แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 926 ทำไมสัมผัสไม่ถึงเธอ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 926 ทำไมสัมผัสไม่ถึงเธอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แม่ก็แค่ยังไม่อยากยอมแพ้ ถ้ามีคนค้ำประกันให้เราเอาเงินมาหมุนเวียน ทำให้บ้านเรายืดระยะเวลาใช้หนี้ออกไปได้ ถึงตอนนั้นสินค้าใหม่ของบ้านเราก็ออกสู่ตลาดได้ทันเวลา เราก็จะมีโอกาสผ่านวิกฤติไปได้ ขาดอยู่แค่ก้าวเดียว ก้าวเดียวจริงๆ…ตอนนี้พ่อเราก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน ถึงพวกคนงานจะบอกว่าเขากลัวความผิดเลยหนีไปแล้ว แต่แม่รู้ว่าพ่อเราไม่มีทางหนีหรอก แม่ก็แค่เป็นห่วง…”

แม่สืออวี้เช็ดน้ำตา เธอกลัวสามีจะคิดสั้นแล้วทิ้งเธอกับลูกสาวเอาไว้

เดิมอยากจะเลี้ยงลูกสาวไว้บนหอคอยงาช้างให้สุขสบายไปตลอดชีวิต แต่สุดท้ายกลับต้องมาพลิกผันกลางทาง นับตั้งแต่เธอคลอดสืออวี้ออกมาร่างกายก็แย่ลงจนมีลูกไม่ได้อีก เธอกับสามีไม่ได้อยากให้ลูกสาวรับช่วงกิจการต่อ เดิมคิดว่าจะสู้จนกว่าสามีจะเกษียณแล้วให้ลูกสาวนั่งเป็นผู้ถือหุ้นอย่างสบายๆไปตลอดชีวิต สามีเธอคิดว่าตัวเองยังทำงานได้อีกสักยี่สิบปี แต่แผนการที่คิดไว้ดิบดีก็ยังสู้สวรรค์ที่ไม่เป็นใจเพียงครั้งเดียวไม่ได้

สืออวี้มองแม่ที่เหมือนแก่ลงไปมากเพียงชั่วข้ามคืน เธอไม่อาจทำตัวเป็นองค์หญิงที่ไม่ทุกข์ร้อนในสถานการณ์แบบนี้ได้

“แม่! เรายังมีคุณอาที่อยู่เมืองหลวงไม่ใช่เหรอ หนูจะไปขอร้องให้เขามาค้ำประกันให้เรา!” ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน เธอจะไม่ยอมปล่อยให้ครอบครัวต้องพังลง

“ไม่มีประโยชน์…ลูกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? เพื่อนน่ะมีราคาทั้งนั้น สูงต่ำก็ว่ากันไป ชาตินี้พ่อเราคบเพื่อนตั้งเยอะแยะ แต่มีคนไหนบ้างที่ออกหน้าช่วยเราแก้ปัญหา?”

แม่สืออวี้พูดอย่างอ่อนล้า

เธอกับสามีมีเพื่อนมากมายนับไม่ถ้วน แต่คนที่ออกตัวช่วยในยามคับขันกลับไม่มี ถึงขนาดที่บางคนยังแอบรอฉวยโอกาสตอนที่กิจการของตระกูลสือล้มด้วยซ้ำ

“ไม่มีทาง แม่! รอหนูก่อนนะ! หนูต้องหาทางได้แน่!”

สืออวี้พรวดพราดออกไป คุณนายสืออยากจะห้ามแต่สืออวี้หันหน้ากลับมาพูด

“แม่รอหนูก่อนนะ! หนูกลับมาแน่นอนค่ะ!”

คุณนายสือคิดแล้วจึงปล่อยมืออย่างไร้เรี่ยวแรง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา

ช่างเถอะ ตอนนี้ข้างนอกลือกันว่าสามีเธอหนีไปแล้ว พรุ่งนี้ไม่แน่ว่าอาจมีคนงานมาประท้วงที่หน้าบ้าน ให้ลูกออกไปก่อนก็ดีเหมือนกัน

“ไปเถอะ ออกไปเจอธาตุแท้ของคน ลูกเองก็โตแล้ว ต่อไปพ่อกับแม่คงปกป้องลูกไม่ได้อีก บ้านเราไม่ไหวแล้ว ลูกคงเข้าใจแล้ว…โลกข้างนอกไม่เหมือนกับในรั้วโรงเรียน”

คุณนายสือพูดพึมพำด้วยหัวใจที่เจ็บปวดประหนึ่งถูกมีดกรีด ตอนนี้ถึงทางตันแล้วจริงๆ

ลูกใครๆก็รัก แต่คงปกป้องไปไม่ได้ตลอดชีวิต เมื่อก่อนครอบครัวยังปกป้องลูกได้ ตอนนี้ขนาดพ่อแม่ยังเอาตัวไม่รอด ได้แต่หวังว่าเด็กคนนี้จะเข้าใจโลกได้ไวๆ

ในหัวของสืออวี้เวลานี้มีอยู่ความคิดเดียว เธอแน่วแน่มาก

เมื่อก่อนครอบครัวเป็นฝ่ายปกป้องเธอ ตอนนี้ถึงเวลาเธอปกป้องครอบครัวบ้างแล้ว

เนื่องจากเมื่อวานเสี่ยวเชี่ยนเล่นผีผ้าห่มกับอวี๋หมิงหลาง วันนี้กว่าเธอจะตื่นก็เที่ยงแล้ว เธอหาวพลางเปิดโทรศัพท์มือถือดู มีสายไม่ได้รับขึ้นหรา

เอ๋…?

สืออวี้โทรหาเธอมากขนาดนี้ทำไมกัน?

เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าช่วงนี้สืออวี้กำลังเตรียมเรื่องงานแต่งงานอยู่ที่บ้านเกิด เธอกับต้าอีวางแผนไว้ว่าปิดเทอมแล้วจะไปหา พอเสร็จงานแต่งของสืออวี้ก็ถึงตาของเสี่ยวเชี่ยนกับต้าอี

เพื่อนรักสามคนนี้เตรียมแต่งงานติดๆกัน ช่วงหลายวันนี้ประธานเชี่ยนยุ่งเลยไม่ได้โทรหาสืออวี้ แล้วทำไมสืออวี้ถึงได้โทรหาเธอตอนดึกตั้งหลายสาย?

เสี่ยวเชี่ยนโทรกลับไปแต่กลับพบว่าเบอร์ของสืออวี้ค้างค่าโทรศัพท์จนถูกระงับ

อะไรของเขาเนี่ย อย่างสืออวี้ค้างค่าโทรศัพท์ได้ไง?

เสี่ยวเชี่ยนคิดว่าสืออวี้คงลืม คิดไว้ว่าเดี๋ยวจะลงไปจ่ายค่าโทรศัพท์ให้แล้วโทรหาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เห็นสายไฟคอมพิวเตอร์ยังไม่ได้เก็บเธอจึงเดินไปจะปิดเครื่อง ปรากฏว่าพอมองไปที่หน้าจอ เมื่อคืนสืออวี้ทักมา?

ข้อความแรกยังดีหน่อย แค่ถามว่าเธออยู่หรือเปล่า

ข้อความที่สองบอกว่าวันนี้เธออารมณ์ไม่ดีอยากคุยด้วย

ข้อความที่สามส่งสติ๊กเกอร์หน้าร้องไห้มา

เสี่ยวเชี่ยนใช้ความคิด จากนั้นก็คว้ากระเป๋าอย่างไม่ลังเล เธอต้องลงไปจ่ายค่าโทรศัพท์ให้สืออวี้

วันนี้ฝนตกหนักแถมลมแรงมาก ร่มของเสี่ยวเชี่ยนถูกพัดจนเปลี่ยนรูปร่าง เธอจึงฝ่าฝนปล่อยให้ตัวเปียกไป นอกหมู่บ้านมีร้านเติมเงินโทรศัพท์ เสี่ยวเชี่ยนวิ่งไปที่นั่น

“พี่คะขอบัตรเติมเงินใบนึงค่ะ!”

“โทษทีน้อง หมดแล้วอะ ไปซื้อที่ร้านของระบบโดยตรงดีกว่า ของพี่กว่าจะมาก็เย็นเลย”

เสี่ยวเชี่ยนจึงต้องกลับไปที่รถ ต้องขับทั้งที่ตัวเปียกชุ่ม

หลังขึ้นรถเธอล้วงโทรศัพท์ออกมาเห็นปลอกโทรศัพท์เปียกจึงรีบเอาผ้าเช็ดให้แห้ง

เสี่ยวเชี่ยนสบถเสียงเบาแล้วถอดแบตโทรศัพท์ออก หวังว่าอีกเดี๋ยวเปิดเครื่องแล้วจะยังใช้งานได้

พอรถแดงของเธอถูกขับออกไป รถโฟล์คของสืออวี้ก็เข้าจอดที่หน้าหมู่บ้าน สืออวี้ที่เนื้อตัวเปียกเหมือนกันลงมาจากรถเดินเข้าไปถามยามหน้าประตู

“มาหาใครครับ?”

“มาหาเฉินเสี่ยวเชี่ยนค่ะ หนูเป็นเพื่อนเขา”

“รอเดี๋ยวนะครับ ขอผมโทรถามก่อน” ยามเข้าไปโทรศัพท์เข้าบ้านเสี่ยวเชี่ยน แต่ไม่มีคนรับ สืออวี้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจะโทรหาเสี่ยวเชี่ยนแล้วก็พบว่าตัวเองยังไม่ได้จ่ายค่าโทรศัพท์

ยามรับมือถือของสืออวี้ไปเพื่อเอาเบอร์โทรเข้ามือถือของเสี่ยวเชี่ยน แต่ก็พบว่าปิดเครื่อง

“ไม่งั้นรออยู่ที่นี่ก่อนไหมครับ?” ยามเห็นสืออวี้เปียกปอนไปทั้งตัวไม่รู้ว่าตากฝนมานานเท่าไรแล้ว ดูท่าทางลำบากมาก ผู้หญิงที่อยู่ในสภาพแบบนี้ใครเห็นก็ต้องรู้สึกสงสาร

สืออวี้ส่ายหน้าแล้วเดินออกมาจากป้อมยาม เธอยืนอยู่ท่ามกลางพายุฝนกระหน่ำ ไม่ขึ้นรถ ปล่อยให้สายฝนชะล้างโลกของตัวเอง

เธอขับรถมาตั้งแต่เมื่อคืนโดยไม่หยุดพัก พอไปถึงเมืองหลวงรออยู่ทั้งช่วงเช้าก็ผิดหวังอีกแล้ว เธอรู้สึกหดหู่ไม่ได้กลับบ้านทันที ตัดสินใจขับรถมาหาเสี่ยวเชี่ยน

เธอไม่ได้ต้องการให้เสี่ยวเชี่ยนช่วยเรื่องเงิน ก็แค่ชินแล้วเวลาเจอปัญหาก็มาหาประธานเชี่ยน ต่อให้แค่ได้เจอหน้ากันในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

แต่ประธานเชี่ยนนะประธานเชี่ยน ทำไมเวลาที่เธอต้องการตัวมากที่สุดกลับไม่อยู่…

สายฝนกระหน่ำ ผู้คนใจดำ ความหวังที่แตกสลาย หัวใจที่สิ้นหวัง

สืออวี้ที่ไม่ได้นอนทั้งคืนยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนมองประตูทางเข้าหมู่บ้านที่ปิดสนิท เดิมเธอคิดว่าตัวเองมีพร้อมทุกอย่าง ไม่ใช่เงินแต่เป็นเพื่อน

แต่เวลาที่เธอเกิดเรื่องเพื่อนสักคนก็ไม่อยู่ข้างกาย

ความเหนื่อยล้ากับความหิวสุดท้ายก็ทำให้เธอเป็นลมสลบไปในสายฝน

ยามประจำหมู่บ้านเห็นดังนั้นจึงรีบโทรเรียกรถฉุกเฉินแล้วหามเธอเข้าไปในตึก อีกเดี๋ยวรถฉุกเฉินก็มาแล้ว พอหามสืออวี้เสร็จก็มาขับรถของสืออวี้ไปจอดบริเวณที่ไม่เกะกะ

เสี่ยวเชี่ยนขับไปไกลมากกว่าจะเจอศูนย์ระบบโทรศัพท์ เธอจ่ายเงินค่าโทรศัพท์ให้สืออวี้ มองโทรศัพท์ตัวเองที่ดูจะแห้งแล้ว ดูเหมือนน้ำจะไม่เข้า เธอจึงใส่แบตเตอรี่ เปิดเครื่องดูก็ติด

เธอรีบโทรหาสืออวี้ ติดแต่ไม่มีคนรับ

เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้กันแน่นะ

เสี่ยวเชี่ยนจึงโทรหาต้าอี

“ต้าอี ช่วงสองวันนี้เธอได้ติดต่อสืออวี้บ้างไหม?”

“ไม่เลย…ฉันก็กำลังหาตัวเขาอยู่ เมื่อคืนเขาทักฉันมาในคิวคิว แต่พี่รองลืมบอกฉัน ตอนกินข้าวกลางวันอยู่ๆเขาก็นึกได้ ฉันเลยโทรหาสืออวี้แต่ก็ไม่มีคนรับ”

จะว่าไปลำพังแค่สายที่ไม่ได้รับกับข้อความแค่ไม่กี่ข้อความไม่น่าให้กังวลอะไรมากมาย แต่ด้วยความที่เสี่ยวเชี่ยนสนิทกับสืออวี้มาหลายปี รู้จักนิสัยของสืออวี้ หลังจากถูกลักพาตัวไปครั้งนั้น สืออวี้ก็ดูโตขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ถึงภายนอกจะดูร่าเริงเป็นปกติ แต่กลับเริ่มมีความคิดแบบผู้ใหญ่ จึงไม่น่าจะล้อเล่นแบบนี้

พอคิดได้แบบนี้แล้วก็แสดงว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 926 ทำไมสัมผัสไม่ถึงเธอ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 926 ทำไมสัมผัสไม่ถึงเธอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แม่ก็แค่ยังไม่อยากยอมแพ้ ถ้ามีคนค้ำประกันให้เราเอาเงินมาหมุนเวียน ทำให้บ้านเรายืดระยะเวลาใช้หนี้ออกไปได้ ถึงตอนนั้นสินค้าใหม่ของบ้านเราก็ออกสู่ตลาดได้ทันเวลา เราก็จะมีโอกาสผ่านวิกฤติไปได้ ขาดอยู่แค่ก้าวเดียว ก้าวเดียวจริงๆ…ตอนนี้พ่อเราก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน ถึงพวกคนงานจะบอกว่าเขากลัวความผิดเลยหนีไปแล้ว แต่แม่รู้ว่าพ่อเราไม่มีทางหนีหรอก แม่ก็แค่เป็นห่วง…”

แม่สืออวี้เช็ดน้ำตา เธอกลัวสามีจะคิดสั้นแล้วทิ้งเธอกับลูกสาวเอาไว้

เดิมอยากจะเลี้ยงลูกสาวไว้บนหอคอยงาช้างให้สุขสบายไปตลอดชีวิต แต่สุดท้ายกลับต้องมาพลิกผันกลางทาง นับตั้งแต่เธอคลอดสืออวี้ออกมาร่างกายก็แย่ลงจนมีลูกไม่ได้อีก เธอกับสามีไม่ได้อยากให้ลูกสาวรับช่วงกิจการต่อ เดิมคิดว่าจะสู้จนกว่าสามีจะเกษียณแล้วให้ลูกสาวนั่งเป็นผู้ถือหุ้นอย่างสบายๆไปตลอดชีวิต สามีเธอคิดว่าตัวเองยังทำงานได้อีกสักยี่สิบปี แต่แผนการที่คิดไว้ดิบดีก็ยังสู้สวรรค์ที่ไม่เป็นใจเพียงครั้งเดียวไม่ได้

สืออวี้มองแม่ที่เหมือนแก่ลงไปมากเพียงชั่วข้ามคืน เธอไม่อาจทำตัวเป็นองค์หญิงที่ไม่ทุกข์ร้อนในสถานการณ์แบบนี้ได้

“แม่! เรายังมีคุณอาที่อยู่เมืองหลวงไม่ใช่เหรอ หนูจะไปขอร้องให้เขามาค้ำประกันให้เรา!” ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน เธอจะไม่ยอมปล่อยให้ครอบครัวต้องพังลง

“ไม่มีประโยชน์…ลูกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? เพื่อนน่ะมีราคาทั้งนั้น สูงต่ำก็ว่ากันไป ชาตินี้พ่อเราคบเพื่อนตั้งเยอะแยะ แต่มีคนไหนบ้างที่ออกหน้าช่วยเราแก้ปัญหา?”

แม่สืออวี้พูดอย่างอ่อนล้า

เธอกับสามีมีเพื่อนมากมายนับไม่ถ้วน แต่คนที่ออกตัวช่วยในยามคับขันกลับไม่มี ถึงขนาดที่บางคนยังแอบรอฉวยโอกาสตอนที่กิจการของตระกูลสือล้มด้วยซ้ำ

“ไม่มีทาง แม่! รอหนูก่อนนะ! หนูต้องหาทางได้แน่!”

สืออวี้พรวดพราดออกไป คุณนายสืออยากจะห้ามแต่สืออวี้หันหน้ากลับมาพูด

“แม่รอหนูก่อนนะ! หนูกลับมาแน่นอนค่ะ!”

คุณนายสือคิดแล้วจึงปล่อยมืออย่างไร้เรี่ยวแรง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา

ช่างเถอะ ตอนนี้ข้างนอกลือกันว่าสามีเธอหนีไปแล้ว พรุ่งนี้ไม่แน่ว่าอาจมีคนงานมาประท้วงที่หน้าบ้าน ให้ลูกออกไปก่อนก็ดีเหมือนกัน

“ไปเถอะ ออกไปเจอธาตุแท้ของคน ลูกเองก็โตแล้ว ต่อไปพ่อกับแม่คงปกป้องลูกไม่ได้อีก บ้านเราไม่ไหวแล้ว ลูกคงเข้าใจแล้ว…โลกข้างนอกไม่เหมือนกับในรั้วโรงเรียน”

คุณนายสือพูดพึมพำด้วยหัวใจที่เจ็บปวดประหนึ่งถูกมีดกรีด ตอนนี้ถึงทางตันแล้วจริงๆ

ลูกใครๆก็รัก แต่คงปกป้องไปไม่ได้ตลอดชีวิต เมื่อก่อนครอบครัวยังปกป้องลูกได้ ตอนนี้ขนาดพ่อแม่ยังเอาตัวไม่รอด ได้แต่หวังว่าเด็กคนนี้จะเข้าใจโลกได้ไวๆ

ในหัวของสืออวี้เวลานี้มีอยู่ความคิดเดียว เธอแน่วแน่มาก

เมื่อก่อนครอบครัวเป็นฝ่ายปกป้องเธอ ตอนนี้ถึงเวลาเธอปกป้องครอบครัวบ้างแล้ว

เนื่องจากเมื่อวานเสี่ยวเชี่ยนเล่นผีผ้าห่มกับอวี๋หมิงหลาง วันนี้กว่าเธอจะตื่นก็เที่ยงแล้ว เธอหาวพลางเปิดโทรศัพท์มือถือดู มีสายไม่ได้รับขึ้นหรา

เอ๋…?

สืออวี้โทรหาเธอมากขนาดนี้ทำไมกัน?

เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าช่วงนี้สืออวี้กำลังเตรียมเรื่องงานแต่งงานอยู่ที่บ้านเกิด เธอกับต้าอีวางแผนไว้ว่าปิดเทอมแล้วจะไปหา พอเสร็จงานแต่งของสืออวี้ก็ถึงตาของเสี่ยวเชี่ยนกับต้าอี

เพื่อนรักสามคนนี้เตรียมแต่งงานติดๆกัน ช่วงหลายวันนี้ประธานเชี่ยนยุ่งเลยไม่ได้โทรหาสืออวี้ แล้วทำไมสืออวี้ถึงได้โทรหาเธอตอนดึกตั้งหลายสาย?

เสี่ยวเชี่ยนโทรกลับไปแต่กลับพบว่าเบอร์ของสืออวี้ค้างค่าโทรศัพท์จนถูกระงับ

อะไรของเขาเนี่ย อย่างสืออวี้ค้างค่าโทรศัพท์ได้ไง?

เสี่ยวเชี่ยนคิดว่าสืออวี้คงลืม คิดไว้ว่าเดี๋ยวจะลงไปจ่ายค่าโทรศัพท์ให้แล้วโทรหาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เห็นสายไฟคอมพิวเตอร์ยังไม่ได้เก็บเธอจึงเดินไปจะปิดเครื่อง ปรากฏว่าพอมองไปที่หน้าจอ เมื่อคืนสืออวี้ทักมา?

ข้อความแรกยังดีหน่อย แค่ถามว่าเธออยู่หรือเปล่า

ข้อความที่สองบอกว่าวันนี้เธออารมณ์ไม่ดีอยากคุยด้วย

ข้อความที่สามส่งสติ๊กเกอร์หน้าร้องไห้มา

เสี่ยวเชี่ยนใช้ความคิด จากนั้นก็คว้ากระเป๋าอย่างไม่ลังเล เธอต้องลงไปจ่ายค่าโทรศัพท์ให้สืออวี้

วันนี้ฝนตกหนักแถมลมแรงมาก ร่มของเสี่ยวเชี่ยนถูกพัดจนเปลี่ยนรูปร่าง เธอจึงฝ่าฝนปล่อยให้ตัวเปียกไป นอกหมู่บ้านมีร้านเติมเงินโทรศัพท์ เสี่ยวเชี่ยนวิ่งไปที่นั่น

“พี่คะขอบัตรเติมเงินใบนึงค่ะ!”

“โทษทีน้อง หมดแล้วอะ ไปซื้อที่ร้านของระบบโดยตรงดีกว่า ของพี่กว่าจะมาก็เย็นเลย”

เสี่ยวเชี่ยนจึงต้องกลับไปที่รถ ต้องขับทั้งที่ตัวเปียกชุ่ม

หลังขึ้นรถเธอล้วงโทรศัพท์ออกมาเห็นปลอกโทรศัพท์เปียกจึงรีบเอาผ้าเช็ดให้แห้ง

เสี่ยวเชี่ยนสบถเสียงเบาแล้วถอดแบตโทรศัพท์ออก หวังว่าอีกเดี๋ยวเปิดเครื่องแล้วจะยังใช้งานได้

พอรถแดงของเธอถูกขับออกไป รถโฟล์คของสืออวี้ก็เข้าจอดที่หน้าหมู่บ้าน สืออวี้ที่เนื้อตัวเปียกเหมือนกันลงมาจากรถเดินเข้าไปถามยามหน้าประตู

“มาหาใครครับ?”

“มาหาเฉินเสี่ยวเชี่ยนค่ะ หนูเป็นเพื่อนเขา”

“รอเดี๋ยวนะครับ ขอผมโทรถามก่อน” ยามเข้าไปโทรศัพท์เข้าบ้านเสี่ยวเชี่ยน แต่ไม่มีคนรับ สืออวี้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจะโทรหาเสี่ยวเชี่ยนแล้วก็พบว่าตัวเองยังไม่ได้จ่ายค่าโทรศัพท์

ยามรับมือถือของสืออวี้ไปเพื่อเอาเบอร์โทรเข้ามือถือของเสี่ยวเชี่ยน แต่ก็พบว่าปิดเครื่อง

“ไม่งั้นรออยู่ที่นี่ก่อนไหมครับ?” ยามเห็นสืออวี้เปียกปอนไปทั้งตัวไม่รู้ว่าตากฝนมานานเท่าไรแล้ว ดูท่าทางลำบากมาก ผู้หญิงที่อยู่ในสภาพแบบนี้ใครเห็นก็ต้องรู้สึกสงสาร

สืออวี้ส่ายหน้าแล้วเดินออกมาจากป้อมยาม เธอยืนอยู่ท่ามกลางพายุฝนกระหน่ำ ไม่ขึ้นรถ ปล่อยให้สายฝนชะล้างโลกของตัวเอง

เธอขับรถมาตั้งแต่เมื่อคืนโดยไม่หยุดพัก พอไปถึงเมืองหลวงรออยู่ทั้งช่วงเช้าก็ผิดหวังอีกแล้ว เธอรู้สึกหดหู่ไม่ได้กลับบ้านทันที ตัดสินใจขับรถมาหาเสี่ยวเชี่ยน

เธอไม่ได้ต้องการให้เสี่ยวเชี่ยนช่วยเรื่องเงิน ก็แค่ชินแล้วเวลาเจอปัญหาก็มาหาประธานเชี่ยน ต่อให้แค่ได้เจอหน้ากันในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

แต่ประธานเชี่ยนนะประธานเชี่ยน ทำไมเวลาที่เธอต้องการตัวมากที่สุดกลับไม่อยู่…

สายฝนกระหน่ำ ผู้คนใจดำ ความหวังที่แตกสลาย หัวใจที่สิ้นหวัง

สืออวี้ที่ไม่ได้นอนทั้งคืนยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนมองประตูทางเข้าหมู่บ้านที่ปิดสนิท เดิมเธอคิดว่าตัวเองมีพร้อมทุกอย่าง ไม่ใช่เงินแต่เป็นเพื่อน

แต่เวลาที่เธอเกิดเรื่องเพื่อนสักคนก็ไม่อยู่ข้างกาย

ความเหนื่อยล้ากับความหิวสุดท้ายก็ทำให้เธอเป็นลมสลบไปในสายฝน

ยามประจำหมู่บ้านเห็นดังนั้นจึงรีบโทรเรียกรถฉุกเฉินแล้วหามเธอเข้าไปในตึก อีกเดี๋ยวรถฉุกเฉินก็มาแล้ว พอหามสืออวี้เสร็จก็มาขับรถของสืออวี้ไปจอดบริเวณที่ไม่เกะกะ

เสี่ยวเชี่ยนขับไปไกลมากกว่าจะเจอศูนย์ระบบโทรศัพท์ เธอจ่ายเงินค่าโทรศัพท์ให้สืออวี้ มองโทรศัพท์ตัวเองที่ดูจะแห้งแล้ว ดูเหมือนน้ำจะไม่เข้า เธอจึงใส่แบตเตอรี่ เปิดเครื่องดูก็ติด

เธอรีบโทรหาสืออวี้ ติดแต่ไม่มีคนรับ

เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้กันแน่นะ

เสี่ยวเชี่ยนจึงโทรหาต้าอี

“ต้าอี ช่วงสองวันนี้เธอได้ติดต่อสืออวี้บ้างไหม?”

“ไม่เลย…ฉันก็กำลังหาตัวเขาอยู่ เมื่อคืนเขาทักฉันมาในคิวคิว แต่พี่รองลืมบอกฉัน ตอนกินข้าวกลางวันอยู่ๆเขาก็นึกได้ ฉันเลยโทรหาสืออวี้แต่ก็ไม่มีคนรับ”

จะว่าไปลำพังแค่สายที่ไม่ได้รับกับข้อความแค่ไม่กี่ข้อความไม่น่าให้กังวลอะไรมากมาย แต่ด้วยความที่เสี่ยวเชี่ยนสนิทกับสืออวี้มาหลายปี รู้จักนิสัยของสืออวี้ หลังจากถูกลักพาตัวไปครั้งนั้น สืออวี้ก็ดูโตขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ถึงภายนอกจะดูร่าเริงเป็นปกติ แต่กลับเริ่มมีความคิดแบบผู้ใหญ่ จึงไม่น่าจะล้อเล่นแบบนี้

พอคิดได้แบบนี้แล้วก็แสดงว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 926 ทำไมสัมผัสไม่ถึงเธอ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 926 ทำไมสัมผัสไม่ถึงเธอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แม่ก็แค่ยังไม่อยากยอมแพ้ ถ้ามีคนค้ำประกันให้เราเอาเงินมาหมุนเวียน ทำให้บ้านเรายืดระยะเวลาใช้หนี้ออกไปได้ ถึงตอนนั้นสินค้าใหม่ของบ้านเราก็ออกสู่ตลาดได้ทันเวลา เราก็จะมีโอกาสผ่านวิกฤติไปได้ ขาดอยู่แค่ก้าวเดียว ก้าวเดียวจริงๆ…ตอนนี้พ่อเราก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน ถึงพวกคนงานจะบอกว่าเขากลัวความผิดเลยหนีไปแล้ว แต่แม่รู้ว่าพ่อเราไม่มีทางหนีหรอก แม่ก็แค่เป็นห่วง…”

แม่สืออวี้เช็ดน้ำตา เธอกลัวสามีจะคิดสั้นแล้วทิ้งเธอกับลูกสาวเอาไว้

เดิมอยากจะเลี้ยงลูกสาวไว้บนหอคอยงาช้างให้สุขสบายไปตลอดชีวิต แต่สุดท้ายกลับต้องมาพลิกผันกลางทาง นับตั้งแต่เธอคลอดสืออวี้ออกมาร่างกายก็แย่ลงจนมีลูกไม่ได้อีก เธอกับสามีไม่ได้อยากให้ลูกสาวรับช่วงกิจการต่อ เดิมคิดว่าจะสู้จนกว่าสามีจะเกษียณแล้วให้ลูกสาวนั่งเป็นผู้ถือหุ้นอย่างสบายๆไปตลอดชีวิต สามีเธอคิดว่าตัวเองยังทำงานได้อีกสักยี่สิบปี แต่แผนการที่คิดไว้ดิบดีก็ยังสู้สวรรค์ที่ไม่เป็นใจเพียงครั้งเดียวไม่ได้

สืออวี้มองแม่ที่เหมือนแก่ลงไปมากเพียงชั่วข้ามคืน เธอไม่อาจทำตัวเป็นองค์หญิงที่ไม่ทุกข์ร้อนในสถานการณ์แบบนี้ได้

“แม่! เรายังมีคุณอาที่อยู่เมืองหลวงไม่ใช่เหรอ หนูจะไปขอร้องให้เขามาค้ำประกันให้เรา!” ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน เธอจะไม่ยอมปล่อยให้ครอบครัวต้องพังลง

“ไม่มีประโยชน์…ลูกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? เพื่อนน่ะมีราคาทั้งนั้น สูงต่ำก็ว่ากันไป ชาตินี้พ่อเราคบเพื่อนตั้งเยอะแยะ แต่มีคนไหนบ้างที่ออกหน้าช่วยเราแก้ปัญหา?”

แม่สืออวี้พูดอย่างอ่อนล้า

เธอกับสามีมีเพื่อนมากมายนับไม่ถ้วน แต่คนที่ออกตัวช่วยในยามคับขันกลับไม่มี ถึงขนาดที่บางคนยังแอบรอฉวยโอกาสตอนที่กิจการของตระกูลสือล้มด้วยซ้ำ

“ไม่มีทาง แม่! รอหนูก่อนนะ! หนูต้องหาทางได้แน่!”

สืออวี้พรวดพราดออกไป คุณนายสืออยากจะห้ามแต่สืออวี้หันหน้ากลับมาพูด

“แม่รอหนูก่อนนะ! หนูกลับมาแน่นอนค่ะ!”

คุณนายสือคิดแล้วจึงปล่อยมืออย่างไร้เรี่ยวแรง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา

ช่างเถอะ ตอนนี้ข้างนอกลือกันว่าสามีเธอหนีไปแล้ว พรุ่งนี้ไม่แน่ว่าอาจมีคนงานมาประท้วงที่หน้าบ้าน ให้ลูกออกไปก่อนก็ดีเหมือนกัน

“ไปเถอะ ออกไปเจอธาตุแท้ของคน ลูกเองก็โตแล้ว ต่อไปพ่อกับแม่คงปกป้องลูกไม่ได้อีก บ้านเราไม่ไหวแล้ว ลูกคงเข้าใจแล้ว…โลกข้างนอกไม่เหมือนกับในรั้วโรงเรียน”

คุณนายสือพูดพึมพำด้วยหัวใจที่เจ็บปวดประหนึ่งถูกมีดกรีด ตอนนี้ถึงทางตันแล้วจริงๆ

ลูกใครๆก็รัก แต่คงปกป้องไปไม่ได้ตลอดชีวิต เมื่อก่อนครอบครัวยังปกป้องลูกได้ ตอนนี้ขนาดพ่อแม่ยังเอาตัวไม่รอด ได้แต่หวังว่าเด็กคนนี้จะเข้าใจโลกได้ไวๆ

ในหัวของสืออวี้เวลานี้มีอยู่ความคิดเดียว เธอแน่วแน่มาก

เมื่อก่อนครอบครัวเป็นฝ่ายปกป้องเธอ ตอนนี้ถึงเวลาเธอปกป้องครอบครัวบ้างแล้ว

เนื่องจากเมื่อวานเสี่ยวเชี่ยนเล่นผีผ้าห่มกับอวี๋หมิงหลาง วันนี้กว่าเธอจะตื่นก็เที่ยงแล้ว เธอหาวพลางเปิดโทรศัพท์มือถือดู มีสายไม่ได้รับขึ้นหรา

เอ๋…?

สืออวี้โทรหาเธอมากขนาดนี้ทำไมกัน?

เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าช่วงนี้สืออวี้กำลังเตรียมเรื่องงานแต่งงานอยู่ที่บ้านเกิด เธอกับต้าอีวางแผนไว้ว่าปิดเทอมแล้วจะไปหา พอเสร็จงานแต่งของสืออวี้ก็ถึงตาของเสี่ยวเชี่ยนกับต้าอี

เพื่อนรักสามคนนี้เตรียมแต่งงานติดๆกัน ช่วงหลายวันนี้ประธานเชี่ยนยุ่งเลยไม่ได้โทรหาสืออวี้ แล้วทำไมสืออวี้ถึงได้โทรหาเธอตอนดึกตั้งหลายสาย?

เสี่ยวเชี่ยนโทรกลับไปแต่กลับพบว่าเบอร์ของสืออวี้ค้างค่าโทรศัพท์จนถูกระงับ

อะไรของเขาเนี่ย อย่างสืออวี้ค้างค่าโทรศัพท์ได้ไง?

เสี่ยวเชี่ยนคิดว่าสืออวี้คงลืม คิดไว้ว่าเดี๋ยวจะลงไปจ่ายค่าโทรศัพท์ให้แล้วโทรหาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เห็นสายไฟคอมพิวเตอร์ยังไม่ได้เก็บเธอจึงเดินไปจะปิดเครื่อง ปรากฏว่าพอมองไปที่หน้าจอ เมื่อคืนสืออวี้ทักมา?

ข้อความแรกยังดีหน่อย แค่ถามว่าเธออยู่หรือเปล่า

ข้อความที่สองบอกว่าวันนี้เธออารมณ์ไม่ดีอยากคุยด้วย

ข้อความที่สามส่งสติ๊กเกอร์หน้าร้องไห้มา

เสี่ยวเชี่ยนใช้ความคิด จากนั้นก็คว้ากระเป๋าอย่างไม่ลังเล เธอต้องลงไปจ่ายค่าโทรศัพท์ให้สืออวี้

วันนี้ฝนตกหนักแถมลมแรงมาก ร่มของเสี่ยวเชี่ยนถูกพัดจนเปลี่ยนรูปร่าง เธอจึงฝ่าฝนปล่อยให้ตัวเปียกไป นอกหมู่บ้านมีร้านเติมเงินโทรศัพท์ เสี่ยวเชี่ยนวิ่งไปที่นั่น

“พี่คะขอบัตรเติมเงินใบนึงค่ะ!”

“โทษทีน้อง หมดแล้วอะ ไปซื้อที่ร้านของระบบโดยตรงดีกว่า ของพี่กว่าจะมาก็เย็นเลย”

เสี่ยวเชี่ยนจึงต้องกลับไปที่รถ ต้องขับทั้งที่ตัวเปียกชุ่ม

หลังขึ้นรถเธอล้วงโทรศัพท์ออกมาเห็นปลอกโทรศัพท์เปียกจึงรีบเอาผ้าเช็ดให้แห้ง

เสี่ยวเชี่ยนสบถเสียงเบาแล้วถอดแบตโทรศัพท์ออก หวังว่าอีกเดี๋ยวเปิดเครื่องแล้วจะยังใช้งานได้

พอรถแดงของเธอถูกขับออกไป รถโฟล์คของสืออวี้ก็เข้าจอดที่หน้าหมู่บ้าน สืออวี้ที่เนื้อตัวเปียกเหมือนกันลงมาจากรถเดินเข้าไปถามยามหน้าประตู

“มาหาใครครับ?”

“มาหาเฉินเสี่ยวเชี่ยนค่ะ หนูเป็นเพื่อนเขา”

“รอเดี๋ยวนะครับ ขอผมโทรถามก่อน” ยามเข้าไปโทรศัพท์เข้าบ้านเสี่ยวเชี่ยน แต่ไม่มีคนรับ สืออวี้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจะโทรหาเสี่ยวเชี่ยนแล้วก็พบว่าตัวเองยังไม่ได้จ่ายค่าโทรศัพท์

ยามรับมือถือของสืออวี้ไปเพื่อเอาเบอร์โทรเข้ามือถือของเสี่ยวเชี่ยน แต่ก็พบว่าปิดเครื่อง

“ไม่งั้นรออยู่ที่นี่ก่อนไหมครับ?” ยามเห็นสืออวี้เปียกปอนไปทั้งตัวไม่รู้ว่าตากฝนมานานเท่าไรแล้ว ดูท่าทางลำบากมาก ผู้หญิงที่อยู่ในสภาพแบบนี้ใครเห็นก็ต้องรู้สึกสงสาร

สืออวี้ส่ายหน้าแล้วเดินออกมาจากป้อมยาม เธอยืนอยู่ท่ามกลางพายุฝนกระหน่ำ ไม่ขึ้นรถ ปล่อยให้สายฝนชะล้างโลกของตัวเอง

เธอขับรถมาตั้งแต่เมื่อคืนโดยไม่หยุดพัก พอไปถึงเมืองหลวงรออยู่ทั้งช่วงเช้าก็ผิดหวังอีกแล้ว เธอรู้สึกหดหู่ไม่ได้กลับบ้านทันที ตัดสินใจขับรถมาหาเสี่ยวเชี่ยน

เธอไม่ได้ต้องการให้เสี่ยวเชี่ยนช่วยเรื่องเงิน ก็แค่ชินแล้วเวลาเจอปัญหาก็มาหาประธานเชี่ยน ต่อให้แค่ได้เจอหน้ากันในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

แต่ประธานเชี่ยนนะประธานเชี่ยน ทำไมเวลาที่เธอต้องการตัวมากที่สุดกลับไม่อยู่…

สายฝนกระหน่ำ ผู้คนใจดำ ความหวังที่แตกสลาย หัวใจที่สิ้นหวัง

สืออวี้ที่ไม่ได้นอนทั้งคืนยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนมองประตูทางเข้าหมู่บ้านที่ปิดสนิท เดิมเธอคิดว่าตัวเองมีพร้อมทุกอย่าง ไม่ใช่เงินแต่เป็นเพื่อน

แต่เวลาที่เธอเกิดเรื่องเพื่อนสักคนก็ไม่อยู่ข้างกาย

ความเหนื่อยล้ากับความหิวสุดท้ายก็ทำให้เธอเป็นลมสลบไปในสายฝน

ยามประจำหมู่บ้านเห็นดังนั้นจึงรีบโทรเรียกรถฉุกเฉินแล้วหามเธอเข้าไปในตึก อีกเดี๋ยวรถฉุกเฉินก็มาแล้ว พอหามสืออวี้เสร็จก็มาขับรถของสืออวี้ไปจอดบริเวณที่ไม่เกะกะ

เสี่ยวเชี่ยนขับไปไกลมากกว่าจะเจอศูนย์ระบบโทรศัพท์ เธอจ่ายเงินค่าโทรศัพท์ให้สืออวี้ มองโทรศัพท์ตัวเองที่ดูจะแห้งแล้ว ดูเหมือนน้ำจะไม่เข้า เธอจึงใส่แบตเตอรี่ เปิดเครื่องดูก็ติด

เธอรีบโทรหาสืออวี้ ติดแต่ไม่มีคนรับ

เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้กันแน่นะ

เสี่ยวเชี่ยนจึงโทรหาต้าอี

“ต้าอี ช่วงสองวันนี้เธอได้ติดต่อสืออวี้บ้างไหม?”

“ไม่เลย…ฉันก็กำลังหาตัวเขาอยู่ เมื่อคืนเขาทักฉันมาในคิวคิว แต่พี่รองลืมบอกฉัน ตอนกินข้าวกลางวันอยู่ๆเขาก็นึกได้ ฉันเลยโทรหาสืออวี้แต่ก็ไม่มีคนรับ”

จะว่าไปลำพังแค่สายที่ไม่ได้รับกับข้อความแค่ไม่กี่ข้อความไม่น่าให้กังวลอะไรมากมาย แต่ด้วยความที่เสี่ยวเชี่ยนสนิทกับสืออวี้มาหลายปี รู้จักนิสัยของสืออวี้ หลังจากถูกลักพาตัวไปครั้งนั้น สืออวี้ก็ดูโตขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ถึงภายนอกจะดูร่าเริงเป็นปกติ แต่กลับเริ่มมีความคิดแบบผู้ใหญ่ จึงไม่น่าจะล้อเล่นแบบนี้

พอคิดได้แบบนี้แล้วก็แสดงว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 926 ทำไมสัมผัสไม่ถึงเธอ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 926 ทำไมสัมผัสไม่ถึงเธอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แม่ก็แค่ยังไม่อยากยอมแพ้ ถ้ามีคนค้ำประกันให้เราเอาเงินมาหมุนเวียน ทำให้บ้านเรายืดระยะเวลาใช้หนี้ออกไปได้ ถึงตอนนั้นสินค้าใหม่ของบ้านเราก็ออกสู่ตลาดได้ทันเวลา เราก็จะมีโอกาสผ่านวิกฤติไปได้ ขาดอยู่แค่ก้าวเดียว ก้าวเดียวจริงๆ…ตอนนี้พ่อเราก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน ถึงพวกคนงานจะบอกว่าเขากลัวความผิดเลยหนีไปแล้ว แต่แม่รู้ว่าพ่อเราไม่มีทางหนีหรอก แม่ก็แค่เป็นห่วง…”

แม่สืออวี้เช็ดน้ำตา เธอกลัวสามีจะคิดสั้นแล้วทิ้งเธอกับลูกสาวเอาไว้

เดิมอยากจะเลี้ยงลูกสาวไว้บนหอคอยงาช้างให้สุขสบายไปตลอดชีวิต แต่สุดท้ายกลับต้องมาพลิกผันกลางทาง นับตั้งแต่เธอคลอดสืออวี้ออกมาร่างกายก็แย่ลงจนมีลูกไม่ได้อีก เธอกับสามีไม่ได้อยากให้ลูกสาวรับช่วงกิจการต่อ เดิมคิดว่าจะสู้จนกว่าสามีจะเกษียณแล้วให้ลูกสาวนั่งเป็นผู้ถือหุ้นอย่างสบายๆไปตลอดชีวิต สามีเธอคิดว่าตัวเองยังทำงานได้อีกสักยี่สิบปี แต่แผนการที่คิดไว้ดิบดีก็ยังสู้สวรรค์ที่ไม่เป็นใจเพียงครั้งเดียวไม่ได้

สืออวี้มองแม่ที่เหมือนแก่ลงไปมากเพียงชั่วข้ามคืน เธอไม่อาจทำตัวเป็นองค์หญิงที่ไม่ทุกข์ร้อนในสถานการณ์แบบนี้ได้

“แม่! เรายังมีคุณอาที่อยู่เมืองหลวงไม่ใช่เหรอ หนูจะไปขอร้องให้เขามาค้ำประกันให้เรา!” ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน เธอจะไม่ยอมปล่อยให้ครอบครัวต้องพังลง

“ไม่มีประโยชน์…ลูกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? เพื่อนน่ะมีราคาทั้งนั้น สูงต่ำก็ว่ากันไป ชาตินี้พ่อเราคบเพื่อนตั้งเยอะแยะ แต่มีคนไหนบ้างที่ออกหน้าช่วยเราแก้ปัญหา?”

แม่สืออวี้พูดอย่างอ่อนล้า

เธอกับสามีมีเพื่อนมากมายนับไม่ถ้วน แต่คนที่ออกตัวช่วยในยามคับขันกลับไม่มี ถึงขนาดที่บางคนยังแอบรอฉวยโอกาสตอนที่กิจการของตระกูลสือล้มด้วยซ้ำ

“ไม่มีทาง แม่! รอหนูก่อนนะ! หนูต้องหาทางได้แน่!”

สืออวี้พรวดพราดออกไป คุณนายสืออยากจะห้ามแต่สืออวี้หันหน้ากลับมาพูด

“แม่รอหนูก่อนนะ! หนูกลับมาแน่นอนค่ะ!”

คุณนายสือคิดแล้วจึงปล่อยมืออย่างไร้เรี่ยวแรง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา

ช่างเถอะ ตอนนี้ข้างนอกลือกันว่าสามีเธอหนีไปแล้ว พรุ่งนี้ไม่แน่ว่าอาจมีคนงานมาประท้วงที่หน้าบ้าน ให้ลูกออกไปก่อนก็ดีเหมือนกัน

“ไปเถอะ ออกไปเจอธาตุแท้ของคน ลูกเองก็โตแล้ว ต่อไปพ่อกับแม่คงปกป้องลูกไม่ได้อีก บ้านเราไม่ไหวแล้ว ลูกคงเข้าใจแล้ว…โลกข้างนอกไม่เหมือนกับในรั้วโรงเรียน”

คุณนายสือพูดพึมพำด้วยหัวใจที่เจ็บปวดประหนึ่งถูกมีดกรีด ตอนนี้ถึงทางตันแล้วจริงๆ

ลูกใครๆก็รัก แต่คงปกป้องไปไม่ได้ตลอดชีวิต เมื่อก่อนครอบครัวยังปกป้องลูกได้ ตอนนี้ขนาดพ่อแม่ยังเอาตัวไม่รอด ได้แต่หวังว่าเด็กคนนี้จะเข้าใจโลกได้ไวๆ

ในหัวของสืออวี้เวลานี้มีอยู่ความคิดเดียว เธอแน่วแน่มาก

เมื่อก่อนครอบครัวเป็นฝ่ายปกป้องเธอ ตอนนี้ถึงเวลาเธอปกป้องครอบครัวบ้างแล้ว

เนื่องจากเมื่อวานเสี่ยวเชี่ยนเล่นผีผ้าห่มกับอวี๋หมิงหลาง วันนี้กว่าเธอจะตื่นก็เที่ยงแล้ว เธอหาวพลางเปิดโทรศัพท์มือถือดู มีสายไม่ได้รับขึ้นหรา

เอ๋…?

สืออวี้โทรหาเธอมากขนาดนี้ทำไมกัน?

เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าช่วงนี้สืออวี้กำลังเตรียมเรื่องงานแต่งงานอยู่ที่บ้านเกิด เธอกับต้าอีวางแผนไว้ว่าปิดเทอมแล้วจะไปหา พอเสร็จงานแต่งของสืออวี้ก็ถึงตาของเสี่ยวเชี่ยนกับต้าอี

เพื่อนรักสามคนนี้เตรียมแต่งงานติดๆกัน ช่วงหลายวันนี้ประธานเชี่ยนยุ่งเลยไม่ได้โทรหาสืออวี้ แล้วทำไมสืออวี้ถึงได้โทรหาเธอตอนดึกตั้งหลายสาย?

เสี่ยวเชี่ยนโทรกลับไปแต่กลับพบว่าเบอร์ของสืออวี้ค้างค่าโทรศัพท์จนถูกระงับ

อะไรของเขาเนี่ย อย่างสืออวี้ค้างค่าโทรศัพท์ได้ไง?

เสี่ยวเชี่ยนคิดว่าสืออวี้คงลืม คิดไว้ว่าเดี๋ยวจะลงไปจ่ายค่าโทรศัพท์ให้แล้วโทรหาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เห็นสายไฟคอมพิวเตอร์ยังไม่ได้เก็บเธอจึงเดินไปจะปิดเครื่อง ปรากฏว่าพอมองไปที่หน้าจอ เมื่อคืนสืออวี้ทักมา?

ข้อความแรกยังดีหน่อย แค่ถามว่าเธออยู่หรือเปล่า

ข้อความที่สองบอกว่าวันนี้เธออารมณ์ไม่ดีอยากคุยด้วย

ข้อความที่สามส่งสติ๊กเกอร์หน้าร้องไห้มา

เสี่ยวเชี่ยนใช้ความคิด จากนั้นก็คว้ากระเป๋าอย่างไม่ลังเล เธอต้องลงไปจ่ายค่าโทรศัพท์ให้สืออวี้

วันนี้ฝนตกหนักแถมลมแรงมาก ร่มของเสี่ยวเชี่ยนถูกพัดจนเปลี่ยนรูปร่าง เธอจึงฝ่าฝนปล่อยให้ตัวเปียกไป นอกหมู่บ้านมีร้านเติมเงินโทรศัพท์ เสี่ยวเชี่ยนวิ่งไปที่นั่น

“พี่คะขอบัตรเติมเงินใบนึงค่ะ!”

“โทษทีน้อง หมดแล้วอะ ไปซื้อที่ร้านของระบบโดยตรงดีกว่า ของพี่กว่าจะมาก็เย็นเลย”

เสี่ยวเชี่ยนจึงต้องกลับไปที่รถ ต้องขับทั้งที่ตัวเปียกชุ่ม

หลังขึ้นรถเธอล้วงโทรศัพท์ออกมาเห็นปลอกโทรศัพท์เปียกจึงรีบเอาผ้าเช็ดให้แห้ง

เสี่ยวเชี่ยนสบถเสียงเบาแล้วถอดแบตโทรศัพท์ออก หวังว่าอีกเดี๋ยวเปิดเครื่องแล้วจะยังใช้งานได้

พอรถแดงของเธอถูกขับออกไป รถโฟล์คของสืออวี้ก็เข้าจอดที่หน้าหมู่บ้าน สืออวี้ที่เนื้อตัวเปียกเหมือนกันลงมาจากรถเดินเข้าไปถามยามหน้าประตู

“มาหาใครครับ?”

“มาหาเฉินเสี่ยวเชี่ยนค่ะ หนูเป็นเพื่อนเขา”

“รอเดี๋ยวนะครับ ขอผมโทรถามก่อน” ยามเข้าไปโทรศัพท์เข้าบ้านเสี่ยวเชี่ยน แต่ไม่มีคนรับ สืออวี้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจะโทรหาเสี่ยวเชี่ยนแล้วก็พบว่าตัวเองยังไม่ได้จ่ายค่าโทรศัพท์

ยามรับมือถือของสืออวี้ไปเพื่อเอาเบอร์โทรเข้ามือถือของเสี่ยวเชี่ยน แต่ก็พบว่าปิดเครื่อง

“ไม่งั้นรออยู่ที่นี่ก่อนไหมครับ?” ยามเห็นสืออวี้เปียกปอนไปทั้งตัวไม่รู้ว่าตากฝนมานานเท่าไรแล้ว ดูท่าทางลำบากมาก ผู้หญิงที่อยู่ในสภาพแบบนี้ใครเห็นก็ต้องรู้สึกสงสาร

สืออวี้ส่ายหน้าแล้วเดินออกมาจากป้อมยาม เธอยืนอยู่ท่ามกลางพายุฝนกระหน่ำ ไม่ขึ้นรถ ปล่อยให้สายฝนชะล้างโลกของตัวเอง

เธอขับรถมาตั้งแต่เมื่อคืนโดยไม่หยุดพัก พอไปถึงเมืองหลวงรออยู่ทั้งช่วงเช้าก็ผิดหวังอีกแล้ว เธอรู้สึกหดหู่ไม่ได้กลับบ้านทันที ตัดสินใจขับรถมาหาเสี่ยวเชี่ยน

เธอไม่ได้ต้องการให้เสี่ยวเชี่ยนช่วยเรื่องเงิน ก็แค่ชินแล้วเวลาเจอปัญหาก็มาหาประธานเชี่ยน ต่อให้แค่ได้เจอหน้ากันในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

แต่ประธานเชี่ยนนะประธานเชี่ยน ทำไมเวลาที่เธอต้องการตัวมากที่สุดกลับไม่อยู่…

สายฝนกระหน่ำ ผู้คนใจดำ ความหวังที่แตกสลาย หัวใจที่สิ้นหวัง

สืออวี้ที่ไม่ได้นอนทั้งคืนยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนมองประตูทางเข้าหมู่บ้านที่ปิดสนิท เดิมเธอคิดว่าตัวเองมีพร้อมทุกอย่าง ไม่ใช่เงินแต่เป็นเพื่อน

แต่เวลาที่เธอเกิดเรื่องเพื่อนสักคนก็ไม่อยู่ข้างกาย

ความเหนื่อยล้ากับความหิวสุดท้ายก็ทำให้เธอเป็นลมสลบไปในสายฝน

ยามประจำหมู่บ้านเห็นดังนั้นจึงรีบโทรเรียกรถฉุกเฉินแล้วหามเธอเข้าไปในตึก อีกเดี๋ยวรถฉุกเฉินก็มาแล้ว พอหามสืออวี้เสร็จก็มาขับรถของสืออวี้ไปจอดบริเวณที่ไม่เกะกะ

เสี่ยวเชี่ยนขับไปไกลมากกว่าจะเจอศูนย์ระบบโทรศัพท์ เธอจ่ายเงินค่าโทรศัพท์ให้สืออวี้ มองโทรศัพท์ตัวเองที่ดูจะแห้งแล้ว ดูเหมือนน้ำจะไม่เข้า เธอจึงใส่แบตเตอรี่ เปิดเครื่องดูก็ติด

เธอรีบโทรหาสืออวี้ ติดแต่ไม่มีคนรับ

เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้กันแน่นะ

เสี่ยวเชี่ยนจึงโทรหาต้าอี

“ต้าอี ช่วงสองวันนี้เธอได้ติดต่อสืออวี้บ้างไหม?”

“ไม่เลย…ฉันก็กำลังหาตัวเขาอยู่ เมื่อคืนเขาทักฉันมาในคิวคิว แต่พี่รองลืมบอกฉัน ตอนกินข้าวกลางวันอยู่ๆเขาก็นึกได้ ฉันเลยโทรหาสืออวี้แต่ก็ไม่มีคนรับ”

จะว่าไปลำพังแค่สายที่ไม่ได้รับกับข้อความแค่ไม่กี่ข้อความไม่น่าให้กังวลอะไรมากมาย แต่ด้วยความที่เสี่ยวเชี่ยนสนิทกับสืออวี้มาหลายปี รู้จักนิสัยของสืออวี้ หลังจากถูกลักพาตัวไปครั้งนั้น สืออวี้ก็ดูโตขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ถึงภายนอกจะดูร่าเริงเป็นปกติ แต่กลับเริ่มมีความคิดแบบผู้ใหญ่ จึงไม่น่าจะล้อเล่นแบบนี้

พอคิดได้แบบนี้แล้วก็แสดงว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+