ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 291-2 ยุ่งตัวเป็นเกลียว (2)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 291-2 ยุ่งตัวเป็นเกลียว (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 291 ยุ่งตัวเป็นเกลียว (2)

ฝ่ายบริการ

การรบครั้งสุดท้ายของถ้ำใต้ดินมีผลสรุปคะแนนออกมาแล้ว ฟางผิงสังหารผู้ฝึกยุทธ์ไปหลายคน มีขั้นสี่จำนวนไม่น้อย

ในเมืองความหวังมียอดฝีมือรับหน้าที่สรุปผลคะแนนการรบเช่นกัน

สงครามครั้งนี้ฟางผิงสะสมได้แปดร้อยคะแนน

ช่วงนี้ตาเฒ่าหลี่กลับมาที่ฝ่ายบริการอีกครั้ง ไม่ค่อยได้ดูแลกิจธุระสาขายุทโธปรณ์เท่าไหร่แล้ว

ฟางผิงไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคิดยังไง บางทีอาจจะอยากหนีจากความเงียบสงบ อย่างน้อยตอนนี้ฝ่ายบริการก็เงียบสงบจริงๆ

ตอนที่ฟางผิงไปรับแปดร้อยคะแนน ตาเฒ่าหลี่เป็นคนช่วยจัดการให้

แบ่งคะแนนให้แล้ว ตาเฒ่าหลี่ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะอธิบายว่า “อันที่จริงคะแนนผลการรบของเธอเยอะกว่านี้ แต่ครั้งนี้ทางหน่วยทหารสูญเสียไปมาก จำเป็นต้องให้เงินช่วยเหลือ ดังนั้นตอนที่แบ่งคะแนน พวกเราจึงได้น้อยอยู่บ้าง”

ฟางผิงพยักหน้าว่า “เข้าใจได้ ไม่เป็นไรครับ มีรางวัลให้ก็ไม่เลวแล้ว”

ตาเฒ่าหลี่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเด็กนี้นับว่ายังมีคุณธรรมอยู่บ้าง ตอนนี้สะสมคะแนนได้ไม่น้อยแล้ว วางแผนจะแลกเป็นอะไรล่ะ?”

ได้รับแปดร้อยคะแนนนี้ คะแนนทั้งหมดของฟางผิงจึงรวมเป็นสามพันแปดร้อยคะแนน

ฟางผิงกลับไม่รีบร้อน ยิ้มว่า “ตอนนี้ไม่รีบ ผมยังมีหลายคะแนนที่ไม่ได้ไปเก็บ ทางสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มีอีกห้าร้อยคะแนน นอกจากนี้แพลตฟอร์มหยวนฟางเปิดระบบกู้ยืมมากว่าสามเดือนแล้ว ตัดสมาชิกที่สูญเสียในสงครามบางส่วนออกไปแล้ว สามเดือนนี้น่าจะมีกำไรทั้งหมดประมาณสามพันคะแนน ผมจะได้ส่วนแบ่งสามร้อยคะแนน หนึ่งไตรมาสผ่านไป ผมก็จะได้รับคะแนนพวกนี้พร้อมกัน คำนวณออกมา ผมจะได้ถึงแปดร้อยคะแนน”

ตาเฒ่าหลี่ชำเลืองตามองเขาแวบหนึ่ง นี่มันเศรษฐีชัดๆ!

สี่พันหกร้อยคะแนน!

ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ นอกจากอาจารย์บางคนแล้ว เป็นเรื่องยากที่พวกนักศึกษาจะได้คะแนนเยอะถึงขนาดนี้จริงๆ

แต่ฟางผิงทะลวงขั้นสี่ได้รางวัลหนึ่งพันคะแนน รายงานเรื่องเมืองตงขุยได้อีกสองพันคะแนน รวมถึงสวัสดิการของประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์…

เด็กคนนี้ หากพูดถึงฝีมือในการหาเงิน ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถเทียบได้จริงๆ

ในความเป็นจริงฟางผิงลงถ้ำไปแค่ครั้งเดียว อาศัยอยู่ไม่กี่วันเท่านั้น

ผู้ฝึกยุทธ์ที่ลงถ้ำใต้ดินบ่อยๆ พวกนั้นยังหาไม่ได้เท่าเขาเลย

คะแนนของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ เรื่องนี้มหาวิทยาลัยไม่ได้คัดค้านสวัสดิการของฟางผิง คะแนนของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ อันที่จริงเก็บสะสมไว้ที่ฝ่ายบริการเช่นกัน

ไม่นานห้าร้อยคะแนนก็ถูกแบ่งให้ฟางผิง

ส่วนแพลตฟอร์มหยวนฟาง ตาเฒ่าหลี่รู้เรื่องเช่นกัน ครุ่นคิดแล้วจึงเอ่ยว่า “ดอกเบี้ยที่แพลตฟอร์มเก็บมาเป็นของนักศึกษา ทั้งจะใช้กับนักศึกษา ฟางผิง เคยคิดที่จะยกเลิกดอกเบี้ยพวกนี้หรือเปล่า?”

ฟางผิงเอ่ยอย่างกระอักกระอ่วน “อาจารย์ แพลตฟอร์มให้บริการก็ต้องใช้ต้นทุนเหมือนกัน…”

ตาเฒ่าหลี่แค่นเสียงขึ้นจมูก กลับไม่ได้เกลี้ยกล่อมอะไรอีก เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ฟางผิงต้องการส่วนแบ่ง มหาวิทยาลัยรับปาก ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้แล้ว

แบ่งคะแนนออกมาให้ฟางผิงสามร้อยคะแนนอีกครั้ง นับว่าจ่ายเงินปันผลค่าบริการในไตรมาสแรกเรียบร้อยแล้ว

ตอนนี้ฟางผิงได้คะแนนไปทั้งหมดหนึ่งพันหกร้อยคะแนน ค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นสามสิบสองล้าน

ฟางผิงเหลือบมองการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขแวบหนึ่ง หลายวันมานี้เขากำลังปรับตัวให้คุ้นชิน ไม่ได้ฝึกวิชาอะไรจึงแทบไม่ได้สิ้นเปลืองค่าทรัพย์สิน

ตอนนี้ค่าทรัพย์สินพุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

ทรัพย์สิน : 58,000,000

ปราณ : 2000 แคล (2000 แคล)

จิตใจ : 699 เฮิตรซ์ (699 เฮิรตซ์)

หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 29 ชิ้น (30%+)

“ยังมีอีกสี่พันหกร้อยคะแนน เป็นคะแนนที่สูงที่สุดในประวัติการณ์”

“น่าจะต้องใช้ค่าทรัพย์สินแลกอะไรสักอย่างแล้ว กะโหลกยังไม่ได้หลอม หลังจากนี้ก็ควรเริ่มหลอมหัวใจแล้วเช่นกัน”

ฟางผิงพึมพำในใจ แต่สี่พันหกร้อยคะแนนแลกเปลี่ยนเป็นยาบำรุงมาขาย เกรงว่าตาเฒ่าหลี่คงจะทุบเขาตาย

ครุ่นคิดแล้ว ฟางผิงจึงเอ่ยเบาๆ ว่า “อาจารย์ ตอนนี้นักศึกษาใหม่เข้าเรียน บางคนคะแนนไม่พออยู่บ้าง ในมหาวิทยาลัยเงินสามหมื่นถึงแลกเป็นหนึ่งคะแนนได้ ผมขึ้นชื่อว่าเป็นรุ่นพี่ ดูแลรุ่นน้อง มอบสิทธิ์ประโยชน์ให้พวกเขานิดหน่อย ให้พวกเขาแลกคะแนนด้วยเงินสองหมื่นเก้า คุณคิดว่าเรื่องนี้ทำได้หรือเปล่า?”

ตาเฒ่าหลี่ขมวดคิ้วว่า “เธอไม่ใช้เหรอ?”

“ตอนนี้ยังไม่ใช้ รอจำเป็นผมค่อยใช้เงินสดซื้อ อาจารย์ นี่เท่ากับว่าผมให้สิทธิประโยชน์กับรุ่นน้อง ทั้งไม่ได้ทำลายกลไกตลาดด้วย คงไม่มีปัญหาสินะครับ? มหาวิทยาลัยให้นักศึกษาแลกเปลี่ยนคะแนนไม่ใช่เพราะอยากหาเงินเข้ากระเป๋า? ผมให้ผลประโยชน์พวกเขาเล็กน้อย คะแนนพวกนี้ผมหามาอย่างไม่คำนึงถึงชีวิตเช่นกัน ไม่กล้าใช้เอง…”

“ไม่คำนึงถึงชีวิต?”

ตาเฒ่าหลี่เหลือบมองเขา จะว่าไปแล้วก็เหมือนจะอย่างนั้น ฟางผิงถูกผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกไล่ฆ่า เรื่องนี้เขารู้เช่นกัน

แต่ฟางผิงมักให้ความรู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นคนที่รักตัวกลัวตาย

แน่นอนว่าที่มองแบบนี้เพราะสนิทกัน

ในสายตาของนักศึกษาใหม่ ฟางผิงยังคงน่าเกรงขามอย่างยิ่ง

เงียบไปพักหนึ่ง ตาเฒ่าหลี่จึงพูดว่า “ได้น่ะได้ อันที่จริงมหาวิทยาลัยไม่ส่งเสริมให้นักศึกษาใช้เงินแลกเปลี่ยนเป็นคะแนน แต่อยากให้ไปทำภารกิจหาคะแนนด้วยตัวเองมากกว่า แต่นักศึกษาใหม่ก็ไม่ได้บังคับให้ต้องหาคะแนนเองขนาดนั้น ในเมื่อเธออยากดูแลรุ่นน้อง งั้นก็ลดไปอีกนิดเถอะ สองหมื่นสี่สองหมื่นห้าก็พอแล้ว…”

ฟางผิงใบหน้าดำคล้ำ คุณเห็นผมเป็นพ่อพระหรือไง

ผมซื้อของก็ใช้สามหมื่นแลกเป็นหนึ่งคะแนนเหมือนกัน

หากไม่ใช่เพื่อค่าทรัพย์สิน คนโง่น่ะสิถึงจะยอมลดเงินเพื่อซื้อคะแนน

หนึ่งคะแนน ยึดตามการคำนวณ จะเพิ่มค่าทรัพย์สินให้ฟางผิงสองหมื่นเท่านั้น

สี่พันหกร้อยคะแนน คำนวณออกมาจะเพิ่มให้เขาแค่เก้าสิบสองล้าน

ตอนนี้ขายคะแนนยังไงก็ได้เงินก้อนโต

“อาจารย์ ตอนนี้ผมขาดแคลนเงิน ต้องใช้เงินขยายบริษัทและให้บริการแพลตฟอร์ม แถมฝึกวิชาก็ต้องใช้เงิน ไหนจะเปลี่ยนอาวุธอุปกรณ์ต่างๆ อีก ทั้งไม่กี่วันผมเตรียมจะลงถ้ำใต้ดินสักครั้ง ถึงเวลานั้นต้องใช้เงินเหมือนกัน นอกจากนี้ผมมีน้องสาวที่ต้องเลี้ยงดูอีกหนึ่งคน เธอเริ่มจะฝึกวิชา…”

ตาเฒ่าหลี่แค่นหัวเราะ โบกไม้โบกมือว่า “แล้วแต่เธอ เธอจะขายก็ขายไป อีกอย่าง จะลงถ้ำอย่างนั้นเหรอ? กระตือรือร้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“มีความกดดันน่ะครับ ไม่มีทางเลือก”

ฟางผิงถอนหายใจ “พวกหวังจินหยางทะลวงขั้นสี่สูงสุดแล้ว ผมเพิ่งจะขั้นสี่ตอนกลาง ผมเป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์เซี่ยงไฮ้ จะให้ขายหน้าคนอื่นได้ยังไง? อีกอย่างก่อนหน้านี้ฉินเฟิ่งชิงโทรหาผม บอกว่าเขาเจอเขตดีๆ เข้า พอจะหาเงินก้อนใหญ่ได้ ไว้ค่อยดูแล้วกัน รอเขากลับมาผมจะถามอย่างละเอียด ถ้ามีผลประโยชน์เยอะจริงๆ ผมจะไปสักหน่อย”

“ฉินเฟิ่งชิงบอกเธอ?”

“อืม”

“เขาได้ผลประโยชน์กลับไม่เอา แต่มาบอกเธอ?”

“เขาบอกว่าเขากินคนเดียวไม่ไหว…” ฟางผิงพูดเสียงเบา “ฉินเฟิ่งชิงหนีได้ ผมหนีเร็วยิ่งกว่าเขาซะอีก อาจารย์วางใจเถอะครับ ถึงเขาตาย ผมก็ไม่ตายหรอก”

ตาเฒ่าหลี่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ฉันพูดแบบนั้นหรือไงกัน?

ครุ่นคิดแล้วตาเฒ่าหลี่จึงถามว่า “ถ้ำใต้ดินของหนานเจียงจะเปิดออกไม่กี่เดือนนี้ ถึงเวลานั้นเธอจะไปรึเปล่า?”

“ครับ อยู่แค่หน้าบ้านผม ไม่ไปดูคงไม่วางใจ”

“งั้นลงถ้ำใต้ดินไปเพิ่มประสบการณ์ให้มากหน่อยก็ดี ครั้งนี้อย่าหลงล่ะ”

“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ!”

ฟางผิงทำหน้าอวดดีขึ้นมา ตอนนี้พลังจิตใจของเขาสำเร็จขั้นสูงแล้ว รับรู้การกระจัดกระจายของพลังงานได้อย่างชัดเจน ไม่อาจหลงได้อยู่แล้ว

“ไปถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ อย่าเข้าไปลึกเกินไป เจ้าฉินเฟิ่งชิงเป็นคนใจกล้า อย่าไปเลียนแบบเขา ใช่สิ…”

ตาเฒ่าหลี่ครุ่นคิดเล็กน้อย “สองวันนี้กระทรวงการศึกษาส่งคนมา บอกว่าผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจะสอนภาษาถ้ำง่ายๆ ให้พวกเธอ ไปเรียนรู้สักหน่อยก็ดี”

ตาเฒ่าหลี่ไม่พูดถึงยังพอว่า พูดแล้วฟางผิงก็โมโหขึ้นมา

“น่าย่ากู่ข่าหลี่!” ฟางผิงกัดฟันเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ ประโยคนี้น่าสนใจจริงๆ นะครับ!”

ตาเฒ่าหลี่ไม่สนใจเขา หาวขึ้นมาเอ่ยไล่คนว่า “เอาล่ะ ไม่มีธุระก็อย่ามาที่นี่ ฉันยุ่ง ไปทำเรื่องของเธอเถอะ อย่าเอาแต่มารบกวนตาแก่ตรงนี้”

“คุณช่างงานยุ่งเหลือเกิน!”

ฟางผิงทำปากขมุบขมิบ ไม่รั้งตัวอยู่อีก ต้องเอาคะแนนไปขายก่อน ขายแล้วก็ไปฝึกเคล็ดวิชา เรียนภาษาถ้ำ มีเรื่องให้ต้องทำอีกเยอะ

————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด