[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 124 คลินิกไม่รับพนักงานใหม่

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 124 คลินิกไม่รับพนักงานใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        กัวไฮว่เองก็ไม่รู้ตัวเลยว่าการประลองที่มหาวิทยาลัยอู่เฉิงในครั้งนี้ทำให้เขาดังเป็นพลุแตกอีกครั้ง ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยอู่เฉิงผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการที่กัวไฮว่มาปรากฏตัวเป็นนักเรียนใหม่ของคณะแพทย์แผนโบราณ บนเว็บบอร์ดมหาวิทยาลัยอู่เฉิงปรากฏรูปภาพขนาดมหึมาเขียนว่า ‘ความภาคภูมิใจของฟู่จง มือเทพแพทย์แผนโบราณ กัวไฮว่อู่เฉิง’

        “เสี่ยวซี เห็นแล้วหรือยัง ตาบ้านั่นไปจีบสาวในมหาลัยแล้ว เขาไม่ต้องการพวกเราแล้วล่ะ” ซูเยี่ยพูดยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่หล่อจังเลย เธอดูสิ ทำคณบดีหวงนั่นเป็นลมไปเลย” ถังซีดูวิดีโอไปพร้อมกับพูดยิ้มๆ “เวลาผ่านไปช้าจังเลย รีบถึงวันเสาร์สักทีเถอะ จะได้เจอพี่ไฮว่แล้ว”

        “ตาพี่บ้า ฉันยังไม่กล้ากลับห้องนอนเลยเนี่ย พี่ยังมีกะจิตกะใจไปวุ่นวายอยู่ข้างนอกอีกเหรอ รีบมาช่วยฉันสิ” หนานกงหลิงโม่พักอยู่ที่ร้านอาหารของเริ่นเสวียนเช่อมาหนึ่งวันแล้ว เธอไม่กล้ากลับไปห้องนอนเพราะกลัวจะเจอซย่าโหวซานเหออีกครั้ง ถ้าเจอกันอีกเธอกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้โชคดีขนาดนั้น

        “ตาบ้านี่ น่าเป็นห่วงจริงๆ ไปถึงมหาลัยอู่เฉิงซะแล้ว” หลินซวงลูบป้ายหยกที่กัวไฮว่ให้ซุนหลิงหลิงเอามาให้พร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ “วันเสาร์ฉันต้องไปหาที่คลินิกเธอซะแล้ว รู้สึกว่าช่วงนี้จะไม่สบายตัว”

        “หลิวเย่าซือนี่สวยจังเลย ดูทรงแล้วเขาจะถูกใจเธอนะ เจ้าเล่ห์ ไอ้คนเจ้าเล่ห์” ซุนหลิงหลิงพูดเบาๆ ด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

        “ความสามารถทางการแพทย์ดีขนาดนี้ ต้องเป็นผู้บำเพ็ญหรือไม่ก็ผู้มีพลังวิเศษ การตายของเสี่ยวเทียนต้องเกี่ยวกับมันแน่” ซย่าโหวซานเหอพูดขึ้นเบาๆ เขาและพวกทั้งหมดสี่คนอยู่ที่โรงแรมระดับไฮคลาสแห่งหนึ่งในเมืองอู่เฉิง นั่งดูวิดีโอของกัวไฮว่ที่คณะแพทย์แผนโบราณกันอยู่หลายรอบ

        “พี่ซานเหอ ในเมื่อมั่นใจแล้วว่ามันเกี่ยว งั้นพวกเราไปหามันไปถามมันให้ชัดเลย” ซย่าโหวเฟิ่งพูดเบาๆ

        “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา คลินิกของมันเปิดวันเสาร์ไว้พวกเราไปหามันวันนั้นกัน” ซย่าโหวซานเหอพูดด้วยความโหดเหี้ยม

        กัวไฮว่กลับไปยังบ้านพักตระกูลกัว จากนั้นก็ทำเรื่องสนุกๆ กับอวี้เอ๋อร์อีกครั้ง ในเช้าตรู่วันที่สองเขาก็ได้ทำของกินไว้เต็มโต๊ะ จากนั้นทั้งสองก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและมุ่งตรงมายังมหาวิทยาลัยอู่เฉิงอีกครั้ง

        “ซือซือ เธอว่าคลินิกของกัวไฮว่นั่นเป็นยังไงเหรอ ใหญ่แค่ไหน เขาจะเลือกคนจากแพทย์ปัจจุบันกับแพทย์โบราณมาสิบคน ไว้ถึงตอนนั้นเขาจะให้เงินเดือนแค่ไหนเหรอ” นักศึกษาสาวรายหนึ่งถามหลิวเย่าซือเบาๆ

        “หลี่มู่ เธอน่าจะรู้ดีสุดนะ วันนั้นเธอก็เห็นแล้วนี่ว่าพวกเขาไม่ได้อายุมากเท่าพวกเรา คลินิกคงไม่ได้ใหญ่อะไร เงินเดือนไม่ค่อยดีแน่นอนเลยล่ะ ถ้าเธออยากหางานที่เงินเดือนดี ฉันแนะนำว่าเธออย่าไปร่วมด้วยจะดีกว่านะ” หลิวเย่าซือพูดพลางย่นคิ้ว

        หลี่มู่คนนี้นอนห้องเดียวกับเธอ หลังจากวันนั้นที่กลับห้องนอนไป หลี่มู่ก็เริ่มสอบถามเรื่องของกัวไฮว่ เรียนมหาวิทยาลัยมาสามปี หลิวเย่าซือรู้จักหลี่มู่คนนี้ดี ตอนแรกเธอไม่ได้คิดจะให้กัวไฮว่เลือกหลี่มู่ ทว่าหลี่มู่กลับได้ยินมาว่าเธอจะไปที่คลินิกเลยอยากจะร่วมลงชื่อไปด้วยกัน

        “อย่างนี้นี่เอง งั้นก็ช่างมันเถอะ ไม่ลงชื่อแล้วล่ะ โอกาสแบบนี้เก็บไว้ให้เพื่อนๆ คนอื่นดีกว่า” เมื่อพูดเสร็จ หลี่มู่ก็หมุนตัวออกจากโถงประชุมอาคารหมอเทพไป

        “รุ่นพี่ซือซือ ผมเป็นนักศึกษาปีสอง ไม่ทราบว่าผมลงชื่อได้ไหมครับ” นักศึกษาชายหน้าตาดีคนหนึ่งเดินไปยังเบื้องหน้าของหลิวเย่าซือพร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ “ผมอยากจะเรียนกับกัวไฮว่นั่นสักหน่อย”

        “ทำไมนายเลือกแพทย์แผนโบราณล่ะ” หลิวเย่าซือถามขึ้นเบาๆ

        “เพราะว่าหลังภูเขาที่บ้านเก่าผมมีสมุนไพรโตอยู่เต็มหลายชนิดเลย แต่ว่าทั้งหมู่บ้านน้อยคนมากที่จะรู้จักของพวกนี้ ว่ากันว่าอยู่ติดภูเขาให้กินของในภูเขา แต่หลายปีมาแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ใช้จากทรัพยากรบนภูเขาเลย ผมอยากเรียนแพทย์แผนโบราณให้เก่ง กลับไปจะได้นำความร่ำรวยมาสู่คนในบ้าน” เด็กหนุ่มพูดขึ้นเบาๆ

        “นายเขียนชื่อก่อนเถอะ ฉันว่ากัวไฮว่อาจจะช่วยนายได้ก็ได้” หลิวเย่าซือพูดยิ้มๆ

        “หลี่อวี้” ที่เป็นชื่อของผู้หญิงถูกเขียนไว้บนกระดาษอย่างชัดเจน หลิวเย่าซือมองเด็กหนุ่มผู้นี้อีกครั้งหนึ่ง เขาเรียนมหาวิทยาลัยมาสองปีแล้ว จู่ๆ ก็ถูกผู้หญิงมองเลยเขินอายขึ้นมา หลิวเย่าซือจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

        คนในคณะแพทย์แผนปัจจุบันมีเยอะ คนที่มาลงชื่อก็มีเยอะ แต่สิ่งที่ทำให้เหลิ่งซวงไม่อาจปักใจเชื่อได้ก็คือเฉินเจี่ยตี้ เฉาเฉียนคุนและเหอโม่ก็มาร่วมลงชื่อด้วย

        “ถ้าอยากเอาชนะแพทย์โบราณ ก็ต้องเข้าใจในแพทย์โบราณ ถ้าพวกเธอไม่กลัวว่าฉันจะชนะพวกเธอก็เขียนชื่อฉันลงไปสิ ฉันอยากจะรู้นักว่ากัวไฮว่นี่จะสักแค่ไหนกันเชียว” เฉินเจี่ยตี้เขียนชื่อตนเองบนกระดาษพร้อมกับพูดด้วยเสียงดัง

        “ตระกูลเฉาของพวกเราเป็นหมอมาหลายรุ่น ปู่ทวดเป็นหมอ ทวดกับพ่อฉันก็เป็นหมอกันหมด ตอนแรกฉันก็ชอบคลุกคลีอยู่กับสมุนไพรพวกนั้น แต่ว่าประลองความรู้กับพ่อฉันแพ้ไปเลยต้องเลือกแพทย์แผนปัจจุบัน ฉันคิดว่าการที่ฉันไปกับกัวไฮว่นั่นจะเป็นโอกาสสำหรับฉัน เป็นโอกาสที่จะทำให้ฉันชนะพ่อฉันได้”

        “เดิมทีฉันก็เป็นแพทย์แผนโบราณอยู่แล้ว ฉันเป็นลูกศิษย์ของกัวไฮว่” เหอโม่เขียนชื่อลงไปบนกระดาษอย่างทันที

        นักศึกษาเก่งๆ จากคณะแพทย์แผนปัจจุบันประมาณห้าสิบกว่าคนมาลงชื่อที่คณะแพทย์แผนโบราณ หนึ่งในนั้นรวมนักศึกษาบนเว็บบอร์ดที่มีชื่อว่า ‘ฉันไม่ชอบแพทย์จีน’ อยู่ด้วย เขามีชื่อว่าหลินลั่วซาน ซึ่งยี่สิบปีต่อมาเขาได้กลายเป็นหนึ่งในแพทย์ที่เก่งที่สุดในหัวซย่า

        เป็นเวลาประมาณสิบนาที กัวไฮว่ก็ขับรถพาอวี้เอ๋อร์ปรากฏตัวอยู่ที่คณะแพทย์แผนโบราณอีกครั้ง กลิ่นยาจีนเมื่อวานยังไม่จางหายไป และเมื่อนักศึกษาคณะแพทย์แผนโบราณเห็นกัวไฮว่ ต่างก็ทักทายนักเรียนชายที่เด็กกว่าตนผู้นี้ เขาเป็นคนทำให้นักศึกษาผู้นี้มีความเชื่อมั่นในการแพทย์แผนโบราณอีกครั้ง

        “ทำไมนายเพิ่งมาเนี่ย” หลิวเย่าซือยุ่งมาตั้งแต่คืนเมื่อวาน เริ่มมาลงชื่อนักศึกษากันตั้งแต่ตอนหกโมงเช้า และเมื่อเห็นกัวไฮว่มัวเอ้อระเหยปรากฏตัวอยู่กับอวี้เอ๋อร์ ในใจก็พลันมีความรู้สึกเจ็บแสบ

        “ทำไมเหรอ ไม่เจอกันครึ่งวันก็คิดถึงฉันแล้วเหรอ ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ต่อไปก็จะได้เจอฉันบ่อยๆ แล้วล่ะ มีนักศึกษามาลงชื่อเท่าไหร่ คนมากันหมดแล้วเหรอ”

        “ทั้งคณะแพทย์แผนโบราณมีทั้งหมดหมด 785 คน นักศึกษาที่เรียนอยู่มี 533 คน มีคนลงชื่อ 290 คน” หลิวเย่าซือพูดพลางส่งรายชื่อโดยละเอียดไปให้กัวไฮว่ ด้านหลังชื่อของทุกคนมีคะแนนประเมินเอาไว้ หลิวเย่าซือเป็นคนทำมาทั้งคืน

        “คณะแพทย์แผนปัจจุบันมีคนลงชื่อทั้งหมด 88 คน ในนั้นมีเฉินเจี่ยตี้ เฉาเฉียนคุนแล้วก็เหอโม่คนที่เจอเมื่อวานอยู่ในนั้นด้วย” เหลิ่งซวงส่งรายชื่อให้กัวไฮว่ด้วยเช่นกัน หลังรายชื่อของทุกคนไม่ได้มีเพียงแค่คะแนนประเมิน แต่ยังมีประโยคแนะนำตัวด้วย

        “ลำบากพวกเธอแล้วล่ะ” กัวไฮว่อ่านรายชื่อพร้อมกับพูดยิ้มๆ “ในเมื่อคนอยู่นี่ งั้นฉันไปคุยด้วยสักสองสามคำดีกว่า” ในขณะที่พูด กัวไฮว่ก็เดินไปยังเวที ทำให้ล่างต่างก็เงียบสงบลง

        “ดีใจมากเลยที่ได้เจอกับทุกคนอีกครั้งแล้วก็ดีใจมากเลยที่หลายคนมาลงชื่อ ถึงผมจะไม่รู้ว่าที่ทุกคนมาสมัครเนี่ยรักชอบในการแพทย์แผนโบราณจริงๆ หรือว่ามีจุดประสงค์อื่นก็เถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ผมจะเลือกคนมาจากรายชื่อที่สมัครไว้มายี่สิบคน ที่ให้นักศึกษาแพทย์แผนโบราณกับแพทย์ปัจจุบันอย่างละสิบคนเนี่ยต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่คลินิกไม่ใหญ่เลยทำได้แค่รับยี่สิบคน”

        “กัวไฮว่ ถ้าพวกเราไปที่คลินิกนาย เงินเดือนเป็นไงบ้าง นายช่วยบอกหน่อยสิ” นักศึกษาปีสามคนหนึ่งพูดเสียงดัง

        “นักศึกษาทุกคนทำงานกับผมจะมีระยะเวลาทดลองงานหนึ่งอาทิตย์ อาทิตย์แรกพวกคุณเลือกคลินิกไม่ คลินิกไม่เองก็เลือกพวกคุณ ถ้าไม่ผ่าน คลินิกไม่จะให้เงินพวกคุณสามพันหยวน แล้วพวกคุณก็ออกไปเองได้เลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 124 คลินิกไม่รับพนักงานใหม่

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 124 คลินิกไม่รับพนักงานใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        กัวไฮว่เองก็ไม่รู้ตัวเลยว่าการประลองที่มหาวิทยาลัยอู่เฉิงในครั้งนี้ทำให้เขาดังเป็นพลุแตกอีกครั้ง ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยอู่เฉิงผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการที่กัวไฮว่มาปรากฏตัวเป็นนักเรียนใหม่ของคณะแพทย์แผนโบราณ บนเว็บบอร์ดมหาวิทยาลัยอู่เฉิงปรากฏรูปภาพขนาดมหึมาเขียนว่า ‘ความภาคภูมิใจของฟู่จง มือเทพแพทย์แผนโบราณ กัวไฮว่อู่เฉิง’

        “เสี่ยวซี เห็นแล้วหรือยัง ตาบ้านั่นไปจีบสาวในมหาลัยแล้ว เขาไม่ต้องการพวกเราแล้วล่ะ” ซูเยี่ยพูดยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่หล่อจังเลย เธอดูสิ ทำคณบดีหวงนั่นเป็นลมไปเลย” ถังซีดูวิดีโอไปพร้อมกับพูดยิ้มๆ “เวลาผ่านไปช้าจังเลย รีบถึงวันเสาร์สักทีเถอะ จะได้เจอพี่ไฮว่แล้ว”

        “ตาพี่บ้า ฉันยังไม่กล้ากลับห้องนอนเลยเนี่ย พี่ยังมีกะจิตกะใจไปวุ่นวายอยู่ข้างนอกอีกเหรอ รีบมาช่วยฉันสิ” หนานกงหลิงโม่พักอยู่ที่ร้านอาหารของเริ่นเสวียนเช่อมาหนึ่งวันแล้ว เธอไม่กล้ากลับไปห้องนอนเพราะกลัวจะเจอซย่าโหวซานเหออีกครั้ง ถ้าเจอกันอีกเธอกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้โชคดีขนาดนั้น

        “ตาบ้านี่ น่าเป็นห่วงจริงๆ ไปถึงมหาลัยอู่เฉิงซะแล้ว” หลินซวงลูบป้ายหยกที่กัวไฮว่ให้ซุนหลิงหลิงเอามาให้พร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ “วันเสาร์ฉันต้องไปหาที่คลินิกเธอซะแล้ว รู้สึกว่าช่วงนี้จะไม่สบายตัว”

        “หลิวเย่าซือนี่สวยจังเลย ดูทรงแล้วเขาจะถูกใจเธอนะ เจ้าเล่ห์ ไอ้คนเจ้าเล่ห์” ซุนหลิงหลิงพูดเบาๆ ด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

        “ความสามารถทางการแพทย์ดีขนาดนี้ ต้องเป็นผู้บำเพ็ญหรือไม่ก็ผู้มีพลังวิเศษ การตายของเสี่ยวเทียนต้องเกี่ยวกับมันแน่” ซย่าโหวซานเหอพูดขึ้นเบาๆ เขาและพวกทั้งหมดสี่คนอยู่ที่โรงแรมระดับไฮคลาสแห่งหนึ่งในเมืองอู่เฉิง นั่งดูวิดีโอของกัวไฮว่ที่คณะแพทย์แผนโบราณกันอยู่หลายรอบ

        “พี่ซานเหอ ในเมื่อมั่นใจแล้วว่ามันเกี่ยว งั้นพวกเราไปหามันไปถามมันให้ชัดเลย” ซย่าโหวเฟิ่งพูดเบาๆ

        “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา คลินิกของมันเปิดวันเสาร์ไว้พวกเราไปหามันวันนั้นกัน” ซย่าโหวซานเหอพูดด้วยความโหดเหี้ยม

        กัวไฮว่กลับไปยังบ้านพักตระกูลกัว จากนั้นก็ทำเรื่องสนุกๆ กับอวี้เอ๋อร์อีกครั้ง ในเช้าตรู่วันที่สองเขาก็ได้ทำของกินไว้เต็มโต๊ะ จากนั้นทั้งสองก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและมุ่งตรงมายังมหาวิทยาลัยอู่เฉิงอีกครั้ง

        “ซือซือ เธอว่าคลินิกของกัวไฮว่นั่นเป็นยังไงเหรอ ใหญ่แค่ไหน เขาจะเลือกคนจากแพทย์ปัจจุบันกับแพทย์โบราณมาสิบคน ไว้ถึงตอนนั้นเขาจะให้เงินเดือนแค่ไหนเหรอ” นักศึกษาสาวรายหนึ่งถามหลิวเย่าซือเบาๆ

        “หลี่มู่ เธอน่าจะรู้ดีสุดนะ วันนั้นเธอก็เห็นแล้วนี่ว่าพวกเขาไม่ได้อายุมากเท่าพวกเรา คลินิกคงไม่ได้ใหญ่อะไร เงินเดือนไม่ค่อยดีแน่นอนเลยล่ะ ถ้าเธออยากหางานที่เงินเดือนดี ฉันแนะนำว่าเธออย่าไปร่วมด้วยจะดีกว่านะ” หลิวเย่าซือพูดพลางย่นคิ้ว

        หลี่มู่คนนี้นอนห้องเดียวกับเธอ หลังจากวันนั้นที่กลับห้องนอนไป หลี่มู่ก็เริ่มสอบถามเรื่องของกัวไฮว่ เรียนมหาวิทยาลัยมาสามปี หลิวเย่าซือรู้จักหลี่มู่คนนี้ดี ตอนแรกเธอไม่ได้คิดจะให้กัวไฮว่เลือกหลี่มู่ ทว่าหลี่มู่กลับได้ยินมาว่าเธอจะไปที่คลินิกเลยอยากจะร่วมลงชื่อไปด้วยกัน

        “อย่างนี้นี่เอง งั้นก็ช่างมันเถอะ ไม่ลงชื่อแล้วล่ะ โอกาสแบบนี้เก็บไว้ให้เพื่อนๆ คนอื่นดีกว่า” เมื่อพูดเสร็จ หลี่มู่ก็หมุนตัวออกจากโถงประชุมอาคารหมอเทพไป

        “รุ่นพี่ซือซือ ผมเป็นนักศึกษาปีสอง ไม่ทราบว่าผมลงชื่อได้ไหมครับ” นักศึกษาชายหน้าตาดีคนหนึ่งเดินไปยังเบื้องหน้าของหลิวเย่าซือพร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ “ผมอยากจะเรียนกับกัวไฮว่นั่นสักหน่อย”

        “ทำไมนายเลือกแพทย์แผนโบราณล่ะ” หลิวเย่าซือถามขึ้นเบาๆ

        “เพราะว่าหลังภูเขาที่บ้านเก่าผมมีสมุนไพรโตอยู่เต็มหลายชนิดเลย แต่ว่าทั้งหมู่บ้านน้อยคนมากที่จะรู้จักของพวกนี้ ว่ากันว่าอยู่ติดภูเขาให้กินของในภูเขา แต่หลายปีมาแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ใช้จากทรัพยากรบนภูเขาเลย ผมอยากเรียนแพทย์แผนโบราณให้เก่ง กลับไปจะได้นำความร่ำรวยมาสู่คนในบ้าน” เด็กหนุ่มพูดขึ้นเบาๆ

        “นายเขียนชื่อก่อนเถอะ ฉันว่ากัวไฮว่อาจจะช่วยนายได้ก็ได้” หลิวเย่าซือพูดยิ้มๆ

        “หลี่อวี้” ที่เป็นชื่อของผู้หญิงถูกเขียนไว้บนกระดาษอย่างชัดเจน หลิวเย่าซือมองเด็กหนุ่มผู้นี้อีกครั้งหนึ่ง เขาเรียนมหาวิทยาลัยมาสองปีแล้ว จู่ๆ ก็ถูกผู้หญิงมองเลยเขินอายขึ้นมา หลิวเย่าซือจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

        คนในคณะแพทย์แผนปัจจุบันมีเยอะ คนที่มาลงชื่อก็มีเยอะ แต่สิ่งที่ทำให้เหลิ่งซวงไม่อาจปักใจเชื่อได้ก็คือเฉินเจี่ยตี้ เฉาเฉียนคุนและเหอโม่ก็มาร่วมลงชื่อด้วย

        “ถ้าอยากเอาชนะแพทย์โบราณ ก็ต้องเข้าใจในแพทย์โบราณ ถ้าพวกเธอไม่กลัวว่าฉันจะชนะพวกเธอก็เขียนชื่อฉันลงไปสิ ฉันอยากจะรู้นักว่ากัวไฮว่นี่จะสักแค่ไหนกันเชียว” เฉินเจี่ยตี้เขียนชื่อตนเองบนกระดาษพร้อมกับพูดด้วยเสียงดัง

        “ตระกูลเฉาของพวกเราเป็นหมอมาหลายรุ่น ปู่ทวดเป็นหมอ ทวดกับพ่อฉันก็เป็นหมอกันหมด ตอนแรกฉันก็ชอบคลุกคลีอยู่กับสมุนไพรพวกนั้น แต่ว่าประลองความรู้กับพ่อฉันแพ้ไปเลยต้องเลือกแพทย์แผนปัจจุบัน ฉันคิดว่าการที่ฉันไปกับกัวไฮว่นั่นจะเป็นโอกาสสำหรับฉัน เป็นโอกาสที่จะทำให้ฉันชนะพ่อฉันได้”

        “เดิมทีฉันก็เป็นแพทย์แผนโบราณอยู่แล้ว ฉันเป็นลูกศิษย์ของกัวไฮว่” เหอโม่เขียนชื่อลงไปบนกระดาษอย่างทันที

        นักศึกษาเก่งๆ จากคณะแพทย์แผนปัจจุบันประมาณห้าสิบกว่าคนมาลงชื่อที่คณะแพทย์แผนโบราณ หนึ่งในนั้นรวมนักศึกษาบนเว็บบอร์ดที่มีชื่อว่า ‘ฉันไม่ชอบแพทย์จีน’ อยู่ด้วย เขามีชื่อว่าหลินลั่วซาน ซึ่งยี่สิบปีต่อมาเขาได้กลายเป็นหนึ่งในแพทย์ที่เก่งที่สุดในหัวซย่า

        เป็นเวลาประมาณสิบนาที กัวไฮว่ก็ขับรถพาอวี้เอ๋อร์ปรากฏตัวอยู่ที่คณะแพทย์แผนโบราณอีกครั้ง กลิ่นยาจีนเมื่อวานยังไม่จางหายไป และเมื่อนักศึกษาคณะแพทย์แผนโบราณเห็นกัวไฮว่ ต่างก็ทักทายนักเรียนชายที่เด็กกว่าตนผู้นี้ เขาเป็นคนทำให้นักศึกษาผู้นี้มีความเชื่อมั่นในการแพทย์แผนโบราณอีกครั้ง

        “ทำไมนายเพิ่งมาเนี่ย” หลิวเย่าซือยุ่งมาตั้งแต่คืนเมื่อวาน เริ่มมาลงชื่อนักศึกษากันตั้งแต่ตอนหกโมงเช้า และเมื่อเห็นกัวไฮว่มัวเอ้อระเหยปรากฏตัวอยู่กับอวี้เอ๋อร์ ในใจก็พลันมีความรู้สึกเจ็บแสบ

        “ทำไมเหรอ ไม่เจอกันครึ่งวันก็คิดถึงฉันแล้วเหรอ ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ต่อไปก็จะได้เจอฉันบ่อยๆ แล้วล่ะ มีนักศึกษามาลงชื่อเท่าไหร่ คนมากันหมดแล้วเหรอ”

        “ทั้งคณะแพทย์แผนโบราณมีทั้งหมดหมด 785 คน นักศึกษาที่เรียนอยู่มี 533 คน มีคนลงชื่อ 290 คน” หลิวเย่าซือพูดพลางส่งรายชื่อโดยละเอียดไปให้กัวไฮว่ ด้านหลังชื่อของทุกคนมีคะแนนประเมินเอาไว้ หลิวเย่าซือเป็นคนทำมาทั้งคืน

        “คณะแพทย์แผนปัจจุบันมีคนลงชื่อทั้งหมด 88 คน ในนั้นมีเฉินเจี่ยตี้ เฉาเฉียนคุนแล้วก็เหอโม่คนที่เจอเมื่อวานอยู่ในนั้นด้วย” เหลิ่งซวงส่งรายชื่อให้กัวไฮว่ด้วยเช่นกัน หลังรายชื่อของทุกคนไม่ได้มีเพียงแค่คะแนนประเมิน แต่ยังมีประโยคแนะนำตัวด้วย

        “ลำบากพวกเธอแล้วล่ะ” กัวไฮว่อ่านรายชื่อพร้อมกับพูดยิ้มๆ “ในเมื่อคนอยู่นี่ งั้นฉันไปคุยด้วยสักสองสามคำดีกว่า” ในขณะที่พูด กัวไฮว่ก็เดินไปยังเวที ทำให้ล่างต่างก็เงียบสงบลง

        “ดีใจมากเลยที่ได้เจอกับทุกคนอีกครั้งแล้วก็ดีใจมากเลยที่หลายคนมาลงชื่อ ถึงผมจะไม่รู้ว่าที่ทุกคนมาสมัครเนี่ยรักชอบในการแพทย์แผนโบราณจริงๆ หรือว่ามีจุดประสงค์อื่นก็เถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ผมจะเลือกคนมาจากรายชื่อที่สมัครไว้มายี่สิบคน ที่ให้นักศึกษาแพทย์แผนโบราณกับแพทย์ปัจจุบันอย่างละสิบคนเนี่ยต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่คลินิกไม่ใหญ่เลยทำได้แค่รับยี่สิบคน”

        “กัวไฮว่ ถ้าพวกเราไปที่คลินิกนาย เงินเดือนเป็นไงบ้าง นายช่วยบอกหน่อยสิ” นักศึกษาปีสามคนหนึ่งพูดเสียงดัง

        “นักศึกษาทุกคนทำงานกับผมจะมีระยะเวลาทดลองงานหนึ่งอาทิตย์ อาทิตย์แรกพวกคุณเลือกคลินิกไม่ คลินิกไม่เองก็เลือกพวกคุณ ถ้าไม่ผ่าน คลินิกไม่จะให้เงินพวกคุณสามพันหยวน แล้วพวกคุณก็ออกไปเองได้เลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 124 คลินิกไม่รับพนักงานใหม่

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 124 คลินิกไม่รับพนักงานใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        กัวไฮว่เองก็ไม่รู้ตัวเลยว่าการประลองที่มหาวิทยาลัยอู่เฉิงในครั้งนี้ทำให้เขาดังเป็นพลุแตกอีกครั้ง ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยอู่เฉิงผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการที่กัวไฮว่มาปรากฏตัวเป็นนักเรียนใหม่ของคณะแพทย์แผนโบราณ บนเว็บบอร์ดมหาวิทยาลัยอู่เฉิงปรากฏรูปภาพขนาดมหึมาเขียนว่า ‘ความภาคภูมิใจของฟู่จง มือเทพแพทย์แผนโบราณ กัวไฮว่อู่เฉิง’

        “เสี่ยวซี เห็นแล้วหรือยัง ตาบ้านั่นไปจีบสาวในมหาลัยแล้ว เขาไม่ต้องการพวกเราแล้วล่ะ” ซูเยี่ยพูดยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่หล่อจังเลย เธอดูสิ ทำคณบดีหวงนั่นเป็นลมไปเลย” ถังซีดูวิดีโอไปพร้อมกับพูดยิ้มๆ “เวลาผ่านไปช้าจังเลย รีบถึงวันเสาร์สักทีเถอะ จะได้เจอพี่ไฮว่แล้ว”

        “ตาพี่บ้า ฉันยังไม่กล้ากลับห้องนอนเลยเนี่ย พี่ยังมีกะจิตกะใจไปวุ่นวายอยู่ข้างนอกอีกเหรอ รีบมาช่วยฉันสิ” หนานกงหลิงโม่พักอยู่ที่ร้านอาหารของเริ่นเสวียนเช่อมาหนึ่งวันแล้ว เธอไม่กล้ากลับไปห้องนอนเพราะกลัวจะเจอซย่าโหวซานเหออีกครั้ง ถ้าเจอกันอีกเธอกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้โชคดีขนาดนั้น

        “ตาบ้านี่ น่าเป็นห่วงจริงๆ ไปถึงมหาลัยอู่เฉิงซะแล้ว” หลินซวงลูบป้ายหยกที่กัวไฮว่ให้ซุนหลิงหลิงเอามาให้พร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ “วันเสาร์ฉันต้องไปหาที่คลินิกเธอซะแล้ว รู้สึกว่าช่วงนี้จะไม่สบายตัว”

        “หลิวเย่าซือนี่สวยจังเลย ดูทรงแล้วเขาจะถูกใจเธอนะ เจ้าเล่ห์ ไอ้คนเจ้าเล่ห์” ซุนหลิงหลิงพูดเบาๆ ด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

        “ความสามารถทางการแพทย์ดีขนาดนี้ ต้องเป็นผู้บำเพ็ญหรือไม่ก็ผู้มีพลังวิเศษ การตายของเสี่ยวเทียนต้องเกี่ยวกับมันแน่” ซย่าโหวซานเหอพูดขึ้นเบาๆ เขาและพวกทั้งหมดสี่คนอยู่ที่โรงแรมระดับไฮคลาสแห่งหนึ่งในเมืองอู่เฉิง นั่งดูวิดีโอของกัวไฮว่ที่คณะแพทย์แผนโบราณกันอยู่หลายรอบ

        “พี่ซานเหอ ในเมื่อมั่นใจแล้วว่ามันเกี่ยว งั้นพวกเราไปหามันไปถามมันให้ชัดเลย” ซย่าโหวเฟิ่งพูดเบาๆ

        “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา คลินิกของมันเปิดวันเสาร์ไว้พวกเราไปหามันวันนั้นกัน” ซย่าโหวซานเหอพูดด้วยความโหดเหี้ยม

        กัวไฮว่กลับไปยังบ้านพักตระกูลกัว จากนั้นก็ทำเรื่องสนุกๆ กับอวี้เอ๋อร์อีกครั้ง ในเช้าตรู่วันที่สองเขาก็ได้ทำของกินไว้เต็มโต๊ะ จากนั้นทั้งสองก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและมุ่งตรงมายังมหาวิทยาลัยอู่เฉิงอีกครั้ง

        “ซือซือ เธอว่าคลินิกของกัวไฮว่นั่นเป็นยังไงเหรอ ใหญ่แค่ไหน เขาจะเลือกคนจากแพทย์ปัจจุบันกับแพทย์โบราณมาสิบคน ไว้ถึงตอนนั้นเขาจะให้เงินเดือนแค่ไหนเหรอ” นักศึกษาสาวรายหนึ่งถามหลิวเย่าซือเบาๆ

        “หลี่มู่ เธอน่าจะรู้ดีสุดนะ วันนั้นเธอก็เห็นแล้วนี่ว่าพวกเขาไม่ได้อายุมากเท่าพวกเรา คลินิกคงไม่ได้ใหญ่อะไร เงินเดือนไม่ค่อยดีแน่นอนเลยล่ะ ถ้าเธออยากหางานที่เงินเดือนดี ฉันแนะนำว่าเธออย่าไปร่วมด้วยจะดีกว่านะ” หลิวเย่าซือพูดพลางย่นคิ้ว

        หลี่มู่คนนี้นอนห้องเดียวกับเธอ หลังจากวันนั้นที่กลับห้องนอนไป หลี่มู่ก็เริ่มสอบถามเรื่องของกัวไฮว่ เรียนมหาวิทยาลัยมาสามปี หลิวเย่าซือรู้จักหลี่มู่คนนี้ดี ตอนแรกเธอไม่ได้คิดจะให้กัวไฮว่เลือกหลี่มู่ ทว่าหลี่มู่กลับได้ยินมาว่าเธอจะไปที่คลินิกเลยอยากจะร่วมลงชื่อไปด้วยกัน

        “อย่างนี้นี่เอง งั้นก็ช่างมันเถอะ ไม่ลงชื่อแล้วล่ะ โอกาสแบบนี้เก็บไว้ให้เพื่อนๆ คนอื่นดีกว่า” เมื่อพูดเสร็จ หลี่มู่ก็หมุนตัวออกจากโถงประชุมอาคารหมอเทพไป

        “รุ่นพี่ซือซือ ผมเป็นนักศึกษาปีสอง ไม่ทราบว่าผมลงชื่อได้ไหมครับ” นักศึกษาชายหน้าตาดีคนหนึ่งเดินไปยังเบื้องหน้าของหลิวเย่าซือพร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ “ผมอยากจะเรียนกับกัวไฮว่นั่นสักหน่อย”

        “ทำไมนายเลือกแพทย์แผนโบราณล่ะ” หลิวเย่าซือถามขึ้นเบาๆ

        “เพราะว่าหลังภูเขาที่บ้านเก่าผมมีสมุนไพรโตอยู่เต็มหลายชนิดเลย แต่ว่าทั้งหมู่บ้านน้อยคนมากที่จะรู้จักของพวกนี้ ว่ากันว่าอยู่ติดภูเขาให้กินของในภูเขา แต่หลายปีมาแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ใช้จากทรัพยากรบนภูเขาเลย ผมอยากเรียนแพทย์แผนโบราณให้เก่ง กลับไปจะได้นำความร่ำรวยมาสู่คนในบ้าน” เด็กหนุ่มพูดขึ้นเบาๆ

        “นายเขียนชื่อก่อนเถอะ ฉันว่ากัวไฮว่อาจจะช่วยนายได้ก็ได้” หลิวเย่าซือพูดยิ้มๆ

        “หลี่อวี้” ที่เป็นชื่อของผู้หญิงถูกเขียนไว้บนกระดาษอย่างชัดเจน หลิวเย่าซือมองเด็กหนุ่มผู้นี้อีกครั้งหนึ่ง เขาเรียนมหาวิทยาลัยมาสองปีแล้ว จู่ๆ ก็ถูกผู้หญิงมองเลยเขินอายขึ้นมา หลิวเย่าซือจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

        คนในคณะแพทย์แผนปัจจุบันมีเยอะ คนที่มาลงชื่อก็มีเยอะ แต่สิ่งที่ทำให้เหลิ่งซวงไม่อาจปักใจเชื่อได้ก็คือเฉินเจี่ยตี้ เฉาเฉียนคุนและเหอโม่ก็มาร่วมลงชื่อด้วย

        “ถ้าอยากเอาชนะแพทย์โบราณ ก็ต้องเข้าใจในแพทย์โบราณ ถ้าพวกเธอไม่กลัวว่าฉันจะชนะพวกเธอก็เขียนชื่อฉันลงไปสิ ฉันอยากจะรู้นักว่ากัวไฮว่นี่จะสักแค่ไหนกันเชียว” เฉินเจี่ยตี้เขียนชื่อตนเองบนกระดาษพร้อมกับพูดด้วยเสียงดัง

        “ตระกูลเฉาของพวกเราเป็นหมอมาหลายรุ่น ปู่ทวดเป็นหมอ ทวดกับพ่อฉันก็เป็นหมอกันหมด ตอนแรกฉันก็ชอบคลุกคลีอยู่กับสมุนไพรพวกนั้น แต่ว่าประลองความรู้กับพ่อฉันแพ้ไปเลยต้องเลือกแพทย์แผนปัจจุบัน ฉันคิดว่าการที่ฉันไปกับกัวไฮว่นั่นจะเป็นโอกาสสำหรับฉัน เป็นโอกาสที่จะทำให้ฉันชนะพ่อฉันได้”

        “เดิมทีฉันก็เป็นแพทย์แผนโบราณอยู่แล้ว ฉันเป็นลูกศิษย์ของกัวไฮว่” เหอโม่เขียนชื่อลงไปบนกระดาษอย่างทันที

        นักศึกษาเก่งๆ จากคณะแพทย์แผนปัจจุบันประมาณห้าสิบกว่าคนมาลงชื่อที่คณะแพทย์แผนโบราณ หนึ่งในนั้นรวมนักศึกษาบนเว็บบอร์ดที่มีชื่อว่า ‘ฉันไม่ชอบแพทย์จีน’ อยู่ด้วย เขามีชื่อว่าหลินลั่วซาน ซึ่งยี่สิบปีต่อมาเขาได้กลายเป็นหนึ่งในแพทย์ที่เก่งที่สุดในหัวซย่า

        เป็นเวลาประมาณสิบนาที กัวไฮว่ก็ขับรถพาอวี้เอ๋อร์ปรากฏตัวอยู่ที่คณะแพทย์แผนโบราณอีกครั้ง กลิ่นยาจีนเมื่อวานยังไม่จางหายไป และเมื่อนักศึกษาคณะแพทย์แผนโบราณเห็นกัวไฮว่ ต่างก็ทักทายนักเรียนชายที่เด็กกว่าตนผู้นี้ เขาเป็นคนทำให้นักศึกษาผู้นี้มีความเชื่อมั่นในการแพทย์แผนโบราณอีกครั้ง

        “ทำไมนายเพิ่งมาเนี่ย” หลิวเย่าซือยุ่งมาตั้งแต่คืนเมื่อวาน เริ่มมาลงชื่อนักศึกษากันตั้งแต่ตอนหกโมงเช้า และเมื่อเห็นกัวไฮว่มัวเอ้อระเหยปรากฏตัวอยู่กับอวี้เอ๋อร์ ในใจก็พลันมีความรู้สึกเจ็บแสบ

        “ทำไมเหรอ ไม่เจอกันครึ่งวันก็คิดถึงฉันแล้วเหรอ ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ต่อไปก็จะได้เจอฉันบ่อยๆ แล้วล่ะ มีนักศึกษามาลงชื่อเท่าไหร่ คนมากันหมดแล้วเหรอ”

        “ทั้งคณะแพทย์แผนโบราณมีทั้งหมดหมด 785 คน นักศึกษาที่เรียนอยู่มี 533 คน มีคนลงชื่อ 290 คน” หลิวเย่าซือพูดพลางส่งรายชื่อโดยละเอียดไปให้กัวไฮว่ ด้านหลังชื่อของทุกคนมีคะแนนประเมินเอาไว้ หลิวเย่าซือเป็นคนทำมาทั้งคืน

        “คณะแพทย์แผนปัจจุบันมีคนลงชื่อทั้งหมด 88 คน ในนั้นมีเฉินเจี่ยตี้ เฉาเฉียนคุนแล้วก็เหอโม่คนที่เจอเมื่อวานอยู่ในนั้นด้วย” เหลิ่งซวงส่งรายชื่อให้กัวไฮว่ด้วยเช่นกัน หลังรายชื่อของทุกคนไม่ได้มีเพียงแค่คะแนนประเมิน แต่ยังมีประโยคแนะนำตัวด้วย

        “ลำบากพวกเธอแล้วล่ะ” กัวไฮว่อ่านรายชื่อพร้อมกับพูดยิ้มๆ “ในเมื่อคนอยู่นี่ งั้นฉันไปคุยด้วยสักสองสามคำดีกว่า” ในขณะที่พูด กัวไฮว่ก็เดินไปยังเวที ทำให้ล่างต่างก็เงียบสงบลง

        “ดีใจมากเลยที่ได้เจอกับทุกคนอีกครั้งแล้วก็ดีใจมากเลยที่หลายคนมาลงชื่อ ถึงผมจะไม่รู้ว่าที่ทุกคนมาสมัครเนี่ยรักชอบในการแพทย์แผนโบราณจริงๆ หรือว่ามีจุดประสงค์อื่นก็เถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ผมจะเลือกคนมาจากรายชื่อที่สมัครไว้มายี่สิบคน ที่ให้นักศึกษาแพทย์แผนโบราณกับแพทย์ปัจจุบันอย่างละสิบคนเนี่ยต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่คลินิกไม่ใหญ่เลยทำได้แค่รับยี่สิบคน”

        “กัวไฮว่ ถ้าพวกเราไปที่คลินิกนาย เงินเดือนเป็นไงบ้าง นายช่วยบอกหน่อยสิ” นักศึกษาปีสามคนหนึ่งพูดเสียงดัง

        “นักศึกษาทุกคนทำงานกับผมจะมีระยะเวลาทดลองงานหนึ่งอาทิตย์ อาทิตย์แรกพวกคุณเลือกคลินิกไม่ คลินิกไม่เองก็เลือกพวกคุณ ถ้าไม่ผ่าน คลินิกไม่จะให้เงินพวกคุณสามพันหยวน แล้วพวกคุณก็ออกไปเองได้เลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+