แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 535 ไม่รู้จักคบเพื่อน

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 535 ไม่รู้จักคบเพื่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มือของเจิ้งซวี่คาอยู่ที่ประตู เขาลังเลที่จะผลักมันเข้าไป ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งใจฟังเพลงแสลงใจคนโสด

 

 

ไม่มีใครสามารถเข้าไปแทรกลางระหว่างคู่รักที่อยู่ในห้องนั้นได้ แม้แต่ร้องเพลงยังเข้ากันได้ดี

 

 

เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางคงต่างวางใจที่จะให้อีกฝ่ายยืมไหล่ซึ่งกันและกัน หากเหนื่อยหรืออ่อนล้าก็เอียงมาซบได้เสมอเผื่อเติมพลังให้แก่กัน

 

 

“โวะ นี่ฉันมายั่วโมโหไอ้เล็กหรือมารนหาที่ให้สองคนนี้ทรมานใจกันแน่เนี่ย” เจิ้งซวี่สบถเบาๆ ข้างในเงียบไปแล้ว ใช้หัวเข่าคิดยังรู้เลยว่าร้องเสร็จคงจูบกันไปเรียบร้อย

 

 

เขามาเพราะอยากยั่วโมโหอวี๋หมิงหลาง ปรากฏว่าถูกทรมานจิตใจซะงั้น

 

 

การล้างแค้นของเจิ้งซวี่นั้นง่ายๆ ตรงไปตรงมา เขาไม่ได้เปลี่ยนเอาเหล้าคุณภาพแย่มาให้ ไม่เพียงแต่จะไม่ได้เปลี่ยนเหล้า ยังยกเบียร์มาให้อีกสองลัง หวังจะมอมอวี๋หมิงหลางให้เมาจนล้มพับ จะปล่อยให้สองคนนี้มีค่ำคืนที่เร่าร้อนไม่ได้

 

 

เดิมเสี่ยวเชี่ยนก็คิดจะมอมเหล้าเสี่ยวเฉียงอยู่แล้ว แต่พอเห็นเจิ้งซวี่แสดงท่าทีชัดเจนว่าอยากมอมเหล้าผู้ชายของเธอ เธอก็แอบไม่อยากร่วมมือรังแกเสี่ยวเฉียงเท่าไร ครั้นแล้วจึงเลือกที่จะนั่งดื่มไปเงียบๆ อวี๋หมิงหลางเองก็อยากทดสอบดูว่าเสียวเหม่ยของเขาคอแข็งแค่ไหน ถือโอกาสมอมก้างขวางคอไปด้วย ดังนั้นทั้งสามคนจึงเริ่มดื่ม

 

 

นักดื่มทั้งสามคนต่างมีแผนอยู่ในใจ พวกเขาดื่มไปทีละแก้วคล้ายกับกำลังดื่มน้ำเปล่า ขวดเปล่าค่อยๆเรียงกันเป็นแถวมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

เบียร์สองลังดูท่าจะไม่พอ เอาเพิ่มอีกหนึ่งลัง

 

 

คุณชายเจิ้งอยู่ในวงการนี้ย่อมคอแข็งอยู่แล้ว แต่วันนี้เขาเจอคนที่เหนือกว่า

 

 

เสี่ยวเชี่ยนจากตอนแรกที่หน้าแดง ยิ่งดื่มยิ่งขาว ยิ่งดื่มยิ่งเยือกเย็น อวี๋หมิงหลางจากที่ตอนแรกคุยโม้กับเจิ้งซวี่พอดื่มเหล้านอกได้สองขวดก็เริ่มนิ่งเงียบ สายตาจริงจัง คล้ายกับเปลี่ยนเป็นอีกคน

 

 

เจิ้งซวี่ดื่มจนรู้สึกปั่นป่วนในท้อง พอเห็นสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั่งนิ่งหน้าตาเฉยในใจเขาก็แอบหวั่น

 

 

เขาชี้เสี่ยวเชี่ยน “คุณ คุณ ดื่มเก่งมาก…”

 

 

อวี๋หมิงหลางปัดมือเขาทิ้ง น้ำเสียงเย็นชากว่าปกติสองเลเวล “อย่าชี้เธอนะ”

 

 

พอถูกอวี๋หมิงหลางปัดมือทิ้ง เจิ้งซวี่ก็รู้สึกว่าเหล้าที่เพิ่งดื่มเข้าไปจะพุ่งออกมา สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวเอามือปิดปากยืนโงนเงนขึ้น แล้วรีบพุ่งไปที่ห้องน้ำ ดื่มกับพวกอมนุษย์สองคนนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาอยากอ้วก

 

 

เมื่อเหลือกันอยู่สองคนในห้อง เสี่ยวเชี่ยนที่นั่งนิ่งมั่นคงดั่งภูผามองอวี๋หมิงหลางที่นั่งอยู่เฉยๆ ในใจเกิดคำถามตัวโตๆ

 

 

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

 

 

เธอจำได้ว่าชาติที่แล้วเสี่ยวเฉียงไม่ได้ดื่มเก่งขนาดนี้นี่นา…

 

 

ตอนนั้นเธอใช้เหล้านอกขวดเดียวก็ล้มเขาได้แล้ว จากนั้นก็ลากเข้าโรงแรมจัดการรวบหัวรวบหาง

 

 

แต่ตอนนี้—

 

 

สายตาของเสี่ยวเชี่ยนกวาดตามองขวดเปล่าบนโต๊ะ ดื่มมากขนาดนี้ ขนาดเจิ้งซวี่ยังไม่ไหว แล้วทำไมเสี่ยวเฉียงยังไม่ล้มพับ?

 

 

หรือชาตินี้ร่างกายเสี่ยวเฉียงดีกว่าชาติก่อน? เลยคอแข็งมาก?

 

 

เธอยังคงพยายามคิดว่าผิดพลาดตรงไหนกัน ทำไมเสี่ยวเฉียงถึงได้แตกต่างจากชาติที่แล้วนัก เมื่อชาติก่อนเขาดื่มไปได้ประมาณหนึ่งก็จะฟุบหลับไป ชนิดที่ว่าถอดเสื้อผ้าออกเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว

 

 

แน่นอนว่าพอถึงช่วงเวลาสำคัญเขาตื่น ไม่อย่างนั้นให้เสี่ยวเชี่ยนทำเรื่องอย่างว่าเองเธอก็คงไปต่อไม่ไหว เธอถอดเสื้อผ้าให้เขาเสร็จแล้วเขาถึงตื่น จากนั้นคนกุมอำนาจก็คือเขา

 

 

แต่พอเห็นท่าทางของเสี่ยวเฉียงในตอนนี้แล้ว เธอไม่แน่ใจว่าเขาเมาหรือเปล่า อวี๋หมิงหลางตอนดื่มเหล้าดูแตกต่างจากปกติมาก

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเผลอไปสบตากับเขา มันเป็นสายตาที่มีความเด็ดขาด คล้ายกับเวลาเขาทำงาน แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว ดูเพิ่มความเร่าร้อนเข้าไป คล้ายกับอยากจะกลืนกินเธอ

 

 

“นายเมาแล้วเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนลองถาม ไม่สามารถฟันธงได้ ตานี่เมาหรือเปล่ามีแค่สวรรค์ที่รู้

 

 

“เดาดูสิ” อวี๋หมิงหลางนิสัยเปลี่ยนไปมากหลังจากดื่มเหล้า ดูแบดบอยนิดๆ เขาเอานิ้วหยาบกระด้างไปลูบใบหน้ารูปไข่ที่แสนบอบบางของเธอ “คุณดื่มเก่งนะ”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนคอแข็งกว่าเจิ้งซวี่ แต่ก็ไม่ใช่ชนิดที่ว่าดื่มแล้วจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย ฤทธิ์เหล้าทำให้เธอมึนๆ แต่สมองยังตื่นตัวดีอยู่

 

 

เธอมีสติต่อทุกการกระทำ แต่หัวใจกลับเต้นเร็ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะท่าทางที่ดูดิบเถื่อนของอวี๋หมิงหลาง

 

 

“นายก็เก่งเหมือนกันนะ”

 

 

เขาเอาหน้าผากมาแตะหน้าผากเธอพลางยิ้ม “ผมชอบให้คุณพูดแบบนี้ในสถานการณ์อื่นมากกว่า”

 

 

ไม่ได้เมาแน่ ยังมีสติพูดหยอกล้อ

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยังไม่ได้ทันได้คิดอะไรมากก็รู้สึกว่าเขาเลื่อนปากลงมาจากหน้าผากอันอิ่มเอิบของเธอ ค่อยๆไล่มาตามโครงหน้าแล้วหยุดลงใกล้ๆปากเธอ ทิ้งระยะห่างเล็กน้อย คล้ายกับกำลังยั่วยวน

 

 

“พวกเราดื่มเหล้าอย่างเดียวกันหรือเปล่า?” เขาถามทั้งๆที่ริมฝีปากใกล้ปากเธอ

 

 

“เหมือนจะใช่”

 

 

“ทำไมผมรู้สึกว่าคุณหอมกว่าผมล่ะ…หรือผมอาจจะดื่มยังไม่มากพอ ผมต้องดื่มอีกหน่อย”

 

 

“เหล้าอยู่บนโต๊ะ ดื่มสิ” เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าพอเหล้าเข้าปากนิสัยเขาก็เปลี่ยน แต่ดูคารมดีกว่าตอนไม่ดื่ม

 

 

“ไม่ อันนั้นไม่ดี ผมชอบตรงนี้มากกว่า หวานกว่า…”

 

 

ในที่สุดเขาก็ได้คำตอบ เข้ายึดครองปากน้อยของเธออย่างได้ใจ

 

 

เจิ้งซวี่อ้วกเสร็จก็รู้สึกสร่างขึ้นไม่น้อย พอผลักประตูเข้าไปก็เห็นสองคนที่อยู่ในห้องกำลังจูบอย่างดูดดื่ม ทันใดนั้นก็รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนขึ้นมาอีก อ้วก

 

 

ทำไมต้องทำร้ายคนโสดแบบนี้ด้วยวะ ทำไม

 

 

เจิ้งซวี่โซเซอยากเปลี่ยนที่ ปรากฏว่าสองคนในห้องจูบกันจนพอใจแล้ว อวี๋หมิงหลางที่ดื่มจนได้ที่ในที่สุดอารมณ์ก็มาอย่างเต็มเปี่ยม เขาอุ้มเสี่ยวเชี่ยนขึ้น จากนั้นก็เดินออกจากห้อง

 

 

เจิ้งซวี่ที่น่าสงสารกำลังยืนให้สร่างเมาอยู่ตรงประตู ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีพลังมหาศาลจากทางด้านหลัง อวี๋หมิงหลางอุ้มเสี่ยวเชี่ยนออกมา ‘ไม่ทันระวัง’ กระแทกเข้ากับวัตถุกีดขวาง ซึ่งวัตถุนั้นมีชื่อว่าเจิ้งซวี่

 

 

จมูกโด่งๆของเจิ้งซวี่ชนกำแพงอย่างแรง เห็นดาวลอยอยู่บนหัว

 

 

พนักงานเดินมาอย่างกล้าๆกลัวๆ พอเห็นเจ้านายเงยหน้าขึ้นมาด้วยความโมโหก็ตกใจหนัก

 

 

“พี่ซวี่…”

 

 

“แม่ง พวกแกสองคนเก่งนักก็อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก” เจิ้งซวี่ยกนิ้วกลางใส่คู่รักสองคนนั้น

 

 

พนักงานชี้เขาด้วยมือสั่นๆ

 

 

“มองอะไรเล่า ไม่เคยเห็นคนหล่อหรือไง?” เจิ้งซวี่พูดอย่างโมโห

 

 

“พี่ซวี่…พี่เลือดกำเดาไหลแล้ว…”

 

 

ห่าเอ๊ย ไม่รู้จักคบเพื่อนก็เป็นแบบนี้ ในใจของเจิ้งซวี่เหมือนมีฝูงแกะนับหมื่นวิ่งอยู่ เขาตัดสินใจแล้วว่าต่อไปจะขีดเส้นอยู่กันคนละโลกกับเฉินเสี่ยวเชี่ยน เจอกันก็จะเดินหนี เป็นเพื่อนต่อไปไม่ได้แล้ว

 

 

เรื่องบางเรื่องไม่เหมือนกับเมื่อชาติก่อน อย่างเช่น ตกลงอวี๋หมิงหลางคอแข็งขนาดไหน ทำไมดื่มไปมากขนาดนั้นยังอุ้มเธอไปเรียกรถกลับบ้านได้?

 

 

จำได้ว่าดื่มไม่ขับ อีกทั้งยังอุ้มเธอตลอดทาง เห็นได้ชัดว่ามีสติดี

 

 

แต่เรื่องบางเรื่องก็คล้ายกับเมื่อชาติก่อน อย่างเช่น อวี๋หมิงหลางพอดื่มเยอะนิสัยก็จะเปลี่ยน ความพิเรนทร์ในบางด้านทะยานพุ่งสูง พอกลับบ้านก็หยุดไม่ได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด