[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 51 กัวไฮว่ซื้อยา

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 51 กัวไฮว่ซื้อยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

       “กัวไฮว่ นายเทให้ฉันอีกแก้วได้ไหม” หลังจากที่ซุนหลิงหลิงดื่มเหล้าแก้วนั้นเสร็จ เธอก็ไม่กล้าสบตากัวไฮว่ เด็กผู้ชายอายุน้อยกว่าตนไม่กี่ปีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ดันรู้ว่าตนเองป่วย สิ่งที่สำคัญก็คือ ก่อนที่หมอนี่จะรู้จักเธอ ข่าวลือเกี่ยวกับเขาในเมืองอู่เฉิงไม่มีข่าวด้านบวกแม้แต่นิดเดียว

       “คำเล่าลือทั่วไปไม่อาจเชื่อหมดได้ ไม่ทราบว่าที่พี่คนสวยพูดเมื่อกี้เชื่อถือได้หรือเปล่า” กัวไฮว่เทเหล้าพลาง พูดขึ้นยิ้มๆ

       “เชื่อได้สิ ขอแค่นายไม่กลัวว่าแฟนจะหึง งานเลี้ยงวันเรียนจบฉันจะเชิญนายไปเป็นคู่เต้นรำ” ซุนหลิงหลิงพูดยิ้มๆ

       “ฮ่าๆ ถึงตอนนั้นผมจะรอคำเชิญจากพี่นะ ถ้าพี่อยากรักษาอาการป่วยให้หายดี สามวันหลังจากนี้ก็ติดต่อผมมาสิ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

       “พี่ไฮว่ พี่รักษาอาการป่วยของพี่หลิงหลิงได้จริงเหรอ” มู่หรงเวยเวยดึงกัวไฮว่เอาไว้แล้วพูดขึ้นเบาๆ

       “วางใจเถอะ ป่วยแค่เล็กน้อย กินข้าวกินข้าว อาหารที่ปู่หกมาเสิร์ฟไม่เลวเลยจริงๆ” กัวไฮว่พูดพลางคีบกับข้าวให้สาวๆ จากนั้นทุกคนก็พูดคุยกัน

       “พี่ไฮว่ ดูสิ ถ่ายรูปอะไรกันเนี่ย ผมหล่อขนาดนี้ ทำไมถ่ายเป็นแบบนี้ล่ะ ผมจะไปหาเรื่องมัน” หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จ ก็มาถ่ายรูปด้วยกัน เจ้าเซวียนเป็นคนช่างพูด กัวไฮว่เลยมีความประทับใจต่อเขาไม่เลวเลย

       “พี่ตัวตัว อันที่จริงพี่หน้าตาแบบนี้แต่ก็ถ่ายออกมาเป็นแบบนี้ได้ พี่น่าจะพอใจแล้วนะ” เซวียนต้าจู้ยืนอยู่ด้านหลังเฉียนตัวตัว มองคอมพิวเตอร์แล้วพูดขึ้นยิ้มๆ “ดูคุณไฮว่สิ ไอดอลโรงเรียนฟู่จง หล่อสุดๆ”

       “ให้ตาย มีแฟนคลับเกินกว่าสามพันคนแล้ว พี่ไฮว่นี่วาสนาดีนะ” เฉียนตัวตัวพูดเสียงดัง “พี่ไฮว่ มาดูสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนเร็ว ถ้าได้ที่หนึ่งการแข่งวิชาการ เราก็เทพแล้ว ฮ่าๆ”

       กัวไฮว่เดินลงมาจากดาดฟ้า เขาถอดเสื้อท่อนบนออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ไร้ซึ่งส่วนเกินบนร่าง

       “ตัวตัว สมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนคืออะไรเหรอ” กัวไฮว่ถามขึ้นยิ้มๆ

       “รอบตัดสินแข่งวิชาการ เจ็ดโรงเรียนอื่นเขารวมทีมกัน การแข่งขันวิชาการครั้งนี้ เป็นการแข่งของโรงเรียนเรากับสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียน” เฉียนตัวตัวพูดยิ้มๆ

       “ในเมื่อผ่านเข้าแข่งขันแล้วก็พักกันได้แล้ว ช่วยฉันลาเรียนหน่อยสิ ฉันต้องออกไปทำอะไรนิดหน่อย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

 

       “นายน้อยครับ สมาคมกุ่ยซื่อตอบมาแล้วครับ พวกเขาให้ราคาลอบฆ่ากัวไฮว่มาแล้ว” ชายชราผู้หนึ่งพูดกับฉินอวี้หลง

       “ในเมื่อให้ราคามาแล้ว งั้นก็รีบไปจัดการ ต้องรีบให้หมอนั่นตายก่อนการแข่งขันจริง ฉันอยากให้มันตาย!” ฉินอวี้หลงตะคอกเสียงดัง หลังจากการคัดเลือกสิ้นสุดลง ฉินอวี้หลงก็กลายเป็นบุคคลที่ดังที่สุดนอกเหนือจากเจ็ดคนที่ชนะการแข่งขัน เพราะเขาสวมกางเกงในตัวเดียววิ่งออกมาจากหอประชุม ถือเป็นการเดิมพันที่สูงเสียดฟ้า นายท่านตระกูลฉินเข้าโรงพยาบาลไปเรียบร้อยแล้ว ถึงกับประกาศกร้าวว่าได้เตะฉินอวี้หลงออกไปจากตระกูลฉินแล้ว ก่อนที่เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะมาเกี่ยวข้องกับตระกูลฉิน

       “นายท่าน สมาคมกุ่ยซื่อยื่นราคาร้อยร้อยล้าน ถ้าไม่ได้ราคานี้ก็ไม่ตกลงครับ” ชายชราประจำตระกูลฉินพูดขึ้นด้วยเสียงเบา

      เสียง “เพล้ง!” ดังขึ้น ฉินอวี้หลงบีบแก้วในมือจนแตกเละ จากนั้นก็เขวี้ยงคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งจะเล่นเมื่อสักครู่จนแตก “ร้อยร้อยล้าน กับแค่ฆ่านักเรียนคนเดียวเอาร้อยร้อยล้าน ฉันจำได้ว่าตอนแรกที่นายท่านฆ่าศัตรูทางธุรกิจจ่ายเงินไม่เกินสิบล้าน”

       “แต่ว่าหลิวฉ่วงที่คุณพูดถึงคนนั้นสมาคมกุ่ยซื่อบอกราคามาสิบล้าน” ชายชราพูดเบาๆ

       “ให้พวกเขาไปร้อยล้าน ฆ่าไอ้เด็กตระกูลหลิวนั้นก่อน ส่วนกัวไฮว่เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ฉินอวี้หลงพูดด้วยความโหดเหี้ยม

        “พี่เวย นี่เป็นใบลา ผมมีเรื่องต้องออกไปนิดหน่อยน่ะ” กัวไฮว่ทักทายหลี่เวยที่อยู่หน้าประตูฝ่ายรักษาความปลอดภัย

       “ไอ้น้อง แกนี่สุดยอดไปเลยนะ พวกเราดูวิดีโอการคัดเลือกแล้ว แกสุดยอดไปเลย” หลี่เวยพูดอย่างตื่นเต้นราวกับได้บังเอิญเจอดารา

       “ดูพี่เวยพูดเข้า ผมต้องรีบไปรีบกลับ อยากให้ผมเอาอะไรมาฝากไหม” กัวไฮว่ถามขึ้นยิ้มๆ

       “ไม่ต้องๆ รอแกกลับมาแล้ว ฉันกับเสี่ยวหลงจะเลี้ยงข้าวแก ตอนนั้นแกต้องให้เกียรติฉันนะ” หลี่เวยยิ้มพลางเปิดประตูให้กัวไฮว่ จากนั้นกัวไฮว่ก็ยิ้มพร้อมกับเดินออกไป

       “นายน้อย กัวไฮว่ที่คุณพูดถึงออกจากโรงเรียนแล้วครับ” ในขณะที่กัวไฮว่ออกไปชายชราตระกูลฉินก็เห็นเขาเข้า จึงรีบโทรศัพท์หาฉินอวี้หลง  

       “สวรรค์ช่วยฉันแล้ว ดี ลุงขุย ลุงไม่ต้องยุ่งแล้วล่ะ” ฉินอวี้หลงพูดอย่างโหดเหี้ยม

       “พ่อหนุ่ม แกอีกแล้วเหรอ” กัวไฮว่เพิ่งจะขึ้นรถ มองไปที่คนขับแวบหนึ่ง บังเอิญที่เป็นคนขับรถเมล์ที่เขามาที่ฟู่จงวันแรก

       “ลุง ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ผมเติมเงินแล้ว” พูดเสร็จ กัวไฮว่ก็วิ่งตรงไปนั่งตรงที่นั่งด้านหลังรถ

       “พ่อหนุ่ม ยังไม่ถึงเวลาปิดเทอมเลยนะ แกออกมาทำอะไรเนี่ย” บนรถไม่มีคนอื่น คนขับจึงมองกระจกหลังแล้วพูดกับกัวไฮว่

       “ลุง ผมจะไปในเมืองหน่อย ลุงพาผมไปส่งที่ที่ซื้อยาได้ก็พอแล้ว ผมไม่สบายตัวนิดหน่อย หมอให้ใบสั่งยามา ผมจะไปเอายามาน่ะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

       “อ้อ อย่างนี้เอง งั้นก็ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ ในสังคมตอนนี้เนี่ย มีอะไรก็ได้แต่อย่ามีไข้ ไม่มีอะไรก็ได้แต่อย่าไม่มีเงิน แกดูฉันสิ ขับรถไปมาอยู่ทั้งวัน แม่ของลูกเป็นแคชเชียร์อยู่ในเมือง พ่อหนุ่ม แกลงรถที่นี่นะ เดินตรงเข้าไปด้านใน มีร้านยาใหญ่ๆ ขายยาจีนอยู่สองสามร้าน แต่ทางที่ดีแกตามคนที่รู้เรื่องยาจีนไปด้วยก็ดีนะ ตอนนี้มียาปลอมไม่น้อยเลยล่ะ” คนขับรถพูดตลอดทางไม่หยุด ในที่สุดกัวไฮว่ก็มาถึงถนนเจิ้นจง

       “ของที่บรรพบุรุษเหลือทิ้งมาให้ก็เปลี่ยนรสชาติไปแล้ว เมื่อก่อนยาเม็ดนึงช่วยรักษาโรคได้ แต่ประสิทธิภาพยาตอนนี้ ถ้าไม่กินเป็นสิบเม็ดก็เกรงว่าจะรักษายาก” เมื่อกัวไฮว่เดินไปอยู่หน้าร้านยาร้านหนึ่ง ถึงจะมีกลิ่นหอมของยาติดจมูก แต่เมื่อสูดเข้าแรงๆ ก็รู้ได้ว่าประสิทธิภาพยาพวกนี้เทียบไม่ได้กับยาในสมัยราชวงศ์ถังและยิ่งไม่ต้องพูดถึงยาในสวรรค์

       “เจวียนจื่อ มีพี่สุดหล่อมา เธอไปรับแขกหน่อยสิ” ร้านยาขนาดใหญ่บนถนนเจิ้นจง มีทั้งยาฝรั่งยาจีน มีพนักงานสิบกว่าคนล้วนแล้วแต่เป็นนักเรียนที่จบมากจากคณะแพทย์มหาวิทยาลัยอู่เฉิง     

       “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ” เจวียนจื่อถูกเด็กผู้หญิงด้านหลังผลักมาตรงหน้าของกัวไฮว่ จากนั้นก็พูดขึ้นเบาๆ

       “เขากวาง กระดองตะพาบ หอยนางรม ซังเพียวเซียว โสม หวงฉี ตังกุย ไป๋สาว เซียงฟู่ เทียนตง กานเฉ่า ตี้หวง สูตี้หวง ชวนซยง อิ๋นไฉหู ตานชาน ซานเย่า เชี่ยนสือ ผงเขากวาง ที่นี่มีหมดใช่ไหม” กัวไฮว่มองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าแวบหนึ่งจากนั้นก็พูดขึ้นยิ้มๆ

       “สุดหล่อ นายพูดเร็วขนาดนี้ ใครจะไปจำได้ล่ะ นายพูดช้าหน่อยสิ แต่ถ้าเอายาพวกนี้มารวมกันแล้ว ดูเหมือนว่าจะไว้รักษาอาการผู้หญิงใช่ไหม” เจวียนจื่อยังไม่ได้ตอบ

       “เหอะๆๆ ถั่งเช่า เก๋ากี้อะไรพวกนี้ก็เอามาด้วย” กัวไฮว่พูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

       “สุดหล่อ อายุนายดูไม่เหมือนเด็กมหาลัยเลย ไม่ทราบว่าซื้อยาพวกนี้ไปทำไมเหรอ” เด็กหญิงคนนั้นถามขึ้น

       “สุดสวย นี่พวกเธอขายยาหรือแทะโลมลูกค้ากันแน่ สมุนไพรที่ฉันซื้อก็ไม่ได้เป็นของต้องห้ามสักหน่อย ถ้าพวกเธอมี ฉันก็จะซื้อ ถ้าไม่มี ฉันจะไปที่อื่นแล้ว” กัวไฮว่พูดเสียงดัง

       “มี แน่นอน ถ้าร้านเราไม่มี งั้นร้านอื่นในเมืองอู่เฉิงก็ไม่มีแล้วแหละ นายรอเดี๋ยวนะ” เจวียนจื่อรีบพูดขึ้น

       “พวกเธอเอาตังกุยกับโสมมาก่อน ฉันต้องทดสอบของก่อน” กัวไฮว่หายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ยาจีนที่นี่จะได้ผลไหมนะ 

 

                                                   ————————

                   อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                       https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 51 กัวไฮว่ซื้อยา

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 51 กัวไฮว่ซื้อยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

       “กัวไฮว่ นายเทให้ฉันอีกแก้วได้ไหม” หลังจากที่ซุนหลิงหลิงดื่มเหล้าแก้วนั้นเสร็จ เธอก็ไม่กล้าสบตากัวไฮว่ เด็กผู้ชายอายุน้อยกว่าตนไม่กี่ปีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ดันรู้ว่าตนเองป่วย สิ่งที่สำคัญก็คือ ก่อนที่หมอนี่จะรู้จักเธอ ข่าวลือเกี่ยวกับเขาในเมืองอู่เฉิงไม่มีข่าวด้านบวกแม้แต่นิดเดียว

       “คำเล่าลือทั่วไปไม่อาจเชื่อหมดได้ ไม่ทราบว่าที่พี่คนสวยพูดเมื่อกี้เชื่อถือได้หรือเปล่า” กัวไฮว่เทเหล้าพลาง พูดขึ้นยิ้มๆ

       “เชื่อได้สิ ขอแค่นายไม่กลัวว่าแฟนจะหึง งานเลี้ยงวันเรียนจบฉันจะเชิญนายไปเป็นคู่เต้นรำ” ซุนหลิงหลิงพูดยิ้มๆ

       “ฮ่าๆ ถึงตอนนั้นผมจะรอคำเชิญจากพี่นะ ถ้าพี่อยากรักษาอาการป่วยให้หายดี สามวันหลังจากนี้ก็ติดต่อผมมาสิ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

       “พี่ไฮว่ พี่รักษาอาการป่วยของพี่หลิงหลิงได้จริงเหรอ” มู่หรงเวยเวยดึงกัวไฮว่เอาไว้แล้วพูดขึ้นเบาๆ

       “วางใจเถอะ ป่วยแค่เล็กน้อย กินข้าวกินข้าว อาหารที่ปู่หกมาเสิร์ฟไม่เลวเลยจริงๆ” กัวไฮว่พูดพลางคีบกับข้าวให้สาวๆ จากนั้นทุกคนก็พูดคุยกัน

       “พี่ไฮว่ ดูสิ ถ่ายรูปอะไรกันเนี่ย ผมหล่อขนาดนี้ ทำไมถ่ายเป็นแบบนี้ล่ะ ผมจะไปหาเรื่องมัน” หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จ ก็มาถ่ายรูปด้วยกัน เจ้าเซวียนเป็นคนช่างพูด กัวไฮว่เลยมีความประทับใจต่อเขาไม่เลวเลย

       “พี่ตัวตัว อันที่จริงพี่หน้าตาแบบนี้แต่ก็ถ่ายออกมาเป็นแบบนี้ได้ พี่น่าจะพอใจแล้วนะ” เซวียนต้าจู้ยืนอยู่ด้านหลังเฉียนตัวตัว มองคอมพิวเตอร์แล้วพูดขึ้นยิ้มๆ “ดูคุณไฮว่สิ ไอดอลโรงเรียนฟู่จง หล่อสุดๆ”

       “ให้ตาย มีแฟนคลับเกินกว่าสามพันคนแล้ว พี่ไฮว่นี่วาสนาดีนะ” เฉียนตัวตัวพูดเสียงดัง “พี่ไฮว่ มาดูสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนเร็ว ถ้าได้ที่หนึ่งการแข่งวิชาการ เราก็เทพแล้ว ฮ่าๆ”

       กัวไฮว่เดินลงมาจากดาดฟ้า เขาถอดเสื้อท่อนบนออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ไร้ซึ่งส่วนเกินบนร่าง

       “ตัวตัว สมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนคืออะไรเหรอ” กัวไฮว่ถามขึ้นยิ้มๆ

       “รอบตัดสินแข่งวิชาการ เจ็ดโรงเรียนอื่นเขารวมทีมกัน การแข่งขันวิชาการครั้งนี้ เป็นการแข่งของโรงเรียนเรากับสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียน” เฉียนตัวตัวพูดยิ้มๆ

       “ในเมื่อผ่านเข้าแข่งขันแล้วก็พักกันได้แล้ว ช่วยฉันลาเรียนหน่อยสิ ฉันต้องออกไปทำอะไรนิดหน่อย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

 

       “นายน้อยครับ สมาคมกุ่ยซื่อตอบมาแล้วครับ พวกเขาให้ราคาลอบฆ่ากัวไฮว่มาแล้ว” ชายชราผู้หนึ่งพูดกับฉินอวี้หลง

       “ในเมื่อให้ราคามาแล้ว งั้นก็รีบไปจัดการ ต้องรีบให้หมอนั่นตายก่อนการแข่งขันจริง ฉันอยากให้มันตาย!” ฉินอวี้หลงตะคอกเสียงดัง หลังจากการคัดเลือกสิ้นสุดลง ฉินอวี้หลงก็กลายเป็นบุคคลที่ดังที่สุดนอกเหนือจากเจ็ดคนที่ชนะการแข่งขัน เพราะเขาสวมกางเกงในตัวเดียววิ่งออกมาจากหอประชุม ถือเป็นการเดิมพันที่สูงเสียดฟ้า นายท่านตระกูลฉินเข้าโรงพยาบาลไปเรียบร้อยแล้ว ถึงกับประกาศกร้าวว่าได้เตะฉินอวี้หลงออกไปจากตระกูลฉินแล้ว ก่อนที่เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะมาเกี่ยวข้องกับตระกูลฉิน

       “นายท่าน สมาคมกุ่ยซื่อยื่นราคาร้อยร้อยล้าน ถ้าไม่ได้ราคานี้ก็ไม่ตกลงครับ” ชายชราประจำตระกูลฉินพูดขึ้นด้วยเสียงเบา

      เสียง “เพล้ง!” ดังขึ้น ฉินอวี้หลงบีบแก้วในมือจนแตกเละ จากนั้นก็เขวี้ยงคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งจะเล่นเมื่อสักครู่จนแตก “ร้อยร้อยล้าน กับแค่ฆ่านักเรียนคนเดียวเอาร้อยร้อยล้าน ฉันจำได้ว่าตอนแรกที่นายท่านฆ่าศัตรูทางธุรกิจจ่ายเงินไม่เกินสิบล้าน”

       “แต่ว่าหลิวฉ่วงที่คุณพูดถึงคนนั้นสมาคมกุ่ยซื่อบอกราคามาสิบล้าน” ชายชราพูดเบาๆ

       “ให้พวกเขาไปร้อยล้าน ฆ่าไอ้เด็กตระกูลหลิวนั้นก่อน ส่วนกัวไฮว่เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ฉินอวี้หลงพูดด้วยความโหดเหี้ยม

        “พี่เวย นี่เป็นใบลา ผมมีเรื่องต้องออกไปนิดหน่อยน่ะ” กัวไฮว่ทักทายหลี่เวยที่อยู่หน้าประตูฝ่ายรักษาความปลอดภัย

       “ไอ้น้อง แกนี่สุดยอดไปเลยนะ พวกเราดูวิดีโอการคัดเลือกแล้ว แกสุดยอดไปเลย” หลี่เวยพูดอย่างตื่นเต้นราวกับได้บังเอิญเจอดารา

       “ดูพี่เวยพูดเข้า ผมต้องรีบไปรีบกลับ อยากให้ผมเอาอะไรมาฝากไหม” กัวไฮว่ถามขึ้นยิ้มๆ

       “ไม่ต้องๆ รอแกกลับมาแล้ว ฉันกับเสี่ยวหลงจะเลี้ยงข้าวแก ตอนนั้นแกต้องให้เกียรติฉันนะ” หลี่เวยยิ้มพลางเปิดประตูให้กัวไฮว่ จากนั้นกัวไฮว่ก็ยิ้มพร้อมกับเดินออกไป

       “นายน้อย กัวไฮว่ที่คุณพูดถึงออกจากโรงเรียนแล้วครับ” ในขณะที่กัวไฮว่ออกไปชายชราตระกูลฉินก็เห็นเขาเข้า จึงรีบโทรศัพท์หาฉินอวี้หลง  

       “สวรรค์ช่วยฉันแล้ว ดี ลุงขุย ลุงไม่ต้องยุ่งแล้วล่ะ” ฉินอวี้หลงพูดอย่างโหดเหี้ยม

       “พ่อหนุ่ม แกอีกแล้วเหรอ” กัวไฮว่เพิ่งจะขึ้นรถ มองไปที่คนขับแวบหนึ่ง บังเอิญที่เป็นคนขับรถเมล์ที่เขามาที่ฟู่จงวันแรก

       “ลุง ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ผมเติมเงินแล้ว” พูดเสร็จ กัวไฮว่ก็วิ่งตรงไปนั่งตรงที่นั่งด้านหลังรถ

       “พ่อหนุ่ม ยังไม่ถึงเวลาปิดเทอมเลยนะ แกออกมาทำอะไรเนี่ย” บนรถไม่มีคนอื่น คนขับจึงมองกระจกหลังแล้วพูดกับกัวไฮว่

       “ลุง ผมจะไปในเมืองหน่อย ลุงพาผมไปส่งที่ที่ซื้อยาได้ก็พอแล้ว ผมไม่สบายตัวนิดหน่อย หมอให้ใบสั่งยามา ผมจะไปเอายามาน่ะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

       “อ้อ อย่างนี้เอง งั้นก็ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ ในสังคมตอนนี้เนี่ย มีอะไรก็ได้แต่อย่ามีไข้ ไม่มีอะไรก็ได้แต่อย่าไม่มีเงิน แกดูฉันสิ ขับรถไปมาอยู่ทั้งวัน แม่ของลูกเป็นแคชเชียร์อยู่ในเมือง พ่อหนุ่ม แกลงรถที่นี่นะ เดินตรงเข้าไปด้านใน มีร้านยาใหญ่ๆ ขายยาจีนอยู่สองสามร้าน แต่ทางที่ดีแกตามคนที่รู้เรื่องยาจีนไปด้วยก็ดีนะ ตอนนี้มียาปลอมไม่น้อยเลยล่ะ” คนขับรถพูดตลอดทางไม่หยุด ในที่สุดกัวไฮว่ก็มาถึงถนนเจิ้นจง

       “ของที่บรรพบุรุษเหลือทิ้งมาให้ก็เปลี่ยนรสชาติไปแล้ว เมื่อก่อนยาเม็ดนึงช่วยรักษาโรคได้ แต่ประสิทธิภาพยาตอนนี้ ถ้าไม่กินเป็นสิบเม็ดก็เกรงว่าจะรักษายาก” เมื่อกัวไฮว่เดินไปอยู่หน้าร้านยาร้านหนึ่ง ถึงจะมีกลิ่นหอมของยาติดจมูก แต่เมื่อสูดเข้าแรงๆ ก็รู้ได้ว่าประสิทธิภาพยาพวกนี้เทียบไม่ได้กับยาในสมัยราชวงศ์ถังและยิ่งไม่ต้องพูดถึงยาในสวรรค์

       “เจวียนจื่อ มีพี่สุดหล่อมา เธอไปรับแขกหน่อยสิ” ร้านยาขนาดใหญ่บนถนนเจิ้นจง มีทั้งยาฝรั่งยาจีน มีพนักงานสิบกว่าคนล้วนแล้วแต่เป็นนักเรียนที่จบมากจากคณะแพทย์มหาวิทยาลัยอู่เฉิง     

       “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ” เจวียนจื่อถูกเด็กผู้หญิงด้านหลังผลักมาตรงหน้าของกัวไฮว่ จากนั้นก็พูดขึ้นเบาๆ

       “เขากวาง กระดองตะพาบ หอยนางรม ซังเพียวเซียว โสม หวงฉี ตังกุย ไป๋สาว เซียงฟู่ เทียนตง กานเฉ่า ตี้หวง สูตี้หวง ชวนซยง อิ๋นไฉหู ตานชาน ซานเย่า เชี่ยนสือ ผงเขากวาง ที่นี่มีหมดใช่ไหม” กัวไฮว่มองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าแวบหนึ่งจากนั้นก็พูดขึ้นยิ้มๆ

       “สุดหล่อ นายพูดเร็วขนาดนี้ ใครจะไปจำได้ล่ะ นายพูดช้าหน่อยสิ แต่ถ้าเอายาพวกนี้มารวมกันแล้ว ดูเหมือนว่าจะไว้รักษาอาการผู้หญิงใช่ไหม” เจวียนจื่อยังไม่ได้ตอบ

       “เหอะๆๆ ถั่งเช่า เก๋ากี้อะไรพวกนี้ก็เอามาด้วย” กัวไฮว่พูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

       “สุดหล่อ อายุนายดูไม่เหมือนเด็กมหาลัยเลย ไม่ทราบว่าซื้อยาพวกนี้ไปทำไมเหรอ” เด็กหญิงคนนั้นถามขึ้น

       “สุดสวย นี่พวกเธอขายยาหรือแทะโลมลูกค้ากันแน่ สมุนไพรที่ฉันซื้อก็ไม่ได้เป็นของต้องห้ามสักหน่อย ถ้าพวกเธอมี ฉันก็จะซื้อ ถ้าไม่มี ฉันจะไปที่อื่นแล้ว” กัวไฮว่พูดเสียงดัง

       “มี แน่นอน ถ้าร้านเราไม่มี งั้นร้านอื่นในเมืองอู่เฉิงก็ไม่มีแล้วแหละ นายรอเดี๋ยวนะ” เจวียนจื่อรีบพูดขึ้น

       “พวกเธอเอาตังกุยกับโสมมาก่อน ฉันต้องทดสอบของก่อน” กัวไฮว่หายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ยาจีนที่นี่จะได้ผลไหมนะ 

 

                                                   ————————

                   อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                       https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 51 กัวไฮว่ซื้อยา

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 51 กัวไฮว่ซื้อยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

       “กัวไฮว่ นายเทให้ฉันอีกแก้วได้ไหม” หลังจากที่ซุนหลิงหลิงดื่มเหล้าแก้วนั้นเสร็จ เธอก็ไม่กล้าสบตากัวไฮว่ เด็กผู้ชายอายุน้อยกว่าตนไม่กี่ปีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ดันรู้ว่าตนเองป่วย สิ่งที่สำคัญก็คือ ก่อนที่หมอนี่จะรู้จักเธอ ข่าวลือเกี่ยวกับเขาในเมืองอู่เฉิงไม่มีข่าวด้านบวกแม้แต่นิดเดียว

       “คำเล่าลือทั่วไปไม่อาจเชื่อหมดได้ ไม่ทราบว่าที่พี่คนสวยพูดเมื่อกี้เชื่อถือได้หรือเปล่า” กัวไฮว่เทเหล้าพลาง พูดขึ้นยิ้มๆ

       “เชื่อได้สิ ขอแค่นายไม่กลัวว่าแฟนจะหึง งานเลี้ยงวันเรียนจบฉันจะเชิญนายไปเป็นคู่เต้นรำ” ซุนหลิงหลิงพูดยิ้มๆ

       “ฮ่าๆ ถึงตอนนั้นผมจะรอคำเชิญจากพี่นะ ถ้าพี่อยากรักษาอาการป่วยให้หายดี สามวันหลังจากนี้ก็ติดต่อผมมาสิ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

       “พี่ไฮว่ พี่รักษาอาการป่วยของพี่หลิงหลิงได้จริงเหรอ” มู่หรงเวยเวยดึงกัวไฮว่เอาไว้แล้วพูดขึ้นเบาๆ

       “วางใจเถอะ ป่วยแค่เล็กน้อย กินข้าวกินข้าว อาหารที่ปู่หกมาเสิร์ฟไม่เลวเลยจริงๆ” กัวไฮว่พูดพลางคีบกับข้าวให้สาวๆ จากนั้นทุกคนก็พูดคุยกัน

       “พี่ไฮว่ ดูสิ ถ่ายรูปอะไรกันเนี่ย ผมหล่อขนาดนี้ ทำไมถ่ายเป็นแบบนี้ล่ะ ผมจะไปหาเรื่องมัน” หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จ ก็มาถ่ายรูปด้วยกัน เจ้าเซวียนเป็นคนช่างพูด กัวไฮว่เลยมีความประทับใจต่อเขาไม่เลวเลย

       “พี่ตัวตัว อันที่จริงพี่หน้าตาแบบนี้แต่ก็ถ่ายออกมาเป็นแบบนี้ได้ พี่น่าจะพอใจแล้วนะ” เซวียนต้าจู้ยืนอยู่ด้านหลังเฉียนตัวตัว มองคอมพิวเตอร์แล้วพูดขึ้นยิ้มๆ “ดูคุณไฮว่สิ ไอดอลโรงเรียนฟู่จง หล่อสุดๆ”

       “ให้ตาย มีแฟนคลับเกินกว่าสามพันคนแล้ว พี่ไฮว่นี่วาสนาดีนะ” เฉียนตัวตัวพูดเสียงดัง “พี่ไฮว่ มาดูสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนเร็ว ถ้าได้ที่หนึ่งการแข่งวิชาการ เราก็เทพแล้ว ฮ่าๆ”

       กัวไฮว่เดินลงมาจากดาดฟ้า เขาถอดเสื้อท่อนบนออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ไร้ซึ่งส่วนเกินบนร่าง

       “ตัวตัว สมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนคืออะไรเหรอ” กัวไฮว่ถามขึ้นยิ้มๆ

       “รอบตัดสินแข่งวิชาการ เจ็ดโรงเรียนอื่นเขารวมทีมกัน การแข่งขันวิชาการครั้งนี้ เป็นการแข่งของโรงเรียนเรากับสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียน” เฉียนตัวตัวพูดยิ้มๆ

       “ในเมื่อผ่านเข้าแข่งขันแล้วก็พักกันได้แล้ว ช่วยฉันลาเรียนหน่อยสิ ฉันต้องออกไปทำอะไรนิดหน่อย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

 

       “นายน้อยครับ สมาคมกุ่ยซื่อตอบมาแล้วครับ พวกเขาให้ราคาลอบฆ่ากัวไฮว่มาแล้ว” ชายชราผู้หนึ่งพูดกับฉินอวี้หลง

       “ในเมื่อให้ราคามาแล้ว งั้นก็รีบไปจัดการ ต้องรีบให้หมอนั่นตายก่อนการแข่งขันจริง ฉันอยากให้มันตาย!” ฉินอวี้หลงตะคอกเสียงดัง หลังจากการคัดเลือกสิ้นสุดลง ฉินอวี้หลงก็กลายเป็นบุคคลที่ดังที่สุดนอกเหนือจากเจ็ดคนที่ชนะการแข่งขัน เพราะเขาสวมกางเกงในตัวเดียววิ่งออกมาจากหอประชุม ถือเป็นการเดิมพันที่สูงเสียดฟ้า นายท่านตระกูลฉินเข้าโรงพยาบาลไปเรียบร้อยแล้ว ถึงกับประกาศกร้าวว่าได้เตะฉินอวี้หลงออกไปจากตระกูลฉินแล้ว ก่อนที่เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะมาเกี่ยวข้องกับตระกูลฉิน

       “นายท่าน สมาคมกุ่ยซื่อยื่นราคาร้อยร้อยล้าน ถ้าไม่ได้ราคานี้ก็ไม่ตกลงครับ” ชายชราประจำตระกูลฉินพูดขึ้นด้วยเสียงเบา

      เสียง “เพล้ง!” ดังขึ้น ฉินอวี้หลงบีบแก้วในมือจนแตกเละ จากนั้นก็เขวี้ยงคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งจะเล่นเมื่อสักครู่จนแตก “ร้อยร้อยล้าน กับแค่ฆ่านักเรียนคนเดียวเอาร้อยร้อยล้าน ฉันจำได้ว่าตอนแรกที่นายท่านฆ่าศัตรูทางธุรกิจจ่ายเงินไม่เกินสิบล้าน”

       “แต่ว่าหลิวฉ่วงที่คุณพูดถึงคนนั้นสมาคมกุ่ยซื่อบอกราคามาสิบล้าน” ชายชราพูดเบาๆ

       “ให้พวกเขาไปร้อยล้าน ฆ่าไอ้เด็กตระกูลหลิวนั้นก่อน ส่วนกัวไฮว่เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ฉินอวี้หลงพูดด้วยความโหดเหี้ยม

        “พี่เวย นี่เป็นใบลา ผมมีเรื่องต้องออกไปนิดหน่อยน่ะ” กัวไฮว่ทักทายหลี่เวยที่อยู่หน้าประตูฝ่ายรักษาความปลอดภัย

       “ไอ้น้อง แกนี่สุดยอดไปเลยนะ พวกเราดูวิดีโอการคัดเลือกแล้ว แกสุดยอดไปเลย” หลี่เวยพูดอย่างตื่นเต้นราวกับได้บังเอิญเจอดารา

       “ดูพี่เวยพูดเข้า ผมต้องรีบไปรีบกลับ อยากให้ผมเอาอะไรมาฝากไหม” กัวไฮว่ถามขึ้นยิ้มๆ

       “ไม่ต้องๆ รอแกกลับมาแล้ว ฉันกับเสี่ยวหลงจะเลี้ยงข้าวแก ตอนนั้นแกต้องให้เกียรติฉันนะ” หลี่เวยยิ้มพลางเปิดประตูให้กัวไฮว่ จากนั้นกัวไฮว่ก็ยิ้มพร้อมกับเดินออกไป

       “นายน้อย กัวไฮว่ที่คุณพูดถึงออกจากโรงเรียนแล้วครับ” ในขณะที่กัวไฮว่ออกไปชายชราตระกูลฉินก็เห็นเขาเข้า จึงรีบโทรศัพท์หาฉินอวี้หลง  

       “สวรรค์ช่วยฉันแล้ว ดี ลุงขุย ลุงไม่ต้องยุ่งแล้วล่ะ” ฉินอวี้หลงพูดอย่างโหดเหี้ยม

       “พ่อหนุ่ม แกอีกแล้วเหรอ” กัวไฮว่เพิ่งจะขึ้นรถ มองไปที่คนขับแวบหนึ่ง บังเอิญที่เป็นคนขับรถเมล์ที่เขามาที่ฟู่จงวันแรก

       “ลุง ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ผมเติมเงินแล้ว” พูดเสร็จ กัวไฮว่ก็วิ่งตรงไปนั่งตรงที่นั่งด้านหลังรถ

       “พ่อหนุ่ม ยังไม่ถึงเวลาปิดเทอมเลยนะ แกออกมาทำอะไรเนี่ย” บนรถไม่มีคนอื่น คนขับจึงมองกระจกหลังแล้วพูดกับกัวไฮว่

       “ลุง ผมจะไปในเมืองหน่อย ลุงพาผมไปส่งที่ที่ซื้อยาได้ก็พอแล้ว ผมไม่สบายตัวนิดหน่อย หมอให้ใบสั่งยามา ผมจะไปเอายามาน่ะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

       “อ้อ อย่างนี้เอง งั้นก็ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ ในสังคมตอนนี้เนี่ย มีอะไรก็ได้แต่อย่ามีไข้ ไม่มีอะไรก็ได้แต่อย่าไม่มีเงิน แกดูฉันสิ ขับรถไปมาอยู่ทั้งวัน แม่ของลูกเป็นแคชเชียร์อยู่ในเมือง พ่อหนุ่ม แกลงรถที่นี่นะ เดินตรงเข้าไปด้านใน มีร้านยาใหญ่ๆ ขายยาจีนอยู่สองสามร้าน แต่ทางที่ดีแกตามคนที่รู้เรื่องยาจีนไปด้วยก็ดีนะ ตอนนี้มียาปลอมไม่น้อยเลยล่ะ” คนขับรถพูดตลอดทางไม่หยุด ในที่สุดกัวไฮว่ก็มาถึงถนนเจิ้นจง

       “ของที่บรรพบุรุษเหลือทิ้งมาให้ก็เปลี่ยนรสชาติไปแล้ว เมื่อก่อนยาเม็ดนึงช่วยรักษาโรคได้ แต่ประสิทธิภาพยาตอนนี้ ถ้าไม่กินเป็นสิบเม็ดก็เกรงว่าจะรักษายาก” เมื่อกัวไฮว่เดินไปอยู่หน้าร้านยาร้านหนึ่ง ถึงจะมีกลิ่นหอมของยาติดจมูก แต่เมื่อสูดเข้าแรงๆ ก็รู้ได้ว่าประสิทธิภาพยาพวกนี้เทียบไม่ได้กับยาในสมัยราชวงศ์ถังและยิ่งไม่ต้องพูดถึงยาในสวรรค์

       “เจวียนจื่อ มีพี่สุดหล่อมา เธอไปรับแขกหน่อยสิ” ร้านยาขนาดใหญ่บนถนนเจิ้นจง มีทั้งยาฝรั่งยาจีน มีพนักงานสิบกว่าคนล้วนแล้วแต่เป็นนักเรียนที่จบมากจากคณะแพทย์มหาวิทยาลัยอู่เฉิง     

       “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ” เจวียนจื่อถูกเด็กผู้หญิงด้านหลังผลักมาตรงหน้าของกัวไฮว่ จากนั้นก็พูดขึ้นเบาๆ

       “เขากวาง กระดองตะพาบ หอยนางรม ซังเพียวเซียว โสม หวงฉี ตังกุย ไป๋สาว เซียงฟู่ เทียนตง กานเฉ่า ตี้หวง สูตี้หวง ชวนซยง อิ๋นไฉหู ตานชาน ซานเย่า เชี่ยนสือ ผงเขากวาง ที่นี่มีหมดใช่ไหม” กัวไฮว่มองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าแวบหนึ่งจากนั้นก็พูดขึ้นยิ้มๆ

       “สุดหล่อ นายพูดเร็วขนาดนี้ ใครจะไปจำได้ล่ะ นายพูดช้าหน่อยสิ แต่ถ้าเอายาพวกนี้มารวมกันแล้ว ดูเหมือนว่าจะไว้รักษาอาการผู้หญิงใช่ไหม” เจวียนจื่อยังไม่ได้ตอบ

       “เหอะๆๆ ถั่งเช่า เก๋ากี้อะไรพวกนี้ก็เอามาด้วย” กัวไฮว่พูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

       “สุดหล่อ อายุนายดูไม่เหมือนเด็กมหาลัยเลย ไม่ทราบว่าซื้อยาพวกนี้ไปทำไมเหรอ” เด็กหญิงคนนั้นถามขึ้น

       “สุดสวย นี่พวกเธอขายยาหรือแทะโลมลูกค้ากันแน่ สมุนไพรที่ฉันซื้อก็ไม่ได้เป็นของต้องห้ามสักหน่อย ถ้าพวกเธอมี ฉันก็จะซื้อ ถ้าไม่มี ฉันจะไปที่อื่นแล้ว” กัวไฮว่พูดเสียงดัง

       “มี แน่นอน ถ้าร้านเราไม่มี งั้นร้านอื่นในเมืองอู่เฉิงก็ไม่มีแล้วแหละ นายรอเดี๋ยวนะ” เจวียนจื่อรีบพูดขึ้น

       “พวกเธอเอาตังกุยกับโสมมาก่อน ฉันต้องทดสอบของก่อน” กัวไฮว่หายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ยาจีนที่นี่จะได้ผลไหมนะ 

 

                                                   ————————

                   อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                       https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 51 กัวไฮว่ซื้อยา

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 51 กัวไฮว่ซื้อยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

       “กัวไฮว่ นายเทให้ฉันอีกแก้วได้ไหม” หลังจากที่ซุนหลิงหลิงดื่มเหล้าแก้วนั้นเสร็จ เธอก็ไม่กล้าสบตากัวไฮว่ เด็กผู้ชายอายุน้อยกว่าตนไม่กี่ปีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ดันรู้ว่าตนเองป่วย สิ่งที่สำคัญก็คือ ก่อนที่หมอนี่จะรู้จักเธอ ข่าวลือเกี่ยวกับเขาในเมืองอู่เฉิงไม่มีข่าวด้านบวกแม้แต่นิดเดียว

       “คำเล่าลือทั่วไปไม่อาจเชื่อหมดได้ ไม่ทราบว่าที่พี่คนสวยพูดเมื่อกี้เชื่อถือได้หรือเปล่า” กัวไฮว่เทเหล้าพลาง พูดขึ้นยิ้มๆ

       “เชื่อได้สิ ขอแค่นายไม่กลัวว่าแฟนจะหึง งานเลี้ยงวันเรียนจบฉันจะเชิญนายไปเป็นคู่เต้นรำ” ซุนหลิงหลิงพูดยิ้มๆ

       “ฮ่าๆ ถึงตอนนั้นผมจะรอคำเชิญจากพี่นะ ถ้าพี่อยากรักษาอาการป่วยให้หายดี สามวันหลังจากนี้ก็ติดต่อผมมาสิ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

       “พี่ไฮว่ พี่รักษาอาการป่วยของพี่หลิงหลิงได้จริงเหรอ” มู่หรงเวยเวยดึงกัวไฮว่เอาไว้แล้วพูดขึ้นเบาๆ

       “วางใจเถอะ ป่วยแค่เล็กน้อย กินข้าวกินข้าว อาหารที่ปู่หกมาเสิร์ฟไม่เลวเลยจริงๆ” กัวไฮว่พูดพลางคีบกับข้าวให้สาวๆ จากนั้นทุกคนก็พูดคุยกัน

       “พี่ไฮว่ ดูสิ ถ่ายรูปอะไรกันเนี่ย ผมหล่อขนาดนี้ ทำไมถ่ายเป็นแบบนี้ล่ะ ผมจะไปหาเรื่องมัน” หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จ ก็มาถ่ายรูปด้วยกัน เจ้าเซวียนเป็นคนช่างพูด กัวไฮว่เลยมีความประทับใจต่อเขาไม่เลวเลย

       “พี่ตัวตัว อันที่จริงพี่หน้าตาแบบนี้แต่ก็ถ่ายออกมาเป็นแบบนี้ได้ พี่น่าจะพอใจแล้วนะ” เซวียนต้าจู้ยืนอยู่ด้านหลังเฉียนตัวตัว มองคอมพิวเตอร์แล้วพูดขึ้นยิ้มๆ “ดูคุณไฮว่สิ ไอดอลโรงเรียนฟู่จง หล่อสุดๆ”

       “ให้ตาย มีแฟนคลับเกินกว่าสามพันคนแล้ว พี่ไฮว่นี่วาสนาดีนะ” เฉียนตัวตัวพูดเสียงดัง “พี่ไฮว่ มาดูสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนเร็ว ถ้าได้ที่หนึ่งการแข่งวิชาการ เราก็เทพแล้ว ฮ่าๆ”

       กัวไฮว่เดินลงมาจากดาดฟ้า เขาถอดเสื้อท่อนบนออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ไร้ซึ่งส่วนเกินบนร่าง

       “ตัวตัว สมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนคืออะไรเหรอ” กัวไฮว่ถามขึ้นยิ้มๆ

       “รอบตัดสินแข่งวิชาการ เจ็ดโรงเรียนอื่นเขารวมทีมกัน การแข่งขันวิชาการครั้งนี้ เป็นการแข่งของโรงเรียนเรากับสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียน” เฉียนตัวตัวพูดยิ้มๆ

       “ในเมื่อผ่านเข้าแข่งขันแล้วก็พักกันได้แล้ว ช่วยฉันลาเรียนหน่อยสิ ฉันต้องออกไปทำอะไรนิดหน่อย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

 

       “นายน้อยครับ สมาคมกุ่ยซื่อตอบมาแล้วครับ พวกเขาให้ราคาลอบฆ่ากัวไฮว่มาแล้ว” ชายชราผู้หนึ่งพูดกับฉินอวี้หลง

       “ในเมื่อให้ราคามาแล้ว งั้นก็รีบไปจัดการ ต้องรีบให้หมอนั่นตายก่อนการแข่งขันจริง ฉันอยากให้มันตาย!” ฉินอวี้หลงตะคอกเสียงดัง หลังจากการคัดเลือกสิ้นสุดลง ฉินอวี้หลงก็กลายเป็นบุคคลที่ดังที่สุดนอกเหนือจากเจ็ดคนที่ชนะการแข่งขัน เพราะเขาสวมกางเกงในตัวเดียววิ่งออกมาจากหอประชุม ถือเป็นการเดิมพันที่สูงเสียดฟ้า นายท่านตระกูลฉินเข้าโรงพยาบาลไปเรียบร้อยแล้ว ถึงกับประกาศกร้าวว่าได้เตะฉินอวี้หลงออกไปจากตระกูลฉินแล้ว ก่อนที่เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะมาเกี่ยวข้องกับตระกูลฉิน

       “นายท่าน สมาคมกุ่ยซื่อยื่นราคาร้อยร้อยล้าน ถ้าไม่ได้ราคานี้ก็ไม่ตกลงครับ” ชายชราประจำตระกูลฉินพูดขึ้นด้วยเสียงเบา

      เสียง “เพล้ง!” ดังขึ้น ฉินอวี้หลงบีบแก้วในมือจนแตกเละ จากนั้นก็เขวี้ยงคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งจะเล่นเมื่อสักครู่จนแตก “ร้อยร้อยล้าน กับแค่ฆ่านักเรียนคนเดียวเอาร้อยร้อยล้าน ฉันจำได้ว่าตอนแรกที่นายท่านฆ่าศัตรูทางธุรกิจจ่ายเงินไม่เกินสิบล้าน”

       “แต่ว่าหลิวฉ่วงที่คุณพูดถึงคนนั้นสมาคมกุ่ยซื่อบอกราคามาสิบล้าน” ชายชราพูดเบาๆ

       “ให้พวกเขาไปร้อยล้าน ฆ่าไอ้เด็กตระกูลหลิวนั้นก่อน ส่วนกัวไฮว่เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ฉินอวี้หลงพูดด้วยความโหดเหี้ยม

        “พี่เวย นี่เป็นใบลา ผมมีเรื่องต้องออกไปนิดหน่อยน่ะ” กัวไฮว่ทักทายหลี่เวยที่อยู่หน้าประตูฝ่ายรักษาความปลอดภัย

       “ไอ้น้อง แกนี่สุดยอดไปเลยนะ พวกเราดูวิดีโอการคัดเลือกแล้ว แกสุดยอดไปเลย” หลี่เวยพูดอย่างตื่นเต้นราวกับได้บังเอิญเจอดารา

       “ดูพี่เวยพูดเข้า ผมต้องรีบไปรีบกลับ อยากให้ผมเอาอะไรมาฝากไหม” กัวไฮว่ถามขึ้นยิ้มๆ

       “ไม่ต้องๆ รอแกกลับมาแล้ว ฉันกับเสี่ยวหลงจะเลี้ยงข้าวแก ตอนนั้นแกต้องให้เกียรติฉันนะ” หลี่เวยยิ้มพลางเปิดประตูให้กัวไฮว่ จากนั้นกัวไฮว่ก็ยิ้มพร้อมกับเดินออกไป

       “นายน้อย กัวไฮว่ที่คุณพูดถึงออกจากโรงเรียนแล้วครับ” ในขณะที่กัวไฮว่ออกไปชายชราตระกูลฉินก็เห็นเขาเข้า จึงรีบโทรศัพท์หาฉินอวี้หลง  

       “สวรรค์ช่วยฉันแล้ว ดี ลุงขุย ลุงไม่ต้องยุ่งแล้วล่ะ” ฉินอวี้หลงพูดอย่างโหดเหี้ยม

       “พ่อหนุ่ม แกอีกแล้วเหรอ” กัวไฮว่เพิ่งจะขึ้นรถ มองไปที่คนขับแวบหนึ่ง บังเอิญที่เป็นคนขับรถเมล์ที่เขามาที่ฟู่จงวันแรก

       “ลุง ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ผมเติมเงินแล้ว” พูดเสร็จ กัวไฮว่ก็วิ่งตรงไปนั่งตรงที่นั่งด้านหลังรถ

       “พ่อหนุ่ม ยังไม่ถึงเวลาปิดเทอมเลยนะ แกออกมาทำอะไรเนี่ย” บนรถไม่มีคนอื่น คนขับจึงมองกระจกหลังแล้วพูดกับกัวไฮว่

       “ลุง ผมจะไปในเมืองหน่อย ลุงพาผมไปส่งที่ที่ซื้อยาได้ก็พอแล้ว ผมไม่สบายตัวนิดหน่อย หมอให้ใบสั่งยามา ผมจะไปเอายามาน่ะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

       “อ้อ อย่างนี้เอง งั้นก็ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ ในสังคมตอนนี้เนี่ย มีอะไรก็ได้แต่อย่ามีไข้ ไม่มีอะไรก็ได้แต่อย่าไม่มีเงิน แกดูฉันสิ ขับรถไปมาอยู่ทั้งวัน แม่ของลูกเป็นแคชเชียร์อยู่ในเมือง พ่อหนุ่ม แกลงรถที่นี่นะ เดินตรงเข้าไปด้านใน มีร้านยาใหญ่ๆ ขายยาจีนอยู่สองสามร้าน แต่ทางที่ดีแกตามคนที่รู้เรื่องยาจีนไปด้วยก็ดีนะ ตอนนี้มียาปลอมไม่น้อยเลยล่ะ” คนขับรถพูดตลอดทางไม่หยุด ในที่สุดกัวไฮว่ก็มาถึงถนนเจิ้นจง

       “ของที่บรรพบุรุษเหลือทิ้งมาให้ก็เปลี่ยนรสชาติไปแล้ว เมื่อก่อนยาเม็ดนึงช่วยรักษาโรคได้ แต่ประสิทธิภาพยาตอนนี้ ถ้าไม่กินเป็นสิบเม็ดก็เกรงว่าจะรักษายาก” เมื่อกัวไฮว่เดินไปอยู่หน้าร้านยาร้านหนึ่ง ถึงจะมีกลิ่นหอมของยาติดจมูก แต่เมื่อสูดเข้าแรงๆ ก็รู้ได้ว่าประสิทธิภาพยาพวกนี้เทียบไม่ได้กับยาในสมัยราชวงศ์ถังและยิ่งไม่ต้องพูดถึงยาในสวรรค์

       “เจวียนจื่อ มีพี่สุดหล่อมา เธอไปรับแขกหน่อยสิ” ร้านยาขนาดใหญ่บนถนนเจิ้นจง มีทั้งยาฝรั่งยาจีน มีพนักงานสิบกว่าคนล้วนแล้วแต่เป็นนักเรียนที่จบมากจากคณะแพทย์มหาวิทยาลัยอู่เฉิง     

       “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ” เจวียนจื่อถูกเด็กผู้หญิงด้านหลังผลักมาตรงหน้าของกัวไฮว่ จากนั้นก็พูดขึ้นเบาๆ

       “เขากวาง กระดองตะพาบ หอยนางรม ซังเพียวเซียว โสม หวงฉี ตังกุย ไป๋สาว เซียงฟู่ เทียนตง กานเฉ่า ตี้หวง สูตี้หวง ชวนซยง อิ๋นไฉหู ตานชาน ซานเย่า เชี่ยนสือ ผงเขากวาง ที่นี่มีหมดใช่ไหม” กัวไฮว่มองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าแวบหนึ่งจากนั้นก็พูดขึ้นยิ้มๆ

       “สุดหล่อ นายพูดเร็วขนาดนี้ ใครจะไปจำได้ล่ะ นายพูดช้าหน่อยสิ แต่ถ้าเอายาพวกนี้มารวมกันแล้ว ดูเหมือนว่าจะไว้รักษาอาการผู้หญิงใช่ไหม” เจวียนจื่อยังไม่ได้ตอบ

       “เหอะๆๆ ถั่งเช่า เก๋ากี้อะไรพวกนี้ก็เอามาด้วย” กัวไฮว่พูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

       “สุดหล่อ อายุนายดูไม่เหมือนเด็กมหาลัยเลย ไม่ทราบว่าซื้อยาพวกนี้ไปทำไมเหรอ” เด็กหญิงคนนั้นถามขึ้น

       “สุดสวย นี่พวกเธอขายยาหรือแทะโลมลูกค้ากันแน่ สมุนไพรที่ฉันซื้อก็ไม่ได้เป็นของต้องห้ามสักหน่อย ถ้าพวกเธอมี ฉันก็จะซื้อ ถ้าไม่มี ฉันจะไปที่อื่นแล้ว” กัวไฮว่พูดเสียงดัง

       “มี แน่นอน ถ้าร้านเราไม่มี งั้นร้านอื่นในเมืองอู่เฉิงก็ไม่มีแล้วแหละ นายรอเดี๋ยวนะ” เจวียนจื่อรีบพูดขึ้น

       “พวกเธอเอาตังกุยกับโสมมาก่อน ฉันต้องทดสอบของก่อน” กัวไฮว่หายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ยาจีนที่นี่จะได้ผลไหมนะ 

 

                                                   ————————

                   อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                       https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+