ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 231-2 เตรียมของขวัญชุดใหญ่ให้เธอ (2)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 231-2 เตรียมของขวัญชุดใหญ่ให้เธอ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 231 เตรียมของขวัญชุดใหญ่ให้เธอ (2)

“จิตใจมนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึงอยู่แล้ว บางคนเป็นวีรบุรุษในสายตาพวกเรา พวกเขาต่อสู้กับศัตรู สังหารพวกมนุษย์ถ้ำ ปกป้องประเทศชาติ…แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ทำเรื่องเลวร้าย เจอกับภัยอันตราย อาจจะใช้เธอเป็นเหยื่อล่อ มองเธอเป็นรองเท้าที่ใช้แล้วทิ้ง หรือขาดแคลนยาบำรุง มีไม่เพียงพอ เจอกับพวกเดียวกัน เธอตายก็ดีกว่าเขาตาย ไม่มีคนรู้อยู่แล้ว ฆ่าเธอชิงทรัพยากรของเธอ เขาทะลวงด่านยังไปฆ่าสิ่งมีชีวิตถ้ำต่อได้ ยังคงเป็นวีรบุรุษผู้กล้าในสายตาทุกคน บางทีในความคิดเขา เธอทำให้เขาประสบผลสำเร็จ ทำให้มวลมนุษยชาติประสบความสำเร็จ การตายของเธอเป็นเรื่องที่คุ้มค่าแล้ว แต่สำหรับเธอ มันคุ้มค่าหรือเปล่าล่ะ?”

ตาเฒ่าหลี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงซับซ้อน “เรื่องพวกนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว ในอดีตแม่ทัพขั้นหกในหน่วยทหารคนหนึ่ง นำทีมเข้าไปส่วนลึกในถ้ำ เผชิญกับวิกฤตการณ์ เจอนักศึกษาศิลปะการต่อสู้ทีมหนึ่งจึงขอความช่วยเหลือ อีกฝ่ายไม่ได้ตอบรับ แม่ทัพในหน่วยทหารคนนั้นเลยสังหารนักศึกษาพวกนี้ ช่วงชิงยาบำรุงและรางวัลของพวกเขาไป หลังจากเกิดเรื่องแล้วก็ได้รับความช่วยเหลือ ทีมกว่าหนึ่งพันคนรอดชีวิตกลับมาเกือบหมด แม่ทัพคนนี้ยังนับว่าไม่สูญเสียความเป็นมนุษย์ไปซะหมด รายงานต่อเบื้องบน ยอมแบกความรับผิดชอบทั้งหมด ล้อมโจมตีค่ายทหารของเมืองเทียนเหมินในวันนั้นจนตัวตาย นี่ถึงค่อยสยบโทสะของพวกนักศึกษาศิลปะการต่อสู้ไปได้ แต่เขากล้าพูดออกมา คิดว่าคนอื่นจะเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าล่ะ?”

ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ฟางผิงก็รู้สึกซับซ้อนในใจขึ้นมาทันที

ตาเฒ่าหลี่รู้สึกซับซ้อนในใจเช่นกัน เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “พูดเรื่องนี้กับเธอ ไม่ใช่จะบอกว่าจิตใจคนนั้นชั่วช้าแค่ไหน นี่เป็นเพียงส่วนน้อย เกิดขึ้นไม่บ่อย แต่อยากบอกเธอว่าต้องมีไหวพริบหน่อย อย่าเข้าถ้ำไปแบบคนโง่ คิดว่ามนุษย์คือครอบครัวเดียวกัน มนุษย์เป็นสัตว์สังคม อยู่ในกลุ่มอาจรักษาความเป็นมนุษย์ได้ แต่ถ้าเข้าไปในป่าอาจไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปแล้ว”

“เข้าใจแล้วครับ”

“ไปเถอะ”

ตาเฒ่าหลี่ไม่พูดมากอีก พิงหลังกับเก้าอี้ยกปล้องยาขึ้นมาสูบ ฝ่ายบริการนั้นเงียบเหงาลงตั้งนานแล้ว เรื่องที่ตาเฒ่าหลี่ต้องจัดการจึงน้อยลงเช่นกัน

วันที่ 16 มิถุนายน

ฟางผิงขับรถกลับหยางเฉิงตั้งแต่เช้าตรู่

ช่วงสายสิบโมงกว่าค่อยเดินทางมาถึงย่านกวนหูหยวน

ลงมาจากรถเห็นพวกคุณลุงคุณป้าในชุมชนนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อน เล่นไพ่ คุยเล่นสนุกกัน ฟางผิงรู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง

หากรัฐบาลเปิดเผยเรื่องของถ้ำใต้ดิน ยังจะเห็นภาพแบบนี้ได้อีกหรือเปล่า?

กลัวว่าจะไม่มีอีกแล้ว!

ทุกคนคงจะรู้สึกไม่ปลอดภัย!

เวลานั้นคนแก่จะสูญเสียรอยยิ้ม พวกเด็กๆ สูญเสียความไร้เดียงสา ทุกคนต่างไขว่คว้าความสามารถ กังวลระทมทุกข์ ระเบียบของสังคมถูกทำลาย นี่แทบจะเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป

“หวังว่าจะไม่มีวันนั้น”

ฟางผิงพึมพำ เกณฑ์ประชาชนเป็นทหาร ฟังดูเป็นเรื่องฮึกเหิมน่าภูมิใจ แต่เข้าสู่ช่วงเวลานั้นจริงๆ เกรงว่าจะไม่เหลือแม้แต่พื้นที่บริสุทธิ์ไร้มลทินได้อีกแล้ว

ในบ้าน

ฟางผิงเพิ่งจะเปิดประตู ฟางหยวนก็ถลาเข้ามาอย่างดีใจทันที “ฟางผิง นายกลับมาแล้ว!”

ฟางผิงหัวเราะ หยิกแก้มของน้องสาว

“ไม่กลับมา เธอจะฉีกฉันเป็นชิ้นๆ น่ะสิ”

“ใช่ที่ไหนกันล่ะ!”

ฟางหยวนหัวเราะ ก่อนจะละล่ำละลักว่า “พี่ นายขับรถกลับมา? ซื้อรถแล้ว?”

“อืม”

“พาฉันไปรับลมหน่อยดีหรือเปล่า?”

“ไม่ดี พรุ่งนี้จะสอบแล้ว ยังจะมารับลมอะไรอีก เป็นเด็กดีหน่อย”

ฟางหยวนพองลมแก้ม อารมณ์ไม่ดีอยู่บ้าง แต่ไม่นานก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พี่ นายกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามแล้ว?”

“อืม”

“นายอยู่ในการจัดอันดับพลังต่อสู้ขั้นสามด้วย เก่งจริงๆ! อาจารย์และเพื่อนของฉันต่างพูดว่านายเป็นผู้ฝึกยุทธ์อันดับหนึ่งของหยางเฉิง!”

ฟางผิงหลุดขำ “ใครพูด?”

แม้หยางเฉิงจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ยังคงมียอดฝีมืออยู่

หลายปีที่ผ่านมา มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าเช่นกัน แม้ตอนนี้จะย้ายทะเบียนบ้านออกไปแล้วก็ตาม

ถึงจะไม่นับคนๆ นั้น แต่หวังจินหยางกำลังจะทะลวงขั้นสี่ตอนปลายแล้ว แข็งแกร่งกว่าฟางผิงเยอะ

อีกอย่างหลายปีมานี้ นักศึกษาจากหยางเฉิงที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ได้ก็มีไม่น้อย แม้ส่วนมากจะฝีมือธรรมดา อยู่ขั้นหนึ่งขั้นสองเป็นส่วนใหญ่ แต่หลายคนจนถึงตอนนี้จบมาหลายปีแล้ว ใครจะรู้ว่ามีใครเข้าสู่ขั้นสี่หรือเปล่า

เรื่องนี้ฟางผิงไม่ได้ไปสืบข่าวเช่นกัน

บอกว่าฟางผิงเป็นผู้ฝึกยุทธ์อันดับหนึ่งของหยางเฉิง นั่นเป็นการยกยอเกินจริงอย่างเห็นได้ชัด

แต่การจัดอันดับขั้นสี่ขั้นห้า ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดเผยออกมา หลายคนไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ขั้นหกไม่มีการจัดอันดับ อันดับปรมาจารย์ไม่มีคนหยางเฉิงเช่นกัน

จะว่าไปแล้ว การจัดอันดับที่เปิดเผยปัจจุบันนี้ถือว่าฟางผิงแข็งแกร่งที่สุดแล้วจริงๆ

สองพี่น้องพูดคุยกันไม่กี่ประโยค หลี่อวี้อิงก็ลงมาจากชั้นบน เห็นฟางผิงกลับมา เธอตกตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะถลึงตาใส่ฟางหยวน

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นความคิดของฟางหยวนเอง สองสามีภรรยาไม่ได้ให้ฟางผิงกลับมาส่งน้องสาวไปสอบ

ลูกชายกลับมา หลี่อวี้อิงจึงรีบออกไปซื้อกับข้าว ฟางผิงห้ามไม่ทันด้วยซ้ำ

แม่ออกไปแล้ว จู่ๆ ฟางหยวนก็พูดเสียงเบา “ฟางผิง นายฆ่าคนแล้ว?”

ฟางผิงไม่ตกใจ เขาเห็นการจัดอันดับขั้นสามเช่นกัน รู้แล้วจะเป็นอะไรไป

ได้ยินน้องสาวถาม ฟางผิงจึงยิ้มบางว่า “กลัวหรือเปล่า?”

“ไม่…แค่…ฟางผิง คนที่นายฆ่าคือคนไม่ดีใช่ไหม?”

“อืม”

“ฉันว่าแล้ว นายต้องฆ่าคนไม่ดีอยู่แล้ว!” ฟางหยวนคล้ายกับรู้สึกโล่งอก หัวเราะว่า “ฉันไม่กลัวหรอก รอฉันเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้ว พวกเราไปฆ่าคนเลวด้วยกัน!”

“เด็กน้อยจะรู้อะไร?”

ฟางผิงขยี้หัวของน้องสาวจนยุ่งเหยิง ไม่มีประสบการณ์ พูดราวกับว่าฆ่าคนนั้นเหมือนฆ่าไก่ รอได้ทำจริงๆ แล้ว คนพวกนี้ถึงค่อยรู้ว่าการฆ่าคนไม่ใช่เรื่องง่าย

ไม่พูดเรื่องพวกนี้อีก ฟางผิงเคาะหน้าผากน้องสาว สำรวจปราณเล็กน้อย เด็กคนนี้ปราณน่าจะเกือบหนึ่งร้อยสี่สิบแคลแล้ว ไม่ถือว่าก้าวหน้าช้าเลย

“สอบเสร็จแล้ว ฉันจะส่งของขวัญชิ้นใหญ่ให้เธอ ตั้งใจสอบล่ะ”

“ของขวัญชิ้นใหญ่?”

ฟางหยวนตาเป็นประกาย เอ่ยอย่างตกใจ “ของขวัญชิ้นใหญ่อะไร?”

“ตอนนี้ยังไม่บอก ถึงเวลาเธอก็จะรู้เอง”

ฟางผิงเก็บเป็นความลับไม่บอกเธอ

เขาไม่บอกเด็กสาวอยู่แล้วว่าตัวเองเตรียมของให้เธอเยอะขนาดไหน ตอนแรกหวังจินหยางส่งวิดีโอเคล็ดวิชาพื้นฐานและคู่มือฝึกวิชาพวกนั้นให้เขา ก่อนหน้านี้ฟางผิงเอาไปมหาวิทยาลัยด้วย ครั้งนี้พกกลับมาแล้ว

รวมถึงเคล็ดวิชาที่ฟางผิงเรียนรู้เองด้วย แม้เคล็ดวิชาต่อสู้ของเขาจะอยู่ขั้นธรรมดา แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายฟางหยวน ฟางผิงจึงเขียนอย่างละเอียดยิบ คนนอกไม่อาจตั้งใจถึงขนาดนี้

ส่วนวิชาดาบคลั่งโลหิตของจางติ้งหนาน วิชาเกาทัณฑ์เลือดของหลู่เฟิ่งโหรว แม้จะไม่อนุญาตให้เผยแพร่ข้างนอก แต่ฟางผิงยังคงแอบเขียนวิธีฝึกวิชาคร่าวๆ แล้วเอากลับมาด้วย

วิชาดาบคลั่งโลหิตที่จางติ้งหนานปรับปรุงหลังเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์และวิชาเกาทัณฑ์เลือดของหลู่เฟิ่งโหรวล้วนเป็นเคล็ดวิชาสุดยอดในระดับกลาง

เคล็ดวิชาต่อสู้พวกนี้ คนนอกไม่อาจจะเรียนได้ง่ายๆ รวมถึงนักศึกษาในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อาจไม่มีโอกาสได้เรียนเสมอไป

สุดท้ายเป็นบัตรธนาคารใบหนึ่ง ฟางผิงใส่เงินสองล้านที่เหลือของตัวเองลงในบัตร

ของพวกนี้ทิ้งไว้ให้ฟางหยวน

การเข้าถ้ำใต้ดินครั้งนี้ อันที่จริงฟางผิงรู้สึกเป็นกังวลเช่นกัน ผู้ฝึกยุทธ์ที่ตายในถ้ำมีเยอะเกินไป ฟางผิงเข้าถ้ำครั้งแรก ไม่อาจสงบจิตใจได้อยู่แล้ว

นึกถึงตอนที่เด็กสาวสอบเสร็จแล้ว คาดหวังกับของขวัญชิ้นใหญ่ พบว่าเป็นตำราหนังสือพวกนี้ก็ไม่รู้ว่าจะผิดหวังหรือเปล่า

เห็นมุมปากของฟางผิงยกยิ้ม จู่ๆ ฟางหยวนก็รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีเท่าไหร่ ฟางผิงจะส่งของขวัญชิ้นใหญ่อะไรให้ตัวเองกัน?

———————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด