจ้ามาจาก​ดาราจักร​ใด​สำนัก​ใด​? ข้า​เป็น​ศิษย์​ของเสีย​ไห่​ อย่า​ได้​เข้าใจผิด​…”

“เข้าใจผิด​มารดา​เจ้าสิ” ห​ลี่​มู่ลงมือ​อีกครั้ง​

ไฟจักรพรรดิ​ประดุจ​ดาบ​ ฟัน​ร่าง​ของ​ปีศาจ​เพลิง​ดำ​แหลก​เป็น​ชิ้น​ทันที​

ลวดลาย​เต๋า​แน่นขนัด​เป็นชั้นๆ​ หมุน​วน​ หิน​หลอมเหลว​แปลกประหลาด​พุ่งกระฉูด​กลายเป็น​สะเก็ด​ไฟทั่ว​ฟ้า ก่อน​กลับมา​รวม​เป็น​ร่าง​จริง​ของ​ปีศาจ​เพลิง​ดำ​อีกครั้ง​ “ข้า​คือ​ร่าง​มาร​ที่​ลงมา​เยือน​สมบูรณ์​ ต่าง​จาก​เหลียงจื้อ​ เจ้าคิด​จะฆ่าข้า​นั้น​เป็นไปไม่ได้​ ข้า​เป็น​อมตะ​ ข้า​…”

ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ร่าง​ของ​มัน​ก็​ถูก​แสงจิต​ดาบ​ไร้​รูปร่าง​ฟัน​เป็น​สะเก็ด​ไฟกระจาย​ทั่ว​อีกครั้ง​

“คิด​จะลด​พลัง​ของ​ข้า​? ข้า​เกิด​ใหม่​ได้​เป็น​ล้าน​รอ​บ.​..” เสียง​กำเริบเสิบสาน​ของ​เทพ​ปีศาจ​เพลิง​ดำ​ลอย​ออก​มาจาก​สะเก็ด​ไฟ “ขอ​แค่​ไฟดา​ริ​กา​ไม่มอดไหม้​ ข้า​ก็​จะไม่ตาย​ เจ้า…”

ทว่า​ตอนนี้​ จู่ๆ ห​ลี่​มู่ก็​อ้า​ปาก​สูด​ลมหายใจ​

ประหนึ่ง​วาฬ​สูบน้ำ​ พลัง​ที่​ไร้​รูปร่าง​ตลบ​กระจาย​ออกมา​ สะเก็ด​ไฟระยิบระยับ​นั้น​ถูก​สูบ​เข้าไป​ใน​ปาก​เขา​ ไม่หลุด​รอดไป​แม้แต่น้อย​

“เจ้า…” ในที่สุด​เทพ​ปีศาจ​เพลิง​ดำ​ก็​ลนลาน​แล้ว​

“ประมุข​ เหมือน​ห​ลี่​มู่จะชนะ​แล้ว​เลย​”

“ประมุข​ ท่าน​จะลงมือ​หรือไม่​ เอ๋​? ปะ​ ปะ​ ปะ​ ปะ​…ประมุข​?”

คนสนิท​ผอม​มอง​ภาพ​การต่อสู้​ที่อยู่​ไกลๆ​ อย่าง​งงงัน​ สถานการณ์​พลัน​พลิกผัน​ ทำให้​พวกเขา​อึ้ง​จน​พูดไม่ออก​ ห​ลี่​มู่แสดง​พลัง​ที่​เกิน​กว่า​ระดับ​มาตรฐาน​ออกมา​ จับ​ซัด​และ​ฟัน​สังหาร​เทพ​มาร​เพลิง​ดำ​กับ​เหลียงจื้อ​ราวกับ​บิดา​ตี​บุตรชาย​

เมื่อ​คนสนิท​ผอม​อ้วน​ตั้งสติ​กลับมา​ได้​ กลับ​เห็น​ว่า​ข้าง​กาย​ไร้​เงาของ​จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​แล้ว​

ครั้น​ดู​อีกครั้ง​ ประมุข​พรรค​แปลง​เป็น​สายรุ้ง​ หนี​หัวซุกหัวซุน​ไป​ไกลลิบ​ดุจ​หมา​บ้า​

“ประมุข​สมกับ​เป็น​ประมุข​ หนี​เร็ว​กว่า​พวกเรา​เสีย​อีก​”

“ประมุข​ฉลาด​ล้ำ​นัก​ พอ​เห็น​สถานการณ์​เปลี่ยน​ก็​รีบ​หนี​ทันที​โดย​ไม่ต้อง​ยั้งคิด​ นี่​หรือ​คือ​คุณสมบัติ​ของ​จอม​ฉวยโอกาส​?”

ตัว​ขี้​ประจบ​หนึ่ง​ผอม​หนึ่ง​อ้วน​ตั้งตัว​กลับมา​ รีบ​ไล่ตาม​ไป​

“ประมุข​ รอ​พวกเรา​ด้วย​ขอรับ​”

ทั้งสอง​รีบ​ไล่ตาม​สุดกำลัง​

“สมควร​ตาย​ ห​ลี่​มู่จู่ๆ ทำไม​ถึงแข็งแกร่ง​ขึ้น​ขนาด​นี้​?” จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​โมโห​เดือดดาล​ กระทืบเท้า​พลาง​กัดฟัน​กรอด​ “ข้า​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​ของ​เขา​ ต้อง​หนี​…ฝึกฝน​ ‘คัมภีร์​ทะเล​โลหิต​ฉือหัง​ตู้​’ ขั้น​ที่สี่​สมบูรณ์​ถึงจะเป็น​คู่ต่อสู้​ของ​คน​ผู้​นี้​ได้​”

ร่าง​ทั้ง​สามหนี​ไป​ทีเดียว​ไกล​หมื่น​ลี้​ถึงจะหยุด​ลง​

“ประมุข​…” คนสนิท​อ้วน​เข้าไป​ใกล้​

จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​เอ่ย​ขัด​ “อย่า​พูด​”

“ประมุข​อย่า​ได้​โทษ​ตัวเอง​เลย​ สัตบุรุษ​มิควร​อยู่​ใน​ที่​อโคจร​ คีรี​เขียว​กว้างใหญ่​ เหตุใด​กลัว​ไร้​ฟืน​เผา​…ยืด​ได้​งอ​ได้​ ถึงจะ…” คนสนิท​ผอม​กล่าว​ประจบ​

จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​บอก​ “หุบ​ปา​ก.​..เรื่อง​วันนี้​ หาก​ใคร​กล้า​พูด​ออก​ไป​ ข้า​จะฆ่ามัน​ซะ”

“นั่น​แน่นอน​อยู่แล้ว​ ประมุข​กล้ำกลืน​ความอัปยศ​ พวกเรา​จะปิดปากเงียบ​แน่​” คนสนิท​อ้วน​ผอม​เหงื่อ​ไหล​ซ่ก​ รีบ​เอ่ยปาก​รับประกัน​

“ไป​ กลับ​ฐาน​ที่มั่น​หลัก​ พบ​ท่าน​อาจารย์​เซียน​ ข้า​จะปิด​ด่าน​ฝึกฝน​” ‘จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​’ เอ่ย​

“ประมุข​…” คนสนิท​ผอม​อยาก​จะพูด​อะไร​แต่​ก็​หยุด​เอาไว้​

‘จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​’ พูด​อย่าง​โมโห​ “บอ​กว่า​ให้​หุบปาก​ไม่ใช่รึ​?”

ทั้ง​สามแปลง​เป็น​ลำแสง​บิน​ไป​ข้างหน้า​

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ คนสนิท​อ้วน​ก็​อดไม่ไหว​อีกต่อไป​ “ประมุข​ เหมือนว่า​พวกเรา​จะมาผิดทาง​แล้ว​ขอรับ​ นี่​ไม่ใช่ทาง​กลับ​ฐาน​ที่มั่น​หลัก​…”

จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​ว่า​ “แล้ว​ทำไม​ไม่บอก​ตั้งแต่แรก​?”

เมื่อ​ครู่​ห​ลี่​มู่ทำให้​เขา​ตกใจ​อกสั่นขวัญแขวน​ ถึงกับ​ลนลาน​ไม่เลือก​ทิศ​ หนี​ไป​ผิดทาง​

……

บน​เกาะ​ขอทาน​ 

“ปล่อย​ข้า​ ข้า​คือ​ศิษย์​ของเสีย​ไห่​ เท​วะ​เสีย​ไห่​ใกล้​จะลงมา​เยือน​แล้ว​ เขา​ไม่ปล่อย​เจ้าไป​แน่​…” เสียง​โกรธเกรี้ยว​ดัง​มาจาก​ไฟสีดำ​กลางฝ่ามือ​ของ​ห​ลี่​มู่

การต่อสู้​จบ​ลง​แล้ว​

เหลียงจื้อ​ร่าง​มาร​สู้ตาย​ไป​ ส่วน​เทพ​ปีศาจ​เพลิง​ดำ​ถูกห​ลี่​มู่ผนึก​เอาไว้​ใน​ไฟลูก​นี้​

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด