องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!บทที่ 300 แค่หลอกใช้เจ้าเท่านั้น

Now you are reading องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! Chapter บทที่ 300 แค่หลอกใช้เจ้าเท่านั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ชิง​จ้าน​ก็​ค่อยๆ​ ​หันหน้า​ไป​มอง​ทาง​ต้นเสียง​เช่นกัน

แต่​ใน​เวลา​ต่อมา​ ​สายตา​ของ​นาง​ก็​ราวกับ​ตกอยู่ในภวังค์

ทำไม​นาง​ถึง​รู้สึก​ว่า​คน​คน​นี้​มีบร​รยา​กาศ​ที่​ชวน​ให้​คุ้นเคย​อย่างไร​ชอบกล

อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วก​้าว​เท้า​ออกมา​ ​เครื่องประดับ​บน​ศีรษะ​ของ​นาง​แกว่ง​ไปมา​ตาม​การ​เดิน​ ​นาง​มอง​เด็กชาย​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​และ​ยิ้ม​มุม​ปาก​ ​”​คน​ผู้​นี้​คือ​องค์​ชาย​เจ็ด​หรือ​”

เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​ถูก​ดึง​ออกมา​จาก​โลก​ของ​เนื้อ​ติด​ซี่โครง​ ​เขา​ตอบ​นาง​อย่าง​เย็นชา​ว่า​ ​”​ไปให้พ้น​!​”

อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​แสดง​สีหน้า​ตกใจ​ออกมา​เพียง​ชั่วขณะ​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่ได้​โกรธ​แต่อย่างใด​ ​แทนที่จะ​เป็น​เช่นนั้น​ ​รอยยิ้ม​ที่อยู่​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​กลับ​เหยียด​กว้าง​ขึ้น

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​นาง​ด้วย​สีหน้า​เฉยชา​ ​แล้ว​ยัน​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​ตน​ไว้​ด้านหลัง​ ​เผย​บรรยากาศ​ราวกับ​อันธพาล​จอม​ขี้เกียจ​ออกมา​ ​นาง​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​จะ​มี​ใคร​ใน​จักรวรรดิ​จ้าน​หลง​สามารถ​ทำให้​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ยอม​เดินตาม​หลัง​ได้​เช่นนี้

ถ้า​มัน​เป็น​อย่างที่​หยวน​เสี่ยว​หมิง​พูด​ ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​คน​นี้​ก็​เป็น​คนที​่​น่าสนใจ​จริงๆ

แต่​ยิ่งกว่านั้น​ ​ความหยิ่ง​ยโส​ที่​ออกมา​จาก​ความ​เงียบ​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​นั้น​ก็​ทำให้​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ถึงกับ​ต้อง​เลิก​คิ้ว​กวน​ๆ​ ​ให้​กับ​นาง​เล็กน้อย

อวิ​๋​์น​ปี้ลั​่ว​ยิ้ม​ ​พลาง​มอง​คนที​่​อยู่​ข้าง​นาง​ ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​”​ในเมื่อ​องค์​ชาย​เจ็ด​ไม่​ต้อนรับ​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​ก็​ไป​เดินเล่น​ที่อื่น​กัน​เถอะ​”

ขณะที่​พูด​ ​นาง​ก็​เดิน​ไป​ทาง​ศาลา​ ​ก่อน​จะ​นั่งลง​ตรงนั้น​ ​จากนั้น​จึง​พูด​เบา​ๆ​ ​ด้วย​เสียง​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​และ​องค์​ชาย​เจ็ด​สามารถ​ได้ยิน​ได้​ว่า​ ​”​พวก​ท่าน​ทั้งสอง​สม​กับ​เป็น​พี่น้อง​กัน​จริงๆ​ ​ท่าน​กับ​องค์​ชาย​เหมือนกัน​อย่าง​กับ​แกะ​”

เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​ไม่​คิด​ว่านาง​จะ​แสดงความคิดเห็น​เช่นนั้น​ออกมา​ ​ฟัน​ที่​กำลัง​กัด​เนื้อ​ติด​ซี่โครง​อยู่​ถึงกับ​หยุด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ ​เขา​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​มอง​ไป​ทาง​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว

อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​ ​นาง​ทำ​เพียงแค่​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ให้​กับ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย

ความ​เจ้าเล่ห์​ใน​ดวงตา​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ลึกล้ำ​ยิ่งขึ้น​ ​ประโยค​นั้น​น่าจะ​ไม่ได้​จงใจ​พูด​กับ​เจ้า​เจ็ด​ ​แต่​จงใจ​พูด​กับ​นาง​ต่างหาก

ดูเหมือนว่า​นาง​จะ​เป็นอดีต​คนรู้จัก​ของ​องค์​ชาย​สาม

ไม่​แปลกใจ​เลย​ที่​อีก​ฝ่าย​มักจะ​มาป​รากฏ​ตัวต่อ​หน้านา​งอยู​่​บ่อยครั้ง

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​แตะ​นิ้ว​เข้าที่​ปลาย​คาง​ของ​ตัวเอง​ ​นาง​ลูบ​มัน​น้อย​ๆ​ ​ก่อน​จะ​ส่ง​รอยยิ้ม​เป็น​ปริศนา​กลับ​ไป​ให้​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว

อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​หรี่​ตา​ ​นาง​ใจเย็น​ได้​ถึง​เพียงนี้​เชียว​หรือ​ ​หึ​ ​นาง​คง​ประเมิน​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ต่ำ​ไป​จริงๆ

“​ไป​กัน​เถอะ​”​ ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​เอ่ย​พร้อม​รอยยิ้ม​ ​ตอนที่​นาง​หันหน้า​กลับ​ไป​ ​ดวงตา​ของ​นาง​ก็​เปี่ยม​ไป​ด้วย​แววตา​เย็นชา

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กิน​อาหาร​ส่วนที่เหลือ​ของ​ตัวเอง​ต่อตาม​ปกติ​ ​ทันทีที่​หนัง​ท้อง​ตึง​ ​หนังตา​ก็​เริ่ม​หย่อน​ ​หลังจาก​แยกย้าย​กับ​เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​ ​นาง​ก็​ตั้งใจ​ว่า​จะ​กลับ​ไป​ทำ​ธุระ​ของ​ตัวเอง

อย่างไร​เสีย​ปัจจุบัน​องค์​ชาย​สาม​ก็​ไม่ต้อง​ใช้​ความช่วยเหลือ​ของ​นาง​รับมือ​กับ​อดีต​ฮ่องเต้​แล้ว​ ​ดังนั้น​เมื่อถึง​ตอนกลางคืน​ ​ก็​น่าจะ​ไม่มี​ความจำเป็น​ให้​นาง​ต้อง​ไป​ที่​ห้อง​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยอีก

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หาว​ ​และ​เตรียมตัว​จะ​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ของ​ตัวเอง​ ​แต่​ใน​ตอนนั้น​นั่นเอง​ ​เสื้อคลุม​ของ​ใครคนหนึ่ง​ก็​ปรากฏ​เข้ามา​ใน​ครรลอง​สายตา​ของ​นาง​เสียก่อน​ ​เป็น​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ที่นาง​ไม่ได้​เห็น​หน้า​มานา​นนั​่น​เอง​ที่​ขวางทาง​นาง​เอาไว้

“​เรา​มีเรื่อง​ต้อง​คุย​กัน​”​ ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​เอ่ย​เสียง​เบา

เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​คน​เฮงซวย​เช่นนี้​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ย่อม​ไม่​คิด​ที่จะ​ปรานี​ ​”​ข้า​ไม่​คิด​ว่า​มีเรื่อง​ที่จะ​ต้อง​คุย​กับ​เจ้า​”

“​เจ้า​ไม่​อยากรู้​เหตุผล​ที่แท้​จริง​ที่​องค์​ชาย​สาม​แต่งงาน​กับ​เจ้า​หรือ​”​ ​เมื่อมู​่​หรง​ฉาง​เฟิง​เห็น​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หมุนตัว​และ​กำลังจะ​เดิน​ไป​ ​เขา​ก็​เพิ่ม​ระดับเสียง​ขึ้น​อีก

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยังคง​ไม่มี​ทีท่า​ว่า​จะ​สนใจ​เลย​แม้แต่น้อย​ ​นาง​กลับ​สาวเท้า​เดิน​ต่อไป​ข้างหน้า

มู่​หรง​ฉาง​เฟิ​งกำ​หมัด​แน่น​ ​”​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​อย่า​บอก​นะ​ว่า​เจ้า​คิด​ว่า​เขา​ตกหลุมรัก​เจ้า​จริงๆ​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​เจ้า​ใช้​สมอง​ของ​ตัวเอง​คิดดู​ให้​ดี​อีกครั้ง​ก็แล้วกัน​ว่า​เขา​เป็น​คน​เช่นไร​ ​ไม่มี​สตรี​นาง​ใด​ที่​เขา​ไม่​อาจ​คว้า​มา​ไว้​ใน​มือ​ได้​ ​เหตุผล​เดียว​ที่​เขา​แต่งงาน​กับ​เจ้า​ก็​เป็น​เพราะ​คนที​่​เขา​รัก​จาก​ใจจริง​กำลังจะ​กลับมา​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ใช้​เจ้า​เป็น​เพียง​ข้ออ้าง​เพื่อให้​เจ้า​เป็น​โล่​กำบัง​ได้​โดยสะดวก​ก็​เท่านั้น​ ​มิฉะนั้น​ถ้า​เขา​ฉลาด​นัก​ ​ทำไม​เขา​ถึง​ไม่​ปกป้อง​เจ้า​จาก​สี่​ตระกูล​ใหญ่​เล่า​ ​เขา​เพียง​ใช้​เจ้า​เป็น​อาวุธ​ของ​ตัวเอง​ ​ตอนนี้​เจ้า​สามารถ​ทำ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ได้​โดย​ไม่ต้อง​กังวล​เรื่อง​อะไร​ก็​จริง​ ​แต่​เมื่อใด​ที่​เจ้า​หมด​ประโยชน์​กับ​เขา​ ​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​เจ้า​จะ​ต้อง​เผชิญ​กับ​ชะตากรรม​เช่นใด​ ​ไม่ใช่​แค่​เจ้า​จะ​ต้อง​เจ็บปวด​จาก​คำ​ติฉินนินทา​ของ​คนอื่น​ ​แต่​เจ้า​จะ​ต้อง​สูญเสีย​ตำแหน่ง​พระ​ชายา​ของ​องค์​ชาย​สาม​ไป​ด้วย​ ​ถ้า​เจ้า​ไม่ได้​เป็น​พระ​ชายา​ของ​องค์​ชาย​สาม​แล้ว​ ​เจ้า​คิด​จริงๆ​ ​หรือว่า​เจ้า​จะ​สามารถ​เอาชนะ​คน​ของ​สี่​ตระกูล​ใหญ่​ด้วย​ร้าน​เวย​เจ๋อ​เล็ก​ๆ​ ​ของ​เจ้า​ได้​ ​อย่า​ว่าแต่​เรื่อง​นั้น​เลย​ ​แม้แต่​ตัว​องค์​ชาย​สาม​เอง​ก็​ด้วย​ ​เจ้า​คิด​หรือว่า​เขา​จะ​ยอม​ปล่อย​ให้​ ​’​หมาก​’​ ​อย่าง​เจ้าที่​รู้ความ​ลับ​ของ​เขา​มากมาย​มีชีวิต​อยู่​ ​เขา​ส่ง​องครักษ์​เงา​จำนวนมาก​สะกดรอย​ตาม​เจ้า​ ​และ​จะ​ด้วย​เหตุผล​อัน​ใด​นั้น​ ​เจ้า​เอง​ก็​คง​รู้ดี​กว่า​ใคร​ ​ต่อให้​ข้า​จะ​สามารถ​ขับไล่​คน​พวก​นั้น​กลับ​ไป​ได้​ ​แต่​ก็​ยัง​จำเป็นต้อง​ใช้เวลา​ ​และ​เมื่อ​เวลา​นั้น​มาถึง​ ​เจ้า​จะ​ไม่​สามารถ​หนี​ไป​ไหน​ได้​อีก​!​”

ไม่​แปลกใจ​เลย​ว่า​ทำไม​ตั้งแต่แรก​ ​ถึง​ไม่มี​องครักษ์​เงา​สัก​นาย​สะกดรอย​ตาม​นาง​ ​และ​ไม่ใช่​เพียงแค่​นั้น​ ​แม้แต่​ชิง​จ้าน​เอง​ก็​ยัง​หายตัว​ไป​ด้วย

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ ​และ​เมื่อ​นาง​หันหน้า​กลับ​ไป​มอง​อีกครั้ง​ ​ใน​ดวงตา​ของ​นาง​ก็​เต็มไปด้วย​ความโหดเหี้ยม​ ​”​ข้า​จะ​เป็น​อย่างไร​แล้ว​มัน​เกี่ยว​อะไร​กับ​เจ้า​ด้วย​หรือ​ ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ ​ข้า​ไม่มีเวลา​มา​เล่น​สนุก​กับ​เจ้า​ ​เพราะฉะนั้น​ ​อย่า​ได้มา​ปรากฏตัว​ต่อหน้า​ข้า​บ่อยๆ​ ​”

คำเตือน​ที่นา​งบ​อก​กับ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ยิ่ง​ทำให้​ความโกรธ​ของ​เขา​เพิ่มพูน​ขึ้น​ ​ทุกสิ่ง​ที่​เขา​พูด​และ​ทำ​นั้น​ล้วนแต่​ทำ​เพราะ​หวังดี​ต่อนาง​ทั้งสิ้น​ ​แต่​ผู้หญิง​คน​นี้​กลับ​ยัง​ไม่​คิด​ที่จะ​สนใจ​อีก​!

“​ดี​ ​ดียิ่ง​นัก​!​ ​เจ้า​จะ​คิด​ว่า​ข้า​จุ้นจ้าน​ก็ได้​ ​แต่​ข้า​ก็​อยาก​เห็น​กับ​ตา​ตัวเอง​นัก​ว่า​องค์​ชาย​สาม​จะ​ใช้​เจ้า​เป็น​ของเล่น​ไป​ได้​นาน​เพียงใด​!​”​ ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​หันหลัง​แล้ว​เดิน​จากไป​ ​แม้ว่า​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​จะ​เต็มไปด้วย​ความ​ไม่เต็มใจ​ก็ตาม

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่​แม้แต่​จะ​มอง​ไป​ที่​เขา​เลย​สักครั้ง​ ​นาง​ยังคง​สาวเท้า​เดิน​ต่อไป​ ​แม้​จะ​ดูเหมือน​กับ​ว่า​คำพูด​ของ​เขา​ไม่ได้​มีผล​อะไร​ต่อนาง​ ​แต่​แสง​ใน​ดวงตา​ของ​นาง​ก็​ดู​หม่น​ลง​เล็กน้อย

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​วันนั้น​ของ​เดือน​หรือเปล่า​ ​แต่​อาการ​ปวดท้อง​น้อย​ของ​นาง​กลับ​เริ่ม​แย่​ลง​ไป​อีก

ตอนนี้​นาง​คิดถึง​น้ำตาลทรายแดง​ต้ม​จาก​ศตวรรษ​ที่​ยี่สิบ​เอ็ด​เหลือเกิน

แล้วก็​บรรดา​พี่น้อง​ใน​สำนัก​ถัง​ด้วย​…

หยวน​หมิง​ที่​เงียบ​มานาน​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​”​แม่นาง​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​เขา​ก็​พูด​ถูก​อยู่​อย่างหนึ่ง​ ​และ​นั่น​คือ​เรื่อง​ที่ว่า​หัวใจ​ของ​ผู้​เป็น​ฮ่องเต้​นั้น​ยาก​จะ​หยั่งถึง​”

“​ข้า​รู้​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยังคง​เยือกเย็น​และ​เฉื่อยชา​เช่นเคย​ ​”​ตอน​ข้า​ตัดสินใจ​ที่จะ​ร่วมมือ​กับ​องค์​ชาย​ ​ข้า​ก็​เข้าใจ​ดี​ว่า​จะ​มี​อะไร​เกิดขึ้น​ตามมา​ ​แต่​มีสิ​่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​นอกเหนือ​ความคาดหมาย​ของ​ข้า​ ​ถ้า​ใน​ใจ​เขา​มี​ใคร​อยู่​จริง​ ​เช่นนั้น​การ​ที่​พวกเรา​จะ​ร่วมมือ​กัน​ก็​เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่สมควร​จริงๆ​”

หยวน​หมิง​ไม่ได้​แสดงความคิดเห็น​อะไร​กับ​เรื่อง​นั้น

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หมุน​กำไล​ข้อมือ​ที่​เดิมที​เป็น​ร่ม​ของ​ตัวเอง​ ​ดวงตา​ของ​นาง​อ่อนแสง​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ให้ความรู้​สึก​ราวกับ​กำลัง​เยาะเย้ย​บางสิ่ง​อยู่​ ​”​เป็น​อย่างที่​คาด​เอาไว้​ ​เรา​พึ่งพา​ใคร​ไม่ได้​หรอก​ ​นอกจาก​ตัว​ของ​เรา​เอง​”

หยวน​หมิง​มอง​นาง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​”​แม่นาง​ ​อย่า​ลืม​ว่า​เจ้า​ยัง​มีต​รา​ทัพ​และ​มี​ข้า​อยู่​ด้วย​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยิ้ม​ ​”​ข้า​ไม่มีทาง​ลืม​แน่นอน​อยู่​แล้ว​ ​ข้า​รู้ดี​ว่า​ตัวเอง​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​ ​แล้ว​ถ้า​ข้า​ไม่ได้​ส่ง​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​ลงนรก​ ​การ​ที่​ข้ามา​เกิด​ใหม่​ใน​ร่าง​นี้​ก็​คงจะ​เสียเปล่า​”

“​เจ้า​คิดได้​เช่นนี้​ก็ดี​แล้ว​”​ ​หยวน​หมิง​เพิ่ง​ค้นพบ​ว่า​เขา​ไม่รู้​เลย​ว่า​จะ​ปลอบใจ​ใคร​สัก​คน​อย่างไร

สิ่ง​ที่​ตามมา​จึง​มี​แต่​ความ​เงียบ

ในเวลานี้​ ​ชิง​จ้าน​กำลัง​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ของ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ ​ใน​ดวงตา​ของ​นาง​มีแสง​อ่อน​ๆ​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​คำพูด​ของ​เฮย​จู​ก่อนหน้านี้​ ​นาง​ก็​อาจจะ​ไม่ทันสังเกต​เห็น​อะไร​เลย​ก็ได้

แต่​ตอนนี้​ ​คน​คน​นี้​…

สายตา​ของ​ชิง​จ้าน​มองตาม​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ ​ก่อนที่​มัน​จะ​เปลี่ยนไป

ดูเหมือน​อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วจะ​สังเกตเห็น​นาง​มานาน​แล้ว​ ​แต่​นาง​กลับ​ไม่​คิด​ที่จะ​ลงมือ​ ​แทนที่จะ​เป็น​เช่นนั้น​ ​ดวงตา​อัน​อ่อนโยน​ราวกับ​สายน้ำ​นั้น​กลับ​หัน​มอง​มาที​่​นาง

ชิง​จ้าน​นิ่ง​ไป​เล็กน้อย​ ​แล้วจึง​ตัดสินใจ​ก้าว​เท้า​ออก​ไป​ข้างหน้า​ก้าว​หนึ่ง​ ​นาง​ยัง​รักษา​จุดเด่น​ของ​องครักษ์​วัง​ปีศาจ​ที่​มักจะ​พูดน้อย​คำ​เอาไว้​ได้​ ​แม้ว่า​อีก​ฝ่าย​จะ​มี​ปริศนา​อยู่​มากมาย​ ​แต่​แน่นอน​ว่าที่​นี่​ไม่ใช่​สถานที่​อัน​เหมาะสม​ที่จะ​แก้​ปริศนา​เหล่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น

ใน​ตอนนั้น​นั่นเอง​ ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วก​็​เปิดปาก​ขึ้น​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​มีความสุข​ว่า​ ​”​ในเมื่อ​เจ้า​จำ​ข้า​ได้​ ​ทำไม​ไม่​เข้ามา​ทักทาย​ข้า​ล่ะ​ ​ชิง​จ้าน​ ​ไม่ได้​เจอกัน​เสียนาน​ ​ผ่าน​มา​หลาย​ปี​ ​เจ้าตัว​สูง​ขึ้น​ถึง​เพียงนี้​แล้ว​ ​เจ้า​ไม่ใช่​เด็กสาว​ตัวเล็ก​ๆ​ ​ที่​ข้า​รู้จัก​เมื่อ​สมัยก่อน​อีกแล้ว​นี่​”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *