[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 29 อายุไม่ใช่ปัญหา

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 29 อายุไม่ใช่ปัญหา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        กัวไฮว่กับซูเยี่ยทะเลาะกันยกใหญ่ ถังซีกับโหยวโยวโยวทนดูไม่ไหวจึงลากซูเยี่ยไปอีกทางทั้งสองจึงได้สงบลง

        “พอแล้ว พอแล้ว คราวนี้ฉันผิด ฉันให้เหล้าพวกเธอคนละหนึ่งขวด พวกเธอกลับบ้านไปคราวนี้ก็เอาไปให้พวกผู้ใหญ่ที่บ้านพวกเธอเถอะ แต่ว่าให้แค่ขวดเดียวครั้งเดียวเท่านั้นนะ พวกเธอคิดเอาแล้วกันว่าจะหลอกผู้ใหญ่บ้านตัวเองกันยังไง”กัวไฮว่พูดพลางถือขวดกระเบื้องสามขวดเอาไว้ในมือดูท่าทางแปลกกว่าปกติ

        “ตาบ้านายเอาของนั่นมาหลอกพวกเรารึเปล่าเนี่ย นายเอาขวดบ้านี่มาจากไหน”เมื่อซูเยี่ยผู้ระงับความโกรธมาได้แล้วเห็นขวดกระเบื้องสามใบที่อยู่ในมือกัวไฮว่ก็มีน้ำโหขึ้นมาอีกครั้ง

        “โวยวายทำไมกันนี่ยายเมียเก็บ พี่ดีกับเธอมากพอแล้วนะไม่อยากได้ก็แล้วไป งั้นสองขวดนี่ก็เป็นของเสี่ยวซีละกัน ยังจะมารังเกียจว่าขวดฉันไม่สวยอีก จะบอกพวกเธอให้นะว่าถ้าเอาเหล้านี่ไปให้ผู้ใหญ่บ้านพวกเธอแล้วต้องเอาขวดมาคืนให้ฉันด้วย ถ้าเธออยากได้ขวดบอกเลยว่าฉันไม่ให้”กัวไฮว่พูดเสียงดังเวลานั้นเองซูเยี่ยก็ไม่มีน้ำโหแล้ว

        “เอาให้ฟรีใครไม่เอาล่ะ”ซูเยี่ยพูดพลางยื่นมือมาแย่งขวดทั้งสองใบไปแล้วส่งให้ถังซีใบหนึ่ง“ฉันชิมก่อนล่ะ ฮึ”

        “เสี่ยวเยี่ยจื่อตามใจเธอเลยอันนี้ไม่ได้อร่อยเหมือนกับอันที่เรากิน แต่ว่าเหมือนกับเหล้าในการประมูลเด๊ะ”กัวไฮว่พูดจบก็ส่งขวดใบสุดท้ายให้โหยวโยวโยว

        “พี่ไฮว่เมื่อกี้ครูหลินซวงบอกว่าถ้าพี่อยากได้น้ำเต้าที่ประมูลมาก็ให้ไปหาเธอน่ะ”ถังซีเอ่ยขึ้นเบาๆ

         

        “ผู้หญิงเนี่ยจริงๆเลยเหล้านี่ให้อีกไม่ได้แล้ว ถ้าให้ไปร้อยปีนี้ฉันจะอยู่ยังไงล่ะ”กัวไฮว่พูดเบาๆ“เสี่ยวซีระหว่างทางระวังตัวด้วยนะอย่าไปพูดกับคนแปลกหน้า เดือนนี้ฉันจะไม่กลับบ้านแล้วเดี๋ยวฉันจะตามเวยเวยไปทักทายปรมาจารย์อวี้เฟิง โยวโยวเธอก็ด้วยนะ ฮ่าๆ ถ้าคิดถึงฉันก็โทรมาหาฉันได้ เสี่ยวเยี่ยจื่อเธออย่ามารบกวนพี่ได้แล้ว”พูดจบกัวไฮว่ก็ลากมู่หรงเวยเวยไปทางคณะกรรมการการประมูล….เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือการเอาน้ำเต้ามาไงล่ะ

        “พี่ไฮว่น้ำเต้านี่มีความลับอะไรกันแน่”มู่หรงเวยเวยถามขึ้นเบาๆ

        “เดี๋ยวฉันจะค่อยๆบอกเธอเอง บอกเธอตอนนี้เดี๋ยวเธอจะไม่เชื่อน่ะสิ”กัวไฮว่พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า“เวลาร้อยปีไม่นานก็จะผ่านไปเรื่องต่างๆมากมายรู้แล้วไม่สู้ไม่รู้”

        “งั้นข่าวลือทั่วเมืองอู่เฉิงเกี่ยวกับสี่ตัวอันตรายนั่นจริงหรือปลอมล่ะ”มู่หรงเวยเวยถามขึ้นเสียงค่อย

        “ข่าวลือ?สี่ตัวอันตราย ไร้ยางอาย รังแกคนอ่อนแอ ก่อเรื่องผิดกฎหมาย ไม่มีขื่อมีแป?”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ“ไม่มีมูลย่อมไม่มีข่าวลือ แต่ว่าความจริงผสมรวมกับความเท็จ เมื่อข่าวลือออกมาแล้วจะเชื่อทั้งหมดได้ยังไงกัน”

        “จะตามฉันเข้าไปหรือจะรอฉันอยู่ข้างนอก หรือว่าเธอจะไปหาปรมาจารย์อวี้เฟิงก่อน”เมื่อทั้งสองมาถึงหน้าประตูห้องกรรมการการประมูลกัวไฮว่ก็ถามขึ้นยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่งั้นพี่คิดว่าให้ฉันทำยังไงดี”มู่หรงเวยเวยพูดขึ้นยิ้มๆ“หรือว่าสี่ตัวอันตรายจะกลัวผู้หญิงอย่างฉันทำเสียเรื่อง?ไม่รู้ว่าทำไมก่อนที่ได้รู้จักพี่ฉันได้ยินข่าวด้านลบของพี่มาแท้ๆแต่หลังจากที่ฉันได้เจอพี่ก็เชื่อพี่หมดทุกอย่าง พี่เข้าไปเถอะฉันจะไปดูสักหน่อยว่าท่านอาจารย์ยังอยู่ในโรงเรียนหรือออกไปแล้ว”พูดจบมู่หรงเวยเวยก็หมุนกายเดินจากไปอีกทาง

        “ยายเด็กนี่เจ้าเป็นมารในใจข้าหรือข้าเป็นมารในใจเจ้ากันแน่ ถังเสวียนจง[1]มีเมียในวังหลังตั้งสามพันกว่าคน แม้ข้าจะรู้ว่าในสังคมปัจจุบันนี้จะไม่ให้ทำเช่นนั้นแล้ว ทว่าข้าก็ยังจะเลือกรักคนที่ข้าเจอบนแดนมนุษย์ทุกคนในเวลาหนึ่งร้อยปีนี้  ใครจะไปเข้าใจความยากลำบากของเทพแห่งจิตอย่างข้าในครานั้นกันเล่า”พูดเสร็จกัวไฮว่ก็เดินไปยังกรรมการการประมูล

        “แสนแสนสามเจ็ดพันห้าหมื่นห้าหมื่นห้าหมื่น”หลินซวงอยู่ที่ด้านข้างคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งพิมพ์ตัวเลขบนกระดาษที่อยู่ตรงหน้าลงไปในคอมพิวเตอร์

        “อู่เฉียนจ่ายเงินค่าเหล้าแล้ว เจี่ยหยวนก็เคลียร์เงินเรียบร้อยแล้วในหัวสมองก็เหลือแต่กัวไฮว่เด็กบ้านั่นแล้ว”กัวไฮว่ตรวจสอบเงินพลางบ่นพึมพำ

        “ตอนนี้เป็นสองร้อยเจ็ดสิบห้าล้านหนึ่งหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยหยวนเยอะกว่าการประมูลครั้งก่อนตั้งสองร้อยล้าน”หลินซวงพูดเสียงเบา“ตาเด็กบ้านี่แค่รายการเดียวก็สองร้อยกว่าล้านแล้วไม่เหมือนกับที่คนข้างนอกพูดไว้เลยหรือว่าสี่ตัวอันตรายจะกลับตัวแล้ว?”

        “รู้สึกว่ากัวไฮว่แสนจะเจ๋ง อยากจะได้เขาเป็นแฟนใช่ไหมล่ะ”

        “หน้าตาก็ไม่เลวแถมยังมีเหล้าดีขนาดนั้นติดตัวอีก เสียแต่เด็กไปหน่อย”หลินซวงเอ่ยขึ้นโดยไม่รู้ตัว“อ๊ะเธอ…เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่เมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น”หลินซวงเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นกัวไฮว่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มก็พูดขึ้นเสียงดัง

        “ครูหลินข้าวก็เลี้ยงแล้ว เหล้าก็เลี้ยงแล้ว ครูก็ควรจัดการเรื่องน้ำเต้านั่นให้ผมแล้วใช่ไหม”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ

        “จัดการ จัดการ ห้าสิบล้านเอาเงินมาแล้วใช่ไหม”หลินซวงพูดขึ้นด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ น่าอายจริงๆ รีบจัดการเรื่องน้ำเต้าของเขาให้เสร็จ หมอนั่นจะได้ไสหัวไปเสียที

        “เงินในบัตรน่าจะพอ ครูดูสิรวมกับเงินที่ครูดื่มเหล้าไปด้วยนะเรื่องนี้ผมคิดไม่รอบคอบเอง ตอนนั้นน่าจะให้ครูชิมก่อนค่อยไปประมูล”กัวไฮว่พูดพลางหยิบบัตรสีดำออกมาจากตัวหนึ่งใบแล้วส่งไปให้หลินซวง

        “เงินฉันให้ฉันจัดการเองเถอะ คราวหลังเธอก็ประหยัดเงินหน่อย ไม่งั้นเงินที่ผู้ใหญ่ในตระกูลกัวหามาไม่นานก็จะถูกเธอใช้จนหมด”หลินซวงกล่าวขึ้นอย่างตำหนิ

        “ไม่ใช่ความคิดของครูหลินหรอกเหรอ ที่ให้ผมอุทิศให้งานประมูลครั้งนี้น่ะ”กัวไฮว่หรี่ตาถามกลับ

        “คะ…ครูคิดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันเธออย่ามาพูดเหลวไหลต่อให้ครูคิดแบบนั้นก็ไม่ได้จะให้เธอจ่ายเงินเยอะขนาดนี้สักหน่อย”หลินซวงพูดเสียงดัง“บัตรคืนเธอนะ นายท่านกัวอุทิศเงินให้การวิจัยมาตลอดชีวิต หวังว่าเธอจะเอาเงินไปใช้ในที่ที่ควรจะใช้นะ”

        “ครูหลินครูรู้ได้ยังไงว่าเงินนี่เป็นของปู่ผม รู้ได้ยังไงว่าผมไม่ได้หามาเอง”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ“ต่อไปจะไม่ใช้เงินนายท่านอีกแล้วล่ะ เงินน่ะไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผมอีกแล้วล่ะ”

        “ครูจะบอกเธอให้นะกัวไฮว่ ตอนนี้เธอเป็นนักเรียนฟู่จง ถ้าพบว่าเธอทำเรื่องวุ่นวายผิดกฎแม้แต่ครั้งเดียวใครก็ช่วยเธอไม่ได้แล้ว เธอก็จะเรียนที่ฟู่จงต่อไม่ได้แล้ว”หลินซวงพูดเสียงดัง

        “วางใจเถอะครูหลิน เรื่องวุ่นวายผิดกฎผมจะไม่ทำอีกต่อไปแล้วล่ะ ผมต้องรักษาช่วงเวลานักเรียนสามปีให้ดี ถ้าเรียนที่ฟู่จงไม่ได้แล้วผมจะเจอหน้าครูได้ยังไงล่ะ”กัวไฮว่มองหน้าหลินซวงแล้วเอ่ยขึ้น

        “เหอะๆ น้ำเต้านี่ให้เธอ มะ…ไม่มีธุระอะไรแล้วเธอก็รีบไปเถอะครูยังมีงานต้องทำอีกเยอะ”หลินซวงพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ

        “ไหนๆก็ไม่มีธุระอะไรแล้ว ไม่งั้นให้ผมช่วยครูไหม”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ต้องรวมเงินประมูลครั้งนี้ไม่ใช่เหรอเรียบร้อยแล้วหรือยัง”กัวไฮว่ไปนั่งยังด้านข้างของคอมพิวเตอร์มือทั้งสองพิมพ์ไปบนคีย์บอร์ดด้วยความรวดเร็ว

        “ไม่คิดเลยว่าเด็กนี่จะเป็นมือโปรคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อบวกเข้ากับความสามารถในการจำของข้าทำให้ง่ายขึ้นเยอะเลย”กัวไฮว่แอบคิดเงียบๆในใจ

        “เด็กบ้านี่ก็ใช่ว่าไม่มีอะไรดีสักอย่าง”หลินซวงมองกัวไฮว่ที่จดจ่อกับคอมพิวเตอร์และพิมพ์บนคีย์บอร์ดด้วยความว่องไวแล้วก็แอบคิดเงียบๆในใจ

        “ครูหลินดูสิ แบบนี้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”กัวไฮว่พูดเสร็จก็พิมพ์ตารางแผ่นหนึ่งมาวางไว้หน้าหลินซวง

        “นี่ทำไมเธอถึงกรอกข้อมูลพวกนี้ในคอมพิวเตอร์ได้ไวขนาดนี้แถมยังไม่ผิดสักนิด”หลินซวงตรวจสอบจำนวนข้อมูลที่ตัวเองวุ่นวายอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบา

        “เป็นเพราะได้อยู่กับคนที่ตัวเองชอบไง ก็เลยมีความรู้สึกบางอย่าง”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ครูหลินอันที่จริงอายุก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรนะ ครูไม่ต้องกดดันเยอะขนาดนั้นก็ได้”พูดจบกัวไฮว่ก็หัวเราะพลางเดินออกจากห้องประมูลไป

        
 

        [1]จักรพรรดิในสมัยราชวงศ์ถัง

         

 

                                                                  ————————

                                อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                                  https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 29 อายุไม่ใช่ปัญหา

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 29 อายุไม่ใช่ปัญหา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        กัวไฮว่กับซูเยี่ยทะเลาะกันยกใหญ่ ถังซีกับโหยวโยวโยวทนดูไม่ไหวจึงลากซูเยี่ยไปอีกทางทั้งสองจึงได้สงบลง

        “พอแล้ว พอแล้ว คราวนี้ฉันผิด ฉันให้เหล้าพวกเธอคนละหนึ่งขวด พวกเธอกลับบ้านไปคราวนี้ก็เอาไปให้พวกผู้ใหญ่ที่บ้านพวกเธอเถอะ แต่ว่าให้แค่ขวดเดียวครั้งเดียวเท่านั้นนะ พวกเธอคิดเอาแล้วกันว่าจะหลอกผู้ใหญ่บ้านตัวเองกันยังไง”กัวไฮว่พูดพลางถือขวดกระเบื้องสามขวดเอาไว้ในมือดูท่าทางแปลกกว่าปกติ

        “ตาบ้านายเอาของนั่นมาหลอกพวกเรารึเปล่าเนี่ย นายเอาขวดบ้านี่มาจากไหน”เมื่อซูเยี่ยผู้ระงับความโกรธมาได้แล้วเห็นขวดกระเบื้องสามใบที่อยู่ในมือกัวไฮว่ก็มีน้ำโหขึ้นมาอีกครั้ง

        “โวยวายทำไมกันนี่ยายเมียเก็บ พี่ดีกับเธอมากพอแล้วนะไม่อยากได้ก็แล้วไป งั้นสองขวดนี่ก็เป็นของเสี่ยวซีละกัน ยังจะมารังเกียจว่าขวดฉันไม่สวยอีก จะบอกพวกเธอให้นะว่าถ้าเอาเหล้านี่ไปให้ผู้ใหญ่บ้านพวกเธอแล้วต้องเอาขวดมาคืนให้ฉันด้วย ถ้าเธออยากได้ขวดบอกเลยว่าฉันไม่ให้”กัวไฮว่พูดเสียงดังเวลานั้นเองซูเยี่ยก็ไม่มีน้ำโหแล้ว

        “เอาให้ฟรีใครไม่เอาล่ะ”ซูเยี่ยพูดพลางยื่นมือมาแย่งขวดทั้งสองใบไปแล้วส่งให้ถังซีใบหนึ่ง“ฉันชิมก่อนล่ะ ฮึ”

        “เสี่ยวเยี่ยจื่อตามใจเธอเลยอันนี้ไม่ได้อร่อยเหมือนกับอันที่เรากิน แต่ว่าเหมือนกับเหล้าในการประมูลเด๊ะ”กัวไฮว่พูดจบก็ส่งขวดใบสุดท้ายให้โหยวโยวโยว

        “พี่ไฮว่เมื่อกี้ครูหลินซวงบอกว่าถ้าพี่อยากได้น้ำเต้าที่ประมูลมาก็ให้ไปหาเธอน่ะ”ถังซีเอ่ยขึ้นเบาๆ

         

        “ผู้หญิงเนี่ยจริงๆเลยเหล้านี่ให้อีกไม่ได้แล้ว ถ้าให้ไปร้อยปีนี้ฉันจะอยู่ยังไงล่ะ”กัวไฮว่พูดเบาๆ“เสี่ยวซีระหว่างทางระวังตัวด้วยนะอย่าไปพูดกับคนแปลกหน้า เดือนนี้ฉันจะไม่กลับบ้านแล้วเดี๋ยวฉันจะตามเวยเวยไปทักทายปรมาจารย์อวี้เฟิง โยวโยวเธอก็ด้วยนะ ฮ่าๆ ถ้าคิดถึงฉันก็โทรมาหาฉันได้ เสี่ยวเยี่ยจื่อเธออย่ามารบกวนพี่ได้แล้ว”พูดจบกัวไฮว่ก็ลากมู่หรงเวยเวยไปทางคณะกรรมการการประมูล….เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือการเอาน้ำเต้ามาไงล่ะ

        “พี่ไฮว่น้ำเต้านี่มีความลับอะไรกันแน่”มู่หรงเวยเวยถามขึ้นเบาๆ

        “เดี๋ยวฉันจะค่อยๆบอกเธอเอง บอกเธอตอนนี้เดี๋ยวเธอจะไม่เชื่อน่ะสิ”กัวไฮว่พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า“เวลาร้อยปีไม่นานก็จะผ่านไปเรื่องต่างๆมากมายรู้แล้วไม่สู้ไม่รู้”

        “งั้นข่าวลือทั่วเมืองอู่เฉิงเกี่ยวกับสี่ตัวอันตรายนั่นจริงหรือปลอมล่ะ”มู่หรงเวยเวยถามขึ้นเสียงค่อย

        “ข่าวลือ?สี่ตัวอันตราย ไร้ยางอาย รังแกคนอ่อนแอ ก่อเรื่องผิดกฎหมาย ไม่มีขื่อมีแป?”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ“ไม่มีมูลย่อมไม่มีข่าวลือ แต่ว่าความจริงผสมรวมกับความเท็จ เมื่อข่าวลือออกมาแล้วจะเชื่อทั้งหมดได้ยังไงกัน”

        “จะตามฉันเข้าไปหรือจะรอฉันอยู่ข้างนอก หรือว่าเธอจะไปหาปรมาจารย์อวี้เฟิงก่อน”เมื่อทั้งสองมาถึงหน้าประตูห้องกรรมการการประมูลกัวไฮว่ก็ถามขึ้นยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่งั้นพี่คิดว่าให้ฉันทำยังไงดี”มู่หรงเวยเวยพูดขึ้นยิ้มๆ“หรือว่าสี่ตัวอันตรายจะกลัวผู้หญิงอย่างฉันทำเสียเรื่อง?ไม่รู้ว่าทำไมก่อนที่ได้รู้จักพี่ฉันได้ยินข่าวด้านลบของพี่มาแท้ๆแต่หลังจากที่ฉันได้เจอพี่ก็เชื่อพี่หมดทุกอย่าง พี่เข้าไปเถอะฉันจะไปดูสักหน่อยว่าท่านอาจารย์ยังอยู่ในโรงเรียนหรือออกไปแล้ว”พูดจบมู่หรงเวยเวยก็หมุนกายเดินจากไปอีกทาง

        “ยายเด็กนี่เจ้าเป็นมารในใจข้าหรือข้าเป็นมารในใจเจ้ากันแน่ ถังเสวียนจง[1]มีเมียในวังหลังตั้งสามพันกว่าคน แม้ข้าจะรู้ว่าในสังคมปัจจุบันนี้จะไม่ให้ทำเช่นนั้นแล้ว ทว่าข้าก็ยังจะเลือกรักคนที่ข้าเจอบนแดนมนุษย์ทุกคนในเวลาหนึ่งร้อยปีนี้  ใครจะไปเข้าใจความยากลำบากของเทพแห่งจิตอย่างข้าในครานั้นกันเล่า”พูดเสร็จกัวไฮว่ก็เดินไปยังกรรมการการประมูล

        “แสนแสนสามเจ็ดพันห้าหมื่นห้าหมื่นห้าหมื่น”หลินซวงอยู่ที่ด้านข้างคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งพิมพ์ตัวเลขบนกระดาษที่อยู่ตรงหน้าลงไปในคอมพิวเตอร์

        “อู่เฉียนจ่ายเงินค่าเหล้าแล้ว เจี่ยหยวนก็เคลียร์เงินเรียบร้อยแล้วในหัวสมองก็เหลือแต่กัวไฮว่เด็กบ้านั่นแล้ว”กัวไฮว่ตรวจสอบเงินพลางบ่นพึมพำ

        “ตอนนี้เป็นสองร้อยเจ็ดสิบห้าล้านหนึ่งหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยหยวนเยอะกว่าการประมูลครั้งก่อนตั้งสองร้อยล้าน”หลินซวงพูดเสียงเบา“ตาเด็กบ้านี่แค่รายการเดียวก็สองร้อยกว่าล้านแล้วไม่เหมือนกับที่คนข้างนอกพูดไว้เลยหรือว่าสี่ตัวอันตรายจะกลับตัวแล้ว?”

        “รู้สึกว่ากัวไฮว่แสนจะเจ๋ง อยากจะได้เขาเป็นแฟนใช่ไหมล่ะ”

        “หน้าตาก็ไม่เลวแถมยังมีเหล้าดีขนาดนั้นติดตัวอีก เสียแต่เด็กไปหน่อย”หลินซวงเอ่ยขึ้นโดยไม่รู้ตัว“อ๊ะเธอ…เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่เมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น”หลินซวงเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นกัวไฮว่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มก็พูดขึ้นเสียงดัง

        “ครูหลินข้าวก็เลี้ยงแล้ว เหล้าก็เลี้ยงแล้ว ครูก็ควรจัดการเรื่องน้ำเต้านั่นให้ผมแล้วใช่ไหม”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ

        “จัดการ จัดการ ห้าสิบล้านเอาเงินมาแล้วใช่ไหม”หลินซวงพูดขึ้นด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ น่าอายจริงๆ รีบจัดการเรื่องน้ำเต้าของเขาให้เสร็จ หมอนั่นจะได้ไสหัวไปเสียที

        “เงินในบัตรน่าจะพอ ครูดูสิรวมกับเงินที่ครูดื่มเหล้าไปด้วยนะเรื่องนี้ผมคิดไม่รอบคอบเอง ตอนนั้นน่าจะให้ครูชิมก่อนค่อยไปประมูล”กัวไฮว่พูดพลางหยิบบัตรสีดำออกมาจากตัวหนึ่งใบแล้วส่งไปให้หลินซวง

        “เงินฉันให้ฉันจัดการเองเถอะ คราวหลังเธอก็ประหยัดเงินหน่อย ไม่งั้นเงินที่ผู้ใหญ่ในตระกูลกัวหามาไม่นานก็จะถูกเธอใช้จนหมด”หลินซวงกล่าวขึ้นอย่างตำหนิ

        “ไม่ใช่ความคิดของครูหลินหรอกเหรอ ที่ให้ผมอุทิศให้งานประมูลครั้งนี้น่ะ”กัวไฮว่หรี่ตาถามกลับ

        “คะ…ครูคิดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันเธออย่ามาพูดเหลวไหลต่อให้ครูคิดแบบนั้นก็ไม่ได้จะให้เธอจ่ายเงินเยอะขนาดนี้สักหน่อย”หลินซวงพูดเสียงดัง“บัตรคืนเธอนะ นายท่านกัวอุทิศเงินให้การวิจัยมาตลอดชีวิต หวังว่าเธอจะเอาเงินไปใช้ในที่ที่ควรจะใช้นะ”

        “ครูหลินครูรู้ได้ยังไงว่าเงินนี่เป็นของปู่ผม รู้ได้ยังไงว่าผมไม่ได้หามาเอง”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ“ต่อไปจะไม่ใช้เงินนายท่านอีกแล้วล่ะ เงินน่ะไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผมอีกแล้วล่ะ”

        “ครูจะบอกเธอให้นะกัวไฮว่ ตอนนี้เธอเป็นนักเรียนฟู่จง ถ้าพบว่าเธอทำเรื่องวุ่นวายผิดกฎแม้แต่ครั้งเดียวใครก็ช่วยเธอไม่ได้แล้ว เธอก็จะเรียนที่ฟู่จงต่อไม่ได้แล้ว”หลินซวงพูดเสียงดัง

        “วางใจเถอะครูหลิน เรื่องวุ่นวายผิดกฎผมจะไม่ทำอีกต่อไปแล้วล่ะ ผมต้องรักษาช่วงเวลานักเรียนสามปีให้ดี ถ้าเรียนที่ฟู่จงไม่ได้แล้วผมจะเจอหน้าครูได้ยังไงล่ะ”กัวไฮว่มองหน้าหลินซวงแล้วเอ่ยขึ้น

        “เหอะๆ น้ำเต้านี่ให้เธอ มะ…ไม่มีธุระอะไรแล้วเธอก็รีบไปเถอะครูยังมีงานต้องทำอีกเยอะ”หลินซวงพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ

        “ไหนๆก็ไม่มีธุระอะไรแล้ว ไม่งั้นให้ผมช่วยครูไหม”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ต้องรวมเงินประมูลครั้งนี้ไม่ใช่เหรอเรียบร้อยแล้วหรือยัง”กัวไฮว่ไปนั่งยังด้านข้างของคอมพิวเตอร์มือทั้งสองพิมพ์ไปบนคีย์บอร์ดด้วยความรวดเร็ว

        “ไม่คิดเลยว่าเด็กนี่จะเป็นมือโปรคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อบวกเข้ากับความสามารถในการจำของข้าทำให้ง่ายขึ้นเยอะเลย”กัวไฮว่แอบคิดเงียบๆในใจ

        “เด็กบ้านี่ก็ใช่ว่าไม่มีอะไรดีสักอย่าง”หลินซวงมองกัวไฮว่ที่จดจ่อกับคอมพิวเตอร์และพิมพ์บนคีย์บอร์ดด้วยความว่องไวแล้วก็แอบคิดเงียบๆในใจ

        “ครูหลินดูสิ แบบนี้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”กัวไฮว่พูดเสร็จก็พิมพ์ตารางแผ่นหนึ่งมาวางไว้หน้าหลินซวง

        “นี่ทำไมเธอถึงกรอกข้อมูลพวกนี้ในคอมพิวเตอร์ได้ไวขนาดนี้แถมยังไม่ผิดสักนิด”หลินซวงตรวจสอบจำนวนข้อมูลที่ตัวเองวุ่นวายอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบา

        “เป็นเพราะได้อยู่กับคนที่ตัวเองชอบไง ก็เลยมีความรู้สึกบางอย่าง”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ครูหลินอันที่จริงอายุก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรนะ ครูไม่ต้องกดดันเยอะขนาดนั้นก็ได้”พูดจบกัวไฮว่ก็หัวเราะพลางเดินออกจากห้องประมูลไป

        
 

        [1]จักรพรรดิในสมัยราชวงศ์ถัง

         

 

                                                                  ————————

                                อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                                  https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 29 อายุไม่ใช่ปัญหา

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 29 อายุไม่ใช่ปัญหา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        กัวไฮว่กับซูเยี่ยทะเลาะกันยกใหญ่ ถังซีกับโหยวโยวโยวทนดูไม่ไหวจึงลากซูเยี่ยไปอีกทางทั้งสองจึงได้สงบลง

        “พอแล้ว พอแล้ว คราวนี้ฉันผิด ฉันให้เหล้าพวกเธอคนละหนึ่งขวด พวกเธอกลับบ้านไปคราวนี้ก็เอาไปให้พวกผู้ใหญ่ที่บ้านพวกเธอเถอะ แต่ว่าให้แค่ขวดเดียวครั้งเดียวเท่านั้นนะ พวกเธอคิดเอาแล้วกันว่าจะหลอกผู้ใหญ่บ้านตัวเองกันยังไง”กัวไฮว่พูดพลางถือขวดกระเบื้องสามขวดเอาไว้ในมือดูท่าทางแปลกกว่าปกติ

        “ตาบ้านายเอาของนั่นมาหลอกพวกเรารึเปล่าเนี่ย นายเอาขวดบ้านี่มาจากไหน”เมื่อซูเยี่ยผู้ระงับความโกรธมาได้แล้วเห็นขวดกระเบื้องสามใบที่อยู่ในมือกัวไฮว่ก็มีน้ำโหขึ้นมาอีกครั้ง

        “โวยวายทำไมกันนี่ยายเมียเก็บ พี่ดีกับเธอมากพอแล้วนะไม่อยากได้ก็แล้วไป งั้นสองขวดนี่ก็เป็นของเสี่ยวซีละกัน ยังจะมารังเกียจว่าขวดฉันไม่สวยอีก จะบอกพวกเธอให้นะว่าถ้าเอาเหล้านี่ไปให้ผู้ใหญ่บ้านพวกเธอแล้วต้องเอาขวดมาคืนให้ฉันด้วย ถ้าเธออยากได้ขวดบอกเลยว่าฉันไม่ให้”กัวไฮว่พูดเสียงดังเวลานั้นเองซูเยี่ยก็ไม่มีน้ำโหแล้ว

        “เอาให้ฟรีใครไม่เอาล่ะ”ซูเยี่ยพูดพลางยื่นมือมาแย่งขวดทั้งสองใบไปแล้วส่งให้ถังซีใบหนึ่ง“ฉันชิมก่อนล่ะ ฮึ”

        “เสี่ยวเยี่ยจื่อตามใจเธอเลยอันนี้ไม่ได้อร่อยเหมือนกับอันที่เรากิน แต่ว่าเหมือนกับเหล้าในการประมูลเด๊ะ”กัวไฮว่พูดจบก็ส่งขวดใบสุดท้ายให้โหยวโยวโยว

        “พี่ไฮว่เมื่อกี้ครูหลินซวงบอกว่าถ้าพี่อยากได้น้ำเต้าที่ประมูลมาก็ให้ไปหาเธอน่ะ”ถังซีเอ่ยขึ้นเบาๆ

         

        “ผู้หญิงเนี่ยจริงๆเลยเหล้านี่ให้อีกไม่ได้แล้ว ถ้าให้ไปร้อยปีนี้ฉันจะอยู่ยังไงล่ะ”กัวไฮว่พูดเบาๆ“เสี่ยวซีระหว่างทางระวังตัวด้วยนะอย่าไปพูดกับคนแปลกหน้า เดือนนี้ฉันจะไม่กลับบ้านแล้วเดี๋ยวฉันจะตามเวยเวยไปทักทายปรมาจารย์อวี้เฟิง โยวโยวเธอก็ด้วยนะ ฮ่าๆ ถ้าคิดถึงฉันก็โทรมาหาฉันได้ เสี่ยวเยี่ยจื่อเธออย่ามารบกวนพี่ได้แล้ว”พูดจบกัวไฮว่ก็ลากมู่หรงเวยเวยไปทางคณะกรรมการการประมูล….เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือการเอาน้ำเต้ามาไงล่ะ

        “พี่ไฮว่น้ำเต้านี่มีความลับอะไรกันแน่”มู่หรงเวยเวยถามขึ้นเบาๆ

        “เดี๋ยวฉันจะค่อยๆบอกเธอเอง บอกเธอตอนนี้เดี๋ยวเธอจะไม่เชื่อน่ะสิ”กัวไฮว่พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า“เวลาร้อยปีไม่นานก็จะผ่านไปเรื่องต่างๆมากมายรู้แล้วไม่สู้ไม่รู้”

        “งั้นข่าวลือทั่วเมืองอู่เฉิงเกี่ยวกับสี่ตัวอันตรายนั่นจริงหรือปลอมล่ะ”มู่หรงเวยเวยถามขึ้นเสียงค่อย

        “ข่าวลือ?สี่ตัวอันตราย ไร้ยางอาย รังแกคนอ่อนแอ ก่อเรื่องผิดกฎหมาย ไม่มีขื่อมีแป?”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ“ไม่มีมูลย่อมไม่มีข่าวลือ แต่ว่าความจริงผสมรวมกับความเท็จ เมื่อข่าวลือออกมาแล้วจะเชื่อทั้งหมดได้ยังไงกัน”

        “จะตามฉันเข้าไปหรือจะรอฉันอยู่ข้างนอก หรือว่าเธอจะไปหาปรมาจารย์อวี้เฟิงก่อน”เมื่อทั้งสองมาถึงหน้าประตูห้องกรรมการการประมูลกัวไฮว่ก็ถามขึ้นยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่งั้นพี่คิดว่าให้ฉันทำยังไงดี”มู่หรงเวยเวยพูดขึ้นยิ้มๆ“หรือว่าสี่ตัวอันตรายจะกลัวผู้หญิงอย่างฉันทำเสียเรื่อง?ไม่รู้ว่าทำไมก่อนที่ได้รู้จักพี่ฉันได้ยินข่าวด้านลบของพี่มาแท้ๆแต่หลังจากที่ฉันได้เจอพี่ก็เชื่อพี่หมดทุกอย่าง พี่เข้าไปเถอะฉันจะไปดูสักหน่อยว่าท่านอาจารย์ยังอยู่ในโรงเรียนหรือออกไปแล้ว”พูดจบมู่หรงเวยเวยก็หมุนกายเดินจากไปอีกทาง

        “ยายเด็กนี่เจ้าเป็นมารในใจข้าหรือข้าเป็นมารในใจเจ้ากันแน่ ถังเสวียนจง[1]มีเมียในวังหลังตั้งสามพันกว่าคน แม้ข้าจะรู้ว่าในสังคมปัจจุบันนี้จะไม่ให้ทำเช่นนั้นแล้ว ทว่าข้าก็ยังจะเลือกรักคนที่ข้าเจอบนแดนมนุษย์ทุกคนในเวลาหนึ่งร้อยปีนี้  ใครจะไปเข้าใจความยากลำบากของเทพแห่งจิตอย่างข้าในครานั้นกันเล่า”พูดเสร็จกัวไฮว่ก็เดินไปยังกรรมการการประมูล

        “แสนแสนสามเจ็ดพันห้าหมื่นห้าหมื่นห้าหมื่น”หลินซวงอยู่ที่ด้านข้างคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งพิมพ์ตัวเลขบนกระดาษที่อยู่ตรงหน้าลงไปในคอมพิวเตอร์

        “อู่เฉียนจ่ายเงินค่าเหล้าแล้ว เจี่ยหยวนก็เคลียร์เงินเรียบร้อยแล้วในหัวสมองก็เหลือแต่กัวไฮว่เด็กบ้านั่นแล้ว”กัวไฮว่ตรวจสอบเงินพลางบ่นพึมพำ

        “ตอนนี้เป็นสองร้อยเจ็ดสิบห้าล้านหนึ่งหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยหยวนเยอะกว่าการประมูลครั้งก่อนตั้งสองร้อยล้าน”หลินซวงพูดเสียงเบา“ตาเด็กบ้านี่แค่รายการเดียวก็สองร้อยกว่าล้านแล้วไม่เหมือนกับที่คนข้างนอกพูดไว้เลยหรือว่าสี่ตัวอันตรายจะกลับตัวแล้ว?”

        “รู้สึกว่ากัวไฮว่แสนจะเจ๋ง อยากจะได้เขาเป็นแฟนใช่ไหมล่ะ”

        “หน้าตาก็ไม่เลวแถมยังมีเหล้าดีขนาดนั้นติดตัวอีก เสียแต่เด็กไปหน่อย”หลินซวงเอ่ยขึ้นโดยไม่รู้ตัว“อ๊ะเธอ…เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่เมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น”หลินซวงเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นกัวไฮว่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มก็พูดขึ้นเสียงดัง

        “ครูหลินข้าวก็เลี้ยงแล้ว เหล้าก็เลี้ยงแล้ว ครูก็ควรจัดการเรื่องน้ำเต้านั่นให้ผมแล้วใช่ไหม”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ

        “จัดการ จัดการ ห้าสิบล้านเอาเงินมาแล้วใช่ไหม”หลินซวงพูดขึ้นด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ น่าอายจริงๆ รีบจัดการเรื่องน้ำเต้าของเขาให้เสร็จ หมอนั่นจะได้ไสหัวไปเสียที

        “เงินในบัตรน่าจะพอ ครูดูสิรวมกับเงินที่ครูดื่มเหล้าไปด้วยนะเรื่องนี้ผมคิดไม่รอบคอบเอง ตอนนั้นน่าจะให้ครูชิมก่อนค่อยไปประมูล”กัวไฮว่พูดพลางหยิบบัตรสีดำออกมาจากตัวหนึ่งใบแล้วส่งไปให้หลินซวง

        “เงินฉันให้ฉันจัดการเองเถอะ คราวหลังเธอก็ประหยัดเงินหน่อย ไม่งั้นเงินที่ผู้ใหญ่ในตระกูลกัวหามาไม่นานก็จะถูกเธอใช้จนหมด”หลินซวงกล่าวขึ้นอย่างตำหนิ

        “ไม่ใช่ความคิดของครูหลินหรอกเหรอ ที่ให้ผมอุทิศให้งานประมูลครั้งนี้น่ะ”กัวไฮว่หรี่ตาถามกลับ

        “คะ…ครูคิดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันเธออย่ามาพูดเหลวไหลต่อให้ครูคิดแบบนั้นก็ไม่ได้จะให้เธอจ่ายเงินเยอะขนาดนี้สักหน่อย”หลินซวงพูดเสียงดัง“บัตรคืนเธอนะ นายท่านกัวอุทิศเงินให้การวิจัยมาตลอดชีวิต หวังว่าเธอจะเอาเงินไปใช้ในที่ที่ควรจะใช้นะ”

        “ครูหลินครูรู้ได้ยังไงว่าเงินนี่เป็นของปู่ผม รู้ได้ยังไงว่าผมไม่ได้หามาเอง”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ“ต่อไปจะไม่ใช้เงินนายท่านอีกแล้วล่ะ เงินน่ะไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผมอีกแล้วล่ะ”

        “ครูจะบอกเธอให้นะกัวไฮว่ ตอนนี้เธอเป็นนักเรียนฟู่จง ถ้าพบว่าเธอทำเรื่องวุ่นวายผิดกฎแม้แต่ครั้งเดียวใครก็ช่วยเธอไม่ได้แล้ว เธอก็จะเรียนที่ฟู่จงต่อไม่ได้แล้ว”หลินซวงพูดเสียงดัง

        “วางใจเถอะครูหลิน เรื่องวุ่นวายผิดกฎผมจะไม่ทำอีกต่อไปแล้วล่ะ ผมต้องรักษาช่วงเวลานักเรียนสามปีให้ดี ถ้าเรียนที่ฟู่จงไม่ได้แล้วผมจะเจอหน้าครูได้ยังไงล่ะ”กัวไฮว่มองหน้าหลินซวงแล้วเอ่ยขึ้น

        “เหอะๆ น้ำเต้านี่ให้เธอ มะ…ไม่มีธุระอะไรแล้วเธอก็รีบไปเถอะครูยังมีงานต้องทำอีกเยอะ”หลินซวงพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ

        “ไหนๆก็ไม่มีธุระอะไรแล้ว ไม่งั้นให้ผมช่วยครูไหม”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ต้องรวมเงินประมูลครั้งนี้ไม่ใช่เหรอเรียบร้อยแล้วหรือยัง”กัวไฮว่ไปนั่งยังด้านข้างของคอมพิวเตอร์มือทั้งสองพิมพ์ไปบนคีย์บอร์ดด้วยความรวดเร็ว

        “ไม่คิดเลยว่าเด็กนี่จะเป็นมือโปรคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อบวกเข้ากับความสามารถในการจำของข้าทำให้ง่ายขึ้นเยอะเลย”กัวไฮว่แอบคิดเงียบๆในใจ

        “เด็กบ้านี่ก็ใช่ว่าไม่มีอะไรดีสักอย่าง”หลินซวงมองกัวไฮว่ที่จดจ่อกับคอมพิวเตอร์และพิมพ์บนคีย์บอร์ดด้วยความว่องไวแล้วก็แอบคิดเงียบๆในใจ

        “ครูหลินดูสิ แบบนี้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”กัวไฮว่พูดเสร็จก็พิมพ์ตารางแผ่นหนึ่งมาวางไว้หน้าหลินซวง

        “นี่ทำไมเธอถึงกรอกข้อมูลพวกนี้ในคอมพิวเตอร์ได้ไวขนาดนี้แถมยังไม่ผิดสักนิด”หลินซวงตรวจสอบจำนวนข้อมูลที่ตัวเองวุ่นวายอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบา

        “เป็นเพราะได้อยู่กับคนที่ตัวเองชอบไง ก็เลยมีความรู้สึกบางอย่าง”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ครูหลินอันที่จริงอายุก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรนะ ครูไม่ต้องกดดันเยอะขนาดนั้นก็ได้”พูดจบกัวไฮว่ก็หัวเราะพลางเดินออกจากห้องประมูลไป

        
 

        [1]จักรพรรดิในสมัยราชวงศ์ถัง

         

 

                                                                  ————————

                                อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                                  https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 29 อายุไม่ใช่ปัญหา

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 29 อายุไม่ใช่ปัญหา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        กัวไฮว่กับซูเยี่ยทะเลาะกันยกใหญ่ ถังซีกับโหยวโยวโยวทนดูไม่ไหวจึงลากซูเยี่ยไปอีกทางทั้งสองจึงได้สงบลง

        “พอแล้ว พอแล้ว คราวนี้ฉันผิด ฉันให้เหล้าพวกเธอคนละหนึ่งขวด พวกเธอกลับบ้านไปคราวนี้ก็เอาไปให้พวกผู้ใหญ่ที่บ้านพวกเธอเถอะ แต่ว่าให้แค่ขวดเดียวครั้งเดียวเท่านั้นนะ พวกเธอคิดเอาแล้วกันว่าจะหลอกผู้ใหญ่บ้านตัวเองกันยังไง”กัวไฮว่พูดพลางถือขวดกระเบื้องสามขวดเอาไว้ในมือดูท่าทางแปลกกว่าปกติ

        “ตาบ้านายเอาของนั่นมาหลอกพวกเรารึเปล่าเนี่ย นายเอาขวดบ้านี่มาจากไหน”เมื่อซูเยี่ยผู้ระงับความโกรธมาได้แล้วเห็นขวดกระเบื้องสามใบที่อยู่ในมือกัวไฮว่ก็มีน้ำโหขึ้นมาอีกครั้ง

        “โวยวายทำไมกันนี่ยายเมียเก็บ พี่ดีกับเธอมากพอแล้วนะไม่อยากได้ก็แล้วไป งั้นสองขวดนี่ก็เป็นของเสี่ยวซีละกัน ยังจะมารังเกียจว่าขวดฉันไม่สวยอีก จะบอกพวกเธอให้นะว่าถ้าเอาเหล้านี่ไปให้ผู้ใหญ่บ้านพวกเธอแล้วต้องเอาขวดมาคืนให้ฉันด้วย ถ้าเธออยากได้ขวดบอกเลยว่าฉันไม่ให้”กัวไฮว่พูดเสียงดังเวลานั้นเองซูเยี่ยก็ไม่มีน้ำโหแล้ว

        “เอาให้ฟรีใครไม่เอาล่ะ”ซูเยี่ยพูดพลางยื่นมือมาแย่งขวดทั้งสองใบไปแล้วส่งให้ถังซีใบหนึ่ง“ฉันชิมก่อนล่ะ ฮึ”

        “เสี่ยวเยี่ยจื่อตามใจเธอเลยอันนี้ไม่ได้อร่อยเหมือนกับอันที่เรากิน แต่ว่าเหมือนกับเหล้าในการประมูลเด๊ะ”กัวไฮว่พูดจบก็ส่งขวดใบสุดท้ายให้โหยวโยวโยว

        “พี่ไฮว่เมื่อกี้ครูหลินซวงบอกว่าถ้าพี่อยากได้น้ำเต้าที่ประมูลมาก็ให้ไปหาเธอน่ะ”ถังซีเอ่ยขึ้นเบาๆ

         

        “ผู้หญิงเนี่ยจริงๆเลยเหล้านี่ให้อีกไม่ได้แล้ว ถ้าให้ไปร้อยปีนี้ฉันจะอยู่ยังไงล่ะ”กัวไฮว่พูดเบาๆ“เสี่ยวซีระหว่างทางระวังตัวด้วยนะอย่าไปพูดกับคนแปลกหน้า เดือนนี้ฉันจะไม่กลับบ้านแล้วเดี๋ยวฉันจะตามเวยเวยไปทักทายปรมาจารย์อวี้เฟิง โยวโยวเธอก็ด้วยนะ ฮ่าๆ ถ้าคิดถึงฉันก็โทรมาหาฉันได้ เสี่ยวเยี่ยจื่อเธออย่ามารบกวนพี่ได้แล้ว”พูดจบกัวไฮว่ก็ลากมู่หรงเวยเวยไปทางคณะกรรมการการประมูล….เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือการเอาน้ำเต้ามาไงล่ะ

        “พี่ไฮว่น้ำเต้านี่มีความลับอะไรกันแน่”มู่หรงเวยเวยถามขึ้นเบาๆ

        “เดี๋ยวฉันจะค่อยๆบอกเธอเอง บอกเธอตอนนี้เดี๋ยวเธอจะไม่เชื่อน่ะสิ”กัวไฮว่พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า“เวลาร้อยปีไม่นานก็จะผ่านไปเรื่องต่างๆมากมายรู้แล้วไม่สู้ไม่รู้”

        “งั้นข่าวลือทั่วเมืองอู่เฉิงเกี่ยวกับสี่ตัวอันตรายนั่นจริงหรือปลอมล่ะ”มู่หรงเวยเวยถามขึ้นเสียงค่อย

        “ข่าวลือ?สี่ตัวอันตราย ไร้ยางอาย รังแกคนอ่อนแอ ก่อเรื่องผิดกฎหมาย ไม่มีขื่อมีแป?”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ“ไม่มีมูลย่อมไม่มีข่าวลือ แต่ว่าความจริงผสมรวมกับความเท็จ เมื่อข่าวลือออกมาแล้วจะเชื่อทั้งหมดได้ยังไงกัน”

        “จะตามฉันเข้าไปหรือจะรอฉันอยู่ข้างนอก หรือว่าเธอจะไปหาปรมาจารย์อวี้เฟิงก่อน”เมื่อทั้งสองมาถึงหน้าประตูห้องกรรมการการประมูลกัวไฮว่ก็ถามขึ้นยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่งั้นพี่คิดว่าให้ฉันทำยังไงดี”มู่หรงเวยเวยพูดขึ้นยิ้มๆ“หรือว่าสี่ตัวอันตรายจะกลัวผู้หญิงอย่างฉันทำเสียเรื่อง?ไม่รู้ว่าทำไมก่อนที่ได้รู้จักพี่ฉันได้ยินข่าวด้านลบของพี่มาแท้ๆแต่หลังจากที่ฉันได้เจอพี่ก็เชื่อพี่หมดทุกอย่าง พี่เข้าไปเถอะฉันจะไปดูสักหน่อยว่าท่านอาจารย์ยังอยู่ในโรงเรียนหรือออกไปแล้ว”พูดจบมู่หรงเวยเวยก็หมุนกายเดินจากไปอีกทาง

        “ยายเด็กนี่เจ้าเป็นมารในใจข้าหรือข้าเป็นมารในใจเจ้ากันแน่ ถังเสวียนจง[1]มีเมียในวังหลังตั้งสามพันกว่าคน แม้ข้าจะรู้ว่าในสังคมปัจจุบันนี้จะไม่ให้ทำเช่นนั้นแล้ว ทว่าข้าก็ยังจะเลือกรักคนที่ข้าเจอบนแดนมนุษย์ทุกคนในเวลาหนึ่งร้อยปีนี้  ใครจะไปเข้าใจความยากลำบากของเทพแห่งจิตอย่างข้าในครานั้นกันเล่า”พูดเสร็จกัวไฮว่ก็เดินไปยังกรรมการการประมูล

        “แสนแสนสามเจ็ดพันห้าหมื่นห้าหมื่นห้าหมื่น”หลินซวงอยู่ที่ด้านข้างคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งพิมพ์ตัวเลขบนกระดาษที่อยู่ตรงหน้าลงไปในคอมพิวเตอร์

        “อู่เฉียนจ่ายเงินค่าเหล้าแล้ว เจี่ยหยวนก็เคลียร์เงินเรียบร้อยแล้วในหัวสมองก็เหลือแต่กัวไฮว่เด็กบ้านั่นแล้ว”กัวไฮว่ตรวจสอบเงินพลางบ่นพึมพำ

        “ตอนนี้เป็นสองร้อยเจ็ดสิบห้าล้านหนึ่งหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยหยวนเยอะกว่าการประมูลครั้งก่อนตั้งสองร้อยล้าน”หลินซวงพูดเสียงเบา“ตาเด็กบ้านี่แค่รายการเดียวก็สองร้อยกว่าล้านแล้วไม่เหมือนกับที่คนข้างนอกพูดไว้เลยหรือว่าสี่ตัวอันตรายจะกลับตัวแล้ว?”

        “รู้สึกว่ากัวไฮว่แสนจะเจ๋ง อยากจะได้เขาเป็นแฟนใช่ไหมล่ะ”

        “หน้าตาก็ไม่เลวแถมยังมีเหล้าดีขนาดนั้นติดตัวอีก เสียแต่เด็กไปหน่อย”หลินซวงเอ่ยขึ้นโดยไม่รู้ตัว“อ๊ะเธอ…เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่เมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น”หลินซวงเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นกัวไฮว่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มก็พูดขึ้นเสียงดัง

        “ครูหลินข้าวก็เลี้ยงแล้ว เหล้าก็เลี้ยงแล้ว ครูก็ควรจัดการเรื่องน้ำเต้านั่นให้ผมแล้วใช่ไหม”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ

        “จัดการ จัดการ ห้าสิบล้านเอาเงินมาแล้วใช่ไหม”หลินซวงพูดขึ้นด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ น่าอายจริงๆ รีบจัดการเรื่องน้ำเต้าของเขาให้เสร็จ หมอนั่นจะได้ไสหัวไปเสียที

        “เงินในบัตรน่าจะพอ ครูดูสิรวมกับเงินที่ครูดื่มเหล้าไปด้วยนะเรื่องนี้ผมคิดไม่รอบคอบเอง ตอนนั้นน่าจะให้ครูชิมก่อนค่อยไปประมูล”กัวไฮว่พูดพลางหยิบบัตรสีดำออกมาจากตัวหนึ่งใบแล้วส่งไปให้หลินซวง

        “เงินฉันให้ฉันจัดการเองเถอะ คราวหลังเธอก็ประหยัดเงินหน่อย ไม่งั้นเงินที่ผู้ใหญ่ในตระกูลกัวหามาไม่นานก็จะถูกเธอใช้จนหมด”หลินซวงกล่าวขึ้นอย่างตำหนิ

        “ไม่ใช่ความคิดของครูหลินหรอกเหรอ ที่ให้ผมอุทิศให้งานประมูลครั้งนี้น่ะ”กัวไฮว่หรี่ตาถามกลับ

        “คะ…ครูคิดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันเธออย่ามาพูดเหลวไหลต่อให้ครูคิดแบบนั้นก็ไม่ได้จะให้เธอจ่ายเงินเยอะขนาดนี้สักหน่อย”หลินซวงพูดเสียงดัง“บัตรคืนเธอนะ นายท่านกัวอุทิศเงินให้การวิจัยมาตลอดชีวิต หวังว่าเธอจะเอาเงินไปใช้ในที่ที่ควรจะใช้นะ”

        “ครูหลินครูรู้ได้ยังไงว่าเงินนี่เป็นของปู่ผม รู้ได้ยังไงว่าผมไม่ได้หามาเอง”กัวไฮว่พูดขึ้นยิ้มๆ“ต่อไปจะไม่ใช้เงินนายท่านอีกแล้วล่ะ เงินน่ะไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผมอีกแล้วล่ะ”

        “ครูจะบอกเธอให้นะกัวไฮว่ ตอนนี้เธอเป็นนักเรียนฟู่จง ถ้าพบว่าเธอทำเรื่องวุ่นวายผิดกฎแม้แต่ครั้งเดียวใครก็ช่วยเธอไม่ได้แล้ว เธอก็จะเรียนที่ฟู่จงต่อไม่ได้แล้ว”หลินซวงพูดเสียงดัง

        “วางใจเถอะครูหลิน เรื่องวุ่นวายผิดกฎผมจะไม่ทำอีกต่อไปแล้วล่ะ ผมต้องรักษาช่วงเวลานักเรียนสามปีให้ดี ถ้าเรียนที่ฟู่จงไม่ได้แล้วผมจะเจอหน้าครูได้ยังไงล่ะ”กัวไฮว่มองหน้าหลินซวงแล้วเอ่ยขึ้น

        “เหอะๆ น้ำเต้านี่ให้เธอ มะ…ไม่มีธุระอะไรแล้วเธอก็รีบไปเถอะครูยังมีงานต้องทำอีกเยอะ”หลินซวงพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ

        “ไหนๆก็ไม่มีธุระอะไรแล้ว ไม่งั้นให้ผมช่วยครูไหม”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ต้องรวมเงินประมูลครั้งนี้ไม่ใช่เหรอเรียบร้อยแล้วหรือยัง”กัวไฮว่ไปนั่งยังด้านข้างของคอมพิวเตอร์มือทั้งสองพิมพ์ไปบนคีย์บอร์ดด้วยความรวดเร็ว

        “ไม่คิดเลยว่าเด็กนี่จะเป็นมือโปรคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อบวกเข้ากับความสามารถในการจำของข้าทำให้ง่ายขึ้นเยอะเลย”กัวไฮว่แอบคิดเงียบๆในใจ

        “เด็กบ้านี่ก็ใช่ว่าไม่มีอะไรดีสักอย่าง”หลินซวงมองกัวไฮว่ที่จดจ่อกับคอมพิวเตอร์และพิมพ์บนคีย์บอร์ดด้วยความว่องไวแล้วก็แอบคิดเงียบๆในใจ

        “ครูหลินดูสิ แบบนี้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”กัวไฮว่พูดเสร็จก็พิมพ์ตารางแผ่นหนึ่งมาวางไว้หน้าหลินซวง

        “นี่ทำไมเธอถึงกรอกข้อมูลพวกนี้ในคอมพิวเตอร์ได้ไวขนาดนี้แถมยังไม่ผิดสักนิด”หลินซวงตรวจสอบจำนวนข้อมูลที่ตัวเองวุ่นวายอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบา

        “เป็นเพราะได้อยู่กับคนที่ตัวเองชอบไง ก็เลยมีความรู้สึกบางอย่าง”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ครูหลินอันที่จริงอายุก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรนะ ครูไม่ต้องกดดันเยอะขนาดนั้นก็ได้”พูดจบกัวไฮว่ก็หัวเราะพลางเดินออกจากห้องประมูลไป

        
 

        [1]จักรพรรดิในสมัยราชวงศ์ถัง

         

 

                                                                  ————————

                                อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                                  https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+