ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 92.2 สิทธิพิเศษของผู้ฝึกยุทธิ์ (2)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 92.2 สิทธิพิเศษของผู้ฝึกยุทธิ์ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 92 สิทธิพิเศษของผู้ฝึกยุทธิ์ (2)

ตอนนี้นักศึกษาใหม่ไม่มีใจฟังเรื่องหอพักของตัวเองแล้ว เขาพอรู้มาอยู่บ้างว่าหลอมกระดูกครั้งที่สองคืออะไร ไม่ได้ซื่อบื้อเหมือนอย่างกัวเซิ่ง

แต่หลอมกระดูกครั้งที่สองต้องทำยังไง เขาไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่าต้องทะลวงปราณให้ถึงหนึ่งร้อยห้าสิบแคลขึ้นไปถึงจะทำได้

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้เป็นที่รวมตัวของอัจฉริยะจริงๆ ด้วย แค่เดินเล่นในนี้ก็อาจเจอคนที่ปราณสูงกว่าร้อยห้าสิบแคลได้แล้ว

นักศึกษาคนนั้นไม่เผยท่าทีขุ่นเคืองอะไรอีก ปราณเขาอยู่ที่หนึ่งร้อยสามสิบแปดแคลเท่านั้น รู้ดีว่าตัวเองเทียบคนพวกนั้นไม่ได้เลย

ไม่ว่าสาเหตุที่อีกฝ่ายปราณสูงเป็นเพราะเขามีพรสวรรค์หรือฐานะทางบ้านดี เขาล้วนไม่มีความจำเป็นต้องคับข้องใจ

“รุ่นพี่โจว การแบ่งหอพักมีความแตกต่างยังไงเหรอครับ?”

เมื่อออกมาจากจุดต้อนรับ ฟางผิงก็ถามขึ้นมา ในขณะที่พวกเขากำลังเดินกัน

“หอพักนักศึกษาใหม่แบ่งทั้งหมดเป็นสี่โซน แต่ละโซนมีสองร้อยห้อง โซนหนึ่งอยู่ห้องละคน โซนสองพักสองคน โซนสามพักสามคน ส่วนโซนสี่พักกันสี่คน รองรับคนได้ทั้งหมดสองพันคน ทุกโซนจะมีห้องว่างเหลือไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อรอการแบ่งหอพักในภายหลัง พวกนายได้อยู่โซนหนึ่ง ก็พักหนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง”

“หนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง…”

ฟางผิงเดาะลิ้น มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้มีเงินจริงๆ นักศึกษากว่าพันคน คาดไม่ถึงว่าจะจัดสรรหอพักให้ถึงแปดร้อยห้อง

โจวอวิ๋นเอ่ยด้วยยิ้มบาง “เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว สร้างห้องหลังหนึ่งจะสักเท่าไหร่กันเชียว ทั้งตอนที่คนของเราจบการศึกษาออกไป ก็ประกอบกิจการใหญ่โต ช่วยสร้างหอพักให้มหาวิทยาลัยฟรี ส่วนอาณาเขตของมหาวิทยาลัยมีประมาณสามหมู่ นักศึกษาราวๆ หกพันคน นายคิดว่าจะขาดแคลนเรื่องพื้นที่อีกไหมล่ะ?”

ไม่มีปัญหาเรื่องเงินและพื้นที่ ห้องพักก็ทำให้ฟรี ความจริงจะสร้างหอพักให้อยู่ห้องละคนยังได้ แต่ทางมหาวิทยาลัยแค่อยากกระตุ้นพวกนักศึกษาให้พัฒนาตัวเองเท่านั้น

โซนหอพักตั้งอยู่ทางตะวันออกของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่แค่โซนของนักศึกษาใหม่ แต่นักศึกษาปีอื่นก็อยู่ทางนี้เช่นเดียวกัน

ตอนที่เดินมาถึงโซนหอพัก ฟางผิงค่อยตระหนักว่าโลกทัศน์ของเขาคับแคบเกินไปจริงๆ

นี่ไม่ใช่หอพักที่เขาจินตนาการไว้สักนิด แต่เหมือนเป็นบ้านพักที่ตกแต่งอย่างมีระดับมากกว่า!

ไม่ใช่หอพักใหญ่ๆ ที่สูงหลายชั้น เป็นหอพักเล็กๆ ที่สูงแค่สองสามชั้นทั้งหมด

สองข้างทางมีต้นไม้เขียวชอุ่มละลานตา ดอกไม้ใบหญ้าชูช่ออย่างสวยงาม

ตึกเล็กๆ นั้นตั้งเรียงรายโอบล้อมอ่างเก็บน้ำโค้งเป็นทรงกลม

ฟางผิงลอบชมในใจ กัวเซิ่งเอ่ยอย่างตกตะลึงเช่นกัน “แทบไม่ต่างอะไรกับบ้านฉันเลย มหาวิทยาลัยมีเงินจริงๆ ด้วย…”

จากคำพูดนี้เห็นได้ชัดว่าบ้านนายอ้วนคงมีฐานะเหมือนกัน

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร บริจาคเงินสองสามแสนเพื่อสนับสนุนหอพัก ถ้าไม่มีเงินคงทำไม่ได้หรอก

โจวอวิ๋นพอใจกับท่าทีของพวกเขา เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “บางครั้งผู้ฝึกยุทธ์ต้องใช้ชีวิตอย่างกดดัน หากกระทั่งที่พักยังคับแคบ ไม่ช้าก็เร็วคงจะสติแตกเข้าสักวัน ทางมหาวิทยาลัยสร้างสภาพแวดล้อมแบบนี้เพื่อให้พวกเราสามารถผ่อนคลายจิตใจของเราได้ แน่นอนว่ามีแค่มหาวิทยาลัยพวกเราเท่านั้น! แม้จะเป็นปักกิ่ง ยังไม่มีเงินหนาเท่าพวกเรา!”

โจวอวิ๋นดูภาคภูมิใจกับมหาวิทยาลัยตัวเองอย่างมาก ตอนที่เอ่ยถึงมหาวิทยาลัยปักกิ่ง แม้จะไม่มีท่าทีดูแคลน แต่ก็พยายามข่มอีกฝ่ายอยู่บ้าง

โจวอวิ๋นพูดพลางเดินนำพวกเขาไปยังโซนนักศึกษาใหม่

โซนนักศึกษาใหม่ตั้งอยู่มุมตะวันออกของเขตหอพัก ตอนนี้โซนอื่นๆ ต่างเงียบเชียบ มีคนบางตา แต่โซนนักศึกษาใหม่กลับคราครั่งด้วยผู้คน

ระหว่างทางพวกฟางผิงพบเจอนักศึกษาใหม่บางส่วนที่มารายงานตัวเหมือนกัน

แต่ทุกคนไม่รู้จักกัน มีแค่โจวอวิ๋นที่ทักทายเพื่อนนักศึกษาปีสูงๆ ของเขา ไม่งั้นพวกเขาคงจะเงียบเหงาไปตลอดทาง

ต่อจากนั้นไม่กี่นาที ฟางผิงมาถึงห้องของตัวเอง

โซนหนึ่งห้องแปดสิบหก

ห้องแปดสิบหกอยู่ชั้นสอง โซนนักศึกษาใหม่จะเป็นหอพักสองชั้นทั้งหมด ชั้นบนถึงแค่หนึ่งร้อย ชั้นล่างเริ่มที่หนึ่งร้อยหนึ่งถึงสองร้อย

โครงสร้างทั้งหมดยังคงใช้การตกแต่งหอพักเหมือนห้องในโรงแรม

แบ่งห้องเป็นสองฟากของทางเดิน ฟากละห้าสิบห้อง

ห้องของฟางผิงอยู่กลางระหว่างแปดสิบห้าและแปดสิบเจ็ด ตรงข้ามคือหมายเลขสิบห้า

ตอนนี้หน้าห้องอื่นๆ ก็มีคนยืนอยู่ประปราย แต่แถวห้องของฟางผิงกลับเงียบกริบ คนน่าจะยังมาไม่ถึง

รอจนเปิดประตูออก ฟางผิงนั้นคร้านจะตกใจแล้ว

แม้จะบอกว่าเป็นหอพัก แต่ภายในห้องกลับถูกตกแต่งอย่างหรูหราครบครัน

ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องฝึกวิชา ห้องอ่านหนังสือ ห้องน้ำ มีกระทั่งห้องครัว!

บริเวณทั่วทั้งห้อง ฟางผิงคาดคะเนว่าคงจะประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบตารางเมตร

นี่เป็นห้องสำหรับอยู่คนเดียวจริงๆ เหรอ!

แค่หอพักของนักศึกษาใหม่ แทบจะไม่สามารถหาคำมาบรรยายความใจป้ำของมหาวิทยาลัยได้

หากโซนอื่นๆ ตกแต่งแบบนี้เหมือนกัน ถึงจะเป็นโซนสี่ที่อยู่ด้วยกันสี่คน

ยังคงถือว่าสภาพแวดล้อมไม่ด้อยเลย หลายครอบครัวแทบเบียดกันอยู่ห้าหกคนในห้องไม่ถึงร้อยตารางเมตรด้วยซ้ำ

ในห้องมีเตียง ตู้ โซฟา…อย่างครบครัน ทั้งถูกปัดกวาดจัดการอย่างสะอาดสะอ้าน ขาดแค่ของใช้ส่วนตัวในชีวิตประจำวันที่นักศึกษาต้องซื้อเองเท่านั้น

ฟางผิงอดนึกถึงก่อนที่จะเดินทางมาไม่ได้ พ่อแม่กังวลว่าเขาจะกินอยู่ไม่สุขสบาย ยังกำชับให้เขาผูกมิตรกับเพื่อนร่วมห้อง…

เขามีเพื่อนร่วมห้องที่ไหนกัน?

ฟางผิงแทบอยากจะหัวเราะ ทั้งห้องมีแค่เขาคนเดียว ไม่รู้ว่าคนข้างๆ ห้องนับเป็นเพื่อนร่วมห้องได้หรือเปล่า

ดูห้องคร่าวๆ แล้ว ฟางผิงไม่คิดสนใจอีก

โจวอวิ๋นส่งเขาถึงข้างล่างแล้วก็จากไป แต่ก่อนหน้านั้นยังยื่นกำหนดการต่างๆ ให้พวกเขาคนละใบ

ช่วงเช้านักศึกษาใหม่รายงานตัว เวลาที่เหลือให้ซื้อของใช้ที่จำเป็นและบอกลาพ่อแม่

บ่ายสามโมงให้ทั้งหมดไปรวมตัวที่สนามฝึกหมายเลขหนึ่ง…มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้มีสนามฝึกทั้งหมดเจ็ดแปดแห่ง ฟางผิงไม่ได้ดูแผนที่อย่างละเอียดเท่าไหร่

ภารกิจของวันนี้มีแค่รวมตัวเท่านั้น

ส่วนพรุ่งนี้แปดโมงเช้าต้องไปรวมตัวที่อาคารฝึกซ้อม ฟางผิงรู้ว่า นี่คือการแบ่งสาขา

ต่อจากนั้นไม่มีกำหนดการแล้ว รอการแบ่งสาขาเสร็จสิ้นคงมีกำหนดการอย่างรวบรัดออกมาใหม่

“ซื้อของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น ยังต้องไปเอาสัมภาระมาจากโรงแรมอีก…”

หอพักของมหาวิทยาลัยไม่ได้แย่เลย แถมอยู่ที่นี่ยังสะดวกกว่า ฟางผิงไม่คิดจะอยู่ที่โรงแรมต่ออีกแล้ว

“ใช่สิ เหมือนฉันจะลืมอะไรไปเลย?”

ฟางผิงคล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ ผ่านไปพักใหญ่ค่อยพึมพำว่า “ไม่ต้องเสียค่าเทอมหรือไง?”

เขาจำได้ว่าในหนังสือตอบรับของมหาวิทยาลัยไม่ได้พูดถึงค่าเทอม เหมือนจะมีแค่ค่าสมัครหนึ่งหมื่นหยวน แล้วตอนนี้ไม่ต้องจ่ายเหรอ?

ฟางผิงสะบัดหัว ไม่สนแล้ว ไม่เก็บก็ช่าง บางทีมหาวิทยาลัยอาจจะไม่สนใจค่าเทอมเล็กน้อยนี้ละมั้ง?

ตอนที่เขากำลังเตรียมตัวออกไปซื้อของข้างนอก เสียงเคาะประตูพลันดังขึ้นก่อน

“มีคนอยู่หรือเปล่า?”

“ฉันพักอยู่ห้องข้างๆ!”

“…”

เห็นได้ชัดว่ามีคนเข้ามาพักแล้ว ตอนนี้เลยออกมาทำความรู้จักเพื่อนใหม่

ตอนนี้แม้จะยังไม่ได้แบ่งสาขา ห้องเรียนและอาจารย์ แต่คนที่พักห้องหนึ่งร้อยอันดับแรกของโซนหนึ่ง มีโอกาสสูงที่จะถูกแบ่งให้อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว

หนึ่งร้อยอันดับแรกแบ่งตามคะแนนของนักศึกษา ฟางผิงอยู่ชั้นนี้เพราะปราณของเขาสูงถึงหนึ่งร้อยสี่สิบเก้าแคล

ฟางผิงถึงขั้นสงสัยว่า มหาวิทยาลัยอาจจะรู้เรื่องที่เขาหลอมกระดูกครั้งที่สองแล้ว เลยจัดให้เขามาพักที่นี่

เพราะแม้ปราณเขาจะสูง แต่คะแนนวิชาวัฒนธรรมและวิชาเฉพาะกลับธรรมดา

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้มีผู้ฝึกยุทธ์ปาเข้าไปห้าสิบสองคนแล้ว หลอมกระดูกครั้งที่สองเก้าคน แต่จะไม่มีคนที่ปราณสูงกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบแคลอีกหรือไง?

คำนวณจากคะแนนสอบแล้ว เขาแทบไม่มีทางได้พักในห้องร้อยอันดับแรกเลย

ฟางผิงไม่คิดลงลึกอีก เดินไปเปิดประตู แม้การอยู่คนเดียวจะเงียบสงบ แต่รู้จักเพื่อนในอนาคตไว้สักคนก็ไม่แย่อะไร ชีวิตจะได้มีสีสันบ้าง

———————

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 92.2 สิทธิพิเศษของผู้ฝึกยุทธิ์ (2)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 92.2 สิทธิพิเศษของผู้ฝึกยุทธิ์ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 92 สิทธิพิเศษของผู้ฝึกยุทธิ์ (2)

ตอนนี้นักศึกษาใหม่ไม่มีใจฟังเรื่องหอพักของตัวเองแล้ว เขาพอรู้มาอยู่บ้างว่าหลอมกระดูกครั้งที่สองคืออะไร ไม่ได้ซื่อบื้อเหมือนอย่างกัวเซิ่ง

แต่หลอมกระดูกครั้งที่สองต้องทำยังไง เขาไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่าต้องทะลวงปราณให้ถึงหนึ่งร้อยห้าสิบแคลขึ้นไปถึงจะทำได้

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้เป็นที่รวมตัวของอัจฉริยะจริงๆ ด้วย แค่เดินเล่นในนี้ก็อาจเจอคนที่ปราณสูงกว่าร้อยห้าสิบแคลได้แล้ว

นักศึกษาคนนั้นไม่เผยท่าทีขุ่นเคืองอะไรอีก ปราณเขาอยู่ที่หนึ่งร้อยสามสิบแปดแคลเท่านั้น รู้ดีว่าตัวเองเทียบคนพวกนั้นไม่ได้เลย

ไม่ว่าสาเหตุที่อีกฝ่ายปราณสูงเป็นเพราะเขามีพรสวรรค์หรือฐานะทางบ้านดี เขาล้วนไม่มีความจำเป็นต้องคับข้องใจ

“รุ่นพี่โจว การแบ่งหอพักมีความแตกต่างยังไงเหรอครับ?”

เมื่อออกมาจากจุดต้อนรับ ฟางผิงก็ถามขึ้นมา ในขณะที่พวกเขากำลังเดินกัน

“หอพักนักศึกษาใหม่แบ่งทั้งหมดเป็นสี่โซน แต่ละโซนมีสองร้อยห้อง โซนหนึ่งอยู่ห้องละคน โซนสองพักสองคน โซนสามพักสามคน ส่วนโซนสี่พักกันสี่คน รองรับคนได้ทั้งหมดสองพันคน ทุกโซนจะมีห้องว่างเหลือไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อรอการแบ่งหอพักในภายหลัง พวกนายได้อยู่โซนหนึ่ง ก็พักหนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง”

“หนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง…”

ฟางผิงเดาะลิ้น มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้มีเงินจริงๆ นักศึกษากว่าพันคน คาดไม่ถึงว่าจะจัดสรรหอพักให้ถึงแปดร้อยห้อง

โจวอวิ๋นเอ่ยด้วยยิ้มบาง “เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว สร้างห้องหลังหนึ่งจะสักเท่าไหร่กันเชียว ทั้งตอนที่คนของเราจบการศึกษาออกไป ก็ประกอบกิจการใหญ่โต ช่วยสร้างหอพักให้มหาวิทยาลัยฟรี ส่วนอาณาเขตของมหาวิทยาลัยมีประมาณสามหมู่ นักศึกษาราวๆ หกพันคน นายคิดว่าจะขาดแคลนเรื่องพื้นที่อีกไหมล่ะ?”

ไม่มีปัญหาเรื่องเงินและพื้นที่ ห้องพักก็ทำให้ฟรี ความจริงจะสร้างหอพักให้อยู่ห้องละคนยังได้ แต่ทางมหาวิทยาลัยแค่อยากกระตุ้นพวกนักศึกษาให้พัฒนาตัวเองเท่านั้น

โซนหอพักตั้งอยู่ทางตะวันออกของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่แค่โซนของนักศึกษาใหม่ แต่นักศึกษาปีอื่นก็อยู่ทางนี้เช่นเดียวกัน

ตอนที่เดินมาถึงโซนหอพัก ฟางผิงค่อยตระหนักว่าโลกทัศน์ของเขาคับแคบเกินไปจริงๆ

นี่ไม่ใช่หอพักที่เขาจินตนาการไว้สักนิด แต่เหมือนเป็นบ้านพักที่ตกแต่งอย่างมีระดับมากกว่า!

ไม่ใช่หอพักใหญ่ๆ ที่สูงหลายชั้น เป็นหอพักเล็กๆ ที่สูงแค่สองสามชั้นทั้งหมด

สองข้างทางมีต้นไม้เขียวชอุ่มละลานตา ดอกไม้ใบหญ้าชูช่ออย่างสวยงาม

ตึกเล็กๆ นั้นตั้งเรียงรายโอบล้อมอ่างเก็บน้ำโค้งเป็นทรงกลม

ฟางผิงลอบชมในใจ กัวเซิ่งเอ่ยอย่างตกตะลึงเช่นกัน “แทบไม่ต่างอะไรกับบ้านฉันเลย มหาวิทยาลัยมีเงินจริงๆ ด้วย…”

จากคำพูดนี้เห็นได้ชัดว่าบ้านนายอ้วนคงมีฐานะเหมือนกัน

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร บริจาคเงินสองสามแสนเพื่อสนับสนุนหอพัก ถ้าไม่มีเงินคงทำไม่ได้หรอก

โจวอวิ๋นพอใจกับท่าทีของพวกเขา เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “บางครั้งผู้ฝึกยุทธ์ต้องใช้ชีวิตอย่างกดดัน หากกระทั่งที่พักยังคับแคบ ไม่ช้าก็เร็วคงจะสติแตกเข้าสักวัน ทางมหาวิทยาลัยสร้างสภาพแวดล้อมแบบนี้เพื่อให้พวกเราสามารถผ่อนคลายจิตใจของเราได้ แน่นอนว่ามีแค่มหาวิทยาลัยพวกเราเท่านั้น! แม้จะเป็นปักกิ่ง ยังไม่มีเงินหนาเท่าพวกเรา!”

โจวอวิ๋นดูภาคภูมิใจกับมหาวิทยาลัยตัวเองอย่างมาก ตอนที่เอ่ยถึงมหาวิทยาลัยปักกิ่ง แม้จะไม่มีท่าทีดูแคลน แต่ก็พยายามข่มอีกฝ่ายอยู่บ้าง

โจวอวิ๋นพูดพลางเดินนำพวกเขาไปยังโซนนักศึกษาใหม่

โซนนักศึกษาใหม่ตั้งอยู่มุมตะวันออกของเขตหอพัก ตอนนี้โซนอื่นๆ ต่างเงียบเชียบ มีคนบางตา แต่โซนนักศึกษาใหม่กลับคราครั่งด้วยผู้คน

ระหว่างทางพวกฟางผิงพบเจอนักศึกษาใหม่บางส่วนที่มารายงานตัวเหมือนกัน

แต่ทุกคนไม่รู้จักกัน มีแค่โจวอวิ๋นที่ทักทายเพื่อนนักศึกษาปีสูงๆ ของเขา ไม่งั้นพวกเขาคงจะเงียบเหงาไปตลอดทาง

ต่อจากนั้นไม่กี่นาที ฟางผิงมาถึงห้องของตัวเอง

โซนหนึ่งห้องแปดสิบหก

ห้องแปดสิบหกอยู่ชั้นสอง โซนนักศึกษาใหม่จะเป็นหอพักสองชั้นทั้งหมด ชั้นบนถึงแค่หนึ่งร้อย ชั้นล่างเริ่มที่หนึ่งร้อยหนึ่งถึงสองร้อย

โครงสร้างทั้งหมดยังคงใช้การตกแต่งหอพักเหมือนห้องในโรงแรม

แบ่งห้องเป็นสองฟากของทางเดิน ฟากละห้าสิบห้อง

ห้องของฟางผิงอยู่กลางระหว่างแปดสิบห้าและแปดสิบเจ็ด ตรงข้ามคือหมายเลขสิบห้า

ตอนนี้หน้าห้องอื่นๆ ก็มีคนยืนอยู่ประปราย แต่แถวห้องของฟางผิงกลับเงียบกริบ คนน่าจะยังมาไม่ถึง

รอจนเปิดประตูออก ฟางผิงนั้นคร้านจะตกใจแล้ว

แม้จะบอกว่าเป็นหอพัก แต่ภายในห้องกลับถูกตกแต่งอย่างหรูหราครบครัน

ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องฝึกวิชา ห้องอ่านหนังสือ ห้องน้ำ มีกระทั่งห้องครัว!

บริเวณทั่วทั้งห้อง ฟางผิงคาดคะเนว่าคงจะประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบตารางเมตร

นี่เป็นห้องสำหรับอยู่คนเดียวจริงๆ เหรอ!

แค่หอพักของนักศึกษาใหม่ แทบจะไม่สามารถหาคำมาบรรยายความใจป้ำของมหาวิทยาลัยได้

หากโซนอื่นๆ ตกแต่งแบบนี้เหมือนกัน ถึงจะเป็นโซนสี่ที่อยู่ด้วยกันสี่คน

ยังคงถือว่าสภาพแวดล้อมไม่ด้อยเลย หลายครอบครัวแทบเบียดกันอยู่ห้าหกคนในห้องไม่ถึงร้อยตารางเมตรด้วยซ้ำ

ในห้องมีเตียง ตู้ โซฟา…อย่างครบครัน ทั้งถูกปัดกวาดจัดการอย่างสะอาดสะอ้าน ขาดแค่ของใช้ส่วนตัวในชีวิตประจำวันที่นักศึกษาต้องซื้อเองเท่านั้น

ฟางผิงอดนึกถึงก่อนที่จะเดินทางมาไม่ได้ พ่อแม่กังวลว่าเขาจะกินอยู่ไม่สุขสบาย ยังกำชับให้เขาผูกมิตรกับเพื่อนร่วมห้อง…

เขามีเพื่อนร่วมห้องที่ไหนกัน?

ฟางผิงแทบอยากจะหัวเราะ ทั้งห้องมีแค่เขาคนเดียว ไม่รู้ว่าคนข้างๆ ห้องนับเป็นเพื่อนร่วมห้องได้หรือเปล่า

ดูห้องคร่าวๆ แล้ว ฟางผิงไม่คิดสนใจอีก

โจวอวิ๋นส่งเขาถึงข้างล่างแล้วก็จากไป แต่ก่อนหน้านั้นยังยื่นกำหนดการต่างๆ ให้พวกเขาคนละใบ

ช่วงเช้านักศึกษาใหม่รายงานตัว เวลาที่เหลือให้ซื้อของใช้ที่จำเป็นและบอกลาพ่อแม่

บ่ายสามโมงให้ทั้งหมดไปรวมตัวที่สนามฝึกหมายเลขหนึ่ง…มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้มีสนามฝึกทั้งหมดเจ็ดแปดแห่ง ฟางผิงไม่ได้ดูแผนที่อย่างละเอียดเท่าไหร่

ภารกิจของวันนี้มีแค่รวมตัวเท่านั้น

ส่วนพรุ่งนี้แปดโมงเช้าต้องไปรวมตัวที่อาคารฝึกซ้อม ฟางผิงรู้ว่า นี่คือการแบ่งสาขา

ต่อจากนั้นไม่มีกำหนดการแล้ว รอการแบ่งสาขาเสร็จสิ้นคงมีกำหนดการอย่างรวบรัดออกมาใหม่

“ซื้อของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น ยังต้องไปเอาสัมภาระมาจากโรงแรมอีก…”

หอพักของมหาวิทยาลัยไม่ได้แย่เลย แถมอยู่ที่นี่ยังสะดวกกว่า ฟางผิงไม่คิดจะอยู่ที่โรงแรมต่ออีกแล้ว

“ใช่สิ เหมือนฉันจะลืมอะไรไปเลย?”

ฟางผิงคล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ ผ่านไปพักใหญ่ค่อยพึมพำว่า “ไม่ต้องเสียค่าเทอมหรือไง?”

เขาจำได้ว่าในหนังสือตอบรับของมหาวิทยาลัยไม่ได้พูดถึงค่าเทอม เหมือนจะมีแค่ค่าสมัครหนึ่งหมื่นหยวน แล้วตอนนี้ไม่ต้องจ่ายเหรอ?

ฟางผิงสะบัดหัว ไม่สนแล้ว ไม่เก็บก็ช่าง บางทีมหาวิทยาลัยอาจจะไม่สนใจค่าเทอมเล็กน้อยนี้ละมั้ง?

ตอนที่เขากำลังเตรียมตัวออกไปซื้อของข้างนอก เสียงเคาะประตูพลันดังขึ้นก่อน

“มีคนอยู่หรือเปล่า?”

“ฉันพักอยู่ห้องข้างๆ!”

“…”

เห็นได้ชัดว่ามีคนเข้ามาพักแล้ว ตอนนี้เลยออกมาทำความรู้จักเพื่อนใหม่

ตอนนี้แม้จะยังไม่ได้แบ่งสาขา ห้องเรียนและอาจารย์ แต่คนที่พักห้องหนึ่งร้อยอันดับแรกของโซนหนึ่ง มีโอกาสสูงที่จะถูกแบ่งให้อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว

หนึ่งร้อยอันดับแรกแบ่งตามคะแนนของนักศึกษา ฟางผิงอยู่ชั้นนี้เพราะปราณของเขาสูงถึงหนึ่งร้อยสี่สิบเก้าแคล

ฟางผิงถึงขั้นสงสัยว่า มหาวิทยาลัยอาจจะรู้เรื่องที่เขาหลอมกระดูกครั้งที่สองแล้ว เลยจัดให้เขามาพักที่นี่

เพราะแม้ปราณเขาจะสูง แต่คะแนนวิชาวัฒนธรรมและวิชาเฉพาะกลับธรรมดา

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้มีผู้ฝึกยุทธ์ปาเข้าไปห้าสิบสองคนแล้ว หลอมกระดูกครั้งที่สองเก้าคน แต่จะไม่มีคนที่ปราณสูงกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบแคลอีกหรือไง?

คำนวณจากคะแนนสอบแล้ว เขาแทบไม่มีทางได้พักในห้องร้อยอันดับแรกเลย

ฟางผิงไม่คิดลงลึกอีก เดินไปเปิดประตู แม้การอยู่คนเดียวจะเงียบสงบ แต่รู้จักเพื่อนในอนาคตไว้สักคนก็ไม่แย่อะไร ชีวิตจะได้มีสีสันบ้าง

———————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 92.2 สิทธิพิเศษของผู้ฝึกยุทธิ์ (2)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 92.2 สิทธิพิเศษของผู้ฝึกยุทธิ์ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 92 สิทธิพิเศษของผู้ฝึกยุทธิ์ (2)

ตอนนี้นักศึกษาใหม่ไม่มีใจฟังเรื่องหอพักของตัวเองแล้ว เขาพอรู้มาอยู่บ้างว่าหลอมกระดูกครั้งที่สองคืออะไร ไม่ได้ซื่อบื้อเหมือนอย่างกัวเซิ่ง

แต่หลอมกระดูกครั้งที่สองต้องทำยังไง เขาไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่าต้องทะลวงปราณให้ถึงหนึ่งร้อยห้าสิบแคลขึ้นไปถึงจะทำได้

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้เป็นที่รวมตัวของอัจฉริยะจริงๆ ด้วย แค่เดินเล่นในนี้ก็อาจเจอคนที่ปราณสูงกว่าร้อยห้าสิบแคลได้แล้ว

นักศึกษาคนนั้นไม่เผยท่าทีขุ่นเคืองอะไรอีก ปราณเขาอยู่ที่หนึ่งร้อยสามสิบแปดแคลเท่านั้น รู้ดีว่าตัวเองเทียบคนพวกนั้นไม่ได้เลย

ไม่ว่าสาเหตุที่อีกฝ่ายปราณสูงเป็นเพราะเขามีพรสวรรค์หรือฐานะทางบ้านดี เขาล้วนไม่มีความจำเป็นต้องคับข้องใจ

“รุ่นพี่โจว การแบ่งหอพักมีความแตกต่างยังไงเหรอครับ?”

เมื่อออกมาจากจุดต้อนรับ ฟางผิงก็ถามขึ้นมา ในขณะที่พวกเขากำลังเดินกัน

“หอพักนักศึกษาใหม่แบ่งทั้งหมดเป็นสี่โซน แต่ละโซนมีสองร้อยห้อง โซนหนึ่งอยู่ห้องละคน โซนสองพักสองคน โซนสามพักสามคน ส่วนโซนสี่พักกันสี่คน รองรับคนได้ทั้งหมดสองพันคน ทุกโซนจะมีห้องว่างเหลือไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อรอการแบ่งหอพักในภายหลัง พวกนายได้อยู่โซนหนึ่ง ก็พักหนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง”

“หนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง…”

ฟางผิงเดาะลิ้น มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้มีเงินจริงๆ นักศึกษากว่าพันคน คาดไม่ถึงว่าจะจัดสรรหอพักให้ถึงแปดร้อยห้อง

โจวอวิ๋นเอ่ยด้วยยิ้มบาง “เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว สร้างห้องหลังหนึ่งจะสักเท่าไหร่กันเชียว ทั้งตอนที่คนของเราจบการศึกษาออกไป ก็ประกอบกิจการใหญ่โต ช่วยสร้างหอพักให้มหาวิทยาลัยฟรี ส่วนอาณาเขตของมหาวิทยาลัยมีประมาณสามหมู่ นักศึกษาราวๆ หกพันคน นายคิดว่าจะขาดแคลนเรื่องพื้นที่อีกไหมล่ะ?”

ไม่มีปัญหาเรื่องเงินและพื้นที่ ห้องพักก็ทำให้ฟรี ความจริงจะสร้างหอพักให้อยู่ห้องละคนยังได้ แต่ทางมหาวิทยาลัยแค่อยากกระตุ้นพวกนักศึกษาให้พัฒนาตัวเองเท่านั้น

โซนหอพักตั้งอยู่ทางตะวันออกของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่แค่โซนของนักศึกษาใหม่ แต่นักศึกษาปีอื่นก็อยู่ทางนี้เช่นเดียวกัน

ตอนที่เดินมาถึงโซนหอพัก ฟางผิงค่อยตระหนักว่าโลกทัศน์ของเขาคับแคบเกินไปจริงๆ

นี่ไม่ใช่หอพักที่เขาจินตนาการไว้สักนิด แต่เหมือนเป็นบ้านพักที่ตกแต่งอย่างมีระดับมากกว่า!

ไม่ใช่หอพักใหญ่ๆ ที่สูงหลายชั้น เป็นหอพักเล็กๆ ที่สูงแค่สองสามชั้นทั้งหมด

สองข้างทางมีต้นไม้เขียวชอุ่มละลานตา ดอกไม้ใบหญ้าชูช่ออย่างสวยงาม

ตึกเล็กๆ นั้นตั้งเรียงรายโอบล้อมอ่างเก็บน้ำโค้งเป็นทรงกลม

ฟางผิงลอบชมในใจ กัวเซิ่งเอ่ยอย่างตกตะลึงเช่นกัน “แทบไม่ต่างอะไรกับบ้านฉันเลย มหาวิทยาลัยมีเงินจริงๆ ด้วย…”

จากคำพูดนี้เห็นได้ชัดว่าบ้านนายอ้วนคงมีฐานะเหมือนกัน

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร บริจาคเงินสองสามแสนเพื่อสนับสนุนหอพัก ถ้าไม่มีเงินคงทำไม่ได้หรอก

โจวอวิ๋นพอใจกับท่าทีของพวกเขา เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “บางครั้งผู้ฝึกยุทธ์ต้องใช้ชีวิตอย่างกดดัน หากกระทั่งที่พักยังคับแคบ ไม่ช้าก็เร็วคงจะสติแตกเข้าสักวัน ทางมหาวิทยาลัยสร้างสภาพแวดล้อมแบบนี้เพื่อให้พวกเราสามารถผ่อนคลายจิตใจของเราได้ แน่นอนว่ามีแค่มหาวิทยาลัยพวกเราเท่านั้น! แม้จะเป็นปักกิ่ง ยังไม่มีเงินหนาเท่าพวกเรา!”

โจวอวิ๋นดูภาคภูมิใจกับมหาวิทยาลัยตัวเองอย่างมาก ตอนที่เอ่ยถึงมหาวิทยาลัยปักกิ่ง แม้จะไม่มีท่าทีดูแคลน แต่ก็พยายามข่มอีกฝ่ายอยู่บ้าง

โจวอวิ๋นพูดพลางเดินนำพวกเขาไปยังโซนนักศึกษาใหม่

โซนนักศึกษาใหม่ตั้งอยู่มุมตะวันออกของเขตหอพัก ตอนนี้โซนอื่นๆ ต่างเงียบเชียบ มีคนบางตา แต่โซนนักศึกษาใหม่กลับคราครั่งด้วยผู้คน

ระหว่างทางพวกฟางผิงพบเจอนักศึกษาใหม่บางส่วนที่มารายงานตัวเหมือนกัน

แต่ทุกคนไม่รู้จักกัน มีแค่โจวอวิ๋นที่ทักทายเพื่อนนักศึกษาปีสูงๆ ของเขา ไม่งั้นพวกเขาคงจะเงียบเหงาไปตลอดทาง

ต่อจากนั้นไม่กี่นาที ฟางผิงมาถึงห้องของตัวเอง

โซนหนึ่งห้องแปดสิบหก

ห้องแปดสิบหกอยู่ชั้นสอง โซนนักศึกษาใหม่จะเป็นหอพักสองชั้นทั้งหมด ชั้นบนถึงแค่หนึ่งร้อย ชั้นล่างเริ่มที่หนึ่งร้อยหนึ่งถึงสองร้อย

โครงสร้างทั้งหมดยังคงใช้การตกแต่งหอพักเหมือนห้องในโรงแรม

แบ่งห้องเป็นสองฟากของทางเดิน ฟากละห้าสิบห้อง

ห้องของฟางผิงอยู่กลางระหว่างแปดสิบห้าและแปดสิบเจ็ด ตรงข้ามคือหมายเลขสิบห้า

ตอนนี้หน้าห้องอื่นๆ ก็มีคนยืนอยู่ประปราย แต่แถวห้องของฟางผิงกลับเงียบกริบ คนน่าจะยังมาไม่ถึง

รอจนเปิดประตูออก ฟางผิงนั้นคร้านจะตกใจแล้ว

แม้จะบอกว่าเป็นหอพัก แต่ภายในห้องกลับถูกตกแต่งอย่างหรูหราครบครัน

ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องฝึกวิชา ห้องอ่านหนังสือ ห้องน้ำ มีกระทั่งห้องครัว!

บริเวณทั่วทั้งห้อง ฟางผิงคาดคะเนว่าคงจะประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบตารางเมตร

นี่เป็นห้องสำหรับอยู่คนเดียวจริงๆ เหรอ!

แค่หอพักของนักศึกษาใหม่ แทบจะไม่สามารถหาคำมาบรรยายความใจป้ำของมหาวิทยาลัยได้

หากโซนอื่นๆ ตกแต่งแบบนี้เหมือนกัน ถึงจะเป็นโซนสี่ที่อยู่ด้วยกันสี่คน

ยังคงถือว่าสภาพแวดล้อมไม่ด้อยเลย หลายครอบครัวแทบเบียดกันอยู่ห้าหกคนในห้องไม่ถึงร้อยตารางเมตรด้วยซ้ำ

ในห้องมีเตียง ตู้ โซฟา…อย่างครบครัน ทั้งถูกปัดกวาดจัดการอย่างสะอาดสะอ้าน ขาดแค่ของใช้ส่วนตัวในชีวิตประจำวันที่นักศึกษาต้องซื้อเองเท่านั้น

ฟางผิงอดนึกถึงก่อนที่จะเดินทางมาไม่ได้ พ่อแม่กังวลว่าเขาจะกินอยู่ไม่สุขสบาย ยังกำชับให้เขาผูกมิตรกับเพื่อนร่วมห้อง…

เขามีเพื่อนร่วมห้องที่ไหนกัน?

ฟางผิงแทบอยากจะหัวเราะ ทั้งห้องมีแค่เขาคนเดียว ไม่รู้ว่าคนข้างๆ ห้องนับเป็นเพื่อนร่วมห้องได้หรือเปล่า

ดูห้องคร่าวๆ แล้ว ฟางผิงไม่คิดสนใจอีก

โจวอวิ๋นส่งเขาถึงข้างล่างแล้วก็จากไป แต่ก่อนหน้านั้นยังยื่นกำหนดการต่างๆ ให้พวกเขาคนละใบ

ช่วงเช้านักศึกษาใหม่รายงานตัว เวลาที่เหลือให้ซื้อของใช้ที่จำเป็นและบอกลาพ่อแม่

บ่ายสามโมงให้ทั้งหมดไปรวมตัวที่สนามฝึกหมายเลขหนึ่ง…มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้มีสนามฝึกทั้งหมดเจ็ดแปดแห่ง ฟางผิงไม่ได้ดูแผนที่อย่างละเอียดเท่าไหร่

ภารกิจของวันนี้มีแค่รวมตัวเท่านั้น

ส่วนพรุ่งนี้แปดโมงเช้าต้องไปรวมตัวที่อาคารฝึกซ้อม ฟางผิงรู้ว่า นี่คือการแบ่งสาขา

ต่อจากนั้นไม่มีกำหนดการแล้ว รอการแบ่งสาขาเสร็จสิ้นคงมีกำหนดการอย่างรวบรัดออกมาใหม่

“ซื้อของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น ยังต้องไปเอาสัมภาระมาจากโรงแรมอีก…”

หอพักของมหาวิทยาลัยไม่ได้แย่เลย แถมอยู่ที่นี่ยังสะดวกกว่า ฟางผิงไม่คิดจะอยู่ที่โรงแรมต่ออีกแล้ว

“ใช่สิ เหมือนฉันจะลืมอะไรไปเลย?”

ฟางผิงคล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ ผ่านไปพักใหญ่ค่อยพึมพำว่า “ไม่ต้องเสียค่าเทอมหรือไง?”

เขาจำได้ว่าในหนังสือตอบรับของมหาวิทยาลัยไม่ได้พูดถึงค่าเทอม เหมือนจะมีแค่ค่าสมัครหนึ่งหมื่นหยวน แล้วตอนนี้ไม่ต้องจ่ายเหรอ?

ฟางผิงสะบัดหัว ไม่สนแล้ว ไม่เก็บก็ช่าง บางทีมหาวิทยาลัยอาจจะไม่สนใจค่าเทอมเล็กน้อยนี้ละมั้ง?

ตอนที่เขากำลังเตรียมตัวออกไปซื้อของข้างนอก เสียงเคาะประตูพลันดังขึ้นก่อน

“มีคนอยู่หรือเปล่า?”

“ฉันพักอยู่ห้องข้างๆ!”

“…”

เห็นได้ชัดว่ามีคนเข้ามาพักแล้ว ตอนนี้เลยออกมาทำความรู้จักเพื่อนใหม่

ตอนนี้แม้จะยังไม่ได้แบ่งสาขา ห้องเรียนและอาจารย์ แต่คนที่พักห้องหนึ่งร้อยอันดับแรกของโซนหนึ่ง มีโอกาสสูงที่จะถูกแบ่งให้อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว

หนึ่งร้อยอันดับแรกแบ่งตามคะแนนของนักศึกษา ฟางผิงอยู่ชั้นนี้เพราะปราณของเขาสูงถึงหนึ่งร้อยสี่สิบเก้าแคล

ฟางผิงถึงขั้นสงสัยว่า มหาวิทยาลัยอาจจะรู้เรื่องที่เขาหลอมกระดูกครั้งที่สองแล้ว เลยจัดให้เขามาพักที่นี่

เพราะแม้ปราณเขาจะสูง แต่คะแนนวิชาวัฒนธรรมและวิชาเฉพาะกลับธรรมดา

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้มีผู้ฝึกยุทธ์ปาเข้าไปห้าสิบสองคนแล้ว หลอมกระดูกครั้งที่สองเก้าคน แต่จะไม่มีคนที่ปราณสูงกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบแคลอีกหรือไง?

คำนวณจากคะแนนสอบแล้ว เขาแทบไม่มีทางได้พักในห้องร้อยอันดับแรกเลย

ฟางผิงไม่คิดลงลึกอีก เดินไปเปิดประตู แม้การอยู่คนเดียวจะเงียบสงบ แต่รู้จักเพื่อนในอนาคตไว้สักคนก็ไม่แย่อะไร ชีวิตจะได้มีสีสันบ้าง

———————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+