[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 35 ผู้ไม่ประสงค์ดี

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 35 ผู้ไม่ประสงค์ดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “พ่อหนุ่มหมายความว่าไง”ปรมาจารย์อวี้เฟิงชะงักไปแล้วเอ่ยขึ้นเสียงค่อย

        “ก็ไม่มีอะไรก็แค่นึกถึงเรื่องน่าสนใจนิดหน่อย”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ท่านอาจารย์ตอนที่ซุนหงอคงในไซอิ๋วผ่านแม่น้ำทงเทียนเขาได้ผ่านหมู่บ้านเฉิน ช่วยคนชายหนึ่งหญิงหนึ่งเอาไว้เหมือนว่าจะแซ่เฉินกันหมด จากพิกัดในตอนนี้อำเภออวี้ซู่มณฑลชิงไห่ก็คือหมู่บ้านเฉินในตอนนั้นใช่ไหม”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มพูดถูกแล้ว จากประวัติครอบครัวตระกูลเฉินบรรพบุรุษของเราชื่อว่าเฉินชิ่งหยวนก็คือเด็กชายที่ถูกท่านเทพซุนช่วยชีวิตไว้ในตำนานนั่นแหละ”

        “เหอะๆ บังเอิญขนาดนั้นเชียว”กัวไฮว่เบิกตาโพล่งปรมาจารย์ที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ก็คือลูกหลานของตนจริงๆด้วย ฮ่าๆ อวี้เอ๋อร์ข้าควรจะขอบใจที่เจ้าเนรเทศข้ามาแดนมนุษย์ดีไหมเนี่ย

        “นายท่านคุยอะไรกันคะ ยิ้มแย้มกันเชียว”อู๋มาถือจานที่ร้อนปุดๆเข้ามาในห้องแล้วก็วางจานลงบนโต๊ะ

        “อู๋มาหนูช่วยนะคะ”มู่หรงเวยเวยพูดพลางเดินเข้าไปในครัวกับอู๋มา

        “อะแฮ่มๆ ท่านอาจารย์ผมเรียกคุณว่าท่านอาจารย์ดีกว่าให้เรียกเหล่าเฉินผมพูดไม่ออก”กัวไฮว่กระแอมไอสองสามที“ต่อไปมีเรื่องอะไรคุณติดต่อปู่ผมถามหาผมได้เลยนะ”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มตลกแล้วล่ะ ฉันจะมีเรื่องอะไรได้วันสิ้นสุดใกล้จะมาถึงเต็มทนแล้วได้รับยายหนูเวยเวยเป็นศิษย์ก็พอใจ พอใจมากแล้ว”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆเขาจะไปเข้าใจความหมายของกัวไฮว่ได้อย่างไรกัน เจ้าเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลเฉินหากมีเรื่องอันใดบรรพบุรุษย่อมลุกขึ้นมาช่วยเจ้าออกโรงแน่

        “เหอะๆ ต่อไปคุณจะเข้าใจเอง กินข้าว กินข้าว วุ่นวายกันมาทั้งเช้าหิวจริงๆ”กัวไฮว่นั่งลงไปบนม้านั่งเตี้ยโดยไม่ได้สนใจปรมาจารย์อวี้เฟิง

        “พ่อหนุ่ม เหอะๆ กับข้าวมาแล้วก็ควรจะเอาเหล้าออกมาด้วยใช่ไหมล่ะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เดี๋ยวหนูไปเอาแก้วมาให้”มู่หรงเวยเวยวิ่งเข้าไปในห้องครัวจากนั้นก็วางแก้วที่สวยงามประณีตสี่ใบไว้บนโต๊ะ

        “ยายหนูไปเอาแก้วเหล้าอะไรมาให้ฉันเนี่ย ฉันไม่กินเหล้า”อู๋มาพูดยิ้มๆ

        “อู๋มาถ้าเธอไม่กินก็เอามาให้ฉัน ฉันกินเอง”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เมื่อวานเพิ่งกินไป วันนี้คุณกินไม่ได้แล้ว”อู๋มาพูดพลางเตรียมจะเอาแก้วของปรมาจารย์อวี้เฟิงไป

        “เดี๋ยวก่อน หลังจากนี้ต่อไปฉันจะกินแค่เดือนละครั้ง อู๋มาอย่าแย่งแก้วไปเลย ฉันพูดจริงทำจริงนะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงมือหนึ่งกอดแก้วเอาไว้พร้อมกับพูดขึ้นเสียงดังทำเอากัวไฮว่กับมู่หรงเวยเวยยิ้มขึ้น

        “เวยเวยรู้ไหมว่าทำไมอักษรของท่านอาจารย์ถึงดูแกร่งกว่าของตาบ้าเซวียน เพราะว่าพวกเขาเกิดมาพร้อมกันน่ะสิ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “ตาบ้าเซวียนไม่รู้เป็นบ้าอะไร ออกไปจากโรงเรียนฟู่จงแล้ว พวกเธอเจอเขาเมื่อไหร่เหรอ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงถามยิ้มๆ

        “เมื่อวานค่ะ พวกเรากินข้าวที่ร้านเสร็จแล้วเขาก็เพิ่งออกไป”มู่หรงเวยเวยพูดเบาๆ“เขาฟังคำของพี่ไฮว่แล้วก็เตรียมตัวออกไปเลย”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มฉันมองไม่ออกจริงๆเลยว่าเธอทำได้กี่อย่างกันแน่ ฉันมีเวลาไม่เยอะแล้วไม่ขออย่างอื่นขอแค่เธอกับเวยเวยเดือนหนึ่งหาเวลามาเจอฉันสักครั้งได้ฉันก็พอใจแล้ว”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เสี่ยวไฮว่วันหลังจะมาอีกได้นะไม่ต้องเอาเหล้ามาก็ได้ ถึงตอนนั้นฉันจะทำของอร่อยๆให้พวกเธอเอง”อู๋มาพูดยิ้มๆ

        “แค่กๆ อู๋มาเดือนหนึ่งแค่ครั้งเดียวเอง ฉันแก่ขนาดนี้แล้วยอมเรื่องนี้ให้ฉันหน่อยไม่ได้เหรอ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดเสียงดังเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นจากกัวไฮว่และมู่หรงเวยเวยได้อีกครั้ง

        “อู๋มาชิมสักหน่อยนะคะ ถ้าไม่อร่อยก็เอามาให้หนู”มู่หรงเวยเวยพูดพลางย้ายแก้วเหล้าไปยังเบื้องหน้าของอู๋มา

        “ดื่มก็ดื่ม ตอนสาวๆยังไม่เคยกินเหล้าเลย”อู๋มาก้มหน้าเหล้าหนึ่งแก้วลงเข้าในท้อง จากนั้นทุกคนก็คึกครื้นกันใหญ่

        “เสี่ยวไฮว่เร็วเข้าเทให้ฉันให้เต็มเลย ต่อไปเธอก็อยู่ที่นี่เลยซะสิ ฉันจะทำของอร่อยให้เธอกินทุกวันเลย เทเหล้าให้เต็มเลย”อู๋มาถือแก้วเอาไว้พร้อมพูดด้วยเสียงดัง

        “ฮ่าๆ อู๋มาเธอรู้หรือเปล่าว่าเหล้าที่เธอกินเมื่อกี้ราคาไหร่”ในขณะที่ปรมาจารย์อวี้เฟิงกำลังจะพูดขึ้นนั้นก็ถูกกัวไฮว่ขัดเอาไว้“ท่านอาจารย์ตอนกินเหล้าอย่าพูดเรื่องอื่นสิ วันนี้มีความสุขเราปู่หลานชนแก้วกัน”กัวไฮว่ดื่มจนหมดในอึกเดียวปู่หลานคำว่าปู่นี่ไม่ได้หมายถึงแกนะกัวไฮว่แอบคิดเงียบๆในใจ

        “อาจารย์ทำไมวันนี้ครื้นเครงจังเลย ผมมาช้าไปหรือเปล่า”คนยังมาไม่ถึงแต่เสียงมาถึงก่อนแล้วเสียงชายวัยกลางคนผู้หนึ่งดังลอยมาจากประตู กัวไฮว่มองมู่หรงเวยเวยแวบหนึ่งท่าทางไม่สบายใจก็ปรากฏอยู่บนหน้าของมู่หรงเวยเวย

        “อี้ฟูมาแล้วเหรอ”อู๋มาก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ“เราเพิ่งกินข้าวกันพอดีเลย เดี๋ยวฉันไปเอาถ้วยกับตะเกียบมาให้เธอนะ”อู๋มาพูดแล้วเดินไปยังห้องครัว

        “คุณลุงข่ง”เมื่อชายวัยกลางคนเดินมายังห้องรับแขกมู่หรงเวยเวยก็ลุกพรวดขึ้นมาทันที เธอมองชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงค่อย

        “เวยเวยก็อยู่เหรอนั่งลงนั่งลงสิ”ข่งอี้ฟูชายอายุเกินสี่สิบมาหน่อยผู้หนึ่ง เป็นหัวหน้าสมาคมการเขียนพู่กันแห่งเมืองอู่เฉิง เป็นศิษย์ของปรมาจารย์อวี้เฟิง เป็นลุงแท้ๆของข่งเสวียน

        “พ่อหนุ่มนี่ข่งอี้ฟูเป็นศิษย์ของฉัน ตอนนี้เป็นหัวหน้าสมาคมการเขียนพู่กัน ถ้ามีเวลาก็ไปตีสนิทกับเขาได้นะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงชี้ไปที่กัวไฮว่แล้วพูดขึ้นว่า“นี่กัวไฮว่ นักเรียนโรงเรียนฟู่จงเพื่อนของเวยเวยรู้จักกันไว้ซะสิ”

        “เพื่อนของเวยเวยเหรอเหอะๆ ไม่เลวเลย”ข่งอี้ฟูมองกัวไฮว่แล้วพูดยิ้มๆ

        “มู่หรงเวยเวย มู่หรงเวยเวยตัวดี หลานชายฉันตายอยู่ใต้ล้อรถเพื่อช่วยเธอเอาไว้นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่เดือนเองเธอก็หามาใหม่แล้ว ดี ดีมากก็เหมือนกับแม่เธอนั่นแหละอ่อยผู้ชายไปทั่ว”ความคิดของข่งอี้ฟูปรากฏขึ้นในสมองของกัวไฮว่โดยทันที

        “อี้ฟูรีบกินตอนยังร้อนๆเถอะ เธอจะมาก็ไม่ยอมบอกกันสักคำ”อู๋มาพูดขึ้นอย่างตำหนิ นี่ก็ชัดเจนแล้วว่าอู๋มามีความประทับใจที่ดีมากๆกับชายวัยกลางคนผู้นี้

        “กลัวว่าอู๋มาจะวุ่นวายน่ะสิครับ แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอกินข้าวกัน แต่ว่าอู๋มาก็ลำเอียงไปนะกับข้าวเยอะกว่าตอนที่ผมมาอีก”ข่งอี้ฟูพูดอย่างขำขัน

        นับตั้งแต่ตอนที่อี้ฟูปรากฏตัวจิตใจมู่หรงเวยเวยก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ว่าอย่างไรชายที่อยู่ตรงหน้าก็คือลุงแท้ๆของแฟนเก่าตัวเอง ตอนนี้ตัวเธอเองคบอยู่กับผู้ชายอีกคน แม้ข่งอี้ฟูจะไม่ได้พูดอะไรแต่ความกดดันอันโหดเหี้ยมก็กดเข้าไปที่จิตใจของเธอ

        “เสี่ยวไฮว่ เมื่อกี้อาจารย์บอกว่าเธอเขียนอักษรได้ดีมาก เล่นหมากล้อมก็ดี เดี๋ยวเราไปเล่นกันสักสองตาดีไหม”ข่งอี้ฟูพูดยิ้มๆ“พูดแบบไม่ปิดบังเธอเลยนะฉันเล่นหมากล้อมกับเด็กอายุพอๆกับเธอแล้วเคยแพ้ไปสองคน คนหนึ่งคือยายหนูเวยเวย อีกคนก็คือข่งเสวียนหลานชายฉันที่ตายไปแล้ว เวยเวยน่าจะเคยบอกเธอนะ”

        เมื่อข่งอี้ฟูพูดจบช้อนที่อยู่ในมือมู่หรงเวยเวยก็ตกแตกเสียงดังเพล้ง จากนั้นกัวไฮว่ก็หรี่ตามองข่งอี้ฟูแวบหนึ่ง

        “งั้นกลัวว่าวันนี้ในกลุ่มคนที่คุณแพ้จะเพิ่มมาอีกคนนะครับ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆแต่ใต้โต๊ะเขายื่นไปกุมมือข้างหนึ่งของมู่หรงเวยเวยเอาไว้แน่น มู่หรงเวยเวยที่เดิมจิตใจว้าวุ่นอยู่นั้นก็พลันสงบลง

         

 

                                                                    ————————

                                อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                                     https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 35 ผู้ไม่ประสงค์ดี

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 35 ผู้ไม่ประสงค์ดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “พ่อหนุ่มหมายความว่าไง”ปรมาจารย์อวี้เฟิงชะงักไปแล้วเอ่ยขึ้นเสียงค่อย

        “ก็ไม่มีอะไรก็แค่นึกถึงเรื่องน่าสนใจนิดหน่อย”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ท่านอาจารย์ตอนที่ซุนหงอคงในไซอิ๋วผ่านแม่น้ำทงเทียนเขาได้ผ่านหมู่บ้านเฉิน ช่วยคนชายหนึ่งหญิงหนึ่งเอาไว้เหมือนว่าจะแซ่เฉินกันหมด จากพิกัดในตอนนี้อำเภออวี้ซู่มณฑลชิงไห่ก็คือหมู่บ้านเฉินในตอนนั้นใช่ไหม”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มพูดถูกแล้ว จากประวัติครอบครัวตระกูลเฉินบรรพบุรุษของเราชื่อว่าเฉินชิ่งหยวนก็คือเด็กชายที่ถูกท่านเทพซุนช่วยชีวิตไว้ในตำนานนั่นแหละ”

        “เหอะๆ บังเอิญขนาดนั้นเชียว”กัวไฮว่เบิกตาโพล่งปรมาจารย์ที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ก็คือลูกหลานของตนจริงๆด้วย ฮ่าๆ อวี้เอ๋อร์ข้าควรจะขอบใจที่เจ้าเนรเทศข้ามาแดนมนุษย์ดีไหมเนี่ย

        “นายท่านคุยอะไรกันคะ ยิ้มแย้มกันเชียว”อู๋มาถือจานที่ร้อนปุดๆเข้ามาในห้องแล้วก็วางจานลงบนโต๊ะ

        “อู๋มาหนูช่วยนะคะ”มู่หรงเวยเวยพูดพลางเดินเข้าไปในครัวกับอู๋มา

        “อะแฮ่มๆ ท่านอาจารย์ผมเรียกคุณว่าท่านอาจารย์ดีกว่าให้เรียกเหล่าเฉินผมพูดไม่ออก”กัวไฮว่กระแอมไอสองสามที“ต่อไปมีเรื่องอะไรคุณติดต่อปู่ผมถามหาผมได้เลยนะ”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มตลกแล้วล่ะ ฉันจะมีเรื่องอะไรได้วันสิ้นสุดใกล้จะมาถึงเต็มทนแล้วได้รับยายหนูเวยเวยเป็นศิษย์ก็พอใจ พอใจมากแล้ว”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆเขาจะไปเข้าใจความหมายของกัวไฮว่ได้อย่างไรกัน เจ้าเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลเฉินหากมีเรื่องอันใดบรรพบุรุษย่อมลุกขึ้นมาช่วยเจ้าออกโรงแน่

        “เหอะๆ ต่อไปคุณจะเข้าใจเอง กินข้าว กินข้าว วุ่นวายกันมาทั้งเช้าหิวจริงๆ”กัวไฮว่นั่งลงไปบนม้านั่งเตี้ยโดยไม่ได้สนใจปรมาจารย์อวี้เฟิง

        “พ่อหนุ่ม เหอะๆ กับข้าวมาแล้วก็ควรจะเอาเหล้าออกมาด้วยใช่ไหมล่ะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เดี๋ยวหนูไปเอาแก้วมาให้”มู่หรงเวยเวยวิ่งเข้าไปในห้องครัวจากนั้นก็วางแก้วที่สวยงามประณีตสี่ใบไว้บนโต๊ะ

        “ยายหนูไปเอาแก้วเหล้าอะไรมาให้ฉันเนี่ย ฉันไม่กินเหล้า”อู๋มาพูดยิ้มๆ

        “อู๋มาถ้าเธอไม่กินก็เอามาให้ฉัน ฉันกินเอง”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เมื่อวานเพิ่งกินไป วันนี้คุณกินไม่ได้แล้ว”อู๋มาพูดพลางเตรียมจะเอาแก้วของปรมาจารย์อวี้เฟิงไป

        “เดี๋ยวก่อน หลังจากนี้ต่อไปฉันจะกินแค่เดือนละครั้ง อู๋มาอย่าแย่งแก้วไปเลย ฉันพูดจริงทำจริงนะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงมือหนึ่งกอดแก้วเอาไว้พร้อมกับพูดขึ้นเสียงดังทำเอากัวไฮว่กับมู่หรงเวยเวยยิ้มขึ้น

        “เวยเวยรู้ไหมว่าทำไมอักษรของท่านอาจารย์ถึงดูแกร่งกว่าของตาบ้าเซวียน เพราะว่าพวกเขาเกิดมาพร้อมกันน่ะสิ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “ตาบ้าเซวียนไม่รู้เป็นบ้าอะไร ออกไปจากโรงเรียนฟู่จงแล้ว พวกเธอเจอเขาเมื่อไหร่เหรอ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงถามยิ้มๆ

        “เมื่อวานค่ะ พวกเรากินข้าวที่ร้านเสร็จแล้วเขาก็เพิ่งออกไป”มู่หรงเวยเวยพูดเบาๆ“เขาฟังคำของพี่ไฮว่แล้วก็เตรียมตัวออกไปเลย”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มฉันมองไม่ออกจริงๆเลยว่าเธอทำได้กี่อย่างกันแน่ ฉันมีเวลาไม่เยอะแล้วไม่ขออย่างอื่นขอแค่เธอกับเวยเวยเดือนหนึ่งหาเวลามาเจอฉันสักครั้งได้ฉันก็พอใจแล้ว”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เสี่ยวไฮว่วันหลังจะมาอีกได้นะไม่ต้องเอาเหล้ามาก็ได้ ถึงตอนนั้นฉันจะทำของอร่อยๆให้พวกเธอเอง”อู๋มาพูดยิ้มๆ

        “แค่กๆ อู๋มาเดือนหนึ่งแค่ครั้งเดียวเอง ฉันแก่ขนาดนี้แล้วยอมเรื่องนี้ให้ฉันหน่อยไม่ได้เหรอ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดเสียงดังเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นจากกัวไฮว่และมู่หรงเวยเวยได้อีกครั้ง

        “อู๋มาชิมสักหน่อยนะคะ ถ้าไม่อร่อยก็เอามาให้หนู”มู่หรงเวยเวยพูดพลางย้ายแก้วเหล้าไปยังเบื้องหน้าของอู๋มา

        “ดื่มก็ดื่ม ตอนสาวๆยังไม่เคยกินเหล้าเลย”อู๋มาก้มหน้าเหล้าหนึ่งแก้วลงเข้าในท้อง จากนั้นทุกคนก็คึกครื้นกันใหญ่

        “เสี่ยวไฮว่เร็วเข้าเทให้ฉันให้เต็มเลย ต่อไปเธอก็อยู่ที่นี่เลยซะสิ ฉันจะทำของอร่อยให้เธอกินทุกวันเลย เทเหล้าให้เต็มเลย”อู๋มาถือแก้วเอาไว้พร้อมพูดด้วยเสียงดัง

        “ฮ่าๆ อู๋มาเธอรู้หรือเปล่าว่าเหล้าที่เธอกินเมื่อกี้ราคาไหร่”ในขณะที่ปรมาจารย์อวี้เฟิงกำลังจะพูดขึ้นนั้นก็ถูกกัวไฮว่ขัดเอาไว้“ท่านอาจารย์ตอนกินเหล้าอย่าพูดเรื่องอื่นสิ วันนี้มีความสุขเราปู่หลานชนแก้วกัน”กัวไฮว่ดื่มจนหมดในอึกเดียวปู่หลานคำว่าปู่นี่ไม่ได้หมายถึงแกนะกัวไฮว่แอบคิดเงียบๆในใจ

        “อาจารย์ทำไมวันนี้ครื้นเครงจังเลย ผมมาช้าไปหรือเปล่า”คนยังมาไม่ถึงแต่เสียงมาถึงก่อนแล้วเสียงชายวัยกลางคนผู้หนึ่งดังลอยมาจากประตู กัวไฮว่มองมู่หรงเวยเวยแวบหนึ่งท่าทางไม่สบายใจก็ปรากฏอยู่บนหน้าของมู่หรงเวยเวย

        “อี้ฟูมาแล้วเหรอ”อู๋มาก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ“เราเพิ่งกินข้าวกันพอดีเลย เดี๋ยวฉันไปเอาถ้วยกับตะเกียบมาให้เธอนะ”อู๋มาพูดแล้วเดินไปยังห้องครัว

        “คุณลุงข่ง”เมื่อชายวัยกลางคนเดินมายังห้องรับแขกมู่หรงเวยเวยก็ลุกพรวดขึ้นมาทันที เธอมองชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงค่อย

        “เวยเวยก็อยู่เหรอนั่งลงนั่งลงสิ”ข่งอี้ฟูชายอายุเกินสี่สิบมาหน่อยผู้หนึ่ง เป็นหัวหน้าสมาคมการเขียนพู่กันแห่งเมืองอู่เฉิง เป็นศิษย์ของปรมาจารย์อวี้เฟิง เป็นลุงแท้ๆของข่งเสวียน

        “พ่อหนุ่มนี่ข่งอี้ฟูเป็นศิษย์ของฉัน ตอนนี้เป็นหัวหน้าสมาคมการเขียนพู่กัน ถ้ามีเวลาก็ไปตีสนิทกับเขาได้นะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงชี้ไปที่กัวไฮว่แล้วพูดขึ้นว่า“นี่กัวไฮว่ นักเรียนโรงเรียนฟู่จงเพื่อนของเวยเวยรู้จักกันไว้ซะสิ”

        “เพื่อนของเวยเวยเหรอเหอะๆ ไม่เลวเลย”ข่งอี้ฟูมองกัวไฮว่แล้วพูดยิ้มๆ

        “มู่หรงเวยเวย มู่หรงเวยเวยตัวดี หลานชายฉันตายอยู่ใต้ล้อรถเพื่อช่วยเธอเอาไว้นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่เดือนเองเธอก็หามาใหม่แล้ว ดี ดีมากก็เหมือนกับแม่เธอนั่นแหละอ่อยผู้ชายไปทั่ว”ความคิดของข่งอี้ฟูปรากฏขึ้นในสมองของกัวไฮว่โดยทันที

        “อี้ฟูรีบกินตอนยังร้อนๆเถอะ เธอจะมาก็ไม่ยอมบอกกันสักคำ”อู๋มาพูดขึ้นอย่างตำหนิ นี่ก็ชัดเจนแล้วว่าอู๋มามีความประทับใจที่ดีมากๆกับชายวัยกลางคนผู้นี้

        “กลัวว่าอู๋มาจะวุ่นวายน่ะสิครับ แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอกินข้าวกัน แต่ว่าอู๋มาก็ลำเอียงไปนะกับข้าวเยอะกว่าตอนที่ผมมาอีก”ข่งอี้ฟูพูดอย่างขำขัน

        นับตั้งแต่ตอนที่อี้ฟูปรากฏตัวจิตใจมู่หรงเวยเวยก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ว่าอย่างไรชายที่อยู่ตรงหน้าก็คือลุงแท้ๆของแฟนเก่าตัวเอง ตอนนี้ตัวเธอเองคบอยู่กับผู้ชายอีกคน แม้ข่งอี้ฟูจะไม่ได้พูดอะไรแต่ความกดดันอันโหดเหี้ยมก็กดเข้าไปที่จิตใจของเธอ

        “เสี่ยวไฮว่ เมื่อกี้อาจารย์บอกว่าเธอเขียนอักษรได้ดีมาก เล่นหมากล้อมก็ดี เดี๋ยวเราไปเล่นกันสักสองตาดีไหม”ข่งอี้ฟูพูดยิ้มๆ“พูดแบบไม่ปิดบังเธอเลยนะฉันเล่นหมากล้อมกับเด็กอายุพอๆกับเธอแล้วเคยแพ้ไปสองคน คนหนึ่งคือยายหนูเวยเวย อีกคนก็คือข่งเสวียนหลานชายฉันที่ตายไปแล้ว เวยเวยน่าจะเคยบอกเธอนะ”

        เมื่อข่งอี้ฟูพูดจบช้อนที่อยู่ในมือมู่หรงเวยเวยก็ตกแตกเสียงดังเพล้ง จากนั้นกัวไฮว่ก็หรี่ตามองข่งอี้ฟูแวบหนึ่ง

        “งั้นกลัวว่าวันนี้ในกลุ่มคนที่คุณแพ้จะเพิ่มมาอีกคนนะครับ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆแต่ใต้โต๊ะเขายื่นไปกุมมือข้างหนึ่งของมู่หรงเวยเวยเอาไว้แน่น มู่หรงเวยเวยที่เดิมจิตใจว้าวุ่นอยู่นั้นก็พลันสงบลง

         

 

                                                                    ————————

                                อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                                     https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 35 ผู้ไม่ประสงค์ดี

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 35 ผู้ไม่ประสงค์ดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “พ่อหนุ่มหมายความว่าไง”ปรมาจารย์อวี้เฟิงชะงักไปแล้วเอ่ยขึ้นเสียงค่อย

        “ก็ไม่มีอะไรก็แค่นึกถึงเรื่องน่าสนใจนิดหน่อย”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ท่านอาจารย์ตอนที่ซุนหงอคงในไซอิ๋วผ่านแม่น้ำทงเทียนเขาได้ผ่านหมู่บ้านเฉิน ช่วยคนชายหนึ่งหญิงหนึ่งเอาไว้เหมือนว่าจะแซ่เฉินกันหมด จากพิกัดในตอนนี้อำเภออวี้ซู่มณฑลชิงไห่ก็คือหมู่บ้านเฉินในตอนนั้นใช่ไหม”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มพูดถูกแล้ว จากประวัติครอบครัวตระกูลเฉินบรรพบุรุษของเราชื่อว่าเฉินชิ่งหยวนก็คือเด็กชายที่ถูกท่านเทพซุนช่วยชีวิตไว้ในตำนานนั่นแหละ”

        “เหอะๆ บังเอิญขนาดนั้นเชียว”กัวไฮว่เบิกตาโพล่งปรมาจารย์ที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ก็คือลูกหลานของตนจริงๆด้วย ฮ่าๆ อวี้เอ๋อร์ข้าควรจะขอบใจที่เจ้าเนรเทศข้ามาแดนมนุษย์ดีไหมเนี่ย

        “นายท่านคุยอะไรกันคะ ยิ้มแย้มกันเชียว”อู๋มาถือจานที่ร้อนปุดๆเข้ามาในห้องแล้วก็วางจานลงบนโต๊ะ

        “อู๋มาหนูช่วยนะคะ”มู่หรงเวยเวยพูดพลางเดินเข้าไปในครัวกับอู๋มา

        “อะแฮ่มๆ ท่านอาจารย์ผมเรียกคุณว่าท่านอาจารย์ดีกว่าให้เรียกเหล่าเฉินผมพูดไม่ออก”กัวไฮว่กระแอมไอสองสามที“ต่อไปมีเรื่องอะไรคุณติดต่อปู่ผมถามหาผมได้เลยนะ”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มตลกแล้วล่ะ ฉันจะมีเรื่องอะไรได้วันสิ้นสุดใกล้จะมาถึงเต็มทนแล้วได้รับยายหนูเวยเวยเป็นศิษย์ก็พอใจ พอใจมากแล้ว”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆเขาจะไปเข้าใจความหมายของกัวไฮว่ได้อย่างไรกัน เจ้าเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลเฉินหากมีเรื่องอันใดบรรพบุรุษย่อมลุกขึ้นมาช่วยเจ้าออกโรงแน่

        “เหอะๆ ต่อไปคุณจะเข้าใจเอง กินข้าว กินข้าว วุ่นวายกันมาทั้งเช้าหิวจริงๆ”กัวไฮว่นั่งลงไปบนม้านั่งเตี้ยโดยไม่ได้สนใจปรมาจารย์อวี้เฟิง

        “พ่อหนุ่ม เหอะๆ กับข้าวมาแล้วก็ควรจะเอาเหล้าออกมาด้วยใช่ไหมล่ะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เดี๋ยวหนูไปเอาแก้วมาให้”มู่หรงเวยเวยวิ่งเข้าไปในห้องครัวจากนั้นก็วางแก้วที่สวยงามประณีตสี่ใบไว้บนโต๊ะ

        “ยายหนูไปเอาแก้วเหล้าอะไรมาให้ฉันเนี่ย ฉันไม่กินเหล้า”อู๋มาพูดยิ้มๆ

        “อู๋มาถ้าเธอไม่กินก็เอามาให้ฉัน ฉันกินเอง”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เมื่อวานเพิ่งกินไป วันนี้คุณกินไม่ได้แล้ว”อู๋มาพูดพลางเตรียมจะเอาแก้วของปรมาจารย์อวี้เฟิงไป

        “เดี๋ยวก่อน หลังจากนี้ต่อไปฉันจะกินแค่เดือนละครั้ง อู๋มาอย่าแย่งแก้วไปเลย ฉันพูดจริงทำจริงนะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงมือหนึ่งกอดแก้วเอาไว้พร้อมกับพูดขึ้นเสียงดังทำเอากัวไฮว่กับมู่หรงเวยเวยยิ้มขึ้น

        “เวยเวยรู้ไหมว่าทำไมอักษรของท่านอาจารย์ถึงดูแกร่งกว่าของตาบ้าเซวียน เพราะว่าพวกเขาเกิดมาพร้อมกันน่ะสิ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “ตาบ้าเซวียนไม่รู้เป็นบ้าอะไร ออกไปจากโรงเรียนฟู่จงแล้ว พวกเธอเจอเขาเมื่อไหร่เหรอ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงถามยิ้มๆ

        “เมื่อวานค่ะ พวกเรากินข้าวที่ร้านเสร็จแล้วเขาก็เพิ่งออกไป”มู่หรงเวยเวยพูดเบาๆ“เขาฟังคำของพี่ไฮว่แล้วก็เตรียมตัวออกไปเลย”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มฉันมองไม่ออกจริงๆเลยว่าเธอทำได้กี่อย่างกันแน่ ฉันมีเวลาไม่เยอะแล้วไม่ขออย่างอื่นขอแค่เธอกับเวยเวยเดือนหนึ่งหาเวลามาเจอฉันสักครั้งได้ฉันก็พอใจแล้ว”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เสี่ยวไฮว่วันหลังจะมาอีกได้นะไม่ต้องเอาเหล้ามาก็ได้ ถึงตอนนั้นฉันจะทำของอร่อยๆให้พวกเธอเอง”อู๋มาพูดยิ้มๆ

        “แค่กๆ อู๋มาเดือนหนึ่งแค่ครั้งเดียวเอง ฉันแก่ขนาดนี้แล้วยอมเรื่องนี้ให้ฉันหน่อยไม่ได้เหรอ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดเสียงดังเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นจากกัวไฮว่และมู่หรงเวยเวยได้อีกครั้ง

        “อู๋มาชิมสักหน่อยนะคะ ถ้าไม่อร่อยก็เอามาให้หนู”มู่หรงเวยเวยพูดพลางย้ายแก้วเหล้าไปยังเบื้องหน้าของอู๋มา

        “ดื่มก็ดื่ม ตอนสาวๆยังไม่เคยกินเหล้าเลย”อู๋มาก้มหน้าเหล้าหนึ่งแก้วลงเข้าในท้อง จากนั้นทุกคนก็คึกครื้นกันใหญ่

        “เสี่ยวไฮว่เร็วเข้าเทให้ฉันให้เต็มเลย ต่อไปเธอก็อยู่ที่นี่เลยซะสิ ฉันจะทำของอร่อยให้เธอกินทุกวันเลย เทเหล้าให้เต็มเลย”อู๋มาถือแก้วเอาไว้พร้อมพูดด้วยเสียงดัง

        “ฮ่าๆ อู๋มาเธอรู้หรือเปล่าว่าเหล้าที่เธอกินเมื่อกี้ราคาไหร่”ในขณะที่ปรมาจารย์อวี้เฟิงกำลังจะพูดขึ้นนั้นก็ถูกกัวไฮว่ขัดเอาไว้“ท่านอาจารย์ตอนกินเหล้าอย่าพูดเรื่องอื่นสิ วันนี้มีความสุขเราปู่หลานชนแก้วกัน”กัวไฮว่ดื่มจนหมดในอึกเดียวปู่หลานคำว่าปู่นี่ไม่ได้หมายถึงแกนะกัวไฮว่แอบคิดเงียบๆในใจ

        “อาจารย์ทำไมวันนี้ครื้นเครงจังเลย ผมมาช้าไปหรือเปล่า”คนยังมาไม่ถึงแต่เสียงมาถึงก่อนแล้วเสียงชายวัยกลางคนผู้หนึ่งดังลอยมาจากประตู กัวไฮว่มองมู่หรงเวยเวยแวบหนึ่งท่าทางไม่สบายใจก็ปรากฏอยู่บนหน้าของมู่หรงเวยเวย

        “อี้ฟูมาแล้วเหรอ”อู๋มาก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ“เราเพิ่งกินข้าวกันพอดีเลย เดี๋ยวฉันไปเอาถ้วยกับตะเกียบมาให้เธอนะ”อู๋มาพูดแล้วเดินไปยังห้องครัว

        “คุณลุงข่ง”เมื่อชายวัยกลางคนเดินมายังห้องรับแขกมู่หรงเวยเวยก็ลุกพรวดขึ้นมาทันที เธอมองชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงค่อย

        “เวยเวยก็อยู่เหรอนั่งลงนั่งลงสิ”ข่งอี้ฟูชายอายุเกินสี่สิบมาหน่อยผู้หนึ่ง เป็นหัวหน้าสมาคมการเขียนพู่กันแห่งเมืองอู่เฉิง เป็นศิษย์ของปรมาจารย์อวี้เฟิง เป็นลุงแท้ๆของข่งเสวียน

        “พ่อหนุ่มนี่ข่งอี้ฟูเป็นศิษย์ของฉัน ตอนนี้เป็นหัวหน้าสมาคมการเขียนพู่กัน ถ้ามีเวลาก็ไปตีสนิทกับเขาได้นะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงชี้ไปที่กัวไฮว่แล้วพูดขึ้นว่า“นี่กัวไฮว่ นักเรียนโรงเรียนฟู่จงเพื่อนของเวยเวยรู้จักกันไว้ซะสิ”

        “เพื่อนของเวยเวยเหรอเหอะๆ ไม่เลวเลย”ข่งอี้ฟูมองกัวไฮว่แล้วพูดยิ้มๆ

        “มู่หรงเวยเวย มู่หรงเวยเวยตัวดี หลานชายฉันตายอยู่ใต้ล้อรถเพื่อช่วยเธอเอาไว้นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่เดือนเองเธอก็หามาใหม่แล้ว ดี ดีมากก็เหมือนกับแม่เธอนั่นแหละอ่อยผู้ชายไปทั่ว”ความคิดของข่งอี้ฟูปรากฏขึ้นในสมองของกัวไฮว่โดยทันที

        “อี้ฟูรีบกินตอนยังร้อนๆเถอะ เธอจะมาก็ไม่ยอมบอกกันสักคำ”อู๋มาพูดขึ้นอย่างตำหนิ นี่ก็ชัดเจนแล้วว่าอู๋มามีความประทับใจที่ดีมากๆกับชายวัยกลางคนผู้นี้

        “กลัวว่าอู๋มาจะวุ่นวายน่ะสิครับ แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอกินข้าวกัน แต่ว่าอู๋มาก็ลำเอียงไปนะกับข้าวเยอะกว่าตอนที่ผมมาอีก”ข่งอี้ฟูพูดอย่างขำขัน

        นับตั้งแต่ตอนที่อี้ฟูปรากฏตัวจิตใจมู่หรงเวยเวยก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ว่าอย่างไรชายที่อยู่ตรงหน้าก็คือลุงแท้ๆของแฟนเก่าตัวเอง ตอนนี้ตัวเธอเองคบอยู่กับผู้ชายอีกคน แม้ข่งอี้ฟูจะไม่ได้พูดอะไรแต่ความกดดันอันโหดเหี้ยมก็กดเข้าไปที่จิตใจของเธอ

        “เสี่ยวไฮว่ เมื่อกี้อาจารย์บอกว่าเธอเขียนอักษรได้ดีมาก เล่นหมากล้อมก็ดี เดี๋ยวเราไปเล่นกันสักสองตาดีไหม”ข่งอี้ฟูพูดยิ้มๆ“พูดแบบไม่ปิดบังเธอเลยนะฉันเล่นหมากล้อมกับเด็กอายุพอๆกับเธอแล้วเคยแพ้ไปสองคน คนหนึ่งคือยายหนูเวยเวย อีกคนก็คือข่งเสวียนหลานชายฉันที่ตายไปแล้ว เวยเวยน่าจะเคยบอกเธอนะ”

        เมื่อข่งอี้ฟูพูดจบช้อนที่อยู่ในมือมู่หรงเวยเวยก็ตกแตกเสียงดังเพล้ง จากนั้นกัวไฮว่ก็หรี่ตามองข่งอี้ฟูแวบหนึ่ง

        “งั้นกลัวว่าวันนี้ในกลุ่มคนที่คุณแพ้จะเพิ่มมาอีกคนนะครับ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆแต่ใต้โต๊ะเขายื่นไปกุมมือข้างหนึ่งของมู่หรงเวยเวยเอาไว้แน่น มู่หรงเวยเวยที่เดิมจิตใจว้าวุ่นอยู่นั้นก็พลันสงบลง

         

 

                                                                    ————————

                                อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                                     https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ 35 ผู้ไม่ประสงค์ดี

Now you are reading [นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ Chapter 35 ผู้ไม่ประสงค์ดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        “พ่อหนุ่มหมายความว่าไง”ปรมาจารย์อวี้เฟิงชะงักไปแล้วเอ่ยขึ้นเสียงค่อย

        “ก็ไม่มีอะไรก็แค่นึกถึงเรื่องน่าสนใจนิดหน่อย”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“ท่านอาจารย์ตอนที่ซุนหงอคงในไซอิ๋วผ่านแม่น้ำทงเทียนเขาได้ผ่านหมู่บ้านเฉิน ช่วยคนชายหนึ่งหญิงหนึ่งเอาไว้เหมือนว่าจะแซ่เฉินกันหมด จากพิกัดในตอนนี้อำเภออวี้ซู่มณฑลชิงไห่ก็คือหมู่บ้านเฉินในตอนนั้นใช่ไหม”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มพูดถูกแล้ว จากประวัติครอบครัวตระกูลเฉินบรรพบุรุษของเราชื่อว่าเฉินชิ่งหยวนก็คือเด็กชายที่ถูกท่านเทพซุนช่วยชีวิตไว้ในตำนานนั่นแหละ”

        “เหอะๆ บังเอิญขนาดนั้นเชียว”กัวไฮว่เบิกตาโพล่งปรมาจารย์ที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ก็คือลูกหลานของตนจริงๆด้วย ฮ่าๆ อวี้เอ๋อร์ข้าควรจะขอบใจที่เจ้าเนรเทศข้ามาแดนมนุษย์ดีไหมเนี่ย

        “นายท่านคุยอะไรกันคะ ยิ้มแย้มกันเชียว”อู๋มาถือจานที่ร้อนปุดๆเข้ามาในห้องแล้วก็วางจานลงบนโต๊ะ

        “อู๋มาหนูช่วยนะคะ”มู่หรงเวยเวยพูดพลางเดินเข้าไปในครัวกับอู๋มา

        “อะแฮ่มๆ ท่านอาจารย์ผมเรียกคุณว่าท่านอาจารย์ดีกว่าให้เรียกเหล่าเฉินผมพูดไม่ออก”กัวไฮว่กระแอมไอสองสามที“ต่อไปมีเรื่องอะไรคุณติดต่อปู่ผมถามหาผมได้เลยนะ”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มตลกแล้วล่ะ ฉันจะมีเรื่องอะไรได้วันสิ้นสุดใกล้จะมาถึงเต็มทนแล้วได้รับยายหนูเวยเวยเป็นศิษย์ก็พอใจ พอใจมากแล้ว”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆเขาจะไปเข้าใจความหมายของกัวไฮว่ได้อย่างไรกัน เจ้าเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลเฉินหากมีเรื่องอันใดบรรพบุรุษย่อมลุกขึ้นมาช่วยเจ้าออกโรงแน่

        “เหอะๆ ต่อไปคุณจะเข้าใจเอง กินข้าว กินข้าว วุ่นวายกันมาทั้งเช้าหิวจริงๆ”กัวไฮว่นั่งลงไปบนม้านั่งเตี้ยโดยไม่ได้สนใจปรมาจารย์อวี้เฟิง

        “พ่อหนุ่ม เหอะๆ กับข้าวมาแล้วก็ควรจะเอาเหล้าออกมาด้วยใช่ไหมล่ะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เดี๋ยวหนูไปเอาแก้วมาให้”มู่หรงเวยเวยวิ่งเข้าไปในห้องครัวจากนั้นก็วางแก้วที่สวยงามประณีตสี่ใบไว้บนโต๊ะ

        “ยายหนูไปเอาแก้วเหล้าอะไรมาให้ฉันเนี่ย ฉันไม่กินเหล้า”อู๋มาพูดยิ้มๆ

        “อู๋มาถ้าเธอไม่กินก็เอามาให้ฉัน ฉันกินเอง”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เมื่อวานเพิ่งกินไป วันนี้คุณกินไม่ได้แล้ว”อู๋มาพูดพลางเตรียมจะเอาแก้วของปรมาจารย์อวี้เฟิงไป

        “เดี๋ยวก่อน หลังจากนี้ต่อไปฉันจะกินแค่เดือนละครั้ง อู๋มาอย่าแย่งแก้วไปเลย ฉันพูดจริงทำจริงนะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงมือหนึ่งกอดแก้วเอาไว้พร้อมกับพูดขึ้นเสียงดังทำเอากัวไฮว่กับมู่หรงเวยเวยยิ้มขึ้น

        “เวยเวยรู้ไหมว่าทำไมอักษรของท่านอาจารย์ถึงดูแกร่งกว่าของตาบ้าเซวียน เพราะว่าพวกเขาเกิดมาพร้อมกันน่ะสิ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ

        “ตาบ้าเซวียนไม่รู้เป็นบ้าอะไร ออกไปจากโรงเรียนฟู่จงแล้ว พวกเธอเจอเขาเมื่อไหร่เหรอ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงถามยิ้มๆ

        “เมื่อวานค่ะ พวกเรากินข้าวที่ร้านเสร็จแล้วเขาก็เพิ่งออกไป”มู่หรงเวยเวยพูดเบาๆ“เขาฟังคำของพี่ไฮว่แล้วก็เตรียมตัวออกไปเลย”

        “ฮ่าๆ พ่อหนุ่มฉันมองไม่ออกจริงๆเลยว่าเธอทำได้กี่อย่างกันแน่ ฉันมีเวลาไม่เยอะแล้วไม่ขออย่างอื่นขอแค่เธอกับเวยเวยเดือนหนึ่งหาเวลามาเจอฉันสักครั้งได้ฉันก็พอใจแล้ว”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดยิ้มๆ

        “เสี่ยวไฮว่วันหลังจะมาอีกได้นะไม่ต้องเอาเหล้ามาก็ได้ ถึงตอนนั้นฉันจะทำของอร่อยๆให้พวกเธอเอง”อู๋มาพูดยิ้มๆ

        “แค่กๆ อู๋มาเดือนหนึ่งแค่ครั้งเดียวเอง ฉันแก่ขนาดนี้แล้วยอมเรื่องนี้ให้ฉันหน่อยไม่ได้เหรอ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงพูดเสียงดังเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นจากกัวไฮว่และมู่หรงเวยเวยได้อีกครั้ง

        “อู๋มาชิมสักหน่อยนะคะ ถ้าไม่อร่อยก็เอามาให้หนู”มู่หรงเวยเวยพูดพลางย้ายแก้วเหล้าไปยังเบื้องหน้าของอู๋มา

        “ดื่มก็ดื่ม ตอนสาวๆยังไม่เคยกินเหล้าเลย”อู๋มาก้มหน้าเหล้าหนึ่งแก้วลงเข้าในท้อง จากนั้นทุกคนก็คึกครื้นกันใหญ่

        “เสี่ยวไฮว่เร็วเข้าเทให้ฉันให้เต็มเลย ต่อไปเธอก็อยู่ที่นี่เลยซะสิ ฉันจะทำของอร่อยให้เธอกินทุกวันเลย เทเหล้าให้เต็มเลย”อู๋มาถือแก้วเอาไว้พร้อมพูดด้วยเสียงดัง

        “ฮ่าๆ อู๋มาเธอรู้หรือเปล่าว่าเหล้าที่เธอกินเมื่อกี้ราคาไหร่”ในขณะที่ปรมาจารย์อวี้เฟิงกำลังจะพูดขึ้นนั้นก็ถูกกัวไฮว่ขัดเอาไว้“ท่านอาจารย์ตอนกินเหล้าอย่าพูดเรื่องอื่นสิ วันนี้มีความสุขเราปู่หลานชนแก้วกัน”กัวไฮว่ดื่มจนหมดในอึกเดียวปู่หลานคำว่าปู่นี่ไม่ได้หมายถึงแกนะกัวไฮว่แอบคิดเงียบๆในใจ

        “อาจารย์ทำไมวันนี้ครื้นเครงจังเลย ผมมาช้าไปหรือเปล่า”คนยังมาไม่ถึงแต่เสียงมาถึงก่อนแล้วเสียงชายวัยกลางคนผู้หนึ่งดังลอยมาจากประตู กัวไฮว่มองมู่หรงเวยเวยแวบหนึ่งท่าทางไม่สบายใจก็ปรากฏอยู่บนหน้าของมู่หรงเวยเวย

        “อี้ฟูมาแล้วเหรอ”อู๋มาก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ“เราเพิ่งกินข้าวกันพอดีเลย เดี๋ยวฉันไปเอาถ้วยกับตะเกียบมาให้เธอนะ”อู๋มาพูดแล้วเดินไปยังห้องครัว

        “คุณลุงข่ง”เมื่อชายวัยกลางคนเดินมายังห้องรับแขกมู่หรงเวยเวยก็ลุกพรวดขึ้นมาทันที เธอมองชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงค่อย

        “เวยเวยก็อยู่เหรอนั่งลงนั่งลงสิ”ข่งอี้ฟูชายอายุเกินสี่สิบมาหน่อยผู้หนึ่ง เป็นหัวหน้าสมาคมการเขียนพู่กันแห่งเมืองอู่เฉิง เป็นศิษย์ของปรมาจารย์อวี้เฟิง เป็นลุงแท้ๆของข่งเสวียน

        “พ่อหนุ่มนี่ข่งอี้ฟูเป็นศิษย์ของฉัน ตอนนี้เป็นหัวหน้าสมาคมการเขียนพู่กัน ถ้ามีเวลาก็ไปตีสนิทกับเขาได้นะ”ปรมาจารย์อวี้เฟิงชี้ไปที่กัวไฮว่แล้วพูดขึ้นว่า“นี่กัวไฮว่ นักเรียนโรงเรียนฟู่จงเพื่อนของเวยเวยรู้จักกันไว้ซะสิ”

        “เพื่อนของเวยเวยเหรอเหอะๆ ไม่เลวเลย”ข่งอี้ฟูมองกัวไฮว่แล้วพูดยิ้มๆ

        “มู่หรงเวยเวย มู่หรงเวยเวยตัวดี หลานชายฉันตายอยู่ใต้ล้อรถเพื่อช่วยเธอเอาไว้นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่เดือนเองเธอก็หามาใหม่แล้ว ดี ดีมากก็เหมือนกับแม่เธอนั่นแหละอ่อยผู้ชายไปทั่ว”ความคิดของข่งอี้ฟูปรากฏขึ้นในสมองของกัวไฮว่โดยทันที

        “อี้ฟูรีบกินตอนยังร้อนๆเถอะ เธอจะมาก็ไม่ยอมบอกกันสักคำ”อู๋มาพูดขึ้นอย่างตำหนิ นี่ก็ชัดเจนแล้วว่าอู๋มามีความประทับใจที่ดีมากๆกับชายวัยกลางคนผู้นี้

        “กลัวว่าอู๋มาจะวุ่นวายน่ะสิครับ แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอกินข้าวกัน แต่ว่าอู๋มาก็ลำเอียงไปนะกับข้าวเยอะกว่าตอนที่ผมมาอีก”ข่งอี้ฟูพูดอย่างขำขัน

        นับตั้งแต่ตอนที่อี้ฟูปรากฏตัวจิตใจมู่หรงเวยเวยก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ว่าอย่างไรชายที่อยู่ตรงหน้าก็คือลุงแท้ๆของแฟนเก่าตัวเอง ตอนนี้ตัวเธอเองคบอยู่กับผู้ชายอีกคน แม้ข่งอี้ฟูจะไม่ได้พูดอะไรแต่ความกดดันอันโหดเหี้ยมก็กดเข้าไปที่จิตใจของเธอ

        “เสี่ยวไฮว่ เมื่อกี้อาจารย์บอกว่าเธอเขียนอักษรได้ดีมาก เล่นหมากล้อมก็ดี เดี๋ยวเราไปเล่นกันสักสองตาดีไหม”ข่งอี้ฟูพูดยิ้มๆ“พูดแบบไม่ปิดบังเธอเลยนะฉันเล่นหมากล้อมกับเด็กอายุพอๆกับเธอแล้วเคยแพ้ไปสองคน คนหนึ่งคือยายหนูเวยเวย อีกคนก็คือข่งเสวียนหลานชายฉันที่ตายไปแล้ว เวยเวยน่าจะเคยบอกเธอนะ”

        เมื่อข่งอี้ฟูพูดจบช้อนที่อยู่ในมือมู่หรงเวยเวยก็ตกแตกเสียงดังเพล้ง จากนั้นกัวไฮว่ก็หรี่ตามองข่งอี้ฟูแวบหนึ่ง

        “งั้นกลัวว่าวันนี้ในกลุ่มคนที่คุณแพ้จะเพิ่มมาอีกคนนะครับ”กัวไฮว่พูดยิ้มๆแต่ใต้โต๊ะเขายื่นไปกุมมือข้างหนึ่งของมู่หรงเวยเวยเอาไว้แน่น มู่หรงเวยเวยที่เดิมจิตใจว้าวุ่นอยู่นั้นก็พลันสงบลง

         

 

                                                                    ————————

                                อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^

                                                     https://www.kawebook.com/story/6815

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+