แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 962 ถ้าควบคุมไม่ได้คงไปกันใหญ่

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 962 ถ้าควบคุมไม่ได้คงไปกันใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสี่ยวเฉียงถูมือด้วยความเซ็ง เขาลุกเดินไปทางสนามกอล์ฟ แต่ละคนนี่มันช่างรังแกกันเหลือเกิน

เห็นๆอยู่ว่าเขามีแฟนก่อนใคร และก็เป็นเขาที่ติวเข้มเรื่องจีบสาวให้คนอื่น ทั้งเรื่องเทคนิคต่างๆ การจำแนกสีลิปสติก เป็นต้น ปรากฏว่าเจ้าพวกนี้กลับชิงนำเขาไปก่อน โฮลอินวันกันหมด เดี๋ยวกลับไปเขาต้องคุยกับเสี่ยวเชี่ยนหาวันมงคลหน่อยแล้ว ต้องโฮลอินวันกับเขาบ้าง ฆ่าพวกนี้ให้ตายเรียบ!

เสี่ยวเฉียงคิดในใจ เขาแพ้เรื่องมีลูก มีแค่เรื่องตีกอล์ฟที่เหนือกว่าใครตอนนี้ จึงเตรียมจะไปเล่นงานมือใหม่ทั้งหลาย

ปรากฏว่าอยู่ๆก็ได้ยินเสียงฉิวฉิวกับไป๋จิ่นตะโกนว่าโฟร์ไม่หยุด แม้แต่เสี่ยวเชี่ยนเองก็นั่งไม่ติดเดินมาทางเขา หลิวเหมยก็ด้วย เดิมคิดจะเข็นรถฟู่กุ้ยให้ไปดูเธอเล่น แต่พอเห็นฝีมือของไป๋จิ่นก็รีบเข็นฟู่กุ้ยกลับด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยวโดยไม่หันหลังกลับ

เหตุการณ์แบบนี้ทำให้เสี่ยวเชี่ยนนึกถึงประสบการณ์ตอนไปร้องคาราโอเกะกับเสี่ยวเฉียงที่เขาร้องเพลงทหาร เสี่ยวเฉียงสามารถร้องจนทำให้คนยอมออกไปตากลมข้างนอกได้ ไป๋จิ่นเล่นกอล์ฟทำคนผวาไม่กล้าเข้าใกล้ ต้องพาคนท้องออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย

พอเสี่ยวเฉียงหันกลับมาก็เห็นเสี่ยวเชี่ยนทำท่าประนมมือเหมือนสวดมนต์อยู่ข้างหลัง เสี่ยวเฉียงทำตาตี่ใส่

“คุณทำอะไรน่ะ?”

“แต่ละบ้านส่งตัวแทนไป ฉันอ่อนแอฉันไม่ไปแล้วกัน นายไปเถอะ แพ้ชนะก็ช่าง เล่นเอาสนุกๆ ถ้าถูกตีโดนหัวขึ้นมาก็ไม่ต้องกังวล เพราะฉันมีนี่!”

เสี่ยวเชี่ยนแบมือขาวๆ ในมือเธอมียาทาหนึ่งขวดนอนอยู่ นี่เป็นยาทาแก้ฟกช้ำสูตรลับเฉพาะของแม่อวี๋ที่เอาไว้ใช้ในกรณีที่ถูกลูกขาวๆนั่นโดนหัว!

“เมียจ๋า ผมแค่รู้สึกว่าเราเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามัน อยู่ห่างจากคุณผมเหมือนจะขาดใจตาย!”

“ไปเถอะ เรื่องในวันนี้เดี๋ยวก็กลายเป็นอดีต ผมขาวเมื่อใดเราคงจะได้พบกันอีก”

เสี่ยวเฉียงไม่พอใจที่ตัวเองถูกถีบออกไป จึงลากจูขี่บ่นที่กำลังมองอย่างสนุกสนานไปด้วย

พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวเสี่ยวเฉียงก็รู้สึกว่ามันแปลกๆตรงไหนชอบกล

คำพูดเมียเขาเมื่อครู่ทำไมฟังแล้วทะแม่งๆ?

“เชี่ยนเอ๋อ ทำไมคำพูดเธอเมื่อกี้ฟังดูคุ้นๆ…” สุ่ยเซียนเองก็รู้สึกว่าเสี่ยวเฉียงถูกเมียตัวเองหลอกอีกแล้ว แต่เธอก็นึกไม่ออกว่ามันแปลกตรงไหน

“นี่เป็นบทพูดในเกม ประโยคหลังต้องเป็นเกิดชาติหน้าฉันใดคงจะได้พบกันอีก” ฟู่กุ้ยที่นั่งอยู่บนรถเข็นสมองยังทำงานดีอยู่

“สุดยอดเลยพี่ฟู่กุ้ย เรื่องแบบนี้ก็รู้ด้วย” เสี่ยวเชี่ยนยอมรับหน้าตาเฉย “นึกไม่ถึงว่านักนิติจิตวิทยาอย่างพี่จะมีมุมนี้ เล่นเกมเป็นกับเขาด้วยเหรอ?”

“ก็ไม่เชิง หลิวเหมยชอบเรื่องพวกนี้ แล้วต้าหลงก็เล่นเกมนี้ด้วย พี่ก็เลยลองบ้าง…อะแฮ่ม” ฟู่กุ้ยแกล้งกระแอม เป็นอันว่าทุกคนเข้าใจ

“จะว่าไปวันมะรืนพวกเธอจะแต่งงานกันอยู่แล้ว พูดจาเศร้าๆแบบนี้มันจะดีเหรอ?” สุ่ยเซียนเตือนด้วยความหวังดี

“ไม่เป็นไร เขาเป็นของฉันแล้ว หนีไม่รอดหรอก เรื่องนี้จะโทษฉันไม่ได้ ใครใช้ให้เขาชอบเล่นแต่เกมของเมืองนอกล่ะ ฉันเป็นพวกชาตินิยมนะจะบอกให้!”

เหตุผลเพี้ยนๆนี่ล่ะสไตล์ประธานเชี่ยน

พอถึงวันมะรืนเสี่ยวเชี่ยนถึงรู้ว่าไม่ควรพูดอย่างมั่นใจเกินไป ไม่อย่างนั้นจะเหมือนถูกตบหน้ากลางสี่แยก แต่นี่ก็เป็นเรื่องในภายหลัง

เสี่ยวเชี่ยนในเวลานี้กำลังมองไปที่สนามแล้ววิจารณ์ออกมาได้ตรงมาก

“เอาลูกกอล์ฟมาตีเป็นเบสบอลได้ ไป๋จิ่นนี่ก็เทพไม่เบา”

โฟร์(fore) เป็นศัพท์เฉพาะในกีฬากอล์ฟ หากวิถีของลูกกอล์ฟเบนออกนอกเส้นทาง ผู้เล่นจะต้องตะโกนคำนี้ออกมา เพื่อเป็นการเตือนผู้เล่นคนอื่นให้ระวัง

ฉิวฉิวที่เรียนจบพละมาพอมาเจอคนที่ไร้พรสวรรค์ในด้านกีฬาแบบนี้ก็ถึงกับแน่นิ่งไปเหมือนกัน แต่ไป๋จิ่นกลับดูสนุกสนาน เขาก็เลยคอยช่วยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ แค่ไป๋จิ่นหวดฉิวฉิวก็ตะโกนว่าอย่างนั้นแหละถูกต้อง ทั้งสองคนเข้าขากันดีมากจนน่าตกใจ สักพักผู้เล่นที่อยู่แถวนั้นก็พากันล่าถอยไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไป๋จิ่นหรือเปล่า

“ถ้าร่างกายฉันพร้อมนะก็อยากเล่นกับเธอ” สุ่ยเซียนเห็นคนอื่นเล่นอย่างสนุกสนานก็อยากบ้าง อันที่จริงร่างกายเธอปกติมาก และนี่ก็ไม่ใช่กีฬาหักโหม เพียงแต่จูขี้บ่นที่ทำโฮลอินวันขี้กังวลเกินเหตุ

“รอเธอคลอดสุขภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนพวกเราค่อยมาเล่นสิบแปดหลุมกัน แต่ฉันว่าเธอก็อย่าคาดหวังมากเกินไป เพราะต่อให้เธอสุขภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว เธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ดี” เสี่ยวเชี่ยนยิ้มพลางพูดยั่วโมโหคนท้อง

“ทำไมมั่นใจขนาดนั้น? อย่ามาดูถูกฉันนะ! เมื่อก่อนฉันไปออกรอบกับพ่อบ่อยจะตาย!” สุ่ยเซียนไม่ยอม

“อย่างเธอน่ะเล่นขำๆเพื่อเรื่องธุรกิจ ฉันน่ะศึกษาจริงจังนะจะบอกให้” เสี่ยวเชี่ยนไม่ลงสนามไปแข่งกับมืออาชีพอย่างเสี่ยวเฉียง เรื่องโม้น่ะไว้ใจได้

อันที่จริงเมื่อชาติก่อนเสี่ยวเชี่ยนก็ไปเล่นกับสุ่ยเซียนบ่อยๆ แพ้ชนะพอๆกัน ตอนนี้ทำได้แค่พูดข่มคนท้องไปก่อน

“คนส่วนใหญ่ชอบคุยธุรกิจกันในสนามกอล์ฟ พี่ว่ากลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้านั่นก็เหมือนมาคุยธุรกิจกันนะ” ถึงฟู่กุ้ยจะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่กลับนั่งฟังด้วยความเป็นห่วง เห็นเสี่ยวเชี่ยนกับสุ่ยเซียนเถียงกันจึงชวนเปลี่ยนเรื่องคุย

ทั้งสองคนมองตามฟู่กุ้ย กลุ่มคนสวมหมวกกันแดดกำลังเดินมาทางนี้ เนื่องจากห่างกันค่อนข้างไกลจึงเห็นหน้าไม่ชัด

“พี่รู้ได้ไงคะว่าพวกเขามาคุยธุรกิจไม่ได้เป็นเพื่อนกัน” สุ่ยเซียนถาม

“เซ้นส์ของนักนิติจิตวิทยา”

ฟู่กุ้ยเองก็บอกไม่ถูก แต่เนื่องจากเจอคนมาเยอะ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันสามารถดูได้จากท่าทางเล็กๆน้อยๆที่แสดงออก ดูจากการเดินและท่าทางของคนพวกนั้น ไม่เหมือนคนเป็นเพื่อนกัน แถมยังมีชาวต่างชาติอยู่ด้วย ความเป็นไปได้ที่คนจะมาในที่หรูหราแบบนี้ก็คือมาคุยธุรกิจ

“บางคนชอบคุยธุรกิจในสนามกอล์ฟ บางคนชอบตกลงกันในวงไพ่ ตีกอล์ฟสิบแปดหลุมใช้เวลาประมาณสี่ถึงห้าชั่วโมง ภายในช่วงเวลานี้สามารถมองออกได้หลายอย่าง อย่างเช่น นิสัยใจคอ โอกาสคุยสำเร็จหรือล้มเหลว มีความเสี่ยงหรือเปล่า ส่วนฉันชอบขอร้องคนในวงไพ่ พาคนที่จะร่วมงานมาสนามกอล์ฟ”

เสี่ยวเชี่ยนพูดไปตามความคิดของตัวเอง

“งั้นฉันไม่ตีกอล์ฟกับเธอแล้ว สู้เธอไม่ได้แน่นอน” สุ่ยเซียนได้ฟังแบบนั้นก็ล้มเลิกความตั้งใจ

“หืม?” เสี่ยวเชี่ยนเลิ่กคิ้ว

“คนอย่างเธอน้อยครั้งที่จะขอร้องคนอื่น ตีกอล์ฟเพื่อร่วมงานกันย่อมเยอะกว่าแน่นอน” สุ่ยเซียนแทบไม่เคยเห็นเสี่ยวเชี่ยนขอร้องคนอื่น อีกอย่างถ้าประธานเชี่ยนมีความจำเป็นจริงๆก็ไม่เห็นต้องขอร้องใคร แค่โทรไปบอกก็หมดเรื่อง ก็เหมือนกับที่คราวก่อนสืออวี้เกิดเรื่อง แค่เสี่ยวเชี่ยนโทรบอกเรื่องก็สำเร็จได้

“ฉันผิดไปแล้ว” เสี่ยวเชี่ยนยิ้มอย่างมั่นใจ “ขอแค่ฉันอยาก จำนวนครั้งที่ฉันไปตีกอล์ฟไม่มีทางเยอะไปกว่าจำนวนครั้งที่ฉันเล่นไพ่แน่นอน ช่วงนี้ฉันรู้จักเจียมตัวแล้ว ควบคุมตัวเองได้”

“แค่กๆ!” ฟู่กุ้ยที่กำลังดื่มน้ำถึงกับสำลัก

นี่ขนาดควบคุมตัวเองได้ยังเก็บค่ารักษาเป็นพัน ถ้าควบคุมไม่ได้นี่ราคาไม่ทะยานขึ้นฟ้าแล้วเหรอ?

“หมายความว่าไง?” สุ่ยเซียนถาม

“ขอแค่ฉันอยากทำ ต่อไปย่อมมีคนเรียงคิวมาขอร้องให้ฉันช่วยไม่ขาดสายแน่นอน รีบทำตัวแพ้พนันฉันในวงไพ่ เพียงแต่ฉันเบื่อชีวิตแบบนั้นแล้ว”

ถึงจะรู้สึกว่าคำพูดนี้ดูบ้าไปหน่อย แต่สุ่ยเซียนกับฟู่กุ้ยต้องยอมรับเลยว่า เสี่ยวเชี่ยนพูดเรื่องจริง

ในขณะที่ทางนี้กำลังคุยกัน คนพวกนั้นก็เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสี่ยวเชี่ยนจำผู้ชายพุงพลุ้ยหัวล้านตรงกลางที่เดินนำมาคนนั้นได้ ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเธอก็เห็นคนๆนั้นวิ่งไปทางฉิวฉิว จากนั้น…

เธอได้ยินเสียงร้อง แล้วคนๆนั้นก็ล้มลงไปกองที่พื้น ข้างกายเขามีลูกอล์ฟสีขาวตัวต้นเหตุกลิ้งกลุกๆอยู่!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 962 ถ้าควบคุมไม่ได้คงไปกันใหญ่

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 962 ถ้าควบคุมไม่ได้คงไปกันใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสี่ยวเฉียงถูมือด้วยความเซ็ง เขาลุกเดินไปทางสนามกอล์ฟ แต่ละคนนี่มันช่างรังแกกันเหลือเกิน

เห็นๆอยู่ว่าเขามีแฟนก่อนใคร และก็เป็นเขาที่ติวเข้มเรื่องจีบสาวให้คนอื่น ทั้งเรื่องเทคนิคต่างๆ การจำแนกสีลิปสติก เป็นต้น ปรากฏว่าเจ้าพวกนี้กลับชิงนำเขาไปก่อน โฮลอินวันกันหมด เดี๋ยวกลับไปเขาต้องคุยกับเสี่ยวเชี่ยนหาวันมงคลหน่อยแล้ว ต้องโฮลอินวันกับเขาบ้าง ฆ่าพวกนี้ให้ตายเรียบ!

เสี่ยวเฉียงคิดในใจ เขาแพ้เรื่องมีลูก มีแค่เรื่องตีกอล์ฟที่เหนือกว่าใครตอนนี้ จึงเตรียมจะไปเล่นงานมือใหม่ทั้งหลาย

ปรากฏว่าอยู่ๆก็ได้ยินเสียงฉิวฉิวกับไป๋จิ่นตะโกนว่าโฟร์ไม่หยุด แม้แต่เสี่ยวเชี่ยนเองก็นั่งไม่ติดเดินมาทางเขา หลิวเหมยก็ด้วย เดิมคิดจะเข็นรถฟู่กุ้ยให้ไปดูเธอเล่น แต่พอเห็นฝีมือของไป๋จิ่นก็รีบเข็นฟู่กุ้ยกลับด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยวโดยไม่หันหลังกลับ

เหตุการณ์แบบนี้ทำให้เสี่ยวเชี่ยนนึกถึงประสบการณ์ตอนไปร้องคาราโอเกะกับเสี่ยวเฉียงที่เขาร้องเพลงทหาร เสี่ยวเฉียงสามารถร้องจนทำให้คนยอมออกไปตากลมข้างนอกได้ ไป๋จิ่นเล่นกอล์ฟทำคนผวาไม่กล้าเข้าใกล้ ต้องพาคนท้องออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย

พอเสี่ยวเฉียงหันกลับมาก็เห็นเสี่ยวเชี่ยนทำท่าประนมมือเหมือนสวดมนต์อยู่ข้างหลัง เสี่ยวเฉียงทำตาตี่ใส่

“คุณทำอะไรน่ะ?”

“แต่ละบ้านส่งตัวแทนไป ฉันอ่อนแอฉันไม่ไปแล้วกัน นายไปเถอะ แพ้ชนะก็ช่าง เล่นเอาสนุกๆ ถ้าถูกตีโดนหัวขึ้นมาก็ไม่ต้องกังวล เพราะฉันมีนี่!”

เสี่ยวเชี่ยนแบมือขาวๆ ในมือเธอมียาทาหนึ่งขวดนอนอยู่ นี่เป็นยาทาแก้ฟกช้ำสูตรลับเฉพาะของแม่อวี๋ที่เอาไว้ใช้ในกรณีที่ถูกลูกขาวๆนั่นโดนหัว!

“เมียจ๋า ผมแค่รู้สึกว่าเราเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามัน อยู่ห่างจากคุณผมเหมือนจะขาดใจตาย!”

“ไปเถอะ เรื่องในวันนี้เดี๋ยวก็กลายเป็นอดีต ผมขาวเมื่อใดเราคงจะได้พบกันอีก”

เสี่ยวเฉียงไม่พอใจที่ตัวเองถูกถีบออกไป จึงลากจูขี่บ่นที่กำลังมองอย่างสนุกสนานไปด้วย

พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวเสี่ยวเฉียงก็รู้สึกว่ามันแปลกๆตรงไหนชอบกล

คำพูดเมียเขาเมื่อครู่ทำไมฟังแล้วทะแม่งๆ?

“เชี่ยนเอ๋อ ทำไมคำพูดเธอเมื่อกี้ฟังดูคุ้นๆ…” สุ่ยเซียนเองก็รู้สึกว่าเสี่ยวเฉียงถูกเมียตัวเองหลอกอีกแล้ว แต่เธอก็นึกไม่ออกว่ามันแปลกตรงไหน

“นี่เป็นบทพูดในเกม ประโยคหลังต้องเป็นเกิดชาติหน้าฉันใดคงจะได้พบกันอีก” ฟู่กุ้ยที่นั่งอยู่บนรถเข็นสมองยังทำงานดีอยู่

“สุดยอดเลยพี่ฟู่กุ้ย เรื่องแบบนี้ก็รู้ด้วย” เสี่ยวเชี่ยนยอมรับหน้าตาเฉย “นึกไม่ถึงว่านักนิติจิตวิทยาอย่างพี่จะมีมุมนี้ เล่นเกมเป็นกับเขาด้วยเหรอ?”

“ก็ไม่เชิง หลิวเหมยชอบเรื่องพวกนี้ แล้วต้าหลงก็เล่นเกมนี้ด้วย พี่ก็เลยลองบ้าง…อะแฮ่ม” ฟู่กุ้ยแกล้งกระแอม เป็นอันว่าทุกคนเข้าใจ

“จะว่าไปวันมะรืนพวกเธอจะแต่งงานกันอยู่แล้ว พูดจาเศร้าๆแบบนี้มันจะดีเหรอ?” สุ่ยเซียนเตือนด้วยความหวังดี

“ไม่เป็นไร เขาเป็นของฉันแล้ว หนีไม่รอดหรอก เรื่องนี้จะโทษฉันไม่ได้ ใครใช้ให้เขาชอบเล่นแต่เกมของเมืองนอกล่ะ ฉันเป็นพวกชาตินิยมนะจะบอกให้!”

เหตุผลเพี้ยนๆนี่ล่ะสไตล์ประธานเชี่ยน

พอถึงวันมะรืนเสี่ยวเชี่ยนถึงรู้ว่าไม่ควรพูดอย่างมั่นใจเกินไป ไม่อย่างนั้นจะเหมือนถูกตบหน้ากลางสี่แยก แต่นี่ก็เป็นเรื่องในภายหลัง

เสี่ยวเชี่ยนในเวลานี้กำลังมองไปที่สนามแล้ววิจารณ์ออกมาได้ตรงมาก

“เอาลูกกอล์ฟมาตีเป็นเบสบอลได้ ไป๋จิ่นนี่ก็เทพไม่เบา”

โฟร์(fore) เป็นศัพท์เฉพาะในกีฬากอล์ฟ หากวิถีของลูกกอล์ฟเบนออกนอกเส้นทาง ผู้เล่นจะต้องตะโกนคำนี้ออกมา เพื่อเป็นการเตือนผู้เล่นคนอื่นให้ระวัง

ฉิวฉิวที่เรียนจบพละมาพอมาเจอคนที่ไร้พรสวรรค์ในด้านกีฬาแบบนี้ก็ถึงกับแน่นิ่งไปเหมือนกัน แต่ไป๋จิ่นกลับดูสนุกสนาน เขาก็เลยคอยช่วยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ แค่ไป๋จิ่นหวดฉิวฉิวก็ตะโกนว่าอย่างนั้นแหละถูกต้อง ทั้งสองคนเข้าขากันดีมากจนน่าตกใจ สักพักผู้เล่นที่อยู่แถวนั้นก็พากันล่าถอยไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไป๋จิ่นหรือเปล่า

“ถ้าร่างกายฉันพร้อมนะก็อยากเล่นกับเธอ” สุ่ยเซียนเห็นคนอื่นเล่นอย่างสนุกสนานก็อยากบ้าง อันที่จริงร่างกายเธอปกติมาก และนี่ก็ไม่ใช่กีฬาหักโหม เพียงแต่จูขี้บ่นที่ทำโฮลอินวันขี้กังวลเกินเหตุ

“รอเธอคลอดสุขภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนพวกเราค่อยมาเล่นสิบแปดหลุมกัน แต่ฉันว่าเธอก็อย่าคาดหวังมากเกินไป เพราะต่อให้เธอสุขภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว เธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ดี” เสี่ยวเชี่ยนยิ้มพลางพูดยั่วโมโหคนท้อง

“ทำไมมั่นใจขนาดนั้น? อย่ามาดูถูกฉันนะ! เมื่อก่อนฉันไปออกรอบกับพ่อบ่อยจะตาย!” สุ่ยเซียนไม่ยอม

“อย่างเธอน่ะเล่นขำๆเพื่อเรื่องธุรกิจ ฉันน่ะศึกษาจริงจังนะจะบอกให้” เสี่ยวเชี่ยนไม่ลงสนามไปแข่งกับมืออาชีพอย่างเสี่ยวเฉียง เรื่องโม้น่ะไว้ใจได้

อันที่จริงเมื่อชาติก่อนเสี่ยวเชี่ยนก็ไปเล่นกับสุ่ยเซียนบ่อยๆ แพ้ชนะพอๆกัน ตอนนี้ทำได้แค่พูดข่มคนท้องไปก่อน

“คนส่วนใหญ่ชอบคุยธุรกิจกันในสนามกอล์ฟ พี่ว่ากลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้านั่นก็เหมือนมาคุยธุรกิจกันนะ” ถึงฟู่กุ้ยจะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่กลับนั่งฟังด้วยความเป็นห่วง เห็นเสี่ยวเชี่ยนกับสุ่ยเซียนเถียงกันจึงชวนเปลี่ยนเรื่องคุย

ทั้งสองคนมองตามฟู่กุ้ย กลุ่มคนสวมหมวกกันแดดกำลังเดินมาทางนี้ เนื่องจากห่างกันค่อนข้างไกลจึงเห็นหน้าไม่ชัด

“พี่รู้ได้ไงคะว่าพวกเขามาคุยธุรกิจไม่ได้เป็นเพื่อนกัน” สุ่ยเซียนถาม

“เซ้นส์ของนักนิติจิตวิทยา”

ฟู่กุ้ยเองก็บอกไม่ถูก แต่เนื่องจากเจอคนมาเยอะ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันสามารถดูได้จากท่าทางเล็กๆน้อยๆที่แสดงออก ดูจากการเดินและท่าทางของคนพวกนั้น ไม่เหมือนคนเป็นเพื่อนกัน แถมยังมีชาวต่างชาติอยู่ด้วย ความเป็นไปได้ที่คนจะมาในที่หรูหราแบบนี้ก็คือมาคุยธุรกิจ

“บางคนชอบคุยธุรกิจในสนามกอล์ฟ บางคนชอบตกลงกันในวงไพ่ ตีกอล์ฟสิบแปดหลุมใช้เวลาประมาณสี่ถึงห้าชั่วโมง ภายในช่วงเวลานี้สามารถมองออกได้หลายอย่าง อย่างเช่น นิสัยใจคอ โอกาสคุยสำเร็จหรือล้มเหลว มีความเสี่ยงหรือเปล่า ส่วนฉันชอบขอร้องคนในวงไพ่ พาคนที่จะร่วมงานมาสนามกอล์ฟ”

เสี่ยวเชี่ยนพูดไปตามความคิดของตัวเอง

“งั้นฉันไม่ตีกอล์ฟกับเธอแล้ว สู้เธอไม่ได้แน่นอน” สุ่ยเซียนได้ฟังแบบนั้นก็ล้มเลิกความตั้งใจ

“หืม?” เสี่ยวเชี่ยนเลิ่กคิ้ว

“คนอย่างเธอน้อยครั้งที่จะขอร้องคนอื่น ตีกอล์ฟเพื่อร่วมงานกันย่อมเยอะกว่าแน่นอน” สุ่ยเซียนแทบไม่เคยเห็นเสี่ยวเชี่ยนขอร้องคนอื่น อีกอย่างถ้าประธานเชี่ยนมีความจำเป็นจริงๆก็ไม่เห็นต้องขอร้องใคร แค่โทรไปบอกก็หมดเรื่อง ก็เหมือนกับที่คราวก่อนสืออวี้เกิดเรื่อง แค่เสี่ยวเชี่ยนโทรบอกเรื่องก็สำเร็จได้

“ฉันผิดไปแล้ว” เสี่ยวเชี่ยนยิ้มอย่างมั่นใจ “ขอแค่ฉันอยาก จำนวนครั้งที่ฉันไปตีกอล์ฟไม่มีทางเยอะไปกว่าจำนวนครั้งที่ฉันเล่นไพ่แน่นอน ช่วงนี้ฉันรู้จักเจียมตัวแล้ว ควบคุมตัวเองได้”

“แค่กๆ!” ฟู่กุ้ยที่กำลังดื่มน้ำถึงกับสำลัก

นี่ขนาดควบคุมตัวเองได้ยังเก็บค่ารักษาเป็นพัน ถ้าควบคุมไม่ได้นี่ราคาไม่ทะยานขึ้นฟ้าแล้วเหรอ?

“หมายความว่าไง?” สุ่ยเซียนถาม

“ขอแค่ฉันอยากทำ ต่อไปย่อมมีคนเรียงคิวมาขอร้องให้ฉันช่วยไม่ขาดสายแน่นอน รีบทำตัวแพ้พนันฉันในวงไพ่ เพียงแต่ฉันเบื่อชีวิตแบบนั้นแล้ว”

ถึงจะรู้สึกว่าคำพูดนี้ดูบ้าไปหน่อย แต่สุ่ยเซียนกับฟู่กุ้ยต้องยอมรับเลยว่า เสี่ยวเชี่ยนพูดเรื่องจริง

ในขณะที่ทางนี้กำลังคุยกัน คนพวกนั้นก็เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสี่ยวเชี่ยนจำผู้ชายพุงพลุ้ยหัวล้านตรงกลางที่เดินนำมาคนนั้นได้ ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเธอก็เห็นคนๆนั้นวิ่งไปทางฉิวฉิว จากนั้น…

เธอได้ยินเสียงร้อง แล้วคนๆนั้นก็ล้มลงไปกองที่พื้น ข้างกายเขามีลูกอล์ฟสีขาวตัวต้นเหตุกลิ้งกลุกๆอยู่!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 962 ถ้าควบคุมไม่ได้คงไปกันใหญ่

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 962 ถ้าควบคุมไม่ได้คงไปกันใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสี่ยวเฉียงถูมือด้วยความเซ็ง เขาลุกเดินไปทางสนามกอล์ฟ แต่ละคนนี่มันช่างรังแกกันเหลือเกิน

เห็นๆอยู่ว่าเขามีแฟนก่อนใคร และก็เป็นเขาที่ติวเข้มเรื่องจีบสาวให้คนอื่น ทั้งเรื่องเทคนิคต่างๆ การจำแนกสีลิปสติก เป็นต้น ปรากฏว่าเจ้าพวกนี้กลับชิงนำเขาไปก่อน โฮลอินวันกันหมด เดี๋ยวกลับไปเขาต้องคุยกับเสี่ยวเชี่ยนหาวันมงคลหน่อยแล้ว ต้องโฮลอินวันกับเขาบ้าง ฆ่าพวกนี้ให้ตายเรียบ!

เสี่ยวเฉียงคิดในใจ เขาแพ้เรื่องมีลูก มีแค่เรื่องตีกอล์ฟที่เหนือกว่าใครตอนนี้ จึงเตรียมจะไปเล่นงานมือใหม่ทั้งหลาย

ปรากฏว่าอยู่ๆก็ได้ยินเสียงฉิวฉิวกับไป๋จิ่นตะโกนว่าโฟร์ไม่หยุด แม้แต่เสี่ยวเชี่ยนเองก็นั่งไม่ติดเดินมาทางเขา หลิวเหมยก็ด้วย เดิมคิดจะเข็นรถฟู่กุ้ยให้ไปดูเธอเล่น แต่พอเห็นฝีมือของไป๋จิ่นก็รีบเข็นฟู่กุ้ยกลับด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยวโดยไม่หันหลังกลับ

เหตุการณ์แบบนี้ทำให้เสี่ยวเชี่ยนนึกถึงประสบการณ์ตอนไปร้องคาราโอเกะกับเสี่ยวเฉียงที่เขาร้องเพลงทหาร เสี่ยวเฉียงสามารถร้องจนทำให้คนยอมออกไปตากลมข้างนอกได้ ไป๋จิ่นเล่นกอล์ฟทำคนผวาไม่กล้าเข้าใกล้ ต้องพาคนท้องออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย

พอเสี่ยวเฉียงหันกลับมาก็เห็นเสี่ยวเชี่ยนทำท่าประนมมือเหมือนสวดมนต์อยู่ข้างหลัง เสี่ยวเฉียงทำตาตี่ใส่

“คุณทำอะไรน่ะ?”

“แต่ละบ้านส่งตัวแทนไป ฉันอ่อนแอฉันไม่ไปแล้วกัน นายไปเถอะ แพ้ชนะก็ช่าง เล่นเอาสนุกๆ ถ้าถูกตีโดนหัวขึ้นมาก็ไม่ต้องกังวล เพราะฉันมีนี่!”

เสี่ยวเชี่ยนแบมือขาวๆ ในมือเธอมียาทาหนึ่งขวดนอนอยู่ นี่เป็นยาทาแก้ฟกช้ำสูตรลับเฉพาะของแม่อวี๋ที่เอาไว้ใช้ในกรณีที่ถูกลูกขาวๆนั่นโดนหัว!

“เมียจ๋า ผมแค่รู้สึกว่าเราเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามัน อยู่ห่างจากคุณผมเหมือนจะขาดใจตาย!”

“ไปเถอะ เรื่องในวันนี้เดี๋ยวก็กลายเป็นอดีต ผมขาวเมื่อใดเราคงจะได้พบกันอีก”

เสี่ยวเฉียงไม่พอใจที่ตัวเองถูกถีบออกไป จึงลากจูขี่บ่นที่กำลังมองอย่างสนุกสนานไปด้วย

พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวเสี่ยวเฉียงก็รู้สึกว่ามันแปลกๆตรงไหนชอบกล

คำพูดเมียเขาเมื่อครู่ทำไมฟังแล้วทะแม่งๆ?

“เชี่ยนเอ๋อ ทำไมคำพูดเธอเมื่อกี้ฟังดูคุ้นๆ…” สุ่ยเซียนเองก็รู้สึกว่าเสี่ยวเฉียงถูกเมียตัวเองหลอกอีกแล้ว แต่เธอก็นึกไม่ออกว่ามันแปลกตรงไหน

“นี่เป็นบทพูดในเกม ประโยคหลังต้องเป็นเกิดชาติหน้าฉันใดคงจะได้พบกันอีก” ฟู่กุ้ยที่นั่งอยู่บนรถเข็นสมองยังทำงานดีอยู่

“สุดยอดเลยพี่ฟู่กุ้ย เรื่องแบบนี้ก็รู้ด้วย” เสี่ยวเชี่ยนยอมรับหน้าตาเฉย “นึกไม่ถึงว่านักนิติจิตวิทยาอย่างพี่จะมีมุมนี้ เล่นเกมเป็นกับเขาด้วยเหรอ?”

“ก็ไม่เชิง หลิวเหมยชอบเรื่องพวกนี้ แล้วต้าหลงก็เล่นเกมนี้ด้วย พี่ก็เลยลองบ้าง…อะแฮ่ม” ฟู่กุ้ยแกล้งกระแอม เป็นอันว่าทุกคนเข้าใจ

“จะว่าไปวันมะรืนพวกเธอจะแต่งงานกันอยู่แล้ว พูดจาเศร้าๆแบบนี้มันจะดีเหรอ?” สุ่ยเซียนเตือนด้วยความหวังดี

“ไม่เป็นไร เขาเป็นของฉันแล้ว หนีไม่รอดหรอก เรื่องนี้จะโทษฉันไม่ได้ ใครใช้ให้เขาชอบเล่นแต่เกมของเมืองนอกล่ะ ฉันเป็นพวกชาตินิยมนะจะบอกให้!”

เหตุผลเพี้ยนๆนี่ล่ะสไตล์ประธานเชี่ยน

พอถึงวันมะรืนเสี่ยวเชี่ยนถึงรู้ว่าไม่ควรพูดอย่างมั่นใจเกินไป ไม่อย่างนั้นจะเหมือนถูกตบหน้ากลางสี่แยก แต่นี่ก็เป็นเรื่องในภายหลัง

เสี่ยวเชี่ยนในเวลานี้กำลังมองไปที่สนามแล้ววิจารณ์ออกมาได้ตรงมาก

“เอาลูกกอล์ฟมาตีเป็นเบสบอลได้ ไป๋จิ่นนี่ก็เทพไม่เบา”

โฟร์(fore) เป็นศัพท์เฉพาะในกีฬากอล์ฟ หากวิถีของลูกกอล์ฟเบนออกนอกเส้นทาง ผู้เล่นจะต้องตะโกนคำนี้ออกมา เพื่อเป็นการเตือนผู้เล่นคนอื่นให้ระวัง

ฉิวฉิวที่เรียนจบพละมาพอมาเจอคนที่ไร้พรสวรรค์ในด้านกีฬาแบบนี้ก็ถึงกับแน่นิ่งไปเหมือนกัน แต่ไป๋จิ่นกลับดูสนุกสนาน เขาก็เลยคอยช่วยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ แค่ไป๋จิ่นหวดฉิวฉิวก็ตะโกนว่าอย่างนั้นแหละถูกต้อง ทั้งสองคนเข้าขากันดีมากจนน่าตกใจ สักพักผู้เล่นที่อยู่แถวนั้นก็พากันล่าถอยไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไป๋จิ่นหรือเปล่า

“ถ้าร่างกายฉันพร้อมนะก็อยากเล่นกับเธอ” สุ่ยเซียนเห็นคนอื่นเล่นอย่างสนุกสนานก็อยากบ้าง อันที่จริงร่างกายเธอปกติมาก และนี่ก็ไม่ใช่กีฬาหักโหม เพียงแต่จูขี้บ่นที่ทำโฮลอินวันขี้กังวลเกินเหตุ

“รอเธอคลอดสุขภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนพวกเราค่อยมาเล่นสิบแปดหลุมกัน แต่ฉันว่าเธอก็อย่าคาดหวังมากเกินไป เพราะต่อให้เธอสุขภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว เธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ดี” เสี่ยวเชี่ยนยิ้มพลางพูดยั่วโมโหคนท้อง

“ทำไมมั่นใจขนาดนั้น? อย่ามาดูถูกฉันนะ! เมื่อก่อนฉันไปออกรอบกับพ่อบ่อยจะตาย!” สุ่ยเซียนไม่ยอม

“อย่างเธอน่ะเล่นขำๆเพื่อเรื่องธุรกิจ ฉันน่ะศึกษาจริงจังนะจะบอกให้” เสี่ยวเชี่ยนไม่ลงสนามไปแข่งกับมืออาชีพอย่างเสี่ยวเฉียง เรื่องโม้น่ะไว้ใจได้

อันที่จริงเมื่อชาติก่อนเสี่ยวเชี่ยนก็ไปเล่นกับสุ่ยเซียนบ่อยๆ แพ้ชนะพอๆกัน ตอนนี้ทำได้แค่พูดข่มคนท้องไปก่อน

“คนส่วนใหญ่ชอบคุยธุรกิจกันในสนามกอล์ฟ พี่ว่ากลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้านั่นก็เหมือนมาคุยธุรกิจกันนะ” ถึงฟู่กุ้ยจะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่กลับนั่งฟังด้วยความเป็นห่วง เห็นเสี่ยวเชี่ยนกับสุ่ยเซียนเถียงกันจึงชวนเปลี่ยนเรื่องคุย

ทั้งสองคนมองตามฟู่กุ้ย กลุ่มคนสวมหมวกกันแดดกำลังเดินมาทางนี้ เนื่องจากห่างกันค่อนข้างไกลจึงเห็นหน้าไม่ชัด

“พี่รู้ได้ไงคะว่าพวกเขามาคุยธุรกิจไม่ได้เป็นเพื่อนกัน” สุ่ยเซียนถาม

“เซ้นส์ของนักนิติจิตวิทยา”

ฟู่กุ้ยเองก็บอกไม่ถูก แต่เนื่องจากเจอคนมาเยอะ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันสามารถดูได้จากท่าทางเล็กๆน้อยๆที่แสดงออก ดูจากการเดินและท่าทางของคนพวกนั้น ไม่เหมือนคนเป็นเพื่อนกัน แถมยังมีชาวต่างชาติอยู่ด้วย ความเป็นไปได้ที่คนจะมาในที่หรูหราแบบนี้ก็คือมาคุยธุรกิจ

“บางคนชอบคุยธุรกิจในสนามกอล์ฟ บางคนชอบตกลงกันในวงไพ่ ตีกอล์ฟสิบแปดหลุมใช้เวลาประมาณสี่ถึงห้าชั่วโมง ภายในช่วงเวลานี้สามารถมองออกได้หลายอย่าง อย่างเช่น นิสัยใจคอ โอกาสคุยสำเร็จหรือล้มเหลว มีความเสี่ยงหรือเปล่า ส่วนฉันชอบขอร้องคนในวงไพ่ พาคนที่จะร่วมงานมาสนามกอล์ฟ”

เสี่ยวเชี่ยนพูดไปตามความคิดของตัวเอง

“งั้นฉันไม่ตีกอล์ฟกับเธอแล้ว สู้เธอไม่ได้แน่นอน” สุ่ยเซียนได้ฟังแบบนั้นก็ล้มเลิกความตั้งใจ

“หืม?” เสี่ยวเชี่ยนเลิ่กคิ้ว

“คนอย่างเธอน้อยครั้งที่จะขอร้องคนอื่น ตีกอล์ฟเพื่อร่วมงานกันย่อมเยอะกว่าแน่นอน” สุ่ยเซียนแทบไม่เคยเห็นเสี่ยวเชี่ยนขอร้องคนอื่น อีกอย่างถ้าประธานเชี่ยนมีความจำเป็นจริงๆก็ไม่เห็นต้องขอร้องใคร แค่โทรไปบอกก็หมดเรื่อง ก็เหมือนกับที่คราวก่อนสืออวี้เกิดเรื่อง แค่เสี่ยวเชี่ยนโทรบอกเรื่องก็สำเร็จได้

“ฉันผิดไปแล้ว” เสี่ยวเชี่ยนยิ้มอย่างมั่นใจ “ขอแค่ฉันอยาก จำนวนครั้งที่ฉันไปตีกอล์ฟไม่มีทางเยอะไปกว่าจำนวนครั้งที่ฉันเล่นไพ่แน่นอน ช่วงนี้ฉันรู้จักเจียมตัวแล้ว ควบคุมตัวเองได้”

“แค่กๆ!” ฟู่กุ้ยที่กำลังดื่มน้ำถึงกับสำลัก

นี่ขนาดควบคุมตัวเองได้ยังเก็บค่ารักษาเป็นพัน ถ้าควบคุมไม่ได้นี่ราคาไม่ทะยานขึ้นฟ้าแล้วเหรอ?

“หมายความว่าไง?” สุ่ยเซียนถาม

“ขอแค่ฉันอยากทำ ต่อไปย่อมมีคนเรียงคิวมาขอร้องให้ฉันช่วยไม่ขาดสายแน่นอน รีบทำตัวแพ้พนันฉันในวงไพ่ เพียงแต่ฉันเบื่อชีวิตแบบนั้นแล้ว”

ถึงจะรู้สึกว่าคำพูดนี้ดูบ้าไปหน่อย แต่สุ่ยเซียนกับฟู่กุ้ยต้องยอมรับเลยว่า เสี่ยวเชี่ยนพูดเรื่องจริง

ในขณะที่ทางนี้กำลังคุยกัน คนพวกนั้นก็เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสี่ยวเชี่ยนจำผู้ชายพุงพลุ้ยหัวล้านตรงกลางที่เดินนำมาคนนั้นได้ ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเธอก็เห็นคนๆนั้นวิ่งไปทางฉิวฉิว จากนั้น…

เธอได้ยินเสียงร้อง แล้วคนๆนั้นก็ล้มลงไปกองที่พื้น ข้างกายเขามีลูกอล์ฟสีขาวตัวต้นเหตุกลิ้งกลุกๆอยู่!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+