จอมศาสตราพลิกดาราบทที่ 412 รอมาพันปี

Now you are reading จอมศาสตราพลิกดารา Chapter บทที่ 412 รอมาพันปี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ห​ลี่​มู่ดู​จบ​ ก็​รู้​ทันที​ว่า​ลางสังหรณ์​ไม่ดี​หลาย​วันนี้​มาจาก​ไหน​

ดาราจักร​เทพ​วีรชน​ สำนัก​ใหญ่​!

ขั้ว​อำนาจ​ใหญ่​ใน​ห้วง​ดารา​สมุทร​พวก​นี้​ต่าง​แย่ง​กัน​มาที่​ดาว​นี้​เพื่อ​ช่วงชิง​สมบัติ​ล้ำค่า​ใน​สุสาน​เทพ​ จินตนาการ​ได้​เลย​ว่า​ ถึงตอนนั้น​จะมีผู้​แข็งแกร่ง​นอก​พิภพ​มาเยือน​โดย​ไม่เสียดาย​สิ่งใด​มาก​น้อย​เพียง​ไหน​

นี่​คือ​ความวิบัติ​

ดู​ปีศาจ​เพลิง​ทมิฬ​ เหลียงจื้อ​ที่​กลายเป็น​มาร​ และ​เยวี่ยกั๋วเซียง​ ก็​รู้​แล้ว​ว่า​พวก​ผู้​แข็งแกร่ง​นอก​พิภพ​มีท่าที​ต่อ​สรรพ​ชีวิต​ของ​โลก​ใบ​นี้​อย่างไร​…มอง​เหมือน​หมู​เหมือน​หมา​ ฆ่าแกง​ได้​ตามสบาย​ ทั้ง​ยัง​กลืน​กิน​สรรพ​ชีวิต​ของ​โลก​นี้​เป็น​เครื่องสังเวย​ ใช้ฟื้นฟู​พลัง​ฝึก​ของ​ตัวเอง​ที่​เสีย​ไป​ตอน​มาถึง

ใช้สรรพ​ชีวิต​เป็น​เครื่องสังเวย​ นับ​เป็น​วิชา​มาร​

เกรง​ว่า​แม้แต่​ดาราจักร​เทพ​วีรชน​ ก็​ไม่ใช่ที่​ที่​มีความ​เที่ยงธรรม​อะไร​

สิ่งที่​ทำให้​ห​ลี่​มู่แปลกใจ​ก็​คือ​ ทำไม​สมบัติ​วิเศษ​ที่​หาก​ครอบครอง​แล้​วจะ​ได้​ครอง​ดาราจักร​เทพ​วีรชน​มาอยู่​บน​ดาว​ ‘ห่างไกล​กันดาร​’ ดวง​นี้​ได้​ เกรง​ว่า​สุสาน​เทพ​จะมีที่มา​ที่​ไป​ไม่ธรรมดา​

เพียงแต่​เจ้าเพลิง​ทมิฬ​นี่​เป็น​แค่​ลูกศิษย์​ระดับ​ล่าง​ของ​ทะเล​โลหิต​ สิ่งที่​รู้​ไม่ชัดเจน​เท่าไร​ ใน​ความทรงจำ​ของ​มัน​ไม่มีเบาะแส​ใดๆ​ แล้ว​

แต่ว่า​ห​ลี่​มู่ได้​ข้อมูล​อีก​อย่างหนึ่ง​จาก​ความทรงจำ​ของ​มัน​

บุตร​เท​วะ​เสีย​ไห่​กำลัง​มา อีก​ทั้ง​เป็นไป​ได้มา​กว่า​อาจจะ​มาถึงสำเร็จ​แล้ว​

ต่อ​จาก​เยวี่ยกั๋วเซียง​ นี่​คือ​ผู้​แข็งแกร่ง​นอก​พิภพ​คน​ที่สอง​ที่​แน่ใจ​แล้ว​ว่า​ร่าง​จริง​ลงมา​เยือน​ ปีศาจ​ที่​ควบคุม​หวง​เซิ่งอี้​ หลอกล่อ​องค์​ชาย​สอง​ เป็น​แค่​ความคิด​จิตวิญญาณ​เท่านั้น​ ไม่ใช่ร่าง​แท้จริง​

ความคิด​จิตวิญญาณ​แค่​หลอกล่อ​ผู้​แข็งแกร่ง​ของ​โลก​นี้​ ทำให้​พวกเขา​กลายเป็น​คน​ชั่วร้าย​

แต่​หา​กร่าง​จริง​มาเยือน​ นั่น​หมายถึง​การ​ฆ่าล้าง​สังหาร​

ห​ลี่​มู่ประมาณการ​ใน​ใจเงียบๆ​ หาก​ผู้​แข็งแกร่ง​นอก​พิภพ​เกิน​ร้อย​คน​มาเยือน​ เช่นนั้น​น่ากลัว​ว่า​รวม​สรรพ​ชีวิต​ทั้งหมด​บน​ดาว​ดวง​นี้​เข้าด้วยกัน​ก็​คง​ไม่พอ​สังเวย​ให้​คน​พวก​นี้​

ผู้​แข็งแกร่ง​นอก​พิภพ​มาเยือน​ ฟ้าเกิด​จิต​สังหาร​แล้ว​

เยวี่ยกั๋วเซียง​เป็น​แค่​ลูกศิษย์​รุ่น​ห้า​รุ่น​หก​ของ​วัง​ประสาน​ฟ้าเท่านั้น​ มาถึงดาว​นี้​ก็​กำเริบเสิบสาน​ไป​แล้ว​ฝั่งหนึ่ง​ หาก​มีผู้​แข็งแกร่ง​นอก​พิภพ​ที่​แกร่ง​กว่า​มา…ห​ลี่​มู่รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ยัง​ต้อง​ทะลวง​ขั้น​อีก​ ถึงจะมีไพ่​ไม้ตาย​ปกป้อง​ตัวเอง​เพิ่ม​

ไม่รู้​ว่า​ใน​ความทรงจำ​ของ​เหลียงจื้อ​ร่าง​มาร​จะมีข้อมูล​อีก​หรือไม่​?

ห​ลี่​มู่คิด​จะดึง​ความทรงจำ​จาก​ศีรษะ​ของ​เหลียงจื้อ​ แต่​ไม่รู้​ว่า​เจ้าฮัสกี้​นายพล​ที่พึ่ง​ไม่ได้ตัว​นั้น​คาบ​ศีรษะ​นั่น​ไป​ไหน​แล้ว​…ต่อให้​กลายเป็น​สุนัข​ข้าม​ดวงดาว​ที่​ก้าว​ออกจาก​โลก​ได้​เป็นตัว​แรก​ใน​ประวัติศาสตร์​ แต่​สันดาน​ก็​ยัง​เปลี่ยน​ยาก​

เขา​ปิด​ด่าน​ต่อ​ ฝึกฝน​วิชา​มิติ​ดาบ​สังหาร​

มิติ​ดาบ​ของ​ชิงเฟิงพูด​ได้​ว่า​เปิด​แนวคิด​วิชา​ดาบ​แบบ​ใหม่​อีก​ทาง​หนึ่ง​ให้​กับ​ห​ลี่​มู่

……

“ขอ​ต้อนรับ​ใต้เท้า​”

ร่าง​หก​ร่าง​ที่​ใส่ชุด​สีเหลือง​สด​สวม​หมวก​ครอบ​มวยผม​ทรง​เหลี่ยม​โค้ง​กาย​คำนับ​ใน​เงามืด​ บน​ร่าง​ของ​พวกเขา​มีกลิ่นอาย​แข็งแกร่ง​ทะลัก​ล้น​ แม้แต่​คน​ที่​พลัง​ต่ำสุด​ยัง​เป็น​ขั้น​เท​วะ​

“อืม​ การฝึกฝน​ ‘คัมภีร์​ผสาน​ฟ้าใจกระจ่าง​’ ของ​พวก​เจ้าไม่เลว​เลย​ ถึงขั้น​ที่หก​ ใกล้​จะก้าว​เข้าขั้น​กลั่น​ปราณ​ระดับ​สิบเอ็ด​แบบ​สมบูรณ์​แล้ว​ ก้าว​ไป​อีก​ขั้น​ก็​จะเป็น​ระดับ​สิบสอง​ที่​สูงสุด​ ไม่เลว​ๆ” เสียง​ของ​เยวี่ยกั๋วเซียง​ดัง​ขึ้น​ใน​ความมืด​

“เป็น​เพราะ​วัง​ประสาน​ฟ้าสนับสนุน​”

ร่าง​เงาทั้ง​หก​ใน​ชุด​คลุม​ยาว​สีเหลือง​สด​เอ่ย​ขึ้น​พร้อมกัน​

บน​ร่าง​ของ​พวกเขา​นอกจาก​จะมีวิชา​ที่​ฝึกฝน​แล้ว​ ยัง​ไหล​วน​ด้วย​กลิ่นอาย​ที่​เหมือนกัน​อย่างหนึ่ง​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​บุคคล​ยิ่งใหญ่​อยู่​บน​ตำแหน่ง​สูง มีความ​สูงส่งน่าเกรงขาม​ แต่กลับ​เก็บงำ​เอาไว้​อย่าง​หลักแหลม​

“ครั้งนี้​วัง​เซียน​มอบ​สมบัติ​หา​ยาก​หก​ชิ้น​ชื่อ​ ‘ครอง​เวหา​’ ลงมา​ เป็น​สมบัติ​วิเศษ​ที่​สามารถ​ชิงพลัง​ใน​ฟ้าดิน​ ช่วย​พวก​เจ้าฝึกฝน​ ภายใน​หนึ่งร้อย​วัน​ก็​จะก้าว​สู่ขั้น​สิบสอง​ได้​” เยวี่ยกั๋วเซียง​เอ่ย​

ร่าง​เงาชุด​สีเหลือง​สด​ทั้ง​หก​หายใจ​หอบ​ถี่ขึ้น​เล็กน้อย​

พลัง​ฝึก​ของ​พวกเขา​เกรียงไกร​มาก​พอแล้ว​ แต่​สิ่งที่​ได้ยิน​ก็ช่าง​เย้ายวนใจ​นัก​ กลั่น​ปราณ​ระดับ​สิบสอง​ก็​คือ​ขั้น​ทะลวง​สวรรค์​สมบูรณ์​ ก้าว​ออก​ไป​จาก​ดาว​ดวง​นี้​ได้​ จะไม่ใจสั่น​ได้​อย่างไร​?

เยวี่ยกั๋วเซียง​เพียง​ยกมือ​

ลูก​ทรงกลม​สีทอง​อ่อน​หก​ลูก​ก็​ลอยลิ่ว​ไป​เบื้องหน้า​ของ​คน​ทั้ง​หก​นี้​ พลัง​เซียน​ที่​หลั่งไหล​ออกมา​ทำให้​เมื่อ​มอง​ไป​แล้ว​เกิด​ความรู้สึก​อยาก​ลอย​ล่อง​ทะลวง​สวรรค์​เก้า​ชั้น​ฟ้า ทั้ง​ยัง​มีพลัง​ชีวิต​มหาศาล​ทะลัก​ออกมา​จากข้างใน​

ร่าง​ใน​ชุด​เหลือง​สด​ทั้ง​หก​ต่าง​หยิบ​ ‘ครอง​เวหา​’ มาคนละ​หนึ่ง​ลูก​

“กลืน​มัน​ลง​ไป​ หลอม​มัน​เข้าไป​ใน​หนี​หวาน​กง​ก็ได้​แล้ว​” เยวี่ยกั๋วเซียง​เอ่ย​

แต่​ทั้ง​หก​ลังเล​ไป​เล็กน้อย​

ใบหน้า​ที่อยู่​ใน​เงามืด​ของ​เยวี่ยกั๋วเซียง​ฉายแวว​เหี้ยมเกรียม​แวบ​หนึ่ง​

“เดิมที​ไม่คิด​จะยืม​พลัง​ของ​พวก​เจ้า แต่​เมื่อ​สามสี่วันก่อน​ข้า​เจอ​เรื่อง​ยุ่งยาก​เข้า​ บุตร​แห่ง​โชคชะตา​ของ​ดาว​ดวง​นี้​ปรากฏตัว​แล้ว​ ชื่อว่า​ห​ลี่​มู่ ตอนที่​ข้า​มาเสีย​พลัง​ฝึก​ไป​มาก​นัก​ ถูก​เขา​ไล่​สังหาร​เกือบ​เอาชีวิต​ไม่รอด​ พวก​เจ้าไป​สืบหา​ให้​ข้า​ว่า​ห​ลี่​มู่คน​นี้​มีที่มา​ที่​ไป​อย่างไร​ ยิ่ง​ละเอียด​ยิ่ง​ดี​…” เยวี่ยกั๋วเซียง​บอกเล่า​อย่าง​เปิดเผย​

“เรื่อง​นี้​ง่าย​มาก​ ข้า​ยินดี​แบ่งเบาภาระ​ให้​ท่าน​เซียน​ มิสู้พวกเรา​ทั้ง​หก​ลงมือ​พร้อมกัน​ สังหาร​ห​ลี่​มู่เสีย​ ก็​แค่​คลื่นลูกใหม่​เท่านั้น​ อย่างไร​เสีย​พวกเรา​ก็​พลัง​ฝึก​ถึงขั้น​เท​วะ​สูงสุด​แล้ว​” ร่าง​ชุด​เหลือง​สด​ร่าง​หนึ่ง​เอ่ย​ น้ำเสียง​เต็มไปด้วย​ความมั่นใจ​และ​หยิ่งผยอง​ มีความทะนง​ตน​ว่า​จะครอง​ทั้งโลก​นี้​

“บุตร​แห่ง​โชคชะตา​ไม่ได้​สังหาร​ง่ายๆ​ อย่างนั้น​ พวก​เจ้าหก​คน​ร่วมมือ​กัน​ ถึงแม้จะสังหาร​เขา​ได้​แต่​ก็​มีสูญเสีย​ เขา​มีพลัง​ของ​ดาว​ดวง​นี้​เสริมส่ง​ เป็น​บุตร​ที่​สวรรค์​เลือก​ นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ข้า​ก็​เพิ่งจะ​คิดได้​เช่นกัน​ พวก​เจ้าแค่​ต้อง​ส่งคน​ไป​สืบ​ข้อมูล​ของ​เขา​ให้​กระจ่าง​ อย่างเช่น​จุดอ่อน​ของ​เขา​ คน​ที่​สนิท​ที่สุด​คือ​ใคร​ แล้ว​เอา​มาบอก​ข้า​ก็​พอแล้ว​ เรื่อง​นี้​ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​เลย​สำหรับ​พวก​เจ้าที่​เคย​ควบคุม​จักรวรรดิ​” เยวี่ยกั๋วเซียง​เอ่ย​ “สำหรับ​ตัว​พวก​เจ้า ใช้พลัง​ของ​ ‘ครอง​เวหา​’ รีบ​ฝึกฝน​เข้า​เถิด​ อีกไม่นาน​สุสาน​เทพ​จะเปิด​แล้ว​ ถึงตอนนั้น​จะมีผู้​แข็งแกร่ง​มาเยือน​มากกว่า​นี้​ พวก​เจ้าต้อง​ช่วย​ข้า​ชิงสมบัติ​ใน​สุสาน​เทพ​มาให้ได้​ ขอ​แค่​สำเร็จ​ เช่นนั้น​พวก​เจ้าจะเข้า​วัง​ประสาน​ฟ้าก็​มีเงื่อนไข​พร้อมสรรพ​แล้ว​”

……

พรรค​กระยาจก​รักษาคำพูด​อย่าง​ที่​คิด​ไว้​

วัน​ที่สอง​ตอนบ่าย​ ข้อมูล​ก็​ถูก​ส่งมา

ศึก​สิบ​เมือง​เก้า​พื้นที่​ชายแดน​ฉิน​ตะวันตก​ใกล้​ปิดฉาก​ลง​แล้ว​เต็มที​ จักรพรรดิ​ฉิน​หมิง​ไป​ด่าน​ชายแดน​ด้วยตัวเอง​ และ​ทำร้าย​รัชทายาท​ต้าเยวี่ยอวี๋ฮ​ว่า​หลง​จน​บาดเจ็บสาหัส​ เพิ่งจะ​สถาปนา​ขึ้น​ใหม่​ได้​ไม่ถึงปี​ก็​แห้งเหี่ยว​โรยรา​ ใกล้​พินาศ​ย่อยยับ​แล้ว​

ห​ลี่​มู่ได้ยิน​ข่าว​นี้​ก็​ตกใจ​มาก​

วันนั้น​เขา​ทิ้ง​ตรา​หยก​ให้​อวี๋ฮ​ว่า​หลง​ไว้​อัน​หนึ่ง​ เคย​บอก​เอาไว้​ว่า​หาก​เผชิญหน้า​กับ​อันตราย​ใดๆ​ ก็​เรียก​ตน​ไป​ช่วย​ได้​ ต้าเยวี่ย​มีอันตราย​มาก​ถึงขนาด​นี้​ ทำไม​อวี๋ฮ​ว่า​หลง​กลับ​ยัง​ไม่ใช้ตรา​หยก​อีก​?

และ​เพราะ​ก่อนหน้านี้​ไม่ได้​กระตุ้น​ตรา​หยก​ ห​ลี่​มู่จึงคิด​ว่า​ทาง​ฝั่งอวี๋ฮ​ว่า​หลง​เรียบร้อย​ดี​ทุกอย่าง​

นี่​เป็นข่าว​เมื่อ​หนึ่ง​วันก่อน​ ตอนนี้​ต้าเยวี่ย​จะยัง​ยืนหยัด​ได้​หรือไม่​ก็​ไม่อาจ​คาดเดา​ได้​แล้ว​ ผู้​แข็งแกร่ง​ชั้นยอด​อย่าง​จักรพรรดิ​ฉิน​หมิง​มาด้วยตัวเอง​แบบนี้​ เกรง​ว่า​คง​ถูก​บดขยี้​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ ใน​เมื่อ​จ้าว​วิหาร​เทพ​อาทิตย์​ซึ่งเป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​หนึ่ง​ใน​เก้า​ยอด​คนใต้​หล้า​ สุดท้าย​ก็​ยัง​ถูก​จักรพรรดิ​ฉิน​หมิง​สังหาร​ลง​

ตอนนี้​จักรพรรดิ​ฉิน​หมิง​แทบจะ​เป็น​สรรพนาม​ของ​คำ​ว่า​ไร้​พ่าย​บน​โลก​ใบ​นี้​แล้ว​

ห​ลี่​มู่ไม่ลังเล​แม้แต่น้อย​ หลังจาก​จัดเตรียม​บางอย่าง​ก็​ไป​จาก​เมือง​หลิน​อัน​อย่าง​ลับ​ๆ เพียงลำพัง​

เขา​ขี่​กระเรียน​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​สิบ​เมือง​เก้า​พื้นที่​ของ​ชายแดน​ฉิน​ตะวันตก​ทันที​

……

เสียง​ตะโกน​สังหาร​ดัง​สะเทือน​ฟ้า

ควัน​ดินปืน​ลอย​ตลบ​ ใน​อากาศ​มีกลิ่น​เลือด​ลอย​คลุ้ง​

บน​สนามรบ​ทั่ว​รัศมี​หลาย​สิบ​ลี้​ ทุกที่​มีศพ​ร่าง​ไม่ครบ​สมบูรณ์​นอน​กอง​ เปลวไฟ​ลุกไหม้​ ผืนดิน​แตกแยก​เป็น​ร่อง​ๆ ภูเขา​พังทลาย​ สิ่งมีชีวิต​ไม่เหลือ​รอด​

กองทัพ​ฉิน​ตะวันตก​มืดฟ้ามัวดิน​ ทะลัก​เข้า​มาจาก​ทุก​ทิศ​ประหนึ่ง​คลื่น​ ล้อม​ด่าน​เมือง​มังกร​เอาไว้​อย่าง​แน่นหนา​

ธงสีดำ​ลาย​วิหค​ทมิฬ​เก้า​หัว​เรียงราย​แน่นขนัด​ สะบัด​ไป​ตาม​ลม​ ส่งเสียง​ดังสนั่น​ท่ามกลาง​เปลวไฟ​และ​ควัน​ดินปืน​ คล้าย​มังกร​สีดำ​ที่​กาง​กรงเล็บ​ดิ้นรน​ให้​พ้น​จาก​พันธนาการ​ ยิ่ง​เพิ่ม​จิต​สังหาร​ที่​ชวน​ให้​คน​หวาดผวา​ขึ้น​อีก​

เรือ​วาฬ​ทะยาน​ฟ้าสิบ​ลำ​ล้อม​น่านฟ้า​ด่าน​เมือง​มังกร​ไว้​จาก​สี่ทิศ​ ราวกับ​ฉลาม​ร้าย​ใต้​ทะเล​ลึก​ที่​เตรียมพร้อม​จะโจมตี​เหยื่อ​ด้านล่าง​ให้​ถึงชีวิต​ใน​ทีเดียว​ได้​ทุกเมื่อ​

ด่าน​เมือง​มังกร​เป็น​ดินแดน​แห่ง​สุดท้าย​ของ​ต้าเยวี่ย​แล้ว​

บน​ประตูเมือง​ อวี๋ฮ​ว่า​หลง​รัชทายาท​แห่ง​ต้าเยวี่ย​ที่​มีคนสนิท​ช่วย​พยุง​อยู่​มอง​ไป​ยัง​ศัตรู​จำนวน​มหาศาล​นอก​ด่าน​ด้วย​สีหน้า​ซับซ้อน​ ใน​ใจทอดถอนใจ​เสียง​แผ่ว​

เขา​วางแผน​มาหลาย​ปี​ ฟื้นฟู​ราชวงศ์​เมื่อ​หนึ่ง​ปีก่อน​ ทั้ง​ยัง​ตั้งธง​ ‘ต้า​เย​วี่ย’​ ขึ้น​โดย​ไม่สน​อะไร​ทั้งสิ้น​ ใฝ่ฝัน​จะกอบกู้​จักรวรรดิ​ใน​อดีต​ กระทั่ง​ใน​ใจยัง​หวัง​ลึก​ๆ ว่า​อาจารย์​ที่​ก้าว​สู่ท้องฟ้า​ดวงดาว​ไป​แล้​วจะ​ถือ​กระบี่​ขับ​ลำนำ​กลับมา​

ถึงอย่างไร​ก็​ผ่าน​มาแล้ว​หนึ่ง​พันปี​

พวก​อาจารย์​น่าจะ​หาทาง​กอบกู้​เจอ​และ​เดินทาง​กลับ​แล้ว​

หาก​เขา​ไม่ตั้งธง​นี้​ ไม่จุดไฟ​บน​เส้นทาง​เซียน​ เช่นนั้น​หาก​พวก​อาจารย์​เดินทาง​กลับ​จะหาทาง​ไม่เจอ​กระมัง​?

เพียงแต่​อาจารย์​ไม่กลับมา​

ทุกคืน​วัน​ อวี๋ฮ​ว่า​หลง​มอง​ท้องฟ้า​ยาม​ราตรี​ ท่ามกลาง​ฟ้ามืดมิด​อ้างว้าง​ที่​มีดวงดาว​ระยิบระยับ​ มีความลับ​อะไร​ซ่อน​อยู่​กัน​แน่​ ทำไม​จอม​ปราชญ์​มากมาย​ก้าว​ไป​สู่ห้วง​ดาว​ดาว​แล้วจึง​ไม่เคย​กลับมา​?

หนึ่ง​พันปี​แล้ว​

พลัง​ฝึก​ของ​อาจารย์​น่า​ครั่นคร้าม​เพียงนั้น​ หรือว่า​จะฝ่าฟัน​เส้น​ทางรอด​ของ​โลก​กลาง​ฟ้าดารา​นี้​ออกมา​ไม่ได้​?

หนึ่ง​พันปี​แล้ว​

พวก​ศิษย์​พี่​ก็​หาย​ไป​หมด​ พวก​อาจารย์​ทำไม​จึงยัง​ไม่กลับมา​?

สิบ​ก้าว​สังหาร​หนึ่ง​คน​ พัน​ลี้​ไม่หยุด​ฝีเท้า​ กิจ​เสร็จสิ้น​สะบัด​ชาย​เสื้อ​จาก​ ซ่อนเร้น​ซึ่งตัวตน​และ​ฐานะ​

ใต้​ลำนำ​กระบี่​บัว​คราม​ ยัง​จะมีผู้ใด​ขัดขวาง​ได้​?

ทำไม​จึงยัง​ไม่กลับมา​

ใบหน้า​ขอ​งอ​วี๋ฮ​ว่า​หลง​ฉายแวว​ขมขื่น​รางๆ​

ล่วงเลย​มาพันปี​ สุดท้าย​ธงของ​ต้าเยวี่ย​ก็​ยัง​จะล้ม​ลง​หรือ​?

เจ็บใจ​ยิ่งนัก​

เหล่า​นักรบ​รอบด้าน​ต่าง​ใช้สายตา​เคารพ​เลื่อมใส​และ​ฮึกเหิม​มอง​เขา​

กองกำลัง​โองการ​ฟ้าหนึ่ง​แสน​นาย​ที่​ลุกฮือ​เมื่อ​ใน​อดีต​ และ​ยังมี​เหล่า​ผู้​แข็งแกร่ง​จาก​สำนัก​เก่าแก่​ของ​ต้า​เย​วี่ย​ หลัง​ผ่าน​การต่อสู้​หนึ่ง​ปี​มานี้​ก็​ล้มหายตายจาก​ไป​มากมาย​ แต่​ไม่มีใคร​ถอย​ ไม่มีใคร​สิ้นหวัง​

เพราะ​ต่อให้​พวกเขา​ไม่กบฏ​ ภายใต้​การปกครอง​ของ​ฉิน​ตะวันตก​ ก็​ถูก​มอง​เป็น​นักโทษ​ เป็น​คนชั้นต่ำ​ กระทั่ง​ว่า​ถูก​มอง​เป็น​หมู​เป็น​หมา​

ยกตัวอย่าง​กองกำลัง​โองการ​ฟ้าหนึ่ง​แสน​นาย​นั้น​ เมื่อก่อน​ภายใต้​การ​บัญชาการ​ของ​ ‘ทวน​ปราบ​อสูร​’ ห​ลี่​หยวน​ป้า​ พวกเขา​ถือเป็น​กองกำลัง​เดนตาย​ หรือ​พูด​อีก​อย่างหนึ่ง​คือ​เป็น​หน่วย​ส่งไป​ตาย​ เพียงแต่​มียุทโธปกรณ์​ดีกว่า​กองกำลัง​ทั่วไป​ มีคุณค่า​มากกว่า​ กำลัง​รบ​แข็งแกร่ง​กว่า​ก็​เท่านั้น​ แต่​ก็​ยังคง​เป็น​คนชั้นต่ำ​ เป็น​ชั้นต่ำ​ที่สุด​ของ​กองกำลัง​โองการ​ฟ้า

ชาติกำเนิด​พวกเขา​ส่วนใหญ่​แล้ว​เป็น​สายเลือด​ชน​รุ่นหลัง​ของ​เชื้อพระวงศ์​ต้าเยวี่ย​เมื่อ​พัน​ปีก่อน​ จึงถูกกระทำ​เหมือน​นักโทษ​ ทาส​ หรือ​สัตว์เลี้ยง​

ความลำบาก​ทุกข์เข็ญ​ของ​พวกเขา​คือ​มหากาพย์​อัน​น่าเศร้า​ทว่า​ฮึกเหิม​ ซึ่งมีมากมาย​เกิน​จะบันทึก​ไว้​

มีแค่​ช่วงเวลา​หนึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​เท่านั้น​ พวกเขา​ถึงได้​สัมผัส​ความ​เป็น​คน​ที่​เสมอภาค​กัน​

ถึงแม้จะสั้น​ๆ แค่​หนึ่ง​ปี​ แต่​ก็​ควรค่า​ให้​พวกเขา​ปกป้อง​ด้วย​ชีวิต​ แม้ตาย​ก็​ไม่เสียดาย​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด