ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 165-2 การแข่งรอบตัดสิน (2)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 165-2 การแข่งรอบตัดสิน (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 165 การแข่งรอบตัดสิน (2)

วันที่ 15 มกราคม

การแข่งขันแลกเปลี่ยนรอบตัดสิน

สนามกีฬามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้

“ชั่วพริบตาเดียว การแข่งขันแลกเปลี่ยนก็ดำเนินมาถึงวันสุดท้ายแล้ว ทีมเซี่ยงไฮ้พบกับทีมปักกิ่งอีกครั้ง”

หลิวหวาหรงถอนหายใจ กล่าวเปิดฉากการแข่งรอบสุดท้าย

“หลายวันมานี้ ผมรู้สึกสะท้อนใจอยู่หลายครั้ง บางคนยังติดอยู่ในภาพจำจนถึงตอนนี้ หวังเยวี่ยหลงทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยล้มลงร้องไห้กับพื้นในการแข่งรอบสุดท้าย ซุนหมิงอวี่จากทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ที่ฝ่ามือขาดกลับสู้อย่างไม่ถอย เฉินเจียเซิงที่รั้งท้ายทัพสามครั้ง พ่ายแพ้ทั้งสามครั้ง การแข่งขันครั้งสุดท้ายเมื่อวานคุกเข่าร้องไห้อย่างเจ็บปวด…พูดตามตรง ผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาวพวกนี้ ช่วยปลุกพลังในใจผมเหมือนกัน อายุตั้งเท่าไหร่แล้ว แต่หลายวันนี้ผมอยากพาตัวเองไปยืนบนเวทีอย่างมาก ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง ใครจะสนใจความเป็นความตายกัน! ผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาวต้องมีความกล้าหาญและเลือดร้อนเช่นนี้!”

เฉินเสวี่ยเยี่ยนรับบนสนทนาเหมือนกัน “ไม่ใช่แค่ผู้ฝึกยุทธ์ชาย หลายวันนี้ผู้ฝึกยุทธ์หญิงก็แสดงฝีมืออย่างยอดเยี่ยม จ้าวเสวี่ยเหมยใช้ความอ่อนโยนชนะความแข็งแกร่ง ต่อสู้เอาเป็นเอาตายอย่างไม่ถอย หยางเสี่ยวม่านโต้กลับหานซวี่ ใช้ความเจ็บแลกกับความเจ็บ หลี่หรานลงสนามด้วยอาการบาดเจ็บ อาการบาดเจ็บภายในกำเริบ ยังคงสู้จนหยดสุดท้าย ไม่ตายไม่ถอย…”

ทั้งสองคนกล่าวอารัมภบทอยู่พักหนึ่ง หลิวหวาหรงค่อยวกสู่ประเด็นหลัก “วันนี้เป็นการแข่งขันครั้งที่สองของทีมปักกิ่งและทีมเซี่ยงไฮ้! ทีมปักกิ่งจะหวนคืนอำนาจ ช่วงชิงเกียรติยศกลับมาให้ปักกิ่งได้หรือไม่ หรือจะเป็นทีมเซี่ยงไฮ้ที่เอาชนะปักกิ่งอีกครั้ง เอาชนะสองครั้งติดต่อกัน?”

“ทีมเซี่ยงไฮ้จะปีนป่ายไปสู่อันดับหนึ่ง หรือทีมปักกิ่งพลิกสถานการณ์เอาชนะได้?”

“เรามาดูการจัดลำดับทัพของทั้งสองทีมกัน”

“ทีมมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ : หลี่จ้าวซวี่ สวีอี้ข่าย เฉินอวิ๋นซี จ้าวเหล่ย ฟางผิง

ทีมมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง : ฟางเหวินเสียง จางเจิ้นกวง หานซวี่ จางอี้ชวน หยางไซว่”

เห็นลำดับการลงสนามแบบนี้ หลิวหวาหรงตกใจอย่างเห็นได้ชัด

“จุดประสงค์ของเซี่ยงไฮ้ผมมองออกแล้ว ดำเนินทีละก้าวอย่างมั่นคง ถือโอกาสฝึกประสบการณ์รบไปด้วย ให้ฟางผิงรั้งท้ายทัพเพื่อเอาชนะอย่างมั่นคง แต่ทีมปักกิ่งสถานการณ์เป็นมายังไงกันแน่? ฟางเหวินเสียงและจางเจิ้นกวงยังสามารถลงสนามได้อย่างนั้นหรือ? หานซวี่อยู่ตรงกลาง นี่หมายความว่ายังไง? ทีมปักกิ่งห้าคน บาดเจ็บกันแทบทุกคน จางอี้ชวน หยางไซว่ก็ได้รับบาดเจ็บเมื่อวานไม่น้อยเช่นกัน ผมมองการวางแผนของทีมปักกิ่งไม่ออกอยู่บ้าง”

ในเวลาเดียวกัน

ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฟางเหวินเสียงและจางเจิ้นกวงลงสนาม…สองคนนี้บาดเจ็บไม่ใช่น้อย ส่วนสองคนข้างหลัง รู้สึกว่าลากออกมารับผลประโยชน์เท่านั้น”

ตอนนี้ถังเฟิงอยู่ชั้นสอง ชั้นหนึ่งเหลือเพียงไป๋รั่วซีคนเดียว ไป๋รั่วซีขมวดคิ้วเช่นกัน “ทีมปักกิ่งน่าจะมีจุดประสงค์อื่น อีกฝ่ายอาจจะไม่ละทิ้งความคิดที่จะชิงอันดับหนึ่ง หานซวี่ไม่ได้บาดเจ็บหนัก หากปักกิ่งละทิ้งความคิดนี้จริงๆ คงเลือกหานซวี่เป็นคนนำทัพแล้ว ให้หานซวี่เอาชนะรวดหลายคน เปิดฉากด้วยการช่วงชิงเกียรติยศให้ปักกิ่ง แม้ว่าข้างหลังจะพ่ายแพ้ก็ไม่เสียหน้า แต่ตอนนี้ให้ฟางเหวินเสียงเป็นคนนำทัพ…”

“ฟางเหวินเสียงฝีมือไม่อ่อนด้อย แม้ครั้งก่อนจะบาดเจ็บหนัก แต่เขามีปู่เป็นปรมาจารย์อยู่ที่นี่…”

ขณะที่ฟางผิงพูดยังหันไปมองหลี่จ้าวซวี่ “แข่งรอบสุดท้ายแล้ว พยายามถ่วงเวลาหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ หากสู้ไม่ไหวจริงๆ อย่าฝืนดันทุรัง”

หลี่จ้าวซวี่พยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร

“พวกนายเหมือนกัน หากสู้ไม่ไหว ไม่มีความจำเป็นต้องดิ้นรนเอาเป็นเอาตาย ยังไม่ถึงเวลานั้น หากจะสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายจริงๆ จ้าวเหล่ยที่อยู่ลำดับสี่สามารถสู้ตายได้…”

จ้าวเหล่ยไม่อยากพูดอะไรแล้ว ยังจะวกเข้าฉันจนได้?

แม้ฟางผิงจะไม่พูด เขาก็ไม่อาจปล่อยให้คนที่ห้าของทีมปักกิ่งเล็ดลอดไปได้หรอก แต่ทำไมฟางผิงเอาแต่พูดเหน็บแนมเขาอย่างนี้แหละ!

จ้าวเหล่ยไม่พอใจ ฟางผิงไม่พอใจเช่นกัน ใครใช้ให้อาจารย์ของนายเอาแต่เหน็บแนมฉันล่ะ

บนเวที

ไม่นานหลี่จ้าวซวี่และฟางเหวินเสียงก็ขึ้นเวที

ฟางเหวินเสียงยังคงเผยสีหน้าซีดเซียว เห็นได้ชัดว่าบาดแผลยังไม่หายดี

มองหลี่จ้าวซวี่แล้ว ฟางเหวินเสียงค่อยกวาดสายตาไปยังฟางผิงที่อยู่ด้านหลัง

ฟางผิงถูกไม้ถูมือ ทำท่าราวกับให้ชดใช้เงินมา ชั่วพริบตานั้นทำให้ฟางเหวินเสียงโมโหขึ้นมาทันที รีบเบนสายตาไปทางอื่น

“เริ่มได้!”

สิ้นเสียงของผู้ตัดสิน หลี่จ้าวซวี่ก็เคลื่อนไหวฝีเท้าราวกับงู เลี้ยวลดอยู่บนเวที

ฟานเหวินเสียงกลับไม่ขยับแม้แต่น้อย ทำเพียงหันหน้าตรงๆ เข้าหาหลี่จ้าวซวี่

หลี่จ้าวซวี่ปรากฏตัวขึ้นทางไหน ฟางเหวินเสียงก็หันหน้าไปทางนั้น ไม่บุกโจมตีทั้งไม่คิดถอยหลีก

ด้านหลังเวที

ฟางผิงมองอยู่สักพัก ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ฟางเหวินเสียงบาดแผลน่าจะยังไม่หายดี แม้ว่าจะมีความสามารถในการต่อสู้ แต่คงมีพลังแค่ออกหมัดสองหมัดเท่านั้น ตอนนี้เขาไม่หลบไม่หลีก คงอยากให้หลี่จ้าวซวี่ประชิดตัวเข้ามา ออกหมัดเดียวให้รู้แพ้รู้ชนะไปเลย”

พูดจบ ฟางผิงพลางมองไปยังสวีอี้ข่าย “หลี่จ้าวซวี่อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ถ้านายขึ้นเวที อย่าคิดจะผลาญปราณของเขา ให้หลบหลีกเป็นหลัก ออกหมัดเร็วโจมตีเขาหลายๆ ครั้ง ฉันว่าตอนนี้อาการบาดเจ็บภายในของเขาน่าจะยังไม่หายดี เกรงว่าคงไม่อาจเคลื่อนไหวหนักๆ ได้ ออกหมัดสู้เขาไม่กี่หมัด น่าจะจัดการเขาได้แล้ว แน่นอนว่า นายอย่าถูกเขาชกแล้วกัน หมัดของเขาไม่ได้รับง่ายๆ”

“เข้าใจแล้ว”

สวีอี้ข่ายตอบรับ

ส่วนบนเวทีตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว

หลี่จ้าวซวี่วนเวียนรอบๆ อยู่หลายครั้ง ฟางเหวินเสียงกลับไม่ยอมขยับตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ นี่ทำให้หลี่จ้าวซวี่ร้อนใจอยู่บ้าง

นี่ยังคงเป็นครั้งแรกที่เขาลงสนาม ภายใต้สายตาของทุกคน เขากำลังเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่บาดเจ็บคนหนึ่ง

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้กลับไม่กล้าเข้าใกล้ นี่ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่

พอเกิดความร้อนใจ หลี่จ้าวซวี่จึงทนไม่ไหวอีกต่อไป

ครู่ต่อมา หลี่จ้าวซวี่พลันออกพลังที่เท้า เหยียบบนพื้นอย่างแรง พุ่งร่างเข้าไปจู่โจมอย่างรวดเร็ว!

แขนของฟางเหวินเสียงที่ไม่ขยับมาโดยตลอด เวลานี้กลับขยายใหญ่ขึ้น หลี่จ้าวซวี่ยังอยู่กลางทาง ฟางเหวินเสียงกลับส่งหมัดออกมาอย่างแรงแล้ว

หมัดที่ปล่อยออกมา ทุกคนรู้สึกได้แค่ว่าหมัดของเขาปรากฏแสงสีแดงวาบผ่านขึ้นมาพร้อมปราณที่พรั่งพรู

หลี่จ้าวซวี่สัมผัสได้ถึงแรงกดดันเช่นกัน เขารีบถอนตัวไปด้านหลังทันที

ฟางเหวินเสียงที่ตอนแรกยืนอยู่กับที่ กลับก้าวเท้ากระโดดขึ้นไปในอากาศ พุ่งหมัดเข้าหาหัวของหลี่จ้าวซวี่

หลี่จ้าวซวี่รับรู้ได้ถึงอันตราย กลับพบว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ มุมปากของฟางเหวินเสียงมีเลือดไหลออกมา เห็นได้ชัดว่าอาการบาดเจ็บภายในยังไม่หายดี ตอนนี้ต้องใช้ปราณติดต่อกัน อาการจึงทวีความรุนแรงขึ้น

เห็นฉากนี้เข้า หลี่จ้าวซวี่ไม่คิดถอยแล้ว คำรามเสียงดัง ก่อนเท้าซ้ายจะเหยียบพื้น กวาดเท้าขวากลางอากาศไปทางฟางเหวินเสียง!

เมื่อปะทะกัน เขาได้รับบาดเจ็บ ฟางเหวินเสียงก็จะเจ็บหนักซ้ำ ทำให้อาการบาดเจ็บรุนแรงขึ้นเช่นกัน

“พลั่ก!”

ทั้งสองคนประสานหมัดและเท้าเข้าด้วยกัน กระดูกเท้าของหลี่จ้าวซวี่เกิดเสียงดังลั่น

ฟางเหวินเสียงไม่ต่างกัน มุมปากมีเลือดไหลเยอะขึ้นกว่าเดิม

หลี่จ้าวซวี่ลอยกระเด็นออกไป กลับยังคงพลิกร่างกลางอากาศ ตกลงพื้นด้วยขาข้างเดียว

พอร่วงสู่พื้น หลี่จ้าวซวี่ก็ถลาเข้าหาฟางเหวินเสียงอีกครั้ง ตัดสินใจจะใช้อาการบาดเจ็บแลกกับอาการบาดเจ็บของอีกฝ่าย!

ฟางเหวินเสียงขมวดคิ้วเล็กน้อย จำเป็นต้องออกหมัดหนักอีกครั้ง

หมัดถูกแขนของหลี่จ้าวซวี่ มืออีกข้างของหลี่จ้าวซวี่ก็ตบเข้าที่อกของเขาอย่างแรงเช่นกัน!

“อั๊ก!”

ฟางเหวินเสียงกระอักเลือดออกมา เตะเท้าไปหาหลี่จ้าวซวี่อย่างแรง

กระดูกเท้าของหลี่จ้าวซวี่ได้รับบาดเจ็บ การตอบโต้จึงไม่เร็วพอ ชั่วพริบตาก็ถูกเตะเข้าที่หัวเข่า…

หลี่จ้าวซวี่ที่แทบจะคุกเข่าที่อยู่พื้น กลับไม่คิดยอมแพ้ ถือโอกาสพุ่งหมัดใส่ฟางเหวินเสียง…

“สมาชิกทีมเซี่ยงไฮ้…”

หลิวหวาหรงไม่รู้ควรจะวิจารณ์ยังไงดี คนของเซี่ยงไฮ้ ออกทั้งสามกระบวนท่าได้อย่างชำนาญ แต่ยังไงฟางเหวินเสียงก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุด แม้จะได้รับบาดเจ็บ แต่ยังคงไม่ใช่คนที่หลี่จ้าวซวี่ต่อกรได้อยู่ดี

หลังจากปัดป้องไม่กี่กระบวนท่า ก็โจมตีถูกหลี่จ้าวซวี่อีกครั้ง ทำให้เขากระเด็นออกจากเวทีไป

ฟางเหวินเสียงเป็นฝ่ายชนะ ทุกคนไม่แปลกใจเช่นกัน คนหนึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุดหลอมกระดูกสองครั้ง อีกคนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลายหลอมกระดูกหนึ่งครั้ง ความแตกต่างมีมากเกินไป

หลี่จ้าวซวี่สามารถทำให้ฟางเหวินเสียงอาการหนักขึ้น กระอักเลือดออกมาก็ถือว่าไม่ง่ายแล้ว

การแข่งขันครั้งนี้ ทีมปักกิ่งเป็นฝ่ายชนะ

แต่บรรยากาศทางปักกิ่งไม่ได้ดีไปกว่าเซี่ยงไฮ้ กลับยังมีแรงกดดันอยู่บ้าง ฟางเหวินเสียงลงสนามพร้อมอาการบาดเจ็บ

สู้กับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลายจนมีสภาพแบบนี้ นี่ทำให้คนของปักกิ่งพูดไม่ออกอยู่บ้าง

หากฟางเหวินเสียงไม่ได้บาดเจ็บ คงเอาชนะหลี่จ้าวซวี่ได้ภายในสามกระบวนท่า ไม่ลากยาวมาถึงขั้นนี้หรอก!

——————

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *