ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 71 ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 71 ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 71 ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้

สองวันให้หลัง ฟางผิงค่อยได้รับยาเพิ่มความแข็งแรงและแผ่นซีดีฝึกสอนจากหวังจินหยาง

ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน พนักงานส่งของยืนยันตัวตนของฟางผิงอย่างเข้มงวด ตรวจทั้งบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์…หลังจากนั้นถึงค่อยส่งมอบของให้ฟางผิง

ยาเพิ่มความแข็งแรงทำจากขวดคริสตัลใส ทุกขวดบรรจุประมาณหนึ่งร้อยมิลลิลิตร ยังแนบวิธีใช้มาอย่างละเอียด…

อันที่จริงอธิบายแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น ตอนอาบน้ำให้ใส่ลงในน้ำทันที มีเทียบอัตราส่วนน้ำไว้ให้

ไม่จำเป็นต้องใช้ตอนอาบน้ำเสมอไป จะใช้ถูภายนอกก็ได้ แต่อาจจะถูได้ไม่ทั่วถึง แช่น้ำจะเหมาะสมกว่า

ถึงจะบอกว่าเป็นของเหลว ความจริงน้ำยามีลักษณะเหมือนกับกาวมากกว่า

ขวดหนึ่งใช้ได้สิบครั้ง ไม่จำกัดเวลา คิดว่าร่างกายปรับตัวไม่ทันปราณ สามารถใช้ได้ทันที

ฟางผิงไม่ได้ให้ความสำคัญกับน้ำยาเพิ่มความแข็งแรงนัก

ตอนนี้เขาให้ความสนใจกับการเคล็ดวิชาต่อสู้มากกว่า

สองวันก่อน หวังจินหยางบอกว่าจะส่งซีดีมาให้ ฟางผิงจึงไปซื้อคอมมาหนึ่งเครื่อง เตรียมไว้เพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ

กวนหูหยวน

พ่อแม่ยังไม่ย้ายมาบ้านใหม่อย่างเป็นทางการ แต่ฟางผิงและฟางหยวนมาอยู่ก่อนแล้ว

สองพี่น้องกลับบ้านแค่ตอนกินข้าวเย็นเท่านั้น เสร็จแล้วก็จะมานอนทางนี้

ตอนบ่ายหากหลี่อวี้อิงมีเวลาว่าง มักจะเข้ามาทำความสะอาดบ้านใหม่ แต่ยังไม่ได้ย้ายมาอยู่เป็นจริงเป็นจัง

ส่วนเรื่องที่ลูกชายและลูกสาวมาอยู่ก่อนแล้วนั้น หลี่อวี้อิงไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ

ฟางผิงบอกว่าบ้านใหม่มีเครื่องออกกำลังกาย เขาเลยต้องมาฝึกวิชาที่นี่

ส่วนลูกสาวบอกว่าฟางผิงไม่อยู่บ้าน เธออยู่คนเดียวรู้สึกกลัว จึงย้ายตามฟางผิงไป จะได้ถือโอกาสดูแลพี่ชายด้วย

คำพูดของฟางผิงฟังขึ้นอยู่บ้าง แต่ฟางหยวนบอกว่าจะดูแลฟางผิง ทั้งหลี่อวี้อิงและฟางผิงเองต่าไม่เชื่อแม้แต่น้อย

ห้องหนังสือชั้นบน

ใส่ซีดีเข้าไปแล้ว ไม่นานคลิปวิดีโอก็ปรากฏขึ้นในหน้าจอคอม

(คลิปสอนวิธีใช้หมัดพื้นฐาน)

(คลิปสอนวิธีใช้ขาพื้นฐาน)

(วิธีใช้มีด)

(วิธีใช้ไม้กระบอง)

(ภาพรวมการฝึกวิชาเชิงลึก)

รวมทั้งหมดแล้ว มีประมาณสิบกว่ารายการ

นอกจากคลิปวิดีโอแล้ว ยังมีโน้ตที่หวังจินหยางเขียนด้วยตัวเองใบหนึ่ง

“ฝึกฝนวิธีใช้หมัดใช้ขาได้ แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีคนชี้แนะ ห้ามลองฝึกอาวุธเย็นเด็ดขาด ศึกษาสังเกตการณ์ไว้พอแล้ว…หวังจินหยาง”

ฝึกกระบวนท่ามือและขาด้วยตัวเอง แม้จะไม่เห็นผลเท่าไหร่ แต่คงไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บหนักได้

แต่อาวุธเย็น ถ้าใช้ไม่ระวัง จะทำให้เกิดอันตรายได้ เรื่องนี้ฟางผิงเข้าใจดี

แต่ตอนนี้เขาไม่ได้มีอาวุธเสียหน่อย ในเมืองหยางเฉิงแทบจะหาซื้ออาวุธเย็นไม่ได้ รวมทั้งต้องฝึกวิชาในห้อง ไม่อาจทำอะไรได้อยู่แล้ว

ฟางผิงเปิดคลิป (วิธีต่อสู้ด้วยขาพื้นฐาน) ขึ้นมาเป็นอันดับแรก

พอเปิดคลิปขึ้นมา ในจอภาพพลันปรากฏชายคนหนึ่งอายุประมาณสามสิบสี่สิบปี ภาพนอกดูสุภาพเรียบร้อย สถานที่คงจะเป็นห้องฝึกที่ไหนสักแห่ง

ชายคนนั้นมีสีหน้าอ่อนโยน สวมชุดฝึกวิชารัดกุม เผยให้เห็นแขนขาที่สูงยาวพอดีตัว

เริ่มคลิป ชายคนนั้นพูดว่า “การฝึกต่อสู้ด้วยขา อันดับแรกต้องยืนให้มั่นคง! ถ้ายืนไม่มั่น แค่โดนผลักก็ล้มแล้ว โดนถีบคงไม่ต่างกัน การต่อสู้ด้วยขาเปรียบเหมือนชั้นรองกระถางดอกไม้ ต้องตั้งหลักให้ดี ถึงจะสามารถวิ่งได้เร็ว เตะได้แม่น ทั้งตีได้แรง! หากฝึกจวงกงไม่ถึงระดับที่หนึ่ง แม้จะฝึกการต่อสู้ด้วยขาได้ดีขนาดไหน คงทำได้แค่แสดงหลอกคู่ต่อสู้เท่านั้น…”

ชายคนนั้นพูดอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่สอนว่าต้องฝึกยังไง แต่อธิบายพื้นฐานของวิธีต่อสู้ด้วยขาคร่าวๆ ด้วย

จวงกงระดับที่หนึ่ง เป็นพื้นฐานของเคล็ดวิชาต่อสู้มากมาย

ยืนให้มั่นคง ไม่ได้จำกัดแค่ความหมายในตัวหนังสืออย่างเดียว แต่จะยืนให้มั่นคงได้ หมายความว่าต้องสามารถควบคุมการประสานงานของร่างกายได้ดี เมื่อเตะออกไปไม่โดนคน ก็ไม่ถึงกับทำให้ตัวเองล้มลงไป

เคล็ดวิชาต่อสู้ของผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เหมือนกับเทคนิคการต่อสู้ทั่วไป เทคนิคต่อสู้ทั่วไปจะเน้นการแสดงและความสวยงามเป็นหลัก

แต่เคล็ดวิชาต่อสู้ ถือเอาพลังทำลายและพลังสังหารเป็นแกนหลัก

รวบรวมกำลัง ระเบิดพลัง โจมตีจุดตาย…เป็นหัวใจสำคัญของเคล็ดวิชาต่อสู้ในรูปแบบต่างๆ

ชายในคลิปใช้คำพูดเรียบง่ายถ่ายทอดได้อย่างลึกซึ้ง ก่อนหน้านี้ฟางผิงเคยอ่านวิธีต่อสู้ด้วยมือมาเหมือนกัน

ตอนนี้ฟังแล้ว หลายสิ่งที่ไม่เข้าใจก่อนหน้านี้ จึงคลายข้อสงสัยได้ทั้งหมด

ขณะที่ชายคนนั้นพูด ยังแสดงท่าประกอบง่ายๆ ไปด้วย ทั้งค่อยๆ อธิบายท่วงท่าพวกนี้อย่างละเอียด

ฟางผิงยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าชายที่อยู่ในคลิปคนนี้มีความสามารถอย่างยิ่ง

อย่างน้อยการอธิบายเคล็ดวิชาต่อสู้พื้นฐานก็ทำให้นักเรียนที่เรียนครั้งแรกอย่างฟางผิงฟังเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง

ได้ยินหวังจินหยางบอกว่า คลิปวิดีโอนี้มาจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง แค่ดูคลิปสั้นๆ ก็รู้แล้วว่าอาจารย์ในมหาวิทยาลัยคงไม่ได้ธรรมดา

ฟางผิงดูคลิปเพลินจนเวลาล่วงเลยไปเกือบหนึ่งชั่วโมง

รอจนถึงท้ายคลิป ฟางผิงค่อยเห็นชายคนนั้นแสดงท่วงท่าที่อธิบายตอนต้นแบบติดต่อกัน

ก้าวขาซ้ายไปข้างหน้า ขาขวาเตะไปที่กระสอบทรายตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

ฟางผิงไม่ได้ตั้งใจดูเท่าไหร่ เขาเห็นกระสอบทรายที่แขวนอยู่แตกออกมาดัง ‘ปั่ก’ ทรายเหล็กกระเด็นออกมาตามรอยขาดทันที

“รวบรวม ระเบิดพลัง ต้องอาศัยความพยายาม ความสามารถของตัวเอง ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีปราณเหนือคนธรรมดา หากรวบรวมกำลัง ระเบิดพลังไม่เป็น นั่นเท่ากับว่าแค่แข็งแรงกว่าคนอื่นเล็กน้อยเท่านั้น ไม่อาจทำการต่อสู้ได้”

“หากฝึกต่อสู้ด้วยขาพื้นฐานสำเร็จ จะเห็นประสิทธภาพได้อย่างชัดเจน เตะคนลอยไปถูกกำแพงด้วยเท้าเดียว นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์ต้องการ การต่อสู้ด้วยขา ทุกท่วงท่าต้องอาศัยการรวบรวมพลัง เหมือนที่นักเรียนหลายคนพูดว่า…ระเบิดพลัง! ศัตรูถูกเตะกระเด็น ระหว่างนั้นจะเกิดแรงถ่ายโอน เก้าส่วนสิบจะส่งตรงไปยังร่างฝ่ายตรงข้าม ท้ายที่สุดแล้วจะเหลือแค่ห้าส่วนเท่านั้น ทุกคนสามารถมองเห็นได้จากการเตะกระสอบทรายเมื่อครู่ของฉัน ชั่วพริบตาที่เตะโดนก็ปริขาดออกมาทันที เปลี่ยนเป็นร่างกายมนุษย์ ช่วงเวลาที่ถูกเตะ แรงจะถูกส่งออกไปมากยิ่งขึ้น พลังจะระเบิดทันที…”

ฟางผิงที่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจดูเท่าไหร่ ต้องย้อนคลิปกลับไปใหม่อีกครั้ง

เป็นเหมือนที่ชายคนนั้นว่า ตอนที่เตะโดนกระสอบทราย ขาขวาสัมผัสกับกระสอบทรายแล้วก็ระเบิดทันที

ทรายไม่ได้พวยพุ่งออกมาอย่างแรง ถ้าเปลี่ยนกระสอบทรายเป็นหน้าอกคน คงจะนับว่าเตะโดนคน ไม่ได้ถูกเตะจนปลิว แต่จะหน้าอกจะฉีกขาดโดยทันที

“รวบรวม และระเบิดพลัง…”

ฟางผิงพึมพำ ก่อนจะขมวดคิ้วอีกครั้ง “ยังต้องประกบด้วย ตอนที่ระเบิดพลัง ต้องประกบอีกฝ่าย ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายโต้กลับ”

ขณะที่พูด ฟางผิงพลางย้อนคิดเนื้อหาในคลิปไปด้วย ลุกขึ้นค่อยๆ ขยับขาทั้งสองข้าง

ผ่านไปพักหนึ่ง ฟางผิงก็เดินเซ ส่ายหัวว่า “ใช้แรงเกินไป ตั้งหลักไม่มั่นพอ เตะไม่โดน มีโอกาสที่อีกฝ่ายจะสวนคืนได้ง่าย…”

ในใจหวนคิดฉากที่ปะมือกับหญิงวัยกลางคนก่อนหน้านี้

พูดว่าปะมือ ออกจะชมตัวเองไปเสียหน่อย

ความเป็นจริงทั้งสองคนน่าจะทะเลาะกันข้างถนนมากกว่า ชกหมัดถีบเท้ากันมั่วซั่วไปหมด

ฟางผิงไม่มีเทคนิครวบรวมหรือระเบิดพลังอะไร หญิงคนนั้นก็เหมือนกัน

ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่ง แต่ฟางผิงกล้ารับประกัน อีกฝ่ายไม่เคยเรียนเคล็ดวิชาต่อสู้อย่างแน่นอน หรือไม่งั้นอาจจะเป็นคนไม่เต็มเต็งเท่าไหร่

หากเปลี่ยนเป็นผู้ชายในคลิป อยู่ขั้นหนึ่งเหมือนกัน ฟางผิงถูกหมัดหรือขาของอีกฝ่าย กระดูกคงแตกร้าวอาเจียนเป็นเลือดอย่างไม่ต้องสงสัย

“ผู้ฝึกยุทธ์นั้นแตกต่างกันจริงๆ…เราต้องเรียนรู้วิธีต่อสู้ด้วยขา หากเป็นคนอย่างถานจิ้นผิงที่ใกล้ทะลวงขั้นสองสู้กับชายในคลิป คงจะถูกซ้อมจนตายเหมือนกัน”

ตอนนี้ฟางผิงเข้าใจแล้วว่า ‘ไม่เหมือนกัน’ ที่จางหย่งพูดไว้ก่อนหน้านี้หมายความว่าอะไร

ผู้ฝึกยุทธ์จากมหาวิทยาลัย ผู้ฝึกยุทธ์จากกองทัพ ผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมทั่วไป…

ผู้ฝึกยุทธ์สามประเภทนี้แตกต่างกันจริงๆ

ฟางผิงเคยเห็นผู้ฝึกยุทธ์จากกองทัพมาก่อน ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นจางหย่ง อีกฝ่ายวาดหมัดเบาๆ หญิงคนนั้นกลับตายโดยไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ

แม้จางหย่งจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง แต่เมื่อมาคิดดูอย่างละเอียด เวลานั้นอีกฝ่ายออกหมัดอย่างรวดเร็ว แรงและตรงจุด

แม้ว่าหญิงคนนั้นจะอยู่ขั้นสองเหมือนกัน อาจจะไม่มีโอกาสตั้งรับได้ทันเช่นกัน

ส่วนคลิปผู้ชายจากมหาวิทยาลัย พลังที่เตะออกไปนั้นน่าตกใจเหมือนกัน

กระสอบทรายระเบิดออกมา หากเป็นร่างกายคน คงจะไม่ต่างกันเท่าไหร่

ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมทั่วไป พลังต่อสู้จึง…อ่อนด้อยอย่างมาก!

ขนาดฟางผิงที่ไม่เข้าใจเรื่องมัดมวย ยังยื้อเวลาโรมรันกับเธอได้ตั้งนาน นี่นับว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว

ส่วนถานเจิ้นผิง แม้จะไม่เห็นฉากที่ฟางผิงต่อกรกับอีกฝ่าย แต่คงจะเดาถึงเรื่องนี้ได้เหมือนกัน

ในใจนึกถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ฟางผิงค่อยกลับไปดูคลิปอีกครั้ง ครั้งนี้ดูไปด้วย ปรับเปลี่ยนท่าทางของตัวเองไปด้วย รวบรวมปราณเพื่อเตรียมปะทุ

ปราณที่ไหลเวียนทั่วร่าง ตอนนี้มารวมตัวอยู่ที่ขา เห็นผลอย่างชัดเจน ฟางผิงรู้สึกว่าขาทั้งสองขาหนักอึ้งขึ้นมา หากระเบิดแรงออกไป อานุภาพคงมหาศาลเช่นกัน

สองชั่วโมงต่อมา

ตอนที่ฟางผิงกำลังกระหืดกระหอบอย่างดีใจ อยากจะฝึกตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ฟางหยวนกลับผลักประตูเข้ามาอย่างแรง

เด็กสาวกวาดตามองห้องอ่านหนังสือ ก่อนจะเอ่ยอย่างโมโห “ฟางผิง นายทำเรื่องดีจริงๆ!”

ฟางผิงค่อยดึงสติกลับมาได้ กวาดสายตาดูห้อง

ห้องหนังสือที่เขาใช้เปิดดูคลิป แค่เวลาสั้นๆ กลับเละเทะกระจัดกระจายไปหมด

ตู้หนังสือที่เพิ่งซื้อมา ไม่รู้ว่าถูกเขาเตะไปตอนไหน ด้านข้างนั้นปริแตกออกมาแล้ว บนพื้นยังมีเศษไม้ร่วงหล่น

ตรงกลางของเตียงโซฟายังยุบลงไป เหมือนว่าเหล็กที่คอยพยุงนั้นจะถูกทำลาย

ฟางผิงทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง เมื่อครู่เขาไม่ทันสนใจเรื่องพวกนี้

ตอนนี้ถูกฟางหยวนจับได้คาหนังคาเขา ฟางผิงจึงไอแห้งๆ “เฟอร์นิเจอร์คุณภาพไม่ค่อยดี ฉันบอกแล้วว่าให้ซื้อของดีๆ หน่อย พ่อแม่กลับดึงดันเอาของถูกมาซะได้ ช่างเถอะ อีกสองวันฉันจะไปเลือกซื้อเอง…”

ฟางหยวนกลอกตา หมดคำพูด “คุณภาพไม่ดีเอาไปคืนได้! นายจำเป็นต้องทำลายมันด้วยรึไง? ถ้าแม่รู้เขา ต้องด่านายแน่ๆ!”

อันที่จริงเด็กสาวเสียดายอยู่บ้าง บ้านใหม่ เฟอร์นิเจอร์ใหม่ พี่ชายกลับไม่ถนอมเลยสักนิด!

ก่อนหน้านี้เธอแทบไม่กล้าคิดว่า จะได้มีโอกาสมาอยู่บ้านแบบนี้ หลายวันมานี้เด็กสาวจึงระมัดระวังอย่างยิ่ง บนพื้นมีคราบสกปรกเล็กน้อย ยังต้องรีบหาผ้ามาเช็ดให้สะอาดเอี่ยม

ตอนนี้เห็นฟางผิงทำลายห้องใหม่ ถ้าไม่ติดที่ว่าพลังเธออ่อนด้อย เธอคงจะจัดการฟางผิงไปนานแล้ว!

“เอาเถอะๆ เมื่อกี้ลืมคิดไป ครั้งหน้าจะไปห้องออกกำลังกายแทน พื้นที่ในบ้านคับแคบไปจริงๆ…”

ครั้งแรกที่เข้ามาในบ้านใหม่คิดว่า บ้านนี่ใหญ่ไม่น้อย

นี่เพิ่งจะกี่วันเอง?

ฟางผิงกลับรู้สึกว่าบ้านยังคงเล็กเกินไป!

นี่แค่เรียนหมัดมวยเท่านั้น หากใช้อาวุธ คาดว่าน่าจะฝึกในห้องออกกำลังกายไม่ได้เช่นกัน

พอได้ยินฟางผิงพูดว่าห้องเล็กไป ฟางหยวนจึงตกตะลึงไปอยู่บ้าง

หลายวันมานี้เด็กสาวย้ายมาอยู่ที่นี่ มักรู้สึกเหมือนมาท่องสวรรค์ บ้านมีทั้งชั้นบนชั้นล่าง พื้นที่กว้างขวางอย่างยิ่ง

หากไปโอ้อวดให้เพื่อนสนิทฟัง ใครบ้างจะไม่อิจฉา

แต่พี่ชายตัวเองกลับพูดว่าบ้านเล็กเกินไป…

ฟางหยวนรู้สึกว่า ตอนนี้เธอไม่เข้าใจในตัวฟางผิงอีกแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ฟางผิงตัดสินใจเรียนศิลปะการต่อสู้ ก็เหมือนว่าพี่ชายเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

เพิ่งนึกถึงเรื่องที่ฟางผิงเปลี่ยนไป กลับถูกฟางผิงบีบแก้มตัวเองอย่างไม่ทันตั้งตัว!

ฟางหยวนมองค้อนเขา เปลี่ยนความคิดอีกครั้ง พี่ชายเธอไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด!

———————–

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 71 ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้<

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 71 ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้< at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 71 ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้

สองวันให้หลัง ฟางผิงค่อยได้รับยาเพิ่มความแข็งแรงและแผ่นซีดีฝึกสอนจากหวังจินหยาง

ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน พนักงานส่งของยืนยันตัวตนของฟางผิงอย่างเข้มงวด ตรวจทั้งบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์…หลังจากนั้นถึงค่อยส่งมอบของให้ฟางผิง

ยาเพิ่มความแข็งแรงทำจากขวดคริสตัลใส ทุกขวดบรรจุประมาณหนึ่งร้อยมิลลิลิตร ยังแนบวิธีใช้มาอย่างละเอียด…

อันที่จริงอธิบายแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น ตอนอาบน้ำให้ใส่ลงในน้ำทันที มีเทียบอัตราส่วนน้ำไว้ให้

ไม่จำเป็นต้องใช้ตอนอาบน้ำเสมอไป จะใช้ถูภายนอกก็ได้ แต่อาจจะถูได้ไม่ทั่วถึง แช่น้ำจะเหมาะสมกว่า

ถึงจะบอกว่าเป็นของเหลว ความจริงน้ำยามีลักษณะเหมือนกับกาวมากกว่า

ขวดหนึ่งใช้ได้สิบครั้ง ไม่จำกัดเวลา คิดว่าร่างกายปรับตัวไม่ทันปราณ สามารถใช้ได้ทันที

ฟางผิงไม่ได้ให้ความสำคัญกับน้ำยาเพิ่มความแข็งแรงนัก

ตอนนี้เขาให้ความสนใจกับการเคล็ดวิชาต่อสู้มากกว่า

สองวันก่อน หวังจินหยางบอกว่าจะส่งซีดีมาให้ ฟางผิงจึงไปซื้อคอมมาหนึ่งเครื่อง เตรียมไว้เพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ

กวนหูหยวน

พ่อแม่ยังไม่ย้ายมาบ้านใหม่อย่างเป็นทางการ แต่ฟางผิงและฟางหยวนมาอยู่ก่อนแล้ว

สองพี่น้องกลับบ้านแค่ตอนกินข้าวเย็นเท่านั้น เสร็จแล้วก็จะมานอนทางนี้

ตอนบ่ายหากหลี่อวี้อิงมีเวลาว่าง มักจะเข้ามาทำความสะอาดบ้านใหม่ แต่ยังไม่ได้ย้ายมาอยู่เป็นจริงเป็นจัง

ส่วนเรื่องที่ลูกชายและลูกสาวมาอยู่ก่อนแล้วนั้น หลี่อวี้อิงไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ

ฟางผิงบอกว่าบ้านใหม่มีเครื่องออกกำลังกาย เขาเลยต้องมาฝึกวิชาที่นี่

ส่วนลูกสาวบอกว่าฟางผิงไม่อยู่บ้าน เธออยู่คนเดียวรู้สึกกลัว จึงย้ายตามฟางผิงไป จะได้ถือโอกาสดูแลพี่ชายด้วย

คำพูดของฟางผิงฟังขึ้นอยู่บ้าง แต่ฟางหยวนบอกว่าจะดูแลฟางผิง ทั้งหลี่อวี้อิงและฟางผิงเองต่าไม่เชื่อแม้แต่น้อย

ห้องหนังสือชั้นบน

ใส่ซีดีเข้าไปแล้ว ไม่นานคลิปวิดีโอก็ปรากฏขึ้นในหน้าจอคอม

(คลิปสอนวิธีใช้หมัดพื้นฐาน)

(คลิปสอนวิธีใช้ขาพื้นฐาน)

(วิธีใช้มีด)

(วิธีใช้ไม้กระบอง)

(ภาพรวมการฝึกวิชาเชิงลึก)

รวมทั้งหมดแล้ว มีประมาณสิบกว่ารายการ

นอกจากคลิปวิดีโอแล้ว ยังมีโน้ตที่หวังจินหยางเขียนด้วยตัวเองใบหนึ่ง

“ฝึกฝนวิธีใช้หมัดใช้ขาได้ แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีคนชี้แนะ ห้ามลองฝึกอาวุธเย็นเด็ดขาด ศึกษาสังเกตการณ์ไว้พอแล้ว…หวังจินหยาง”

ฝึกกระบวนท่ามือและขาด้วยตัวเอง แม้จะไม่เห็นผลเท่าไหร่ แต่คงไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บหนักได้

แต่อาวุธเย็น ถ้าใช้ไม่ระวัง จะทำให้เกิดอันตรายได้ เรื่องนี้ฟางผิงเข้าใจดี

แต่ตอนนี้เขาไม่ได้มีอาวุธเสียหน่อย ในเมืองหยางเฉิงแทบจะหาซื้ออาวุธเย็นไม่ได้ รวมทั้งต้องฝึกวิชาในห้อง ไม่อาจทำอะไรได้อยู่แล้ว

ฟางผิงเปิดคลิป (วิธีต่อสู้ด้วยขาพื้นฐาน) ขึ้นมาเป็นอันดับแรก

พอเปิดคลิปขึ้นมา ในจอภาพพลันปรากฏชายคนหนึ่งอายุประมาณสามสิบสี่สิบปี ภาพนอกดูสุภาพเรียบร้อย สถานที่คงจะเป็นห้องฝึกที่ไหนสักแห่ง

ชายคนนั้นมีสีหน้าอ่อนโยน สวมชุดฝึกวิชารัดกุม เผยให้เห็นแขนขาที่สูงยาวพอดีตัว

เริ่มคลิป ชายคนนั้นพูดว่า “การฝึกต่อสู้ด้วยขา อันดับแรกต้องยืนให้มั่นคง! ถ้ายืนไม่มั่น แค่โดนผลักก็ล้มแล้ว โดนถีบคงไม่ต่างกัน การต่อสู้ด้วยขาเปรียบเหมือนชั้นรองกระถางดอกไม้ ต้องตั้งหลักให้ดี ถึงจะสามารถวิ่งได้เร็ว เตะได้แม่น ทั้งตีได้แรง! หากฝึกจวงกงไม่ถึงระดับที่หนึ่ง แม้จะฝึกการต่อสู้ด้วยขาได้ดีขนาดไหน คงทำได้แค่แสดงหลอกคู่ต่อสู้เท่านั้น…”

ชายคนนั้นพูดอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่สอนว่าต้องฝึกยังไง แต่อธิบายพื้นฐานของวิธีต่อสู้ด้วยขาคร่าวๆ ด้วย

จวงกงระดับที่หนึ่ง เป็นพื้นฐานของเคล็ดวิชาต่อสู้มากมาย

ยืนให้มั่นคง ไม่ได้จำกัดแค่ความหมายในตัวหนังสืออย่างเดียว แต่จะยืนให้มั่นคงได้ หมายความว่าต้องสามารถควบคุมการประสานงานของร่างกายได้ดี เมื่อเตะออกไปไม่โดนคน ก็ไม่ถึงกับทำให้ตัวเองล้มลงไป

เคล็ดวิชาต่อสู้ของผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เหมือนกับเทคนิคการต่อสู้ทั่วไป เทคนิคต่อสู้ทั่วไปจะเน้นการแสดงและความสวยงามเป็นหลัก

แต่เคล็ดวิชาต่อสู้ ถือเอาพลังทำลายและพลังสังหารเป็นแกนหลัก

รวบรวมกำลัง ระเบิดพลัง โจมตีจุดตาย…เป็นหัวใจสำคัญของเคล็ดวิชาต่อสู้ในรูปแบบต่างๆ

ชายในคลิปใช้คำพูดเรียบง่ายถ่ายทอดได้อย่างลึกซึ้ง ก่อนหน้านี้ฟางผิงเคยอ่านวิธีต่อสู้ด้วยมือมาเหมือนกัน

ตอนนี้ฟังแล้ว หลายสิ่งที่ไม่เข้าใจก่อนหน้านี้ จึงคลายข้อสงสัยได้ทั้งหมด

ขณะที่ชายคนนั้นพูด ยังแสดงท่าประกอบง่ายๆ ไปด้วย ทั้งค่อยๆ อธิบายท่วงท่าพวกนี้อย่างละเอียด

ฟางผิงยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าชายที่อยู่ในคลิปคนนี้มีความสามารถอย่างยิ่ง

อย่างน้อยการอธิบายเคล็ดวิชาต่อสู้พื้นฐานก็ทำให้นักเรียนที่เรียนครั้งแรกอย่างฟางผิงฟังเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง

ได้ยินหวังจินหยางบอกว่า คลิปวิดีโอนี้มาจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง แค่ดูคลิปสั้นๆ ก็รู้แล้วว่าอาจารย์ในมหาวิทยาลัยคงไม่ได้ธรรมดา

ฟางผิงดูคลิปเพลินจนเวลาล่วงเลยไปเกือบหนึ่งชั่วโมง

รอจนถึงท้ายคลิป ฟางผิงค่อยเห็นชายคนนั้นแสดงท่วงท่าที่อธิบายตอนต้นแบบติดต่อกัน

ก้าวขาซ้ายไปข้างหน้า ขาขวาเตะไปที่กระสอบทรายตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

ฟางผิงไม่ได้ตั้งใจดูเท่าไหร่ เขาเห็นกระสอบทรายที่แขวนอยู่แตกออกมาดัง ‘ปั่ก’ ทรายเหล็กกระเด็นออกมาตามรอยขาดทันที

“รวบรวม ระเบิดพลัง ต้องอาศัยความพยายาม ความสามารถของตัวเอง ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีปราณเหนือคนธรรมดา หากรวบรวมกำลัง ระเบิดพลังไม่เป็น นั่นเท่ากับว่าแค่แข็งแรงกว่าคนอื่นเล็กน้อยเท่านั้น ไม่อาจทำการต่อสู้ได้”

“หากฝึกต่อสู้ด้วยขาพื้นฐานสำเร็จ จะเห็นประสิทธภาพได้อย่างชัดเจน เตะคนลอยไปถูกกำแพงด้วยเท้าเดียว นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์ต้องการ การต่อสู้ด้วยขา ทุกท่วงท่าต้องอาศัยการรวบรวมพลัง เหมือนที่นักเรียนหลายคนพูดว่า…ระเบิดพลัง! ศัตรูถูกเตะกระเด็น ระหว่างนั้นจะเกิดแรงถ่ายโอน เก้าส่วนสิบจะส่งตรงไปยังร่างฝ่ายตรงข้าม ท้ายที่สุดแล้วจะเหลือแค่ห้าส่วนเท่านั้น ทุกคนสามารถมองเห็นได้จากการเตะกระสอบทรายเมื่อครู่ของฉัน ชั่วพริบตาที่เตะโดนก็ปริขาดออกมาทันที เปลี่ยนเป็นร่างกายมนุษย์ ช่วงเวลาที่ถูกเตะ แรงจะถูกส่งออกไปมากยิ่งขึ้น พลังจะระเบิดทันที…”

ฟางผิงที่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจดูเท่าไหร่ ต้องย้อนคลิปกลับไปใหม่อีกครั้ง

เป็นเหมือนที่ชายคนนั้นว่า ตอนที่เตะโดนกระสอบทราย ขาขวาสัมผัสกับกระสอบทรายแล้วก็ระเบิดทันที

ทรายไม่ได้พวยพุ่งออกมาอย่างแรง ถ้าเปลี่ยนกระสอบทรายเป็นหน้าอกคน คงจะนับว่าเตะโดนคน ไม่ได้ถูกเตะจนปลิว แต่จะหน้าอกจะฉีกขาดโดยทันที

“รวบรวม และระเบิดพลัง…”

ฟางผิงพึมพำ ก่อนจะขมวดคิ้วอีกครั้ง “ยังต้องประกบด้วย ตอนที่ระเบิดพลัง ต้องประกบอีกฝ่าย ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายโต้กลับ”

ขณะที่พูด ฟางผิงพลางย้อนคิดเนื้อหาในคลิปไปด้วย ลุกขึ้นค่อยๆ ขยับขาทั้งสองข้าง

ผ่านไปพักหนึ่ง ฟางผิงก็เดินเซ ส่ายหัวว่า “ใช้แรงเกินไป ตั้งหลักไม่มั่นพอ เตะไม่โดน มีโอกาสที่อีกฝ่ายจะสวนคืนได้ง่าย…”

ในใจหวนคิดฉากที่ปะมือกับหญิงวัยกลางคนก่อนหน้านี้

พูดว่าปะมือ ออกจะชมตัวเองไปเสียหน่อย

ความเป็นจริงทั้งสองคนน่าจะทะเลาะกันข้างถนนมากกว่า ชกหมัดถีบเท้ากันมั่วซั่วไปหมด

ฟางผิงไม่มีเทคนิครวบรวมหรือระเบิดพลังอะไร หญิงคนนั้นก็เหมือนกัน

ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่ง แต่ฟางผิงกล้ารับประกัน อีกฝ่ายไม่เคยเรียนเคล็ดวิชาต่อสู้อย่างแน่นอน หรือไม่งั้นอาจจะเป็นคนไม่เต็มเต็งเท่าไหร่

หากเปลี่ยนเป็นผู้ชายในคลิป อยู่ขั้นหนึ่งเหมือนกัน ฟางผิงถูกหมัดหรือขาของอีกฝ่าย กระดูกคงแตกร้าวอาเจียนเป็นเลือดอย่างไม่ต้องสงสัย

“ผู้ฝึกยุทธ์นั้นแตกต่างกันจริงๆ…เราต้องเรียนรู้วิธีต่อสู้ด้วยขา หากเป็นคนอย่างถานจิ้นผิงที่ใกล้ทะลวงขั้นสองสู้กับชายในคลิป คงจะถูกซ้อมจนตายเหมือนกัน”

ตอนนี้ฟางผิงเข้าใจแล้วว่า ‘ไม่เหมือนกัน’ ที่จางหย่งพูดไว้ก่อนหน้านี้หมายความว่าอะไร

ผู้ฝึกยุทธ์จากมหาวิทยาลัย ผู้ฝึกยุทธ์จากกองทัพ ผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมทั่วไป…

ผู้ฝึกยุทธ์สามประเภทนี้แตกต่างกันจริงๆ

ฟางผิงเคยเห็นผู้ฝึกยุทธ์จากกองทัพมาก่อน ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นจางหย่ง อีกฝ่ายวาดหมัดเบาๆ หญิงคนนั้นกลับตายโดยไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ

แม้จางหย่งจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง แต่เมื่อมาคิดดูอย่างละเอียด เวลานั้นอีกฝ่ายออกหมัดอย่างรวดเร็ว แรงและตรงจุด

แม้ว่าหญิงคนนั้นจะอยู่ขั้นสองเหมือนกัน อาจจะไม่มีโอกาสตั้งรับได้ทันเช่นกัน

ส่วนคลิปผู้ชายจากมหาวิทยาลัย พลังที่เตะออกไปนั้นน่าตกใจเหมือนกัน

กระสอบทรายระเบิดออกมา หากเป็นร่างกายคน คงจะไม่ต่างกันเท่าไหร่

ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมทั่วไป พลังต่อสู้จึง…อ่อนด้อยอย่างมาก!

ขนาดฟางผิงที่ไม่เข้าใจเรื่องมัดมวย ยังยื้อเวลาโรมรันกับเธอได้ตั้งนาน นี่นับว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว

ส่วนถานเจิ้นผิง แม้จะไม่เห็นฉากที่ฟางผิงต่อกรกับอีกฝ่าย แต่คงจะเดาถึงเรื่องนี้ได้เหมือนกัน

ในใจนึกถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ฟางผิงค่อยกลับไปดูคลิปอีกครั้ง ครั้งนี้ดูไปด้วย ปรับเปลี่ยนท่าทางของตัวเองไปด้วย รวบรวมปราณเพื่อเตรียมปะทุ

ปราณที่ไหลเวียนทั่วร่าง ตอนนี้มารวมตัวอยู่ที่ขา เห็นผลอย่างชัดเจน ฟางผิงรู้สึกว่าขาทั้งสองขาหนักอึ้งขึ้นมา หากระเบิดแรงออกไป อานุภาพคงมหาศาลเช่นกัน

สองชั่วโมงต่อมา

ตอนที่ฟางผิงกำลังกระหืดกระหอบอย่างดีใจ อยากจะฝึกตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ฟางหยวนกลับผลักประตูเข้ามาอย่างแรง

เด็กสาวกวาดตามองห้องอ่านหนังสือ ก่อนจะเอ่ยอย่างโมโห “ฟางผิง นายทำเรื่องดีจริงๆ!”

ฟางผิงค่อยดึงสติกลับมาได้ กวาดสายตาดูห้อง

ห้องหนังสือที่เขาใช้เปิดดูคลิป แค่เวลาสั้นๆ กลับเละเทะกระจัดกระจายไปหมด

ตู้หนังสือที่เพิ่งซื้อมา ไม่รู้ว่าถูกเขาเตะไปตอนไหน ด้านข้างนั้นปริแตกออกมาแล้ว บนพื้นยังมีเศษไม้ร่วงหล่น

ตรงกลางของเตียงโซฟายังยุบลงไป เหมือนว่าเหล็กที่คอยพยุงนั้นจะถูกทำลาย

ฟางผิงทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง เมื่อครู่เขาไม่ทันสนใจเรื่องพวกนี้

ตอนนี้ถูกฟางหยวนจับได้คาหนังคาเขา ฟางผิงจึงไอแห้งๆ “เฟอร์นิเจอร์คุณภาพไม่ค่อยดี ฉันบอกแล้วว่าให้ซื้อของดีๆ หน่อย พ่อแม่กลับดึงดันเอาของถูกมาซะได้ ช่างเถอะ อีกสองวันฉันจะไปเลือกซื้อเอง…”

ฟางหยวนกลอกตา หมดคำพูด “คุณภาพไม่ดีเอาไปคืนได้! นายจำเป็นต้องทำลายมันด้วยรึไง? ถ้าแม่รู้เขา ต้องด่านายแน่ๆ!”

อันที่จริงเด็กสาวเสียดายอยู่บ้าง บ้านใหม่ เฟอร์นิเจอร์ใหม่ พี่ชายกลับไม่ถนอมเลยสักนิด!

ก่อนหน้านี้เธอแทบไม่กล้าคิดว่า จะได้มีโอกาสมาอยู่บ้านแบบนี้ หลายวันมานี้เด็กสาวจึงระมัดระวังอย่างยิ่ง บนพื้นมีคราบสกปรกเล็กน้อย ยังต้องรีบหาผ้ามาเช็ดให้สะอาดเอี่ยม

ตอนนี้เห็นฟางผิงทำลายห้องใหม่ ถ้าไม่ติดที่ว่าพลังเธออ่อนด้อย เธอคงจะจัดการฟางผิงไปนานแล้ว!

“เอาเถอะๆ เมื่อกี้ลืมคิดไป ครั้งหน้าจะไปห้องออกกำลังกายแทน พื้นที่ในบ้านคับแคบไปจริงๆ…”

ครั้งแรกที่เข้ามาในบ้านใหม่คิดว่า บ้านนี่ใหญ่ไม่น้อย

นี่เพิ่งจะกี่วันเอง?

ฟางผิงกลับรู้สึกว่าบ้านยังคงเล็กเกินไป!

นี่แค่เรียนหมัดมวยเท่านั้น หากใช้อาวุธ คาดว่าน่าจะฝึกในห้องออกกำลังกายไม่ได้เช่นกัน

พอได้ยินฟางผิงพูดว่าห้องเล็กไป ฟางหยวนจึงตกตะลึงไปอยู่บ้าง

หลายวันมานี้เด็กสาวย้ายมาอยู่ที่นี่ มักรู้สึกเหมือนมาท่องสวรรค์ บ้านมีทั้งชั้นบนชั้นล่าง พื้นที่กว้างขวางอย่างยิ่ง

หากไปโอ้อวดให้เพื่อนสนิทฟัง ใครบ้างจะไม่อิจฉา

แต่พี่ชายตัวเองกลับพูดว่าบ้านเล็กเกินไป…

ฟางหยวนรู้สึกว่า ตอนนี้เธอไม่เข้าใจในตัวฟางผิงอีกแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ฟางผิงตัดสินใจเรียนศิลปะการต่อสู้ ก็เหมือนว่าพี่ชายเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

เพิ่งนึกถึงเรื่องที่ฟางผิงเปลี่ยนไป กลับถูกฟางผิงบีบแก้มตัวเองอย่างไม่ทันตั้งตัว!

ฟางหยวนมองค้อนเขา เปลี่ยนความคิดอีกครั้ง พี่ชายเธอไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด!

———————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 71 ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้<

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 71 ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้< at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 71 ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้

สองวันให้หลัง ฟางผิงค่อยได้รับยาเพิ่มความแข็งแรงและแผ่นซีดีฝึกสอนจากหวังจินหยาง

ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน พนักงานส่งของยืนยันตัวตนของฟางผิงอย่างเข้มงวด ตรวจทั้งบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์…หลังจากนั้นถึงค่อยส่งมอบของให้ฟางผิง

ยาเพิ่มความแข็งแรงทำจากขวดคริสตัลใส ทุกขวดบรรจุประมาณหนึ่งร้อยมิลลิลิตร ยังแนบวิธีใช้มาอย่างละเอียด…

อันที่จริงอธิบายแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น ตอนอาบน้ำให้ใส่ลงในน้ำทันที มีเทียบอัตราส่วนน้ำไว้ให้

ไม่จำเป็นต้องใช้ตอนอาบน้ำเสมอไป จะใช้ถูภายนอกก็ได้ แต่อาจจะถูได้ไม่ทั่วถึง แช่น้ำจะเหมาะสมกว่า

ถึงจะบอกว่าเป็นของเหลว ความจริงน้ำยามีลักษณะเหมือนกับกาวมากกว่า

ขวดหนึ่งใช้ได้สิบครั้ง ไม่จำกัดเวลา คิดว่าร่างกายปรับตัวไม่ทันปราณ สามารถใช้ได้ทันที

ฟางผิงไม่ได้ให้ความสำคัญกับน้ำยาเพิ่มความแข็งแรงนัก

ตอนนี้เขาให้ความสนใจกับการเคล็ดวิชาต่อสู้มากกว่า

สองวันก่อน หวังจินหยางบอกว่าจะส่งซีดีมาให้ ฟางผิงจึงไปซื้อคอมมาหนึ่งเครื่อง เตรียมไว้เพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ

กวนหูหยวน

พ่อแม่ยังไม่ย้ายมาบ้านใหม่อย่างเป็นทางการ แต่ฟางผิงและฟางหยวนมาอยู่ก่อนแล้ว

สองพี่น้องกลับบ้านแค่ตอนกินข้าวเย็นเท่านั้น เสร็จแล้วก็จะมานอนทางนี้

ตอนบ่ายหากหลี่อวี้อิงมีเวลาว่าง มักจะเข้ามาทำความสะอาดบ้านใหม่ แต่ยังไม่ได้ย้ายมาอยู่เป็นจริงเป็นจัง

ส่วนเรื่องที่ลูกชายและลูกสาวมาอยู่ก่อนแล้วนั้น หลี่อวี้อิงไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ

ฟางผิงบอกว่าบ้านใหม่มีเครื่องออกกำลังกาย เขาเลยต้องมาฝึกวิชาที่นี่

ส่วนลูกสาวบอกว่าฟางผิงไม่อยู่บ้าน เธออยู่คนเดียวรู้สึกกลัว จึงย้ายตามฟางผิงไป จะได้ถือโอกาสดูแลพี่ชายด้วย

คำพูดของฟางผิงฟังขึ้นอยู่บ้าง แต่ฟางหยวนบอกว่าจะดูแลฟางผิง ทั้งหลี่อวี้อิงและฟางผิงเองต่าไม่เชื่อแม้แต่น้อย

ห้องหนังสือชั้นบน

ใส่ซีดีเข้าไปแล้ว ไม่นานคลิปวิดีโอก็ปรากฏขึ้นในหน้าจอคอม

(คลิปสอนวิธีใช้หมัดพื้นฐาน)

(คลิปสอนวิธีใช้ขาพื้นฐาน)

(วิธีใช้มีด)

(วิธีใช้ไม้กระบอง)

(ภาพรวมการฝึกวิชาเชิงลึก)

รวมทั้งหมดแล้ว มีประมาณสิบกว่ารายการ

นอกจากคลิปวิดีโอแล้ว ยังมีโน้ตที่หวังจินหยางเขียนด้วยตัวเองใบหนึ่ง

“ฝึกฝนวิธีใช้หมัดใช้ขาได้ แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีคนชี้แนะ ห้ามลองฝึกอาวุธเย็นเด็ดขาด ศึกษาสังเกตการณ์ไว้พอแล้ว…หวังจินหยาง”

ฝึกกระบวนท่ามือและขาด้วยตัวเอง แม้จะไม่เห็นผลเท่าไหร่ แต่คงไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บหนักได้

แต่อาวุธเย็น ถ้าใช้ไม่ระวัง จะทำให้เกิดอันตรายได้ เรื่องนี้ฟางผิงเข้าใจดี

แต่ตอนนี้เขาไม่ได้มีอาวุธเสียหน่อย ในเมืองหยางเฉิงแทบจะหาซื้ออาวุธเย็นไม่ได้ รวมทั้งต้องฝึกวิชาในห้อง ไม่อาจทำอะไรได้อยู่แล้ว

ฟางผิงเปิดคลิป (วิธีต่อสู้ด้วยขาพื้นฐาน) ขึ้นมาเป็นอันดับแรก

พอเปิดคลิปขึ้นมา ในจอภาพพลันปรากฏชายคนหนึ่งอายุประมาณสามสิบสี่สิบปี ภาพนอกดูสุภาพเรียบร้อย สถานที่คงจะเป็นห้องฝึกที่ไหนสักแห่ง

ชายคนนั้นมีสีหน้าอ่อนโยน สวมชุดฝึกวิชารัดกุม เผยให้เห็นแขนขาที่สูงยาวพอดีตัว

เริ่มคลิป ชายคนนั้นพูดว่า “การฝึกต่อสู้ด้วยขา อันดับแรกต้องยืนให้มั่นคง! ถ้ายืนไม่มั่น แค่โดนผลักก็ล้มแล้ว โดนถีบคงไม่ต่างกัน การต่อสู้ด้วยขาเปรียบเหมือนชั้นรองกระถางดอกไม้ ต้องตั้งหลักให้ดี ถึงจะสามารถวิ่งได้เร็ว เตะได้แม่น ทั้งตีได้แรง! หากฝึกจวงกงไม่ถึงระดับที่หนึ่ง แม้จะฝึกการต่อสู้ด้วยขาได้ดีขนาดไหน คงทำได้แค่แสดงหลอกคู่ต่อสู้เท่านั้น…”

ชายคนนั้นพูดอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่สอนว่าต้องฝึกยังไง แต่อธิบายพื้นฐานของวิธีต่อสู้ด้วยขาคร่าวๆ ด้วย

จวงกงระดับที่หนึ่ง เป็นพื้นฐานของเคล็ดวิชาต่อสู้มากมาย

ยืนให้มั่นคง ไม่ได้จำกัดแค่ความหมายในตัวหนังสืออย่างเดียว แต่จะยืนให้มั่นคงได้ หมายความว่าต้องสามารถควบคุมการประสานงานของร่างกายได้ดี เมื่อเตะออกไปไม่โดนคน ก็ไม่ถึงกับทำให้ตัวเองล้มลงไป

เคล็ดวิชาต่อสู้ของผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เหมือนกับเทคนิคการต่อสู้ทั่วไป เทคนิคต่อสู้ทั่วไปจะเน้นการแสดงและความสวยงามเป็นหลัก

แต่เคล็ดวิชาต่อสู้ ถือเอาพลังทำลายและพลังสังหารเป็นแกนหลัก

รวบรวมกำลัง ระเบิดพลัง โจมตีจุดตาย…เป็นหัวใจสำคัญของเคล็ดวิชาต่อสู้ในรูปแบบต่างๆ

ชายในคลิปใช้คำพูดเรียบง่ายถ่ายทอดได้อย่างลึกซึ้ง ก่อนหน้านี้ฟางผิงเคยอ่านวิธีต่อสู้ด้วยมือมาเหมือนกัน

ตอนนี้ฟังแล้ว หลายสิ่งที่ไม่เข้าใจก่อนหน้านี้ จึงคลายข้อสงสัยได้ทั้งหมด

ขณะที่ชายคนนั้นพูด ยังแสดงท่าประกอบง่ายๆ ไปด้วย ทั้งค่อยๆ อธิบายท่วงท่าพวกนี้อย่างละเอียด

ฟางผิงยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าชายที่อยู่ในคลิปคนนี้มีความสามารถอย่างยิ่ง

อย่างน้อยการอธิบายเคล็ดวิชาต่อสู้พื้นฐานก็ทำให้นักเรียนที่เรียนครั้งแรกอย่างฟางผิงฟังเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง

ได้ยินหวังจินหยางบอกว่า คลิปวิดีโอนี้มาจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง แค่ดูคลิปสั้นๆ ก็รู้แล้วว่าอาจารย์ในมหาวิทยาลัยคงไม่ได้ธรรมดา

ฟางผิงดูคลิปเพลินจนเวลาล่วงเลยไปเกือบหนึ่งชั่วโมง

รอจนถึงท้ายคลิป ฟางผิงค่อยเห็นชายคนนั้นแสดงท่วงท่าที่อธิบายตอนต้นแบบติดต่อกัน

ก้าวขาซ้ายไปข้างหน้า ขาขวาเตะไปที่กระสอบทรายตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

ฟางผิงไม่ได้ตั้งใจดูเท่าไหร่ เขาเห็นกระสอบทรายที่แขวนอยู่แตกออกมาดัง ‘ปั่ก’ ทรายเหล็กกระเด็นออกมาตามรอยขาดทันที

“รวบรวม ระเบิดพลัง ต้องอาศัยความพยายาม ความสามารถของตัวเอง ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีปราณเหนือคนธรรมดา หากรวบรวมกำลัง ระเบิดพลังไม่เป็น นั่นเท่ากับว่าแค่แข็งแรงกว่าคนอื่นเล็กน้อยเท่านั้น ไม่อาจทำการต่อสู้ได้”

“หากฝึกต่อสู้ด้วยขาพื้นฐานสำเร็จ จะเห็นประสิทธภาพได้อย่างชัดเจน เตะคนลอยไปถูกกำแพงด้วยเท้าเดียว นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์ต้องการ การต่อสู้ด้วยขา ทุกท่วงท่าต้องอาศัยการรวบรวมพลัง เหมือนที่นักเรียนหลายคนพูดว่า…ระเบิดพลัง! ศัตรูถูกเตะกระเด็น ระหว่างนั้นจะเกิดแรงถ่ายโอน เก้าส่วนสิบจะส่งตรงไปยังร่างฝ่ายตรงข้าม ท้ายที่สุดแล้วจะเหลือแค่ห้าส่วนเท่านั้น ทุกคนสามารถมองเห็นได้จากการเตะกระสอบทรายเมื่อครู่ของฉัน ชั่วพริบตาที่เตะโดนก็ปริขาดออกมาทันที เปลี่ยนเป็นร่างกายมนุษย์ ช่วงเวลาที่ถูกเตะ แรงจะถูกส่งออกไปมากยิ่งขึ้น พลังจะระเบิดทันที…”

ฟางผิงที่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจดูเท่าไหร่ ต้องย้อนคลิปกลับไปใหม่อีกครั้ง

เป็นเหมือนที่ชายคนนั้นว่า ตอนที่เตะโดนกระสอบทราย ขาขวาสัมผัสกับกระสอบทรายแล้วก็ระเบิดทันที

ทรายไม่ได้พวยพุ่งออกมาอย่างแรง ถ้าเปลี่ยนกระสอบทรายเป็นหน้าอกคน คงจะนับว่าเตะโดนคน ไม่ได้ถูกเตะจนปลิว แต่จะหน้าอกจะฉีกขาดโดยทันที

“รวบรวม และระเบิดพลัง…”

ฟางผิงพึมพำ ก่อนจะขมวดคิ้วอีกครั้ง “ยังต้องประกบด้วย ตอนที่ระเบิดพลัง ต้องประกบอีกฝ่าย ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายโต้กลับ”

ขณะที่พูด ฟางผิงพลางย้อนคิดเนื้อหาในคลิปไปด้วย ลุกขึ้นค่อยๆ ขยับขาทั้งสองข้าง

ผ่านไปพักหนึ่ง ฟางผิงก็เดินเซ ส่ายหัวว่า “ใช้แรงเกินไป ตั้งหลักไม่มั่นพอ เตะไม่โดน มีโอกาสที่อีกฝ่ายจะสวนคืนได้ง่าย…”

ในใจหวนคิดฉากที่ปะมือกับหญิงวัยกลางคนก่อนหน้านี้

พูดว่าปะมือ ออกจะชมตัวเองไปเสียหน่อย

ความเป็นจริงทั้งสองคนน่าจะทะเลาะกันข้างถนนมากกว่า ชกหมัดถีบเท้ากันมั่วซั่วไปหมด

ฟางผิงไม่มีเทคนิครวบรวมหรือระเบิดพลังอะไร หญิงคนนั้นก็เหมือนกัน

ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่ง แต่ฟางผิงกล้ารับประกัน อีกฝ่ายไม่เคยเรียนเคล็ดวิชาต่อสู้อย่างแน่นอน หรือไม่งั้นอาจจะเป็นคนไม่เต็มเต็งเท่าไหร่

หากเปลี่ยนเป็นผู้ชายในคลิป อยู่ขั้นหนึ่งเหมือนกัน ฟางผิงถูกหมัดหรือขาของอีกฝ่าย กระดูกคงแตกร้าวอาเจียนเป็นเลือดอย่างไม่ต้องสงสัย

“ผู้ฝึกยุทธ์นั้นแตกต่างกันจริงๆ…เราต้องเรียนรู้วิธีต่อสู้ด้วยขา หากเป็นคนอย่างถานจิ้นผิงที่ใกล้ทะลวงขั้นสองสู้กับชายในคลิป คงจะถูกซ้อมจนตายเหมือนกัน”

ตอนนี้ฟางผิงเข้าใจแล้วว่า ‘ไม่เหมือนกัน’ ที่จางหย่งพูดไว้ก่อนหน้านี้หมายความว่าอะไร

ผู้ฝึกยุทธ์จากมหาวิทยาลัย ผู้ฝึกยุทธ์จากกองทัพ ผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมทั่วไป…

ผู้ฝึกยุทธ์สามประเภทนี้แตกต่างกันจริงๆ

ฟางผิงเคยเห็นผู้ฝึกยุทธ์จากกองทัพมาก่อน ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นจางหย่ง อีกฝ่ายวาดหมัดเบาๆ หญิงคนนั้นกลับตายโดยไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ

แม้จางหย่งจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง แต่เมื่อมาคิดดูอย่างละเอียด เวลานั้นอีกฝ่ายออกหมัดอย่างรวดเร็ว แรงและตรงจุด

แม้ว่าหญิงคนนั้นจะอยู่ขั้นสองเหมือนกัน อาจจะไม่มีโอกาสตั้งรับได้ทันเช่นกัน

ส่วนคลิปผู้ชายจากมหาวิทยาลัย พลังที่เตะออกไปนั้นน่าตกใจเหมือนกัน

กระสอบทรายระเบิดออกมา หากเป็นร่างกายคน คงจะไม่ต่างกันเท่าไหร่

ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมทั่วไป พลังต่อสู้จึง…อ่อนด้อยอย่างมาก!

ขนาดฟางผิงที่ไม่เข้าใจเรื่องมัดมวย ยังยื้อเวลาโรมรันกับเธอได้ตั้งนาน นี่นับว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว

ส่วนถานเจิ้นผิง แม้จะไม่เห็นฉากที่ฟางผิงต่อกรกับอีกฝ่าย แต่คงจะเดาถึงเรื่องนี้ได้เหมือนกัน

ในใจนึกถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ฟางผิงค่อยกลับไปดูคลิปอีกครั้ง ครั้งนี้ดูไปด้วย ปรับเปลี่ยนท่าทางของตัวเองไปด้วย รวบรวมปราณเพื่อเตรียมปะทุ

ปราณที่ไหลเวียนทั่วร่าง ตอนนี้มารวมตัวอยู่ที่ขา เห็นผลอย่างชัดเจน ฟางผิงรู้สึกว่าขาทั้งสองขาหนักอึ้งขึ้นมา หากระเบิดแรงออกไป อานุภาพคงมหาศาลเช่นกัน

สองชั่วโมงต่อมา

ตอนที่ฟางผิงกำลังกระหืดกระหอบอย่างดีใจ อยากจะฝึกตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ฟางหยวนกลับผลักประตูเข้ามาอย่างแรง

เด็กสาวกวาดตามองห้องอ่านหนังสือ ก่อนจะเอ่ยอย่างโมโห “ฟางผิง นายทำเรื่องดีจริงๆ!”

ฟางผิงค่อยดึงสติกลับมาได้ กวาดสายตาดูห้อง

ห้องหนังสือที่เขาใช้เปิดดูคลิป แค่เวลาสั้นๆ กลับเละเทะกระจัดกระจายไปหมด

ตู้หนังสือที่เพิ่งซื้อมา ไม่รู้ว่าถูกเขาเตะไปตอนไหน ด้านข้างนั้นปริแตกออกมาแล้ว บนพื้นยังมีเศษไม้ร่วงหล่น

ตรงกลางของเตียงโซฟายังยุบลงไป เหมือนว่าเหล็กที่คอยพยุงนั้นจะถูกทำลาย

ฟางผิงทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง เมื่อครู่เขาไม่ทันสนใจเรื่องพวกนี้

ตอนนี้ถูกฟางหยวนจับได้คาหนังคาเขา ฟางผิงจึงไอแห้งๆ “เฟอร์นิเจอร์คุณภาพไม่ค่อยดี ฉันบอกแล้วว่าให้ซื้อของดีๆ หน่อย พ่อแม่กลับดึงดันเอาของถูกมาซะได้ ช่างเถอะ อีกสองวันฉันจะไปเลือกซื้อเอง…”

ฟางหยวนกลอกตา หมดคำพูด “คุณภาพไม่ดีเอาไปคืนได้! นายจำเป็นต้องทำลายมันด้วยรึไง? ถ้าแม่รู้เขา ต้องด่านายแน่ๆ!”

อันที่จริงเด็กสาวเสียดายอยู่บ้าง บ้านใหม่ เฟอร์นิเจอร์ใหม่ พี่ชายกลับไม่ถนอมเลยสักนิด!

ก่อนหน้านี้เธอแทบไม่กล้าคิดว่า จะได้มีโอกาสมาอยู่บ้านแบบนี้ หลายวันมานี้เด็กสาวจึงระมัดระวังอย่างยิ่ง บนพื้นมีคราบสกปรกเล็กน้อย ยังต้องรีบหาผ้ามาเช็ดให้สะอาดเอี่ยม

ตอนนี้เห็นฟางผิงทำลายห้องใหม่ ถ้าไม่ติดที่ว่าพลังเธออ่อนด้อย เธอคงจะจัดการฟางผิงไปนานแล้ว!

“เอาเถอะๆ เมื่อกี้ลืมคิดไป ครั้งหน้าจะไปห้องออกกำลังกายแทน พื้นที่ในบ้านคับแคบไปจริงๆ…”

ครั้งแรกที่เข้ามาในบ้านใหม่คิดว่า บ้านนี่ใหญ่ไม่น้อย

นี่เพิ่งจะกี่วันเอง?

ฟางผิงกลับรู้สึกว่าบ้านยังคงเล็กเกินไป!

นี่แค่เรียนหมัดมวยเท่านั้น หากใช้อาวุธ คาดว่าน่าจะฝึกในห้องออกกำลังกายไม่ได้เช่นกัน

พอได้ยินฟางผิงพูดว่าห้องเล็กไป ฟางหยวนจึงตกตะลึงไปอยู่บ้าง

หลายวันมานี้เด็กสาวย้ายมาอยู่ที่นี่ มักรู้สึกเหมือนมาท่องสวรรค์ บ้านมีทั้งชั้นบนชั้นล่าง พื้นที่กว้างขวางอย่างยิ่ง

หากไปโอ้อวดให้เพื่อนสนิทฟัง ใครบ้างจะไม่อิจฉา

แต่พี่ชายตัวเองกลับพูดว่าบ้านเล็กเกินไป…

ฟางหยวนรู้สึกว่า ตอนนี้เธอไม่เข้าใจในตัวฟางผิงอีกแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ฟางผิงตัดสินใจเรียนศิลปะการต่อสู้ ก็เหมือนว่าพี่ชายเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

เพิ่งนึกถึงเรื่องที่ฟางผิงเปลี่ยนไป กลับถูกฟางผิงบีบแก้มตัวเองอย่างไม่ทันตั้งตัว!

ฟางหยวนมองค้อนเขา เปลี่ยนความคิดอีกครั้ง พี่ชายเธอไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด!

———————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด