พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 322 ตำนานกล้วยไม้หยกแห่งเมืองหยูหลัน

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 322 ตำนานกล้วยไม้หยกแห่งเมืองหยูหลัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 322 ตำนานกล้วยไม้หยกแห่งเมืองหยูหลัน

ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่หลิงตู้ฉิงพูด

เพราะแม้จะลองจ้องดูเป็นเวลานาน เย่หยูหลันและโม่เอ๋อก็ยังไม่เห็นอะไรแปลก ๆ เกี่ยวกับเมืองหยูหลันตามที่หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นมาแม้แต่น้อย

เมืองหยูหลันเป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่มานานเป็นหมื่นปี

ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลานาน แต่รูปแบบค่ายกลและสภาพของกำแพงเมืองสีขาวยังคงดูสมบูรณ์แบบ

แต่ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะมีกำแพงเมืองตั้งตระหง่านปกป้องขอบเขตเมืองอยู่รอบด้าน แต่ที่ประตูเมืองก็ไม่มีทหารยามคอยดูแลความสงบ ไม่มีทหารประจำการณ์ใด ๆ ที่ไว้คอยปกป้องเมืองและเมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าเมือง

สภาพแวดล้อมของเมืองหยูหลันเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล มันเป็นเมืองที่คนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถมาและไปได้อย่างอิสระ มันไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ใด ๆ คอยกำหนดคัดกรองผู้มาเยือน

อย่างไรก็ตาม หากมีใครบางคนที่พยายามจะทำลายวิถีความเป็นอยู่ที่มีมาตั้งแต่โบราณกาลของเมืองแห่งนี้ โดยต้องการจะยึดครองมันเอาไว้เป็นของตัวเอง คนผู้นั้นจะต้องพบกับหายนะและจบชีวิตลงอย่างแปลก ๆ

ด้วยเหตุนี้อาณาจักรอื่น ๆ ที่อยู่รายล้อมจึงไม่มีความตั้งใจใด ๆ ที่จะยึดครองเมืองหยูหลันแห่งนี้ไปเข้าร่วมกับอาณาจักรของตนเอง

ถึงแม้จะไม่สามารถยึดครองเมืองทั้งเมืองได้ แต่เหล่าสำนักและบรรดาอาณาจักรทั้งหลายต่างก็มีที่ดินของตัวเองอยู่ภายในเมือง

และทุกคนต่างรู้ดีว่าในเมืองหยูหลันมีกฎเหล็กอยู่ 1 ข้อที่ไม่ได้ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ทุกคนต่างรู้กันดีนั่นก็คือ ห้ามมีการใช้กำลังใด ๆ กันในเมืองอย่างเด็ดขาด หากเกิดความขัดแย้งใด ๆ พวกเขาจะต้องไปสะสางกันที่นอกเมืองเท่านั้น หากมีการใช้กำลังกันเกิดขึ้นในเมืองจนก่อให้เกิดความเสียหายหรือความวุ่นวาย คนเหล่านั้นจะถูกอำนาจปริศนาลงทัณฑ์ทันที

ขณะนี้กลุ่มของหลิงตู้ฉิงได้เหยียบย่างเข้ามาภายในเขตเมืองหยูหลันเรียบร้อยแล้ว

“หาเรือนสักหลังและปักหลักก่อน!” หลิงตู้ฉิงสั่งขึ้น

เมื่อได้ยินคำสั่ง เสี่ยวเยว่เฟิงแสดงสีหน้ากระอักอ่วนและตอบกลับว่า “เอ่อ…นายท่าน นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามาที่เมืองหยูหลัน ข้าเองก็ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกับเมืองนี้สักเท่าไหร่…”

“ฮ่า! นี่คงเป็นครั้งแรกที่พวกท่านทั้งหลายมาที่เมืองหยูหลันสินะ หากพวกท่านกำลังหลงทางหรือต้องการคำแนะนำอะไรเกี่ยวกับเมืองนี้ ข้าสามารถแนะนำและเป็นผู้นำทางให้พวกท่านได้ ข้าอาศัยอยู่ในเมืองนี้ตั้งแต่เกิดหากจะพูดถึงความคุ้นเคยที่ข้ามีกับเมืองนี้แล้ว ข้ารับประกันว่าข้าไม่เป็นสองรองใครแน่นอน!” เด็กชายตัวน้อยที่อยู่ใกล้ ๆ กับพวกของหลิงตู้ฉิง บังเอิญได้ยินการสนทนาของพวกเขาพอดี เขาจึงถือโอกาสเดินเข้าหาพวกเขาหวังว่าจะได้เศษเหรียญจากการนำทาง

เด็กน้อยผู้นี้ที่ดูแล้วอายุไม่น่าเกิน 10 ขวบ ตัวสูงไม่เกิน 1 เมตรแถมร่างกายของเขายังผอมซูบ ซึ่งมองยังไงก็รู้ว่าขาดสารอาหาร

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพยักหน้า “อันดับแรกพาพวกเราไปหาเช่าเรือนกันก่อน จากนั้นเจ้าค่อยเล่าให้พวกเราฟังเกี่ยวกับทุกอย่างที่เจ้ารู้ในเมืองหยูหลัน”

มี่ไลและผู้หญิงคนอื่น ๆ เมื่อเห็นสภาพการแต่งกายของเด็กน้อยผู้นี้ พวกนางก็ถามเขาด้วยความเป็นห่วง “น้องชายเจ้าอายุเท่าไหร่? แล้วเจ้ามีชื่อว่าอะไร?”

เด็กคนนั้นมองไปที่บรรดาสาว ๆ ที่ถามเขา และพูดว่า “พี่สาวทั้งหลาย แซ่ของข้าคือโม่ แต่ทุกคนเรียกข้าว่าโม่น้อย เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะพาพวกท่านไปหาเช่าเรือนดี ๆ สักหลัง แต่ก่อนจะไปพวกท่านจะว่าอะไรไหมหากข้าจะขอให้พวกท่านจ่ายค่าจ้างเป็นเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณให้กับข้าก่อน”

หลิวเฟ่ยเฟ่ยรีบพูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงพวกเราจ่ายค่าจ้างให้เจ้าอยู่แล้วแน่นอน!”

เย่ชิงเฉิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง นางเผยรอยยิ้มและพูดว่า “เดี๋ยวข้าจะให้เหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิกับเจ้าไปก่อนล่วงหน้า แต่เจ้าต้องพาเราไปหาเช่าเรือนที่ดีที่สุด!”

หลังจากที่นางพูดจบ นางก็โยนเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิให้โม่น้อยแบบสบาย ๆ

เมื่อเห็นเช่นนี้ มี่ไลกับหลิวเฟ่ยเฟ่ยถึงกับพูดไม่ออก หญิงผู้นี้แสดงความร่ำรวยออกมาอีกแล้วสินะ นี่นางถึงกับจ้างเด็กนำทางด้วยเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิเนี่ยนะ? นางรู้บ้างไหมว่ามูลค่าของมันมีค่ามากแค่ไหน?

โม่น้อยรีบเก็บเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิไว้ในกระเป๋ากางเกงอย่างร้อนรน จากนั้นเขาพยักหน้าและพูดด้วยเสียงสั่นเพราะความตื่นเต้น “ไม่ต้องห่วง ข้าจะพาพวกท่านไปที่ที่ดีที่สุดในเมืองหยูหลันแน่นอน!”

เมื่อพูดจบ โม่น้อยจึงเริ่มออกวิ่งนำหน้ากลุ่มของหลิงตู้ฉิงเพื่อพาไปหาเรือนสำหรับเช่าทันที

ที่เขาจำเป็นต้องวิ่งนั่นก็เพราะระดับการบ่มเพาะของเขาต่ำเกินไป ระดับการบ่มเพาะของเขาเพียงแค่อยู่ในขอบเขตควบแน่นลมปราณเท่านั้น ถ้าเขาค่อย ๆ เดินนำทางไปในเมืองหยูหลันใครจะรู้ว่าต้องเดินอยู่ในเมืองหยูหลันที่ใหญ่โตนี้นานแค่ไหน

สำหรับหลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ พวกเขาเดินตามหลังโม่น้อยไปอย่างสบาย ๆ

หลังจากวิ่งมาเป็นเวลานาน โม่น้อยก็หยุดลง เขาพูดไปหอบไปว่า “ย่านที่อยู่อาศัยข้างหน้าของพวกเราเป็นย่านที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่อาศัยในเมืองหยูหลัน นอกจากนี้พวกท่านต้องเคยได้ยินตำนานของเมืองหยูหลันใช่ไหม? และสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ใกล้สระหยูหลัน”

เสี่ยวเยว่เฟิงพยักหน้า “แม้ว่าข้าจะไม่เคยมาที่เมืองหยูหลันมาก่อน แต่ข้าก็เคยได้ยินตำนานของเมืองหยูหลันอยู่บ้าง”

เยว่ชิงเฉิงถามอย่างสงสัย “ตำนานอะไร?”

โม่น้อยมองไปที่เยว่ชิงเฉิงและพูดกับทุกคนว่า “ทุก ๆ 500 ปี กล้วยไม้หยก 2 ดอกจะเบ่งบานขึ้นในเมืองหยูหลัน! ด้วยสรรพคุณของมันที่เป็นโอสถระดับสวรรค์ กล้วยไม้หยกนี้สามารถเพิ่มระดับการบ่มเพาะและความแข็งแกร่งได้หลังจากกินมันเข้าไป”

“หากนับจากนี้ก็จะเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 3 ปี กล้วยไม้หยกก็จะเบ่งบานขึ้นอีกครั้งและเนื่องจากรอบก่อนหน้านี้ กล้วไม้หยกก็เบ่งบานขึ้นในสระหยูหลัน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่มันจะเกิดในสระหยูหลันอีกครั้งในรอบนี้”

“หากพวกท่านมาที่นี่เป็นครั้งแรก พวกท่านก็น่าจะลองเสี่ยงดวงกับโอกาสนี้ดูสักหน่อย หากใครในพวกท่านโชคดีได้รับกล้วยไม้หยก หนึ่งในพวกท่านอาจสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาของตัวเองได้ ตอนนี้ตำนานของเมืองหยูหลันได้แพร่กระจายมากขึ้นไปเรื่อย ๆ และหลาย ๆ คนก็มาถึงเมืองหยูหลันล่วงหน้าแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่ก็พักอาศัยอยู่ย่านนี้ที่ใกล้สระหยูหลันเพื่อรอโอกาสนี้เช่นกัน”

“แต่เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากมาเพราะเชื่อในตำนานนี้ ดังนั้นบรรดาเรือนทั้งหลายที่ยิ่งอยู่ใกล้ริมสระหยูหลันมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งมีราคาแพงขึ้นมากเท่านั้น และจากที่ข้าดูลักษณะของพวกท่านแล้วข้าเชื่อว่าพวกท่านคงไม่ได้ขาดเงินแน่นอน แต่น่าเสียดายที่บรรดาเรือนที่มีอยู่ไม่กี่หลังที่ใกล้กับสระหยูหลันได้ถูกยึดครองโดยสำนักที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงไปแล้วและพวกท่านก็ไม่ควรไปยั่วยุพวกเขา ดังนั้นเดี๋ยวข้าจะลองพาพวกท่านไปดูเรือนที่ห่างออกไปอีกเล็กน้อย ซึ่งมันคงไม่น่าจะลดโอกาสของพวกท่านลงไปสักเท่าไหร่”

เย่ชิงเฉิงขึ้นเสียง “นี่เจ้า! เจ้าจะพาพวกข้าไปอยู่ด้านหลังได้ยังไง โม่เอ๋อ! ไปดูเรือนที่อยู่ในจุดที่ดีที่สุดมา 2 หลัง และไปบอกให้สำนักที่ครอบครองพวกมันอยู่ยกพวกมันให้เราเดี๋ยวนี้ และอีกอย่างประกาศออกไปด้วยว่า กล้วยไม้หยกทั้ง 2 ดอกนั้น พวกเราจองพวกมันทั้งหมด!”

นางมีฐานะระดับไหนกัน? นางจำเป็นต้องไว้หน้าสำนักเล็ก ๆ พวกนี้ที่อยู่ในเมืองนี้ด้วยงั้นเหรอ?

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่โม่เอ๋อกำลังจะจากไป หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องไป เราจะเลือกเรือนที่อยู่ในพื้นที่สูงที่สุดที่มองเห็นพื้นที่โดยรอบเมืองแทน ไม่งั้นเราอาจจะพลาดชมการแสดงที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในเมืองนี้ได้”

เนื่องจากหลิงตู้ฉิงออกปากมาแล้ว เย่ชิงเฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ซึ่งโม่เอ๋อเองก็ไม่ได้ออกไปทำตามคำสั่งนางต่อ

เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงเอ่ยปากเช่นนี้ โม่น้อยก็พยักหน้าและพูดว่า “งั้นข้าจะพาพวกท่านไปยังเรือนที่อยู่พื้นที่ที่สูงขึ้น”

ผ่านไปสักพัก โม่น้อยก็พาหลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ เดินขึ้นไปบนภูเขาลูกเล็ก ๆ ที่อยู่ในเมือง เมื่อไปถึงยอดเขา เด็กน้อยชี้ลงไปที่สระที่อยู่ไม่ไกลจากตีนเขาและพูดว่า “สระนั้นคือสระหยูหลันและหากเป็นไปอย่างที่ทุกคนคาดไว้ กล้วยไม้หยกทั้งหมดจะปรากฏที่สระนั่น แต่กล้วยไม้หยกจะแปลกอยู่สักหน่อยก็ตรงที่เมื่อไหร่ที่ดอกของมันบานขึ้น มันจะเบ่งบานอยู่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ถ้าไม่รีบเก็บและใช้มันโดยไว มันจะเหี่ยวเฉาและสลายไปอย่างรวดเร็ว เอาล่ะข้าหวังว่าพวกท่านจะโชคดีได้รับมันมาไว้ในครอบครอง”

เมื่อมองจากบนยอดเขา พวกของหลิงตู้ฉิงจะสามารถมองเห็นสระหยูหลันที่อยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจนว่าน้ำที่อยู่ในสระนั้นเป็นสีเขียวเข้ม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดคะเนได้ว่าสระหยูหลันลึกแค่ไหน

“สามี ข้าว่าพวกเราควรหาที่พักกันก่อนนะตอนนี้” มี่ไลแนะนำ

หลิงตู้ฉิงมองไปรอบ ๆ แล้วชี้ไปที่เรือนที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเราจะอยู่ที่นั่น!”

เรือนที่หลิงตู้ฉิงชี้ไปนั้นเป็นเรือนที่อยู่ในจุดที่สูงที่สุดแล้ว ซึ่งจากจุดนี้พวกเขาจะสามารถเห็นทัศนีย์ภาพของเมืองหยูหลันทั้งเมืองได้จากในเรือนเลยด้วยซ้ำ

“สามี กล้วยไม้หยก 2 ดอกนั่นมีค่าเท่ากับโอสถระดับสวรรค์ 2 เม็ด ดังนั้นเราควรจะชิงพวกมันมาให้ได้” มี่ไลแนะนำ “ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ใช้มัน แต่เราก็สามารถนำมันกลับไปให้ซินใช้ได้ หากนางได้ใช้พวกมันความแข็งแกร่งของนางจะพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดแน่นอน”

หลิงตู้ฉิงยิ้มแปลก ๆ และพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไป กล้วยไม้หยกจะปรากฎอยู่ใกล้ ๆ พวกเราแน่นอน!”

“หืม?” ทุกคนมองไปที่หลิงตู้ฉิงอย่างแปลกประหลาด เนื่องจากไม่รู้ว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงพูดแบบนั้น

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 322 ตำนานกล้วยไม้หยกแห่งเมืองหยูหลัน

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 322 ตำนานกล้วยไม้หยกแห่งเมืองหยูหลัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 322 ตำนานกล้วยไม้หยกแห่งเมืองหยูหลัน

ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่หลิงตู้ฉิงพูด

เพราะแม้จะลองจ้องดูเป็นเวลานาน เย่หยูหลันและโม่เอ๋อก็ยังไม่เห็นอะไรแปลก ๆ เกี่ยวกับเมืองหยูหลันตามที่หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นมาแม้แต่น้อย

เมืองหยูหลันเป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่มานานเป็นหมื่นปี

ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลานาน แต่รูปแบบค่ายกลและสภาพของกำแพงเมืองสีขาวยังคงดูสมบูรณ์แบบ

แต่ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะมีกำแพงเมืองตั้งตระหง่านปกป้องขอบเขตเมืองอยู่รอบด้าน แต่ที่ประตูเมืองก็ไม่มีทหารยามคอยดูแลความสงบ ไม่มีทหารประจำการณ์ใด ๆ ที่ไว้คอยปกป้องเมืองและเมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าเมือง

สภาพแวดล้อมของเมืองหยูหลันเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล มันเป็นเมืองที่คนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถมาและไปได้อย่างอิสระ มันไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ใด ๆ คอยกำหนดคัดกรองผู้มาเยือน

อย่างไรก็ตาม หากมีใครบางคนที่พยายามจะทำลายวิถีความเป็นอยู่ที่มีมาตั้งแต่โบราณกาลของเมืองแห่งนี้ โดยต้องการจะยึดครองมันเอาไว้เป็นของตัวเอง คนผู้นั้นจะต้องพบกับหายนะและจบชีวิตลงอย่างแปลก ๆ

ด้วยเหตุนี้อาณาจักรอื่น ๆ ที่อยู่รายล้อมจึงไม่มีความตั้งใจใด ๆ ที่จะยึดครองเมืองหยูหลันแห่งนี้ไปเข้าร่วมกับอาณาจักรของตนเอง

ถึงแม้จะไม่สามารถยึดครองเมืองทั้งเมืองได้ แต่เหล่าสำนักและบรรดาอาณาจักรทั้งหลายต่างก็มีที่ดินของตัวเองอยู่ภายในเมือง

และทุกคนต่างรู้ดีว่าในเมืองหยูหลันมีกฎเหล็กอยู่ 1 ข้อที่ไม่ได้ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ทุกคนต่างรู้กันดีนั่นก็คือ ห้ามมีการใช้กำลังใด ๆ กันในเมืองอย่างเด็ดขาด หากเกิดความขัดแย้งใด ๆ พวกเขาจะต้องไปสะสางกันที่นอกเมืองเท่านั้น หากมีการใช้กำลังกันเกิดขึ้นในเมืองจนก่อให้เกิดความเสียหายหรือความวุ่นวาย คนเหล่านั้นจะถูกอำนาจปริศนาลงทัณฑ์ทันที

ขณะนี้กลุ่มของหลิงตู้ฉิงได้เหยียบย่างเข้ามาภายในเขตเมืองหยูหลันเรียบร้อยแล้ว

“หาเรือนสักหลังและปักหลักก่อน!” หลิงตู้ฉิงสั่งขึ้น

เมื่อได้ยินคำสั่ง เสี่ยวเยว่เฟิงแสดงสีหน้ากระอักอ่วนและตอบกลับว่า “เอ่อ…นายท่าน นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามาที่เมืองหยูหลัน ข้าเองก็ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกับเมืองนี้สักเท่าไหร่…”

“ฮ่า! นี่คงเป็นครั้งแรกที่พวกท่านทั้งหลายมาที่เมืองหยูหลันสินะ หากพวกท่านกำลังหลงทางหรือต้องการคำแนะนำอะไรเกี่ยวกับเมืองนี้ ข้าสามารถแนะนำและเป็นผู้นำทางให้พวกท่านได้ ข้าอาศัยอยู่ในเมืองนี้ตั้งแต่เกิดหากจะพูดถึงความคุ้นเคยที่ข้ามีกับเมืองนี้แล้ว ข้ารับประกันว่าข้าไม่เป็นสองรองใครแน่นอน!” เด็กชายตัวน้อยที่อยู่ใกล้ ๆ กับพวกของหลิงตู้ฉิง บังเอิญได้ยินการสนทนาของพวกเขาพอดี เขาจึงถือโอกาสเดินเข้าหาพวกเขาหวังว่าจะได้เศษเหรียญจากการนำทาง

เด็กน้อยผู้นี้ที่ดูแล้วอายุไม่น่าเกิน 10 ขวบ ตัวสูงไม่เกิน 1 เมตรแถมร่างกายของเขายังผอมซูบ ซึ่งมองยังไงก็รู้ว่าขาดสารอาหาร

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพยักหน้า “อันดับแรกพาพวกเราไปหาเช่าเรือนกันก่อน จากนั้นเจ้าค่อยเล่าให้พวกเราฟังเกี่ยวกับทุกอย่างที่เจ้ารู้ในเมืองหยูหลัน”

มี่ไลและผู้หญิงคนอื่น ๆ เมื่อเห็นสภาพการแต่งกายของเด็กน้อยผู้นี้ พวกนางก็ถามเขาด้วยความเป็นห่วง “น้องชายเจ้าอายุเท่าไหร่? แล้วเจ้ามีชื่อว่าอะไร?”

เด็กคนนั้นมองไปที่บรรดาสาว ๆ ที่ถามเขา และพูดว่า “พี่สาวทั้งหลาย แซ่ของข้าคือโม่ แต่ทุกคนเรียกข้าว่าโม่น้อย เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะพาพวกท่านไปหาเช่าเรือนดี ๆ สักหลัง แต่ก่อนจะไปพวกท่านจะว่าอะไรไหมหากข้าจะขอให้พวกท่านจ่ายค่าจ้างเป็นเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณให้กับข้าก่อน”

หลิวเฟ่ยเฟ่ยรีบพูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงพวกเราจ่ายค่าจ้างให้เจ้าอยู่แล้วแน่นอน!”

เย่ชิงเฉิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง นางเผยรอยยิ้มและพูดว่า “เดี๋ยวข้าจะให้เหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิกับเจ้าไปก่อนล่วงหน้า แต่เจ้าต้องพาเราไปหาเช่าเรือนที่ดีที่สุด!”

หลังจากที่นางพูดจบ นางก็โยนเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิให้โม่น้อยแบบสบาย ๆ

เมื่อเห็นเช่นนี้ มี่ไลกับหลิวเฟ่ยเฟ่ยถึงกับพูดไม่ออก หญิงผู้นี้แสดงความร่ำรวยออกมาอีกแล้วสินะ นี่นางถึงกับจ้างเด็กนำทางด้วยเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิเนี่ยนะ? นางรู้บ้างไหมว่ามูลค่าของมันมีค่ามากแค่ไหน?

โม่น้อยรีบเก็บเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิไว้ในกระเป๋ากางเกงอย่างร้อนรน จากนั้นเขาพยักหน้าและพูดด้วยเสียงสั่นเพราะความตื่นเต้น “ไม่ต้องห่วง ข้าจะพาพวกท่านไปที่ที่ดีที่สุดในเมืองหยูหลันแน่นอน!”

เมื่อพูดจบ โม่น้อยจึงเริ่มออกวิ่งนำหน้ากลุ่มของหลิงตู้ฉิงเพื่อพาไปหาเรือนสำหรับเช่าทันที

ที่เขาจำเป็นต้องวิ่งนั่นก็เพราะระดับการบ่มเพาะของเขาต่ำเกินไป ระดับการบ่มเพาะของเขาเพียงแค่อยู่ในขอบเขตควบแน่นลมปราณเท่านั้น ถ้าเขาค่อย ๆ เดินนำทางไปในเมืองหยูหลันใครจะรู้ว่าต้องเดินอยู่ในเมืองหยูหลันที่ใหญ่โตนี้นานแค่ไหน

สำหรับหลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ พวกเขาเดินตามหลังโม่น้อยไปอย่างสบาย ๆ

หลังจากวิ่งมาเป็นเวลานาน โม่น้อยก็หยุดลง เขาพูดไปหอบไปว่า “ย่านที่อยู่อาศัยข้างหน้าของพวกเราเป็นย่านที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่อาศัยในเมืองหยูหลัน นอกจากนี้พวกท่านต้องเคยได้ยินตำนานของเมืองหยูหลันใช่ไหม? และสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ใกล้สระหยูหลัน”

เสี่ยวเยว่เฟิงพยักหน้า “แม้ว่าข้าจะไม่เคยมาที่เมืองหยูหลันมาก่อน แต่ข้าก็เคยได้ยินตำนานของเมืองหยูหลันอยู่บ้าง”

เยว่ชิงเฉิงถามอย่างสงสัย “ตำนานอะไร?”

โม่น้อยมองไปที่เยว่ชิงเฉิงและพูดกับทุกคนว่า “ทุก ๆ 500 ปี กล้วยไม้หยก 2 ดอกจะเบ่งบานขึ้นในเมืองหยูหลัน! ด้วยสรรพคุณของมันที่เป็นโอสถระดับสวรรค์ กล้วยไม้หยกนี้สามารถเพิ่มระดับการบ่มเพาะและความแข็งแกร่งได้หลังจากกินมันเข้าไป”

“หากนับจากนี้ก็จะเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 3 ปี กล้วยไม้หยกก็จะเบ่งบานขึ้นอีกครั้งและเนื่องจากรอบก่อนหน้านี้ กล้วไม้หยกก็เบ่งบานขึ้นในสระหยูหลัน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่มันจะเกิดในสระหยูหลันอีกครั้งในรอบนี้”

“หากพวกท่านมาที่นี่เป็นครั้งแรก พวกท่านก็น่าจะลองเสี่ยงดวงกับโอกาสนี้ดูสักหน่อย หากใครในพวกท่านโชคดีได้รับกล้วยไม้หยก หนึ่งในพวกท่านอาจสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาของตัวเองได้ ตอนนี้ตำนานของเมืองหยูหลันได้แพร่กระจายมากขึ้นไปเรื่อย ๆ และหลาย ๆ คนก็มาถึงเมืองหยูหลันล่วงหน้าแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่ก็พักอาศัยอยู่ย่านนี้ที่ใกล้สระหยูหลันเพื่อรอโอกาสนี้เช่นกัน”

“แต่เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากมาเพราะเชื่อในตำนานนี้ ดังนั้นบรรดาเรือนทั้งหลายที่ยิ่งอยู่ใกล้ริมสระหยูหลันมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งมีราคาแพงขึ้นมากเท่านั้น และจากที่ข้าดูลักษณะของพวกท่านแล้วข้าเชื่อว่าพวกท่านคงไม่ได้ขาดเงินแน่นอน แต่น่าเสียดายที่บรรดาเรือนที่มีอยู่ไม่กี่หลังที่ใกล้กับสระหยูหลันได้ถูกยึดครองโดยสำนักที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงไปแล้วและพวกท่านก็ไม่ควรไปยั่วยุพวกเขา ดังนั้นเดี๋ยวข้าจะลองพาพวกท่านไปดูเรือนที่ห่างออกไปอีกเล็กน้อย ซึ่งมันคงไม่น่าจะลดโอกาสของพวกท่านลงไปสักเท่าไหร่”

เย่ชิงเฉิงขึ้นเสียง “นี่เจ้า! เจ้าจะพาพวกข้าไปอยู่ด้านหลังได้ยังไง โม่เอ๋อ! ไปดูเรือนที่อยู่ในจุดที่ดีที่สุดมา 2 หลัง และไปบอกให้สำนักที่ครอบครองพวกมันอยู่ยกพวกมันให้เราเดี๋ยวนี้ และอีกอย่างประกาศออกไปด้วยว่า กล้วยไม้หยกทั้ง 2 ดอกนั้น พวกเราจองพวกมันทั้งหมด!”

นางมีฐานะระดับไหนกัน? นางจำเป็นต้องไว้หน้าสำนักเล็ก ๆ พวกนี้ที่อยู่ในเมืองนี้ด้วยงั้นเหรอ?

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่โม่เอ๋อกำลังจะจากไป หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องไป เราจะเลือกเรือนที่อยู่ในพื้นที่สูงที่สุดที่มองเห็นพื้นที่โดยรอบเมืองแทน ไม่งั้นเราอาจจะพลาดชมการแสดงที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในเมืองนี้ได้”

เนื่องจากหลิงตู้ฉิงออกปากมาแล้ว เย่ชิงเฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ซึ่งโม่เอ๋อเองก็ไม่ได้ออกไปทำตามคำสั่งนางต่อ

เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงเอ่ยปากเช่นนี้ โม่น้อยก็พยักหน้าและพูดว่า “งั้นข้าจะพาพวกท่านไปยังเรือนที่อยู่พื้นที่ที่สูงขึ้น”

ผ่านไปสักพัก โม่น้อยก็พาหลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ เดินขึ้นไปบนภูเขาลูกเล็ก ๆ ที่อยู่ในเมือง เมื่อไปถึงยอดเขา เด็กน้อยชี้ลงไปที่สระที่อยู่ไม่ไกลจากตีนเขาและพูดว่า “สระนั้นคือสระหยูหลันและหากเป็นไปอย่างที่ทุกคนคาดไว้ กล้วยไม้หยกทั้งหมดจะปรากฏที่สระนั่น แต่กล้วยไม้หยกจะแปลกอยู่สักหน่อยก็ตรงที่เมื่อไหร่ที่ดอกของมันบานขึ้น มันจะเบ่งบานอยู่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ถ้าไม่รีบเก็บและใช้มันโดยไว มันจะเหี่ยวเฉาและสลายไปอย่างรวดเร็ว เอาล่ะข้าหวังว่าพวกท่านจะโชคดีได้รับมันมาไว้ในครอบครอง”

เมื่อมองจากบนยอดเขา พวกของหลิงตู้ฉิงจะสามารถมองเห็นสระหยูหลันที่อยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจนว่าน้ำที่อยู่ในสระนั้นเป็นสีเขียวเข้ม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดคะเนได้ว่าสระหยูหลันลึกแค่ไหน

“สามี ข้าว่าพวกเราควรหาที่พักกันก่อนนะตอนนี้” มี่ไลแนะนำ

หลิงตู้ฉิงมองไปรอบ ๆ แล้วชี้ไปที่เรือนที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเราจะอยู่ที่นั่น!”

เรือนที่หลิงตู้ฉิงชี้ไปนั้นเป็นเรือนที่อยู่ในจุดที่สูงที่สุดแล้ว ซึ่งจากจุดนี้พวกเขาจะสามารถเห็นทัศนีย์ภาพของเมืองหยูหลันทั้งเมืองได้จากในเรือนเลยด้วยซ้ำ

“สามี กล้วยไม้หยก 2 ดอกนั่นมีค่าเท่ากับโอสถระดับสวรรค์ 2 เม็ด ดังนั้นเราควรจะชิงพวกมันมาให้ได้” มี่ไลแนะนำ “ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ใช้มัน แต่เราก็สามารถนำมันกลับไปให้ซินใช้ได้ หากนางได้ใช้พวกมันความแข็งแกร่งของนางจะพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดแน่นอน”

หลิงตู้ฉิงยิ้มแปลก ๆ และพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไป กล้วยไม้หยกจะปรากฎอยู่ใกล้ ๆ พวกเราแน่นอน!”

“หืม?” ทุกคนมองไปที่หลิงตู้ฉิงอย่างแปลกประหลาด เนื่องจากไม่รู้ว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงพูดแบบนั้น

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+