ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 257 หน้าประตูวันนี้เมื่อปีกลาย (1)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 257 หน้าประตูวันนี้เมื่อปีกลาย (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 257 หน้าประตูวันนี้เมื่อปีกลาย (1)

เสี้ยววินาทีที่เดินออกมาจากทางเดินพลังงาน

ในกลุ่มนั้นมีหลายคนสะอึกสะอื้นอย่างไร้เสียง

อธิการบดีตายในสงคราม!

อาจารย์หลายคนตายในสงครามถ้ำใต้ดินเช่นกัน เพื่อนร่วมชั้น เพื่อนร่วมทีมของพวกเขา มีบางคนที่ต้องอยู่ในถ้ำใต้ดินตลอดกาล

ตอนแรกมีนักศึกษาสูงกว่าขั้นสามตอนปลายเกือบยี่สิบคน ทำภารกิจครั้งเดียว ป้องกันเมืองครั้งเดียว ตอนนี้กลับมาแค่สิบห้าคนเท่านั้น

นอกห้องโลหะผสม

ผู้เฝ้าประตูทั้งสองคน ตอนนี้เหลือแค่คนเดียว ชายหน้าแผลเป็นไม่รู้ไปไหนแล้ว

ชายที่คราวนั้นบอกว่ารอกำราบถ้ำใต้ดินได้ จะชำแหละประตูโลหะผสมกับฟางผิง

ฟางผิงเหมือนจะนึกอะไรได้ มองไปทางผู้เฝ้าประตูอีกคนที่กำลังใจลอย เอ่ยว่า “คุณลุงหน้าแผลเป็นเขา…”

“บอกว่าจะไปจับสาวๆ ในถ้ำใต้ดิน”

ผู้เฝ้าประตูคนนั้นดูเหงาหงอยอยู่บ้าง หัวเราะว่า “หมอนั่นเอาแต่คิดจะจับสาวๆ ในถ้ำกลับมาปรับทัศนคติ ตอนนี้คงสมใจหวังแล้ว”

ฟางผิงไม่รู้ว่าชายหน้าแผลเป็นเข้าไปในถ้ำเฉยๆ หรือตายในสงครามด้วย เขาไม่ได้ถามออกไปอีก

หลายวันนี้มีคนตายมากเกินไป

ทุกคนหลีกทางหลบออกมาจากทางเดิน ด้านนอกยังมีผู้ฝึกยุทธ์เดินเข้ามาไม่ขาดสาย แต่ไม่มีผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่างอีกแล้ว มีแต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลาง

ชั่วพริบตาที่เดินออกมาสู่พื้นโลก กลางอากาศนั้นไม่รู้ว่ายอดฝีมือคนไหน พึมพำบทกลอนออกมา “หน้าประตูวันนี้เมื่อปีกลาย เธอคนนั้นยิ้มให้กับดอกท้อ มาวันนี้คนไม่อยู่รู้แห่งไหน มีแค่ดอกท้อที่บานเหมือนครั้งก่อน…”

ฟางผิงไม่รู้ว่ายอดฝีมือคนนั้นไว้อาลัยให้กับใคร

ครอบครัว?

คนรัก?

หรือว่าปรมาจารย์ที่ตายในสนามรบพวกนั้น!

ตอนที่พวกปรมาจารย์เฒ่าพกร่างกายไม่สู้ดีก้าวเข้าไปในถ้ำ ชั่ววินาทีนั้นทุกคนก็รู้ว่าครั้งนี้…คงไปไม่กลับ!

“ปรมาจารย์…”

เดินออกมาจากค่ายทหาร ฟางผิงพึมพำเบาๆ นี่ก็คือปรมาจารย์อย่างนั้นเหรอ?

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้

ตอนที่พวกฟางผิงเดินอย่างทุลักทุเลเข้าไปในมหาวิทยาลัย หน้าประตูมีอาจารย์นับสิบคนและสมาชิกคลาสฝึกพิเศษอีกนับสิบคนยืนรออยู่

พวกเขาคารวะผู้ฝึกยุทธ์อย่างเงียบๆ แสดงมารยาทอย่างสูงที่สุดให้กับพวกฟางผิง

ทุกคนต่างยืดหลังตรง ทำความเคารพกลับไป!

คนที่อยู่หน้าสุดคือคณบดีสาขาสังคมศาสตร์ ปรมาจารย์ใหญ่สี่คน สามคนอยู่ในถ้ำ หนึ่งคนอยู่หนานเจียง ตอนนี้เซี่ยงไฮ้ไร้ซึ่งปรมาจารย์

คณบดีสี่คน สามคนลงไปในถ้ำ มีแค่เฉินเจิ้นหวา คณบดีสาขาสังคมศาสตร์รักษาการอยู่ที่นี่

“อธิการพวกเขา…”

ในกลุ่มนั้นมีนักศึกษาหลั่งน้ำตาอย่างเงียบๆ มีคนเช็ดน้ำตาว่า “อธิการ…ตายในสงคราม”

“อาจารย์อู๋เจียงผิง อาจารย์หลันอวี้หรู อาจารย์โจวเฮ่อหราน…ตายในสนามรบหมดแล้ว”

ใบหน้าของเฉินเจิ้นหวาราวกับแก่ลงไปหลายปี ในฝูงชนมีคนก้มหน้าสะอึกสะอื้น

“กลับมาก็ดีแล้วๆ…”

เฉินเจิ้นหวาพึมพำเบาๆ หมุนกายว่า “กลับไปพักผ่อนดีๆ รักษาเนื้อรักษาตัว ทำดีมาก ทำดี…”

เสี้ยวนาทีที่สาวเท้าออกไป ชายชราก็น้ำตาพรั่งพรู

เขารู้นานแล้วว่าควรจะเตรียมใจไว้

แต่มันตั้งหกสิบปี!

อธิการเฒ่าดูแลเซี่ยงไฮ้มาตั้งหกสิบปี ทำไมจากกันไปง่ายๆ แบบนี้ เขาจะทำใจได้ยังไง!

ถือเป็นความสูญเสียของเซี่ยงไฮ้ ความสูญเสียของมวลมนุษยชาติ

วันนี้ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยต่างถูกปกคลุมไปด้วยความโศกเศร้า

ตอนที่ข่าวสารจากถ้ำใต้ดินเผยแพร่ออกมา คนที่รู้เรื่องต่างเผยความโศกศัลย์อย่างถึงที่สุด

ปรมาจารย์เจ็ดคนตายในสงครามถ้ำใต้ดิน!

สังหารยอดฝีมือเจ็ดคนจากเมืองเทียนเหมิน ไม่เหลือแม้แต่ร่างกาย สู้ในถ้ำใต้ดิน ตายในถ้ำใต้ดิน ฝังในถ้ำใต้ดิน

ฟางผิงปฏิเสธที่จะไปห้องพยาบาล เขาได้รับบาดเจ็บแค่ภายนอก ช่วงเวลาที่ออกมาจากถ้ำใต้ดิน เขาคิดแค่เพียงอยากหลับสักตื่นเท่านั้น

ลืมเรื่องของถ้ำใต้ดิน ลืมเรื่องที่มนุษยชาติยังต่อสู้ที่นั่น ลืมเรื่องเพื่อนพ้องร่วมชาติที่ตายในถ้ำใต้ดิน

เขาไม่สามารถกลับไปหาร่างอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นพวกนั้นหลังจากจบสงครามได้ด้วยซ้ำ

ไม่มีกระทั่งสิทธิ์ที่จะร่วมศึกสุดท้าย

เขาอ่อนแอเกินไป

แม้จะสามารถฆ่าขั้นสี่ แต่ยังคงอ่อนแอเกินไป

ในถ้ำใต้ดิน ปรมาจารย์ตายได้เช่นกัน เขาเป็นแค่ขั้นสามตัวเล็กๆ มีสิทธิ์อะไรจะพูดค้านให้ตัวเองอยู่ต่อ?

เวลาสั้นๆ ไม่ถึงสิบวัน ฟางผิงรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของเขา

นักศึกษาของเซี่ยงไฮ้สามารถกลับมาได้ นั่นเพราะหลายคนคิดว่านักศึกษาศิลปะการต่อสู้พวกนี้เป็นเมล็ดพันธุ์ปรมาจารย์ของมวลมนุษยชาติ

ดังนั้นจึงเหลือเมล็ดพันธุ์พวกนี้ไว้ให้เซี่ยงไฮ้

แต่ผู้ฝึกยุทธ์ทหารพวกนั้นล่ะ?

คนธรรมดาพวกนั้นล่ะ?

ฟางผิงไม่ได้ฝึกวิชาต่อ หัวล้มถึงหมอนก็หลับทันที ไม่อาจสนใจกลิ่นเหงื่อที่เหม็นเปรี้ยว กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งได้อีก

ลืมเรื่องของถ้ำใต้ดินไปให้หมด!

ความโศกเศร้าเป็นเรื่องของคนอ่อนแอ เขาไม่อยากจะโศกเศร้า วันไหนตัวเองแข็งแกร่งแล้ว กำราบภัยร้ายของถ้ำใต้ดินได้ นั่นถึงจะเป็นการแสดงความนับถือที่ดีที่สุดต่อผู้วายชนม์

รอจนฟางผิงตื่นขึ้นมา ไม่ได้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าแต่อย่างใด ปวดเนื้อปวดตัวไปหมด

แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในห้อง เป็นครั้งแรกที่ฟางผิงรู้สึกว่าดวงอาทิตย์ช่างสวยงาม

ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ก่อนฟางผิงจะสาวเท้าไปข้างหน้าต่าง

ด้านนอกนั้นนกและแมลงกำลังบินตอมดอกไม้ราวกับดินแดนแห่งความฝัน

“เหมือนกับฝันไปเลย…”

ฟางผิงพึมพำ ด้านล่างตึกมีนักศึกษามาออกกำลังกายในตอนเช้า

ตอนที่ฟางผิงยืนข้างหน้าต่างก็มีคนเห็นเขา รีบตะโกนว่า “ประธาน!”

“สวัสดีตอนเช้าประธาน!”

“ประธานกลับมาแล้ว!”

“…”

คนจากสมาคมผิงหยวนพวกนี้ ไม่ได้ฝีมือแข็งแกร่งเท่าไหร่ พวกเขายังไม่รู้เรื่องถ้ำใต้ดิน รู้แค่ว่ามหาวิทยาลัยส่งคนไปทำภารกิจหลายคน

พวกเขาไม่รู้ว่าในสถานที่ที่พวกเขาไม่รู้จัก วันเดียวกลับมีปรมาจารย์เจ็ดคนตายในสงคราม

รัฐบาลไม่ได้เผยแพร่ข่าวกับสาธารณะชน อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้

ตอนที่คนธรรมดารู้ว่าประเทศจีนมีปรมาจารย์ตายในสงครามวันเดียวถึงเจ็ดคน จะรู้สึกหวาดกลัวขนาดไหนนะ?

ในสายตาของหลายคน ปรมาจารย์คือพระเจ้า สัญลักษณ์ที่ไร้ผู้เทียบเทียม

มีแต่ต้องรอให้ถึงวันนั้น ประชาชนรู้เรื่องถ้ำใต้ดินโดยทั่วกัน มนุษยชาติที่ตายในถ้ำใต้ดินพวกนี้ถึงจะเป็นที่รับรู้ แต่เวลานั้นนอกจากชื่อของคนไม่คุ้นเคยแล้ว ยังจะเป็นอะไรได้อีก?

กระดูกขาวโพลนที่กองอยู่บนริมแม่น้ำนั้น พวกเขาต่างเป็นคนในฝันของใครหลายคน

มนุษยชาติที่เฝ้าอยู่ในถ้ำใต้ดินมีคุณธรรมสูงส่ง ทั้งเหมือนจะต่ำต้อยในเวลาเดียวกัน

ฟางผิงใจลอยอยู่บ้าง พยักหน้าให้คนข้างล่างเบาๆ

อาบน้ำพลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เก็บของอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยก็เดินออกมาจากหอพัก ฟางผิงมึนงงเล็กน้อย ตอนนี้เขาควรจะทำอะไร? ครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนจะสาวเท้าไปฝ่ายบริการ

เซี่ยงไฮ้ที่กว้างขวาง ตอนนี้อาจารย์ที่คุ้นเคยเหมือนจะมีแค่ตาเฒ่าหลี่เท่านั้น

ฝ่ายบริการดูเงียบเหงาเป็นอย่างมาก

นักศึกษาปีสี่จบไปแล้ว นักศึกษาใหม่ยังไม่เข้ามา พวกปรมาจารย์ส่วนมากไปถ้ำใต้ดิน นักศึกษาขั้นสามต่างกำลังรักษาตัวไม่ก็ฝึกวิชา

ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งขั้นสอง ตอนนี้ถึงช่วงปิดเทอมพอดี ส่วนหนึ่งจึงไม่อยู่ในมหาวิทยาลัย

ตอนนี้ในเซี่ยงไฮ้จึงมีคนน้อยอย่างบางตา

ตาเฒ่าหลี่ยังอยู่

เขาไม่ได้ควักยาสูบออกมาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าไปเอาถ้วยถั่วลิสงมาจากไหน กำลังกินเป็นกับแกล้ม

เห็นฟางผิงเข้ามา ตาเฒ่าหลี่เงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ดื่มสักแก้วไหม?”

“อาจารย์…”

ตาเฒ่าหลี่ไม่รอเขาพูดจบ ก็เอ่ยเย้ยหยันตัวเอง “ลงถ้ำใต้ดินไปกันหมด มีแค่ตาแก่อย่างฉันไม่ได้ไป เหอะๆ อธิการประเมินฉันสูงไปจริงๆ ให้ตาแก่ทะลวงเป็นปรมาจารย์ก่อนค่อยว่ากัน ฮ่าๆๆ หากฉันทะลวงได้ คงทะลวงไปนานแล้ว! อธิการกลัวว่าฉันจะไปตายในถ้ำใต้ดิน? ตาแก่เอ้ย ตัวเองยังตาย ยังเป็นห่วงคนอื่นอีก จำเป็นต้องกังวลขนาดนั้นหรือไง”

ตาเฒ่าหลี่ส่ายหัว เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นั่งสิ ยืนรออะไร? หรือนายดูแคลนฉันอยู่?”

“เปล่าครับ”

ฟางผืงนั่งลง จู่ๆ ตาเฒ่าหลี่ก็ยกแก้วเหล้าในมือดื่มจนหมด ถอนหายใจว่า “เธอรู้ไหม? อาจารย์สิบคนในเซี่ยงไฮ้ มีแปดคนที่เป็นลูกศิษย์ของอธิการ”

ฟางผิงตกใจอยู่บ้าง

“อาจารย์ของเซี่ยงไฮ้เทียบได้กับข้าราชการในท้องที่งั้นเหรอ? เทียบได้กับผู้ว่าการมณฑลแต่ละแห่ง? เทียบได้กับแม่ทัพของหน่วยทหาร?”

ตาเฒ่าหลี่ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “เทียบไม่ได้!”

“อาจารย์ของเซี่ยงไฮ้ หากพูดอย่างไม่ถนอมน้ำใจ ฝีมือและความสามารถล้วนแข็งแกร่งกว่าข้าราชการในท้องที่! รั้งตัวอยู่เซี่ยงไฮ้ สิ่งที่ได้รับทั้งหมดยังไม่เท่ากับพวกเขาเลย แต่ทำไมทุกคนถึงรั้งตัวอยู่? นั่นเพราะอธิการ!”

————————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด