พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 170 ประสบการณ์ครั้งแรก

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 170 ประสบการณ์ครั้งแรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 170 ประสบการณ์ครั้งแรก

วันถัดมา ข่าวใหญ่อีกข่าวได้ปะทุขึ้นในเมืองหลวง

ข่าวนั้นคือ แม่ทัพหลิงเจิ้งสงได้กราบทูลต่อจักรพรรดิให้พระราชทานงานสมรสให้กับหลิงตู้ฉิงหลานชายของเขาและองค์หญิงเหลียงเฟ่ยเอ๋อ

สิ่งที่น่าแปลกของข่าวนี้ก็คือ ถึงแม้หลิงตู้ฉิงกำลังจะแต่งงานกับจ้าวเหมิงลู่ จักรพรรดิเหลียงซานกลับเห็นด้วยกับงานแต่งของหลานสาวและได้ประกาศราชโองการพระราชทานงานสมรสนี้ในทันที

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกก็คือเหลียงซานได้กำหนดวันงานสมรสไว้กระชั้นชิดมาก

เขากำหนดให้งานสมรสของเหลียงเฟ่ยเอ๋อ จัดขึ้นในวันที่ 5 ของเดือน 4 และพิธีการทุกอย่างจะถูกดำเนินแบบเรียบง่ายและรวดเร็วให้งานสมรสจบไวที่สุด ซึ่งถ้ายึดจากวันกำหนดการที่ประกาศออกมา หลังจากที่หลิงตู้ฉิงแต่งงานกับจ้าวเหมิงลู่ได้เพียง 1 เดือน เขาจะต้องเข้าพิธีสมรสกับเหลียงเฟ่ยเอ๋อทันที

การประกาศงานสมรสที่กระชั้นชิด รูปแบบการจัดที่เรียบง่ายและเร่งรัดเช่นนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

การจัดงานเช่นนี้มันสมฐานะขององค์หญิงงั้นเหรอ? ทำไมมันเหมือนกับเป็นการใช้องค์หญิงเป็นเครื่องมือในการผูกมัดหลิงตู้ฉิงไว้กับราชวงศ์?

เหลียงเฟ่ยเอ๋อที่ได้ยินการประกาศเช่นนี้ของปู่นาง นางรู้สึกผิดหวังและอับอายเป็นอย่างมาก

 แต่ยังโชคดีที่ทุกวันนี้นางได้พูดคุยกับจ้าวเหมิงลู่และหลิงตู้ฉิงบ่อยมาก นางได้รับการปลอบประโลมจากพวกเขาเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้นางเองเริ่มไม่สนใจกับคำนินทาของผู้คนมากมาย จนตอนนี้นางเองก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้เข้าไปในคฤหาสน์สราญรมย์

และในที่สุดวันที่ 3 มีนาคมงานแต่งงานของหลิงตู้ฉิงและจ้าวเหมิงลู่ยังคงเป็นไปตามกำหนดการ

กงหนิวลากรถม้าไปยังตระกูลจ้าว

เมื่อไปถึงที่หมายบรรดาคนในคฤหาสน์สราญรมย์จำนวน 10 กว่าคนก็ได้ออกมาจากรถม้าของหลิงตู้ฉิง ซึ่งทำให้ผู้คนที่มาร่วมงานล้วนตกตะลึงกับภาพที่เห็น

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่โลกได้เห็นความมหัศจรรย์ของรถม้าของหลิงตู้ฉิงว่ารถม้านี้สามารถรองรับคนได้จำนวนมาก และชื่อเสียงของรถม้านี้ยังตอกย้ำถึงความมหัศจรรย์ของตระกูลหลิงได้

“ช่างเป็นตระกูลที่มหัศจรรย์จริง ๆ แม้แต่รถม้าที่ใช้เดินทางยังเป็นพาหนะวิเศษเช่นนี้!”

“รถม้าคันนี้มันไม่จำเป็นต้องมีสัตว์วิเศษใด ๆ มาลากมันงั้นเหรอ?” หยุนตงไห่พึมพำกับตัวเอง

ย้อนกลับไปตอนนั้นเมื่อหลิงตู้ฉิงเพิ่งมาถึงเมืองหลวง และเขาเกิดอยากได้รถม้านี้แล้วเริ่มมีความขัดแย้งกับหลิงตู้ฉิงจนเขาเกือบจะตายด้วยน้ำมือของเสี่ยวเยว่เฟิง

เมื่อชื่อเสียงของโม่หยูถังและเสี่ยวเยว่เฟิงถูกเปิดเผย เขามักจะฝันร้ายเพราะความกลัวว่าจะถูกฆ่าทุกค่ำคืน

การมีเรื่องกับผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับสูงเช่นนี้ เขาอาจจะตายโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อเขาเห็นรถม้านี้ในงานแต่งงานของหลิงตู้ฉิง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียววันหลังวาบขึ้นมา

หลิงตู้ฉิงปฏิบัติตามผู้นำพิธีของเจ้าภาพอย่างอดทน ในที่สุดขั้นตอนการแต่งงานก็สิ้นสุดลง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแต่งงานในสองช่วงชีวิตของเขา

จากนั้นตระกูลจ้าวได้ส่งจ้าวเหมิงลู่ขึ้นรถม้า และทุกคนที่มาจากคฤหาสน์สราญรมย์ก็ขึ้นรถม้าตามไปเช่นกันแล้วพวกเขาก็จากไปยังคฤหาสน์พวกเขาทันที

จริง ๆ แล้วจ้าวเหมิงลู่ได้เข้าไปในคฤหาสน์สราญรมย์หลายครั้งแล้วและนางยังเคยใช้เวลาอยู่กับหลิงตู้ฉิงมาเป็นเวลานาน มารยาทและพิธีการเหล่านั้นมีไว้ให้คนนอกดูเท่านั้น ดังนั้นตอนนี้นางจึงไม่ใส่ใจกับมารยาทอีกแล้ว

เมื่อกลับไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ ด้วยประตูของคฤหาสน์ที่ยังคงปิดสนิท

หลายคนที่ตามมาส่งของขวัญไม่รู้จะทำอย่างไร แต่สถานการณ์ก็คลี่คลายลง เพราะท้ายที่สุดก็เป็นจู้กว่างเต๋อและบรรดาผู้รับใช้คนอื่น ๆ ก็ออกมารับของขวัญที่หน้าประตู

อันที่จริงบรรดาผู้คนที่ตามมามอบของขวัญให้ถึงคฤหาสน์สราญรมย์ พวกเขาตั้งใจว่าอยากจะใช้โอกาสนี้ในการเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อทำความรู้จักหลิงตู้ฉิง แต่แล้วพวกเขากลับถูกปฏิเสธเนื่องจากว่าวันนี้หลิงตู้ฉิงประกาศงดรับแขก 1 วัน เนื่องจากตอนนี้เขาไม่ว่าง เพราะว่าเขาถูกชักชวนโดยเจ้าสาวของเขาให้เข้าห้องหอ!

พวกที่มาส่งของขวัญเมื่อได้รับการปฏิเสธเช่นนี้ พวกเขาจึงจากไปทีละคนด้วยใบหน้าหดหู่

ตอนนี้บรรยากาศภายในคฤหาสน์สราญรมย์นั้นมีแต่เสียงหัวเราะ

ขณะนี้ทุกคนต่างช่วยกันส่งหลิงตู้ฉิงและจ้าวเหมิงลู่เข้าไปที่ห้องหอ

หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในห้อง หลิงตู้ฉิงนั่งนิ่งลงบนเตียงและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

จ้าวเหมิงลู่กัดริมฝีปากพร้อมกับลดศีรษะลง และพูดกับหลิงตู้ฉิงอย่างเขิน ๆ ว่า “สามีของข้า ในเมื่อเราแต่งงานกันแล้วต่อไปนี้ข้าจะฟังทุกอย่างที่ท่านพูด แต่สำหรับในคืนนี้มันยังมีบางอย่างที่ท่านต้องเรียนรู้ ฉะนั้นในคืนนี้ท่านต้องฟังข้าและปฏิบัติตามที่ข้าบอกแทน ท่านเข้าใจนะ?”

จริง ๆ แล้วนางเองในตอนนี้ก็รู้สึกกังวลเพราะถ้าหลิงตู้ฉิงไม่ฟังนาง พวกเขาก็ไม่สามารถเป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริงได้

หลิงตู้ฉิงมองไปยังจ้างเหมิงลู่และพูดกับนางด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “มี่ไลและเฟ่ยเฟ่ย ย้ำกับข้าให้ข้าปฏิบัติตามที่เจ้าบอกทุกอย่างในคืนนี้ ดังนั้นเจ้าช่วยบอกทีข้าต้องทำอย่างไรต่อไป”

จ้าวเหมิงลู่มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความเขินอาย ใบหน้าของนางแดงเถือก อย่างไรก็ตามเมื่อคิดว่ายังไงซะนางกับเขาก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว นางจึงเต็มใจที่จะนำเขา

นางถอดเสื้อผ้าของหลิงตู้ฉิงอย่างเขินอาย ในขณะที่หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วเนื่องจากเขาไม่เข้าใจสิ่งที่จ้าวเหมิงลู่ต้องการจะทำ

ไม่นานหลังจากนั้น จ้าวเหมิงลู่ก็ถอดเสื้อผ้าของนาง จากนั้นภายใต้การหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์ของทั้งคู่ สถานะของนางก็เปลี่ยนไปเป็นภรรยาอย่างเต็มตัว

ในที่สุดหลิงตู้ฉิงก็เข้าใจ นี่คือสิ่งที่มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยพูดถึงมาตลอด?

เมื่อทั้งสองคนกำลังสนุกด้วยกัน การปะทุของอารมณ์ระหว่างทั้งสองกลับทำให้พลังวิญญาณของบริเวณรอบ ๆ เริ่มรวมตัวและพุ่งเข้าสู่ร่างกายของหลิงตู้ฉิงราวกับเขื่อนแตก

เมื่อรู้สึกได้เช่นนี้ หลิงตู้ฉิงก็รีบลุกขึ้นนั่งและจัดการกับบรรดาพลังวิญญาณจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาในตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง หากเขาไม่จัดระเบียบการหลั่งไหลของพลังวิญญาณให้ดี ระดับขอบเขตของเขาจะทะลวงไปยังขอบเขตประสานทะเลปราณทันที ซึ่งเขาไม่ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น

จ้าวเหมิงลู่ที่เห็นภาพเช่นนี้นางรู้สึกกระอักกระอ่วน อับอาย รู้สึกผิดและเสียใจในเวลาเดียวกัน

ในคืนเข้าหอเจ้าบ่าวกลับนั่งอยู่ในห้องเพื่อบ่มเพาะ?

เมื่อนางอยู่ในอารมณ์หม่นหมองได้สักพัก นางก็ปลงตก นางได้แต่คิดว่าโชคดีแล้วที่อย่างน้อย ๆ ในวันนี้เขาก็ได้เข้าใจแล้วว่าคู่สามีภรรยาควรทำอะไรกัน

เมื่อเห็นว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว นางจึงยังนั่งดูอยู่ข้าง ๆ หลิงตู้ฉิง นางเองก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของพลังวิญญาณรอบ ๆ ห้องที่กำลังไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของเขา ดังนั้นถึงแม้ว่านางจะหดหู่ แต่นางก็ไม่รบกวนเขา

หลิงตู้ฉิงนั่งอยู่ที่นั่นตลอดทั้งคืน

เมื่อเขาลืมตา จ้าวเหมิงลู่ก็พูดอย่างเขิน ๆ ว่า “สามี ข้าจะช่วยท่านแต่งตัว!”

หลิงตู้ฉิงกระพริบตาปริบ ๆ และยอมให้จ้าวเหมิงลู่ช่วยใส่เสื้อผ้าให้เขา เขาจับตัวจ้าวเหมิงลู่ไว้ในอ้อมแขน

ในเวลานี้เขาเริ่มเข้าใจความสัมพันธ์อันแท้จริงระหว่างชายหญิงแล้ว

จ้าวเหมิงลู่กอดเขาตอบอย่างเชื่อฟัง หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็จับมือกันและพากันเดินเข้าไปในห้องโถงคฤหาสน์

หลิงยู่ชานพาน้องทั้งหกของเขาโค้งคำนับอย่างเคารพและทักทายหลิงตู้ฉิงกับจ้าวเหมิงลู่ จากนั้นเขาก็เรียกจ้าวเหมิงลู่ว่าท่านแม่ จ้าวเหมิงลู่ทักทายลูบหัวลูบบ่าเด็ก ๆ ทีละคนอย่างมีความสุข จากนั้นคนอื่น ๆ ก็เข้ามาทักทายนาง

หลังจากนั้นเด็ก ๆ ก็เริ่มรบกวนจ้าวเหมิงลู่โดยเฉพาะคนเล็กสุดอย่างหลิงไช่หยุน นางออดอ้อนอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะให้จ้าวเหมิงลู่อุ้มนาง

จ้าวเหมิงลู่ เมื่อเห็นการกระทำเช่นนี้ของเหล่าเด็ก ๆ นางรู้สึกมีความสุขมาก นางพอใจกับบรรยากาศครอบครัวของนางอย่างลึกซึ้ง พลางคิดในใจที่นางช่างโชคดีที่ได้มาพบกับหลิงตู้ฉิง

หลังจากที่พูดคุยหยอกล้อสนิทสนมกันมากว่าครึ่งวัน ในที่สุดเด็ก ๆ ก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมของตัวเอง

สำหรับหลิงตู้ฉิง เขากำลังนั่งงุนงงไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

ในขณะที่หลิงตู้ฉิงยังคงงุนงง มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยแอบดึงจ้าวเหมิงลู่เข้าไปในห้องอย่างเงียบ ๆ พวกนางกระซิบว่า “พี่หญิง ท่านได้ร่วมหอหรือยัง?”

จ้าวเหมิงลู่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มเขินอาย

มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ย เมื่อเห็นว่าจ้าวเหมิงลู่พยักหน้า พวกนางมองหน้ากันอย่างเขิน ๆ จากนั้นพวกนางมองกลับไปที่จ้าวเหมิงลู่

จ้าวเหมิงลู่พูดด้วยความเข้าใจ “เราจะเป็นพี่น้องกันในอนาคต แต่เราต้องเฝ้าดูหลังบ้านอย่างใกล้ชิด หากพวกเราไม่ระวังอาจจะมีคนอื่นมาเพิ่มอีกในอนาคต!”

มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยพยักหน้าหนัก ๆ อย่างจริงจัง

จริง ๆ แล้วพวกนางวางแผนว่าในเมื่อตอนนี้หลิงตู้ฉิงได้รู้วิธีการทำ ‘เรื่องอย่างว่า’ เป็นแล้ว เร็ว ๆ นี้พวกนางคงจะต้องลองเข้าไปหาหลิงตู้ฉิง เพื่อให้เขาทำให้พวกนางเป็นผู้หญิงตระกูลหลิงเต็มตัว

อย่างไรก็ตาม จ้าวเหมิงลู่เพิ่งแต่งงาน ดังนั้นพวกนางจึงคิดว่าอาจจะรอเวลาให้ผ่านไปสักหลายวันหน่อย พวกนางไม่ต้องการรบกวนพวกเขาในเวลานี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 170 ประสบการณ์ครั้งแรก

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 170 ประสบการณ์ครั้งแรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 170 ประสบการณ์ครั้งแรก

วันถัดมา ข่าวใหญ่อีกข่าวได้ปะทุขึ้นในเมืองหลวง

ข่าวนั้นคือ แม่ทัพหลิงเจิ้งสงได้กราบทูลต่อจักรพรรดิให้พระราชทานงานสมรสให้กับหลิงตู้ฉิงหลานชายของเขาและองค์หญิงเหลียงเฟ่ยเอ๋อ

สิ่งที่น่าแปลกของข่าวนี้ก็คือ ถึงแม้หลิงตู้ฉิงกำลังจะแต่งงานกับจ้าวเหมิงลู่ จักรพรรดิเหลียงซานกลับเห็นด้วยกับงานแต่งของหลานสาวและได้ประกาศราชโองการพระราชทานงานสมรสนี้ในทันที

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกก็คือเหลียงซานได้กำหนดวันงานสมรสไว้กระชั้นชิดมาก

เขากำหนดให้งานสมรสของเหลียงเฟ่ยเอ๋อ จัดขึ้นในวันที่ 5 ของเดือน 4 และพิธีการทุกอย่างจะถูกดำเนินแบบเรียบง่ายและรวดเร็วให้งานสมรสจบไวที่สุด ซึ่งถ้ายึดจากวันกำหนดการที่ประกาศออกมา หลังจากที่หลิงตู้ฉิงแต่งงานกับจ้าวเหมิงลู่ได้เพียง 1 เดือน เขาจะต้องเข้าพิธีสมรสกับเหลียงเฟ่ยเอ๋อทันที

การประกาศงานสมรสที่กระชั้นชิด รูปแบบการจัดที่เรียบง่ายและเร่งรัดเช่นนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

การจัดงานเช่นนี้มันสมฐานะขององค์หญิงงั้นเหรอ? ทำไมมันเหมือนกับเป็นการใช้องค์หญิงเป็นเครื่องมือในการผูกมัดหลิงตู้ฉิงไว้กับราชวงศ์?

เหลียงเฟ่ยเอ๋อที่ได้ยินการประกาศเช่นนี้ของปู่นาง นางรู้สึกผิดหวังและอับอายเป็นอย่างมาก

 แต่ยังโชคดีที่ทุกวันนี้นางได้พูดคุยกับจ้าวเหมิงลู่และหลิงตู้ฉิงบ่อยมาก นางได้รับการปลอบประโลมจากพวกเขาเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้นางเองเริ่มไม่สนใจกับคำนินทาของผู้คนมากมาย จนตอนนี้นางเองก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้เข้าไปในคฤหาสน์สราญรมย์

และในที่สุดวันที่ 3 มีนาคมงานแต่งงานของหลิงตู้ฉิงและจ้าวเหมิงลู่ยังคงเป็นไปตามกำหนดการ

กงหนิวลากรถม้าไปยังตระกูลจ้าว

เมื่อไปถึงที่หมายบรรดาคนในคฤหาสน์สราญรมย์จำนวน 10 กว่าคนก็ได้ออกมาจากรถม้าของหลิงตู้ฉิง ซึ่งทำให้ผู้คนที่มาร่วมงานล้วนตกตะลึงกับภาพที่เห็น

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่โลกได้เห็นความมหัศจรรย์ของรถม้าของหลิงตู้ฉิงว่ารถม้านี้สามารถรองรับคนได้จำนวนมาก และชื่อเสียงของรถม้านี้ยังตอกย้ำถึงความมหัศจรรย์ของตระกูลหลิงได้

“ช่างเป็นตระกูลที่มหัศจรรย์จริง ๆ แม้แต่รถม้าที่ใช้เดินทางยังเป็นพาหนะวิเศษเช่นนี้!”

“รถม้าคันนี้มันไม่จำเป็นต้องมีสัตว์วิเศษใด ๆ มาลากมันงั้นเหรอ?” หยุนตงไห่พึมพำกับตัวเอง

ย้อนกลับไปตอนนั้นเมื่อหลิงตู้ฉิงเพิ่งมาถึงเมืองหลวง และเขาเกิดอยากได้รถม้านี้แล้วเริ่มมีความขัดแย้งกับหลิงตู้ฉิงจนเขาเกือบจะตายด้วยน้ำมือของเสี่ยวเยว่เฟิง

เมื่อชื่อเสียงของโม่หยูถังและเสี่ยวเยว่เฟิงถูกเปิดเผย เขามักจะฝันร้ายเพราะความกลัวว่าจะถูกฆ่าทุกค่ำคืน

การมีเรื่องกับผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับสูงเช่นนี้ เขาอาจจะตายโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อเขาเห็นรถม้านี้ในงานแต่งงานของหลิงตู้ฉิง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียววันหลังวาบขึ้นมา

หลิงตู้ฉิงปฏิบัติตามผู้นำพิธีของเจ้าภาพอย่างอดทน ในที่สุดขั้นตอนการแต่งงานก็สิ้นสุดลง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแต่งงานในสองช่วงชีวิตของเขา

จากนั้นตระกูลจ้าวได้ส่งจ้าวเหมิงลู่ขึ้นรถม้า และทุกคนที่มาจากคฤหาสน์สราญรมย์ก็ขึ้นรถม้าตามไปเช่นกันแล้วพวกเขาก็จากไปยังคฤหาสน์พวกเขาทันที

จริง ๆ แล้วจ้าวเหมิงลู่ได้เข้าไปในคฤหาสน์สราญรมย์หลายครั้งแล้วและนางยังเคยใช้เวลาอยู่กับหลิงตู้ฉิงมาเป็นเวลานาน มารยาทและพิธีการเหล่านั้นมีไว้ให้คนนอกดูเท่านั้น ดังนั้นตอนนี้นางจึงไม่ใส่ใจกับมารยาทอีกแล้ว

เมื่อกลับไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ ด้วยประตูของคฤหาสน์ที่ยังคงปิดสนิท

หลายคนที่ตามมาส่งของขวัญไม่รู้จะทำอย่างไร แต่สถานการณ์ก็คลี่คลายลง เพราะท้ายที่สุดก็เป็นจู้กว่างเต๋อและบรรดาผู้รับใช้คนอื่น ๆ ก็ออกมารับของขวัญที่หน้าประตู

อันที่จริงบรรดาผู้คนที่ตามมามอบของขวัญให้ถึงคฤหาสน์สราญรมย์ พวกเขาตั้งใจว่าอยากจะใช้โอกาสนี้ในการเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อทำความรู้จักหลิงตู้ฉิง แต่แล้วพวกเขากลับถูกปฏิเสธเนื่องจากว่าวันนี้หลิงตู้ฉิงประกาศงดรับแขก 1 วัน เนื่องจากตอนนี้เขาไม่ว่าง เพราะว่าเขาถูกชักชวนโดยเจ้าสาวของเขาให้เข้าห้องหอ!

พวกที่มาส่งของขวัญเมื่อได้รับการปฏิเสธเช่นนี้ พวกเขาจึงจากไปทีละคนด้วยใบหน้าหดหู่

ตอนนี้บรรยากาศภายในคฤหาสน์สราญรมย์นั้นมีแต่เสียงหัวเราะ

ขณะนี้ทุกคนต่างช่วยกันส่งหลิงตู้ฉิงและจ้าวเหมิงลู่เข้าไปที่ห้องหอ

หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในห้อง หลิงตู้ฉิงนั่งนิ่งลงบนเตียงและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

จ้าวเหมิงลู่กัดริมฝีปากพร้อมกับลดศีรษะลง และพูดกับหลิงตู้ฉิงอย่างเขิน ๆ ว่า “สามีของข้า ในเมื่อเราแต่งงานกันแล้วต่อไปนี้ข้าจะฟังทุกอย่างที่ท่านพูด แต่สำหรับในคืนนี้มันยังมีบางอย่างที่ท่านต้องเรียนรู้ ฉะนั้นในคืนนี้ท่านต้องฟังข้าและปฏิบัติตามที่ข้าบอกแทน ท่านเข้าใจนะ?”

จริง ๆ แล้วนางเองในตอนนี้ก็รู้สึกกังวลเพราะถ้าหลิงตู้ฉิงไม่ฟังนาง พวกเขาก็ไม่สามารถเป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริงได้

หลิงตู้ฉิงมองไปยังจ้างเหมิงลู่และพูดกับนางด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “มี่ไลและเฟ่ยเฟ่ย ย้ำกับข้าให้ข้าปฏิบัติตามที่เจ้าบอกทุกอย่างในคืนนี้ ดังนั้นเจ้าช่วยบอกทีข้าต้องทำอย่างไรต่อไป”

จ้าวเหมิงลู่มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความเขินอาย ใบหน้าของนางแดงเถือก อย่างไรก็ตามเมื่อคิดว่ายังไงซะนางกับเขาก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว นางจึงเต็มใจที่จะนำเขา

นางถอดเสื้อผ้าของหลิงตู้ฉิงอย่างเขินอาย ในขณะที่หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วเนื่องจากเขาไม่เข้าใจสิ่งที่จ้าวเหมิงลู่ต้องการจะทำ

ไม่นานหลังจากนั้น จ้าวเหมิงลู่ก็ถอดเสื้อผ้าของนาง จากนั้นภายใต้การหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์ของทั้งคู่ สถานะของนางก็เปลี่ยนไปเป็นภรรยาอย่างเต็มตัว

ในที่สุดหลิงตู้ฉิงก็เข้าใจ นี่คือสิ่งที่มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยพูดถึงมาตลอด?

เมื่อทั้งสองคนกำลังสนุกด้วยกัน การปะทุของอารมณ์ระหว่างทั้งสองกลับทำให้พลังวิญญาณของบริเวณรอบ ๆ เริ่มรวมตัวและพุ่งเข้าสู่ร่างกายของหลิงตู้ฉิงราวกับเขื่อนแตก

เมื่อรู้สึกได้เช่นนี้ หลิงตู้ฉิงก็รีบลุกขึ้นนั่งและจัดการกับบรรดาพลังวิญญาณจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาในตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง หากเขาไม่จัดระเบียบการหลั่งไหลของพลังวิญญาณให้ดี ระดับขอบเขตของเขาจะทะลวงไปยังขอบเขตประสานทะเลปราณทันที ซึ่งเขาไม่ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น

จ้าวเหมิงลู่ที่เห็นภาพเช่นนี้นางรู้สึกกระอักกระอ่วน อับอาย รู้สึกผิดและเสียใจในเวลาเดียวกัน

ในคืนเข้าหอเจ้าบ่าวกลับนั่งอยู่ในห้องเพื่อบ่มเพาะ?

เมื่อนางอยู่ในอารมณ์หม่นหมองได้สักพัก นางก็ปลงตก นางได้แต่คิดว่าโชคดีแล้วที่อย่างน้อย ๆ ในวันนี้เขาก็ได้เข้าใจแล้วว่าคู่สามีภรรยาควรทำอะไรกัน

เมื่อเห็นว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว นางจึงยังนั่งดูอยู่ข้าง ๆ หลิงตู้ฉิง นางเองก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของพลังวิญญาณรอบ ๆ ห้องที่กำลังไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของเขา ดังนั้นถึงแม้ว่านางจะหดหู่ แต่นางก็ไม่รบกวนเขา

หลิงตู้ฉิงนั่งอยู่ที่นั่นตลอดทั้งคืน

เมื่อเขาลืมตา จ้าวเหมิงลู่ก็พูดอย่างเขิน ๆ ว่า “สามี ข้าจะช่วยท่านแต่งตัว!”

หลิงตู้ฉิงกระพริบตาปริบ ๆ และยอมให้จ้าวเหมิงลู่ช่วยใส่เสื้อผ้าให้เขา เขาจับตัวจ้าวเหมิงลู่ไว้ในอ้อมแขน

ในเวลานี้เขาเริ่มเข้าใจความสัมพันธ์อันแท้จริงระหว่างชายหญิงแล้ว

จ้าวเหมิงลู่กอดเขาตอบอย่างเชื่อฟัง หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็จับมือกันและพากันเดินเข้าไปในห้องโถงคฤหาสน์

หลิงยู่ชานพาน้องทั้งหกของเขาโค้งคำนับอย่างเคารพและทักทายหลิงตู้ฉิงกับจ้าวเหมิงลู่ จากนั้นเขาก็เรียกจ้าวเหมิงลู่ว่าท่านแม่ จ้าวเหมิงลู่ทักทายลูบหัวลูบบ่าเด็ก ๆ ทีละคนอย่างมีความสุข จากนั้นคนอื่น ๆ ก็เข้ามาทักทายนาง

หลังจากนั้นเด็ก ๆ ก็เริ่มรบกวนจ้าวเหมิงลู่โดยเฉพาะคนเล็กสุดอย่างหลิงไช่หยุน นางออดอ้อนอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะให้จ้าวเหมิงลู่อุ้มนาง

จ้าวเหมิงลู่ เมื่อเห็นการกระทำเช่นนี้ของเหล่าเด็ก ๆ นางรู้สึกมีความสุขมาก นางพอใจกับบรรยากาศครอบครัวของนางอย่างลึกซึ้ง พลางคิดในใจที่นางช่างโชคดีที่ได้มาพบกับหลิงตู้ฉิง

หลังจากที่พูดคุยหยอกล้อสนิทสนมกันมากว่าครึ่งวัน ในที่สุดเด็ก ๆ ก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมของตัวเอง

สำหรับหลิงตู้ฉิง เขากำลังนั่งงุนงงไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

ในขณะที่หลิงตู้ฉิงยังคงงุนงง มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยแอบดึงจ้าวเหมิงลู่เข้าไปในห้องอย่างเงียบ ๆ พวกนางกระซิบว่า “พี่หญิง ท่านได้ร่วมหอหรือยัง?”

จ้าวเหมิงลู่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มเขินอาย

มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ย เมื่อเห็นว่าจ้าวเหมิงลู่พยักหน้า พวกนางมองหน้ากันอย่างเขิน ๆ จากนั้นพวกนางมองกลับไปที่จ้าวเหมิงลู่

จ้าวเหมิงลู่พูดด้วยความเข้าใจ “เราจะเป็นพี่น้องกันในอนาคต แต่เราต้องเฝ้าดูหลังบ้านอย่างใกล้ชิด หากพวกเราไม่ระวังอาจจะมีคนอื่นมาเพิ่มอีกในอนาคต!”

มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยพยักหน้าหนัก ๆ อย่างจริงจัง

จริง ๆ แล้วพวกนางวางแผนว่าในเมื่อตอนนี้หลิงตู้ฉิงได้รู้วิธีการทำ ‘เรื่องอย่างว่า’ เป็นแล้ว เร็ว ๆ นี้พวกนางคงจะต้องลองเข้าไปหาหลิงตู้ฉิง เพื่อให้เขาทำให้พวกนางเป็นผู้หญิงตระกูลหลิงเต็มตัว

อย่างไรก็ตาม จ้าวเหมิงลู่เพิ่งแต่งงาน ดังนั้นพวกนางจึงคิดว่าอาจจะรอเวลาให้ผ่านไปสักหลายวันหน่อย พวกนางไม่ต้องการรบกวนพวกเขาในเวลานี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+