แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 857 ตกลงใครพิเรนทร์กว่ากันแน่

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 857 ตกลงใครพิเรนทร์กว่ากันแน่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสี่ยวเชี่ยนพอได้พูดออกไปแล้วก็โล่งใจ

 

 

เป็นศิษย์อาจารย์กันมาสองชาติ ความสัมพันธ์จะขาดสะบั้นแค่คำพูดไม่กี่ประโยคได้อย่างไร เธอรู้ว่าอาจารย์ตัวเองเป็นคนอย่างไร พูดออกไปแบบนี้แล้วต่อไปอาจารย์ก็คงไม่บังคับเธออีก

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเพิ่งเดินไปถึงที่รถอาข่าก็เรียกเธอจากด้านหลัง

 

 

“ประธานเชี่ยน”

 

 

“มีธุระอะไรเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนถาม

 

 

“บอสฉันอยากเจอเธอ”

 

 

“หืม?” มือเสี่ยวเชี่ยนปล่อยประตูรถเรียบร้อยแล้ว เธอหันไปมองอาข่าเต็มๆตา

 

 

บุคคลลึกลับที่อยู่เบื้องหลังอาข่าในที่สุดก็จะเปิดเผยตัวแล้วเหรอ?

 

 

ตอนที่ไปช่วยฉิวฉิวอาข่าพูดมาแล้วว่า พอกลับมาบอสของเธออยากเจอเสี่ยวเชี่ยน แต่เสี่ยวเชี่ยนไม่คิดว่าจะไวขนาดนี้

 

 

“เบบี๋เชี่ยน~” ศาสตราจารย์ชีวิ่งหอบมาแต่ไกลพลางยิ้มหน้าบานให้เสี่ยวเชี่ยน

 

 

เด็กคนนี้ใส่ส้นสูงแต่ทำไมวิ่งได้ไวขนาดนี้นะ เมื่อกี้ตอนเขาออกมาถูกศาสตราจารย์คนหนึ่งขอคุยด้วยเกือบตามเสี่ยวเชี่ยนไม่ทันแล้ว

 

 

“ก็บอกแล้วว่าอย่าเรียกฉันแบบนั้น” เสี่ยวเชี่ยนได้ยินเขาเรียกแบบนี้ก็รู้สึกขนลุก

 

 

“เบบี๋เชี่ยน?”

 

 

“…คุณมีธุระอะไรก็ว่ามาเถอะค่ะ”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพบว่าเธอหมดแรงทุกครั้งที่ต้องเจอกับตาคนหน้าหนาคนนี้

 

 

“ผม่มียาอมชุ่มคอสูตรพิเศษมาให้ น่าจะช่วยเรื่องเสียงคุณได้บ้าง เสียงคุณยังดูแหบๆอยู่เลย” ศาสตราจารย์ชียิ้มกว้างพลางล้วงกระปุกยาอมออกมา

 

 

เนื่องจากเป็นสูตรทำเองจึงไม่ได้ห่อสวยงาม

 

 

แต่อย่าคิดว่าเขาห่อด้วยพลาสติคแบบนี้ แต่ถูกจัดวางในกล่องไม้แกะสลักสวยหรูนะจะบอกให้ แถมด้านบนยังมีเพชรพลอยประดับด้วย

 

 

นี่เป็นของมีราคา เหมือนกับขวดโบราณราคาแพงที่บรรจุเหล้าคราวก่อน ของยังไม่แพงเท่ากล่อง

 

 

“ฉันไม่ชอบรับของจากคนแปลกหน้า” เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ยื่นมือออกไป แค่หันไปมองเขาอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

 

 

ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าตานี่ดูตื๊อเธอมาก

 

 

“คุณพูดเองนะว่าให้ผมมาเอง คุณถึงจะยอมกินยา ตอนนี้ผมมาแล้ว เด็กดี ถึงเวลากินยาก็ต้องกิน เดี๋ยวเกิดทิ้งโรคเรื้อรังอะไรไว้จะไม่ดีนะ”

 

 

อาข่าพยักหน้าเห็นด้วย ใช่ บอสพูดถูก

 

 

เดิมเสี่ยวเชี่ยนมีสีหน้าไม่แคร์ แต่ทันใดนั้นเธอก็getคำพูดของศาสตราจารย์ชี เขามาด้วยตัวเองเธอถึงจะยอมรับของจากเขาแถมยังจะกินยาด้วย…หรือว่า?

 

 

เธอนึกออกแล้ว ก่อนหน้านี้อาข่าให้ของเธอ ตอนที่เธอปฏิเสธเธอได้พูดกับอาข่าว่า ถ้าอยากให้เธอรับของก็ให้บอสอาข่ามาด้วยตัวเอง

 

 

สาดตาจานชีพูดแบบนี้ หรือว่าเขาจะเป็น…

 

 

“เขาเป็นบอสฉันเอง”

 

 

คำอธิบายของอาข่าทำให้โลกหยุดไปชั่วขณะ

 

 

กลางวันแสกๆ มีคนและรถผ่านไปมา แต่มีแค่สามคนนี้เท่านั้นที่ยืนนิ่งเหมือนหุ่นขี้ผึ้ง คล้ายกับว่าลืมแม้กระทั่งหายใจ

 

 

“ดังนั้น คุณก็คือคนที่ส่งให้อาข่ามาอยู่ข้างฉัน?” เสี่ยวเชี่ยนกัดฟันพูดออกมา

 

 

“ใช่ครับ”

 

 

“คุณให้เขาคอยปกป้องฉัน?”

 

 

“ถูกต้อง”

 

 

“เขาเอาเครื่องดักฟังมาแอบฟังฉันกับสามีก็เป็นสิ่งที่คุณสอนมา?”

 

 

“…นั่นมันนิสัยพิเรนทร์ของเขา ในความเป็นจริงเขาไม่ใช่แค่ดักฟังคุณ ผมมีแฟนเขาก็แอบดักฟัง” ศาสตราจารย์ชีเองก็จนปัญญากับนิสัยนี้ของอาข่า

 

 

“แล้วสรุปว่าคุณทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไรกันแน่? อย่าบอกนะว่าคุณจะรับเด็กคนนึงตรวจสอบเข้มยิ่งกว่ารัฐบาลอีกน่ะ” น้ำเสียงของเสี่ยวเชี่ยนฟังดูเหมือนอ่อนโยน แต่ถ้าเสี่ยวเฉียงอยู่ตรงนี้ล่ะก็จะต้องถอยหลังออกไปแล้วแน่

 

 

มีแค่คนที่นอนข้างกันเท่านั้นถึงจะฟังออกว่าน้ำเสียงของเสี่ยวเชี่ยนมีกลิ่นดินระเบิดโชยมา ถึงชีอวี่เซวียนจะเคยวิเคราะห์นิสัยของเสี่ยวเชี่ยนในเชิงลึก แต่ก็ยังไม่รู้จักถึงนิสัยความเคยชินบางอย่างของเสี่ยวเชี่ยนดี พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแบบนี้จึงยังยิ้มหน้าระรื่นได้

 

 

“ตอนนี้ผมยังบอกจุดประสงค์ที่มากับคุณไม่ได้ แต่ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณ ผมเชื่อว่าเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่ง กลอนโบราณเขาว่าไว้ไงนะ…หัวใจเย็นชาในกาหยก”

 

 

“อ่อ…กาหยกเหรอ” เสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างเย็นชา

 

 

“อื้อๆ” สาดตาจานที่ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองพยักหน้าอย่างดีใจ

 

 

“ได้ ดีมาก”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพูดจบก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วตบหน้าชีอวี่เซวียนสองผัวะ

 

 

ตบได้เสียงดังสนั่น เล่นเอาชีอวี่เซวียนหน้าหัน

 

 

“อย่าให้ฉันเห็นหน้าคุณอีก ไปให้พ้นหน้าเลย” เสี่ยวเชี่ยนพูดจบก็ยกนิ้วกลางให้ชีอวี่เซวียน ไม่ได้เข้ากันกับภาพลักษณ์ของเธอในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย แต่กลับเข้ากันได้ดีกับน้ำเสียงที่นุ่มนวลผิดปกติ

 

 

“ถ้าให้ฉันเห็นคุณส่งคนมาดักฟังฉันกับสามีอีกล่ะก็ ฉันจะตบคุณอีก”

 

 

พูดจบก็เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง

 

 

การรับมือกับคนที่ส่งคนมาแอบดักฟังเธอ เห็นเธอเป็นคนโง่ เธอไม่ต้องทำตัวมีมารยาทใส่ ตบน่ะถูกต้องแล้ว

 

 

จนกระทั่งรถคันเล็กสีแดงของเสี่ยวเชี่ยนเหลือไว้เพียงควันจากท่อไอเสีย อาข่าถึงได้สติจากอาการอึ้งเมื่อครู่

 

 

“บะ บอส?” เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่

 

 

เมื่อกี้ไม่ใช่ภาพลวงตาใช่ไหม?

 

 

ประธานเชี่ยนไม่ใช่แค่ตบบอสเธอสองที ยังยกนิ้วกลางให้ด้วย?

 

 

“ฮ่าๆ น่ารักจริงๆ” ชีอวี่เซวียนส่ายหน้าให้กับรถเสี่ยวเชี่ยนที่แล่นออกไป ทำไมถึงได้อารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้นะ

 

 

“เธอนิสัยแบบนี้แหละค่ะบอส เรื่องนี้ต้องโทษฉันที่ไม่ได้เคลียร์เรื่องนี้ให้ชัดเจน ประธานเชี่ยนไม่ชอบให้ใครไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา” อาข่าอธิบายพลางมองบอสอย่างระมัดระวัง

 

 

เธอกลัวบอสจะโทษประธานเชี่ยน เธอยังจำได้ คนที่เคยล่วงเกินบอสตอนนี้เป็นอย่างไรแล้ว…ก็ผู้อำนวยการโรงเรียนที่อยากปล่อยคนบ้ามารังแกประธานเชี่ยนนั่นไงล่ะ

 

 

ตอนนี้เสียสติถูกรักษาอยู่ในโรงพยาบาลประสาท

 

 

บอสเป็นคนที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเสมอ แต่ไม่มีใครมองออกเลยว่าเขายิ้มจริงหรือเป็นยิ้มหลอก ดังนั้นหลังจากที่เห็นประธานเชี่ยนทั้งด่าทั้งตบ เรื่องแรกที่อาข่าคิดทำก็คือยืดอกรับบาปแทน

 

 

“มันผิดที่เธอตั้งแต่แรก” บอสถลึงตาใส่อาข่า “หักเงินครึ่งเดือน ฉันบอกให้คอยคุ้มกันเขาอยู่ใกล้ๆ แล้วฉันสั่งให้ดักฟังเขาตอนไหนกัน?”

 

 

“ฉันก็แค่เผลอใจไปหน่อย…ใครจะไปรู้ว่าเธอกับเสี่ยวเฉียงจะ…”

 

 

“แล้วไอ้อวี๋เสี่ยวเฉียงนั่นถนอมเสี่ยวเชี่ยนหรือเปล่า?”

 

 

“นุ่มนวลดีค่ะ” เอ๋ ทำไมหลุดเข้ามาประเด็นนี้?

 

 

อาข่ารู้สึกงง

 

 

“บะ บอส?”

 

 

เมื่อกี้บอสยังตำหนิเธอเรื่องที่ดักฟังสองผัวเมียคู่นี้เลยไม่ใช่เหรอ? ทำไมอยู่ๆอยากเม้าท์เรื่องนี้ล่ะ?

 

 

“อยากโดนฉันหักเงินเดือนอีกใช่ไหม? ในเมื่อดักฟังแล้วก็ให้มันได้อะไรบ้างสิ ผู้ชายคนนั้นเก่งแค่ไหนเรื่องอย่างว่า? ทำให้เบบี๋เชี่ยนของฉันพอใจได้หรือเปล่า? แต่ละครั้งกี่นาที มีเปลี่ยนท่าบ้างไหม?”

 

 

“…ฉันแค่ฟังช่วงเริ่มต้นเท่านั้นค่ะบอส ไม่ได้ฟังจนจบ แต่จากที่ฟังเสียงสด…น่าจะเยี่ยมอยู่นะคะ…”

 

 

ชีอวี่เซวียนเบ้ปาก “ไว้ฉันเรียกเขาออกมาไปซาวน่าด้วยกันสักหน่อย ฉันต้องดูเรื่องขนาดอะไรพวกนี้หน่อยแล้ว…”

 

 

“บอส?” คุณพระ เขาพูดเรื่องความคิดพิเรนทร์ของตัวเองออกมาได้หน้าตาเฉย นี่ใครพิเรนทร์กว่ากันเนี่ย

 

 

ในใจอาข่ารู้สึกอยากกรีดร้อง

 

 

“เกิดปีนกแก้วหรือไง? ชอบพูดเลียนแบบ? มองอะไร ไปสิ เดี๋ยวพาไปกินข้าว จะได้ทดสอบด้วยช่วงนี้เรียนได้อะไรไปบ้าง เข้าใจเรื่องทฤษฎีการวิเคราะห์จิตใจของของซิกมันด์ ฟรอยด์ดีหรือยัง?”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 857 ตกลงใครพิเรนทร์กว่ากันแน่

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 857 ตกลงใครพิเรนทร์กว่ากันแน่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสี่ยวเชี่ยนพอได้พูดออกไปแล้วก็โล่งใจ

 

 

เป็นศิษย์อาจารย์กันมาสองชาติ ความสัมพันธ์จะขาดสะบั้นแค่คำพูดไม่กี่ประโยคได้อย่างไร เธอรู้ว่าอาจารย์ตัวเองเป็นคนอย่างไร พูดออกไปแบบนี้แล้วต่อไปอาจารย์ก็คงไม่บังคับเธออีก

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเพิ่งเดินไปถึงที่รถอาข่าก็เรียกเธอจากด้านหลัง

 

 

“ประธานเชี่ยน”

 

 

“มีธุระอะไรเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนถาม

 

 

“บอสฉันอยากเจอเธอ”

 

 

“หืม?” มือเสี่ยวเชี่ยนปล่อยประตูรถเรียบร้อยแล้ว เธอหันไปมองอาข่าเต็มๆตา

 

 

บุคคลลึกลับที่อยู่เบื้องหลังอาข่าในที่สุดก็จะเปิดเผยตัวแล้วเหรอ?

 

 

ตอนที่ไปช่วยฉิวฉิวอาข่าพูดมาแล้วว่า พอกลับมาบอสของเธออยากเจอเสี่ยวเชี่ยน แต่เสี่ยวเชี่ยนไม่คิดว่าจะไวขนาดนี้

 

 

“เบบี๋เชี่ยน~” ศาสตราจารย์ชีวิ่งหอบมาแต่ไกลพลางยิ้มหน้าบานให้เสี่ยวเชี่ยน

 

 

เด็กคนนี้ใส่ส้นสูงแต่ทำไมวิ่งได้ไวขนาดนี้นะ เมื่อกี้ตอนเขาออกมาถูกศาสตราจารย์คนหนึ่งขอคุยด้วยเกือบตามเสี่ยวเชี่ยนไม่ทันแล้ว

 

 

“ก็บอกแล้วว่าอย่าเรียกฉันแบบนั้น” เสี่ยวเชี่ยนได้ยินเขาเรียกแบบนี้ก็รู้สึกขนลุก

 

 

“เบบี๋เชี่ยน?”

 

 

“…คุณมีธุระอะไรก็ว่ามาเถอะค่ะ”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพบว่าเธอหมดแรงทุกครั้งที่ต้องเจอกับตาคนหน้าหนาคนนี้

 

 

“ผม่มียาอมชุ่มคอสูตรพิเศษมาให้ น่าจะช่วยเรื่องเสียงคุณได้บ้าง เสียงคุณยังดูแหบๆอยู่เลย” ศาสตราจารย์ชียิ้มกว้างพลางล้วงกระปุกยาอมออกมา

 

 

เนื่องจากเป็นสูตรทำเองจึงไม่ได้ห่อสวยงาม

 

 

แต่อย่าคิดว่าเขาห่อด้วยพลาสติคแบบนี้ แต่ถูกจัดวางในกล่องไม้แกะสลักสวยหรูนะจะบอกให้ แถมด้านบนยังมีเพชรพลอยประดับด้วย

 

 

นี่เป็นของมีราคา เหมือนกับขวดโบราณราคาแพงที่บรรจุเหล้าคราวก่อน ของยังไม่แพงเท่ากล่อง

 

 

“ฉันไม่ชอบรับของจากคนแปลกหน้า” เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ยื่นมือออกไป แค่หันไปมองเขาอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

 

 

ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าตานี่ดูตื๊อเธอมาก

 

 

“คุณพูดเองนะว่าให้ผมมาเอง คุณถึงจะยอมกินยา ตอนนี้ผมมาแล้ว เด็กดี ถึงเวลากินยาก็ต้องกิน เดี๋ยวเกิดทิ้งโรคเรื้อรังอะไรไว้จะไม่ดีนะ”

 

 

อาข่าพยักหน้าเห็นด้วย ใช่ บอสพูดถูก

 

 

เดิมเสี่ยวเชี่ยนมีสีหน้าไม่แคร์ แต่ทันใดนั้นเธอก็getคำพูดของศาสตราจารย์ชี เขามาด้วยตัวเองเธอถึงจะยอมรับของจากเขาแถมยังจะกินยาด้วย…หรือว่า?

 

 

เธอนึกออกแล้ว ก่อนหน้านี้อาข่าให้ของเธอ ตอนที่เธอปฏิเสธเธอได้พูดกับอาข่าว่า ถ้าอยากให้เธอรับของก็ให้บอสอาข่ามาด้วยตัวเอง

 

 

สาดตาจานชีพูดแบบนี้ หรือว่าเขาจะเป็น…

 

 

“เขาเป็นบอสฉันเอง”

 

 

คำอธิบายของอาข่าทำให้โลกหยุดไปชั่วขณะ

 

 

กลางวันแสกๆ มีคนและรถผ่านไปมา แต่มีแค่สามคนนี้เท่านั้นที่ยืนนิ่งเหมือนหุ่นขี้ผึ้ง คล้ายกับว่าลืมแม้กระทั่งหายใจ

 

 

“ดังนั้น คุณก็คือคนที่ส่งให้อาข่ามาอยู่ข้างฉัน?” เสี่ยวเชี่ยนกัดฟันพูดออกมา

 

 

“ใช่ครับ”

 

 

“คุณให้เขาคอยปกป้องฉัน?”

 

 

“ถูกต้อง”

 

 

“เขาเอาเครื่องดักฟังมาแอบฟังฉันกับสามีก็เป็นสิ่งที่คุณสอนมา?”

 

 

“…นั่นมันนิสัยพิเรนทร์ของเขา ในความเป็นจริงเขาไม่ใช่แค่ดักฟังคุณ ผมมีแฟนเขาก็แอบดักฟัง” ศาสตราจารย์ชีเองก็จนปัญญากับนิสัยนี้ของอาข่า

 

 

“แล้วสรุปว่าคุณทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไรกันแน่? อย่าบอกนะว่าคุณจะรับเด็กคนนึงตรวจสอบเข้มยิ่งกว่ารัฐบาลอีกน่ะ” น้ำเสียงของเสี่ยวเชี่ยนฟังดูเหมือนอ่อนโยน แต่ถ้าเสี่ยวเฉียงอยู่ตรงนี้ล่ะก็จะต้องถอยหลังออกไปแล้วแน่

 

 

มีแค่คนที่นอนข้างกันเท่านั้นถึงจะฟังออกว่าน้ำเสียงของเสี่ยวเชี่ยนมีกลิ่นดินระเบิดโชยมา ถึงชีอวี่เซวียนจะเคยวิเคราะห์นิสัยของเสี่ยวเชี่ยนในเชิงลึก แต่ก็ยังไม่รู้จักถึงนิสัยความเคยชินบางอย่างของเสี่ยวเชี่ยนดี พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแบบนี้จึงยังยิ้มหน้าระรื่นได้

 

 

“ตอนนี้ผมยังบอกจุดประสงค์ที่มากับคุณไม่ได้ แต่ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณ ผมเชื่อว่าเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่ง กลอนโบราณเขาว่าไว้ไงนะ…หัวใจเย็นชาในกาหยก”

 

 

“อ่อ…กาหยกเหรอ” เสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างเย็นชา

 

 

“อื้อๆ” สาดตาจานที่ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองพยักหน้าอย่างดีใจ

 

 

“ได้ ดีมาก”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพูดจบก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วตบหน้าชีอวี่เซวียนสองผัวะ

 

 

ตบได้เสียงดังสนั่น เล่นเอาชีอวี่เซวียนหน้าหัน

 

 

“อย่าให้ฉันเห็นหน้าคุณอีก ไปให้พ้นหน้าเลย” เสี่ยวเชี่ยนพูดจบก็ยกนิ้วกลางให้ชีอวี่เซวียน ไม่ได้เข้ากันกับภาพลักษณ์ของเธอในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย แต่กลับเข้ากันได้ดีกับน้ำเสียงที่นุ่มนวลผิดปกติ

 

 

“ถ้าให้ฉันเห็นคุณส่งคนมาดักฟังฉันกับสามีอีกล่ะก็ ฉันจะตบคุณอีก”

 

 

พูดจบก็เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง

 

 

การรับมือกับคนที่ส่งคนมาแอบดักฟังเธอ เห็นเธอเป็นคนโง่ เธอไม่ต้องทำตัวมีมารยาทใส่ ตบน่ะถูกต้องแล้ว

 

 

จนกระทั่งรถคันเล็กสีแดงของเสี่ยวเชี่ยนเหลือไว้เพียงควันจากท่อไอเสีย อาข่าถึงได้สติจากอาการอึ้งเมื่อครู่

 

 

“บะ บอส?” เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่

 

 

เมื่อกี้ไม่ใช่ภาพลวงตาใช่ไหม?

 

 

ประธานเชี่ยนไม่ใช่แค่ตบบอสเธอสองที ยังยกนิ้วกลางให้ด้วย?

 

 

“ฮ่าๆ น่ารักจริงๆ” ชีอวี่เซวียนส่ายหน้าให้กับรถเสี่ยวเชี่ยนที่แล่นออกไป ทำไมถึงได้อารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้นะ

 

 

“เธอนิสัยแบบนี้แหละค่ะบอส เรื่องนี้ต้องโทษฉันที่ไม่ได้เคลียร์เรื่องนี้ให้ชัดเจน ประธานเชี่ยนไม่ชอบให้ใครไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา” อาข่าอธิบายพลางมองบอสอย่างระมัดระวัง

 

 

เธอกลัวบอสจะโทษประธานเชี่ยน เธอยังจำได้ คนที่เคยล่วงเกินบอสตอนนี้เป็นอย่างไรแล้ว…ก็ผู้อำนวยการโรงเรียนที่อยากปล่อยคนบ้ามารังแกประธานเชี่ยนนั่นไงล่ะ

 

 

ตอนนี้เสียสติถูกรักษาอยู่ในโรงพยาบาลประสาท

 

 

บอสเป็นคนที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเสมอ แต่ไม่มีใครมองออกเลยว่าเขายิ้มจริงหรือเป็นยิ้มหลอก ดังนั้นหลังจากที่เห็นประธานเชี่ยนทั้งด่าทั้งตบ เรื่องแรกที่อาข่าคิดทำก็คือยืดอกรับบาปแทน

 

 

“มันผิดที่เธอตั้งแต่แรก” บอสถลึงตาใส่อาข่า “หักเงินครึ่งเดือน ฉันบอกให้คอยคุ้มกันเขาอยู่ใกล้ๆ แล้วฉันสั่งให้ดักฟังเขาตอนไหนกัน?”

 

 

“ฉันก็แค่เผลอใจไปหน่อย…ใครจะไปรู้ว่าเธอกับเสี่ยวเฉียงจะ…”

 

 

“แล้วไอ้อวี๋เสี่ยวเฉียงนั่นถนอมเสี่ยวเชี่ยนหรือเปล่า?”

 

 

“นุ่มนวลดีค่ะ” เอ๋ ทำไมหลุดเข้ามาประเด็นนี้?

 

 

อาข่ารู้สึกงง

 

 

“บะ บอส?”

 

 

เมื่อกี้บอสยังตำหนิเธอเรื่องที่ดักฟังสองผัวเมียคู่นี้เลยไม่ใช่เหรอ? ทำไมอยู่ๆอยากเม้าท์เรื่องนี้ล่ะ?

 

 

“อยากโดนฉันหักเงินเดือนอีกใช่ไหม? ในเมื่อดักฟังแล้วก็ให้มันได้อะไรบ้างสิ ผู้ชายคนนั้นเก่งแค่ไหนเรื่องอย่างว่า? ทำให้เบบี๋เชี่ยนของฉันพอใจได้หรือเปล่า? แต่ละครั้งกี่นาที มีเปลี่ยนท่าบ้างไหม?”

 

 

“…ฉันแค่ฟังช่วงเริ่มต้นเท่านั้นค่ะบอส ไม่ได้ฟังจนจบ แต่จากที่ฟังเสียงสด…น่าจะเยี่ยมอยู่นะคะ…”

 

 

ชีอวี่เซวียนเบ้ปาก “ไว้ฉันเรียกเขาออกมาไปซาวน่าด้วยกันสักหน่อย ฉันต้องดูเรื่องขนาดอะไรพวกนี้หน่อยแล้ว…”

 

 

“บอส?” คุณพระ เขาพูดเรื่องความคิดพิเรนทร์ของตัวเองออกมาได้หน้าตาเฉย นี่ใครพิเรนทร์กว่ากันเนี่ย

 

 

ในใจอาข่ารู้สึกอยากกรีดร้อง

 

 

“เกิดปีนกแก้วหรือไง? ชอบพูดเลียนแบบ? มองอะไร ไปสิ เดี๋ยวพาไปกินข้าว จะได้ทดสอบด้วยช่วงนี้เรียนได้อะไรไปบ้าง เข้าใจเรื่องทฤษฎีการวิเคราะห์จิตใจของของซิกมันด์ ฟรอยด์ดีหรือยัง?”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+