ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 158 อยู่เหนือระดับเดียวกัน (1)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 158 อยู่เหนือระดับเดียวกัน (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 158 อยู่เหนือระดับเดียวกัน (1)

บ่ายสองโมง

สนามกีฬามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้

เทียบกับการแข่งช่วงเช้าที่มีคนมาคอยจัดลำดับให้ ตอนนี้พวกผู้ชมต่างรู้หน้าที่ตัวเองแล้ว

ค้นหาที่นั่งของตัวอย่างเงียบๆ ทยอยเข้าประจำตำแหน่ง

ในขณะที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันยังไม่ลงสนาม หลิวหวาหรงก็เปิดปากว่า “การแข่งขันช่วงเช้าจบลงไปแล้ว ผมดูผลตอบรับในอินเทอร์เน็ต หลายคนรู้สึกว่าการแข่งขันแลกเปลี่ยนครั้งนี้ป่าเถื่อนเกินไป…ในอินเทอร์เน็ตพูดกันไปต่างๆ นานา บ้างบอกว่านักศึกษาโหดเหี้ยม บ้างบอกว่าพวกเขาโง่เขลาเกินไป…ทำไมถึงสู้กันขนาดนี้? เห็นว่าชนะไม่ได้ ทำไมถึงไม่ยอมแพ้แสดงความจำนน?”

จู่ๆ น้ำเสียงของหลิวหวาหรงก็ฮึกเหิมขึ้นมา “นั่นเพราะว่ามีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ที่สู้อย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่มีผู้ฝึกยุทธ์ที่ยอมพ่ายแพ้! ทุกท่านจำประโยคนี้ไว้ให้ดี! มีบางเรื่องตอนนี้พวกคุณอาจไม่เข้าใจ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เข้าใจไปตลอด! มักจะมีคนบางส่วนกำลังอุทิศตนให้พวกคุณอย่างเงียบๆ พวกเขาสามารถสู้จนตัวตาย สามารถสู้จนพ่ายแพ้ แต่พวกเขาไม่อาจยอมจำนนได้ ครั้งนี้เป็นการแข่งขันแลกเปลี่ยนที่ดี ทั้งไม่ได้ห้ามให้พวกนักศึกษาเอ่ยยอมแพ้ แต่หากสู้ไม่ถึงวินาทีสุดท้าย การยอมแพ้ก็เป็นความอัปยศอย่างหนึ่ง!”

เฉินเสวี่ยเยี่ยนเอ่ยเสริมอย่างเรียบนิ่ง “แม้ความสามารถจะไม่พอ แต่ความกล้าหาญต้องมีเต็มเปี่ยม! มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เป็นแบบอย่างหนึ่ง เป็นแบบอย่างที่มอบให้ผู้ฝึกยุทธ์ทุกๆ คน”

หลังจากคำพูดของทั้งสองคนจบลง เวลาแข่งขันของช่วงบ่ายก็มาถึงอย่างเป็นทางการ

“ต่อไป พวกเราจะมาดูแผนเตรียมการรบของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้”

“ทีมเซี่ยงไฮ้ : ฟางผิง ฟู่ชางติ่ง หยางเสี่ยวม่าน จ้าวเสวี่ยเหมย จ้าวเหล่ย เซี่ยงไฮ้เลือกหัวหน้าทีมนำทัพก่อนเช่นกัน ส่วนทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยจะเลือกหัวหน้าทีมเหมือนกันหรือเปล่า? ช่วงเช้าพวกเราได้เห็นการต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจของหัวหน้าทีมไปแล้ว การแข่งขันช่วงบ่ายจะยอดเยี่ยมกว่าหรือเปล่า? ต่อไป พวกเรามาดูแผนการรบของทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยบ้างดีกว่า”

“ทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัย : จางก่วงหลิน เฉินหงเหว่ย เว่ยปิน จางจิ่งต้ง ไช่ชิ่งไห่ นึกไม่ถึงว่าทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยจะไม่เลือกหัวหน้าทีมนำทัพก่อน แต่เป็นจางก่วงหลินจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหวาหนาน ส่วนเว่ยปินหัวหน้าทีมนั้นอยู่ระหว่างกลาง ส่วนคนรั้งท้ายทัพเป็นไช่ชิ่งไห่ที่มาจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หวากั๋วเช่นเดียวกัน นี่คือกลยุทธ์ของทีมพันธมิตรแปดมหาลัย? อาจเป็นเพราะการแข่งขันเมื่อช่วงเช้า กลัวว่าหัวหน้าทีมจะเสียเปรียบแล้วกระทบขวัญกำลังใจคนในทีมหรือเปล่านะ?”

หลิวหวาหรงทายคร่าวๆ ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง “งั้นตอนนี้ขอเชิญผู้เข้าร่วมแข่งขันขึ้นเวทีได้!”

ด้านหลังเวที ฟางผิงสวมชุดฝึกสีดำ ในมือถือดาบเฟิ่งจุยที่ประกอบเสร็จสมบูรณ์แล้ว

เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะสาวเท้าออกไปข้างหน้า

“สู้ๆ!”

“อย่าออมมือ!”

“ชนะห้าคนรวดไปเลย!”

ทุกคนต่างให้กำลังใจเขา พวกอาจารย์คนอื่นๆ และถังเฟิง ตอนนี้ยืนอยู่ด้านข้างเช่นกัน กลับไม่ส่งเสียงพูดอะไร

เวทีประลอง

ฟางผิงถือดาบยาวกระโดดขึ้นไปบนเวที

ด้านล่างเวที ฟางหยวนไม่ได้นอนหลับที่ห้องตามคำแนะนำของฟางผิง ตอนนี้มือไม้ชุ่มเหงื่อไปหมด จับแขนของเสี่ยวหลิงที่อยู่ด้านข้างไว้แน่น

เวลาเดียวกับที่ฟางผิงขึ้นเวที จางก่วงหลิงก็ถือกระบองยาวโลหะผสมขึ้นเวทีจากอีกฝั่งเช่นกัน

“มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ ฟางผิง!”

“พันธมิตรแปดมหาวิทยาลัย จางก่วงหลิน!”

จางก่วงหลินเผยสีหน้าหนักอึ้ง ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหวาหนานและเซี่ยงไฮ้เคยแข่งขันกระชับมิตรมาก่อน เขาได้ประลองกับคนของเซี่ยงไฮ้เช่นกัน

เวลานั้นเซี่ยงไฮ้แทบจะส่งทีมสำรองออกมาทั้งหมด สมาชิกทีมหลักมีแค่จ้าวเสวี่ยเหมยคนเดียว

แต่ครั้งนั้นจ้าวเสวี่ยเหมยต่อสู้ดุเดือดอย่างยิ่ง

จนถึงตอนนี้จางก่วงหลินยังไม่ลืมฉากวันนั้นที่จ้าวเสวี่ยเหมยเกือบจะแทงเท้าใส่ลำคอของคนๆ นั้นได้เลย

จ้าวเสวี่ยเหมยยังขนาดนี้ แล้วฟางผิงจะขนาดไหน?

ฟางผิงเป็นถึงหัวหน้าทีมของเซี่ยงไฮ้!

ทีมพันธมิตรแปดมหาลัยนั้นเดาได้ว่าพวกเขาจะส่งหัวหน้าทีมออกมาก่อน จึงได้ปรับเปลี่ยนลำดับการลงสนามใหม่

จางก่วงหลินนำทัพ เป้าหมายหลักไม่ใช่เอาชนะฟางผิง แต่เพื่อผลาญพลังปราณของฟางผิง

ส่วนเฉินหงเหว่ย หากเอาชนะได้ก็เอาชนะ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ถ่วงเวลาให้ฟางผิงหมดแรง เมื่อเว่ยปินลงสนามจะได้ดึงความได้เปรียบกลับมาให้ทุกคน

“เริ่มได้!”

สิ้นเสียงของผู้ตัดสิน จางก่วงหลินรีบถอยหลังทันที…ฟางผิงก็ไม่ชิงบุกโจมตีเช่นกัน เอาแต่ยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน

สถานการณ์ของทั้งสองคน ทำให้ทุกคนต่างประหลาดใจขึ้นมาทันที

ฟางผิงกลับไม่มีท่าทีร้อนใจ ดาบเฟิ่งจุ่ยไม่ได้ถูกยกขึ้นมา แต่ลากกับพื้นไปตามทาง เดินไปหาอีกฝ่ายอย่างช้าๆ

“ครั้งก่อนการแข่งที่หวาหนาน ฉันเห็นนักศึกษาคนหนึ่งต่อสู้แบบรวบรวมพลัง ผลลัพธ์ไม่เลวจริงๆ ครั้งนี้ ฉันจะขอยืมใช้สักหน่อย นายคงไม่ว่าอะไรสินะ?”

จางก่วงหลินเผยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา ไม่ตอบกลับบทสนทนา ทั้งไม่ถอยหลบแล้วเช่นกัน

นึกไม่ถึงว่าฟางผิงจะใช้การต่อสู้แบบรวบรวมพลัง เขาไม่อาจหลบได้อีกแล้ว แต่จะเป็นฝ่ายรุกแทน ขัดขวางแผนรวบรวมพลังต่อสู้ของฟางผิง!

ฟางผิงยังไม่ทันเดินมา จางก่วงหลินก็พุ่งกระบองยาวมาที่ลำคอของเขาแล้ว

ฟางผิงไม่ได้วาดดาบออกมา หมุนหัวหลบการโจมตีของอีกฝ่าย

ไม่อยู่เหนือความคาดหมายของจางก่วงหลินเช่นกัน กระบองยาวเปลี่ยนเป็นกวาดเข้ามา ก่อนจะถือโอกาสสับลงมากลางคัน!

จากการคาดเดาของผู้ฝึกยุทธ์ในสนาม ตอนนี้ฟางผิงเตรียมรวบรวมพลัง คงไม่คิดขยับดาบ

แต่ครู่ต่อมาหลายค่อยรู้ว่าพวกเขาเดาผิดแล้ว

ฟางผิงที่เมื่อครู่ยังลากดาบ จู่ๆ ก็ยกดาบฟันลงไปข้างหน้า!

“เคร้ง” เกิดประกายไฟลุกพรึ่บขึ้นมา

จางก่วงหลิยรู้สึกแค่ว่ากระบองโลหะผสมส่งแรงสั่นสะเทือนขึ้นมาจนฝ่ามือของเขาชาหนึบไปหมด

“แค่ไม่อยากให้นายหนีการต่อสู้เท่านั้น!”

ฟางผิงพูดออกมาอย่างกะทันหัน ก่อนดาบยาวจะวาดเข้ามาพร้อมลมกรรโชก

“เคร้ง!”

จางก่วงหลินรับดาบอีกครั้ง ตัวคนถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว

ครั้งนี้ฟางผิงยังคงไม่เลิกรา ขยับฝีเท้าในชั่วพริบตา คำรามเสียงดังก่อนจะฟันลงไปอีกครั้ง!

“เคร้ง!”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงนั้น ดาบยาวยังคงเคลื่อนอย่างว่องไว เกิดเสียงเคร้งขึ้นมาอีกครั้ง

ผู้ชมยังไม่ทันดึงสติกลับมา เสียงครั้งที่สามก็ดังขึ้นมาอีก แต่ไม่ใช่เสียงที่ก้องกังวานอีกแล้ว แต่เป็นเสียงตัดผ่านโลหะผสม

เสียงแตกสะบั้นดังขึ้น หลายคนบนชั้นสองใบหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย

เวลานี้สามดาบของฟางผิงตัดกระบองโลหะผสมของจางก่วงหลินได้สำเร็จ

เห็นได้ชัดว่าจางก่วงหลินคาดไม่ถึงเช่นกัน ครู่ต่อมา ดาบยาวยังมีกำลังเหลือฟันเข้ามาที่กลางอกของเขา

“พลั่ก!”

เลือดกระเซ็นออกมา ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงแตกของกระดูกดังขึ้น

ฟางผิงยังคงไม่วางมือ ยกดาบยาวขึ้นสูง ปะทุปราณขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะฟันลงมา!

“ยอมแพ้!”

ชั้นสองมีปรมาจารย์ตะโกนเสียงดัง

ผู้ตัดสินที่อยู่ด้านข้าง ครั้งนี้ไม่ได้เลือกปัดป้องดาบยาวของฟางผิง แต่ลากจางก่วงหลินมาข้างหลัง หลบรัศมีดาบของฟางผิงแทน

ฟางผิงไม่ชักดาบกลับเช่นกัน ดาบฟันลงบนพื้นเวที เกิดเสียงดังลั่นไปทั่ว พื้นนั้นปรากฏรอยดาบฝังลึก

“ฟู่ว…”

จางก่วงหลินสูดลมหายใจอย่างเจ็บปวด หน้าอกนั้นถูกย้อมไปด้วยเลือดนานแล้ว

เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหัวหน้าทีมเซี่ยงไฮ้ แต่เขานึกไม่ถึงว่าฟางผิงจะใช้วิธีนี้เอาชนะเขา!

ฟันสามดาบติดต่อกันทำลายกระบองโลหะผสมของเขา!

ด้านล่างเวที หลิวหวาหรงตกใจอยู่บ้างเช่นกัน “ฟางผิงหัวหน้าทีมของเซี่ยงไฮ้ ไม่ได้เปิดเผยเทคนิคต่อสู้ออกมามากมาย แต่เขาฟันสามดาบตัดกระบองยาวระดับ F พลังปะทุปราณอยู่ที่หกสิบแคล นี่…เขาไม่คิดจะลงสนามรอบสองแล้วใช่ไหม?”

ใช่แล้ว ครั้งนี้ฟางผิงดูเหมือนต่อสู้อย่างสบายๆ แต่สามดาบของเขาที่ตัดกระบองโลหะผสมอีกฝ่าย รวมกับสองดาบก่อนหน้าและอีกหนึ่งดาบตอนหลัง

ฟางผิงสูญเสียปราณไปอย่างน้อยสองร้อยยี่สิบแคลแล้ว!

ร่างกายมนุษย์ต้องรักษาปราณไว้จำนวนหนึ่ง ฟางผิงชนะอย่างสบายๆ เขาไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย

แต่เมื่อเป็นแบบนี้ คงไม่อาจลงสนามรอบสองต่อได้!

ตอนนี้ปราณของฟางผิงน่าจะเหลืออีกหนึ่งร้อยแคล?

แม้ว่าจะกินยาบำรุง คงฟื้นฟูไม่ทันอยู่ดี?

ไม่ใช่แค่หลิวหวาหรงที่คิดแบบนี้ แต่หลายคนก็คิดไม่ต่างกัน รู้สึกว่าเซี่ยงไฮ้กำลังสร้างความเกรงขาม ทำลายขวัญกำลังใจอีกฝ่าย

จางก่วงหลินแพ้เร็วเกินไป ทั้งทำให้คนตกใจอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้กระบวนท่าตัดอาวุธบนเวทีได้

ในขณะที่ทุกคนพากันคาดเดา จู่ๆ ฟางผิงก็ยัดยาบำรุงเม็ดหนึ่งใส่ปากตัวเอง หนึ่งเม็ดไม่พอ ฟางผิงยังยัดลงปากไปอีกเม็ด

“นี่…”

เวลาไม่ถึงยี่สิบวินาที ทุกคนต่างเห็นเหมือนกันว่า ปราณที่หดหายเมื่อครู่ของฟางผิง ค่อยๆ เริ่มกระเพื่อมขึ้นมา ชั่วพริบตาเหมือนจะฟื้นฟูจนถึงจุดสูงสุดอีกครั้ง

ชั้นสอง

อาจารย์จากมหาวิทยาลัยครุศาสตร์หวาตงคนหนึ่งอดขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้ “นี่คือ…ยาบำรุงถูกย่อยแล้ว?”

ปรมาจารย์ไม่อาจมองทะลุผ่านร่างกายของพวกเขาเพื่อดูอวัยวะภายในได้

พวกเขาทำได้แค่รับรู้ หลังจากฟางผิงกินยาบำรุงไปแล้ว ไม่นานปราณก็เริ่มฟื้นฟู ความเร็วนั้นน่าตกใจอย่างยิ่ง

ปรมาจารย์ของมหาวิทยาลัยหวากั๋วขมวดคิ้วเช่นกัน “ร่างกายดูดซับยาบำรุงได้เร็ว? ไม่แปลกใจเลย…”

ไม่แปลกใจที่ฟางผิงต่อสู้อย่างดุเดือด ไม่คิดประหยัดปราณเลยสักนิด

เมื่อเป็นแบบนี้ ทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยคงมีปัญหาใหญ่แล้ว ต้องเผชิญหน้ากับหัวหน้าทีมเซี่ยงไฮ้ที่สามารถฟื้นฟูปราณถึงจุดสูงสุดได้ทุกเวลา

“ปีหน้าต้องจำกัดการใช้ยาบำรุงซะแล้ว”

มีคนพูดขึ้นมา กลับไม่ได้คิดสงสัยอย่างอื่นมากมาย

ในสายตาของพวกเขาเห็นเพียงว่าหลังจากฟางผิงใช้ยาบำรุงแล้ว ปราณก็ฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้สิ่งเดียวที่คิดได้คือร่างกายสามารถดูดซับยาบำรุงได้รวดเร็ว ผู้ฝึกยุทธ์เช่นนี้มีอยู่เหมือนกัน แต่มีน้อยถึงน้อยมาก

ทั้งขึ้นชื่อว่าเป็นยาต้องมีพิษอยู่สามส่วน แม้จะมีร่างกายเช่นนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ยาบำรุงจำนวนมากตามใจชอบได้

———————

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *