พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 153 จอภาพวิเศษ

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 153 จอภาพวิเศษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 153 จอภาพวิเศษ

หลังจากที่หลี่จือหลิงคิดสักพัก นางก็ยอมแพ้ เนื่องจาก ‘ราคา’ ที่นางต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปและที่สำคัญกว่านั้นแม้ว่านางจะเลื่อนระดับไปยังระดับสิบสามได้ในตอนนี้ เส้นทางการบ่มเพาะของนางในอนาคตมันก็ยังยากลำบากอยู่ดี

แต่นางยังอดนึกถึงความสามารถอันแปลกประหลาดของหลิงตู้ฉิงไม่ได้ เขาสามารถรู้ได้ยังไงว่านางมีร่ายดรุณีหยก?

“ข้าสามารถมอบวัสดุระดับสูงให้ท่านเพื่อและกับให้ท่านสร้างสมบัติระดับวิญญาณให้ข้าได้ไหม?” หลี่จือหลิงถาม

นางได้ยินจากเหลียงเจี๋ยมาก่อนหน้านี้แล้วว่าความสามารถในการสร้างสมบัติวิเศษของหลิงตู้ฉิงนั้นล้ำลึกและทรงพลังมาก ในเมื่อวันนี้นางได้มาเจอเขาแล้วและนางยังไม่ได้รับประโยชน์อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่ ฉะนั้นตอนนี้นางจึงเหลือตัวเลือกสุดท้ายคือขอให้หลิงตู้ฉิงสร้างสมบัติวิเศษให้แทน และแอบลอบจดจำเทคนิคการสร้างสมบัติของเขาแล้วนำเทคนิคกลับไปบอกอาจารย์หลอมสมบัติของสำนักเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเคล็ดการสร้างสมบัติของหลิงตู้ฉิง

“ได้แน่นอน!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “เมื่อเจ้าต้องการให้ข้าสร้างเมื่อไหร่ เจ้านำวัตถุดิบต่าง ๆ มาให้ข้าได้เลย แต่ถ้าเจ้าต้องการดูข้าสร้างด้วยแล้วล่ะก็ เจ้าต้องให้วัสดุระดับสูงแก่ข้าอีกชิ้น”

หลี่จือหลิง เมื่อได้ยินว่านางจะต้องถูกคิดราคาเพิ่มหากนางต้องการดูหลิงตู้ฉิงสร้างสมบัติ นางถึงกับพูดไม่ออกถึงความเห็นแก่เงินของเขา

“ข้าจะเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ และส่งให้ท่านเมื่อของทุกอย่างถูกรวบรวมจนครบ” หลี่จือหลิงพูด จากนั้นนางก็หันหลังเดินออกไป สิ่งเดียวที่นางเสียใจคือนางใช้วัสดุระดับสูงไปหลายชิ้น แต่นางไม่สามารถหาเบาะแสหรือข้อมูลอะไรได้เลย

 เมื่อเห็นหลี่จือหลิงจากไป มี่ไลเดินมาถาม “นายท่าน นางมาถามอะไร?”

หลิงตู้ฉิยิ้มและพูดว่า “ผู้หญิงคนนี้เล่ห์เหลี่ยมของนางนั้นแพรวพราวอยู่พอตัวเลยทีเดียว วันนี้นางมาที่นี่เพื่อสืบข้อมูลเกี่ยวกับตัวข้า”

มี่ไลถามอย่างเร่งรีบ “นายท่าน ท่านไม่ได้ตกหลุมพรางของนางใช่ไหม?”

“ลูกไม้แค่นั้นจะมาใช้กับข้าได้ยังไง? วันนี้ข้าได้ให้บทเรียนกับนางไปเล็กน้อยเพียงเท่านั้น ถ้านางแลกเปลี่ยนกับข้าอย่างยุติธรรม ข้าก็จะให้ผลประโยชน์กับนางอย่างยุติธรรม แต่ถ้าหากว่านางต้องการเล่นแง่กับข้า ข้าก็จะเล่นกับนาง ตอนนี้ข้าได้วัสดุระดับสูงมาเปล่า ๆ 3 ชิ้นโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย แถมนางยังไม่ได้ข้อมูลอะไรสักอย่าง!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ

มี่ไลหอมไปที่แก้มของหลิงตู้ฉิงและกล่าวชม “นายท่านของข้ายอดเยี่ยมที่สุด!”

แม้ว่านางจะไม่ได้อยู่ร่วมห้องกับหลิงตู้ฉิงในตอนนี้ แต่หลังจากที่ได้รับการยืนยันว่านางเป็นผู้หญิงของหลิงตู้ฉิงนางก็เลิกสนใจเรื่องอื่น ๆ และเริ่มเข้าใกล้เขาทุกครั้งที่มีโอกาส

นางเชื่อว่าในสักวันหนึ่ง หลิงตู้ฉิงจะต้องรู้แจ้ง

หลังจากที่หลี่จือหลิงออกมา กลุ่มคนที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูก็มองเข้าไปในคฤหาสน์สราญรมย์ด้วยความสนใจ

เจ้าของคฤหาสน์สราญรมย์นี้มีทีเด็ดอะไรกันแน่ ถึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาหลายคนที่เข้าไปต้องยอมคุยด้วยอย่างสันติ หรือแม้แต่เทพธิดาแห่งสำนักบุปผาจันทรายังเข้าไปเสียสิ่งของระดับสูงให้กับหลิงตู้ฉิงเพื่อถามคำถาม

หลายคนกัดฟันหยิบวัสดุระดับสูงออกมาและเข้าไปหาหลิงตู้ฉิง

แน่นอนว่าตราบใดที่พวกเขาตั้งใจทำการแลกเปลี่ยนที่จริงใจและซื่อสัตย์พวกเขาทุกคนล้วนต่างได้สิ่งที่ต้องการ แต่ถ้ามาเพื่อหาข้อมูลหรือเล่ห์เหลี่ยมแบบหลี่จือหลิง พวกคนเหล่านั้นจะไม่ได้อะไรติดมือกลับไปเลยสักอย่าง ยกเว้นก็แต่ข้อมูลที่ไม่สลักสำคัญอะไร

วันเวลาผ่านไปทีละวัน ในพริบตาก็เป็นวันที่สอง เดือนสอง ซึ่งเป็นวันที่มี่ตั้วตั้วกำหนดให้เป็นวันงานประมูล ผู้คนมากมายมารวมตัวกันที่หอประมูลของตระกูลมี่

แต่การประมูลนี้หลิงตู้ฉิงไม่ได้ไปร่วมงาน

ในสายตาของหลิงตู้ฉิงนั้นการประมูลครั้งนี้ไม่มีความหมายอะไรกับเขาเลย

หากสินค้าที่ประมูลเป็นสิ่งที่น่าสนใจหรือเป็นสิ่งของที่อยู่ในระดับราชวงศ์ขึ้นไป เขาเชื่อว่าตระกูลมี่จะนำของเหล่านั้นมาให้กับเขาก่อนที่นำพวกมันไปประมูล

หากเรื่องแค่นี้มี่ตั้วตั้วยังคิดไม่ได้ หอการค้ามี่ตั้วตั้วจะไม่มีทางพัฒนามาจนถึงปัจจุบันนี้ได้แน่นอน

ดังนั้นวันนี้หลิงตู้ฉิงจึงพาเด็ก ๆ ไปที่ ศาลาศักดิ์สิทธิ์เพื่อเข้าชั้นเรียนตามปกติ

ไม่เพียงแต่เขาไม่ได้ไปที่หอประมูลตะกูลมี่ แม้แต่เสี่ยวเยว่เฟิง หลิวเฟ่ยเฟ่ย และ ถังชี่หยุนก็ไม่ได้ไปร่วมงาน

ในตอนนี้จะมีก็แต่ มี่ไลและโม่หยูถัง ที่หลิงตู้ฉิงสั่งให้ไปที่หอประมูลตะกูลมี่

วันนี่เป็นวันสำคัญของตระกูลมี่ มี่ไลจึงต้องการมีส่วนร่วมให้มากที่สุด ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงไม่ขัดขวางนาง นอกจากนี้เขายังให้มี่ไลยืมหลิงจู้เพื่อนำไปปกป้องตัวนางเองกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในงานประมูล

สำหรับโม่หยูถังที่มาด้วยนั้นเป็นเพราะหลิงตู้ฉิงได้สัญญากับมี่ตั้วตั้วไว้แล้วว่าจะช่วยเหลือเขาเมื่อยามจำเป็น ฉะนั้นถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลมี่จริง ๆ โม่หยูถังจะเป็นปราการด่านสุดท้ายในการยับยั้งภัยคุกคามต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับมี่ตั้วตั้วและมี่ไล

เมื่อเห็นว่ามีเพียงมี่ไลและโม่หยูถังเท่านั้นที่อยู่ที่นี่ มี่ตั้วตั้วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

เขารู้ดีว่าถ้าหลิงตู้ฉิงอยู่ที่นี่ด้วย เขาจะไม่จำเป็นต้องกังวลถึงความปลอดภัยของเขาแม้แต่น้อย

ความแข็งแกร่งของหลิงตู้ฉิงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์นั้นเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ไม่กล้ามองข้ามและโดยเฉพาะที่หลาย ๆ คนก็ได้เห็นกับตาหรือสัมผัสกับตัวมาแล้ว

อย่างไรก็ตามมี่ตั้วตั้วเองได้เตรียมการไว้แล้วในกรณีที่หลิงตู้ฉิงไม่มางานประมูลของเขา แม้ว่าเขาจะผิดหวังแต่เขาก็ยังมีแผนสำรองไว้รับมือ

“ท่านพ่อ ท่านเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วใช่ไหม?” มี่ไลถามอย่างกังวล

วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากสำหรับตระกูลมี่ ดังนั้นนางจึงกังวลมากเกี่ยวกับความเป็นความตายของตระกูลนาง

มี่ตั้วตั้วยิ้ม “พ่อเตรียมพร้อมแล้ว พ่อได้เจรจากับเผ่าอสูรทมิฬเรียบร้อยแล้วหากใครต้องการลองดีกับตระกูลมี่ของเราในวันนี้ พ่อจะทำให้ที่นี่กลายเป็นทะเลเลือด!”

เมื่อจบประโยค มี่ตั้วตั้วหันไปหาโม่หยูถังและกล่าวต่อ “ท่านพ่อบ้าน หากเหตุการณ์ในวันนี้เลยเถิดจนอยู่เหนือการควบคุมของทางเรา ข้าขอรบกวนท่านพ่อบ้านช่วยเหลือพวกเราตระกูลมี่ด้วย!”

โม่หยูถังหัวเราะ “ท่านผู้นำตระกูลมี่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง นายท่านของข้าได้กำชับมาเรียบร้อยแล้วว่าข้าจะต้องให้ความช่วยเหลือท่านจนสุดความสามารถ แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่ข้าอยากจะบอกท่านไว้ก่อน ในตอนนี้ร่างกายข้าเองยังมีปัญหาอยู่ ฉะนั้นข้าสามารถปลดปล่อยพลังของข้าอย่างเต็มที่ได้เพียงแค่ครั้งเดียวและช่วงเวลาที่ปลดปล่อยพลังได้นั้นยาวเพียงแค่ 1 ลมหายใจ หลังจากช่วงเวลา 1 ลมหายใจข้าจะไม่เหลือพลังให้ใช้อีก”

“ท่านพ่อบ้าน ท่านบอกข้าได้ไหมว่าในอดีตท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับการบ่มเพาะไหน?” มี่ตั้วตั้วถาม

โม่หยูถังตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ท่านจะรู้เองเมื่อถึงเวลา แต่ข้าจะบอกท่านอีกอย่างถ้าข้าใช้พลังอย่างเต็มที่แล้วและยังไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ให้ท่านได้ นั่นแสดงว่าหายนะที่เกิดขึ้นกับตระกูลท่านในวันนี้นั้นคงร้ายแรงถึงระดับสวรรค์ถล่ม เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะเหลืออยู่เพียงหน้าที่เดียวคือ พาแม่นางมี่กลับไปหานายท่านของข้า ฉะนั้นเมื่อถึงเวลา ท่านอย่าได้โทษข้าที่แล้งน้ำใจ”

มี่ตั้วตั้วหัวเราะอย่างขมขื่น เขาไม่รู้ว่าโม่หยูถังได้ความมั่นใจมาจากไหน

วันนี้จากที่เขาประเมินสถานการณ์อย่างคร่าว ๆ หากดูจากที่มีสำนักมากมายเข้าร่วมการประมูลอย่างน้อย ๆ ทุกสำนักจะต้องส่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภามาบ้างไม่มากก็น้อยและนี่ยังไม่นับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแสงดาราอีกจำนวนมาก หากเกิดความวุ่นวายขึ้นมาจริง ๆ โม่หยูถังจะควบคุมสถานการณ์ได้จริงหรือ?

“ท่านพ่อบ้านโปรดไปนั่งกับลูกสาวของข้าในห้องพิเศษก่อนเถอะ” มี่ตั้วตั้วเชื้อเชิญ

มี่ไลมองไปที่มี่ตั้วตั้วอย่างเป็นห่วง นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต่อหลิงตู้ฉิง

ก่อนที่นางจะมาที่นี่ นางเองขอร้องหลิงตู้ฉิงอยู่เป็นเวลานานให้มากับนาง แต่หลิงตู้ฉิงก็ยังไม่มา

ในเวลานี้ภายในศาลาศักดิ์สิทธิ์ หลิงว่านถิงและคนอื่น ๆ กำลังมองหลิงตู้ฉิงด้วยสายตาที่ไม่พอใจ “ท่านพ่อ ท่านจะไม่ไปช่วยท่านน้าจริง ๆ เหรอ?”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “นี่พวกเจ้าคิดว่าพ่อมีอำนาจทำอะไรได้ทุกอย่างจริง ๆ เหรอ? และอันที่จริงแค่พ่อบ้านโม่ไปร่วมงานก็พอแล้ว”

“ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าท่านแข็งแกร่งพอที่จะทำอะไรก็ได้!” หลิงยี่เทียนพูดขึ้น “ท่านน้ามี่ไล นางก็เป็นครอบครัวเดียวกับเรา อย่างน้อยท่านก็ควรไปช่วยนางนะท่านพ่อ!”

หลิงตู้ฉิงมองไปที่สีหน้าของเด็ก ๆ จากนั้นก็มองไปที่หลิวเฟ่ยเฟ่ย ถังชี่หยุนและคนอื่น ๆ จากนั้นเขาพูดอย่างหมดหนทาง “เฮ้อ….ในเมื่อพวกเจ้ารวมหัวกันกดดันแบบนี้ ข้าคงจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้วสินะ เอาล่ะ งั้นตอนนี้พวกเราจะกลับไปที่คฤหาสน์กันทันที!”

“ท่านพ่อ ท่านจะไม่ไปงานประมูลจริง ๆ เหรอ?” หลิงฟ่างหัวถาม

“เมื่อพวกเจ้ากลับถึงคฤหาสน์แล้วพวกเจ้าจะรู้เอง!” หลิงตู้ฉิงพูด

ในท้ายที่สุด กลุ่มของหลิงตู้ฉิงที่เพิ่งมาถึงศาลาศักดิ์สิทธิ์ก็กลับไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ของพวกเขาทันที

ภายในลานคฤหาสน์สราญรมย์ ขณะนี้หลิงตู้ฉิงได้นั่งอยู่บนเก้าอี้และตะโกนขึ้น

“มา! เดี๋ยวพ่อจะให้พวกเจ้าได้ดูอะไรสนุก ๆ หน่อย เดี๋ยวพวกเจ้าก็รู้เอง”

หลังจากที่เขาพูดจบ หลิงตู้ฉิงได้เปิดใช้งานค่ายกลของคฤหาสน์ เพื่อเพิ่มระดับการบ่มเพาะไปจนถึงขอบเขตนภาระดับสูงสุดทันที

หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงได้วาดนิ้วขึ้นกลางอากาศ เขาวาดนิ้วลากเป็นรูปทรงเลขาคณิตทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ ส่งผลให้ที่กลางอากาศบังเกิดเป็นจอภาพขนาดใหญ่ที่กำลังแสดงให้เห็นถึงภาพของงานประมูลปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ ทุกคนที่มองจอนี้อยู่จึงมีแต่ความโง่งม

ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจากอาคารประมูลตระกูลมี่มากกว่า 10 ลี้ แต่ทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังมองเหตุการณ์ในงานประมูลราวกับพวกเขาได้ไปนั่งอยู่ที่นั่นด้วยตัวเอง

“เอาล่ะตอนนี้พวกเราก็มาดูกันว่าตระกูลมี่จะสร้างความวุ่นวายได้ขนาดไหน!” หลิงตู้ฉิงสลายระดับการบ่มเพาะของเขาและนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเกียจคร้านมองไปที่งานประมูลตรงหน้า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 153 จอภาพวิเศษ

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 153 จอภาพวิเศษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 153 จอภาพวิเศษ

หลังจากที่หลี่จือหลิงคิดสักพัก นางก็ยอมแพ้ เนื่องจาก ‘ราคา’ ที่นางต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปและที่สำคัญกว่านั้นแม้ว่านางจะเลื่อนระดับไปยังระดับสิบสามได้ในตอนนี้ เส้นทางการบ่มเพาะของนางในอนาคตมันก็ยังยากลำบากอยู่ดี

แต่นางยังอดนึกถึงความสามารถอันแปลกประหลาดของหลิงตู้ฉิงไม่ได้ เขาสามารถรู้ได้ยังไงว่านางมีร่ายดรุณีหยก?

“ข้าสามารถมอบวัสดุระดับสูงให้ท่านเพื่อและกับให้ท่านสร้างสมบัติระดับวิญญาณให้ข้าได้ไหม?” หลี่จือหลิงถาม

นางได้ยินจากเหลียงเจี๋ยมาก่อนหน้านี้แล้วว่าความสามารถในการสร้างสมบัติวิเศษของหลิงตู้ฉิงนั้นล้ำลึกและทรงพลังมาก ในเมื่อวันนี้นางได้มาเจอเขาแล้วและนางยังไม่ได้รับประโยชน์อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่ ฉะนั้นตอนนี้นางจึงเหลือตัวเลือกสุดท้ายคือขอให้หลิงตู้ฉิงสร้างสมบัติวิเศษให้แทน และแอบลอบจดจำเทคนิคการสร้างสมบัติของเขาแล้วนำเทคนิคกลับไปบอกอาจารย์หลอมสมบัติของสำนักเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเคล็ดการสร้างสมบัติของหลิงตู้ฉิง

“ได้แน่นอน!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “เมื่อเจ้าต้องการให้ข้าสร้างเมื่อไหร่ เจ้านำวัตถุดิบต่าง ๆ มาให้ข้าได้เลย แต่ถ้าเจ้าต้องการดูข้าสร้างด้วยแล้วล่ะก็ เจ้าต้องให้วัสดุระดับสูงแก่ข้าอีกชิ้น”

หลี่จือหลิง เมื่อได้ยินว่านางจะต้องถูกคิดราคาเพิ่มหากนางต้องการดูหลิงตู้ฉิงสร้างสมบัติ นางถึงกับพูดไม่ออกถึงความเห็นแก่เงินของเขา

“ข้าจะเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ และส่งให้ท่านเมื่อของทุกอย่างถูกรวบรวมจนครบ” หลี่จือหลิงพูด จากนั้นนางก็หันหลังเดินออกไป สิ่งเดียวที่นางเสียใจคือนางใช้วัสดุระดับสูงไปหลายชิ้น แต่นางไม่สามารถหาเบาะแสหรือข้อมูลอะไรได้เลย

 เมื่อเห็นหลี่จือหลิงจากไป มี่ไลเดินมาถาม “นายท่าน นางมาถามอะไร?”

หลิงตู้ฉิยิ้มและพูดว่า “ผู้หญิงคนนี้เล่ห์เหลี่ยมของนางนั้นแพรวพราวอยู่พอตัวเลยทีเดียว วันนี้นางมาที่นี่เพื่อสืบข้อมูลเกี่ยวกับตัวข้า”

มี่ไลถามอย่างเร่งรีบ “นายท่าน ท่านไม่ได้ตกหลุมพรางของนางใช่ไหม?”

“ลูกไม้แค่นั้นจะมาใช้กับข้าได้ยังไง? วันนี้ข้าได้ให้บทเรียนกับนางไปเล็กน้อยเพียงเท่านั้น ถ้านางแลกเปลี่ยนกับข้าอย่างยุติธรรม ข้าก็จะให้ผลประโยชน์กับนางอย่างยุติธรรม แต่ถ้าหากว่านางต้องการเล่นแง่กับข้า ข้าก็จะเล่นกับนาง ตอนนี้ข้าได้วัสดุระดับสูงมาเปล่า ๆ 3 ชิ้นโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย แถมนางยังไม่ได้ข้อมูลอะไรสักอย่าง!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ

มี่ไลหอมไปที่แก้มของหลิงตู้ฉิงและกล่าวชม “นายท่านของข้ายอดเยี่ยมที่สุด!”

แม้ว่านางจะไม่ได้อยู่ร่วมห้องกับหลิงตู้ฉิงในตอนนี้ แต่หลังจากที่ได้รับการยืนยันว่านางเป็นผู้หญิงของหลิงตู้ฉิงนางก็เลิกสนใจเรื่องอื่น ๆ และเริ่มเข้าใกล้เขาทุกครั้งที่มีโอกาส

นางเชื่อว่าในสักวันหนึ่ง หลิงตู้ฉิงจะต้องรู้แจ้ง

หลังจากที่หลี่จือหลิงออกมา กลุ่มคนที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูก็มองเข้าไปในคฤหาสน์สราญรมย์ด้วยความสนใจ

เจ้าของคฤหาสน์สราญรมย์นี้มีทีเด็ดอะไรกันแน่ ถึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาหลายคนที่เข้าไปต้องยอมคุยด้วยอย่างสันติ หรือแม้แต่เทพธิดาแห่งสำนักบุปผาจันทรายังเข้าไปเสียสิ่งของระดับสูงให้กับหลิงตู้ฉิงเพื่อถามคำถาม

หลายคนกัดฟันหยิบวัสดุระดับสูงออกมาและเข้าไปหาหลิงตู้ฉิง

แน่นอนว่าตราบใดที่พวกเขาตั้งใจทำการแลกเปลี่ยนที่จริงใจและซื่อสัตย์พวกเขาทุกคนล้วนต่างได้สิ่งที่ต้องการ แต่ถ้ามาเพื่อหาข้อมูลหรือเล่ห์เหลี่ยมแบบหลี่จือหลิง พวกคนเหล่านั้นจะไม่ได้อะไรติดมือกลับไปเลยสักอย่าง ยกเว้นก็แต่ข้อมูลที่ไม่สลักสำคัญอะไร

วันเวลาผ่านไปทีละวัน ในพริบตาก็เป็นวันที่สอง เดือนสอง ซึ่งเป็นวันที่มี่ตั้วตั้วกำหนดให้เป็นวันงานประมูล ผู้คนมากมายมารวมตัวกันที่หอประมูลของตระกูลมี่

แต่การประมูลนี้หลิงตู้ฉิงไม่ได้ไปร่วมงาน

ในสายตาของหลิงตู้ฉิงนั้นการประมูลครั้งนี้ไม่มีความหมายอะไรกับเขาเลย

หากสินค้าที่ประมูลเป็นสิ่งที่น่าสนใจหรือเป็นสิ่งของที่อยู่ในระดับราชวงศ์ขึ้นไป เขาเชื่อว่าตระกูลมี่จะนำของเหล่านั้นมาให้กับเขาก่อนที่นำพวกมันไปประมูล

หากเรื่องแค่นี้มี่ตั้วตั้วยังคิดไม่ได้ หอการค้ามี่ตั้วตั้วจะไม่มีทางพัฒนามาจนถึงปัจจุบันนี้ได้แน่นอน

ดังนั้นวันนี้หลิงตู้ฉิงจึงพาเด็ก ๆ ไปที่ ศาลาศักดิ์สิทธิ์เพื่อเข้าชั้นเรียนตามปกติ

ไม่เพียงแต่เขาไม่ได้ไปที่หอประมูลตะกูลมี่ แม้แต่เสี่ยวเยว่เฟิง หลิวเฟ่ยเฟ่ย และ ถังชี่หยุนก็ไม่ได้ไปร่วมงาน

ในตอนนี้จะมีก็แต่ มี่ไลและโม่หยูถัง ที่หลิงตู้ฉิงสั่งให้ไปที่หอประมูลตะกูลมี่

วันนี่เป็นวันสำคัญของตระกูลมี่ มี่ไลจึงต้องการมีส่วนร่วมให้มากที่สุด ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงไม่ขัดขวางนาง นอกจากนี้เขายังให้มี่ไลยืมหลิงจู้เพื่อนำไปปกป้องตัวนางเองกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในงานประมูล

สำหรับโม่หยูถังที่มาด้วยนั้นเป็นเพราะหลิงตู้ฉิงได้สัญญากับมี่ตั้วตั้วไว้แล้วว่าจะช่วยเหลือเขาเมื่อยามจำเป็น ฉะนั้นถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลมี่จริง ๆ โม่หยูถังจะเป็นปราการด่านสุดท้ายในการยับยั้งภัยคุกคามต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับมี่ตั้วตั้วและมี่ไล

เมื่อเห็นว่ามีเพียงมี่ไลและโม่หยูถังเท่านั้นที่อยู่ที่นี่ มี่ตั้วตั้วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

เขารู้ดีว่าถ้าหลิงตู้ฉิงอยู่ที่นี่ด้วย เขาจะไม่จำเป็นต้องกังวลถึงความปลอดภัยของเขาแม้แต่น้อย

ความแข็งแกร่งของหลิงตู้ฉิงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์นั้นเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ไม่กล้ามองข้ามและโดยเฉพาะที่หลาย ๆ คนก็ได้เห็นกับตาหรือสัมผัสกับตัวมาแล้ว

อย่างไรก็ตามมี่ตั้วตั้วเองได้เตรียมการไว้แล้วในกรณีที่หลิงตู้ฉิงไม่มางานประมูลของเขา แม้ว่าเขาจะผิดหวังแต่เขาก็ยังมีแผนสำรองไว้รับมือ

“ท่านพ่อ ท่านเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วใช่ไหม?” มี่ไลถามอย่างกังวล

วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากสำหรับตระกูลมี่ ดังนั้นนางจึงกังวลมากเกี่ยวกับความเป็นความตายของตระกูลนาง

มี่ตั้วตั้วยิ้ม “พ่อเตรียมพร้อมแล้ว พ่อได้เจรจากับเผ่าอสูรทมิฬเรียบร้อยแล้วหากใครต้องการลองดีกับตระกูลมี่ของเราในวันนี้ พ่อจะทำให้ที่นี่กลายเป็นทะเลเลือด!”

เมื่อจบประโยค มี่ตั้วตั้วหันไปหาโม่หยูถังและกล่าวต่อ “ท่านพ่อบ้าน หากเหตุการณ์ในวันนี้เลยเถิดจนอยู่เหนือการควบคุมของทางเรา ข้าขอรบกวนท่านพ่อบ้านช่วยเหลือพวกเราตระกูลมี่ด้วย!”

โม่หยูถังหัวเราะ “ท่านผู้นำตระกูลมี่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง นายท่านของข้าได้กำชับมาเรียบร้อยแล้วว่าข้าจะต้องให้ความช่วยเหลือท่านจนสุดความสามารถ แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่ข้าอยากจะบอกท่านไว้ก่อน ในตอนนี้ร่างกายข้าเองยังมีปัญหาอยู่ ฉะนั้นข้าสามารถปลดปล่อยพลังของข้าอย่างเต็มที่ได้เพียงแค่ครั้งเดียวและช่วงเวลาที่ปลดปล่อยพลังได้นั้นยาวเพียงแค่ 1 ลมหายใจ หลังจากช่วงเวลา 1 ลมหายใจข้าจะไม่เหลือพลังให้ใช้อีก”

“ท่านพ่อบ้าน ท่านบอกข้าได้ไหมว่าในอดีตท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับการบ่มเพาะไหน?” มี่ตั้วตั้วถาม

โม่หยูถังตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ท่านจะรู้เองเมื่อถึงเวลา แต่ข้าจะบอกท่านอีกอย่างถ้าข้าใช้พลังอย่างเต็มที่แล้วและยังไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ให้ท่านได้ นั่นแสดงว่าหายนะที่เกิดขึ้นกับตระกูลท่านในวันนี้นั้นคงร้ายแรงถึงระดับสวรรค์ถล่ม เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะเหลืออยู่เพียงหน้าที่เดียวคือ พาแม่นางมี่กลับไปหานายท่านของข้า ฉะนั้นเมื่อถึงเวลา ท่านอย่าได้โทษข้าที่แล้งน้ำใจ”

มี่ตั้วตั้วหัวเราะอย่างขมขื่น เขาไม่รู้ว่าโม่หยูถังได้ความมั่นใจมาจากไหน

วันนี้จากที่เขาประเมินสถานการณ์อย่างคร่าว ๆ หากดูจากที่มีสำนักมากมายเข้าร่วมการประมูลอย่างน้อย ๆ ทุกสำนักจะต้องส่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภามาบ้างไม่มากก็น้อยและนี่ยังไม่นับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแสงดาราอีกจำนวนมาก หากเกิดความวุ่นวายขึ้นมาจริง ๆ โม่หยูถังจะควบคุมสถานการณ์ได้จริงหรือ?

“ท่านพ่อบ้านโปรดไปนั่งกับลูกสาวของข้าในห้องพิเศษก่อนเถอะ” มี่ตั้วตั้วเชื้อเชิญ

มี่ไลมองไปที่มี่ตั้วตั้วอย่างเป็นห่วง นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต่อหลิงตู้ฉิง

ก่อนที่นางจะมาที่นี่ นางเองขอร้องหลิงตู้ฉิงอยู่เป็นเวลานานให้มากับนาง แต่หลิงตู้ฉิงก็ยังไม่มา

ในเวลานี้ภายในศาลาศักดิ์สิทธิ์ หลิงว่านถิงและคนอื่น ๆ กำลังมองหลิงตู้ฉิงด้วยสายตาที่ไม่พอใจ “ท่านพ่อ ท่านจะไม่ไปช่วยท่านน้าจริง ๆ เหรอ?”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “นี่พวกเจ้าคิดว่าพ่อมีอำนาจทำอะไรได้ทุกอย่างจริง ๆ เหรอ? และอันที่จริงแค่พ่อบ้านโม่ไปร่วมงานก็พอแล้ว”

“ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าท่านแข็งแกร่งพอที่จะทำอะไรก็ได้!” หลิงยี่เทียนพูดขึ้น “ท่านน้ามี่ไล นางก็เป็นครอบครัวเดียวกับเรา อย่างน้อยท่านก็ควรไปช่วยนางนะท่านพ่อ!”

หลิงตู้ฉิงมองไปที่สีหน้าของเด็ก ๆ จากนั้นก็มองไปที่หลิวเฟ่ยเฟ่ย ถังชี่หยุนและคนอื่น ๆ จากนั้นเขาพูดอย่างหมดหนทาง “เฮ้อ….ในเมื่อพวกเจ้ารวมหัวกันกดดันแบบนี้ ข้าคงจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้วสินะ เอาล่ะ งั้นตอนนี้พวกเราจะกลับไปที่คฤหาสน์กันทันที!”

“ท่านพ่อ ท่านจะไม่ไปงานประมูลจริง ๆ เหรอ?” หลิงฟ่างหัวถาม

“เมื่อพวกเจ้ากลับถึงคฤหาสน์แล้วพวกเจ้าจะรู้เอง!” หลิงตู้ฉิงพูด

ในท้ายที่สุด กลุ่มของหลิงตู้ฉิงที่เพิ่งมาถึงศาลาศักดิ์สิทธิ์ก็กลับไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ของพวกเขาทันที

ภายในลานคฤหาสน์สราญรมย์ ขณะนี้หลิงตู้ฉิงได้นั่งอยู่บนเก้าอี้และตะโกนขึ้น

“มา! เดี๋ยวพ่อจะให้พวกเจ้าได้ดูอะไรสนุก ๆ หน่อย เดี๋ยวพวกเจ้าก็รู้เอง”

หลังจากที่เขาพูดจบ หลิงตู้ฉิงได้เปิดใช้งานค่ายกลของคฤหาสน์ เพื่อเพิ่มระดับการบ่มเพาะไปจนถึงขอบเขตนภาระดับสูงสุดทันที

หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงได้วาดนิ้วขึ้นกลางอากาศ เขาวาดนิ้วลากเป็นรูปทรงเลขาคณิตทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ ส่งผลให้ที่กลางอากาศบังเกิดเป็นจอภาพขนาดใหญ่ที่กำลังแสดงให้เห็นถึงภาพของงานประมูลปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ ทุกคนที่มองจอนี้อยู่จึงมีแต่ความโง่งม

ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจากอาคารประมูลตระกูลมี่มากกว่า 10 ลี้ แต่ทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังมองเหตุการณ์ในงานประมูลราวกับพวกเขาได้ไปนั่งอยู่ที่นั่นด้วยตัวเอง

“เอาล่ะตอนนี้พวกเราก็มาดูกันว่าตระกูลมี่จะสร้างความวุ่นวายได้ขนาดไหน!” หลิงตู้ฉิงสลายระดับการบ่มเพาะของเขาและนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเกียจคร้านมองไปที่งานประมูลตรงหน้า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+