[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 22 น้ำเต้าบ้าคลั่ง

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 22 น้ำเต้าบ้าคลั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “ปู่เจี่ยเขาคือน้องสี่ของผมถ้าเงินของเขาไม่พอผมจะให้เอง”หลี่เย่ามองเจี่ยกูอวิ๋นแล้วพูดยิ้มๆ

        “เด็กบ้าทำไมไม่บอกฉันก่อนสักคำ คนกันเองจะมาแย่งอะไรกัน ฉันไม่เอาแล้ว”เจี่ยกูอวิ๋นมองเจี่ยหยวนแวบหนึ่งก่อนจะก่นด่าเสียงดัง

        “คุณปู่ถ้าอยากได้ก็เอาเจ้าสี่มันไม่รู้เรื่องคุณปู่อย่าไปว่ามันเลยพวกเราให้ราคายี่สิบล้าน ยี่สิบล้าน เดี๋ยวผมประมูลภาพนั้นมาให้คุณปู่เอง”เจี่ยหยวนลุกขึ้นตะโกนเสียงดัง

        “ให้ตายสิพี่สอง พี่ทำอะไรเนี่ย”กัวไฮว่ลอบคิดในใจแล้วใช้วิชาอ่านจิตกับเจี่ยหยวน

        “น้องสี่ที่แสนดีของพี่ให้ภาพตาแก่นี่ก่อนเถอะ ถ้าตาแก่เอากลับบ้านไปแล้วเดี๋ยวฉันขโมยออกมาเอง ฉันต้องซื้อของให้ตาแก่นี่ชิ้นนึงก่อนเหล้านั่นจะได้เกินร้อยล้าน คงจะไม่ให้พี่ประมูลเหล้านั่นให้ตาแก่หรอกนะ”สิ่งที่เจี่ยหยวนคิดภายในใจก็ปรากฏอยู่ในสมองของกัวไฮว่

        “ยายหนูเวยเวยสุดท้ายแล้วรูปนี้ก็เป็นของเราอยู่ดี ให้ตาแก่ได้ไปก่อนแล้วกันนะ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่ตัดสินใจแล้วก็ดี ถ้าไม่ได้ฉันก็วาดให้พี่สักสองสามรูป ถ้ามีเวลาเดี๋ยวฉันพาพี่ไปพบท่านปรมาจารย์ ฉันเชื่อว่าท่านปรมาจารย์ต้องตกใจแน่”มู่หรงเวยเวยพูดขำๆ

        กัวไฮว่พยักหน้าแล้วลุกขึ้นมาพูดว่า“คุณปู่ ผมไม่ทราบว่าคุณปู่ชอบรูปนี้ ผมให้คุณปู่แล้วกันคุณปู่ไม่ต้องออกเงินนี่หรอกให้พี่สองผมออก ถ้าคุณปู่อยากได้ตัวอักษรอื่นๆอีก เดี๋ยวผมหาเวลาลอกแบบอักษรไปให้”

         

        สองประโยคแรกก็ดีอยู่หรอกจะให้ภาพแก่คุณปู่ให้เจี่ยหยวนออกเงิน แต่คำหลังๆคุณปู่ฟังแล้วนั่นมันด่าตัวเองชัดๆเจ้าเด็กที่ไม่รู้วิชาการต่อสู้ที่สุดในสี่ตัวอันตรายจะลอกแบบอักษรมาให้ฉัน แกคิดว่าฉันไม่รู้ตัวหนังสือหรือไงแน่นอนกัวไฮว่ไม่รู้ว่าคุณปู่คิดแบบนั้น

        “ใช่ ใช่ ใช่ เราประมูลรูปนี้มาผมจ่ายเงินเอง ต้องเป็นผมจ่ายเงิน ผมเคยรับปากคุณปู่แล้ว พวกเราพูดคำไหนคำนั้นบอกว่าจะทำก็ต้องทำ”เจี่ยหยวนรีบเร่งพูด

        “ยี่สิบล้านมีราคาที่สูงกว่านี้อีกไหมคะ”หลินซวงเห็นว่านายท่านตระกูลเจี่ยไม่ได้จะยินดีสักเท่าไหร่จึงรีบคลี่คลายสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะพูด“ยี่สิบล้าน ภาพนี้เป็นของคุณปู่เจี่ยแล้วค่ะ ขอบคุณคุณปู่ที่ร่วมสมทบทุนในงานประมูลครั้งนี้ด้วยนะคะ”เมื่อหลินซวงพูดจบเสียงปรบมือใต้เวทีก็ดังสนั่นเศรษฐีเมืองอู่เฉิงก็ต้องไว้หน้ากันหน่อยยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเงินการกุศลหน่วยงานรัฐบาลได้ประโยชน์ไปไม่น้อยปรบมือหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร

        “ต่อไปเป็นของประมูลลำดับที่สองก่อนสุดท้าย เชิญทุกคนชมได้เลยค่ะ”หลินซวงพูดพลางดึงผ้าแดงออกก็มีน้ำเต้าอันประณีตอันหนึ่งวางไว้กลางเครื่องเคลือบ

        “มาอยู่นี่ได้ไง เป็นไปได้ยังไง นอกจากข้าแล้วยังมีผู้ถูกเนรเทศมาแดนมนุษย์อีกหรือ”ในขณะที่ผ้าแดงถูกดึงออกมานั่นเองกัวไฮว่ก็ลุกพรวดขึ้นมาดวงตาจับจ้องไปยังน้ำเต้าใบนั้น

        “เป็นน้ำเต้าที่สวยจริงๆ เหมือนกับของหมอนั่นเลย”ซูเยี่ยพูดเสียงเบา“ตาบ้า เดี๋ยวงานประมูลจะจบแล้วนายยังไม่ได้ซื้ออะไรสักอย่าง ประมูลน้ำเต้านั่นมาหน่อยสิฉันอยากได้มากเลย”เสียงพูดของซูเยี่ยเบาลงเรื่อยๆ ความคิดแปลกๆบางอย่างปรากฏขึ้นในสมองของเธอ ตัวเองเป็นแค่เมียเก็บจะขอของเขาคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง

        “น้ำเต้านี่เป็นของฉันไม่ให้ใครทั้งนั้น น้ำเต้านี่เป็นของฉันเป็นของฉัน”กัวไฮว่ไม่ได้ยินที่ซูเยี่ยพูดสักนิด เขาพูดพึมพำกับตัวเอง เขาใช้พลังเวทที่ตัวเองมีอันน้อยนิดกับน้ำเต้า ไม่คาดคิดว่าค่ายกลนอกรอบน้ำเต้านั่นยังครบสมบูรณ์นั่นก็หมายความว่าน้ำเต้านี่ยังไม่มีใครเปิดมาก่อน มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าข้างในจะเป็นของดี

        “อะแฮ่มนายท่านทำอะไรเนี่ย ทำไมเอาของรักตัวเองออกมาล่ะ”หลี่เย่าเห็นน้ำเต้าบนเวทีก็พลันเบิกตาโพล่ง“เป็นของดีแน่ๆ”หลี่เย่าหันศีรษะกลับไปเห็นท่าทางของกัวไฮว่ก็แอบพูดขึ้นในใจว่า“นายท่าน ท่านอย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”

        “ของชิ้นนี้ฉันแนะนำไม่ได้จริงๆ ขอให้ทุกคนปรบมือให้กับนายพลหลี่ หลี่โต้วเทียน เพื่อมาแนะนำของประมูลชิ้นนี้หน่อยค่ะ”หลินซวงพูดยิ้มๆ

        หลี่โต้วเทียนคุณปู่ของหลี่เย่าเป็นนายพลที่ยังมีชีวิตจนปัจจุบันของจีนที่เคยเข้าร่วมสงครามต่อต้านญี่ปุ่น แม้จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพแล้ว แต่เมื่อพูดถึงผู้อาวุโสท่านนี้อย่าว่าแต่เมืองอู่เฉิงเลยทั่วทั้งประเทศจีนก็ไม่มีใครไม่ยกนิ้วให้

        “ราชาทหารยุคใหม่”“เทพทหาร”“เทพสงครามเมืองจีน”ไม่ว่าจะใช้กี่คำดีๆสักเพียงไหนมาบรรยายผู้อาวุโสท่านนี้ก็มักจะมีพูดคำเหล่านี้อยู่เสมอ

        “ทำความเคารพ!”ในเวลาเดียวกับที่ผู้อาวุโสยืนขึ้นหลายสิบคนที่อยู่รอบด้านก็ยืนขึ้นมาด้วย มีทั้งคนทุกวัยและใส่เสื้อผ้าต่างกัน ในขณะเดียวกันก็ยกมือขวาขึ้นทำท่าเคารพแบบทหารกับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม

        “นั่งลงเถอะนี่มันงานประมูล อย่าทำให้นักเรียนตกใจสิ”หลี่โต้วเทียนพูดขำๆ“ฉันขอพูดเกี่ยวกับน้ำเต้านี่ก่อนนะ นี่เป็นน้ำเต้าที่ฉันบังเอิญเจอระหว่างสงครามในปี1951จนถึงตอนนี้น่าจะอายุประมาณเจ็ดสิบปี”

        “น้ำเต้านี่ได้มาจากภูเขาฉางไป๋ซาน ส่วนทำมาจากอะไรฉันไม่แน่ใจ หลายปีมานี้ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญมาดูแต่ว่าแยกแยะไม่ออกกันสักคนและไม่อาจดูยุคสมัยด้วย”หลี่โต้วเทียนพูดยิ้มๆ

        “วันนี้ที่เอาน้ำเต้านี่มาประมูลหนึ่งเลยก็เพื่อหาคนที่มีวาสนากับมัน หวังว่าจะเผยความลับของน้ำเต้านี่ได้ สองก็เพื่อหาเงินสมทบทุน ยังไงซะคนแก่อย่างฉันก็สู้กับคนหนุ่มสาวแบบพวกเธอไม่ได้ เอะอะก็ให้ราคาสิบล้าน”หลี่โต้วเทียนพูดพลางมองไปที่เจี่ยหยวนแวบหนึ่ง

        “ฉันขอพูดประโยคสุดท้าย จนถึงทุกวันนี้การประมูลครั้งนี้ประสบความสำเร็จมากได้เงินสมทบทุนมาไม่น้อยหวังว่าเงินทั้งหมดจะนำไปใช้ในที่ที่ควรจะใช้ถ้าหากใครกล้าขัดจุดประสงค์เงินสมทบทุนในครั้งนี้ เกรงว่าจะต้องลั่นปืนในบ้านฉันซะแล้ว”นายท่านหลี่พูดพลางพาสายตาตกไปอยู่บนร่างของข้าราชการเมืองอู่เฉิงที่มาในครั้งนี้ด้วย

        “คุณปู่วางใจได้เลย เงินที่ได้จากการประมูลทั้งหมดพวกเราจะเปิดเผยให้สาธารณชนตรวจสอบแน่นอน ถ้าใช้จ่ายเงินไม่ถูกต้องสักแดงเดียวผมจะแบกหัวไปหาท่านเอง”ภายใต้สายตาของนายท่านหลี่ไม่มีใครยืนขึ้นมาสักคน เวลานี้หวังเซิงจึงยืดตัวไปข้างหน้าพูดด้วยเสียงดัง

        “ฮ่าๆ เจ้าเด็กตระกูลหวังไม่เลวเลย ไม่เลวเป็นข้าราชการที่ดีเหมือนกับหวังหย่งจิ้นเลย”หลี่โต้วเทียนพูดพลางนั่งไปบนที่นั่งของตน หันไปมองหลินซวงแล้วพยักหน้าให้เล็กน้อย

        “ราคาต่ำสุดของน้ำเต้านายพลหลี่คือหนึ่งหยวน ทุกครั้งเพิ่มเงินได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหยวน ใครต้องการเชิญเริ่มได้เลยค่ะ”หลินซวงพูดจบก็แลบลิ้นพูดขำๆ

        “ล้านนึง เมื่อก่อนพ่อผมเป็นทหารติดตามนายพลหลี่ ผมหวังว่าผมจะนำน้ำเต้านี่ไปให้เขาได้”ชายคนหนึ่งลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเบา

        “พี่จ้านขอโทษด้วยนะผมก็ชอบของนี่ หนึ่งล้านห้าแสน”ชายวัยกลางคนที่ดูอายุมากกว่าหน่อยหนึ่งพูดยิ้มๆ

        “สามล้าน คุณลุงคะหนูชอบน้ำเต้านี่มากเลยให้หนูเถอะ”กัวไฮว่ยังไม่ทันได้ตะโกนบอกราคาโหยวโยวโยวที่อยู่ด้านข้างก็ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเบา

        “โยวโยวเธอดูออกเหรอว่าน้ำเต้านี่คืออะไร”กัวไฮว่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นอย่างขำๆ

        “เปล่าหรอก แต่คิดว่าน้ำเต้านี่คล้ายกับน้ำเต้าใส่เหล้าของนายมากเลย คิดๆดูแล้วคงไม่เลวเลยใช่ไหมตาบ้า”โหยวโยวโยวพูดยิ้มๆ

        “อะแฮ่ม ยายหนูจริงๆแล้วน้ำเต้านั่นเธอประมูลมาก็ใส่อะไรไม่ได้หรอก เพราะเธอเปิดไม่ออกอยู่แล้ว”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“อย่าเปลืองเงินเลยของนี่ให้ฉันจัดการเองดีกว่า”

        “ตาบ้าอยากได้ก็บอกมา ไม่ต้องมาบอกว่าฉันเปิดไม่ออกหรอก”โหยวโยวโยวส่งเสียงฮึแล้วมองน้ำเต้าที่อยู่บนเวทีแวบหนึ่ง จ่ายเงินสามล้านเพื่อซื้อน้ำเต้าที่ไม่รู้ทำมาจากอะไร แต่ก็ดูท่าทางหลายคนก็ไม่ได้จะแย่งแล้ว

         

 

                                                               ————————

                        อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ค่ะ^^

                                             https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 22 น้ำเต้าบ้าคลั่ง

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 22 น้ำเต้าบ้าคลั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “ปู่เจี่ยเขาคือน้องสี่ของผมถ้าเงินของเขาไม่พอผมจะให้เอง”หลี่เย่ามองเจี่ยกูอวิ๋นแล้วพูดยิ้มๆ

        “เด็กบ้าทำไมไม่บอกฉันก่อนสักคำ คนกันเองจะมาแย่งอะไรกัน ฉันไม่เอาแล้ว”เจี่ยกูอวิ๋นมองเจี่ยหยวนแวบหนึ่งก่อนจะก่นด่าเสียงดัง

        “คุณปู่ถ้าอยากได้ก็เอาเจ้าสี่มันไม่รู้เรื่องคุณปู่อย่าไปว่ามันเลยพวกเราให้ราคายี่สิบล้าน ยี่สิบล้าน เดี๋ยวผมประมูลภาพนั้นมาให้คุณปู่เอง”เจี่ยหยวนลุกขึ้นตะโกนเสียงดัง

        “ให้ตายสิพี่สอง พี่ทำอะไรเนี่ย”กัวไฮว่ลอบคิดในใจแล้วใช้วิชาอ่านจิตกับเจี่ยหยวน

        “น้องสี่ที่แสนดีของพี่ให้ภาพตาแก่นี่ก่อนเถอะ ถ้าตาแก่เอากลับบ้านไปแล้วเดี๋ยวฉันขโมยออกมาเอง ฉันต้องซื้อของให้ตาแก่นี่ชิ้นนึงก่อนเหล้านั่นจะได้เกินร้อยล้าน คงจะไม่ให้พี่ประมูลเหล้านั่นให้ตาแก่หรอกนะ”สิ่งที่เจี่ยหยวนคิดภายในใจก็ปรากฏอยู่ในสมองของกัวไฮว่

        “ยายหนูเวยเวยสุดท้ายแล้วรูปนี้ก็เป็นของเราอยู่ดี ให้ตาแก่ได้ไปก่อนแล้วกันนะ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่ตัดสินใจแล้วก็ดี ถ้าไม่ได้ฉันก็วาดให้พี่สักสองสามรูป ถ้ามีเวลาเดี๋ยวฉันพาพี่ไปพบท่านปรมาจารย์ ฉันเชื่อว่าท่านปรมาจารย์ต้องตกใจแน่”มู่หรงเวยเวยพูดขำๆ

        กัวไฮว่พยักหน้าแล้วลุกขึ้นมาพูดว่า“คุณปู่ ผมไม่ทราบว่าคุณปู่ชอบรูปนี้ ผมให้คุณปู่แล้วกันคุณปู่ไม่ต้องออกเงินนี่หรอกให้พี่สองผมออก ถ้าคุณปู่อยากได้ตัวอักษรอื่นๆอีก เดี๋ยวผมหาเวลาลอกแบบอักษรไปให้”

         

        สองประโยคแรกก็ดีอยู่หรอกจะให้ภาพแก่คุณปู่ให้เจี่ยหยวนออกเงิน แต่คำหลังๆคุณปู่ฟังแล้วนั่นมันด่าตัวเองชัดๆเจ้าเด็กที่ไม่รู้วิชาการต่อสู้ที่สุดในสี่ตัวอันตรายจะลอกแบบอักษรมาให้ฉัน แกคิดว่าฉันไม่รู้ตัวหนังสือหรือไงแน่นอนกัวไฮว่ไม่รู้ว่าคุณปู่คิดแบบนั้น

        “ใช่ ใช่ ใช่ เราประมูลรูปนี้มาผมจ่ายเงินเอง ต้องเป็นผมจ่ายเงิน ผมเคยรับปากคุณปู่แล้ว พวกเราพูดคำไหนคำนั้นบอกว่าจะทำก็ต้องทำ”เจี่ยหยวนรีบเร่งพูด

        “ยี่สิบล้านมีราคาที่สูงกว่านี้อีกไหมคะ”หลินซวงเห็นว่านายท่านตระกูลเจี่ยไม่ได้จะยินดีสักเท่าไหร่จึงรีบคลี่คลายสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะพูด“ยี่สิบล้าน ภาพนี้เป็นของคุณปู่เจี่ยแล้วค่ะ ขอบคุณคุณปู่ที่ร่วมสมทบทุนในงานประมูลครั้งนี้ด้วยนะคะ”เมื่อหลินซวงพูดจบเสียงปรบมือใต้เวทีก็ดังสนั่นเศรษฐีเมืองอู่เฉิงก็ต้องไว้หน้ากันหน่อยยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเงินการกุศลหน่วยงานรัฐบาลได้ประโยชน์ไปไม่น้อยปรบมือหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร

        “ต่อไปเป็นของประมูลลำดับที่สองก่อนสุดท้าย เชิญทุกคนชมได้เลยค่ะ”หลินซวงพูดพลางดึงผ้าแดงออกก็มีน้ำเต้าอันประณีตอันหนึ่งวางไว้กลางเครื่องเคลือบ

        “มาอยู่นี่ได้ไง เป็นไปได้ยังไง นอกจากข้าแล้วยังมีผู้ถูกเนรเทศมาแดนมนุษย์อีกหรือ”ในขณะที่ผ้าแดงถูกดึงออกมานั่นเองกัวไฮว่ก็ลุกพรวดขึ้นมาดวงตาจับจ้องไปยังน้ำเต้าใบนั้น

        “เป็นน้ำเต้าที่สวยจริงๆ เหมือนกับของหมอนั่นเลย”ซูเยี่ยพูดเสียงเบา“ตาบ้า เดี๋ยวงานประมูลจะจบแล้วนายยังไม่ได้ซื้ออะไรสักอย่าง ประมูลน้ำเต้านั่นมาหน่อยสิฉันอยากได้มากเลย”เสียงพูดของซูเยี่ยเบาลงเรื่อยๆ ความคิดแปลกๆบางอย่างปรากฏขึ้นในสมองของเธอ ตัวเองเป็นแค่เมียเก็บจะขอของเขาคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง

        “น้ำเต้านี่เป็นของฉันไม่ให้ใครทั้งนั้น น้ำเต้านี่เป็นของฉันเป็นของฉัน”กัวไฮว่ไม่ได้ยินที่ซูเยี่ยพูดสักนิด เขาพูดพึมพำกับตัวเอง เขาใช้พลังเวทที่ตัวเองมีอันน้อยนิดกับน้ำเต้า ไม่คาดคิดว่าค่ายกลนอกรอบน้ำเต้านั่นยังครบสมบูรณ์นั่นก็หมายความว่าน้ำเต้านี่ยังไม่มีใครเปิดมาก่อน มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าข้างในจะเป็นของดี

        “อะแฮ่มนายท่านทำอะไรเนี่ย ทำไมเอาของรักตัวเองออกมาล่ะ”หลี่เย่าเห็นน้ำเต้าบนเวทีก็พลันเบิกตาโพล่ง“เป็นของดีแน่ๆ”หลี่เย่าหันศีรษะกลับไปเห็นท่าทางของกัวไฮว่ก็แอบพูดขึ้นในใจว่า“นายท่าน ท่านอย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”

        “ของชิ้นนี้ฉันแนะนำไม่ได้จริงๆ ขอให้ทุกคนปรบมือให้กับนายพลหลี่ หลี่โต้วเทียน เพื่อมาแนะนำของประมูลชิ้นนี้หน่อยค่ะ”หลินซวงพูดยิ้มๆ

        หลี่โต้วเทียนคุณปู่ของหลี่เย่าเป็นนายพลที่ยังมีชีวิตจนปัจจุบันของจีนที่เคยเข้าร่วมสงครามต่อต้านญี่ปุ่น แม้จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพแล้ว แต่เมื่อพูดถึงผู้อาวุโสท่านนี้อย่าว่าแต่เมืองอู่เฉิงเลยทั่วทั้งประเทศจีนก็ไม่มีใครไม่ยกนิ้วให้

        “ราชาทหารยุคใหม่”“เทพทหาร”“เทพสงครามเมืองจีน”ไม่ว่าจะใช้กี่คำดีๆสักเพียงไหนมาบรรยายผู้อาวุโสท่านนี้ก็มักจะมีพูดคำเหล่านี้อยู่เสมอ

        “ทำความเคารพ!”ในเวลาเดียวกับที่ผู้อาวุโสยืนขึ้นหลายสิบคนที่อยู่รอบด้านก็ยืนขึ้นมาด้วย มีทั้งคนทุกวัยและใส่เสื้อผ้าต่างกัน ในขณะเดียวกันก็ยกมือขวาขึ้นทำท่าเคารพแบบทหารกับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม

        “นั่งลงเถอะนี่มันงานประมูล อย่าทำให้นักเรียนตกใจสิ”หลี่โต้วเทียนพูดขำๆ“ฉันขอพูดเกี่ยวกับน้ำเต้านี่ก่อนนะ นี่เป็นน้ำเต้าที่ฉันบังเอิญเจอระหว่างสงครามในปี1951จนถึงตอนนี้น่าจะอายุประมาณเจ็ดสิบปี”

        “น้ำเต้านี่ได้มาจากภูเขาฉางไป๋ซาน ส่วนทำมาจากอะไรฉันไม่แน่ใจ หลายปีมานี้ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญมาดูแต่ว่าแยกแยะไม่ออกกันสักคนและไม่อาจดูยุคสมัยด้วย”หลี่โต้วเทียนพูดยิ้มๆ

        “วันนี้ที่เอาน้ำเต้านี่มาประมูลหนึ่งเลยก็เพื่อหาคนที่มีวาสนากับมัน หวังว่าจะเผยความลับของน้ำเต้านี่ได้ สองก็เพื่อหาเงินสมทบทุน ยังไงซะคนแก่อย่างฉันก็สู้กับคนหนุ่มสาวแบบพวกเธอไม่ได้ เอะอะก็ให้ราคาสิบล้าน”หลี่โต้วเทียนพูดพลางมองไปที่เจี่ยหยวนแวบหนึ่ง

        “ฉันขอพูดประโยคสุดท้าย จนถึงทุกวันนี้การประมูลครั้งนี้ประสบความสำเร็จมากได้เงินสมทบทุนมาไม่น้อยหวังว่าเงินทั้งหมดจะนำไปใช้ในที่ที่ควรจะใช้ถ้าหากใครกล้าขัดจุดประสงค์เงินสมทบทุนในครั้งนี้ เกรงว่าจะต้องลั่นปืนในบ้านฉันซะแล้ว”นายท่านหลี่พูดพลางพาสายตาตกไปอยู่บนร่างของข้าราชการเมืองอู่เฉิงที่มาในครั้งนี้ด้วย

        “คุณปู่วางใจได้เลย เงินที่ได้จากการประมูลทั้งหมดพวกเราจะเปิดเผยให้สาธารณชนตรวจสอบแน่นอน ถ้าใช้จ่ายเงินไม่ถูกต้องสักแดงเดียวผมจะแบกหัวไปหาท่านเอง”ภายใต้สายตาของนายท่านหลี่ไม่มีใครยืนขึ้นมาสักคน เวลานี้หวังเซิงจึงยืดตัวไปข้างหน้าพูดด้วยเสียงดัง

        “ฮ่าๆ เจ้าเด็กตระกูลหวังไม่เลวเลย ไม่เลวเป็นข้าราชการที่ดีเหมือนกับหวังหย่งจิ้นเลย”หลี่โต้วเทียนพูดพลางนั่งไปบนที่นั่งของตน หันไปมองหลินซวงแล้วพยักหน้าให้เล็กน้อย

        “ราคาต่ำสุดของน้ำเต้านายพลหลี่คือหนึ่งหยวน ทุกครั้งเพิ่มเงินได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหยวน ใครต้องการเชิญเริ่มได้เลยค่ะ”หลินซวงพูดจบก็แลบลิ้นพูดขำๆ

        “ล้านนึง เมื่อก่อนพ่อผมเป็นทหารติดตามนายพลหลี่ ผมหวังว่าผมจะนำน้ำเต้านี่ไปให้เขาได้”ชายคนหนึ่งลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเบา

        “พี่จ้านขอโทษด้วยนะผมก็ชอบของนี่ หนึ่งล้านห้าแสน”ชายวัยกลางคนที่ดูอายุมากกว่าหน่อยหนึ่งพูดยิ้มๆ

        “สามล้าน คุณลุงคะหนูชอบน้ำเต้านี่มากเลยให้หนูเถอะ”กัวไฮว่ยังไม่ทันได้ตะโกนบอกราคาโหยวโยวโยวที่อยู่ด้านข้างก็ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเบา

        “โยวโยวเธอดูออกเหรอว่าน้ำเต้านี่คืออะไร”กัวไฮว่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นอย่างขำๆ

        “เปล่าหรอก แต่คิดว่าน้ำเต้านี่คล้ายกับน้ำเต้าใส่เหล้าของนายมากเลย คิดๆดูแล้วคงไม่เลวเลยใช่ไหมตาบ้า”โหยวโยวโยวพูดยิ้มๆ

        “อะแฮ่ม ยายหนูจริงๆแล้วน้ำเต้านั่นเธอประมูลมาก็ใส่อะไรไม่ได้หรอก เพราะเธอเปิดไม่ออกอยู่แล้ว”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“อย่าเปลืองเงินเลยของนี่ให้ฉันจัดการเองดีกว่า”

        “ตาบ้าอยากได้ก็บอกมา ไม่ต้องมาบอกว่าฉันเปิดไม่ออกหรอก”โหยวโยวโยวส่งเสียงฮึแล้วมองน้ำเต้าที่อยู่บนเวทีแวบหนึ่ง จ่ายเงินสามล้านเพื่อซื้อน้ำเต้าที่ไม่รู้ทำมาจากอะไร แต่ก็ดูท่าทางหลายคนก็ไม่ได้จะแย่งแล้ว

         

 

                                                               ————————

                        อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ค่ะ^^

                                             https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 22 น้ำเต้าบ้าคลั่ง

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 22 น้ำเต้าบ้าคลั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “ปู่เจี่ยเขาคือน้องสี่ของผมถ้าเงินของเขาไม่พอผมจะให้เอง”หลี่เย่ามองเจี่ยกูอวิ๋นแล้วพูดยิ้มๆ

        “เด็กบ้าทำไมไม่บอกฉันก่อนสักคำ คนกันเองจะมาแย่งอะไรกัน ฉันไม่เอาแล้ว”เจี่ยกูอวิ๋นมองเจี่ยหยวนแวบหนึ่งก่อนจะก่นด่าเสียงดัง

        “คุณปู่ถ้าอยากได้ก็เอาเจ้าสี่มันไม่รู้เรื่องคุณปู่อย่าไปว่ามันเลยพวกเราให้ราคายี่สิบล้าน ยี่สิบล้าน เดี๋ยวผมประมูลภาพนั้นมาให้คุณปู่เอง”เจี่ยหยวนลุกขึ้นตะโกนเสียงดัง

        “ให้ตายสิพี่สอง พี่ทำอะไรเนี่ย”กัวไฮว่ลอบคิดในใจแล้วใช้วิชาอ่านจิตกับเจี่ยหยวน

        “น้องสี่ที่แสนดีของพี่ให้ภาพตาแก่นี่ก่อนเถอะ ถ้าตาแก่เอากลับบ้านไปแล้วเดี๋ยวฉันขโมยออกมาเอง ฉันต้องซื้อของให้ตาแก่นี่ชิ้นนึงก่อนเหล้านั่นจะได้เกินร้อยล้าน คงจะไม่ให้พี่ประมูลเหล้านั่นให้ตาแก่หรอกนะ”สิ่งที่เจี่ยหยวนคิดภายในใจก็ปรากฏอยู่ในสมองของกัวไฮว่

        “ยายหนูเวยเวยสุดท้ายแล้วรูปนี้ก็เป็นของเราอยู่ดี ให้ตาแก่ได้ไปก่อนแล้วกันนะ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่ตัดสินใจแล้วก็ดี ถ้าไม่ได้ฉันก็วาดให้พี่สักสองสามรูป ถ้ามีเวลาเดี๋ยวฉันพาพี่ไปพบท่านปรมาจารย์ ฉันเชื่อว่าท่านปรมาจารย์ต้องตกใจแน่”มู่หรงเวยเวยพูดขำๆ

        กัวไฮว่พยักหน้าแล้วลุกขึ้นมาพูดว่า“คุณปู่ ผมไม่ทราบว่าคุณปู่ชอบรูปนี้ ผมให้คุณปู่แล้วกันคุณปู่ไม่ต้องออกเงินนี่หรอกให้พี่สองผมออก ถ้าคุณปู่อยากได้ตัวอักษรอื่นๆอีก เดี๋ยวผมหาเวลาลอกแบบอักษรไปให้”

         

        สองประโยคแรกก็ดีอยู่หรอกจะให้ภาพแก่คุณปู่ให้เจี่ยหยวนออกเงิน แต่คำหลังๆคุณปู่ฟังแล้วนั่นมันด่าตัวเองชัดๆเจ้าเด็กที่ไม่รู้วิชาการต่อสู้ที่สุดในสี่ตัวอันตรายจะลอกแบบอักษรมาให้ฉัน แกคิดว่าฉันไม่รู้ตัวหนังสือหรือไงแน่นอนกัวไฮว่ไม่รู้ว่าคุณปู่คิดแบบนั้น

        “ใช่ ใช่ ใช่ เราประมูลรูปนี้มาผมจ่ายเงินเอง ต้องเป็นผมจ่ายเงิน ผมเคยรับปากคุณปู่แล้ว พวกเราพูดคำไหนคำนั้นบอกว่าจะทำก็ต้องทำ”เจี่ยหยวนรีบเร่งพูด

        “ยี่สิบล้านมีราคาที่สูงกว่านี้อีกไหมคะ”หลินซวงเห็นว่านายท่านตระกูลเจี่ยไม่ได้จะยินดีสักเท่าไหร่จึงรีบคลี่คลายสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะพูด“ยี่สิบล้าน ภาพนี้เป็นของคุณปู่เจี่ยแล้วค่ะ ขอบคุณคุณปู่ที่ร่วมสมทบทุนในงานประมูลครั้งนี้ด้วยนะคะ”เมื่อหลินซวงพูดจบเสียงปรบมือใต้เวทีก็ดังสนั่นเศรษฐีเมืองอู่เฉิงก็ต้องไว้หน้ากันหน่อยยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเงินการกุศลหน่วยงานรัฐบาลได้ประโยชน์ไปไม่น้อยปรบมือหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร

        “ต่อไปเป็นของประมูลลำดับที่สองก่อนสุดท้าย เชิญทุกคนชมได้เลยค่ะ”หลินซวงพูดพลางดึงผ้าแดงออกก็มีน้ำเต้าอันประณีตอันหนึ่งวางไว้กลางเครื่องเคลือบ

        “มาอยู่นี่ได้ไง เป็นไปได้ยังไง นอกจากข้าแล้วยังมีผู้ถูกเนรเทศมาแดนมนุษย์อีกหรือ”ในขณะที่ผ้าแดงถูกดึงออกมานั่นเองกัวไฮว่ก็ลุกพรวดขึ้นมาดวงตาจับจ้องไปยังน้ำเต้าใบนั้น

        “เป็นน้ำเต้าที่สวยจริงๆ เหมือนกับของหมอนั่นเลย”ซูเยี่ยพูดเสียงเบา“ตาบ้า เดี๋ยวงานประมูลจะจบแล้วนายยังไม่ได้ซื้ออะไรสักอย่าง ประมูลน้ำเต้านั่นมาหน่อยสิฉันอยากได้มากเลย”เสียงพูดของซูเยี่ยเบาลงเรื่อยๆ ความคิดแปลกๆบางอย่างปรากฏขึ้นในสมองของเธอ ตัวเองเป็นแค่เมียเก็บจะขอของเขาคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง

        “น้ำเต้านี่เป็นของฉันไม่ให้ใครทั้งนั้น น้ำเต้านี่เป็นของฉันเป็นของฉัน”กัวไฮว่ไม่ได้ยินที่ซูเยี่ยพูดสักนิด เขาพูดพึมพำกับตัวเอง เขาใช้พลังเวทที่ตัวเองมีอันน้อยนิดกับน้ำเต้า ไม่คาดคิดว่าค่ายกลนอกรอบน้ำเต้านั่นยังครบสมบูรณ์นั่นก็หมายความว่าน้ำเต้านี่ยังไม่มีใครเปิดมาก่อน มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าข้างในจะเป็นของดี

        “อะแฮ่มนายท่านทำอะไรเนี่ย ทำไมเอาของรักตัวเองออกมาล่ะ”หลี่เย่าเห็นน้ำเต้าบนเวทีก็พลันเบิกตาโพล่ง“เป็นของดีแน่ๆ”หลี่เย่าหันศีรษะกลับไปเห็นท่าทางของกัวไฮว่ก็แอบพูดขึ้นในใจว่า“นายท่าน ท่านอย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”

        “ของชิ้นนี้ฉันแนะนำไม่ได้จริงๆ ขอให้ทุกคนปรบมือให้กับนายพลหลี่ หลี่โต้วเทียน เพื่อมาแนะนำของประมูลชิ้นนี้หน่อยค่ะ”หลินซวงพูดยิ้มๆ

        หลี่โต้วเทียนคุณปู่ของหลี่เย่าเป็นนายพลที่ยังมีชีวิตจนปัจจุบันของจีนที่เคยเข้าร่วมสงครามต่อต้านญี่ปุ่น แม้จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพแล้ว แต่เมื่อพูดถึงผู้อาวุโสท่านนี้อย่าว่าแต่เมืองอู่เฉิงเลยทั่วทั้งประเทศจีนก็ไม่มีใครไม่ยกนิ้วให้

        “ราชาทหารยุคใหม่”“เทพทหาร”“เทพสงครามเมืองจีน”ไม่ว่าจะใช้กี่คำดีๆสักเพียงไหนมาบรรยายผู้อาวุโสท่านนี้ก็มักจะมีพูดคำเหล่านี้อยู่เสมอ

        “ทำความเคารพ!”ในเวลาเดียวกับที่ผู้อาวุโสยืนขึ้นหลายสิบคนที่อยู่รอบด้านก็ยืนขึ้นมาด้วย มีทั้งคนทุกวัยและใส่เสื้อผ้าต่างกัน ในขณะเดียวกันก็ยกมือขวาขึ้นทำท่าเคารพแบบทหารกับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม

        “นั่งลงเถอะนี่มันงานประมูล อย่าทำให้นักเรียนตกใจสิ”หลี่โต้วเทียนพูดขำๆ“ฉันขอพูดเกี่ยวกับน้ำเต้านี่ก่อนนะ นี่เป็นน้ำเต้าที่ฉันบังเอิญเจอระหว่างสงครามในปี1951จนถึงตอนนี้น่าจะอายุประมาณเจ็ดสิบปี”

        “น้ำเต้านี่ได้มาจากภูเขาฉางไป๋ซาน ส่วนทำมาจากอะไรฉันไม่แน่ใจ หลายปีมานี้ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญมาดูแต่ว่าแยกแยะไม่ออกกันสักคนและไม่อาจดูยุคสมัยด้วย”หลี่โต้วเทียนพูดยิ้มๆ

        “วันนี้ที่เอาน้ำเต้านี่มาประมูลหนึ่งเลยก็เพื่อหาคนที่มีวาสนากับมัน หวังว่าจะเผยความลับของน้ำเต้านี่ได้ สองก็เพื่อหาเงินสมทบทุน ยังไงซะคนแก่อย่างฉันก็สู้กับคนหนุ่มสาวแบบพวกเธอไม่ได้ เอะอะก็ให้ราคาสิบล้าน”หลี่โต้วเทียนพูดพลางมองไปที่เจี่ยหยวนแวบหนึ่ง

        “ฉันขอพูดประโยคสุดท้าย จนถึงทุกวันนี้การประมูลครั้งนี้ประสบความสำเร็จมากได้เงินสมทบทุนมาไม่น้อยหวังว่าเงินทั้งหมดจะนำไปใช้ในที่ที่ควรจะใช้ถ้าหากใครกล้าขัดจุดประสงค์เงินสมทบทุนในครั้งนี้ เกรงว่าจะต้องลั่นปืนในบ้านฉันซะแล้ว”นายท่านหลี่พูดพลางพาสายตาตกไปอยู่บนร่างของข้าราชการเมืองอู่เฉิงที่มาในครั้งนี้ด้วย

        “คุณปู่วางใจได้เลย เงินที่ได้จากการประมูลทั้งหมดพวกเราจะเปิดเผยให้สาธารณชนตรวจสอบแน่นอน ถ้าใช้จ่ายเงินไม่ถูกต้องสักแดงเดียวผมจะแบกหัวไปหาท่านเอง”ภายใต้สายตาของนายท่านหลี่ไม่มีใครยืนขึ้นมาสักคน เวลานี้หวังเซิงจึงยืดตัวไปข้างหน้าพูดด้วยเสียงดัง

        “ฮ่าๆ เจ้าเด็กตระกูลหวังไม่เลวเลย ไม่เลวเป็นข้าราชการที่ดีเหมือนกับหวังหย่งจิ้นเลย”หลี่โต้วเทียนพูดพลางนั่งไปบนที่นั่งของตน หันไปมองหลินซวงแล้วพยักหน้าให้เล็กน้อย

        “ราคาต่ำสุดของน้ำเต้านายพลหลี่คือหนึ่งหยวน ทุกครั้งเพิ่มเงินได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหยวน ใครต้องการเชิญเริ่มได้เลยค่ะ”หลินซวงพูดจบก็แลบลิ้นพูดขำๆ

        “ล้านนึง เมื่อก่อนพ่อผมเป็นทหารติดตามนายพลหลี่ ผมหวังว่าผมจะนำน้ำเต้านี่ไปให้เขาได้”ชายคนหนึ่งลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเบา

        “พี่จ้านขอโทษด้วยนะผมก็ชอบของนี่ หนึ่งล้านห้าแสน”ชายวัยกลางคนที่ดูอายุมากกว่าหน่อยหนึ่งพูดยิ้มๆ

        “สามล้าน คุณลุงคะหนูชอบน้ำเต้านี่มากเลยให้หนูเถอะ”กัวไฮว่ยังไม่ทันได้ตะโกนบอกราคาโหยวโยวโยวที่อยู่ด้านข้างก็ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเบา

        “โยวโยวเธอดูออกเหรอว่าน้ำเต้านี่คืออะไร”กัวไฮว่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นอย่างขำๆ

        “เปล่าหรอก แต่คิดว่าน้ำเต้านี่คล้ายกับน้ำเต้าใส่เหล้าของนายมากเลย คิดๆดูแล้วคงไม่เลวเลยใช่ไหมตาบ้า”โหยวโยวโยวพูดยิ้มๆ

        “อะแฮ่ม ยายหนูจริงๆแล้วน้ำเต้านั่นเธอประมูลมาก็ใส่อะไรไม่ได้หรอก เพราะเธอเปิดไม่ออกอยู่แล้ว”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“อย่าเปลืองเงินเลยของนี่ให้ฉันจัดการเองดีกว่า”

        “ตาบ้าอยากได้ก็บอกมา ไม่ต้องมาบอกว่าฉันเปิดไม่ออกหรอก”โหยวโยวโยวส่งเสียงฮึแล้วมองน้ำเต้าที่อยู่บนเวทีแวบหนึ่ง จ่ายเงินสามล้านเพื่อซื้อน้ำเต้าที่ไม่รู้ทำมาจากอะไร แต่ก็ดูท่าทางหลายคนก็ไม่ได้จะแย่งแล้ว

         

 

                                                               ————————

                        อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ค่ะ^^

                                             https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 22 น้ำเต้าบ้าคลั่ง

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 22 น้ำเต้าบ้าคลั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “ปู่เจี่ยเขาคือน้องสี่ของผมถ้าเงินของเขาไม่พอผมจะให้เอง”หลี่เย่ามองเจี่ยกูอวิ๋นแล้วพูดยิ้มๆ

        “เด็กบ้าทำไมไม่บอกฉันก่อนสักคำ คนกันเองจะมาแย่งอะไรกัน ฉันไม่เอาแล้ว”เจี่ยกูอวิ๋นมองเจี่ยหยวนแวบหนึ่งก่อนจะก่นด่าเสียงดัง

        “คุณปู่ถ้าอยากได้ก็เอาเจ้าสี่มันไม่รู้เรื่องคุณปู่อย่าไปว่ามันเลยพวกเราให้ราคายี่สิบล้าน ยี่สิบล้าน เดี๋ยวผมประมูลภาพนั้นมาให้คุณปู่เอง”เจี่ยหยวนลุกขึ้นตะโกนเสียงดัง

        “ให้ตายสิพี่สอง พี่ทำอะไรเนี่ย”กัวไฮว่ลอบคิดในใจแล้วใช้วิชาอ่านจิตกับเจี่ยหยวน

        “น้องสี่ที่แสนดีของพี่ให้ภาพตาแก่นี่ก่อนเถอะ ถ้าตาแก่เอากลับบ้านไปแล้วเดี๋ยวฉันขโมยออกมาเอง ฉันต้องซื้อของให้ตาแก่นี่ชิ้นนึงก่อนเหล้านั่นจะได้เกินร้อยล้าน คงจะไม่ให้พี่ประมูลเหล้านั่นให้ตาแก่หรอกนะ”สิ่งที่เจี่ยหยวนคิดภายในใจก็ปรากฏอยู่ในสมองของกัวไฮว่

        “ยายหนูเวยเวยสุดท้ายแล้วรูปนี้ก็เป็นของเราอยู่ดี ให้ตาแก่ได้ไปก่อนแล้วกันนะ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่ตัดสินใจแล้วก็ดี ถ้าไม่ได้ฉันก็วาดให้พี่สักสองสามรูป ถ้ามีเวลาเดี๋ยวฉันพาพี่ไปพบท่านปรมาจารย์ ฉันเชื่อว่าท่านปรมาจารย์ต้องตกใจแน่”มู่หรงเวยเวยพูดขำๆ

        กัวไฮว่พยักหน้าแล้วลุกขึ้นมาพูดว่า“คุณปู่ ผมไม่ทราบว่าคุณปู่ชอบรูปนี้ ผมให้คุณปู่แล้วกันคุณปู่ไม่ต้องออกเงินนี่หรอกให้พี่สองผมออก ถ้าคุณปู่อยากได้ตัวอักษรอื่นๆอีก เดี๋ยวผมหาเวลาลอกแบบอักษรไปให้”

         

        สองประโยคแรกก็ดีอยู่หรอกจะให้ภาพแก่คุณปู่ให้เจี่ยหยวนออกเงิน แต่คำหลังๆคุณปู่ฟังแล้วนั่นมันด่าตัวเองชัดๆเจ้าเด็กที่ไม่รู้วิชาการต่อสู้ที่สุดในสี่ตัวอันตรายจะลอกแบบอักษรมาให้ฉัน แกคิดว่าฉันไม่รู้ตัวหนังสือหรือไงแน่นอนกัวไฮว่ไม่รู้ว่าคุณปู่คิดแบบนั้น

        “ใช่ ใช่ ใช่ เราประมูลรูปนี้มาผมจ่ายเงินเอง ต้องเป็นผมจ่ายเงิน ผมเคยรับปากคุณปู่แล้ว พวกเราพูดคำไหนคำนั้นบอกว่าจะทำก็ต้องทำ”เจี่ยหยวนรีบเร่งพูด

        “ยี่สิบล้านมีราคาที่สูงกว่านี้อีกไหมคะ”หลินซวงเห็นว่านายท่านตระกูลเจี่ยไม่ได้จะยินดีสักเท่าไหร่จึงรีบคลี่คลายสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะพูด“ยี่สิบล้าน ภาพนี้เป็นของคุณปู่เจี่ยแล้วค่ะ ขอบคุณคุณปู่ที่ร่วมสมทบทุนในงานประมูลครั้งนี้ด้วยนะคะ”เมื่อหลินซวงพูดจบเสียงปรบมือใต้เวทีก็ดังสนั่นเศรษฐีเมืองอู่เฉิงก็ต้องไว้หน้ากันหน่อยยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเงินการกุศลหน่วยงานรัฐบาลได้ประโยชน์ไปไม่น้อยปรบมือหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร

        “ต่อไปเป็นของประมูลลำดับที่สองก่อนสุดท้าย เชิญทุกคนชมได้เลยค่ะ”หลินซวงพูดพลางดึงผ้าแดงออกก็มีน้ำเต้าอันประณีตอันหนึ่งวางไว้กลางเครื่องเคลือบ

        “มาอยู่นี่ได้ไง เป็นไปได้ยังไง นอกจากข้าแล้วยังมีผู้ถูกเนรเทศมาแดนมนุษย์อีกหรือ”ในขณะที่ผ้าแดงถูกดึงออกมานั่นเองกัวไฮว่ก็ลุกพรวดขึ้นมาดวงตาจับจ้องไปยังน้ำเต้าใบนั้น

        “เป็นน้ำเต้าที่สวยจริงๆ เหมือนกับของหมอนั่นเลย”ซูเยี่ยพูดเสียงเบา“ตาบ้า เดี๋ยวงานประมูลจะจบแล้วนายยังไม่ได้ซื้ออะไรสักอย่าง ประมูลน้ำเต้านั่นมาหน่อยสิฉันอยากได้มากเลย”เสียงพูดของซูเยี่ยเบาลงเรื่อยๆ ความคิดแปลกๆบางอย่างปรากฏขึ้นในสมองของเธอ ตัวเองเป็นแค่เมียเก็บจะขอของเขาคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง

        “น้ำเต้านี่เป็นของฉันไม่ให้ใครทั้งนั้น น้ำเต้านี่เป็นของฉันเป็นของฉัน”กัวไฮว่ไม่ได้ยินที่ซูเยี่ยพูดสักนิด เขาพูดพึมพำกับตัวเอง เขาใช้พลังเวทที่ตัวเองมีอันน้อยนิดกับน้ำเต้า ไม่คาดคิดว่าค่ายกลนอกรอบน้ำเต้านั่นยังครบสมบูรณ์นั่นก็หมายความว่าน้ำเต้านี่ยังไม่มีใครเปิดมาก่อน มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าข้างในจะเป็นของดี

        “อะแฮ่มนายท่านทำอะไรเนี่ย ทำไมเอาของรักตัวเองออกมาล่ะ”หลี่เย่าเห็นน้ำเต้าบนเวทีก็พลันเบิกตาโพล่ง“เป็นของดีแน่ๆ”หลี่เย่าหันศีรษะกลับไปเห็นท่าทางของกัวไฮว่ก็แอบพูดขึ้นในใจว่า“นายท่าน ท่านอย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”

        “ของชิ้นนี้ฉันแนะนำไม่ได้จริงๆ ขอให้ทุกคนปรบมือให้กับนายพลหลี่ หลี่โต้วเทียน เพื่อมาแนะนำของประมูลชิ้นนี้หน่อยค่ะ”หลินซวงพูดยิ้มๆ

        หลี่โต้วเทียนคุณปู่ของหลี่เย่าเป็นนายพลที่ยังมีชีวิตจนปัจจุบันของจีนที่เคยเข้าร่วมสงครามต่อต้านญี่ปุ่น แม้จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพแล้ว แต่เมื่อพูดถึงผู้อาวุโสท่านนี้อย่าว่าแต่เมืองอู่เฉิงเลยทั่วทั้งประเทศจีนก็ไม่มีใครไม่ยกนิ้วให้

        “ราชาทหารยุคใหม่”“เทพทหาร”“เทพสงครามเมืองจีน”ไม่ว่าจะใช้กี่คำดีๆสักเพียงไหนมาบรรยายผู้อาวุโสท่านนี้ก็มักจะมีพูดคำเหล่านี้อยู่เสมอ

        “ทำความเคารพ!”ในเวลาเดียวกับที่ผู้อาวุโสยืนขึ้นหลายสิบคนที่อยู่รอบด้านก็ยืนขึ้นมาด้วย มีทั้งคนทุกวัยและใส่เสื้อผ้าต่างกัน ในขณะเดียวกันก็ยกมือขวาขึ้นทำท่าเคารพแบบทหารกับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม

        “นั่งลงเถอะนี่มันงานประมูล อย่าทำให้นักเรียนตกใจสิ”หลี่โต้วเทียนพูดขำๆ“ฉันขอพูดเกี่ยวกับน้ำเต้านี่ก่อนนะ นี่เป็นน้ำเต้าที่ฉันบังเอิญเจอระหว่างสงครามในปี1951จนถึงตอนนี้น่าจะอายุประมาณเจ็ดสิบปี”

        “น้ำเต้านี่ได้มาจากภูเขาฉางไป๋ซาน ส่วนทำมาจากอะไรฉันไม่แน่ใจ หลายปีมานี้ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญมาดูแต่ว่าแยกแยะไม่ออกกันสักคนและไม่อาจดูยุคสมัยด้วย”หลี่โต้วเทียนพูดยิ้มๆ

        “วันนี้ที่เอาน้ำเต้านี่มาประมูลหนึ่งเลยก็เพื่อหาคนที่มีวาสนากับมัน หวังว่าจะเผยความลับของน้ำเต้านี่ได้ สองก็เพื่อหาเงินสมทบทุน ยังไงซะคนแก่อย่างฉันก็สู้กับคนหนุ่มสาวแบบพวกเธอไม่ได้ เอะอะก็ให้ราคาสิบล้าน”หลี่โต้วเทียนพูดพลางมองไปที่เจี่ยหยวนแวบหนึ่ง

        “ฉันขอพูดประโยคสุดท้าย จนถึงทุกวันนี้การประมูลครั้งนี้ประสบความสำเร็จมากได้เงินสมทบทุนมาไม่น้อยหวังว่าเงินทั้งหมดจะนำไปใช้ในที่ที่ควรจะใช้ถ้าหากใครกล้าขัดจุดประสงค์เงินสมทบทุนในครั้งนี้ เกรงว่าจะต้องลั่นปืนในบ้านฉันซะแล้ว”นายท่านหลี่พูดพลางพาสายตาตกไปอยู่บนร่างของข้าราชการเมืองอู่เฉิงที่มาในครั้งนี้ด้วย

        “คุณปู่วางใจได้เลย เงินที่ได้จากการประมูลทั้งหมดพวกเราจะเปิดเผยให้สาธารณชนตรวจสอบแน่นอน ถ้าใช้จ่ายเงินไม่ถูกต้องสักแดงเดียวผมจะแบกหัวไปหาท่านเอง”ภายใต้สายตาของนายท่านหลี่ไม่มีใครยืนขึ้นมาสักคน เวลานี้หวังเซิงจึงยืดตัวไปข้างหน้าพูดด้วยเสียงดัง

        “ฮ่าๆ เจ้าเด็กตระกูลหวังไม่เลวเลย ไม่เลวเป็นข้าราชการที่ดีเหมือนกับหวังหย่งจิ้นเลย”หลี่โต้วเทียนพูดพลางนั่งไปบนที่นั่งของตน หันไปมองหลินซวงแล้วพยักหน้าให้เล็กน้อย

        “ราคาต่ำสุดของน้ำเต้านายพลหลี่คือหนึ่งหยวน ทุกครั้งเพิ่มเงินได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหยวน ใครต้องการเชิญเริ่มได้เลยค่ะ”หลินซวงพูดจบก็แลบลิ้นพูดขำๆ

        “ล้านนึง เมื่อก่อนพ่อผมเป็นทหารติดตามนายพลหลี่ ผมหวังว่าผมจะนำน้ำเต้านี่ไปให้เขาได้”ชายคนหนึ่งลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเบา

        “พี่จ้านขอโทษด้วยนะผมก็ชอบของนี่ หนึ่งล้านห้าแสน”ชายวัยกลางคนที่ดูอายุมากกว่าหน่อยหนึ่งพูดยิ้มๆ

        “สามล้าน คุณลุงคะหนูชอบน้ำเต้านี่มากเลยให้หนูเถอะ”กัวไฮว่ยังไม่ทันได้ตะโกนบอกราคาโหยวโยวโยวที่อยู่ด้านข้างก็ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเบา

        “โยวโยวเธอดูออกเหรอว่าน้ำเต้านี่คืออะไร”กัวไฮว่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นอย่างขำๆ

        “เปล่าหรอก แต่คิดว่าน้ำเต้านี่คล้ายกับน้ำเต้าใส่เหล้าของนายมากเลย คิดๆดูแล้วคงไม่เลวเลยใช่ไหมตาบ้า”โหยวโยวโยวพูดยิ้มๆ

        “อะแฮ่ม ยายหนูจริงๆแล้วน้ำเต้านั่นเธอประมูลมาก็ใส่อะไรไม่ได้หรอก เพราะเธอเปิดไม่ออกอยู่แล้ว”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“อย่าเปลืองเงินเลยของนี่ให้ฉันจัดการเองดีกว่า”

        “ตาบ้าอยากได้ก็บอกมา ไม่ต้องมาบอกว่าฉันเปิดไม่ออกหรอก”โหยวโยวโยวส่งเสียงฮึแล้วมองน้ำเต้าที่อยู่บนเวทีแวบหนึ่ง จ่ายเงินสามล้านเพื่อซื้อน้ำเต้าที่ไม่รู้ทำมาจากอะไร แต่ก็ดูท่าทางหลายคนก็ไม่ได้จะแย่งแล้ว

         

 

                                                               ————————

                        อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ค่ะ^^

                                             https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+