แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 564 ทำร้ายคนโสดกับเล่นสนุก

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 564 ทำร้ายคนโสดกับเล่นสนุก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คู่รักที่สวมกอดกันอย่างร้อนแรงหลังจากไม่ได้เจอกันนานทำให้ผู้กำกับไม่ว่าจะพูดหรือไม่พูดอะไรก็ดูกระอักกระอ่วน รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน  

 

 

นี่ นึกถึงความรู้สึกของคนอื่นกันหน่อย คิดว่าให้น้ำผลไม้แก้วเดียวแล้วจะให้คนอื่นมาดูคู่ตัวเองแสดงความรักกันยังไงก็ได้เหรอ?  

 

 

ถึงการแสดงความรักของหนุ่มหล่อกับสาวงามจะดูดี แต่มาทำระหว่างทำรายการไม่ได้นะ ยังมีผู้ฟังรอให้ช่วยแก้ปัญหาอยู่  

 

 

“เหม่ยเหวย…เธอว่าช่วงต่อไปจะเอาไง?” ผู้กำกับเอ่ยปากถามอย่างเกรงใจ  

 

 

ไม่ถามไม่ได้นี่นา หนุ่มหล่อสาวงามพอเจอกันก็เกิดความรู้สึกร้อนแรง ถ้าเธอไม่ขัดจังหวะมีหวังจูบไม่เลิกแน่ โฆษณาแค่สองนาทีไม่พอให้จูบหรอก  

 

 

“ขอดูใบหน่อย” เสี่ยวเชี่ยนปล่อยอวี๋หมิงหลาง ส่งสายตาหวานเยิ้มให้เขาแล้วเดินไปหาผู้กำกับ เป็นครั้งแรกที่เธอดูบันทึกของผู้กำกับ  

 

 

“วันนี้มีคนที่โทรเข้ามาด่าเมียน้อยไหมคะ?” เสี่ยวเชี่ยนถาม  

 

 

“มี สายที่ห้ากำลังรออยู่ ได้ยินว่าสามีไปอยู่กับนางจิ้งจอกจนอีกฝ่ายท้อง สามีบังคับให้เธอหย่า ตอนโทรเข้ามาเอาแต่ร้องไห้ฉันต้องปลอบอยู่ตั้งนาน”  

 

 

“งั้นโอนสายที่ห้าเข้าไปให้เขาตอบคำถามของผู้ฟังคนนั้น”  

 

 

“เอ่อ…” ผู้กำกับไม่คิดว่าเสี่ยวเชี่ยนจะกล้าขนาดนี้ แต่มันจะดีเหรอ  

 

 

ให้เมียน้อยที่คร่ำครวญเจอกับเมียหลวงที่เกลียดเมียน้อย รายการนี้ดังแน่  

 

 

“ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเพราะยืนกันอยู่คนละมุมมอง รายการของเราเอาความขัดแย้งนั้นเปิดเผยออกมา เชื่อฉันเถอะไม่พลาดหรอก”  

 

 

อวี๋หมิงหลางเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าเอียงคอมองเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

เธอสวมกางเกงผ้าโปร่งบางขาเก้าส่วนกับรองเท้าส้นเข็ม ท่อนบนสวมเสื้อเชิ้ตสีกาแฟลายจุด แขนเสื้อถูกพับแล้วติดด้วยกระดุมเหนือข้อศอก เป็นชุดทำงานที่ดูดีมีสไตล์  

 

 

แต่ในฐานะที่เป็นผู้ชายปรนนิบัติในห้องบรรทมมาสองปีกว่า อวี๋หมิงหลางเห็นเธอพูดแบบนั้นก็ดูออกทันที  

 

 

คู่หมั้นของเขาแสบมาก เขาหลงใหลในท่าทางที่เธอวางแผนเจ้าเล่ห์อย่างตั้งใจ เป็นอะไรที่คนอื่นมองไม่ออก มีแค่เขาเท่านั้นที่เข้าใจในความซุกซนของเธอ  

 

 

“งั้นสายนี้ให้โอนเข้าไปนานเท่าไร?” ผู้กำกับถามเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

“ให้เมียหลวงด่าสักห้านาที จากนั้นก็ลองหาดูว่ามีผู้ฟังที่อยากด่าเมียน้อยหรือคนที่สามีไปมีเมียน้อยอีกไหม ถ้าไม่มีลองหาจากสายที่รออยู่เอาคนที่อารมณ์ร้ายโอนสายเข้ามาด่าต่อ ผู้ฟังคนอื่นด่าเสร็จก็เท่ากับได้ระบายอารมณ์ พวกเราก็เหมือนได้ทำบุญ”  

 

 

“ฮ่าๆ” อวี๋หมิงหลางขำเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

เธอหันไปเขา เขาเลิ่กคิ้วใส่เธอ ความหมายคือ ทำแบบนี้ไม่กลัวรายการวุ่นวายแล้วถูกไล่ออกเหรอ?  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนผายมือ ไล่ก็ไล่สิ ยังไงเธอก็ไม่ได้อยากมาทำอยู่แล้ว  

 

 

โอนสายเมียหลวงเข้าไปตามความต้องการของเสี่ยวเชี่ยน ซึ่งตอนรอสายก็ได้ฟังรายการอยู่ด้วย ยังคิดอยู่ว่านี่มันอะไรกัน?  

 

 

เป็นมือที่สามยังกล้าโทรเข้ามาคร่ำครวญในรายการ? นี่ยังมีศีลธรรมในใจไหมเนี่ย  

 

 

ถึงคนที่มาแย่งผู้ชายของตัวเองจะไม่ใช่เมียน้อยคนนี้ แต่เมียหลวงกับเมียน้อยต่างมีจุดยืนของตัวเอง มีเหรอจะยอมกัน?  

 

 

ครั้นแล้วนับตั้งแต่ทำรายการมาจนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ปรากฏคำหยาบ เมียหลวงพอได้เริ่มก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ภาษาถิ่นรัวมาเหมือนปืนกล  

 

 

“ไม่เห็นหรือไงว่าเขาเป็นเมียถูกต้องตามกฎหมาย ยังจะมีหน้าไปหาเรื่องเขาอีก นังXX…”  

 

 

คำหยาบรัวมาไม่หยุดชนิดที่แทบไม่หายใจ สามารถรัวด่าคนได้ขนาดนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนดื่มน้ำผลไม้ที่อวี๋หมิงหลางซื้อมาพลางฟังเมียหลวงด่าอยู่ห้านาที จากนั้นจึงส่งสัญญาณมือให้ผู้กำกับ คนต่อไป  

 

 

เวลาที่เหลืออยู่ผลัดเปลี่ยนคนมาด่า การที่ผู้ฟังโทรเข้ามาในรายการแบบนี้แสดงว่ามีความอัดอั้นตันใจ เสี่ยวเชี่ยนให้ผู้กำกับเลือกคนที่หัวร้อนอารมณ์รุนแรงโอนสายเข้ามาด่าระบายอารมณ์ หรือไม่ก็เลือกคนที่ถูกเมียน้อยทำลายครอบครัว บรรยากาศแบบนี้เขาเรียกว่าลุกเป็นไฟ  

 

 

คนฟังรายการจากเดิมที่ง่วงๆอยู่ พอฟังมาถึงตรงนี้ก็เหมือนเกิดการโต้วาที พากันตาสว่างทันที ตาค้างรอฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ  

 

 

จะไปหารายการสนุกๆแบบนี้ได้ที่ไหนอีก นี่มันทำให้ได้เปิดหูเปิดตาของแท้  

 

 

ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ผ่านไปโดยการปล่อยให้ผู้ฟังผลัดกันมาด่าเมียน้อย เสี่ยวเชี่ยนแม้แต่คำพูดแนะนำก็ตัดทิ้ง เธอนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างามพลางดื่มน้ำผลไม้เล่นหูเล่นตากับอวี๋หมิงหลางผ่านกระจก  

 

 

ประหนึ่งไฟจะลุกขึ้นมาจากแผ่นกระจกที่กั้นอยู่ ผู้กำกับที่น่าสงสารนั่งคัดกรองสายผู้ฟังตามคำสั่งเสี่ยวเชี่ยนพลางกล้ำกลืนฝืนทนกับการทำร้ายคนโสด เธอนั่งอยู่ด้วยความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน  

 

 

ในที่สุดก็มาถึงช่วงท้ายรายการ ผู้ฟังคนสุดท้ายมัวแต่ด่าเมียน้อยจนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองจะถามอะไร  

 

 

“สาวสวยอย่างเธออายุยังน้อยทำไมถึงไปทำลายครอบครัวคนอื่นล่ะ? เมียเขาต่อให้ไม่ดียังไงนั่นก็เมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำไมเธอยังมีหน้าโทรเข้ามาในรายการได้นะ พ่อแม่เธอถ้าฟังอยู่เขาจะรู้สึกปวดใจแค่ไหน ถ้าลูกสาวฉันเป็นแบบเธอฉันคง—”  

 

 

“ขอโทษด้วยนะคะคุณลุงท่านนี้เวลารายการของเรากำลังจะหมดลงแล้วค่ะ” เสี่ยวเชี่ยนขัดจังหวะการด่าของผู้ฟังคนนี้  

 

 

“อะไรนะ ไม่ให้พูดแล้วเหรอ? คนก่อนหน้าด่าตั้งหลายนาทีฉันเพิ่งเริ่มเองนะ”  

 

 

“รบกวนโทรมาในครั้งต่อไปนะคะ ดิฉันเข้าใจถึงความรู้สึกของคุณค่ะ” เสี่ยวเชี่ยนเปิดเพลงแล้วตัดสายลุงคนนี้ทิ้งทันที  

 

 

เธอเริ่มพูดปิดรายการท่ามกลางเสียงดนตรีอันไพเราะที่คลอตามไปด้วย  

 

 

“ผู้ฟังที่เป็นมือที่สามที่โทรมาก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าคุณได้ฟังอยู่หรือเปล่านะคะ และก็ไม่รู้ว่าได้ฟังความคิดเห็นของทุกคนที่มีต่อคุณหรือเปล่า ฉันไม่อยากตัดสินว่าการกระทำของคุณนั้นผิดหรือถูก ฉันอยากพูดแค่ว่า ความเศร้าของคุณในตอนนี้มันคือมีดที่ทิ่มแทงใจคนอื่น ถ้าคุณรักผู้ชายคนนั้นก็ขอให้เคารพการตัดสินใจของเขา ถ้าคุณไม่รักผู้ชายคนนั้นก็ขอให้เคารพศักดิ์ของความเป็นผู้หญิง คุณมีสิทธิ์อย่างอิสระที่จะวิพากษ์วิจารณ์ แต่อิสระของคนเราไม่ควรจะตั้งอยู่บนพื้นฐานการทำร้ายคนอื่น ถ้าคุณทำร้ายคนอื่นงั้นก็อย่าตำหนิความคิดของคนอื่นที่มีต่อคุณ เลือกอิสระก็ต้องยอมรับผลของมัน ขอให้โชคดีนะคะ”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพูดปิดท้ายอย่างคล่องแคล่ว เหล่าผู้ฟังต่างฟังกันอย่างสนุกสนาน  

 

 

เพราะการปรากฏตัวของอวี๋หมิงหลางอย่างกะทันหันทำให้เสี่ยวเชี่ยนเปลี่ยนความคิด เกิดความนึกสนุกอยากลองอะไรใหม่ๆ ทำให้ยอดคนฟังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่นี่ก็เป็นเรื่องในภายหลัง  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนในตอนนี้ขี้เกียจสนใจว่าตัวเองสร้างยอดคนฟังได้แค่ไหน ทางที่ดีเธออยากให้หัวหน้าสถานีพูดว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมาแล้ว เธอปิดรายการแล้วเดินออกจากห้อง ยื่นมือให้อวี๋หมิงหลางประหนึ่งเป็นราชินี อวี๋หมิงหลางรับมือเธอมาอย่างรู้กันแล้วดึงเธอเข้ามากอด  

 

 

แม่ง ทรมานตรูอีกแล้ว ภูตที่อยู่ในใจผู้กำกับตะโกน  

 

 

“เสี่ยวหวาง ฉันไปก่อนนะ วันนี้เหนื่อยแย่เลยนะ พรุ่งนี้เจอกัน” เสี่ยวเชี่ยนลาผู้กำกับ แล้วเดินออกไปกับอวี๋หมิงหลางอย่างกระหนุงกระหนิง มือจับกันแน่นไม่ยอมปล่อย  

 

 

ผู้กำกับเก็บเอกสารพลางบ่นพึมพำ “อยากจะบ้าตาย ได้น้ำมะนาวมาดื่มแก้เลี่ยน…ว่าแต่สุดหล่อนั่นเข้ามาได้ยังไงกันนะ?”  

 

 

นี่คือปริศนา  

 

 

แต่เธอก็ยังต้องมานั่งปวดหัว ถ้าพรุ่งนี้หัวหน้าสถานีถามว่าทำไมแก้รูปแบบรายการเป็นแบบนั้นเธอจะตอบยังไงดี…  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด