[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 118 ใครชนะรับผิดชอบ

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 118 ใครชนะรับผิดชอบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “เธอเก่งมากเลย เก่งซะจนฉันรู้สึกอยากจะรับเธอไว้เป็นศิษย์” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ รอให้เหล่าฟ่านกลับมาก่อน แล้วฉันจะบอกเธอเองว่าจะจัดการกับเนื้องอกยังไง ถ้าเธออยากเรียนการแพทย์แผนโบราณต่อ ฉันสามารถสอนให้เธอได้ทุกอย่างเลยนะ”

        “นายจะสอนฉันเหรอ เอาไว้ชนะพวกบ้าคณะแพทย์แผนปัจจุบันให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เหลิ่งซวงพูดยิ้มๆ ทุกคนต่างก็มีความภาคภูมิใจเป็นของตัวเอง กัวไฮว่มี เหลิ่งซวงเองก็มี

        “ไอ้น้องๆ ฉันรู้สึกสบายทั้งตัวมากเลย เธอจัดการเนื้องอกให้ฉันแล้วใช่ไหม” เหล่าฟ่านกลับมาจากข้างนอก ก็ทำเอาทุกคนตะลึงงันไป เหล่าฟ่านที่เดิมมีสีหน้าซีดเซียว แต่กลับมาดูมีชีวิตชีวาราวกับแต่งหน้ามาอย่างไรอย่างนั้น สีหน้าเขาดูแดงระเรื่อ ออร่าทั้งตัวไม่เหมือนกับเมื่อสักครู่แม้แต่น้อย

        “ดูท่าที่ฝังเข็มคราวนี้ได้ผลไม่เลวเลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เหล่าฟ่าน สภาพร่างกายคุณดีมากเลยนะครับ คุณควรจะทำงานใช้แรงสักหน่อย จะได้ฟื้นฟูได้ดี”

        “กัวไฮว่ ยามาแล้ว ให้ผู้ป่วยทานเลยไหม” ในขณะที่กัวไฮว่กับเหล่าฟ่านกำลังสนทนากันอยู่นั่นเอง หลิวเย่าซือก็ยกยาที่ต้มไว้ดีแล้วเดินเข้ามา

        “กินตอนที่มันร้อนนะครับ แล้วผมจะสั่งยาให้คุณอีก คุณไปเอายาที่ร้านยามานะ แล้วก็ไปหาหมอที่ชื่อไป๋มู่เซิงตรงถนนซิ่งหลิน ให้เขาจัดยาให้ เขานิสัยไม่แย่เลยล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “กัวไฮว่ เธอรักษาเสร็จแล้วใช่ไหม” หลิวชิงเจิงเห็นว่าทางฝั่งสมาคมยาจีนครื้นเครงกันก็เดินเข้ามาถามขึ้นยิ้มๆ

        “เบื้องต้นเรียบร้อยแล้วครับ ระยะหลังยังต้องกินยาจีนรักษาร่างกายให้คงที่ หัวหน้าหลิวมีอะไรหรือเปล่าครับ” กัวไฮว่ถามยิ้มๆ หลิวชิงเจิงผู้ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เป็นคนดีไม่เลว

        “งั้นพวกเราให้เหล่าฟ่านตรวจอาการอีกรอบเพื่อดูผลการรักษาของเธอในครั้งนี้ได้ไหม ในเมื่อเดี๋ยวก็ต้องตัดสินแพ้ชนะ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ

        “งั้นก็ตรวจเลยครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เหล่าฟ่าน ให้หัวหน้าหลิวตรวจคุณหน่อยสิ อันนี้ฟรีนะ ฮ่าๆ”

        หลิวชิงเจิงมองเหล่าฟ่านแวบหนึ่งจากนั้นก็มองกัวไฮว่ เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ยิ่งน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเขาทำให้เนื้องอกหายไปด้วยการฝังเข็มจริงๆ นั่นก็เป็นปาฏิหาริย์แห่งวงการแพทย์แล้ว

        “หัวหน้าหลิว คุณมาดูหน่อยสิ เนื้องอกในตัวคนไข้หายไปหมดแล้ว หมดจดด้วย” พยาบาลที่เอกซ์เรย์ให้เหล่าฟ่านพูดด้วยเสียงดัง หลิวชิงเจิงเลยวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วอย่างกับบินไป

        “ตรวจเหล่าฟ่านทุกรายการเลยนะ” หลิวชิงเจิงพูดด้วยความตื่นเต้น “ไม่สิ เหล่าฟ่านต้องตามพวกเราไปโรงพยาบาล เสี่ยวหมิ่น คุณพาเหล่าฟ่านกลับไปตรวจทุกรายการเลยนะ เดี๋ยวผมจะตามไปทีหลัง”

        ในขณะนี้ท่าทางที่หลิวชิงเจิงมองกัวไฮว่นั้นแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่ใช่คน เกรงว่าจะมีแค่เทพเซียนเท่านั้นแหละที่จะจัดการเนื้องอกได้แบบนี้

        “คณบดีหลิว คุณกลับมาแล้วเหรอ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ กลิ่นยาบนตัวของหลิวเฉินกังสะพัดไปเป็นระลอกๆ เป็นไปได้ว่ายาที่เย่าซือนำกลับมาหลิวเฉินกังเป็นคนต้มเอง

        “เป็นไง แล้วผู้ป่วยของคณะแพทย์แผนโบราณคนนั้นล่ะ” หลิวเฉินกังกวาดสายตามองรอบหนึ่งก่อนจะถามขึ้นด้วยความกังวลใจ

        “คุณปู่ เขาถูกส่งเข้าโรงพยาบาลค่ะ” หลิวเย่าซือพูดเบาๆ

        “เป็นไปไม่ได้ จะเป็นไปได้ยังไง เหล่าฉินไม่มีทางหลอกฉัน ถึงเสี่ยวไฮว่รักษาไม่ได้แต่คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอกมั้ง” หลิวเฉินกังพูดขึ้นด้วยความตระหนก “เขาไม่เป็นไรใช่ไหม เดี๋ยวฉันไปดูที่โรงพยาบาล”

        “ผมว่าคณบดีหลิวคิดมากไปแล้วล่ะครับ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ “เนื้องอกผู้ป่วยหายไปหมดแล้ว ผมให้พยาบาลพาเข้ากลับไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้ครบทุกด้าน นักศึกษาใหม่ของคณะแพทย์แผนโบราณของพวกคุณนี่เก่งมากเลยนะ ไม่ทราบว่าคณบดีหลิวเจอเขาจากที่ไหนเหรอ ผมอยากดูหน่อยว่าให้เขามาพูดคุยกันที่โรงพยาบาลประจำเมืองได้หรือเปล่า”

        “แค่กๆๆ ตกใจแทบแย่” หลิวเฉินกังกระแอมไอสองสามครั้งก่อนจะพูดขึ้น “เมื่อกี้เธอว่าไงนะ เสี่ยวหลิว เธอว่าเนื้องอกในตัวผู้ป่วยหายไปหมดเหรอ ปะ…เป็นไปไม่ได้ ปกติแล้วการรักษาแบบแพทย์แผนโบราณจะค่อนข้างช้า จะหายไปหมดในเวลาไม่นานได้ยังไงกัน อุปกรณ์ของพวกคุณมีปัญหาหรือเปล่า”

        “ท่านคณบดีหลิว คุณไม่เชื่อผมหรือว่าไม่เชื่อในการแพทย์แผนโบราณกันแน่ หัวหน้าหลิวก็บอกแล้วนี่ว่าหายไปแต่คุณกลับไม่เชื่อ คุณไปคุยกับนักศึกษาแล้วก็อาจารย์คณะแพทย์แผนโบราณเถอะว่าจะใช้อาคารหมอเทพกันยังไงดี” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “พ่อหนุ่ม เธอทำได้ยังไงกัน เราไปคุยกันในห้องเถอะ ปะ…เป็นไปไม่ได้ เหล่าฉินบอกแค่ว่าทักษะทางการแพทย์เธอสูงมาก ตอนแรกฉันยังคิดว่าเธอมีความสัมพันธ์อะไรกับเขาซะอีก ไม่คิดเลยว่าเธอจะเก่งขนาดนี้” หลิวเฉินกังพูดด้วยเสียงดัง

        “รอให้คณะแพทย์แผนปัจจุบันผ่าตัดเสร็จก่อนค่อยคุยกันเถอะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ทางฝั่งคณะแพทย์แผนปัจจุบันก็เข็นคนไข้ออกมาจากห้องผ่าตัด เห็นได้ชัดว่าฤทธิ์ยาชาผู้ป่วยยังไม่หมดไป ศีรษะของเหอโม่เปียกชุ่มเล็กน้อย การที่เป็นหมอผ่าตัดหลักด้วยตัวเองแบบนี้นั้น สำหรับเธอถือว่าสุดความสามารถแล้ว แต่ก็สามารถดูได้จากท่าทางของหวงฮั่นหลินว่าเขาพึงพอใจในลูกศิษย์คนนี้เป็นอย่างมาก

        “คณบดีหวง เป็นไงบ้างครับ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ

        “เสี่ยวเหอ เธอนั่งพักก่อนเถอะ ให้ฉันบอกอะไรกับทุกคนหน่อย” หวงฮั่นหลินเห็นว่าผู้ป่วยถูกยกเข้าไปในรถพยาบาลแล้ว เขาก็ยกยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อยพร้อมกับพูดด้วยเสียงดัง “การผ่าตัดในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื้องอกถูดตัดออกหมดแล้ว ไม่มีสารตกค้างเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วผู้ป่วยก็ได้ถูกส่งไปโรงพยาบาลประจำเมืองแล้ว เดี๋ยวรอให้ทางโรงพยาบาลมารายงานผลการผ่าตัด เหอโม่ นักศึกษาใหม่จากคณะแพทย์แผนปัจจุบันประสบความสำเร็จในการผ่าตัดในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ขอให้ทุกคนปรบมือให้เธอหน่อยครับ”

        เดิมทีคิดว่านักศึกษาคณะแพทย์แผนปัจจุบันจะปรบมือกันดังสนั่น ทว่าท่าทีของทุกคนกลับทำให้หวงฮั่นหลินรู้สึกแปลกๆ

        “ผู้ป่วยคณะแพทย์แผนโบราณล่ะ ทำไมไม่เห็นผู้ป่วยคณะนั้นเลย” หวงฮั่นหลินถามคนที่อยู่รอบข้าง

        “ผู้ป่วยคณะแพทย์แผนจีนก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลประจำเมืองครับ” เฉินเจี่ยตี้พูดเบาๆ นับตั้งแต่ที่เขาได้ยินพยาบาลพูดว่าเนื้องอกของเหล่าฟ่านได้หายไปหมดแล้ว ในใจของเขาก็รู้สึกเหมือนมีอาคารคณะแพทย์แผนปัจจุบันถล่มลงมายับเยิน

        “หลิวเฉินกัง เขาเป็นคนที่แกหามา นี่แกเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเหรอ พวกเราเป็นคนเรียนวิชาแพทย์กันทั้งนั้น แล้วแกก็มาให้เด็กนี่รักษาเนื้องอกให้ผู้ป่วย แกคิดได้ยังไง จรรยาบรรณแพทย์แกอยู่ไหนฮะ” หวงฮั่นหลินมองหลิวเฉินกังพร้อมกับตะคอกเสียงดัง หวงฮั่นหลินได้คิดคำตัดสินเอาไว้ในใจแล้วว่า ผู้ป่วยถูกส่งเข้าโรงพยาบาล คณะแพทย์แผนจีนเกิดอุบัติเหตุทางการรักษา

        “พูด พูดต่อสิ” หลิวเฉินกังพูดยิ้มๆ เขาไม่ได้โกรธอะไร

        “กะ…แกยังจะยิ้มออกอีกเหรอ คณะแพทย์แผนโบราณของพวกเธอไม่น่าอยู่ติดกับคณะแพทย์แผนปัจจุบันของเราเลย ช่างเป็นความอัปยศของวงการแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยอู่เฉิงแท้ๆ เจี่ยตี้ ไปบอกอาจารย์นักศึกษาในคณะให้หมดเลยนะว่าให้ทิ้งของในอาคารหมอเทพที่เกี่ยวของแพทย์แผนโบราณไปให้หมดเลย” หวงฮั่นหลินพูดเสียงดังลั่น

        “ท่านคณดีครับ ผู้ป่วยคนนั้นที่ถูกคณะแพทย์แผนโบราณรักษาหายดีแล้ว เพียงแค่ถูกส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลประจำเมืองครับ” เฉินเจี่ยตี้เห็นท่าทางบ้าคลั่งของหวงฮั่นหลินก็รีบดึงหวงฮั่นหลินมาพร้อมกับพูดขึ้น

        “เจี่ยตี้ ธะ…เธอว่าไงนะ ปะ…เป็นไปไม่ได้” เฉินเจี่ยตี้พูดเบาๆ ทว่าหวงฮั่นหลินกลับได้ยินชัดเต็มสองรูหู คณะแพทย์แผนโบราณรักษาผู้ป่วยหายแล้ว เป็นไปได้อย่างไรกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 118 ใครชนะรับผิดชอบ

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 118 ใครชนะรับผิดชอบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “เธอเก่งมากเลย เก่งซะจนฉันรู้สึกอยากจะรับเธอไว้เป็นศิษย์” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ รอให้เหล่าฟ่านกลับมาก่อน แล้วฉันจะบอกเธอเองว่าจะจัดการกับเนื้องอกยังไง ถ้าเธออยากเรียนการแพทย์แผนโบราณต่อ ฉันสามารถสอนให้เธอได้ทุกอย่างเลยนะ”

        “นายจะสอนฉันเหรอ เอาไว้ชนะพวกบ้าคณะแพทย์แผนปัจจุบันให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เหลิ่งซวงพูดยิ้มๆ ทุกคนต่างก็มีความภาคภูมิใจเป็นของตัวเอง กัวไฮว่มี เหลิ่งซวงเองก็มี

        “ไอ้น้องๆ ฉันรู้สึกสบายทั้งตัวมากเลย เธอจัดการเนื้องอกให้ฉันแล้วใช่ไหม” เหล่าฟ่านกลับมาจากข้างนอก ก็ทำเอาทุกคนตะลึงงันไป เหล่าฟ่านที่เดิมมีสีหน้าซีดเซียว แต่กลับมาดูมีชีวิตชีวาราวกับแต่งหน้ามาอย่างไรอย่างนั้น สีหน้าเขาดูแดงระเรื่อ ออร่าทั้งตัวไม่เหมือนกับเมื่อสักครู่แม้แต่น้อย

        “ดูท่าที่ฝังเข็มคราวนี้ได้ผลไม่เลวเลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เหล่าฟ่าน สภาพร่างกายคุณดีมากเลยนะครับ คุณควรจะทำงานใช้แรงสักหน่อย จะได้ฟื้นฟูได้ดี”

        “กัวไฮว่ ยามาแล้ว ให้ผู้ป่วยทานเลยไหม” ในขณะที่กัวไฮว่กับเหล่าฟ่านกำลังสนทนากันอยู่นั่นเอง หลิวเย่าซือก็ยกยาที่ต้มไว้ดีแล้วเดินเข้ามา

        “กินตอนที่มันร้อนนะครับ แล้วผมจะสั่งยาให้คุณอีก คุณไปเอายาที่ร้านยามานะ แล้วก็ไปหาหมอที่ชื่อไป๋มู่เซิงตรงถนนซิ่งหลิน ให้เขาจัดยาให้ เขานิสัยไม่แย่เลยล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “กัวไฮว่ เธอรักษาเสร็จแล้วใช่ไหม” หลิวชิงเจิงเห็นว่าทางฝั่งสมาคมยาจีนครื้นเครงกันก็เดินเข้ามาถามขึ้นยิ้มๆ

        “เบื้องต้นเรียบร้อยแล้วครับ ระยะหลังยังต้องกินยาจีนรักษาร่างกายให้คงที่ หัวหน้าหลิวมีอะไรหรือเปล่าครับ” กัวไฮว่ถามยิ้มๆ หลิวชิงเจิงผู้ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เป็นคนดีไม่เลว

        “งั้นพวกเราให้เหล่าฟ่านตรวจอาการอีกรอบเพื่อดูผลการรักษาของเธอในครั้งนี้ได้ไหม ในเมื่อเดี๋ยวก็ต้องตัดสินแพ้ชนะ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ

        “งั้นก็ตรวจเลยครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เหล่าฟ่าน ให้หัวหน้าหลิวตรวจคุณหน่อยสิ อันนี้ฟรีนะ ฮ่าๆ”

        หลิวชิงเจิงมองเหล่าฟ่านแวบหนึ่งจากนั้นก็มองกัวไฮว่ เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ยิ่งน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเขาทำให้เนื้องอกหายไปด้วยการฝังเข็มจริงๆ นั่นก็เป็นปาฏิหาริย์แห่งวงการแพทย์แล้ว

        “หัวหน้าหลิว คุณมาดูหน่อยสิ เนื้องอกในตัวคนไข้หายไปหมดแล้ว หมดจดด้วย” พยาบาลที่เอกซ์เรย์ให้เหล่าฟ่านพูดด้วยเสียงดัง หลิวชิงเจิงเลยวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วอย่างกับบินไป

        “ตรวจเหล่าฟ่านทุกรายการเลยนะ” หลิวชิงเจิงพูดด้วยความตื่นเต้น “ไม่สิ เหล่าฟ่านต้องตามพวกเราไปโรงพยาบาล เสี่ยวหมิ่น คุณพาเหล่าฟ่านกลับไปตรวจทุกรายการเลยนะ เดี๋ยวผมจะตามไปทีหลัง”

        ในขณะนี้ท่าทางที่หลิวชิงเจิงมองกัวไฮว่นั้นแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่ใช่คน เกรงว่าจะมีแค่เทพเซียนเท่านั้นแหละที่จะจัดการเนื้องอกได้แบบนี้

        “คณบดีหลิว คุณกลับมาแล้วเหรอ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ กลิ่นยาบนตัวของหลิวเฉินกังสะพัดไปเป็นระลอกๆ เป็นไปได้ว่ายาที่เย่าซือนำกลับมาหลิวเฉินกังเป็นคนต้มเอง

        “เป็นไง แล้วผู้ป่วยของคณะแพทย์แผนโบราณคนนั้นล่ะ” หลิวเฉินกังกวาดสายตามองรอบหนึ่งก่อนจะถามขึ้นด้วยความกังวลใจ

        “คุณปู่ เขาถูกส่งเข้าโรงพยาบาลค่ะ” หลิวเย่าซือพูดเบาๆ

        “เป็นไปไม่ได้ จะเป็นไปได้ยังไง เหล่าฉินไม่มีทางหลอกฉัน ถึงเสี่ยวไฮว่รักษาไม่ได้แต่คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอกมั้ง” หลิวเฉินกังพูดขึ้นด้วยความตระหนก “เขาไม่เป็นไรใช่ไหม เดี๋ยวฉันไปดูที่โรงพยาบาล”

        “ผมว่าคณบดีหลิวคิดมากไปแล้วล่ะครับ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ “เนื้องอกผู้ป่วยหายไปหมดแล้ว ผมให้พยาบาลพาเข้ากลับไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้ครบทุกด้าน นักศึกษาใหม่ของคณะแพทย์แผนโบราณของพวกคุณนี่เก่งมากเลยนะ ไม่ทราบว่าคณบดีหลิวเจอเขาจากที่ไหนเหรอ ผมอยากดูหน่อยว่าให้เขามาพูดคุยกันที่โรงพยาบาลประจำเมืองได้หรือเปล่า”

        “แค่กๆๆ ตกใจแทบแย่” หลิวเฉินกังกระแอมไอสองสามครั้งก่อนจะพูดขึ้น “เมื่อกี้เธอว่าไงนะ เสี่ยวหลิว เธอว่าเนื้องอกในตัวผู้ป่วยหายไปหมดเหรอ ปะ…เป็นไปไม่ได้ ปกติแล้วการรักษาแบบแพทย์แผนโบราณจะค่อนข้างช้า จะหายไปหมดในเวลาไม่นานได้ยังไงกัน อุปกรณ์ของพวกคุณมีปัญหาหรือเปล่า”

        “ท่านคณบดีหลิว คุณไม่เชื่อผมหรือว่าไม่เชื่อในการแพทย์แผนโบราณกันแน่ หัวหน้าหลิวก็บอกแล้วนี่ว่าหายไปแต่คุณกลับไม่เชื่อ คุณไปคุยกับนักศึกษาแล้วก็อาจารย์คณะแพทย์แผนโบราณเถอะว่าจะใช้อาคารหมอเทพกันยังไงดี” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “พ่อหนุ่ม เธอทำได้ยังไงกัน เราไปคุยกันในห้องเถอะ ปะ…เป็นไปไม่ได้ เหล่าฉินบอกแค่ว่าทักษะทางการแพทย์เธอสูงมาก ตอนแรกฉันยังคิดว่าเธอมีความสัมพันธ์อะไรกับเขาซะอีก ไม่คิดเลยว่าเธอจะเก่งขนาดนี้” หลิวเฉินกังพูดด้วยเสียงดัง

        “รอให้คณะแพทย์แผนปัจจุบันผ่าตัดเสร็จก่อนค่อยคุยกันเถอะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ทางฝั่งคณะแพทย์แผนปัจจุบันก็เข็นคนไข้ออกมาจากห้องผ่าตัด เห็นได้ชัดว่าฤทธิ์ยาชาผู้ป่วยยังไม่หมดไป ศีรษะของเหอโม่เปียกชุ่มเล็กน้อย การที่เป็นหมอผ่าตัดหลักด้วยตัวเองแบบนี้นั้น สำหรับเธอถือว่าสุดความสามารถแล้ว แต่ก็สามารถดูได้จากท่าทางของหวงฮั่นหลินว่าเขาพึงพอใจในลูกศิษย์คนนี้เป็นอย่างมาก

        “คณบดีหวง เป็นไงบ้างครับ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ

        “เสี่ยวเหอ เธอนั่งพักก่อนเถอะ ให้ฉันบอกอะไรกับทุกคนหน่อย” หวงฮั่นหลินเห็นว่าผู้ป่วยถูกยกเข้าไปในรถพยาบาลแล้ว เขาก็ยกยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อยพร้อมกับพูดด้วยเสียงดัง “การผ่าตัดในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื้องอกถูดตัดออกหมดแล้ว ไม่มีสารตกค้างเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วผู้ป่วยก็ได้ถูกส่งไปโรงพยาบาลประจำเมืองแล้ว เดี๋ยวรอให้ทางโรงพยาบาลมารายงานผลการผ่าตัด เหอโม่ นักศึกษาใหม่จากคณะแพทย์แผนปัจจุบันประสบความสำเร็จในการผ่าตัดในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ขอให้ทุกคนปรบมือให้เธอหน่อยครับ”

        เดิมทีคิดว่านักศึกษาคณะแพทย์แผนปัจจุบันจะปรบมือกันดังสนั่น ทว่าท่าทีของทุกคนกลับทำให้หวงฮั่นหลินรู้สึกแปลกๆ

        “ผู้ป่วยคณะแพทย์แผนโบราณล่ะ ทำไมไม่เห็นผู้ป่วยคณะนั้นเลย” หวงฮั่นหลินถามคนที่อยู่รอบข้าง

        “ผู้ป่วยคณะแพทย์แผนจีนก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลประจำเมืองครับ” เฉินเจี่ยตี้พูดเบาๆ นับตั้งแต่ที่เขาได้ยินพยาบาลพูดว่าเนื้องอกของเหล่าฟ่านได้หายไปหมดแล้ว ในใจของเขาก็รู้สึกเหมือนมีอาคารคณะแพทย์แผนปัจจุบันถล่มลงมายับเยิน

        “หลิวเฉินกัง เขาเป็นคนที่แกหามา นี่แกเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเหรอ พวกเราเป็นคนเรียนวิชาแพทย์กันทั้งนั้น แล้วแกก็มาให้เด็กนี่รักษาเนื้องอกให้ผู้ป่วย แกคิดได้ยังไง จรรยาบรรณแพทย์แกอยู่ไหนฮะ” หวงฮั่นหลินมองหลิวเฉินกังพร้อมกับตะคอกเสียงดัง หวงฮั่นหลินได้คิดคำตัดสินเอาไว้ในใจแล้วว่า ผู้ป่วยถูกส่งเข้าโรงพยาบาล คณะแพทย์แผนจีนเกิดอุบัติเหตุทางการรักษา

        “พูด พูดต่อสิ” หลิวเฉินกังพูดยิ้มๆ เขาไม่ได้โกรธอะไร

        “กะ…แกยังจะยิ้มออกอีกเหรอ คณะแพทย์แผนโบราณของพวกเธอไม่น่าอยู่ติดกับคณะแพทย์แผนปัจจุบันของเราเลย ช่างเป็นความอัปยศของวงการแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยอู่เฉิงแท้ๆ เจี่ยตี้ ไปบอกอาจารย์นักศึกษาในคณะให้หมดเลยนะว่าให้ทิ้งของในอาคารหมอเทพที่เกี่ยวของแพทย์แผนโบราณไปให้หมดเลย” หวงฮั่นหลินพูดเสียงดังลั่น

        “ท่านคณดีครับ ผู้ป่วยคนนั้นที่ถูกคณะแพทย์แผนโบราณรักษาหายดีแล้ว เพียงแค่ถูกส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลประจำเมืองครับ” เฉินเจี่ยตี้เห็นท่าทางบ้าคลั่งของหวงฮั่นหลินก็รีบดึงหวงฮั่นหลินมาพร้อมกับพูดขึ้น

        “เจี่ยตี้ ธะ…เธอว่าไงนะ ปะ…เป็นไปไม่ได้” เฉินเจี่ยตี้พูดเบาๆ ทว่าหวงฮั่นหลินกลับได้ยินชัดเต็มสองรูหู คณะแพทย์แผนโบราณรักษาผู้ป่วยหายแล้ว เป็นไปได้อย่างไรกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 118 ใครชนะรับผิดชอบ

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 118 ใครชนะรับผิดชอบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “เธอเก่งมากเลย เก่งซะจนฉันรู้สึกอยากจะรับเธอไว้เป็นศิษย์” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ รอให้เหล่าฟ่านกลับมาก่อน แล้วฉันจะบอกเธอเองว่าจะจัดการกับเนื้องอกยังไง ถ้าเธออยากเรียนการแพทย์แผนโบราณต่อ ฉันสามารถสอนให้เธอได้ทุกอย่างเลยนะ”

        “นายจะสอนฉันเหรอ เอาไว้ชนะพวกบ้าคณะแพทย์แผนปัจจุบันให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เหลิ่งซวงพูดยิ้มๆ ทุกคนต่างก็มีความภาคภูมิใจเป็นของตัวเอง กัวไฮว่มี เหลิ่งซวงเองก็มี

        “ไอ้น้องๆ ฉันรู้สึกสบายทั้งตัวมากเลย เธอจัดการเนื้องอกให้ฉันแล้วใช่ไหม” เหล่าฟ่านกลับมาจากข้างนอก ก็ทำเอาทุกคนตะลึงงันไป เหล่าฟ่านที่เดิมมีสีหน้าซีดเซียว แต่กลับมาดูมีชีวิตชีวาราวกับแต่งหน้ามาอย่างไรอย่างนั้น สีหน้าเขาดูแดงระเรื่อ ออร่าทั้งตัวไม่เหมือนกับเมื่อสักครู่แม้แต่น้อย

        “ดูท่าที่ฝังเข็มคราวนี้ได้ผลไม่เลวเลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เหล่าฟ่าน สภาพร่างกายคุณดีมากเลยนะครับ คุณควรจะทำงานใช้แรงสักหน่อย จะได้ฟื้นฟูได้ดี”

        “กัวไฮว่ ยามาแล้ว ให้ผู้ป่วยทานเลยไหม” ในขณะที่กัวไฮว่กับเหล่าฟ่านกำลังสนทนากันอยู่นั่นเอง หลิวเย่าซือก็ยกยาที่ต้มไว้ดีแล้วเดินเข้ามา

        “กินตอนที่มันร้อนนะครับ แล้วผมจะสั่งยาให้คุณอีก คุณไปเอายาที่ร้านยามานะ แล้วก็ไปหาหมอที่ชื่อไป๋มู่เซิงตรงถนนซิ่งหลิน ให้เขาจัดยาให้ เขานิสัยไม่แย่เลยล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “กัวไฮว่ เธอรักษาเสร็จแล้วใช่ไหม” หลิวชิงเจิงเห็นว่าทางฝั่งสมาคมยาจีนครื้นเครงกันก็เดินเข้ามาถามขึ้นยิ้มๆ

        “เบื้องต้นเรียบร้อยแล้วครับ ระยะหลังยังต้องกินยาจีนรักษาร่างกายให้คงที่ หัวหน้าหลิวมีอะไรหรือเปล่าครับ” กัวไฮว่ถามยิ้มๆ หลิวชิงเจิงผู้ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เป็นคนดีไม่เลว

        “งั้นพวกเราให้เหล่าฟ่านตรวจอาการอีกรอบเพื่อดูผลการรักษาของเธอในครั้งนี้ได้ไหม ในเมื่อเดี๋ยวก็ต้องตัดสินแพ้ชนะ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ

        “งั้นก็ตรวจเลยครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เหล่าฟ่าน ให้หัวหน้าหลิวตรวจคุณหน่อยสิ อันนี้ฟรีนะ ฮ่าๆ”

        หลิวชิงเจิงมองเหล่าฟ่านแวบหนึ่งจากนั้นก็มองกัวไฮว่ เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ยิ่งน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเขาทำให้เนื้องอกหายไปด้วยการฝังเข็มจริงๆ นั่นก็เป็นปาฏิหาริย์แห่งวงการแพทย์แล้ว

        “หัวหน้าหลิว คุณมาดูหน่อยสิ เนื้องอกในตัวคนไข้หายไปหมดแล้ว หมดจดด้วย” พยาบาลที่เอกซ์เรย์ให้เหล่าฟ่านพูดด้วยเสียงดัง หลิวชิงเจิงเลยวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วอย่างกับบินไป

        “ตรวจเหล่าฟ่านทุกรายการเลยนะ” หลิวชิงเจิงพูดด้วยความตื่นเต้น “ไม่สิ เหล่าฟ่านต้องตามพวกเราไปโรงพยาบาล เสี่ยวหมิ่น คุณพาเหล่าฟ่านกลับไปตรวจทุกรายการเลยนะ เดี๋ยวผมจะตามไปทีหลัง”

        ในขณะนี้ท่าทางที่หลิวชิงเจิงมองกัวไฮว่นั้นแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่ใช่คน เกรงว่าจะมีแค่เทพเซียนเท่านั้นแหละที่จะจัดการเนื้องอกได้แบบนี้

        “คณบดีหลิว คุณกลับมาแล้วเหรอ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ กลิ่นยาบนตัวของหลิวเฉินกังสะพัดไปเป็นระลอกๆ เป็นไปได้ว่ายาที่เย่าซือนำกลับมาหลิวเฉินกังเป็นคนต้มเอง

        “เป็นไง แล้วผู้ป่วยของคณะแพทย์แผนโบราณคนนั้นล่ะ” หลิวเฉินกังกวาดสายตามองรอบหนึ่งก่อนจะถามขึ้นด้วยความกังวลใจ

        “คุณปู่ เขาถูกส่งเข้าโรงพยาบาลค่ะ” หลิวเย่าซือพูดเบาๆ

        “เป็นไปไม่ได้ จะเป็นไปได้ยังไง เหล่าฉินไม่มีทางหลอกฉัน ถึงเสี่ยวไฮว่รักษาไม่ได้แต่คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอกมั้ง” หลิวเฉินกังพูดขึ้นด้วยความตระหนก “เขาไม่เป็นไรใช่ไหม เดี๋ยวฉันไปดูที่โรงพยาบาล”

        “ผมว่าคณบดีหลิวคิดมากไปแล้วล่ะครับ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ “เนื้องอกผู้ป่วยหายไปหมดแล้ว ผมให้พยาบาลพาเข้ากลับไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้ครบทุกด้าน นักศึกษาใหม่ของคณะแพทย์แผนโบราณของพวกคุณนี่เก่งมากเลยนะ ไม่ทราบว่าคณบดีหลิวเจอเขาจากที่ไหนเหรอ ผมอยากดูหน่อยว่าให้เขามาพูดคุยกันที่โรงพยาบาลประจำเมืองได้หรือเปล่า”

        “แค่กๆๆ ตกใจแทบแย่” หลิวเฉินกังกระแอมไอสองสามครั้งก่อนจะพูดขึ้น “เมื่อกี้เธอว่าไงนะ เสี่ยวหลิว เธอว่าเนื้องอกในตัวผู้ป่วยหายไปหมดเหรอ ปะ…เป็นไปไม่ได้ ปกติแล้วการรักษาแบบแพทย์แผนโบราณจะค่อนข้างช้า จะหายไปหมดในเวลาไม่นานได้ยังไงกัน อุปกรณ์ของพวกคุณมีปัญหาหรือเปล่า”

        “ท่านคณบดีหลิว คุณไม่เชื่อผมหรือว่าไม่เชื่อในการแพทย์แผนโบราณกันแน่ หัวหน้าหลิวก็บอกแล้วนี่ว่าหายไปแต่คุณกลับไม่เชื่อ คุณไปคุยกับนักศึกษาแล้วก็อาจารย์คณะแพทย์แผนโบราณเถอะว่าจะใช้อาคารหมอเทพกันยังไงดี” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “พ่อหนุ่ม เธอทำได้ยังไงกัน เราไปคุยกันในห้องเถอะ ปะ…เป็นไปไม่ได้ เหล่าฉินบอกแค่ว่าทักษะทางการแพทย์เธอสูงมาก ตอนแรกฉันยังคิดว่าเธอมีความสัมพันธ์อะไรกับเขาซะอีก ไม่คิดเลยว่าเธอจะเก่งขนาดนี้” หลิวเฉินกังพูดด้วยเสียงดัง

        “รอให้คณะแพทย์แผนปัจจุบันผ่าตัดเสร็จก่อนค่อยคุยกันเถอะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ทางฝั่งคณะแพทย์แผนปัจจุบันก็เข็นคนไข้ออกมาจากห้องผ่าตัด เห็นได้ชัดว่าฤทธิ์ยาชาผู้ป่วยยังไม่หมดไป ศีรษะของเหอโม่เปียกชุ่มเล็กน้อย การที่เป็นหมอผ่าตัดหลักด้วยตัวเองแบบนี้นั้น สำหรับเธอถือว่าสุดความสามารถแล้ว แต่ก็สามารถดูได้จากท่าทางของหวงฮั่นหลินว่าเขาพึงพอใจในลูกศิษย์คนนี้เป็นอย่างมาก

        “คณบดีหวง เป็นไงบ้างครับ” หลิวชิงเจิงพูดยิ้มๆ

        “เสี่ยวเหอ เธอนั่งพักก่อนเถอะ ให้ฉันบอกอะไรกับทุกคนหน่อย” หวงฮั่นหลินเห็นว่าผู้ป่วยถูกยกเข้าไปในรถพยาบาลแล้ว เขาก็ยกยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อยพร้อมกับพูดด้วยเสียงดัง “การผ่าตัดในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื้องอกถูดตัดออกหมดแล้ว ไม่มีสารตกค้างเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วผู้ป่วยก็ได้ถูกส่งไปโรงพยาบาลประจำเมืองแล้ว เดี๋ยวรอให้ทางโรงพยาบาลมารายงานผลการผ่าตัด เหอโม่ นักศึกษาใหม่จากคณะแพทย์แผนปัจจุบันประสบความสำเร็จในการผ่าตัดในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ขอให้ทุกคนปรบมือให้เธอหน่อยครับ”

        เดิมทีคิดว่านักศึกษาคณะแพทย์แผนปัจจุบันจะปรบมือกันดังสนั่น ทว่าท่าทีของทุกคนกลับทำให้หวงฮั่นหลินรู้สึกแปลกๆ

        “ผู้ป่วยคณะแพทย์แผนโบราณล่ะ ทำไมไม่เห็นผู้ป่วยคณะนั้นเลย” หวงฮั่นหลินถามคนที่อยู่รอบข้าง

        “ผู้ป่วยคณะแพทย์แผนจีนก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลประจำเมืองครับ” เฉินเจี่ยตี้พูดเบาๆ นับตั้งแต่ที่เขาได้ยินพยาบาลพูดว่าเนื้องอกของเหล่าฟ่านได้หายไปหมดแล้ว ในใจของเขาก็รู้สึกเหมือนมีอาคารคณะแพทย์แผนปัจจุบันถล่มลงมายับเยิน

        “หลิวเฉินกัง เขาเป็นคนที่แกหามา นี่แกเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเหรอ พวกเราเป็นคนเรียนวิชาแพทย์กันทั้งนั้น แล้วแกก็มาให้เด็กนี่รักษาเนื้องอกให้ผู้ป่วย แกคิดได้ยังไง จรรยาบรรณแพทย์แกอยู่ไหนฮะ” หวงฮั่นหลินมองหลิวเฉินกังพร้อมกับตะคอกเสียงดัง หวงฮั่นหลินได้คิดคำตัดสินเอาไว้ในใจแล้วว่า ผู้ป่วยถูกส่งเข้าโรงพยาบาล คณะแพทย์แผนจีนเกิดอุบัติเหตุทางการรักษา

        “พูด พูดต่อสิ” หลิวเฉินกังพูดยิ้มๆ เขาไม่ได้โกรธอะไร

        “กะ…แกยังจะยิ้มออกอีกเหรอ คณะแพทย์แผนโบราณของพวกเธอไม่น่าอยู่ติดกับคณะแพทย์แผนปัจจุบันของเราเลย ช่างเป็นความอัปยศของวงการแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยอู่เฉิงแท้ๆ เจี่ยตี้ ไปบอกอาจารย์นักศึกษาในคณะให้หมดเลยนะว่าให้ทิ้งของในอาคารหมอเทพที่เกี่ยวของแพทย์แผนโบราณไปให้หมดเลย” หวงฮั่นหลินพูดเสียงดังลั่น

        “ท่านคณดีครับ ผู้ป่วยคนนั้นที่ถูกคณะแพทย์แผนโบราณรักษาหายดีแล้ว เพียงแค่ถูกส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลประจำเมืองครับ” เฉินเจี่ยตี้เห็นท่าทางบ้าคลั่งของหวงฮั่นหลินก็รีบดึงหวงฮั่นหลินมาพร้อมกับพูดขึ้น

        “เจี่ยตี้ ธะ…เธอว่าไงนะ ปะ…เป็นไปไม่ได้” เฉินเจี่ยตี้พูดเบาๆ ทว่าหวงฮั่นหลินกลับได้ยินชัดเต็มสองรูหู คณะแพทย์แผนโบราณรักษาผู้ป่วยหายแล้ว เป็นไปได้อย่างไรกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+