ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 236 เมืองแห่งความหวัง (1)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 236 เมืองแห่งความหวัง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 236 เมืองแห่งความหวัง (1)

เมืองความหวัง

นี่เป็นชื่อของฐานทัพ

พวกเขาต่างเรียกที่นี่ว่าเมืองความหวัง ความหวังของมวลมนุษยชาติ ความหวังของผู้ฝึกยุทธ์ ความหวังของคนทั้งหมด

พวกฟางผิงกำลังอยู่ในเมืองความหวัง

เมืองเล็กๆ ที่ใช้หยาดเลือดนับไม่ถ้วนก่อตั้งขึ้นมา หรือจะเรียกอีกอย่างว่ากองทหารรักษาการณ์

ยาวห้าพันเมตร กว้างสี่พันกว่าเมตร ขนาดสองพันกว่าตารางเมตร ยี่สิบกว่าตารางกิโลเมตร

ในความเป็นจริงก็ใหญ่พอๆ กับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้

ที่นี่มีกำลังทหารประจำกว่าห้าหมื่นคน ช่วงสงครามกองกำลังจากข้างนอกจะเข้ามาภายในเกินกว่าหนึ่งแสนคน อีกส่วนหนึ่งจะรักษาการณ์อยู่นอกเมือง

ด้านหน้าและด้านข้างของเมืองความหวังล้วนมีค่ายทหาร ทางนั้นก็มีกองกำลังประจำอยู่บางส่วน

ประตูหลักของเมืองความหวังหันไปทางทิศเหนือ เดินจากประตูทิศเหนือไปข้างหน้าเรื่อยๆ ห่างออกไปแปดสิบกิโลเมตรก็เป็นเมืองเทียนเหมินแล้ว

ส่วนค่ายทหารของมนุษย์ จำกัดอยู่ในรัศมีสิบกิโลเมตรเท่านั้น บางครั้งจะดำเนินการกวาดล้างสิ่งมีชีวิตหรือมนุษย์ถ้ำภายในรัศมีสามสิบกิโลเมตรเช่นกัน

เกินสามสิบกิโลเมตรออกไป นั่นเป็นอาณาเขตของเมืองเทียนเหมินแล้ว

ภายในเมืองเล็กๆ มีการจัดแต่งอย่างเรียบง่าย สิ่งก่อสร้างก็ไม่สลับซับซ้อน

ขึ้นชื่อว่าเป็นกองทหารรักษาการณ์ ทุกอย่างจึงเอื้ออำนวยไปกับการรบ

ไม่มีตึกสูงใหญ่ มีแค่บ้านที่สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ไม่ก็โลหะ เป็นสิ่งก่อสร้างเตี้ยๆ สูงสุดไม่เกินสามชั้นเท่านั้น

ฐานที่มั่นอยู่เขตทางเหนือของเมือง นั่นเป็นทิศทางที่อยู่ตรงข้ามกับเมืองเทียนเหมินโดยตรง สามแห่งอื่นๆ ก็มีฐานที่มั่นเช่นกัน แต่ไม่ได้เยอะเหมือนทางเหนือ

หลังจากที่พวกผู้ฝึกยุทธ์เข้ามา ต้องถูกส่งมาอยู่รวมกันใจกลางเมือง ที่นี่ถูกแบ่งออกเป็นเขตเล็กๆ หลายแห่ง

ตอนนี้พวกฟางผิงเข้ามาในถ้ำใต้ดินประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้ว

ทุกคนรวมตัวกันที่ห้องประชุมโล่งกว้างซึ่งคล้ายกับโรงงงานร้าง…พูดว่าเป็นห้องประชุมเหมือนจะชมเกินไปหน่อย

ฟางผิงไร้เรี่ยวแรงอยู่บ้าง ขนโต๊ะตั่งเก้าอี้จากโลกข้างนอกเข้ามาคงไม่เหนือบ่ากว่าแรงหรอกมั้ง?

กลับกลายเป็นต้องยืนเท่านั้น ลำบากอะไรขนาดนี้!

ใช่แล้ว ทุกคนทำได้แค่ยืน แน่นอนว่าถ้าคุณอยากนั่งพื้นก็ไม่มีคนห้ามเช่นกัน

“ยินดีต้อนรับนักศึกษาทุกคน!”

แม่ทัพสวี่ ชื่อเต็มคือสวี่โม่ฟู่ ผู้รับผิดชอบระดับสูงสุดของหน่วยทหารเซี่ยงไฮ้ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุด

ความเป็นจริงถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้มีปรมาจารย์นั่งรักษาการณ์อยู่ แต่ภาระงานในกองทัพทั่วไป รวมถึงการวางแผน การจัดการของผู้ฝึกยุทธ์ล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของสวี่โม่ฟู่

ครั้งนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้พาผู้ฝึกยุทธ์นักศึกษาเข้ามาเกือบร้อยคน สำหรับเมืองความหวังแล้ว ถือเป็นเรื่องใหญ่เช่นกัน

เมืองความหวังมีกำลังทหารกว่าห้าหมื่นนาย ในนั้นมีผู้ฝึกยุทธ์ทหารประมาณห้าพันนาย ส่วนมากอยู่ในขั้นหนึ่ง

และผู้ฝึกยุทธ์ที่พามาจากโลกข้างนอก โดยทั่วไปแล้วจะไม่เกินสามพันคน

ตอนที่ไม่มีสงคราม ผู้ฝึกยุทธ์ก็ต้องการพักผ่อนเช่นกัน ปกติผู้ฝึกยุทธ์ในเมืองความหวังจะไม่เกินแปดพันคน เทียบกับเมืองเทียนหนานแล้ว ความแตกต่างไม่ใช่น้อยๆ เลย

อีกฝ่ายมีกองกำลังทหารสองแสนคน ผู้ฝึกยุทธ์เกือบสองหมื่นคน ทั้งยังไม่ได้คำนวณผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นๆ ที่เอ้อละเหยอยู่ในเมืองเทียนเหมิน

กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์กว่าร้อยคน นอกจากหน่วยทหารแล้ว ก็มีมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ที่รวบรวมออกมาได้ หน่วยสืบสวนยังเป็นเรื่องยากเลย

ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง อันที่จริงไม่ถือว่าฝีมืออ่อนด้อยจนเกินไป อย่างน้อยก็แข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกยุทธ์ในหน่วยทหารบางส่วน แน่นอนว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองที่เพิ่งเข้าถ้ำเป็นครั้งแรกพวกนี้อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ฝึกยุทธ์ทหารขั้นหนึ่งเสมอไปเช่นกัน

สวี่โม่ฟู่กล่าวต้อนรับแล้ว ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดว่า “สภาพแวดล้อมซอมซ่อไปหน่อย ทั้งเป็นผู้ฝึกยุทธ์เกือบทั้งหมด จึงไม่ได้พิธีรีตองอะไรเท่าไหร่ ในเมืองความหวัง จุดมุ่งหมายของพวกเรามีเพียงอย่างเดียว!”

สวี่โม่ฟู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “สังหารศัตรู!”

“ห่างจากพวกเราออกไปแปดสิบกิโลเมตรเป็นเมืองเทียนหนาน ทุกปีเมืองเทียนหนานจะทำการจู่โจมกองกำลังทหารของเมืองความหวัง มากสุดสิบกว่าครั้ง น้อยสุดสี่ห้าครั้ง ทุกครั้งล้วนต้องหลั่งเลือด! อีกอย่างมนุษย์ถ้ำใต้ดินของเมืองเทียนหนาน พวกที่ไม่อยู่ในระบบทหารจะบุกโจมตีเมืองความหวังเช่นกัน เข่นฆ่าเป็นจำนวนมาก! พวกเราไร้ความสามารถที่จะจู่โจมเมืองเทียนหนาน ทำได้เพียงเลือกตั้งรับ แต่ว่าพวกเราไม่คิดจะนิ่งดูดายเช่นกัน ให้กองกำลังเล็กๆ และทีมผู้ฝึกยุทธ์กระจัดกระจายกันไป ทำสงครามในเขตนอกเมือง! ออกห่างจากเมืองความหวังไปสิบกิโลเมตร อาจจะเจอผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำได้ตลอดเวลา กองทำลังขนาดเล็กทำการสังหารพวกถ้ำถือเป็นเรื่องปกติ อยู่ที่นี่เธอไม่ฆ่าพวกเขา พวกเขาก็จะฆ่าพวกเธอ! หากผู้ฝึกยุทธ์และกองกำลังของอีกฝ่ายจู่โจมแนวป้องกันของพวกเรา เมืองเทียนเหมินเห็นโอกาส ไม่นานก็จะส่งแม่ทัพใหญ่ออกโรง เกิดเป็นสงครามใหญ่!”

“นับตั้งแต่ปลายปีก่อนจนถึงตอนนี้เป็นเวลาครึ่งปีแล้ว การเคลื่อนทัพของเมืองเทียนเหมินนับวันก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ พวกเราสองฝ่ายทำสงครามกันมาหกครั้งแล้ว สงครามเล็กอีกนับไม่ถ้วน! ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายถึงกระทั่งมียอดฝีมือบุกโจมตีเมืองความหวัง ทะลวงแนวป้องกัน ฝ่าสังหารไปถึงประตูทางเดิน หากปล่อยยอดฝีมือพวกนั้นออกจากทางเดินขึ้นไปบนโลก เข้าไปในเซี่ยงไฮ้ นั่นสำหรับมนุษยชาติแล้ว เป็นหายนะอันใหญ่หลวง! เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่รุ่งเรืองที่สุดของจีน ประชาชนนับสิบล้าน ยอดฝีมือระดับสูงทะลวงขึ้นไปบนโลก พวกเราไม่อาจใช้อาวุธที่ทรงอานุภาพสังหารอีกฝ่ายได้ ทำได้เพียงให้ผู้แข็งแกร่งออกโรง แต่ว่าย่อมก่อให้เกิดความสูญเสียนับไม่ถ้วนเช่นกัน…”

“ดังนั้นผู้ฝึกยุทธ์ที่กวาดล้างอีกฝ่าย รวมถึงกองกำลังทหาร ถือเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรกของพวกเรา หากเคลื่อนไหวกำลังพลจำนวนมาก นั่นหมายถึงเกิดสงครามขนาดใหญ่ อันที่จริงพวกเราไม่อยากให้เกิดสงครามขนาดใหญ่…ยังไงความสามารถของพวกเราก็ห่างชั้นกับอีกฝ่ายอยู่บ้าง ใช้ทีมผู้ฝึกยุทธ์ขนาดเล็กเป็นมีดปลายแหลม โจมตีผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำ นี่เป็นสิ่งที่พวกเราทำมาหลายปี ดังนั้นสำหรับมนุษย์ถ้ำ ผู้ฝึกยุทธ์นั้นสำคัญอย่างยิ่ง ผู้ฝึกยุทธ์ของมหาวิทยาลัยศิลปะกาต่อสู้มีฝีมือยอดเยี่ยม ทั้งยังเป็นกำลังใจที่ทำให้พวกเราคว้าชัยชนะ โจมตีผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางหรือระดับสูงของอีกฝ่ายคนหนึ่ง ยังรู้สึกฮึกเหิมกว่าเอาชนะสงครามใหญ่ครั้งหนึ่งซะอีก…”

สวี่โม่ฟู่พูดออกมายกใหญ่ สุดท้ายค่อยเอ่ยว่า “ครั้งนี้ภารกิจสำคัญของพวกเธอคือทำความคุ้นเคยกับภูมิประเทศ ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม หน่วยทหารไม่มอบภารกิจอะไรให้พวกเธออยู่แล้ว แต่ว่าในถ้ำใต้ดิน หากเจอกับสงครามใหญ่ ผู้ฝึกยุทธ์ในเมืองต้องทำตามคำสั่งทั้งหมด! ในถ้ำใต้ดินนอกจากสังหารศัตรูแล้ว ยังมีการสำรวจด้วย การสำรวจพื้นที่ที่ไม่รู้จัก ค้นพบวัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อการสร้างอาวุธหรือผลิตยาบำรุง นี่เป็นการอุทิศตนเพื่อมนุษยชาติ แต่ฉันไม่แนะนำให้ทุกคนไปสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่เคยบุกเบิกจนตอนนี้ ไม่ถึงระดับกลาง พื้นที่ที่ไม่รู้จักอันตรายอย่างยิ่ง ทั้งนอกจากเมืองเทียนเหมินที่อยู่ทางเหนือแล้ว ถัดจากทางตะวันออกและตะวันตกของเมืองความหวังอีกกว่าร้อยเมตร นั่นเป็นเมืองของถ้ำใต้ดินอีกเมืองหนึ่ง กองทัพไม่อยากให้เกิดการปะทะขนาดใหญ่กับเมืองอื่นในตอนนี้ ดังนั้นลอบโจมตีหมู่บ้านนอกเมืองนั้นทำได้ แต่ถ้าไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ ห้ามบุกโจมตีเมืองอื่นสุ่มสี่สุ่มห้าโดยเด็ดขาด!”

พูดมาถึงตรงนี้ ถังเฟิงเอ่ยเสริมว่า “บางครั้งทุกคนก็มีบัญชีแค้นกับพวกถ้ำ จุดนี้สามารถเข้าใจได้ แต่ผลีผามบุกเมืองอื่น หากดึงพวกถ้ำใต้ดินแต่ละเมืองมารวมกัน ล้อมโจมตีพวกเรา งั้นเมืองความหวังคงตกสู่อันตรายจริงๆ แล้ว อย่าทำเพื่อประโยชน์เล็กน้อยจนต้องเสียประโยชน์ส่วนใหญ่ไป สร้างความเสียหายที่ไม่อาจกู้คืนมาได้…”

“อาจารย์ งั้นถ้าเจอคนของเมืองอื่นในป่าด้านนอกล่ะครับ…”

“ฆ่าซะ!”

ถังเฟิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “พวกเราไม่จู่โจมพวกเขาเป็นเพราะเห็นแก่สถานการณ์โดยรวม แต่ถ้าเจอข้างนอกก็ฆ่าไปเลย ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเรื่องยากที่เธอจะแยกออกเหมือนกันว่าผู้ฝึกยุทธ์พวกนั้นมาจากไหน หากเจอมนุษย์ถ้ำในป่าข้างนอก คำเดียวเท่านั้น…ฆ่า!”

———————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด