[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 148 เปิดคลินิกไม่ (13)

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 148 เปิดคลินิกไม่ (13) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “ผอ. คลินิกไม่อยู่หรือเปล่า รบกวนออกมาหน่อย พี่ใหญ่ผมจะไม่ไหวแล้ว” ขณะที่พนักงานกวาดขยะคนนั้นเพิ่งจะออกไปจากคลินิกไม่ ชายสองหญิงหนึ่งก็พยุงชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามา คนที่มาไม่ใช่ใคร แต่เป็นยอดฝีมือเซียนเทียนสี่คนที่ตระกูลซย่าโหวส่งมา

        กัวไฮว่มองทั้งสี่คนพร้อมกับยิ้มเล็ก ๆ ตรงมุมปาก สิ่งที่จะเกิดก็ต้องเกิด วันนี้จัดการพวกแกไปได้คลินิกไม่ของฉันก็จะถือว่าเปิดกิจการได้สักที

        “ต้าจู้ ให้พวกเขาเข้ามา” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ จากนั้นทั้งสี่ก็เดินเข้าไปในโถงใหญ่คลินิก

        “เสี่ยวไฮว่ คนพวกนี้เป็นผู้บำเพ็ญเพียร ระวังหน่อย” เซียวอวิ๋นเทียนพูดเบา ๆ ในขณะที่พวกเขาปรากฏตัวนั่นเอง ผู้อาวุโสที่อยู่ในห้องต่างก็สัมผัสได้ถึงไอแห่งความคุ้นเคยในเวลาเดียวกัน ผู้บำเพ็ญเซียนเทียน อายุยังน้อยแต่อยู่ในเขตแดนเซียนเทียนแล้ว น่าจะเป็นอัจฉริยะที่ตระกูลใดตระกูลหนึ่งเลี้ยงดูเอาไว้

        “พวกเราอยู่ข้างนอกได้ยินมาว่าผอ. คลินิกไม่มีความสามารถด้านการแพทย์สูง ผมไม่ทราบว่าพี่ใหญ่ผมถูกพิษหรือว่าบาดเจ็บภายใน คุณช่วยพี่ใหญ่ผมดูอาการหน่อยเถอะ” ซย่าโหวอู่ชี้ไปที่ซย่าโหวซานเหอพร้อมกับพูดขึ้น

        กัวไฮว่ยิ้มแต่ไม่ปริปากพูดอะไร เขายื่นนิ้วมือขึ้นมาทาบไปบนข้อมือของซย่าโหวซานเหอ จากนั้นก็ใช้วิชาอ่านจิตกับเขา

        “เด็กเวร วันนี้ไม่ว่าใครจะอยู่ที่คลินิกแก แต่ในเมื่อแกทำร้ายหลานชายของฉัน แกก็ต้องตาย ไม่ว่าแกจะเก่งกาจยังไง ถ้าโดนพิษอวิ๋นซางฉีมู่ของฉันไป จะคอยดูว่าแกจะมีชีวิตอยู่ไปยังไง” ความคิดของซย่าโหวซานเหอปรากฎอยู่ในสมองของกัวไฮว่

        “ไม่มีหลักฐานแต่ก็จะมาฆ่าฉัน ถ้าฉันไม่รู้วิชาอ่านจิตนะ ไม่รู้ว่าวันนี้จะตายไปยังไง พิษอวิ๋นซางฉีมู่ หลี่อวิ๋นซางอัจฉริยะจากสำนักถังในสมัยราชวงศ์ถังตอนต้นเป็นคนคิดค้นขึ้นมา ไม่คิดเลยว่าจะมีมาจนถึงปัจจุบัน เสียใจด้วยนะที่ฉันมีความสัมพันธ์อันดีกับหลี่กุ่ย เจ้าสำนักคนที่สองของสำนักถัง พิษนี่ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” กัวไฮว่ลอบคิดในใจ เขาทาบนิ้วไปบนข้อมือของซย่าโหวซานเหอประมาณหนึ่งนาที จากนั้นก็สูดดมบางอย่างที่มีลักษณะไร้สีไร้กลิ่นเข้าไปจากร่างของซย่าโหวซานเหอ นั่นมันพิษอวิ๋นซางฉีมู่นี่ไม่ใช่เหรอ

        ในขณะที่เขาสูดดมพิษอวิ๋นซางฉีมู่เข้าไปนั่นเอง เขาก็ใช้กำลังภายในปิดตายพิษที่อยู่ในเส้นเลือด จากศักยภาพของเขาในตอนนี้แล้ว จะประมาทเลินเล่อไม่ได้ ไม่เช่นนั้นถ้าอยากขับพิษออกมา ถึงจะไม่ตาย ก็ต้องเปลืองแรงเยอะ และฉันก็ไม่ได้มีแรงเยอะพอจะมาเปลืองเล่น

        “ผอ. กัว พี่ใหญ่ผมเป็นไงบ้างครับ ถ้าคุณไม่มีวิธี พวกเราจะได้พาเขาไปที่อื่น” ซย่าโหวเฉิงพูดเบา ๆ พวกเขาตกลงกันไว้แล้วว่าเมื่อวางพิษสำเร็จก็จะรีบออกไปทันที

        “ถ้าคลินิกไม่รักษาไม่ได้ คุณพาเขาไปที่อื่นก็เปล่าประโยชน์” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “ผมรักษาอาการป่วยของพี่ใหญ่คุณให้ได้ แต่กลัวว่าจะรักษากำลังภายในที่พี่ใหญ่คุณฝึกมาตลอดหลายปีนี้ไว้ไม่ได้นะ”

        “ไม่ได้นะ ถ้ารักษากำลังภายในไว้ไม่ได้ พี่ใหญ่ต้องไม่ตกลงแน่ รบกวนผอ. กัวแล้วล่ะ พวกเรากลับกัน” ซย่าโหวเฉิงพูดด้วยเสียงดัง พร้อมกับอุ้มซย่าโหวซานเหอเตรียมจะออกไป

        “พิษอวิ๋นซางฉีมู่ ฉันไม่รู้จักกับพวกมันด้วยซ้ำ ทำไมต้องมาวางยาพิษทำร้ายฉันด้วย” กัวไฮว่พูดเบา ๆ จากนั้นเซียวอวิ๋นเฟยก็ลอยตัวขึ้นมาอยู่ตรงหน้าทั้งสี่คน ขวางทางพวกเขาเอาไว้ หวังเทียนลั่วกับเซี่ยอวี่ขุยเองก็ลุกขึ้นมาล้อมทั้งสี่คนเอาไว้

        “พวกเราไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร พวกเราไม่รักษาแล้ว ปล่อยพวกเราไป” ซย่าโหวอู่พูดด้วยเสียงดัง

        กัวไฮว่ก้าวไปข้างหน้า ทาบนิ้วมือตรงไหล่ของซย่าโหวซานเหอ จากนั้นซย่าโหวซานเหอก็สัมผัสได้ถึงความร้อนตรงไหล่ของตน ความเจ็บปวดราวฉีกขาดหัวใจทำเอาเขาอดร้องตะโกนออกมาไม่ได้ ซย่าโหวซานเหอที่เดิมมีไอแห่งความอิดโรยก็ได้ระเบิดไออันแกร่งกล้าออกมา เซียนเทียนระยะหลัง ที่มีอายุไม่ถึงสี่สิบปี ทำเอาเซียวอวิ๋นเทียนชะงักไป ไอ้คนแกล้งตายนี่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

        “ไอ้หนู พวกเราเป็นคนตระกูลซย่าโหว ซย่าโหวเทียนหลานชายของฉันตายไปแล้ว แกต้องชดใช้ด้วยชีวิต” ซย่าโหวซานเหอพูดเสียงดัง

        “มีคนตายทุกวัน แล้วหลานคุณไม่ได้ตายที่คลินิกผมสักหน่อย ทำไมผมต้องชดใช้ด้วยชีวิตด้วย” กัวไฮว่หรี่ตามองซย่าโหวซานเหอพร้อมกับพูดขึ้น หนานกงหลิงโม่มองกัวไฮว่พร้อมกับยิ้มร้าย ถ้าหากการตายของซย่าโหวเทียนไม่เกี่ยวข้องกับตาบ้านี่จะเกี่ยวข้องกับใครได้อีก

        “แกกำลังยืดเวลา แกกำลังรอให้พิษอวิ๋นซางฉีมู่ทำงาน ใช่ไหมล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “แต่ทำให้แกพิษหวังแล้วล่ะ ฉันเป็นหมอ พิษนั่นใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอก”

        “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครแก้พิษอวิ๋นซางฉีมู่ได้ แกจะไม่เป็นไรได้ไง” ซย่าโหวซานเหอมองกัวไฮว่พร้อมกับพูดขึ้น “แกไม่ต้องมาหลอกฉัน วันนี้ถ้าฉันออกจากคลินิกแกไม่ได้ แกก็ต้องตาย”

        “เหล่าเซียว เหล่าหวัง เหล่าเซี่ย ในเมื่อเขามาหาเรื่องผม งั้นก็ให้ผมจัดการเองเถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “วันนี้หลายคนอยู่ที่นี่ บุญคุณความแค้นของพวกเราเป็นบุญคุณความแค้นระหว่างการบำเพ็ญเพียร ถ้าผมตายไป เป็นเพราะผมรนหาที่เอง และถ้าพวกมันตายไป ก็สาสมกับพวกมัน” กัวไฮว่พูดเบา ๆ พวกเซียวอวิ๋นเทียนรู้ดีว่ากัวไฮว่ไม่ได้อ่อนด้อยในด้านการบำเพ็ญเพียร แต่หนึ่งต่อสี่ เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย

        “พ่อหนุ่ม พวกเขาเก่งไม่เบานะ อย่าประมาทเด็ดขาด ให้พวกเราจัดการเถอะ” เซียวอวิ๋นเทียนมองกัวไฮว่พร้อมกับพูดขึ้น แต่กัวไฮว่ส่ายศีรษะเบา ๆ เซียวอวิ๋นเทียนจึงให้ทั้งสี่คนจากตระกูลซย่าโหวเข้าไปในคลินิก คลินิกที่เดิมมีคนล้อมอยู่เต็ม ไม่นานก็กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า

        “คลินิกไม่รักษาไปเสร็จสิบคนแล้ว วันนี้ก็เปิดกิจการจนถึงแค่นี้ เชิญทุกคนกลับไปเถอะครับ ไม่งั้นถ้าใครโดนลูกหลง คลินิกไม่จะไม่รับผิดชอบ” กัวไฮว่หรี่ตาพร้อมกับพูดขึ้น คนที่เดิมจะอยู่ดูความวุ่นวายเมื่อได้ยินที่กัวไฮว่พูด จากนั้นก็เห็นคนจากหน่วยงานรัฐบาลเมืองอู่เฉิงจากไป ต่างก็รีบออกไปจากคลินิกไม่

        “พี่หลิ่ว พรุ่งนี้พี่มาที่คลินิกหน่อยนะ ในทุก ๆ เดือนคลินิกไม่จะจัดงานประมูลขายยาลูกกลอน ไว้ตอนนั้นก็รบกวนพี่ด้วยนะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ส่วนหลิ่วเยียนเบิกตาโพล่ง ยาลูกกลอนนี่อย่างมาที่สุดคลินิกไม่ประมูลออกไปได้เป็นจำนวนสี่ล้านห้าแสน แต่ถ้าอยู่ในงานประมูล น่าจะได้สักประมาณเกือบสิบล้าน

        “ทุกท่านครับ เชิญ พวกเราไปนั่งด้านหลังกัน เรื่องของเด็ก ๆ ให้เขาไปจัดการกันเองเถอะ” กัวหลิวอี้ยิ้มพลางพาเหล่าผู้สูงอายุเดินไปยังด้านหลัง เขารู้ความสามารถของหลานเขาดี ตอนนี้กัวไฮว่ไม่ใช่เด็กเวรแบบเมื่อก่อนแล้ว เขามั่นใจในหลานของเขา

        “ตระกูลซย่าโหวจากเมืองหลวง พวกเราสำนักหมัดเจ็ดพิการจำได้แล้ว ในเมื่อมาหาเรื่องถึงเมืองอู่เฉิง ก็แสดงว่าไม่ไว้หน้าพวกเรากันเลย ถ้าพ่อหนุ่มมีปัญหาอะไร พวกเราจะไปเยี่ยมเยียนตระกูลซย่าโหวเอง” เซี่ยอวี่ขุยพูดเสียงดัง เขาหันหลังออกจากคลินิกไป เซียวอวิ๋นเทียนกับหวังเทียนลั่วก็พูดอย่างเดียวกัน ทำเอาตระกูลซย่าโหวทั้งสี่คนหน้าถอดสี หากฆ่าเด็กนี่ไปคงมีปัญหาตามมาไม่น้อยทีเดียว

        “หยุดคิดได้แล้ว พวกแกสี่คนมาพร้อมกันเลย ถ้าฆ่าฉันได้ ก็สมน้ำหน้าฉันแล้วกัน” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ในขณะที่ทั้งสี่พุ่งมาทางตนเองนั่นเอง กัวไฮว่ก็สั่นสะท้าน นับตั้งแต่ที่ตนถูกเนรเทศมาแดนมนุษย์ นี่เป็นครั้งแรกที่กัวไฮว่ระเบิดกำลังของตนออกมา เซียนเทียนระยะหลัง เป็นเซียนเทียนระยะหลังเหมือนกันทั้งหมด แต่จะต่างมากเท่าไหร่นั้น เดี๋ยวก็จะได้รู้กันอย่างชัดเจน

        “ครั้งนี้สี่คน ฉันอยากจะรู้นักว่าตระกูลซย่าโหวมียอดฝีมือเซียนเทียนมากน้อยแค่ไหนที่จะทำฉันตายได้” กัวไฮว่มองทั้งสี่คนที่นอนอยู่บนพื้นไม่มีแม้แต่ลมหายใจพร้อมกับพูดขึ้นเบา ๆ

        “เหล่าเซียว พ่อหนุ่มจะไม่เป็นไรใช่ไหม” หวังเทียนลั่วถามขึ้นเบา ๆ

        “ไม่รู้สิ พ่อหนุ่มน่าจะอยู่ในเซียนเทียนระยะหลัง แต่ก็ไม่เคยเห็นพ่อหนุ่มออกแรงจนสุดฝีมือ จะชนะไหมนั้นฉันบอกไม่ได้” เซียวอวิ๋นเทียนพูดเบา ๆ

        “ทุกคนคุยอะไรกันอยู่เหรอครับ เรื่องปกปิดอำพรางศพนี่พวกคุณน่าจะถนัดนะครับ ที่เหลือผมให้พวกคุณจัดการนะ อย่าทำให้นักศึกษาคลินิกไม่ตกใจเอาล่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 148 เปิดคลินิกไม่ (13)

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 148 เปิดคลินิกไม่ (13) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “ผอ. คลินิกไม่อยู่หรือเปล่า รบกวนออกมาหน่อย พี่ใหญ่ผมจะไม่ไหวแล้ว” ขณะที่พนักงานกวาดขยะคนนั้นเพิ่งจะออกไปจากคลินิกไม่ ชายสองหญิงหนึ่งก็พยุงชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามา คนที่มาไม่ใช่ใคร แต่เป็นยอดฝีมือเซียนเทียนสี่คนที่ตระกูลซย่าโหวส่งมา

        กัวไฮว่มองทั้งสี่คนพร้อมกับยิ้มเล็ก ๆ ตรงมุมปาก สิ่งที่จะเกิดก็ต้องเกิด วันนี้จัดการพวกแกไปได้คลินิกไม่ของฉันก็จะถือว่าเปิดกิจการได้สักที

        “ต้าจู้ ให้พวกเขาเข้ามา” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ จากนั้นทั้งสี่ก็เดินเข้าไปในโถงใหญ่คลินิก

        “เสี่ยวไฮว่ คนพวกนี้เป็นผู้บำเพ็ญเพียร ระวังหน่อย” เซียวอวิ๋นเทียนพูดเบา ๆ ในขณะที่พวกเขาปรากฏตัวนั่นเอง ผู้อาวุโสที่อยู่ในห้องต่างก็สัมผัสได้ถึงไอแห่งความคุ้นเคยในเวลาเดียวกัน ผู้บำเพ็ญเซียนเทียน อายุยังน้อยแต่อยู่ในเขตแดนเซียนเทียนแล้ว น่าจะเป็นอัจฉริยะที่ตระกูลใดตระกูลหนึ่งเลี้ยงดูเอาไว้

        “พวกเราอยู่ข้างนอกได้ยินมาว่าผอ. คลินิกไม่มีความสามารถด้านการแพทย์สูง ผมไม่ทราบว่าพี่ใหญ่ผมถูกพิษหรือว่าบาดเจ็บภายใน คุณช่วยพี่ใหญ่ผมดูอาการหน่อยเถอะ” ซย่าโหวอู่ชี้ไปที่ซย่าโหวซานเหอพร้อมกับพูดขึ้น

        กัวไฮว่ยิ้มแต่ไม่ปริปากพูดอะไร เขายื่นนิ้วมือขึ้นมาทาบไปบนข้อมือของซย่าโหวซานเหอ จากนั้นก็ใช้วิชาอ่านจิตกับเขา

        “เด็กเวร วันนี้ไม่ว่าใครจะอยู่ที่คลินิกแก แต่ในเมื่อแกทำร้ายหลานชายของฉัน แกก็ต้องตาย ไม่ว่าแกจะเก่งกาจยังไง ถ้าโดนพิษอวิ๋นซางฉีมู่ของฉันไป จะคอยดูว่าแกจะมีชีวิตอยู่ไปยังไง” ความคิดของซย่าโหวซานเหอปรากฎอยู่ในสมองของกัวไฮว่

        “ไม่มีหลักฐานแต่ก็จะมาฆ่าฉัน ถ้าฉันไม่รู้วิชาอ่านจิตนะ ไม่รู้ว่าวันนี้จะตายไปยังไง พิษอวิ๋นซางฉีมู่ หลี่อวิ๋นซางอัจฉริยะจากสำนักถังในสมัยราชวงศ์ถังตอนต้นเป็นคนคิดค้นขึ้นมา ไม่คิดเลยว่าจะมีมาจนถึงปัจจุบัน เสียใจด้วยนะที่ฉันมีความสัมพันธ์อันดีกับหลี่กุ่ย เจ้าสำนักคนที่สองของสำนักถัง พิษนี่ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” กัวไฮว่ลอบคิดในใจ เขาทาบนิ้วไปบนข้อมือของซย่าโหวซานเหอประมาณหนึ่งนาที จากนั้นก็สูดดมบางอย่างที่มีลักษณะไร้สีไร้กลิ่นเข้าไปจากร่างของซย่าโหวซานเหอ นั่นมันพิษอวิ๋นซางฉีมู่นี่ไม่ใช่เหรอ

        ในขณะที่เขาสูดดมพิษอวิ๋นซางฉีมู่เข้าไปนั่นเอง เขาก็ใช้กำลังภายในปิดตายพิษที่อยู่ในเส้นเลือด จากศักยภาพของเขาในตอนนี้แล้ว จะประมาทเลินเล่อไม่ได้ ไม่เช่นนั้นถ้าอยากขับพิษออกมา ถึงจะไม่ตาย ก็ต้องเปลืองแรงเยอะ และฉันก็ไม่ได้มีแรงเยอะพอจะมาเปลืองเล่น

        “ผอ. กัว พี่ใหญ่ผมเป็นไงบ้างครับ ถ้าคุณไม่มีวิธี พวกเราจะได้พาเขาไปที่อื่น” ซย่าโหวเฉิงพูดเบา ๆ พวกเขาตกลงกันไว้แล้วว่าเมื่อวางพิษสำเร็จก็จะรีบออกไปทันที

        “ถ้าคลินิกไม่รักษาไม่ได้ คุณพาเขาไปที่อื่นก็เปล่าประโยชน์” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “ผมรักษาอาการป่วยของพี่ใหญ่คุณให้ได้ แต่กลัวว่าจะรักษากำลังภายในที่พี่ใหญ่คุณฝึกมาตลอดหลายปีนี้ไว้ไม่ได้นะ”

        “ไม่ได้นะ ถ้ารักษากำลังภายในไว้ไม่ได้ พี่ใหญ่ต้องไม่ตกลงแน่ รบกวนผอ. กัวแล้วล่ะ พวกเรากลับกัน” ซย่าโหวเฉิงพูดด้วยเสียงดัง พร้อมกับอุ้มซย่าโหวซานเหอเตรียมจะออกไป

        “พิษอวิ๋นซางฉีมู่ ฉันไม่รู้จักกับพวกมันด้วยซ้ำ ทำไมต้องมาวางยาพิษทำร้ายฉันด้วย” กัวไฮว่พูดเบา ๆ จากนั้นเซียวอวิ๋นเฟยก็ลอยตัวขึ้นมาอยู่ตรงหน้าทั้งสี่คน ขวางทางพวกเขาเอาไว้ หวังเทียนลั่วกับเซี่ยอวี่ขุยเองก็ลุกขึ้นมาล้อมทั้งสี่คนเอาไว้

        “พวกเราไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร พวกเราไม่รักษาแล้ว ปล่อยพวกเราไป” ซย่าโหวอู่พูดด้วยเสียงดัง

        กัวไฮว่ก้าวไปข้างหน้า ทาบนิ้วมือตรงไหล่ของซย่าโหวซานเหอ จากนั้นซย่าโหวซานเหอก็สัมผัสได้ถึงความร้อนตรงไหล่ของตน ความเจ็บปวดราวฉีกขาดหัวใจทำเอาเขาอดร้องตะโกนออกมาไม่ได้ ซย่าโหวซานเหอที่เดิมมีไอแห่งความอิดโรยก็ได้ระเบิดไออันแกร่งกล้าออกมา เซียนเทียนระยะหลัง ที่มีอายุไม่ถึงสี่สิบปี ทำเอาเซียวอวิ๋นเทียนชะงักไป ไอ้คนแกล้งตายนี่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

        “ไอ้หนู พวกเราเป็นคนตระกูลซย่าโหว ซย่าโหวเทียนหลานชายของฉันตายไปแล้ว แกต้องชดใช้ด้วยชีวิต” ซย่าโหวซานเหอพูดเสียงดัง

        “มีคนตายทุกวัน แล้วหลานคุณไม่ได้ตายที่คลินิกผมสักหน่อย ทำไมผมต้องชดใช้ด้วยชีวิตด้วย” กัวไฮว่หรี่ตามองซย่าโหวซานเหอพร้อมกับพูดขึ้น หนานกงหลิงโม่มองกัวไฮว่พร้อมกับยิ้มร้าย ถ้าหากการตายของซย่าโหวเทียนไม่เกี่ยวข้องกับตาบ้านี่จะเกี่ยวข้องกับใครได้อีก

        “แกกำลังยืดเวลา แกกำลังรอให้พิษอวิ๋นซางฉีมู่ทำงาน ใช่ไหมล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “แต่ทำให้แกพิษหวังแล้วล่ะ ฉันเป็นหมอ พิษนั่นใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอก”

        “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครแก้พิษอวิ๋นซางฉีมู่ได้ แกจะไม่เป็นไรได้ไง” ซย่าโหวซานเหอมองกัวไฮว่พร้อมกับพูดขึ้น “แกไม่ต้องมาหลอกฉัน วันนี้ถ้าฉันออกจากคลินิกแกไม่ได้ แกก็ต้องตาย”

        “เหล่าเซียว เหล่าหวัง เหล่าเซี่ย ในเมื่อเขามาหาเรื่องผม งั้นก็ให้ผมจัดการเองเถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “วันนี้หลายคนอยู่ที่นี่ บุญคุณความแค้นของพวกเราเป็นบุญคุณความแค้นระหว่างการบำเพ็ญเพียร ถ้าผมตายไป เป็นเพราะผมรนหาที่เอง และถ้าพวกมันตายไป ก็สาสมกับพวกมัน” กัวไฮว่พูดเบา ๆ พวกเซียวอวิ๋นเทียนรู้ดีว่ากัวไฮว่ไม่ได้อ่อนด้อยในด้านการบำเพ็ญเพียร แต่หนึ่งต่อสี่ เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย

        “พ่อหนุ่ม พวกเขาเก่งไม่เบานะ อย่าประมาทเด็ดขาด ให้พวกเราจัดการเถอะ” เซียวอวิ๋นเทียนมองกัวไฮว่พร้อมกับพูดขึ้น แต่กัวไฮว่ส่ายศีรษะเบา ๆ เซียวอวิ๋นเทียนจึงให้ทั้งสี่คนจากตระกูลซย่าโหวเข้าไปในคลินิก คลินิกที่เดิมมีคนล้อมอยู่เต็ม ไม่นานก็กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า

        “คลินิกไม่รักษาไปเสร็จสิบคนแล้ว วันนี้ก็เปิดกิจการจนถึงแค่นี้ เชิญทุกคนกลับไปเถอะครับ ไม่งั้นถ้าใครโดนลูกหลง คลินิกไม่จะไม่รับผิดชอบ” กัวไฮว่หรี่ตาพร้อมกับพูดขึ้น คนที่เดิมจะอยู่ดูความวุ่นวายเมื่อได้ยินที่กัวไฮว่พูด จากนั้นก็เห็นคนจากหน่วยงานรัฐบาลเมืองอู่เฉิงจากไป ต่างก็รีบออกไปจากคลินิกไม่

        “พี่หลิ่ว พรุ่งนี้พี่มาที่คลินิกหน่อยนะ ในทุก ๆ เดือนคลินิกไม่จะจัดงานประมูลขายยาลูกกลอน ไว้ตอนนั้นก็รบกวนพี่ด้วยนะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ส่วนหลิ่วเยียนเบิกตาโพล่ง ยาลูกกลอนนี่อย่างมาที่สุดคลินิกไม่ประมูลออกไปได้เป็นจำนวนสี่ล้านห้าแสน แต่ถ้าอยู่ในงานประมูล น่าจะได้สักประมาณเกือบสิบล้าน

        “ทุกท่านครับ เชิญ พวกเราไปนั่งด้านหลังกัน เรื่องของเด็ก ๆ ให้เขาไปจัดการกันเองเถอะ” กัวหลิวอี้ยิ้มพลางพาเหล่าผู้สูงอายุเดินไปยังด้านหลัง เขารู้ความสามารถของหลานเขาดี ตอนนี้กัวไฮว่ไม่ใช่เด็กเวรแบบเมื่อก่อนแล้ว เขามั่นใจในหลานของเขา

        “ตระกูลซย่าโหวจากเมืองหลวง พวกเราสำนักหมัดเจ็ดพิการจำได้แล้ว ในเมื่อมาหาเรื่องถึงเมืองอู่เฉิง ก็แสดงว่าไม่ไว้หน้าพวกเรากันเลย ถ้าพ่อหนุ่มมีปัญหาอะไร พวกเราจะไปเยี่ยมเยียนตระกูลซย่าโหวเอง” เซี่ยอวี่ขุยพูดเสียงดัง เขาหันหลังออกจากคลินิกไป เซียวอวิ๋นเทียนกับหวังเทียนลั่วก็พูดอย่างเดียวกัน ทำเอาตระกูลซย่าโหวทั้งสี่คนหน้าถอดสี หากฆ่าเด็กนี่ไปคงมีปัญหาตามมาไม่น้อยทีเดียว

        “หยุดคิดได้แล้ว พวกแกสี่คนมาพร้อมกันเลย ถ้าฆ่าฉันได้ ก็สมน้ำหน้าฉันแล้วกัน” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ในขณะที่ทั้งสี่พุ่งมาทางตนเองนั่นเอง กัวไฮว่ก็สั่นสะท้าน นับตั้งแต่ที่ตนถูกเนรเทศมาแดนมนุษย์ นี่เป็นครั้งแรกที่กัวไฮว่ระเบิดกำลังของตนออกมา เซียนเทียนระยะหลัง เป็นเซียนเทียนระยะหลังเหมือนกันทั้งหมด แต่จะต่างมากเท่าไหร่นั้น เดี๋ยวก็จะได้รู้กันอย่างชัดเจน

        “ครั้งนี้สี่คน ฉันอยากจะรู้นักว่าตระกูลซย่าโหวมียอดฝีมือเซียนเทียนมากน้อยแค่ไหนที่จะทำฉันตายได้” กัวไฮว่มองทั้งสี่คนที่นอนอยู่บนพื้นไม่มีแม้แต่ลมหายใจพร้อมกับพูดขึ้นเบา ๆ

        “เหล่าเซียว พ่อหนุ่มจะไม่เป็นไรใช่ไหม” หวังเทียนลั่วถามขึ้นเบา ๆ

        “ไม่รู้สิ พ่อหนุ่มน่าจะอยู่ในเซียนเทียนระยะหลัง แต่ก็ไม่เคยเห็นพ่อหนุ่มออกแรงจนสุดฝีมือ จะชนะไหมนั้นฉันบอกไม่ได้” เซียวอวิ๋นเทียนพูดเบา ๆ

        “ทุกคนคุยอะไรกันอยู่เหรอครับ เรื่องปกปิดอำพรางศพนี่พวกคุณน่าจะถนัดนะครับ ที่เหลือผมให้พวกคุณจัดการนะ อย่าทำให้นักศึกษาคลินิกไม่ตกใจเอาล่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+