ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 313-2 ปัญหาที่มาจากหนานเจียง (2)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 313-2 ปัญหาที่มาจากหนานเจียง (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 313 ปัญหาที่มาจากหนานเจียง (2)

ฟางผิงปวดหัว แต่ยังคงรักษาท่าทีสงบนิ่ง

“เขื่อนยาวนับพันลี้ก็พังทลายโดยกองทัพมดได้ ต่อให้ศัตรูข้างนอกแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเราก็ไม่กลัว กลัวก็แต่ว่ามีปัญหาเองจากภายใน”

จางอวี่เฉียงถอนหายใจ “โดยเฉพาะในหมู่คนที่สงสัยในตอนนี้…ยังมีเบื้องสูงของหน่วยทหารหนานเจียงคนหนึ่ง ฟางผิง หากเบื้องสูงก่อกบฏจริงๆ ปัญหาคงไม่ใช่เล็กๆ แล้ว หลังจากคนของพวกเราเข้าสู่ถ้ำใต้ดิน ทางเดินเพิ่งจะปรากฏ ถูกคนทำลายเข้า คนทั้งหมดที่เข้าไปจะติดอยู่ภายใน รวมถึงปรมาจารย์ยอดฝีมือด้วย แต่เมื่อไร้หลักฐาน พวกเราก็ไม่อาจจัดการและควบคุมเบื้องสูงคนหนึ่งอย่างเต็มกำลังได้ คุมตัวกักขังโดยที่ไม่มีหลักฐานจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่กว่า ถึงกระทั่งสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคน เวลานี้หนานเจียงต้องการให้ทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่พากันหวาดผวา…”

“พี่จาง”

ฟางผิงตัดบทเขา เอ่ยด้วยรอยยิ้มเฝื่อนๆ “ผมเพิ่งจะขั้นสี่ เจอกับยอดฝีมือขั้นห้าผมยังพอจะถ่วงเวลาได้พักหนึ่ง แต่ถ้าเจอขั้นหก ผมก็อันตรายแล้ว หากมีระดับสูงมา แค่เจอหน้าผมก็ถูกพลังจิตใจกดดันตายได้แล้ว พี่จาง ไม่ใช่ว่าผมปัดภาระให้พ้นตัว แต่นี่เป็นเรื่องอันตรายจริงๆ ผมว่า…พวกคุณลองหายอดฝีมือขั้นหกลองก่อนดูไหม? ไม่จำเป็นต้องเป็นคนของเซี่ยงไฮ้ อาจจะเป็นมหาวิทยาลัยปักกิ่ง หรือมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แห่งอื่น ใช่สิ หลี่หานซงจากปักกิ่งก็เหมาะอยู่นะครับ…”

“เขาไม่ใช่คนหนานเจียง” จางอวี่เฉียงเอ่ยอย่างจนใจ “ผู้ฝึกยุทธ์ค่อนข้างให้ความสำคัญกับบ้านเกิด ทั้งมหาวิทยาลัยปักกิ่งยังอยู่ในเขตทางเหนือ หนานเจียงอยู่เขตทางใต้ มหาวิทยาลัยปักกิ่งอาจไม่ให้ความช่วยเหลือเต็มกำลังกับหนานเจียงเสมอไป ทุกคนต่างมีภารกิจของตัวเองอยู่แล้ว พวกเรามาหาเธอเพราะผ่านการคิดทบทวนมาหลายครั้งแล้ว ทั้งทำให้คนเชื่อได้ด้วย หากเป็นหลี่หานซง กลับจะทำให้คนสงสัยว่าเป็นเหยื่อล่อหรือเปล่า จะเพิ่มความระแวงให้ศัตรูมากขึ้นไปอีก”

ฟางผิงเครียดจนหัวโต ถอนหายใจว่า “งั้นผมขอคิดดูอีกทีละกันครับ”

“น้องฟาง หวังว่าจะสามารถให้คำตอบกับพวกเราโดยเร็วที่สุด แน่นอนว่าไม่บังคับ”

จางอวี่เฉียงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เรื่องนี้เสี่ยงอันตรายมากจริงๆ ผู้ว่าก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ น้องฟางจะกังวลก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว แต่ผู้ว่าบอกแล้วว่าถ้าน้องฟางรับปาก ดาบโลหิตที่เขาใช้ตอนขั้นหกสามารถส่งต่อให้น้องฟางได้”

“นั่นเป็นดาบโลหะผสมระดับ A เป็นดาบที่ผู้ว่าตั้งใจทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อฝึกฝนเคล็ดวิชาดาบในตอนแรก ทั้งยังเหมาะที่จะใช้กับเคล็ดวิชาดาบที่ผู้ว่ารังสรรค์ขึ้น น้องฟางผิงเรียนเคล็ดวิชาดาบของผู้ว่าเหมือนกัน มีดาบโลหิตระดับ A ที่ทำขึ้นโดยพิเศษ ความสามารถเพิ่มขึ้นอีกสามส่วน เจอยอดฝีมือที่อาวุธด้อยกว่า ดาบเดียวก็ฟันอาวุธอีกฝ่ายขาดได้แล้ว ถึงเวลานั้นแม้จะเป็นยอดฝีมือขั้นห้า น้องฟางก็สามารถสังหารได้ ดาบเล่มนี้สั่งสมประสบการณ์แรงกายแรงใจของผู้ว่ามาหลายปีเหมือนกัน…”

“หนักเท่าไหร่?”

ฟางผิงเผลอถามออกไป ก่อนจะกระแอมไอขึ้นมา ราวกับเมื่อกี้เขาไม่ได้เป็นคนถาม

“สี่สิบจิน”

จางอวี่เฉียงตอบกลับทันที อยากให้ม้าวิ่งเร็วก็ต้องให้หญ้ากินสักหน่อย

โลหะผสมระดับ B หนึ่งร้อยคะแนนต่อหนึ่งกิโลกรัม ระดับ A กลับเยอะกว่าเท่าตัว

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือดาบเล่มนี้มีมูลค่าสี่พันคะแนน

จางอวี่เฉียงเอ่ยต่อว่า “นี่เป็นดาบที่ทำขึ้นอย่างพิเศษ นอกจากระดับของโลหะผสม เวลานั้นเพื่อสร้างดาบเล่มนี้ขึ้นมา ผู้ว่ายังเชิญยอดฝีมือระดับสูงที่เชี่ยวชาญในบริษัทผลิตอาวุธมาหลายคน สร้างขึ้นมาด้วยมือตัวเอง ไม่เพียงแค่นั้นปราณที่ผู้ว่าบ่มเพาะมานับสิบปี ไม่ใช่สิ่งที่อาวุธในสายการผลิตพวกนั้นสามารถเทียบได้ หลังจากกลายเป็นปรมาจารย์ ผู้ว่าก็ยังคงบ่มเพาะปราณลงไปตลอด ถึงกระทั่งเริ่มใช้พลังจิตใจบ่มเพาะลงไปด้วย ปัจจุบันในหมู่อาวุธระดับ A ดาบเล่มนี้ถือเป็นประเภทระดับสุดยอด ก่อนที่เธอจะเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ สามารถใช้จนถึงขั้นหกสูงสุดได้ ทั้งไม่ได้ล้าสมัย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอาวุธบ่อยๆ”

ฟางผิงไม่ได้พูดอะไร ถึงอย่างนั้นก็ต้องมีชีวิตเพื่อใช้มันอยู่ดี

“พี่จาง ผมขอคิดดูก่อน วันมะรืนการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์จะเริ่มต้นขึ้น ช่วงนี้ผมเกรงว่าคงไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น…”

จางอวี่เฉียงผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงพยักหน้าว่า “งั้นน้องฟางทำธุระของตัวเองก่อนเถอะ ใคร่ครวญดีแล้วค่อยติดต่อฉัน แต่อย่าพูดเรื่องนี้ในมือถือละเอียดเกินไป ตอนนี้เทคโนโลยีค่อนข้างก้าวหน้า มีโอกาสเสี่ยงสูงที่ข้อมูลจะถูกเผยแพร่ออกไป”

“ครับ เข้าใจแล้ว”

ระหว่างที่พูดฟางผิงก็ครุ่นคิดเล็กน้อย “ผมบอกพวกอาจารย์ได้หรือเปล่า?”

“อย่าบอกจะดีกว่า…แน่นอนว่าถ้าอยากจะบอก จำกัดแค่อาจารย์หลู่เท่านั้น อาจารย์หลู่ค่อนข้างสนิทสนมกับผู้ว่า…”

ฟางผิงขมวดคิ้ว หมายความว่ายังไง?

สองคนนี้มีความสัมพันธ์คลุมเครือกันจริงๆ?

ตอนแรกหลู่เฟิ่งโหรวก็บอกว่าเมื่อก่อนจางติ้งหนานไล่ตามจีบเธอไม่เลิกรา หรือจะเป็นเรื่องจริง?

ไม่ถามมากอีก ฟางผิงจากไปอย่างรวดเร็ว

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้

ฟางผิงถูขมับ เรื่องนี้ให้คำตอบยากจริงๆ

ปฏิเสธ?

ถ้าปฏิเสธ หากทางหนานเจียงมีระดับสูงที่เป็นพวกลัทธินอกรีตซ่อนตัวอยู่จริงๆ พอถ้ำใต้ดินหนานเจียงอุบัติขึ้น คนจำนวนมากหลั่งไหลเข้าไปภายใน อีกฝ่ายทรยศเปลี่ยนขั้ว นั่นก็เป็นปัญหาแล้ว

ทางเดินเปิดออกครั้งแรกไม่ค่อยมีความเสถียรเท่าไหร่ ง่ายที่จะเกิดเรื่อง

หากถูกปิดผนึก คนที่ติดอยู่ภายในแทบไม่มีโอกาสเหลือรอด

แม้ว่าเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างฟางผิงเป็นกังวลได้ แต่เขาก็เชื่อว่าพวกจางติ้งหนานต้องมีการเตรียมความพร้อมแน่นอน แต่กันย่อมดีกว่าแก้ มีช่วงโหว่จะทำยังไง?

ตอบตกลง?

หากตกลง เขาก็มีความเสี่ยงสูงแล้ว

ลัทธินอกรีตไม่เห็นความสำคัญยังพอว่า ส่งแค่ขั้นห้ามาลอบสังหารเขา เขาสู้ไม่ไหวก็หนีเท่านั้น

แม้ว่าจะเป็นขั้นหกก็ไม่อาจฆ่าเขาได้ในชั่วพริบตาเสมอไป

กลัวก็แต่ว่าจะส่งระดับสูงมา นั่นคงฆ่าเขาได้ในทันทีจริงๆ

ทั้งหากตอบรับ เพื่อล่อหนอนบ่อนไส้ออกมา เกรงว่ายังต้องสร้างความเกรงขามขึ้นอีก ขยายอิทธิพลและความสำคัญของฟางผิงให้มากขึ้น

ถึงเวลานั้นความเสี่ยงก็จะมากกว่าเดิม

“ตัดสินใจยากจริงๆ”

ฟางผิงปวดหัวอยู่บ้าง หากจางอวี่เฉียงหยิบยกเรื่องปกป้องชาติ ความอยู่รอดของหนานเจียงอะไรพวกนี้มากดดันเขา ฟางผิงอาจจะใส่ใจเขากว่านี้

พวกคุณมีปัญหาเอง ปล่อยให้คนของนอกรีตเข้าไปปะปนอยู่ภายใน ทั้งยังมีตำแหน่งระดับสูง ไม่ใช่ความรับผิดชอบของฟางผิงสักหน่อย

หากเกิดเรื่องก็ควรต้องโทษตัวเอง

แต่ตอนนี้แม้จางอวี่เฉียงจะไม่เอ่ยเรื่องนี้ กลับไปพูดเรื่องความผูกพันกับบ้านเกิดและผลประโยชน์

ท่าทีคล้ายกับว่านายจะตอบรับหรือไม่ตอบรับก็ได้ทั้งนั้น

แบบนี้ยิ่งปฏิเสธยากเข้าไปใหญ่

“หนานเจียง…”

ฟางผิงพึมพำ กำลังหลักที่ต่อต้านถ้ำใต้ดินของหนานเจียงเป็นคนหนานเจียงเอง

หากถ้ำใต้ดินเกิดปัญหาจริงๆ เกรงว่าประชาชนของหนานเจียงต้องร้องไห้คร่ำครวญแล้ว

“ฉันก็กลัวตายเหมือนกัน…”

ฟางผิงบ่นอุบอิบ ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “รังของยอดฝีมือถ้ำใต้ดินฉันยังกล้ากวาดล้างมาแล้ว ราชาสัตว์ประหลาดขั้นแปดก็เคยหลอกล่อมาก่อน แต่ระดับสูงของพวกลัทธินอกรีต ไม่เคยเจอมาก่อนจริงๆ หรือว่า…จะลองไปหาฉินเฟิ่งชิงดี?”

ฟางผิงถอนหายใจ ส่ายหัวอย่างเงียบๆ

ไปหาฉินเฟิ่งชิงไม่มีประโยชน์ หากจะหาคน อันที่จริงเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น หวังจินหยางคงอาสาเองด้วยซ้ำ

จางอวี่เฉียงบอกว่าหวังจินหยางอยากรับภารกิจนี้ ฟางผิงเชื่ออยู่เหมือนกัน

เจ้าหมอนั่น ผลประโยชน์ส่วนตัวหรือส่วนร่วมต่างแบ่งแยกอย่างชัดเจน เรื่องแบบนี้เขาไม่เกี่ยงงอนแน่

นึกถึงเรื่องพวกนี้ฟางผิงก็ส่ายหัวอีกครั้ง

นักศึกษาของเซี่ยงไฮ้บางส่วนเห็นราชาปีศาจฟางเหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดีต่างพากันทยอยหลีกทาง ช่วงนี้ถูกทรมานจนแทบตายแล้ว เวลานี้อย่าเอาตัวไปขวางกระบอกปืนดีกว่า

————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด