จอมศาสตราพลิกดาราบทที่ 429 ฉายาเทพดาบ

Now you are reading จอมศาสตราพลิกดารา Chapter บทที่ 429 ฉายาเทพดาบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สอง​คน​นี้​ก็​คือ​บุตร​เท​วะ​เสีย​ไห่​กับ​จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​นั่นเอง​

พวกเขา​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​หลาย​สิบ​ลี้​ ปิดบัง​กลิ่นอาย​พลัง​ จ้องมอง​ฉาก​ที่​เกิดขึ้น​ใน​เมือง​จาก​ไกลๆ​ จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​ตกใจ​จน​หน้าซีด​ขาว​ มุมปาก​สั่น​กระตุก​ไป​หมด​ เขา​รู้สึก​ว่า​ห​ลี่​มู่เป็น​ดาว​พิฆาต​ใน​ชีวิต​เขา​โดยแท้​! ขนาด​นี้​ยัง​ไม่ยอม​ตาย​อีก​

“มารดา​มัน​เถอะ​ ห​ลี่​มู่คน​นี้​ปลิ้นปล้อน​เสีย​จริง​ จงใจแสร้ง​บาดเจ็บ​ หลอก​ให้​คน​มากมาย​เพียงนี้​มาติดกับ​ ถูก​สังหาร​กัน​หมด​แล้ว​” จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​ด่าทอ​อย่าง​ทนไม่ไหว​ “เจ้านี่​มัน​มาร​ร้าย​จริงๆ​”

บุตร​เท​วะ​เสีย​ไห่​ลมหายใจ​ค่อยๆ​ สงบ​ลง​ เหลือบมอง​เขา​แวบ​หนึ่ง​ ไม่ได้​พูด​อะไร​

จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​เอ่ย​อีก​ “ครั้งนี้​ต้อง​ขอบคุณ​ท่าน​บุตร​เท​วะ​ คำนวณ​พลิกแพลง​ได้​ยอดเยี่ยม​ เดา​ออก​แต่แรก​ว่า​ห​ลี่​มู่อาจ​เสแสร้ง​ จึงออกจาก​ด่าน​เมือง​มังกร​มาเสีย​ก่อน​ มิเช่นนั้น​ฝ่าบาท​เอาตัวรอด​ได้​แน่นอน​ แต่​ข้าน้อย​มีหวัง​ตาย​อยู่​ที่นั่น​…ขอบคุณ​ฝ่าบาท​ที่​ช่วยชีวิต​สุนัข​อย่าง​ข้าน้อย​ออกมา​”

บุตร​เท​วะ​เสีย​ไห่​ยิ้ม​ๆ กล่าวว่า​ “เจ้ารู้​ก็​ดีแล้ว​”

ใบหน้า​จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​จงรักภักดี​ เอ่ย​อย่าง​เทิดทูน​บูชา​ “ห​ลี่​มู่ถึงแม้จะตึง​มือ​อยู่​บ้าง​ แต่​ทุกอย่าง​อยู่​ใน​การคาดการณ์​ของ​ฝ่าบาท​หมด​แล้ว​ ครั้งนี้​ พวกเรา​ได้​รู้​ไพ่ตาย​ของ​ห​ลี่​มู่ ตอน​ชิงสมบัติ​สุสาน​เทพ​จะได้โอกาส​ดีกว่า​ ฝ่าบาท​ฉลาด​ล้ำ​จริงๆ​”

บุตร​เท​วะ​เสีย​ไห่​รู้สึก​ว่า​หน้า​ร้อนผ่าว​ขึ้น​มา

แต่​เขา​มอง​ท่าทาง​จงรักภักดี​เลื่อมใส​บูชา​ของ​จอม​มาร​จันทรา​โลหิต​แล้ว​ ไม่ใช่การ​พูด​ประชด​กลับ​ จึงพยักหน้า​เอ่ย​ “อืม​ เจ้าเข้าใจ​เจตนา​ของ​ข้า​ก็ดี​ พวกเรา​ออกจาก​ที่นี่​กัน​ก่อน​เถอะ​ การฟื้นฟู​พลัง​เป็นเรื่อง​เร่งด่วน​”

…..

“ท่านหญิง​ ถึงแล้ว​เจ้าค่ะ​ ในที่สุด​เรา​ก็​มาถึงเสียที​”

จ้าว​จี้นั่ง​อยู่​บน​หลัง​สัตว์​บิน​ได้​ เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ยินดี​

ด้านหน้า​คือ​ด่าน​เมือง​มังกร​ รีบ​เดินทาง​มาอย่าง​ไม่รู้​คืน​รู้​วัน​ ในที่สุด​ก็ตาม​มาถึง

ทั้งหมด​คง​ยัง​ทัน​กาล​อยู่​กระมัง​

ไม่ว่า​อย่างไร​ ไม่ว่า​ต้อง​แลก​ด้วย​อะไร​ ก็​จะต้อง​ช่วยชีวิต​ห​ลี่​มู่ ต่อให้​ต้อง​…ตาย​ ก็​จะตาย​อยู่​ข้าง​กาย​เขา​ ใน​โลก​ประหลาด​ใบ​นี้​ เธอ​จะไม่ให้​เขา​โดดเดี่ยว​เด็ดขาด​

หวา​งซืออวี่​คลุม​ชุด​กัน​ลม​สีแดง​ชาด​ นั่ง​อยู่​บน​หลัง​มังกร​ดิน​หก​ปีก​

ลมแรง​พัด​ผม​ยาว​ของ​เธอ​ ใน​ดวงตา​คู่​งามเต็มไปด้วย​ความกังวล​ กำลัง​มอง​เหม่อ​ไป​ด้านหน้า​ จนกระทั่ง​เริ่ม​มองเห็น​เค้า​ของ​ด่าน​เมือง​มังกร​ ดวงตา​ถึงเปล่งประกาย​ทันที​

“ต้อง​ไม่เป็นอะไร​ เขา​จะต้อง​ไม่เป็นอะไร​”

สาวน้อย​พูด​กับ​ตัวเอง​

จ้าว​จี้ที่​มอง​อยู่​อีก​ด้าน​ปวดใจ​เล็กน้อย​

ตั้งแต่​ได้ยิน​ข่าว​ว่า​ห​ลี่​มู่เข้า​ต่อสู้​กับ​จักรพรรดิ​ฉิน​หมิง​ และ​อาจจะ​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ ท่านหญิง​ก็​ตรง​มายัง​ด่าน​เมือง​มังกร​โดย​ไม่สน​อะไร​แทบจะ​ทันที​

ตลอด​การ​เดินทาง​ หวา​งซืออวี่​ใจร้อน​ดั่ง​ไฟ ข้าว​ปลา​ไม่กิน​ ไม่มีความอยาก​อาหาร​ ดวงตา​มอง​ไป​ข้างหน้า​ตลอด​ ริมฝีปาก​ที่​เคย​งดงาม​เกิด​แผล​พุพอง​…สาวงาม​อันดับ​หนึ่ง​ของ​จักรวรรดิ​ซ่งเหนือ​คน​นี้​ราว​ดอกไม้​ที่​ถูก​พัด​ไปมา​กลาง​ลม​ฝน​ ประหนึ่ง​จะเหี่ยวเฉา​ร่วงหล่น​ลง​ได้​ทุกเมื่อ​

แต่ก่อน​จ้าว​จี้ไม่เคย​เห็น​ท่านหญิง​ที่​ปราดเปรื่อง​น่ารัก​สดใส​กระวนกระวาย​เช่นนี้​เลย​

บุก​ฝ่าลม​ฝน​ติดต่อกัน​ทั้ง​กลางวัน​กลางคืน​ อีก​ทั้ง​นาง​เป็น​เพียง​คนธรรมดา​คน​หนึ่ง​ ไม่อาจ​ฝึก​ได้​พลัง​ยุทธ์​มา จินตนาการ​ออก​เลย​ว่า​ร่างกาย​อัน​บอบบาง​นี้​แบก​ความ​เหนื่อยล้า​เช่นไร​ไว้​

คน​ที่นั่ง​อยู่​บน​หลัง​มังกร​ดิน​หก​ปีก​ด้วยกัน​ยังมี​ชิงเฟิงและ​หมิง​เยวี่ย​

ชิงเฟิงนิสัย​สุขุม​ สีหน้า​นิ่ง​สงบ​ ส่วน​หมิง​เยวี่ย​เอะอะ​ตลอดทาง​ ใคร​กล้า​มอง​คุณชาย​ละ​ก็​ นาง​จะบด​กระดูก​มัน​ให้​เป็นผง​เสีย​…

“พี่สาว​วางใจ​เถอะ​ คุณชาย​จะไม่เป็นไร​แน่นอน​” หมิง​เยวี่ย​เดิมที​ไม่รู้สึก​อะไร​กับ​หวา​งซืออวี่​นัก​ ทว่า​ตลอดทาง​เห็น​ว่า​นาง​กังวล​เรื่อง​คุณชาย​ของ​ตน​เพียงใด​ จึงเริ่ม​ที่จะ​ยอมรับ​ใน​ตัว​ท่านหญิง​ซ่งเหนือ​คน​นี้​บ้าง​แล้ว​

ในที่สุด​ มังกร​ดิน​หก​ปีก​บิน​เข้ามา​ด้านใน​ด่าน​เมือง​มังกร​ และ​ร่อน​ลง​บน​พื้นดิน​

ตอนนี้​ เรื่อง​ทั้งหมด​จบสิ้น​ลง​แล้ว​

“เจ้ามาแล้ว​เหรอ​” ห​ลี่​มู่ยิ้ม​พลาง​ทักทาย​หวา​งซืออวี่​

หวา​งซืออวี่​เห็น​ว่า​ห​ลี่​มู่ปลอดภัย​สบายดี​ ความสุข​ใน​ใจก็​มาก​ล้น​จน​สุด​จะบรรยาย​ เปล่งประกาย​ทันใด​ ทว่า​ตอน​เธอ​เห็น​ซ่างกวน​อวี่ถิง​ที่​กำลัง​ยืน​คล้อง​แขน​ห​ลี่​มู่อยู่​ข้างๆ​ ประกาย​ใน​ดวงตา​หม่น​ลง​อย่าง​รวดเร็ว​

หวา​งซืออวี่​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “มาแล้ว​ ไม่เป็นอะไร​ก็ดี​ ข้า​จะได้​วางใจ​”

“คุณชาย​ ท่าน​ไม่เป็นอะไร​ใช่ไห​ม…” หมิง​เยวี่ย​ก็​ตรงดิ่ง​เข้าไป​ราว​พายุหมุน​

หยวน​โห่​ว​ใน​ร่าง​คนใช้​ชุด​เขียว​เข็น​รถเข็น​พา​ชิงเฟิงออกมา​

….

ผลลัพธ์​ของ​สงคราม​ด่าน​เมือง​มังกร​แพร่กระจาย​ออก​ไป​ทั่ว​แผ่นดินใหญ่​เสิน​โจว​ปาน​พายุ​คลั่ง​

ถึงแม้ขั้ว​อำนาจ​หลาย​ฝ่าย​ทั้งคน​ทั้ง​ม้าที่มา​ด่าน​เมือง​มังกร​จะพ่ายแพ้​ไป​ทั้งหมด​แล้ว​ แต่​ก็​ทำ​ให้ข่าว​แพร่กระจาย​ช้าไป​เพียง​วัน​สอง​วัน​เท่านั้น​

เมื่อ​กำลังคน​ของ​สำนัก​โบราณ​และ​ตระกูล​ปลีก​วิเวก​เหล่านี้​พบ​ว่า​ชีวิต​และ​วิญญาณ​ของ​เจ้าสำนัก​ผู้นำ​ตระกูล​ของ​ตน​ถูก​ทำลาย​จน​สิ้น​ ความ​ตกตะลึง​และ​ความหวาดกลัว​ขนานใหญ่​ทำให้​พวกเขา​สูญเสียสติ​ไป​ ตก​อยู่​ใน​ความวุ่นวาย​และ​หวาดผวา​

ส่วน​ทหาร​ต้าเยวี่ย​ก็​ไม่คิด​จะปิดบัง​แต่อย่างใด​ กระทั่ง​ยัง​ช่วย​กระพือข่าว​บางส่วน​ไป​สู่โลก​ภายนอก​อีกด้วย​

“ผู้ใช้​คลื่น​วารี​กับ​มาร​ศักดิ์สิทธิ์​กระบี่​ภูต​ตาย​แล้ว​ ตาย​ไป​นาน​แล้ว​ที่​วิหาร​เทพ​หมาป่า​”

“คน​คลั่ง​หนังสือ​เว่ยอู๋​ปิ้ง​ก็​ถูกห​ลี่​มู่สังหาร​”

“เก้า​ยอด​คนใต้​หล้า​ใกล้​จะตาย​หมด​แล้ว​”

“น่ากลัว​จริง​”

“ผู้​แข็งแกร่ง​อันดับ​สอง​ของ​ฉู่ใต้​ฉีหวาย​ก็​ตาย​แล้ว​เช่นกัน​”

“ห​ลี่​มู่ใช้กลอุบาย​ สังหาร​ผู้​แข็งแกร่ง​จาก​สำนัก​โบราณ​กับ​ตระกูล​เร้น​กาย​ถึงสามร้อย​หกสิบ​เจ็ด​ชีวิต​ที่​ด่าน​เมือง​มังกร​ ใน​นั้น​มีมหา​เท​วะ​สี่คน​ เท​วะ​ยี่สิบ​หก​คน​ ครึ่ง​เท​วะ​สามสิบเอ็ด​คน​…” คน​ที่​นับ​สถิติ​นี้​ตกใจ​จน​เกือบ​บ้า​ไป​เสีย​เอง​ พูด​ต่อไป​ไม่ออก​

ข่าวสาร​แต่ละ​เรื่อง​ราวกับ​ระเบิดปรมาณู​แต่ละ​ลูกระเบิด​บน​แผ่นดินใหญ่​เสิน​โจว​ กึกก้อง​ทั่ว​ฟ้าดิน​ ทำเอา​คน​มากมาย​มึนงง​กัน​หมด​ ตกใจ​จน​โง่งมและ​นิ่งอึ้ง​ไป​แล้ว​

ความรู้สึก​เช่นนี้​เหมือนกับ​ห​ลี่​มู่คนเดียว​จัด​การสังหาร​ผู้​แข็งแกร่ง​สาย​ยุทธ์​ใน​แผ่นดิน​ทั้งหมด​ กำจัด​ทิ้ง​ราบคาบ​

หาก​บอ​กว่า​หลัง​จากห​ลี่​มู่สังหาร​จักรพรรดิ​ฉิน​หมิง​ ขึ้น​นั่งแท่น​ผู้​แข็งแกร่ง​อันดับ​ของ​แผ่นดิน​ ยัง​ไม่ทัน​จะนั่ง​อย่าง​มั่นคง​ก็​มีคน​สงสัย​ใน​คุณสมบัติ​แล้ว​ละ​ก็​ ใน​ตอนนี้​เวลานี้​ ต่อให้​เป็น​คน​ที่​เกลียดชัง​ห​ลี่​มู่แค่​ไหน​ ก็​ไม่มีเหตุผล​ที่จะ​สงสัย​แล้ว​ ทุกคน​ตัวสั่น​งันงก​กัน​หมด​

อันดับ​หนึ่ง​ใต้​หล้า​ ไม่มีข้อโต้แย้ง​อื่น​

มีคน​บางส่วน​ที่​ใจกล้า​หน่อย​ ตรง​เข้ามา​สำรวจ​สิบ​เมือง​เก้า​พื้นที่​ จึงเห็น​เว่ยอู๋​ปิ้ง​ซึ่งกลายเป็น​ทิวเขา​หลังจาก​ตาย​ไป​ หน้าผา​สูงชัน​ดุจ​ผิว​กระจก​เรียบ​ลื่น​ นั่น​คือ​แขนขา​ที่​ถูก​ดาบ​เทพ​ตัดออก​ ทอด​ยาว​ไป​กว่า​ร้อย​ลี้​ ส่วนมาก​เป็น​ผา​สูงชัน​ จุดยุทธศาสตร์​บน​ยอดเขา​สมบูรณ์แบบ​ราวกับ​ถูก​ดาบ​ฟัน​ขวาน​จามก็​มิปาน​

“เว่ยอู๋​ปิ้ง​ถูก​ดาบ​คลั่ง​แยกร่าง​ วิชา​ดาบ​เช่นนี้​เป็น​พร​จาก​สวรรค์​ชัด​ๆ มีเพียง​เทพเจ้า​ถึงจะฟาดฟัน​ได้​ ห​ลี่​มู่เป็น​เทพ​ดาบ​จริงๆ​”

ขั้น​เท​วะ​ไร้​สังกัด​คน​หนึ่ง​ทอดถอนใจ​

ด้วยเหตุนี้​ ฉายา​เทพ​ดาบ​จึงลือลั่น​ไป​ทั่ว​แผ่นดิน​

วิชา​ดาบ​ไร้​เทียมทาน​ 

วิชา​หมัด​ไร้​เทียมทาน​

พลัง​รบ​ไร้​เทียมทาน​

สรุป​แล้ว​….ไร้​เทียมทาน​

พริบตา​นี้​ คน​มากมาย​อึ้ง​งัน​

เหล่า​ตระกูล​ที่​ปลีก​วิเวก​จาก​โลก​และ​สำนัก​โบราณ​แต่ละ​แห่ง​แตก​เป็น​สอง​ฝ่าย​ ส่วนหนึ่ง​เอะอะ​ว่า​จะแก้แค้น​ ทำ​ตรงๆ​ ไม่ได้​ก็​แอบ​เอา​ จะแก้แค้น​ให้​พวก​ผู้นำ​ตระกูล​ ผู้นำ​เผ่า​ และ​เจ้าสำนัก​ ทว่า​ส่วนใหญ่​หวาดกลัว​ตัวสั่น​ เริ่ม​ปรึกษาหารือ​ว่า​จะชดใช้​ความผิด​และ​ขอขมา​ต่อ​เทพ​ดาบ​ห​ลี่​มู่อย่างไร​ดี​

ขั้ว​อำนาจ​ที่​เคย​เห็น​ห​ลี่​มู่เป็น​ศัตรู​มากมาย​ก็​ยัง​สั่น​กลัว​ เริ่ม​คิด​หาทาง​หนี​กัน​แล้ว​

เขา​ขาว​พิสุทธิ์​

หลังจาก​ได้ยิน​ข่าวคราว​ จ้าวอ​วี่​ผู้​มีพรสวรรค์​อันดับ​หนึ่ง​ของ​สำนัก​กระบี่​ขาว​พิสุทธิ์​ยืน​นิ่ง​อยู่​บน​ผา​กระบี่​ เหม่อลอย​อยู่​นานสองนาน​

“ข้า​สำเร็จ​วิชา​กระบี่​ทางช้างเผือก​ เหยียบ​เข้าสู่​ขั้น​เหนือ​มนุษย์​แล้ว​ ไม่คิด​เลย​…” เขา​ยิ้ม​ขมขื่น​ มีห​ลี่​มู่เป็น​เป้าหมาย​ ทว่า​ตอนนี้​ห​ลี่​มู่กลายเป็น​เทพ​แห่ง​วิชา​ดาบ​ เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ใน​แผ่นดิน​ไป​เสียแล้ว​ ส่วน​เขา​เล่า​?

ลม​แผ่ว​พลิ้ว​ผ่าน​ ใบไม้​ร่วง​ปลิว​ว่อน​

แนวเขา​ไร้​ขอบเขต​ ฟ้าดิน​ไร้​ที่​สิ้นสุด​

“วิถี​ยุทธ์​ทอด​ยาว​ ไร้​ขอบเขต​สิ้นสุด​ ออกจาก​ฟ้าผืน​นี้​ไป​ ยังมี​ฟ้านอก​ผืน​ฟ้าอีก​ บน​โลก​ใบ​นี้​ แต่ไหนแต่ไร​ไม่เคย​ขาด​ผู้​มีพรสวรรค์​ มีเพียง​ปณิธาน​เข้มแข็ง​แน่วแน่​ จึงจะเชื่อมต่อ​นิจ​นิรันดร์​ อดีต​และ​ปัจจุบัน​ได้​ คน​มาก​ความสามารถ​ประสบความสำเร็จ​ช้า ถอย​มาพินิจ​คู่แข่ง​ก่อน​ค่อย​เดินหน้า​ถือ​เป็นเรื่อง​ปกติ​”

เสียง​ของ​เจ้าสำนัก​จ้าว​เสวี่ย​ดัง​ขึ้น​

จ้าวอ​วี่​หันหน้า​ไป​ ใจสั่น​กึก​

ดวงตา​ของ​เขา​ค่อยๆ​ เป็นประกาย​ขึ้น​มา

ถูกต้อง​แล้ว​ พรสวรรค์​ยิ่งใหญ่​ตั้งแต่​อดีต​จวบจน​ปัจจุบัน​ ข้า​อาจจะ​ไม่มี แต่​ปณิธาน​แน่วแน่​ไม่ย่อท้อ​ ข้า​มีมัน​ได้​

……

จักรวรรดิ​ซ่งเหนือ​ วัง​จักรพรรดิ​

“ไม่ว่า​ต้อง​แลก​ด้วย​อะไร​ ก็​ต้อง​ดึง​ห​ลี่​มู่มาอยู่​ฝั่งเรา​ให้ได้​” ดวงตา​ของ​จักรพรรดิ​หนุ่ม​แห่ง​ซ่งเหนือ​เปล่งประกาย​ร้อนแรง​

อันดับ​หนึ่ง​ใน​แผ่นดิน​เชียว​ นี่​หมาย​ถึงว่า​ยุคสมัย​ของ​เก้า​ยอด​คนใต้​หล้า​จบสิ้น​ ปัจจุบัน​เข้าสู่​ยุคสมัย​หนึ่ง​คน​หนึ่ง​ดาบ​เป็นหนึ่ง​ทั่วหล้า​ของ​ห​ลี่​มู่แล้ว​ อำนาจ​ราชวงศ์​ซ่งเหนือ​สั่นคลอน​ หาก​คิด​จะทำให้​มั่นคง​ ยัง​ไม่ใช่เรื่อง​ของ​ห​ลี่​มู่อีก​หรือ​

ปา​เสีย​น​อ๋อง​ตอบกลับ​ “กระหม่อม​จะทำ​อย่าง​สุดความสามารถ​”

เขา​เอง​ก็​คึก​นัก​ ทว่า​ยัง​มีความรู้สึก​ไม่รู้​จะเริ่ม​ตรงไหน​อยู่​บ้าง​ ห​ลี่​มู่มีความสัมพันธ์​อัน​ดี​กับ​ธิดา​บุญธรรม​ แต่​ก็​ยัง​ไม่ถึงขั้น​มอบ​กาย​ถวาย​ใจทั้งหมด​ คิด​ไป​แล้วก็​เป็นเรื่อง​ปกติ​ อันดับ​หนึ่ง​ใน​แผ่นดิน​เลย​ทีเดียว​ จะเสียท่า​เพราะ​เสน่ห์​หญิง​ได้​อย่างไร​

จักรพรรดิ​ซ่งเหนือ​เอ่ย​ “ไม่ได้​แล้ว​ ข้า​จะไป​วิหาร​บรรพชน​ เข้าไป​อธิษฐาน​ต่อ​บรรพชน​ของ​ราชวงศ์​ให้​พวกเขา​อวยพร​ ชี้แนะ​แนวทาง​ให้​กับ​ข้า​”

ตอนนี้​เขา​จิตใจ​ฮึกเหิม​ยิ่งนัก​

……

นครหลวง​ฉิน​ตะวันตก​ เมือง​ฉิน​

“หมิง​ซาน​อ๋อง​เจ้าคน​ไม่ได้เรื่อง​ เรื่อง​แค่นี้​ก็​ทำ​ไม่สำเร็จ​ เสีย​องครักษ์​มาร​ฟ้าไป​ถึงสิบ​คน​” เสียง​น่าเกรงขาม​ดัง​ลอด​ออก​มาจาก​วัง​จักรพรรดิ​ “ข้า​เลี้ยง​เขา​มาเสีย​ข้าวสุก​จริงๆ​ กลยุทธ์​มาร​ฟ้าขั้น​ที่หนึ่ง​ก็​ถ่ายทอด​ให้​เขา​แล้ว​ แต่​ยัง​จัดการ​เจ้าคนพื้นเมือง​นั่น​ไม่ได้​”

บุตรธิดา​หลาย​คน​ของ​ราชวงศ์​ฉิน​ตะวันตก​และ​ร่าง​อีก​บางส่วน​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​เย็นเยียบ​ของ​วัง​จักรพรรดิ​ ทุกคน​ตัวสั่น​ขวัญ​ผวา​

องครักษ์​มาร​เกราะ​ดำ​ห้าสิบ​นาย​ยืน​อยู่​ใน​เงามืด​ ไม่ขยับเขยื้อน​ดุจ​รูป​สลัก​ มีเพียง​ดวงตา​ภายใต้​หน้ากาก​ที่​มีแสงสีแดงเข้ม​อัน​น่ากลัว​ไหลเวียน​อยู่​ ถึงยืนยัน​ได้​ว่า​นี่​คือ​สิ่งมีชีวิต​ ไม่ใช่สิ่งที่​ตาย​ไป​แล้ว​

“เก็บ​คม​ดาบ​ลง​เสีย​ ไม่ต้อง​ไป​แย่งชิง​กับ​ห​ลี่​มู่อีก​ ขุมทรัพย์​สุสาน​เทพ​อาจจะ​เปิด​ออก​ก่อนกำหนด​” เสียง​ที่​น่าเกรงขาม​นั้น​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​ใน​วัง​จักรพรรดิ​ “ข้า​จะเปิด​สระ​มาร​ฟ้า พวก​เจ้าจงลง​ไป​หล่อหลอม​ร่าง​มาร​ฟ้า เตรียมตัว​ลง​ไป​พร้อม​ข้า​”

……

จักรวรรดิ​ฉู่ใต้​

จวน​ชวี​อ๋อง​

“ห​ลี่​มู่ จะต้อง​เป็น​คน​จาก​ดาว​โลก​แน่​ เพียงแต่​ดาว​โลก​ที่​พลัง​วิญญาณ​แห้งเหี่ยว​เพาะ​บ่ม​ผู้​แข็งแกร่ง​เช่นนี้​ขึ้น​มาได้​อย่างไร​? หรือว่า​ ดาว​โลก​ฟื้นฟู​พลัง​วิญญาณ​กลับมา​แล้ว​ มิเช่นนั้น​เขา​จะมีพลัง​ที่​น่ากลัว​ได้​อย่างไร​ ท่าน​อาจารย์​เมื่อ​ครั้งนั้น​ก็​ยัง​ไม่ถึงขนาด​นี้​…พันปี​ต่อมา​ บน​ดาว​โลก​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​?”

ร่าง​สูงโปร่ง​ใน​ชุด​ขาว​ยืน​อยู่​ข้าง​หน้าต่าง​ เงยหน้า​มอง​แสงจันทร์​

“ท่าน​อ๋อง​ หัวหน้า​คน​ชุด​ดำ​มาถึงแล้ว​ขอรับ​” องครักษ์​นาย​หนึ่ง​เข้ามา​รายงาน​ด้วย​ความ​นอบน้อม​

ร่าง​ชุด​ขาว​พยักหน้า​ให้​

……

แผ่นดิน​สุด​แดน​ใต้​

สอง​สำนัก​เทพ​มหา​วารี​และ​ฟ้าคราม​ตก​อยู่​ใน​ความวุ่นวาย​

เรื่อง​ที่​พวกเขา​กังวล​ที่สุด​ก็​เกิดขึ้น​แล้ว​

ข่าว​เรื่อง​ผู้ใช้​คลื่น​วารี​กับ​มาร​ศักดิ์สิทธิ์​กระบี่​ภูต​ดับสูญ​แพร่งพราย​ออก​ไป​

เมื่อ​ไม่มีสอง​ผู้​แข็งแกร่ง​จาก​เก้า​ยอด​คน​คอย​ดูแล​ ไม่ว่า​จะเป็น​สำนัก​มหา​วารี​หรือ​ฟ้าคราม​ พลัง​แท้จริง​ก็​หาย​ไป​กว่า​ครึ่ง​ ส่วน​เผ่า​ผู้วิเศษ​ซึ่งไม่มีอำนาจ​ควบคุม​แผ่นดิน​สุด​แดน​ใต้​อีกแล้ว​กำลัง​เผชิญหน้า​กับ​ยุคสมัย​แห่ง​ความ​เสื่อมถอย​ใน​ทุกๆ​ ด้าน​

แผ่นดิน​สุด​แดน​ใต้​ตก​อยู่​ท่ามกลาง​การนองเลือด​

ใน​ตอนนี้​ โลก​ภายนอก​ก็​เข้าใจ​ในทันที​ ตอนแรก​หลังจาก​ ‘เก้า​ชั้น​ฟ้าปิด​ภูผา​’ ห​ลี่​พั่วเยวี่ย​และ​เต้า​ฉงหยาง​ตาย​ไป​ เผ่า​ผู้วิเศษ​แห่ง​แผ่นดิน​สุด​แดน​ใต้​ก็​จับมือ​เป็น​พันธมิตร​ โห่ร้อง​จะโจมตีกลับ​แผ่นดินใหญ่​ศูนย์กลาง​ ทว่า​ต่อมา​ลด​ธงศึก​ลง​กะทันหัน​ ที่แท้​เป็น​เพราะ​ผู้​แข็งแกร่ง​เก้า​ยอด​คน​ทั้งสอง​ดับ​ดิ้น​ไป​แล้ว​ตั้งแต่​ตอนนั้น​นั่นเอง​

วันนี้​ที่​แผ่นดิน​สุด​แดน​ใต้​ ใน​เผ่า​ผู้วิเศษ​ศักดิ์สิทธิ์​ซึ่งเป็น​ชน​เผ่า​ใหญ่​ที่สุด​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​มีแสงศักดิ์สิทธิ์​ลง​มาจาก​ฟ้า ใน​รัศมี​พัน​ลี้​ล้วน​มองเห็น​กัน​ทั่ว​

บุตรสาว​สุด​รัก​ของ​หัวหน้า​เผ่า​ผู้วิเศษ​ศักดิ์สิทธิ์​อายุ​สิบ​หก​ปี​ ยัง​ไม่ได้​ออกเรือน​ ยัง​เป็น​หญิง​บริสุทธิ์​ หลังจาก​ถูก​แสงเทพ​นี้​สาดส่อง​ จู่ๆ ก็​ปวดท้อง​จน​สลบ​ไป​ จากนั้น​ตรง​ท้องน้อย​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​ปาน​ถูก​สูบลม​ ต่อมา​ราว​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ก็​คลอด​บุตร​ออกมา​

“ข้า​คือ​เทพ​ผู้วิเศษ​กลับมา​เกิด​ใหม่​”

ทารก​ที่​เพิ่ง​เกิด​นี้​ปาก​คาบ​ถาด​หยก​หนึ่ง​อัน​ ครั้น​หยิบ​ออกมา​ถือ​ไว้​ใน​มือ​ก็​พูด​ได้​เดิน​ได้​ อีก​ทั้ง​ยิ่ง​ลึกลับ​มหัศจรรย์​ ชำนาญ​อภินิหาร​เผ่า​ผู้วิเศษ​มากมาย​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด