[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 45 การคัดเลือกแข่งวิชาการ (3)

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 45 การคัดเลือกแข่งวิชาการ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “คุณครูเจี่ย พวกขี้โกง โรงเรียนเรานี่กล้าโกงกันขนาดนี้เลยเหรอ” ฉินอวี้หลงลุกขึ้นมาจากนั้นก็ส่งเสียงดังถามไปทางเวที

        กัวไฮว่ได้ที่หนึ่งเป็นไปได้อย่างไรกัน กัวไฮว่เป็นคนอย่างไรทั้งโรงเรียนก็รู้ดี สี่ตัวอันตรายไม่เรียนแถมยังไม่มีวิชาความรู้อีก จะได้ที่หนึ่งในรอบแรกของการคัดเลือกผู้แข่งขันวิชาการได้อย่างไรกัน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ากัวไฮว่เข้ารอบที่สองไปนั่นก็หมายความว่าเงินพนันในเว็บบอร์ดจาก 13 ร้อยล้านก็จะเปลี่ยนเป็น 3 ร้อยล้าน

        “ทำเสร็จร้อยข้อในเวลาไม่ถึงสิบนาที ก็เสร็จหนึ่งข้อประมาณหกวินาที ข้อสอบก็ไม่ใช่แบบตัวเลือกไม่มีทางเป็นไปได้แน่” เฉียวมู่พูดเสียงดังอยู่ที่ล่างเวที

        “ฮ่าๆ หลี่สวินอวี้ นายจะไม่ออกมาอธิบายหน่อยเหรอ หรือว่ากัวไฮว่นี่จะเป็นลูกนอกสมรสของแกถึงได้ปกป้องเขาท่ามกล่างฝูงชนแบบนี้ ฮ่าๆ” ผอ.โรงเรียนอี้จงพูดหัวเราะเสียงดัง

        “เจี่ยอวิ๋นเทาแกแน่ใจแล้วใช่ไหม” หลี่สวินอวี้ถลึงตาถามเจี่ยอวิ๋นเทาเสียงดัง

        “หัวหน้าเจี่ย ให้ฉันอธิบายกับทุกคนหน่อยเถอะค่ะ” หลินซวงเห็นคนล่างเวทีตะโกนถามเสียงดังเป็นระลอกๆ ก็เชื่อมต่อโน้ตบุ๊กของกัวไฮว่เข้ากับจอใหญ่

        “ทุกคนโปรดอยู่ในความสงบนะคะ ขอฉันชี้แจงหน่อยว่าทำไมผลคะแนนกัวไฮว่ถึงเป็น 9 นาที 48 วินาที” หลินซวงพูดยิ้มๆ

        “คุณครูคนสวย พวกเรารู้นะว่ากัวไฮว่เป็นนักเรียนในห้องครูน่ะ แต่ครูจะปกป้องเขาด้วยไม่ได้นะ” เจี่ยเปินเปินพูดเสียงดัง

        “พอพวกเธอฟังฉันพูดจบ ถ้ายังมีข้อสงสัยอีกก็เสนอมาอีกได้” หลินซวงพูดยิ้มๆ “ทุกคนโปรดดูนะคะ ในเวลาไม่ถึงสามนาที กัวไฮว่ทำเสร็จไปทั้งหมด 3128 ข้อ เมื่อกี้เมื่อใช้ระบบตรวจสอบแล้วตอบถูกไป 3124 ข้อ ตอบผิดไปสี่ข้อ ฉะนั้นจากคะแนนโดยเฉลี่ยแล้วเวลาที่กัวไฮว่ใช้ไปคือ 9 นาที 48 วินาที”

        “ครูหลิน ครูคำนวณแบบนี้ไม่ถูกนะ คะแนนพาร์ทต้องตอบรอบแรกคำนวณมาจากหนึ่งร้อยข้อแรก ครูจะมาคิดจากคะแนนเฉลี่ยไม่ได้สิ” เจี่ยเปินเปินถามอย่างไม่อ้อมค้อม 13 ร้อยล้านไม่นานก็เปลี่ยนเป็น 3 ร้อยล้าน หารกันแล้วตกคนละยี่สิบห้าล้าน เป็นใครก็ทนไม่ได้ทั้งนั้นแหละ

        “นี่นักเรียน ถ้าเธออยากดูระดับคะแนนหนึ่งร้อยข้อแรกเธอก็มาดูตรงนี้ ได้ 8 นาที 32 วินาที ไม่ผิดสักข้อยังมีอะไรสงสัยอีกไหม” หลินซวงพูดยิ้มๆ ก่อนจะมองกัวไฮว่ผู้ไม่สนใจอะไรเลยแวบหนึ่ง เด็กนี่ดันคุยสนุกอยู่กับเด็กสาวที่เป็นอาสาสมัคร น่าโมโหจนปากเบ้

        “คำถามล่ะ คำถามของคนพวกนี้ยาก แต่คำถามของกัวไฮว่ง่าย น่าจะเป็นแบบนี้แน่ๆ” เจี่ยเปินเปินพูดเสียงดังอีกครั้งหนึ่ง สำหรับเขาแล้ว คำถามที่วิ่งอยู่บนหน้าจอตัวเขาเองตอบได้แค่ประมาณสามในสิบ เขาไม่เชื่อหรอกว่าลูกคนรวยอย่างกัวไฮว่จะตอบได้เยอะกว่าตนเอง ต้องมีปัญหากับคำถามแน่

        “นี่เป็นคำถามเมื่อกี้ของกัวไฮว่ ขอให้ทุกคนดูบนจอใหญ่ด้วยค่ะ นักเรียนเก่งๆ กับผอ.โรงเรียนอื่นก็อยู่ที่นี่ด้วย พวกคุณดูได้เลยว่าคำถามนี่ง่ายกว่ายี่สิบเจ็ดคนเมื่อกี้หรือเปล่า” หลินซวงนำคำถามที่กัวไฮว่ตอบเสร็จทั้งสามพันกว่าข้อแสดงขึ้นบนหน้าจอทีละข้อ

        “ตาแก่หลี่ คำถามที่นักเรียนคนนี้ตอบไม่มีปัญหาอะไร พวกคุณต่อได้เลย ยินดีกับพวกคุณด้วยนะ ไม่คิดว่าเลยว่าโรงเรียนฟู่จงจะซ่อนผู้เข้าแข่งขันแบบนี้เอาไว้ หลี่สวินอวี้สุดยอด แกสุดยอดเลยจริงๆ”

        “ยายหนูหลิน ลงมาเถอะ เริ่มการแข่งรอบสองได้เลย” เมื่อเห็นท่าทีเสียเปรียบของเหล่าผอ.ที่อยู่ด้านหลัง ในใจก็คิดว่าสวยแล้ว สี่ตัวอันตรายจะเป็นใครใครก็ไม่กล้า แต่พวกแกก็เห็นแล้วสินะ มีอัจฉริยะที่โรงเรียนฟู่จงของเราแล้วล่ะ

        “รอบที่สองเป็นการแข่งกันตอบสองร้อยข้อ บนจอจะแสดงคำถามนักเรียนที่รู้คำตอบก็กดปุ่มแย่งตอบได้เลย ทุกคนมีคะแนนอยู่หนึ่งร้อยคะแนน ตอบถูกเพิ่มสามคะแนนตอบผิดหักสามคะแนน เมื่อเสร็จทั้งสองร้อยข้อก็คิดคะแนนรวมสิบสี่รายชื่อแรกก็เข้ารอบที่สามไป” พิธีกรพูดเสียงดัง

        “หนึ่งปีแสงยาวเท่าไหร่”

        “9600 ร้อยล้านกิโลเมตร”

        “เมื่อคนถูกตะปูแทงทะลุเท้า การฉีดวัคซีนบาดทะยักช่วยป้องกันโรคบาดทะยักได้ วัคฉีนชนิดนี้มาจากอะไร”

        “ระบบภูมิคุ้มกันมนุษย์”

        “ทำไมในตลาดถึงไม่มีปลาดาบเงินเป็นๆ ขาย”

        “เพราะปลาดาบเงินตายโดยทันทีเมื่อถูกจับขึ้นมาจากการแรงกดดันจำนวนมาก”

        “ในอวัยวะเกี่ยวกับความรู้สึกของสัตว์จำพวกนก อวัยวะใดเสื่อมสภาพเร็วที่สุด”

        “การดมกลิ่น”

        “ผู้เขียนหนังสือการปกครองยุคใกล้เรื่องเจ้าผู้ปกครองคือใคร”

        “มาเคียเวลลีชาวอิตาลี”

        “สามนิทานสองนิยายหมายถึงอะไร”

        “สามนิทานคือ หนังสือเรื่องเรื่องเก่าและใหม่ เรื่องราวเตือนโลกและเรื่องราวปลุกโลก ส่วนสองนิยายก็คือเรื่องตบโต๊ะด้วยความตื่นเต้นเล่มหนึ่งและเรื่องตบโต๊ะด้วยความตื่นเต้นเล่มสอง”

        “งิ้วสมัยราชวงศ์หยวนสี่เรื่องดังที่เกี่ยวกับความรักมีเรื่องอะไรบ้าง”

        “เรื่องไหว้ศาลาจันทราของกวนฮั่นชิง เรื่องบันทึกหอตะวันตกของหวังสื่อฝู่ เรื่องม้าบนสันกำแพงของไป๋ตู้ และเรื่องวิญญาณลี้หญิงสาวของเจิ้งกวงจู่”

        คำถามร้อยข้อแรกนอกจากที่มีมู่หรงเวยเวยแย่งตอบแล้วก็มีหนานกงหลิงโม่แย่งตอบสามข้อ ถังซีแย่งตอบหนึ่งข้อซูเยี่ยแยกตอบหนึ่งข้อคำถามอีก 92 ข้อก็เหมือนกับว่าพิธีกรกับกัวไฮว่คนหนึ่งถามคนหนึ่งตอบสิ้นสุดคำถามหนึ่งร้อยข้อแรก

        “อะแฮ่มๆ ร้อยคำถามที่เหลือ กัวไฮว่เธอไม่ต้องตอบแล้วฉันขอประกาศให้เธอผ่านรอบสอง”เมื่อหนึ่งร้อยคำถามแรกจบลงแล้วกัวไฮว่ 376 คะแนนหนานกงหลิงโม่ 109 ซูเยี่ยกับถังซีได้ 100 คะแนนส่วนคนอื่นๆ ได้ 100

        ทั่วทั้งหอประชุมตะลึงงัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หนึ่งร้อยปีของโรงเรียนฟู่จง 

        “ในเมื่อให้ผมเข้ารอบที่สอง คำถามที่เหลือผมไม่ยุ่งแล้วนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ จากนั้นก็ไปนั่งบนเก้าอี้ค่อยๆ หลับตาต่อหน้าคนทั้งหมด

        “ฮึ ตาบ้า ใช้พลังวิเศษแน่นอนเลย” หนานกงหลิงโม่บ่นพึมพำอย่างไม่ได้แยแส

        “หากการแข่งขันแบบนี้ใช้พลังวิเศษล่ะก็ เธอดูถูกฉันไปแล้วนะ” เมื่อหนานกงหลิงโม่พูดจบ ก็พบว่ากัวไฮว่ก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขายิ้มพลางหรี่ตามองตนเองเสียงเสียงหนึ่งปรากฏแจ่มชัดอยู่ในสมองของตนเอง

        “ฮ่าๆ พี่ไฮว่สู้ๆ ไม่ว่าผลคะแนนสุดท้ายของพี่จะเป็นยังไง พี่ก็เป็นไอดอลของผม คราวหลังผมไม่เล่น LOL แล้ว ผมจะอยู่กับพี่” เด็กแว่นมองเด็กหนุ่มที่หัวเราะเยาะตนจากนั้นก็ตะโกนเสียงดัง

        “เจ้าสามรีบมาหอประชุมฟู่จงด่วนเลย มาช้าแกจะไม่ได้เห็นนะ” เจี่ยหยวนโทรหาหวังเซิงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจว่า “ประชุมกับผีสิ รีบมาดูเจ้าสี่เร็ว บ้าเอ๊ย รู้งี้ฉันรถชนบ้างดีกว่า”

        “เจ้าสี่ ถ้าหมอนี่ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนฟู่จงไปแข่งแล้วก็ได้ที่หนึ่ง พวกเราต้องเสียเงินเท่าไหร่นะ” เจี่ยเปินเปินมองฉินอวี้หลงที่หน้าซีดเผือดแล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบา

        “ร้อยล้าน อย่างน้อยพวกเราเสียร้อยล้าน ต่อให้เอาทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเราทั้งสี่ตระกูลไปถมก็คงไม่พอ” ฉินอวี้หลงส่ายพูดขึ้นพลางส่ายศีรษะ

         

 

                                                 ————————

                  อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                 https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 45 การคัดเลือกแข่งวิชาการ (3)

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 45 การคัดเลือกแข่งวิชาการ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “คุณครูเจี่ย พวกขี้โกง โรงเรียนเรานี่กล้าโกงกันขนาดนี้เลยเหรอ” ฉินอวี้หลงลุกขึ้นมาจากนั้นก็ส่งเสียงดังถามไปทางเวที

        กัวไฮว่ได้ที่หนึ่งเป็นไปได้อย่างไรกัน กัวไฮว่เป็นคนอย่างไรทั้งโรงเรียนก็รู้ดี สี่ตัวอันตรายไม่เรียนแถมยังไม่มีวิชาความรู้อีก จะได้ที่หนึ่งในรอบแรกของการคัดเลือกผู้แข่งขันวิชาการได้อย่างไรกัน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ากัวไฮว่เข้ารอบที่สองไปนั่นก็หมายความว่าเงินพนันในเว็บบอร์ดจาก 13 ร้อยล้านก็จะเปลี่ยนเป็น 3 ร้อยล้าน

        “ทำเสร็จร้อยข้อในเวลาไม่ถึงสิบนาที ก็เสร็จหนึ่งข้อประมาณหกวินาที ข้อสอบก็ไม่ใช่แบบตัวเลือกไม่มีทางเป็นไปได้แน่” เฉียวมู่พูดเสียงดังอยู่ที่ล่างเวที

        “ฮ่าๆ หลี่สวินอวี้ นายจะไม่ออกมาอธิบายหน่อยเหรอ หรือว่ากัวไฮว่นี่จะเป็นลูกนอกสมรสของแกถึงได้ปกป้องเขาท่ามกล่างฝูงชนแบบนี้ ฮ่าๆ” ผอ.โรงเรียนอี้จงพูดหัวเราะเสียงดัง

        “เจี่ยอวิ๋นเทาแกแน่ใจแล้วใช่ไหม” หลี่สวินอวี้ถลึงตาถามเจี่ยอวิ๋นเทาเสียงดัง

        “หัวหน้าเจี่ย ให้ฉันอธิบายกับทุกคนหน่อยเถอะค่ะ” หลินซวงเห็นคนล่างเวทีตะโกนถามเสียงดังเป็นระลอกๆ ก็เชื่อมต่อโน้ตบุ๊กของกัวไฮว่เข้ากับจอใหญ่

        “ทุกคนโปรดอยู่ในความสงบนะคะ ขอฉันชี้แจงหน่อยว่าทำไมผลคะแนนกัวไฮว่ถึงเป็น 9 นาที 48 วินาที” หลินซวงพูดยิ้มๆ

        “คุณครูคนสวย พวกเรารู้นะว่ากัวไฮว่เป็นนักเรียนในห้องครูน่ะ แต่ครูจะปกป้องเขาด้วยไม่ได้นะ” เจี่ยเปินเปินพูดเสียงดัง

        “พอพวกเธอฟังฉันพูดจบ ถ้ายังมีข้อสงสัยอีกก็เสนอมาอีกได้” หลินซวงพูดยิ้มๆ “ทุกคนโปรดดูนะคะ ในเวลาไม่ถึงสามนาที กัวไฮว่ทำเสร็จไปทั้งหมด 3128 ข้อ เมื่อกี้เมื่อใช้ระบบตรวจสอบแล้วตอบถูกไป 3124 ข้อ ตอบผิดไปสี่ข้อ ฉะนั้นจากคะแนนโดยเฉลี่ยแล้วเวลาที่กัวไฮว่ใช้ไปคือ 9 นาที 48 วินาที”

        “ครูหลิน ครูคำนวณแบบนี้ไม่ถูกนะ คะแนนพาร์ทต้องตอบรอบแรกคำนวณมาจากหนึ่งร้อยข้อแรก ครูจะมาคิดจากคะแนนเฉลี่ยไม่ได้สิ” เจี่ยเปินเปินถามอย่างไม่อ้อมค้อม 13 ร้อยล้านไม่นานก็เปลี่ยนเป็น 3 ร้อยล้าน หารกันแล้วตกคนละยี่สิบห้าล้าน เป็นใครก็ทนไม่ได้ทั้งนั้นแหละ

        “นี่นักเรียน ถ้าเธออยากดูระดับคะแนนหนึ่งร้อยข้อแรกเธอก็มาดูตรงนี้ ได้ 8 นาที 32 วินาที ไม่ผิดสักข้อยังมีอะไรสงสัยอีกไหม” หลินซวงพูดยิ้มๆ ก่อนจะมองกัวไฮว่ผู้ไม่สนใจอะไรเลยแวบหนึ่ง เด็กนี่ดันคุยสนุกอยู่กับเด็กสาวที่เป็นอาสาสมัคร น่าโมโหจนปากเบ้

        “คำถามล่ะ คำถามของคนพวกนี้ยาก แต่คำถามของกัวไฮว่ง่าย น่าจะเป็นแบบนี้แน่ๆ” เจี่ยเปินเปินพูดเสียงดังอีกครั้งหนึ่ง สำหรับเขาแล้ว คำถามที่วิ่งอยู่บนหน้าจอตัวเขาเองตอบได้แค่ประมาณสามในสิบ เขาไม่เชื่อหรอกว่าลูกคนรวยอย่างกัวไฮว่จะตอบได้เยอะกว่าตนเอง ต้องมีปัญหากับคำถามแน่

        “นี่เป็นคำถามเมื่อกี้ของกัวไฮว่ ขอให้ทุกคนดูบนจอใหญ่ด้วยค่ะ นักเรียนเก่งๆ กับผอ.โรงเรียนอื่นก็อยู่ที่นี่ด้วย พวกคุณดูได้เลยว่าคำถามนี่ง่ายกว่ายี่สิบเจ็ดคนเมื่อกี้หรือเปล่า” หลินซวงนำคำถามที่กัวไฮว่ตอบเสร็จทั้งสามพันกว่าข้อแสดงขึ้นบนหน้าจอทีละข้อ

        “ตาแก่หลี่ คำถามที่นักเรียนคนนี้ตอบไม่มีปัญหาอะไร พวกคุณต่อได้เลย ยินดีกับพวกคุณด้วยนะ ไม่คิดว่าเลยว่าโรงเรียนฟู่จงจะซ่อนผู้เข้าแข่งขันแบบนี้เอาไว้ หลี่สวินอวี้สุดยอด แกสุดยอดเลยจริงๆ”

        “ยายหนูหลิน ลงมาเถอะ เริ่มการแข่งรอบสองได้เลย” เมื่อเห็นท่าทีเสียเปรียบของเหล่าผอ.ที่อยู่ด้านหลัง ในใจก็คิดว่าสวยแล้ว สี่ตัวอันตรายจะเป็นใครใครก็ไม่กล้า แต่พวกแกก็เห็นแล้วสินะ มีอัจฉริยะที่โรงเรียนฟู่จงของเราแล้วล่ะ

        “รอบที่สองเป็นการแข่งกันตอบสองร้อยข้อ บนจอจะแสดงคำถามนักเรียนที่รู้คำตอบก็กดปุ่มแย่งตอบได้เลย ทุกคนมีคะแนนอยู่หนึ่งร้อยคะแนน ตอบถูกเพิ่มสามคะแนนตอบผิดหักสามคะแนน เมื่อเสร็จทั้งสองร้อยข้อก็คิดคะแนนรวมสิบสี่รายชื่อแรกก็เข้ารอบที่สามไป” พิธีกรพูดเสียงดัง

        “หนึ่งปีแสงยาวเท่าไหร่”

        “9600 ร้อยล้านกิโลเมตร”

        “เมื่อคนถูกตะปูแทงทะลุเท้า การฉีดวัคซีนบาดทะยักช่วยป้องกันโรคบาดทะยักได้ วัคฉีนชนิดนี้มาจากอะไร”

        “ระบบภูมิคุ้มกันมนุษย์”

        “ทำไมในตลาดถึงไม่มีปลาดาบเงินเป็นๆ ขาย”

        “เพราะปลาดาบเงินตายโดยทันทีเมื่อถูกจับขึ้นมาจากการแรงกดดันจำนวนมาก”

        “ในอวัยวะเกี่ยวกับความรู้สึกของสัตว์จำพวกนก อวัยวะใดเสื่อมสภาพเร็วที่สุด”

        “การดมกลิ่น”

        “ผู้เขียนหนังสือการปกครองยุคใกล้เรื่องเจ้าผู้ปกครองคือใคร”

        “มาเคียเวลลีชาวอิตาลี”

        “สามนิทานสองนิยายหมายถึงอะไร”

        “สามนิทานคือ หนังสือเรื่องเรื่องเก่าและใหม่ เรื่องราวเตือนโลกและเรื่องราวปลุกโลก ส่วนสองนิยายก็คือเรื่องตบโต๊ะด้วยความตื่นเต้นเล่มหนึ่งและเรื่องตบโต๊ะด้วยความตื่นเต้นเล่มสอง”

        “งิ้วสมัยราชวงศ์หยวนสี่เรื่องดังที่เกี่ยวกับความรักมีเรื่องอะไรบ้าง”

        “เรื่องไหว้ศาลาจันทราของกวนฮั่นชิง เรื่องบันทึกหอตะวันตกของหวังสื่อฝู่ เรื่องม้าบนสันกำแพงของไป๋ตู้ และเรื่องวิญญาณลี้หญิงสาวของเจิ้งกวงจู่”

        คำถามร้อยข้อแรกนอกจากที่มีมู่หรงเวยเวยแย่งตอบแล้วก็มีหนานกงหลิงโม่แย่งตอบสามข้อ ถังซีแย่งตอบหนึ่งข้อซูเยี่ยแยกตอบหนึ่งข้อคำถามอีก 92 ข้อก็เหมือนกับว่าพิธีกรกับกัวไฮว่คนหนึ่งถามคนหนึ่งตอบสิ้นสุดคำถามหนึ่งร้อยข้อแรก

        “อะแฮ่มๆ ร้อยคำถามที่เหลือ กัวไฮว่เธอไม่ต้องตอบแล้วฉันขอประกาศให้เธอผ่านรอบสอง”เมื่อหนึ่งร้อยคำถามแรกจบลงแล้วกัวไฮว่ 376 คะแนนหนานกงหลิงโม่ 109 ซูเยี่ยกับถังซีได้ 100 คะแนนส่วนคนอื่นๆ ได้ 100

        ทั่วทั้งหอประชุมตะลึงงัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หนึ่งร้อยปีของโรงเรียนฟู่จง 

        “ในเมื่อให้ผมเข้ารอบที่สอง คำถามที่เหลือผมไม่ยุ่งแล้วนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ จากนั้นก็ไปนั่งบนเก้าอี้ค่อยๆ หลับตาต่อหน้าคนทั้งหมด

        “ฮึ ตาบ้า ใช้พลังวิเศษแน่นอนเลย” หนานกงหลิงโม่บ่นพึมพำอย่างไม่ได้แยแส

        “หากการแข่งขันแบบนี้ใช้พลังวิเศษล่ะก็ เธอดูถูกฉันไปแล้วนะ” เมื่อหนานกงหลิงโม่พูดจบ ก็พบว่ากัวไฮว่ก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขายิ้มพลางหรี่ตามองตนเองเสียงเสียงหนึ่งปรากฏแจ่มชัดอยู่ในสมองของตนเอง

        “ฮ่าๆ พี่ไฮว่สู้ๆ ไม่ว่าผลคะแนนสุดท้ายของพี่จะเป็นยังไง พี่ก็เป็นไอดอลของผม คราวหลังผมไม่เล่น LOL แล้ว ผมจะอยู่กับพี่” เด็กแว่นมองเด็กหนุ่มที่หัวเราะเยาะตนจากนั้นก็ตะโกนเสียงดัง

        “เจ้าสามรีบมาหอประชุมฟู่จงด่วนเลย มาช้าแกจะไม่ได้เห็นนะ” เจี่ยหยวนโทรหาหวังเซิงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจว่า “ประชุมกับผีสิ รีบมาดูเจ้าสี่เร็ว บ้าเอ๊ย รู้งี้ฉันรถชนบ้างดีกว่า”

        “เจ้าสี่ ถ้าหมอนี่ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนฟู่จงไปแข่งแล้วก็ได้ที่หนึ่ง พวกเราต้องเสียเงินเท่าไหร่นะ” เจี่ยเปินเปินมองฉินอวี้หลงที่หน้าซีดเผือดแล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบา

        “ร้อยล้าน อย่างน้อยพวกเราเสียร้อยล้าน ต่อให้เอาทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเราทั้งสี่ตระกูลไปถมก็คงไม่พอ” ฉินอวี้หลงส่ายพูดขึ้นพลางส่ายศีรษะ

         

 

                                                 ————————

                  อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                 https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 45 การคัดเลือกแข่งวิชาการ (3)

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 45 การคัดเลือกแข่งวิชาการ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “คุณครูเจี่ย พวกขี้โกง โรงเรียนเรานี่กล้าโกงกันขนาดนี้เลยเหรอ” ฉินอวี้หลงลุกขึ้นมาจากนั้นก็ส่งเสียงดังถามไปทางเวที

        กัวไฮว่ได้ที่หนึ่งเป็นไปได้อย่างไรกัน กัวไฮว่เป็นคนอย่างไรทั้งโรงเรียนก็รู้ดี สี่ตัวอันตรายไม่เรียนแถมยังไม่มีวิชาความรู้อีก จะได้ที่หนึ่งในรอบแรกของการคัดเลือกผู้แข่งขันวิชาการได้อย่างไรกัน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ากัวไฮว่เข้ารอบที่สองไปนั่นก็หมายความว่าเงินพนันในเว็บบอร์ดจาก 13 ร้อยล้านก็จะเปลี่ยนเป็น 3 ร้อยล้าน

        “ทำเสร็จร้อยข้อในเวลาไม่ถึงสิบนาที ก็เสร็จหนึ่งข้อประมาณหกวินาที ข้อสอบก็ไม่ใช่แบบตัวเลือกไม่มีทางเป็นไปได้แน่” เฉียวมู่พูดเสียงดังอยู่ที่ล่างเวที

        “ฮ่าๆ หลี่สวินอวี้ นายจะไม่ออกมาอธิบายหน่อยเหรอ หรือว่ากัวไฮว่นี่จะเป็นลูกนอกสมรสของแกถึงได้ปกป้องเขาท่ามกล่างฝูงชนแบบนี้ ฮ่าๆ” ผอ.โรงเรียนอี้จงพูดหัวเราะเสียงดัง

        “เจี่ยอวิ๋นเทาแกแน่ใจแล้วใช่ไหม” หลี่สวินอวี้ถลึงตาถามเจี่ยอวิ๋นเทาเสียงดัง

        “หัวหน้าเจี่ย ให้ฉันอธิบายกับทุกคนหน่อยเถอะค่ะ” หลินซวงเห็นคนล่างเวทีตะโกนถามเสียงดังเป็นระลอกๆ ก็เชื่อมต่อโน้ตบุ๊กของกัวไฮว่เข้ากับจอใหญ่

        “ทุกคนโปรดอยู่ในความสงบนะคะ ขอฉันชี้แจงหน่อยว่าทำไมผลคะแนนกัวไฮว่ถึงเป็น 9 นาที 48 วินาที” หลินซวงพูดยิ้มๆ

        “คุณครูคนสวย พวกเรารู้นะว่ากัวไฮว่เป็นนักเรียนในห้องครูน่ะ แต่ครูจะปกป้องเขาด้วยไม่ได้นะ” เจี่ยเปินเปินพูดเสียงดัง

        “พอพวกเธอฟังฉันพูดจบ ถ้ายังมีข้อสงสัยอีกก็เสนอมาอีกได้” หลินซวงพูดยิ้มๆ “ทุกคนโปรดดูนะคะ ในเวลาไม่ถึงสามนาที กัวไฮว่ทำเสร็จไปทั้งหมด 3128 ข้อ เมื่อกี้เมื่อใช้ระบบตรวจสอบแล้วตอบถูกไป 3124 ข้อ ตอบผิดไปสี่ข้อ ฉะนั้นจากคะแนนโดยเฉลี่ยแล้วเวลาที่กัวไฮว่ใช้ไปคือ 9 นาที 48 วินาที”

        “ครูหลิน ครูคำนวณแบบนี้ไม่ถูกนะ คะแนนพาร์ทต้องตอบรอบแรกคำนวณมาจากหนึ่งร้อยข้อแรก ครูจะมาคิดจากคะแนนเฉลี่ยไม่ได้สิ” เจี่ยเปินเปินถามอย่างไม่อ้อมค้อม 13 ร้อยล้านไม่นานก็เปลี่ยนเป็น 3 ร้อยล้าน หารกันแล้วตกคนละยี่สิบห้าล้าน เป็นใครก็ทนไม่ได้ทั้งนั้นแหละ

        “นี่นักเรียน ถ้าเธออยากดูระดับคะแนนหนึ่งร้อยข้อแรกเธอก็มาดูตรงนี้ ได้ 8 นาที 32 วินาที ไม่ผิดสักข้อยังมีอะไรสงสัยอีกไหม” หลินซวงพูดยิ้มๆ ก่อนจะมองกัวไฮว่ผู้ไม่สนใจอะไรเลยแวบหนึ่ง เด็กนี่ดันคุยสนุกอยู่กับเด็กสาวที่เป็นอาสาสมัคร น่าโมโหจนปากเบ้

        “คำถามล่ะ คำถามของคนพวกนี้ยาก แต่คำถามของกัวไฮว่ง่าย น่าจะเป็นแบบนี้แน่ๆ” เจี่ยเปินเปินพูดเสียงดังอีกครั้งหนึ่ง สำหรับเขาแล้ว คำถามที่วิ่งอยู่บนหน้าจอตัวเขาเองตอบได้แค่ประมาณสามในสิบ เขาไม่เชื่อหรอกว่าลูกคนรวยอย่างกัวไฮว่จะตอบได้เยอะกว่าตนเอง ต้องมีปัญหากับคำถามแน่

        “นี่เป็นคำถามเมื่อกี้ของกัวไฮว่ ขอให้ทุกคนดูบนจอใหญ่ด้วยค่ะ นักเรียนเก่งๆ กับผอ.โรงเรียนอื่นก็อยู่ที่นี่ด้วย พวกคุณดูได้เลยว่าคำถามนี่ง่ายกว่ายี่สิบเจ็ดคนเมื่อกี้หรือเปล่า” หลินซวงนำคำถามที่กัวไฮว่ตอบเสร็จทั้งสามพันกว่าข้อแสดงขึ้นบนหน้าจอทีละข้อ

        “ตาแก่หลี่ คำถามที่นักเรียนคนนี้ตอบไม่มีปัญหาอะไร พวกคุณต่อได้เลย ยินดีกับพวกคุณด้วยนะ ไม่คิดว่าเลยว่าโรงเรียนฟู่จงจะซ่อนผู้เข้าแข่งขันแบบนี้เอาไว้ หลี่สวินอวี้สุดยอด แกสุดยอดเลยจริงๆ”

        “ยายหนูหลิน ลงมาเถอะ เริ่มการแข่งรอบสองได้เลย” เมื่อเห็นท่าทีเสียเปรียบของเหล่าผอ.ที่อยู่ด้านหลัง ในใจก็คิดว่าสวยแล้ว สี่ตัวอันตรายจะเป็นใครใครก็ไม่กล้า แต่พวกแกก็เห็นแล้วสินะ มีอัจฉริยะที่โรงเรียนฟู่จงของเราแล้วล่ะ

        “รอบที่สองเป็นการแข่งกันตอบสองร้อยข้อ บนจอจะแสดงคำถามนักเรียนที่รู้คำตอบก็กดปุ่มแย่งตอบได้เลย ทุกคนมีคะแนนอยู่หนึ่งร้อยคะแนน ตอบถูกเพิ่มสามคะแนนตอบผิดหักสามคะแนน เมื่อเสร็จทั้งสองร้อยข้อก็คิดคะแนนรวมสิบสี่รายชื่อแรกก็เข้ารอบที่สามไป” พิธีกรพูดเสียงดัง

        “หนึ่งปีแสงยาวเท่าไหร่”

        “9600 ร้อยล้านกิโลเมตร”

        “เมื่อคนถูกตะปูแทงทะลุเท้า การฉีดวัคซีนบาดทะยักช่วยป้องกันโรคบาดทะยักได้ วัคฉีนชนิดนี้มาจากอะไร”

        “ระบบภูมิคุ้มกันมนุษย์”

        “ทำไมในตลาดถึงไม่มีปลาดาบเงินเป็นๆ ขาย”

        “เพราะปลาดาบเงินตายโดยทันทีเมื่อถูกจับขึ้นมาจากการแรงกดดันจำนวนมาก”

        “ในอวัยวะเกี่ยวกับความรู้สึกของสัตว์จำพวกนก อวัยวะใดเสื่อมสภาพเร็วที่สุด”

        “การดมกลิ่น”

        “ผู้เขียนหนังสือการปกครองยุคใกล้เรื่องเจ้าผู้ปกครองคือใคร”

        “มาเคียเวลลีชาวอิตาลี”

        “สามนิทานสองนิยายหมายถึงอะไร”

        “สามนิทานคือ หนังสือเรื่องเรื่องเก่าและใหม่ เรื่องราวเตือนโลกและเรื่องราวปลุกโลก ส่วนสองนิยายก็คือเรื่องตบโต๊ะด้วยความตื่นเต้นเล่มหนึ่งและเรื่องตบโต๊ะด้วยความตื่นเต้นเล่มสอง”

        “งิ้วสมัยราชวงศ์หยวนสี่เรื่องดังที่เกี่ยวกับความรักมีเรื่องอะไรบ้าง”

        “เรื่องไหว้ศาลาจันทราของกวนฮั่นชิง เรื่องบันทึกหอตะวันตกของหวังสื่อฝู่ เรื่องม้าบนสันกำแพงของไป๋ตู้ และเรื่องวิญญาณลี้หญิงสาวของเจิ้งกวงจู่”

        คำถามร้อยข้อแรกนอกจากที่มีมู่หรงเวยเวยแย่งตอบแล้วก็มีหนานกงหลิงโม่แย่งตอบสามข้อ ถังซีแย่งตอบหนึ่งข้อซูเยี่ยแยกตอบหนึ่งข้อคำถามอีก 92 ข้อก็เหมือนกับว่าพิธีกรกับกัวไฮว่คนหนึ่งถามคนหนึ่งตอบสิ้นสุดคำถามหนึ่งร้อยข้อแรก

        “อะแฮ่มๆ ร้อยคำถามที่เหลือ กัวไฮว่เธอไม่ต้องตอบแล้วฉันขอประกาศให้เธอผ่านรอบสอง”เมื่อหนึ่งร้อยคำถามแรกจบลงแล้วกัวไฮว่ 376 คะแนนหนานกงหลิงโม่ 109 ซูเยี่ยกับถังซีได้ 100 คะแนนส่วนคนอื่นๆ ได้ 100

        ทั่วทั้งหอประชุมตะลึงงัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หนึ่งร้อยปีของโรงเรียนฟู่จง 

        “ในเมื่อให้ผมเข้ารอบที่สอง คำถามที่เหลือผมไม่ยุ่งแล้วนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ จากนั้นก็ไปนั่งบนเก้าอี้ค่อยๆ หลับตาต่อหน้าคนทั้งหมด

        “ฮึ ตาบ้า ใช้พลังวิเศษแน่นอนเลย” หนานกงหลิงโม่บ่นพึมพำอย่างไม่ได้แยแส

        “หากการแข่งขันแบบนี้ใช้พลังวิเศษล่ะก็ เธอดูถูกฉันไปแล้วนะ” เมื่อหนานกงหลิงโม่พูดจบ ก็พบว่ากัวไฮว่ก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขายิ้มพลางหรี่ตามองตนเองเสียงเสียงหนึ่งปรากฏแจ่มชัดอยู่ในสมองของตนเอง

        “ฮ่าๆ พี่ไฮว่สู้ๆ ไม่ว่าผลคะแนนสุดท้ายของพี่จะเป็นยังไง พี่ก็เป็นไอดอลของผม คราวหลังผมไม่เล่น LOL แล้ว ผมจะอยู่กับพี่” เด็กแว่นมองเด็กหนุ่มที่หัวเราะเยาะตนจากนั้นก็ตะโกนเสียงดัง

        “เจ้าสามรีบมาหอประชุมฟู่จงด่วนเลย มาช้าแกจะไม่ได้เห็นนะ” เจี่ยหยวนโทรหาหวังเซิงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจว่า “ประชุมกับผีสิ รีบมาดูเจ้าสี่เร็ว บ้าเอ๊ย รู้งี้ฉันรถชนบ้างดีกว่า”

        “เจ้าสี่ ถ้าหมอนี่ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนฟู่จงไปแข่งแล้วก็ได้ที่หนึ่ง พวกเราต้องเสียเงินเท่าไหร่นะ” เจี่ยเปินเปินมองฉินอวี้หลงที่หน้าซีดเผือดแล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบา

        “ร้อยล้าน อย่างน้อยพวกเราเสียร้อยล้าน ต่อให้เอาทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเราทั้งสี่ตระกูลไปถมก็คงไม่พอ” ฉินอวี้หลงส่ายพูดขึ้นพลางส่ายศีรษะ

         

 

                                                 ————————

                  อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                 https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 45 การคัดเลือกแข่งวิชาการ (3)

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 45 การคัดเลือกแข่งวิชาการ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “คุณครูเจี่ย พวกขี้โกง โรงเรียนเรานี่กล้าโกงกันขนาดนี้เลยเหรอ” ฉินอวี้หลงลุกขึ้นมาจากนั้นก็ส่งเสียงดังถามไปทางเวที

        กัวไฮว่ได้ที่หนึ่งเป็นไปได้อย่างไรกัน กัวไฮว่เป็นคนอย่างไรทั้งโรงเรียนก็รู้ดี สี่ตัวอันตรายไม่เรียนแถมยังไม่มีวิชาความรู้อีก จะได้ที่หนึ่งในรอบแรกของการคัดเลือกผู้แข่งขันวิชาการได้อย่างไรกัน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ากัวไฮว่เข้ารอบที่สองไปนั่นก็หมายความว่าเงินพนันในเว็บบอร์ดจาก 13 ร้อยล้านก็จะเปลี่ยนเป็น 3 ร้อยล้าน

        “ทำเสร็จร้อยข้อในเวลาไม่ถึงสิบนาที ก็เสร็จหนึ่งข้อประมาณหกวินาที ข้อสอบก็ไม่ใช่แบบตัวเลือกไม่มีทางเป็นไปได้แน่” เฉียวมู่พูดเสียงดังอยู่ที่ล่างเวที

        “ฮ่าๆ หลี่สวินอวี้ นายจะไม่ออกมาอธิบายหน่อยเหรอ หรือว่ากัวไฮว่นี่จะเป็นลูกนอกสมรสของแกถึงได้ปกป้องเขาท่ามกล่างฝูงชนแบบนี้ ฮ่าๆ” ผอ.โรงเรียนอี้จงพูดหัวเราะเสียงดัง

        “เจี่ยอวิ๋นเทาแกแน่ใจแล้วใช่ไหม” หลี่สวินอวี้ถลึงตาถามเจี่ยอวิ๋นเทาเสียงดัง

        “หัวหน้าเจี่ย ให้ฉันอธิบายกับทุกคนหน่อยเถอะค่ะ” หลินซวงเห็นคนล่างเวทีตะโกนถามเสียงดังเป็นระลอกๆ ก็เชื่อมต่อโน้ตบุ๊กของกัวไฮว่เข้ากับจอใหญ่

        “ทุกคนโปรดอยู่ในความสงบนะคะ ขอฉันชี้แจงหน่อยว่าทำไมผลคะแนนกัวไฮว่ถึงเป็น 9 นาที 48 วินาที” หลินซวงพูดยิ้มๆ

        “คุณครูคนสวย พวกเรารู้นะว่ากัวไฮว่เป็นนักเรียนในห้องครูน่ะ แต่ครูจะปกป้องเขาด้วยไม่ได้นะ” เจี่ยเปินเปินพูดเสียงดัง

        “พอพวกเธอฟังฉันพูดจบ ถ้ายังมีข้อสงสัยอีกก็เสนอมาอีกได้” หลินซวงพูดยิ้มๆ “ทุกคนโปรดดูนะคะ ในเวลาไม่ถึงสามนาที กัวไฮว่ทำเสร็จไปทั้งหมด 3128 ข้อ เมื่อกี้เมื่อใช้ระบบตรวจสอบแล้วตอบถูกไป 3124 ข้อ ตอบผิดไปสี่ข้อ ฉะนั้นจากคะแนนโดยเฉลี่ยแล้วเวลาที่กัวไฮว่ใช้ไปคือ 9 นาที 48 วินาที”

        “ครูหลิน ครูคำนวณแบบนี้ไม่ถูกนะ คะแนนพาร์ทต้องตอบรอบแรกคำนวณมาจากหนึ่งร้อยข้อแรก ครูจะมาคิดจากคะแนนเฉลี่ยไม่ได้สิ” เจี่ยเปินเปินถามอย่างไม่อ้อมค้อม 13 ร้อยล้านไม่นานก็เปลี่ยนเป็น 3 ร้อยล้าน หารกันแล้วตกคนละยี่สิบห้าล้าน เป็นใครก็ทนไม่ได้ทั้งนั้นแหละ

        “นี่นักเรียน ถ้าเธออยากดูระดับคะแนนหนึ่งร้อยข้อแรกเธอก็มาดูตรงนี้ ได้ 8 นาที 32 วินาที ไม่ผิดสักข้อยังมีอะไรสงสัยอีกไหม” หลินซวงพูดยิ้มๆ ก่อนจะมองกัวไฮว่ผู้ไม่สนใจอะไรเลยแวบหนึ่ง เด็กนี่ดันคุยสนุกอยู่กับเด็กสาวที่เป็นอาสาสมัคร น่าโมโหจนปากเบ้

        “คำถามล่ะ คำถามของคนพวกนี้ยาก แต่คำถามของกัวไฮว่ง่าย น่าจะเป็นแบบนี้แน่ๆ” เจี่ยเปินเปินพูดเสียงดังอีกครั้งหนึ่ง สำหรับเขาแล้ว คำถามที่วิ่งอยู่บนหน้าจอตัวเขาเองตอบได้แค่ประมาณสามในสิบ เขาไม่เชื่อหรอกว่าลูกคนรวยอย่างกัวไฮว่จะตอบได้เยอะกว่าตนเอง ต้องมีปัญหากับคำถามแน่

        “นี่เป็นคำถามเมื่อกี้ของกัวไฮว่ ขอให้ทุกคนดูบนจอใหญ่ด้วยค่ะ นักเรียนเก่งๆ กับผอ.โรงเรียนอื่นก็อยู่ที่นี่ด้วย พวกคุณดูได้เลยว่าคำถามนี่ง่ายกว่ายี่สิบเจ็ดคนเมื่อกี้หรือเปล่า” หลินซวงนำคำถามที่กัวไฮว่ตอบเสร็จทั้งสามพันกว่าข้อแสดงขึ้นบนหน้าจอทีละข้อ

        “ตาแก่หลี่ คำถามที่นักเรียนคนนี้ตอบไม่มีปัญหาอะไร พวกคุณต่อได้เลย ยินดีกับพวกคุณด้วยนะ ไม่คิดว่าเลยว่าโรงเรียนฟู่จงจะซ่อนผู้เข้าแข่งขันแบบนี้เอาไว้ หลี่สวินอวี้สุดยอด แกสุดยอดเลยจริงๆ”

        “ยายหนูหลิน ลงมาเถอะ เริ่มการแข่งรอบสองได้เลย” เมื่อเห็นท่าทีเสียเปรียบของเหล่าผอ.ที่อยู่ด้านหลัง ในใจก็คิดว่าสวยแล้ว สี่ตัวอันตรายจะเป็นใครใครก็ไม่กล้า แต่พวกแกก็เห็นแล้วสินะ มีอัจฉริยะที่โรงเรียนฟู่จงของเราแล้วล่ะ

        “รอบที่สองเป็นการแข่งกันตอบสองร้อยข้อ บนจอจะแสดงคำถามนักเรียนที่รู้คำตอบก็กดปุ่มแย่งตอบได้เลย ทุกคนมีคะแนนอยู่หนึ่งร้อยคะแนน ตอบถูกเพิ่มสามคะแนนตอบผิดหักสามคะแนน เมื่อเสร็จทั้งสองร้อยข้อก็คิดคะแนนรวมสิบสี่รายชื่อแรกก็เข้ารอบที่สามไป” พิธีกรพูดเสียงดัง

        “หนึ่งปีแสงยาวเท่าไหร่”

        “9600 ร้อยล้านกิโลเมตร”

        “เมื่อคนถูกตะปูแทงทะลุเท้า การฉีดวัคซีนบาดทะยักช่วยป้องกันโรคบาดทะยักได้ วัคฉีนชนิดนี้มาจากอะไร”

        “ระบบภูมิคุ้มกันมนุษย์”

        “ทำไมในตลาดถึงไม่มีปลาดาบเงินเป็นๆ ขาย”

        “เพราะปลาดาบเงินตายโดยทันทีเมื่อถูกจับขึ้นมาจากการแรงกดดันจำนวนมาก”

        “ในอวัยวะเกี่ยวกับความรู้สึกของสัตว์จำพวกนก อวัยวะใดเสื่อมสภาพเร็วที่สุด”

        “การดมกลิ่น”

        “ผู้เขียนหนังสือการปกครองยุคใกล้เรื่องเจ้าผู้ปกครองคือใคร”

        “มาเคียเวลลีชาวอิตาลี”

        “สามนิทานสองนิยายหมายถึงอะไร”

        “สามนิทานคือ หนังสือเรื่องเรื่องเก่าและใหม่ เรื่องราวเตือนโลกและเรื่องราวปลุกโลก ส่วนสองนิยายก็คือเรื่องตบโต๊ะด้วยความตื่นเต้นเล่มหนึ่งและเรื่องตบโต๊ะด้วยความตื่นเต้นเล่มสอง”

        “งิ้วสมัยราชวงศ์หยวนสี่เรื่องดังที่เกี่ยวกับความรักมีเรื่องอะไรบ้าง”

        “เรื่องไหว้ศาลาจันทราของกวนฮั่นชิง เรื่องบันทึกหอตะวันตกของหวังสื่อฝู่ เรื่องม้าบนสันกำแพงของไป๋ตู้ และเรื่องวิญญาณลี้หญิงสาวของเจิ้งกวงจู่”

        คำถามร้อยข้อแรกนอกจากที่มีมู่หรงเวยเวยแย่งตอบแล้วก็มีหนานกงหลิงโม่แย่งตอบสามข้อ ถังซีแย่งตอบหนึ่งข้อซูเยี่ยแยกตอบหนึ่งข้อคำถามอีก 92 ข้อก็เหมือนกับว่าพิธีกรกับกัวไฮว่คนหนึ่งถามคนหนึ่งตอบสิ้นสุดคำถามหนึ่งร้อยข้อแรก

        “อะแฮ่มๆ ร้อยคำถามที่เหลือ กัวไฮว่เธอไม่ต้องตอบแล้วฉันขอประกาศให้เธอผ่านรอบสอง”เมื่อหนึ่งร้อยคำถามแรกจบลงแล้วกัวไฮว่ 376 คะแนนหนานกงหลิงโม่ 109 ซูเยี่ยกับถังซีได้ 100 คะแนนส่วนคนอื่นๆ ได้ 100

        ทั่วทั้งหอประชุมตะลึงงัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หนึ่งร้อยปีของโรงเรียนฟู่จง 

        “ในเมื่อให้ผมเข้ารอบที่สอง คำถามที่เหลือผมไม่ยุ่งแล้วนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ จากนั้นก็ไปนั่งบนเก้าอี้ค่อยๆ หลับตาต่อหน้าคนทั้งหมด

        “ฮึ ตาบ้า ใช้พลังวิเศษแน่นอนเลย” หนานกงหลิงโม่บ่นพึมพำอย่างไม่ได้แยแส

        “หากการแข่งขันแบบนี้ใช้พลังวิเศษล่ะก็ เธอดูถูกฉันไปแล้วนะ” เมื่อหนานกงหลิงโม่พูดจบ ก็พบว่ากัวไฮว่ก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขายิ้มพลางหรี่ตามองตนเองเสียงเสียงหนึ่งปรากฏแจ่มชัดอยู่ในสมองของตนเอง

        “ฮ่าๆ พี่ไฮว่สู้ๆ ไม่ว่าผลคะแนนสุดท้ายของพี่จะเป็นยังไง พี่ก็เป็นไอดอลของผม คราวหลังผมไม่เล่น LOL แล้ว ผมจะอยู่กับพี่” เด็กแว่นมองเด็กหนุ่มที่หัวเราะเยาะตนจากนั้นก็ตะโกนเสียงดัง

        “เจ้าสามรีบมาหอประชุมฟู่จงด่วนเลย มาช้าแกจะไม่ได้เห็นนะ” เจี่ยหยวนโทรหาหวังเซิงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจว่า “ประชุมกับผีสิ รีบมาดูเจ้าสี่เร็ว บ้าเอ๊ย รู้งี้ฉันรถชนบ้างดีกว่า”

        “เจ้าสี่ ถ้าหมอนี่ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนฟู่จงไปแข่งแล้วก็ได้ที่หนึ่ง พวกเราต้องเสียเงินเท่าไหร่นะ” เจี่ยเปินเปินมองฉินอวี้หลงที่หน้าซีดเผือดแล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบา

        “ร้อยล้าน อย่างน้อยพวกเราเสียร้อยล้าน ต่อให้เอาทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเราทั้งสี่ตระกูลไปถมก็คงไม่พอ” ฉินอวี้หลงส่ายพูดขึ้นพลางส่ายศีรษะ

         

 

                                                 ————————

                  อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                 https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+