[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 160 ที่เมืองหลวงเปิดกว้าง

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 160 ที่เมืองหลวงเปิดกว้าง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “แค่กๆๆ นายว่าไงนะ นะ…นายทำผู้หญิงที่หมั้นกับตระกูลกู่ท้องเหรอ ซวยแล้ว ซวยแล้ว นายซวยแน่ ท้องป่องก็หลบไปอยู่ในภูเขาสิ ไม่สิ ในภูเขาก็ไร้ประโยชน์เพราะตระกูลกู่หานายเจอแน่ ไปเกาะเล็กๆ ต่างประเทศเลย ไม่งั้นพวกนายได้ตายแน่นอน นายทำผู้หญิงของคนไหนในตระกูลกู่ท้องเหรอ ดูไม่ออกเลยจริงๆ อายุยังไม่เยอะก็ทำเรื่องสะท้านฟ้าสะเทือนดินแล้ว” หูเม่ยเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าแดงก่ำ

        “ดูเธอพูดเข้า ฉันยังไม่เชื่อเลยว่าตระกูลกู่จะทำอะไรฉันได้” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เมียฉันแค่มีสัญญาหมั้น ไม่ได้แต่งกับเขาจริงๆ สักหน่อย และต่อให้แต่งกับเขาไปแล้ว ผู้หญิงของฉันก็นอกใจเขาไปแล้วล่ะ เหมือนว่าหมอนั่นจะชื่อกู่เลี่ย เธอรู้จักหรือเปล่า กู่เลี่ย ถ้าครั้งนี้ไม่ยอมถอนหมั้น ฉันจะทำให้กระดูกมันแหลกเป็นซี่ๆ แน่”

        “อาอวิ๋นคะ รถลุงเป็นอะไร ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมคะ” เมื่ออาอวิ๋น คนขับรถของกัวไฮว่กับหูเม่ยเอ๋อร์ได้ยินชื่อกู่เลี่ย มือที่วางอยู่บนพวงมาลัยก็อดสั่นสะท้านไม่ได้ ถ้าเด็กนี่พูดจริง เช่นนั้นช่วงนี้จะเกิดเรื่องใหญ่ในเมืองหลวงแล้วล่ะ

        “แค่กๆ ไม่มีอะไรหรอก เมื่อกี้สติหลุดน่ะ” อาอวิ๋นพูดเบาๆ กับวิทยุสื่อสาร เซวียนหยวนเถิงเฟยถึงกับตกอกใจไป ถ้ารับเขามาแล้วเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นอีกก็ตลกเกินไปแล้ว

        สี่ชั่วโมงผ่านไป รถก็จอดแน่นขนัดอยู่ตรงหมู่บ้านอวิ๋นหัวซานในเมืองหลวง คนที่รู้จักสถานที่แห่งนี้ต่างก็เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เมืองเซวียนหยวน

        แน่นอนว่าตลอดทางสี่ชั่วโมงกัวไฮว่ก็ไม่เสียเวลาเปล่า เขาให้ยาผิวหิมะไปสองเม็ด หูเม่ยเอ๋อร์เล่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับตระกูลกู่ที่เธอรู้กับเขาไป กัวไฮว่เห็นว่าเด็กผู้หญิงที่แก่กว่าตนไม่กี่ปีที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เก่งมากจริงๆ แต่มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่หูเม่ยเอ๋อร์ไม่ได้บอกกัวไฮว่ ปีศาจเมืองหลวง ชื่อนี้ไม่ได้มาเล่นๆ

        “ในที่สุดก็ถึงบ้านสักที” หูเม่ยเอ๋อร์ยืดเอว ตลอดทางมานี้เธอรู้เรื่องของกัวไฮว่มาไม่น้อย ทว่าสิ่งที่ได้มาคุ้มที่สุดก็คือยาลูกกลอนสองเม็ดที่อยู่ในมือ ยาผิวหิมะ ในตลาดมืดเมืองหลวงขายกันเม็ดละยี่สิบล้าน ตอนนี้เธอมีอยู่สองเม็ด คิดแล้วหูเม่ยเอ๋อร์ก็ยิ้มขึ้นมา ทว่าเธอไม่รู้ว่ายาผิวหิมะนี่เป็นเพียงสิ่งที่ทำมาจากกากยา

        “น้องไฮว่ เข้าไปนั่งในบ้านก่อนสิ เม่ยเอ๋อร์ เธออยู่เป็นเพื่อนน้องไฮว่ก่อนนะ เดี๋ยวตอนกินข้าวจะมาเรียกพวกเธอ เธอพาน้องไฮว่ไปเดินดูรอบๆ ก่อนนะ ฉันต้องพาอาตั่วไปพบอาเขยก่อนน่ะ” เซวียนหยวนเถิงเฟยพูดยิ้มๆ

        “ที่ดีนะเนี่ย” หลังจากที่กัวไฮว่เดินเข้าไปในบ้านเซวียนหยวนก็พูดขึ้นเบาๆ หมู่บ้านอวิ๋นหัวซาน ตั้งอยู่ในเมืองหลวงมาหลายพันปีแล้ว เดิมทีเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์โบราณ ไม่อาจให้ใครมาอาศัยได้ ทว่าเมื่อตอนที่บรรพบุรุษตระกูลเซวียนหยวนกับรองผู้ดูแลหมู่บ้านอวิ๋นหัวซานคนสุดท้ายวางเดิมพันกัน เขาก็ชนะเอาหมู่บ้านภูเขาแห่งนี้ไปได้ เมื่อผ่านการก่อร่างสร้างเมืองมาหลายพันปีก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างในปัจจุบัน จากภายนอกดูไม่ธรรมดา ภายในได้ผสมผสานความเป็นปัจจุบันเข้าไป

        “ไม่แย่เลยใช่ไหมล่ะ ไป ฉันจะพานายไปดูรอบๆ” หูเม่ยเอ๋อร์พูดยิ้มๆ

        “ตระกูลหูของพวกเราถือเป็นญาติสายนอก มีแค่เรือนหลังเล็กๆ ในหมู่บ้านอวิ๋นหัวซานเท่านั้น ในบ้านก็มีฉันอยู่แค่คนเดียว” หูเม่ยเอ๋อร์พูดยิ้มๆ

        “นี่พี่ รู้หรือเปล่าว่าพี่กับพี่ตั่วตั่วทำเอาพวกเราตกใจแทบแย่ ไปเจอจี้เครื่องบินได้ยังไงกัน เมื่อกี้ฉันเห็นพี่เถิงเฟยแล้วล่ะ พวกพี่ไม่เป็นไรใช่ไหม” ในขณะที่กัวไฮว่กับหูเม่ยเอ๋อร์พูดคุยกันอยู่นั้น เด็กสาวหน้าตาไม่เลวคนหนึ่งก็เดินมาทางพวกเขา

        “ถึงว่าล่ะกลับมาแล้วไม่มาหาฉัน ที่แท้ก็จีบหนุ่มอยู่นี่เอง” เด็กสาวพูดขึ้นอย่างไม่ปิดบัง

        “เชี่ยนเชี่ยน พูดอะไรอย่างนั้น เขาชื่อกัวไฮว่ เป็นแขกคนสำคัญของตระกูลเซวียนหยวนของเธอเลยนะ ถ้าเธอทำเขาไม่พอใจ ไว้ถึงเวลาพี่เถิงเฟยได้จัดการเธอแน่” หูเม่ยเอ๋อร์พูดยิ้มๆ เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้คือน้องสาวฝั่งพ่อของเซวียนหยวนเถิงเฟย เพราะอายุไล่เลี่ยกันกับหูเม่ยเอ๋อร์ ที่อยู่ของพวกเธอสองคนก็ใกล้กันอีก ดังนั้นทั้งสองจึงสนิทกันเป็นพิเศษ

        “ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าพี่เถิงเฟยจะจัดการฉันเพราะผู้ชายบ้านี่คนเดียวหรอก” เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนพูดยิ้มๆ “พี่เม่ยเอ๋อร์ เล่าเรื่องพวกพี่บนเครื่องบินให้ฟังหน่อยสิ ต้องตื่นเต้นมากเลยใช่ไหม”

        “แน่ล่ะว่าตื่นเต้นสุดๆ ไปเลย แต่ฉันมาคิดตอนนี้ก็เสียดายอยู่เหมือนกัน อีกนิดเธอจะไม่ได้เจอฉันกับพี่เขาแล้วล่ะ” หูเม่ยเอ๋อร์พูดเบาๆ “จริงสิ ยายหนู เธอมานี่สิ ฉันจำได้ว่าตอนเด็กๆ ตรงคางเธอมีรอยแผลอยู่ มานี่ พี่จะช่วยเธอลบมันให้เอง”

        “พี่เม่ยเอ๋อร์ อย่ามาหลอกฉันเลย อย่าบอกนะว่าพี่ซื้อของที่ย่าแปดบอกที่เมืองอู่เฉิงจริงๆ น่ะ เป็นไปไม่ได้น่า หลายวันก่อนพี่หลิ่วเยียนส่งรายชื่อคนที่ประมูลยาผิวหิมะอะไรนั่นมาให้ฉันแล้วนี่น่า คนพวกนั้นไม่มีทางยกยาให้พี่แน่ พี่ล้อฉันเล่นอีกหรือเปล่า” เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนพูดเบาๆ

        “ลองดูเดี๋ยวก็รู้เองว่าจริงหรือปลอม” ในขณะที่พูด หูเม่ยเอ๋อร์ก็หยิบกล่องหยกออกมาจากตัว จากนั้นก็หยิบยามาจากในนั้นมาเม็ดหนึ่ง แล้วใช้เล็บขูดยาออกมาเบาๆ ให้เป็นผงแล้วทาไปบนคางของเซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนตามที่ลือกันมาในแวดวงสาวๆ เมืองหลวง อันที่จริงหูเม่ยเอ๋อร์แอบกังวลในประสิทธิภาพของยา เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่ายาที่กัวไฮว่ให้เธอมาเป็นของจริงหรือไม่

        “อะแฮ่มๆ พวกเธอทำแบบนี้จะทำให้ประสิทธิภาพออกมาไม่ดี ถ้าเออยากทำให้แผลเป็นที่คางเขาหายไปก็ใช้ยาผิวหิมะน้อยๆ หน่อย ใช้แค่ครึ่งเม็ด แล้วก็ไปเอาน้ำแร่มา ให้เขากินครึ่งเม็ดที่เหลือลงไป พรุ่งนี้เช้าแผลเป็นก็จะหายไปแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ถ้าเป็นยากันแก่ขูดผงยามาได้ ทว่าประสิทธิภาพยาผิวหิมะไม่ได้ดีขนาดนั้น

        หูเม่ยเอ๋อร์กัดริมฝีปากเบาๆ เธอมียาอยู่สองเม็ด ไม่นานก็ให้ไปเม็ดหนึ่ง เจ็บปวดใจมากมาย เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนเองก็ดูออก ไม่ว่าสาวๆ คนไหนก็รักสวยรักงามกันทั้งนั้น เธอเองก็อยากได้มาเม็ดหนึ่งเพื่อลบรอยแผลเป็นของตนเองออก

        “พี่เม่ยเอ๋อร์ ขอร้องล่ะนะ ให้ฉันใช้เม็ดนึงเถอะ พี่ยังมีอีกเม็ดนี่” เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนพูดเบาๆ “เฟอร์รารี่สีแดงที่ฉันเพิ่งซื้อมายกให้พี่นะ รีบมาช่วยฉันหน่อยสิ”

        หูเม่ยเอ๋อร์มองกัวไฮว่แวบหนึ่ง ส่วนกัวไฮว่ทำสีหน้าเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย ทำเอาหูเม่ยเอ๋อร์จนใจ เธอทำตัวเป็นคนดีแต่ของนี่ฉันเป็นคนทำมานะ ทว่าเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์กับเซวียนหยวนเชี่ยนเชียนแล้ว ให้เธอใช้เม็ดนึงแล้วกัน

        ผ่านไปประมาณห้านาที รอบแผลเป็นของเซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนก็ค่อยๆ จางลง ทำเอาหูเม่ยเอ๋อร์ดีใจจนจับมือกัวไฮว่ ด้วยไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

        “แค่ยาผิวหิมะเม็ดเดียว ถ้าให้ยากันแก่เธอไปนะ เธอจะให้หัวใจแลกกลับมาหรือเปล่า” กัวไฮว่พูดหยอกล้อ

        “บอกนายไปแล้วนี่ว่าฉันอยู่ที่ไหน ไม่ต้องยากันแก่อะไรหรอก ถ้านายอยากก็มาหาฉันตอนกลางคืนได้นะ อันที่จริง ฉันชอบนายเข้าแล้วล่ะ” หูเม่ยเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ แต่ทำเอากัวไฮว่เบิกตาโพล่งอีกครั้ง เปิดกว้าง เปิดกว้างกว่าสาวๆ ที่อู่เฉิงอีก ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกสาวๆ อย่างเวยเวยจะมาได้นะ เดี๋ยวจะเสียคนเอา

        “อย่ามัวแต่มองเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าแผลเป็นก็จะหายเกลี้ยง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ กับเซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนที่เอาแต่ส่องดูกระจกบานเล็กๆ

        “นายรู้ได้ยังไงว่าพรุ่งนี้จะหายเกลี้ยง” เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนส่องกระจกพลางถามยิ้มๆ มีความสุข วันนี้มีความสุขจริงๆ เธอไม่เคยคิดเลยว่าพี่เม่ยเอ๋อร์จะเอายาผิวหิมะมาได้ แถมยังให้ตัวเองมาเม็ดนึง

        “เขาก็ต้องรู้สิ เพราะยาผิวหิมะนี่เขาเป็นคนให้ฉัน เชี่ยนเชี่ยน พี่แลกหัวใจกับยาผิวหิมะสองเม็ดนี่มาเลยนะ ต่อไปถ้ามีพวกบ้าในหมู่บ้านอวิ๋นหัวมาแกล้งพี่อีก เธอรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง” หูเม่ยเอ๋อร์พูดยิ้มๆ

        “แลกหัวใจ? งั้นก็ดี พี่สุดหล่อ พี่ก็เห็นใช่ไหมว่าฉันหน้าตาพอๆ กับพี่เม่ยเอ๋อร์ ฉันก็แลกใจได้เหมือนกัน พี่ให้ฉันมาสักสองเม็ดได้ไหม” เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย

        “อะแฮ่มๆ คนเมืองหลวงอย่างพวกเธอนี่เปิดกว้างกันจังเลยนะ คนอู่เฉิงไม่เล่นอะไรแบบนี้กันหรอก” กัวไฮว่มองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ หน้าตาก็ไม่เลว แม้จะเทียบกับอวี้เอ๋อร์ไม่ได้ แต่ก็ระดับเดียวกันกับเสี่ยวซีกับเยี่ยจื่อ ทว่ามาอ่อยก่อนแบบนี้ ทำเอากัวไฮว่รับไม่ไหวเหมือนกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 160 ที่เมืองหลวงเปิดกว้าง

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 160 ที่เมืองหลวงเปิดกว้าง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “แค่กๆๆ นายว่าไงนะ นะ…นายทำผู้หญิงที่หมั้นกับตระกูลกู่ท้องเหรอ ซวยแล้ว ซวยแล้ว นายซวยแน่ ท้องป่องก็หลบไปอยู่ในภูเขาสิ ไม่สิ ในภูเขาก็ไร้ประโยชน์เพราะตระกูลกู่หานายเจอแน่ ไปเกาะเล็กๆ ต่างประเทศเลย ไม่งั้นพวกนายได้ตายแน่นอน นายทำผู้หญิงของคนไหนในตระกูลกู่ท้องเหรอ ดูไม่ออกเลยจริงๆ อายุยังไม่เยอะก็ทำเรื่องสะท้านฟ้าสะเทือนดินแล้ว” หูเม่ยเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าแดงก่ำ

        “ดูเธอพูดเข้า ฉันยังไม่เชื่อเลยว่าตระกูลกู่จะทำอะไรฉันได้” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เมียฉันแค่มีสัญญาหมั้น ไม่ได้แต่งกับเขาจริงๆ สักหน่อย และต่อให้แต่งกับเขาไปแล้ว ผู้หญิงของฉันก็นอกใจเขาไปแล้วล่ะ เหมือนว่าหมอนั่นจะชื่อกู่เลี่ย เธอรู้จักหรือเปล่า กู่เลี่ย ถ้าครั้งนี้ไม่ยอมถอนหมั้น ฉันจะทำให้กระดูกมันแหลกเป็นซี่ๆ แน่”

        “อาอวิ๋นคะ รถลุงเป็นอะไร ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมคะ” เมื่ออาอวิ๋น คนขับรถของกัวไฮว่กับหูเม่ยเอ๋อร์ได้ยินชื่อกู่เลี่ย มือที่วางอยู่บนพวงมาลัยก็อดสั่นสะท้านไม่ได้ ถ้าเด็กนี่พูดจริง เช่นนั้นช่วงนี้จะเกิดเรื่องใหญ่ในเมืองหลวงแล้วล่ะ

        “แค่กๆ ไม่มีอะไรหรอก เมื่อกี้สติหลุดน่ะ” อาอวิ๋นพูดเบาๆ กับวิทยุสื่อสาร เซวียนหยวนเถิงเฟยถึงกับตกอกใจไป ถ้ารับเขามาแล้วเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นอีกก็ตลกเกินไปแล้ว

        สี่ชั่วโมงผ่านไป รถก็จอดแน่นขนัดอยู่ตรงหมู่บ้านอวิ๋นหัวซานในเมืองหลวง คนที่รู้จักสถานที่แห่งนี้ต่างก็เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เมืองเซวียนหยวน

        แน่นอนว่าตลอดทางสี่ชั่วโมงกัวไฮว่ก็ไม่เสียเวลาเปล่า เขาให้ยาผิวหิมะไปสองเม็ด หูเม่ยเอ๋อร์เล่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับตระกูลกู่ที่เธอรู้กับเขาไป กัวไฮว่เห็นว่าเด็กผู้หญิงที่แก่กว่าตนไม่กี่ปีที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เก่งมากจริงๆ แต่มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่หูเม่ยเอ๋อร์ไม่ได้บอกกัวไฮว่ ปีศาจเมืองหลวง ชื่อนี้ไม่ได้มาเล่นๆ

        “ในที่สุดก็ถึงบ้านสักที” หูเม่ยเอ๋อร์ยืดเอว ตลอดทางมานี้เธอรู้เรื่องของกัวไฮว่มาไม่น้อย ทว่าสิ่งที่ได้มาคุ้มที่สุดก็คือยาลูกกลอนสองเม็ดที่อยู่ในมือ ยาผิวหิมะ ในตลาดมืดเมืองหลวงขายกันเม็ดละยี่สิบล้าน ตอนนี้เธอมีอยู่สองเม็ด คิดแล้วหูเม่ยเอ๋อร์ก็ยิ้มขึ้นมา ทว่าเธอไม่รู้ว่ายาผิวหิมะนี่เป็นเพียงสิ่งที่ทำมาจากกากยา

        “น้องไฮว่ เข้าไปนั่งในบ้านก่อนสิ เม่ยเอ๋อร์ เธออยู่เป็นเพื่อนน้องไฮว่ก่อนนะ เดี๋ยวตอนกินข้าวจะมาเรียกพวกเธอ เธอพาน้องไฮว่ไปเดินดูรอบๆ ก่อนนะ ฉันต้องพาอาตั่วไปพบอาเขยก่อนน่ะ” เซวียนหยวนเถิงเฟยพูดยิ้มๆ

        “ที่ดีนะเนี่ย” หลังจากที่กัวไฮว่เดินเข้าไปในบ้านเซวียนหยวนก็พูดขึ้นเบาๆ หมู่บ้านอวิ๋นหัวซาน ตั้งอยู่ในเมืองหลวงมาหลายพันปีแล้ว เดิมทีเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์โบราณ ไม่อาจให้ใครมาอาศัยได้ ทว่าเมื่อตอนที่บรรพบุรุษตระกูลเซวียนหยวนกับรองผู้ดูแลหมู่บ้านอวิ๋นหัวซานคนสุดท้ายวางเดิมพันกัน เขาก็ชนะเอาหมู่บ้านภูเขาแห่งนี้ไปได้ เมื่อผ่านการก่อร่างสร้างเมืองมาหลายพันปีก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างในปัจจุบัน จากภายนอกดูไม่ธรรมดา ภายในได้ผสมผสานความเป็นปัจจุบันเข้าไป

        “ไม่แย่เลยใช่ไหมล่ะ ไป ฉันจะพานายไปดูรอบๆ” หูเม่ยเอ๋อร์พูดยิ้มๆ

        “ตระกูลหูของพวกเราถือเป็นญาติสายนอก มีแค่เรือนหลังเล็กๆ ในหมู่บ้านอวิ๋นหัวซานเท่านั้น ในบ้านก็มีฉันอยู่แค่คนเดียว” หูเม่ยเอ๋อร์พูดยิ้มๆ

        “นี่พี่ รู้หรือเปล่าว่าพี่กับพี่ตั่วตั่วทำเอาพวกเราตกใจแทบแย่ ไปเจอจี้เครื่องบินได้ยังไงกัน เมื่อกี้ฉันเห็นพี่เถิงเฟยแล้วล่ะ พวกพี่ไม่เป็นไรใช่ไหม” ในขณะที่กัวไฮว่กับหูเม่ยเอ๋อร์พูดคุยกันอยู่นั้น เด็กสาวหน้าตาไม่เลวคนหนึ่งก็เดินมาทางพวกเขา

        “ถึงว่าล่ะกลับมาแล้วไม่มาหาฉัน ที่แท้ก็จีบหนุ่มอยู่นี่เอง” เด็กสาวพูดขึ้นอย่างไม่ปิดบัง

        “เชี่ยนเชี่ยน พูดอะไรอย่างนั้น เขาชื่อกัวไฮว่ เป็นแขกคนสำคัญของตระกูลเซวียนหยวนของเธอเลยนะ ถ้าเธอทำเขาไม่พอใจ ไว้ถึงเวลาพี่เถิงเฟยได้จัดการเธอแน่” หูเม่ยเอ๋อร์พูดยิ้มๆ เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้คือน้องสาวฝั่งพ่อของเซวียนหยวนเถิงเฟย เพราะอายุไล่เลี่ยกันกับหูเม่ยเอ๋อร์ ที่อยู่ของพวกเธอสองคนก็ใกล้กันอีก ดังนั้นทั้งสองจึงสนิทกันเป็นพิเศษ

        “ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าพี่เถิงเฟยจะจัดการฉันเพราะผู้ชายบ้านี่คนเดียวหรอก” เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนพูดยิ้มๆ “พี่เม่ยเอ๋อร์ เล่าเรื่องพวกพี่บนเครื่องบินให้ฟังหน่อยสิ ต้องตื่นเต้นมากเลยใช่ไหม”

        “แน่ล่ะว่าตื่นเต้นสุดๆ ไปเลย แต่ฉันมาคิดตอนนี้ก็เสียดายอยู่เหมือนกัน อีกนิดเธอจะไม่ได้เจอฉันกับพี่เขาแล้วล่ะ” หูเม่ยเอ๋อร์พูดเบาๆ “จริงสิ ยายหนู เธอมานี่สิ ฉันจำได้ว่าตอนเด็กๆ ตรงคางเธอมีรอยแผลอยู่ มานี่ พี่จะช่วยเธอลบมันให้เอง”

        “พี่เม่ยเอ๋อร์ อย่ามาหลอกฉันเลย อย่าบอกนะว่าพี่ซื้อของที่ย่าแปดบอกที่เมืองอู่เฉิงจริงๆ น่ะ เป็นไปไม่ได้น่า หลายวันก่อนพี่หลิ่วเยียนส่งรายชื่อคนที่ประมูลยาผิวหิมะอะไรนั่นมาให้ฉันแล้วนี่น่า คนพวกนั้นไม่มีทางยกยาให้พี่แน่ พี่ล้อฉันเล่นอีกหรือเปล่า” เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนพูดเบาๆ

        “ลองดูเดี๋ยวก็รู้เองว่าจริงหรือปลอม” ในขณะที่พูด หูเม่ยเอ๋อร์ก็หยิบกล่องหยกออกมาจากตัว จากนั้นก็หยิบยามาจากในนั้นมาเม็ดหนึ่ง แล้วใช้เล็บขูดยาออกมาเบาๆ ให้เป็นผงแล้วทาไปบนคางของเซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนตามที่ลือกันมาในแวดวงสาวๆ เมืองหลวง อันที่จริงหูเม่ยเอ๋อร์แอบกังวลในประสิทธิภาพของยา เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่ายาที่กัวไฮว่ให้เธอมาเป็นของจริงหรือไม่

        “อะแฮ่มๆ พวกเธอทำแบบนี้จะทำให้ประสิทธิภาพออกมาไม่ดี ถ้าเออยากทำให้แผลเป็นที่คางเขาหายไปก็ใช้ยาผิวหิมะน้อยๆ หน่อย ใช้แค่ครึ่งเม็ด แล้วก็ไปเอาน้ำแร่มา ให้เขากินครึ่งเม็ดที่เหลือลงไป พรุ่งนี้เช้าแผลเป็นก็จะหายไปแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ถ้าเป็นยากันแก่ขูดผงยามาได้ ทว่าประสิทธิภาพยาผิวหิมะไม่ได้ดีขนาดนั้น

        หูเม่ยเอ๋อร์กัดริมฝีปากเบาๆ เธอมียาอยู่สองเม็ด ไม่นานก็ให้ไปเม็ดหนึ่ง เจ็บปวดใจมากมาย เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนเองก็ดูออก ไม่ว่าสาวๆ คนไหนก็รักสวยรักงามกันทั้งนั้น เธอเองก็อยากได้มาเม็ดหนึ่งเพื่อลบรอยแผลเป็นของตนเองออก

        “พี่เม่ยเอ๋อร์ ขอร้องล่ะนะ ให้ฉันใช้เม็ดนึงเถอะ พี่ยังมีอีกเม็ดนี่” เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนพูดเบาๆ “เฟอร์รารี่สีแดงที่ฉันเพิ่งซื้อมายกให้พี่นะ รีบมาช่วยฉันหน่อยสิ”

        หูเม่ยเอ๋อร์มองกัวไฮว่แวบหนึ่ง ส่วนกัวไฮว่ทำสีหน้าเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย ทำเอาหูเม่ยเอ๋อร์จนใจ เธอทำตัวเป็นคนดีแต่ของนี่ฉันเป็นคนทำมานะ ทว่าเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์กับเซวียนหยวนเชี่ยนเชียนแล้ว ให้เธอใช้เม็ดนึงแล้วกัน

        ผ่านไปประมาณห้านาที รอบแผลเป็นของเซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนก็ค่อยๆ จางลง ทำเอาหูเม่ยเอ๋อร์ดีใจจนจับมือกัวไฮว่ ด้วยไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

        “แค่ยาผิวหิมะเม็ดเดียว ถ้าให้ยากันแก่เธอไปนะ เธอจะให้หัวใจแลกกลับมาหรือเปล่า” กัวไฮว่พูดหยอกล้อ

        “บอกนายไปแล้วนี่ว่าฉันอยู่ที่ไหน ไม่ต้องยากันแก่อะไรหรอก ถ้านายอยากก็มาหาฉันตอนกลางคืนได้นะ อันที่จริง ฉันชอบนายเข้าแล้วล่ะ” หูเม่ยเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ แต่ทำเอากัวไฮว่เบิกตาโพล่งอีกครั้ง เปิดกว้าง เปิดกว้างกว่าสาวๆ ที่อู่เฉิงอีก ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกสาวๆ อย่างเวยเวยจะมาได้นะ เดี๋ยวจะเสียคนเอา

        “อย่ามัวแต่มองเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าแผลเป็นก็จะหายเกลี้ยง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ กับเซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนที่เอาแต่ส่องดูกระจกบานเล็กๆ

        “นายรู้ได้ยังไงว่าพรุ่งนี้จะหายเกลี้ยง” เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนส่องกระจกพลางถามยิ้มๆ มีความสุข วันนี้มีความสุขจริงๆ เธอไม่เคยคิดเลยว่าพี่เม่ยเอ๋อร์จะเอายาผิวหิมะมาได้ แถมยังให้ตัวเองมาเม็ดนึง

        “เขาก็ต้องรู้สิ เพราะยาผิวหิมะนี่เขาเป็นคนให้ฉัน เชี่ยนเชี่ยน พี่แลกหัวใจกับยาผิวหิมะสองเม็ดนี่มาเลยนะ ต่อไปถ้ามีพวกบ้าในหมู่บ้านอวิ๋นหัวมาแกล้งพี่อีก เธอรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง” หูเม่ยเอ๋อร์พูดยิ้มๆ

        “แลกหัวใจ? งั้นก็ดี พี่สุดหล่อ พี่ก็เห็นใช่ไหมว่าฉันหน้าตาพอๆ กับพี่เม่ยเอ๋อร์ ฉันก็แลกใจได้เหมือนกัน พี่ให้ฉันมาสักสองเม็ดได้ไหม” เซวียนหยวนเชี่ยนเชี่ยนพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย

        “อะแฮ่มๆ คนเมืองหลวงอย่างพวกเธอนี่เปิดกว้างกันจังเลยนะ คนอู่เฉิงไม่เล่นอะไรแบบนี้กันหรอก” กัวไฮว่มองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ หน้าตาก็ไม่เลว แม้จะเทียบกับอวี้เอ๋อร์ไม่ได้ แต่ก็ระดับเดียวกันกับเสี่ยวซีกับเยี่ยจื่อ ทว่ามาอ่อยก่อนแบบนี้ ทำเอากัวไฮว่รับไม่ไหวเหมือนกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+