พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 437 ถึงสนามรบ

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 437 ถึงสนามรบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากได้ยินคำพูดของตู้ฉิว ทุกคนที่พยายามหยุดเขาก็ตกตะลึง

ไม่ใช่ว่าหลงเฉินเพิ่งนำตู้ฉิว และคนอื่น ๆ ออกไปเมื่อไม่ถึง 2 ชั่วโมงที่แล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงกลับมาพร้อมกับความตื่นตระหนกและพูดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับหลงเฉิน และมาขอความช่วยเหลือ? เขาเพิ่งพาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญมากมายออกไปหยก ๆ ไม่ทันไรตอนนี้พวกเขากลับมาเพื่อขอความช่วยเหลือ?

“สงบใจและอธิบายกับพวกข้ามาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น?” เหยียนฮ่าวหัวรีบเอ่ยขึ้นกับตู้ฉิว

ไม่ต้องพูดถึงเหยียนฮ่าวหัว คนอื่น ๆ ก็สงสัยเช่นกัน

หลงเฉินเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเผ่ามังกรแถมเขายังนำคนออกไปถึง 70 คน ซึ่งนับได้ว่าเป็นกองกำลังที่เกือบจะไร้เทียมทานอยู่แล้วหากเทียบกับกองกำลังทั้งหลายในทะเลชางหมาง แต่แล้วทำไมตอนนี้กลับมีเพียงแค่ 40 คนเท่านั้นที่หนีรอดกลับมาขอความช่วยเหลืออย่างตื่นตระหนก?

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกผู้ที่รอดมาได้ไม่รู้ก็คือแม้ว่าเหลียงเฟ่ยเอ๋อจะเปิดใช้งานเหรียญตราผนึกสวรรค์ควบคู่ไปกับความสามารถในการลอบสังหารของหลิงเทียนหยุน มันจะทำให้พวกเขาขนหัวลุกได้มาก แต่ถ้าหากว่าก่อนหน้าร่างเงานับสิบของหลิงเทียนหยุนไม่ได้ถูกทำลายลงไปตอนที่อยู่ในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ผลลัพธ์ที่ออกมาพวกเขาคงจะหนีรอดมาได้ไม่ถึง 20 คน แน่นอน

หลังจากได้ยินตู้ฉิวเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เหยียนฮ่าวหัวและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกหนาวไปถึงขั้วกระดูกและอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันด้วยความตื่นตระหนก

ตู้ฉิวพูดอย่างกังวลว่า “เร็วเข้า ตอนนี้ผู้บัญชาการหลงได้ตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกมันแล้ว พวกเราต้องรีบไปช่วยเขามิฉะนั้นมันจะสายเกินไป!”

ใครบางคนแสดงสีหน้าหวาดกลัวและพูดว่า “พวกมันต้องได้รู้ความลับและสมบัติทั้งหมดของทะเลชางหมางแล้วแน่นอน! ในเมื่อเป็นแบบนี้พวกเราจะเอาปัญญาที่ไหนไปช่วยผู้บัญชาการหลงได้กัน?”

หากต้องเผชิญหน้ากับสมบัติลับของทะเลชางหมางใครจะไม่กลัว? เอาแค่ข้อมูลของสมบัติเพียงไม่กี่ชิ้นที่พวกเขาได้ทราบมามันก็แปลกประหลาดจนพวกเขาไม่สามารถเข้าใจกันได้อยู่แล้ว

ใบหน้าของเหยียนฮ่าวหัวมืดหม่นลงเช่นกัน ถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาจะเป็นผู้รับผิดชอบการรบในทะเลชางหมาง แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญนับร้อยที่อยู่กับเขาตอนนี้ก็คือผู้คนที่อยู่ในระดับการบ่มเพาะเดียวกันกับเขา ถ้าคนเหล่านี้ไม่ฟัง เขาก็ไม่มีปัญญาอะไรจะไปบังคับได้เช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็รู้สึกกลัวมากเช่นกัน

“เราต้องไตร่ตรองเรื่องนี้ให้รอบคอบ!” เหยียนฮ่าวหัวพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ถ้าเราทำอะไรผลีผลาม ไม่เพียงแต่เราจะไม่สามารถช่วยผู้บัญชาการหลงได้ พวกเราเองก็คงไม่พ้นจะถูกจับไปด้วยเช่นกัน แถมอีกอย่าง ในเมื่อผู้บัญชาการหลงก็ถูกจับไปนานแล้ว หากมันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับจริง ๆ มันก็คงจะเกิดขึ้นไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้พวกเราต้องไม่ทำอะไรผลีผลาม!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้คนอื่น ๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย

ตู้ฉิวก็ทำอะไรไม่ถูกเพราะเขารู้สึกว่าคำพูดของเหยียนฮ่าวหัวนั้นถูกต้อง อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะได้ข้อสรุป พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของพลังวิญญาณอีกสายหนึ่งที่กำลังใกล้เข้ามา จนทำให้พวกเขาต้องหันไปมอง ซึ่งภาพที่พวกเขาเห็นมันก็ทำให้พวกเขาทุกคนต้องอ้าปากค้าง เพราะมันคือภาพของมังกรตัวหนึ่งกำลังลากรถม้าที่มีกลุ่มคนอีกหลายสิบบินตามอยู่ด้านหลัง

เมื่อเห็นเช่นนี้ ตู้ฉิวและเหยียนฮ่าวหัวที่กำลังตกตะลึงก็อุทานออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ผู้บัญชาการหลง…”

พวกเขาสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่ามังกรที่ลากรถม้าคือ หลงเฉิน!

ผู้เชี่ยวชาญของภูเขาเอ้อหลง หลงเฉินที่มีสายเลือดของมังกรที่แท้จริงได้กลายเป็นสัตว์วิเศษเทียมรถม้า? แถมบรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญหลายสิบคนที่ได้รับบาดเจ็บในตอนนี้พวกเขากลับหายดีหมดแล้วแถมยังดูเหมือนว่าได้กลายเป็นคนของฝั่งตรงข้ามไปแล้วอีกต่างหาก?

ตู้ฉิวและเหยียนฮ่าวหัว และคนอื่น ๆ ต่างมองกันอย่างตกตะลึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

ในขณะนี้หลงเฉินที่เห็นกลุ่มคนของตัวเองมองดูเขาด้วยสายตาตกตะลึง เขาก็ยิ่งรู้สึกเศร้าสลด

ครึ่งวันที่แล้วเขายังคงเป็นผู้บัญชาการของกลุ่มตรงข้ามเขา ครึ่งวันต่อมาเขากลับกลายเป็นสัตว์วิเศษเทียมรถม้าให้ฝั่งศัตรู…

เมื่อเห็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ 200 กว่าคนขวางอยู่ข้างหน้า เสี่ยวเยว่เฟิงเองก็ไม่กล้าที่จะทำผลีผลาม นางหยุดรถและตะโกนขึ้น “นายท่าน มีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญมากมายขวางทางอยู่ข้างหน้า!”

เมื่อได้ยินว่ามีคนขวางทาง หลิงตู้ฉิงจึงชะโงกหน้าออกมาจากหน้าต่างรถม้าและมองไปที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญที่ขวางทางและถามว่า “พวกเจ้าแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะขวางทางพวกข้า?”

เมื่อได้ยินคำถามเช่นนี้ เหยียนฮ่าวหัวก็ไม่รู้จะตอบอะไรกลับ

“รีบปล่อยผู้บัญชาการหลงของเรามา!” ตู้ฉิวคำราม

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดขึ้นว่า “แม้ว่าข้าจะปล่อยเขาไป เขาก็คงไม่กล้าที่จะจากไปกับพวกเจ้าหรอก! เอาล่ะ ถ้าพวกเจ้าไม่คิดจะขวางทางของข้าก็จงหลีกทางไป”

เมื่อเห็นว่ากลุ่มที่ขวางอยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตี หลิงตู้ฉิงจึงปิดหน้าต่างรถม้าพร้อมกับพูดกับเสี่ยวเยว่เฟิง “ออกรถได้!”

เสี่ยวเยว่เฟิงพยักหน้าเล็กน้อย และสั่งหลงเฉินว่า “ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้พวกเขาตายก็จงให้พวกเขาหลีกทางออกไป!”

หลงเฉินมองไปที่เหยียนฮ่าวหัวและคนอื่น ๆ อย่างเศร้าโศก ในขณะที่เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขมขื่น “พวกเจ้าจงหลีกทางไป ข้าต้องผ่านทางนี้!”

เมื่อได้ยินคำสั่งของหลงเฉิน บรรดาผู้ที่เขาเคยเป็นผู้บังคับบัญชาก็เริ่มปั่นป่วนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ

ส่วนทางด้านของหลงเฉินเองก็ไม่แน่ใจว่าพวกคนเหล่านี้ที่เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจะเชื่อฟังเขาหรือไม่ในตอนนี้ แต่เนื่องจากหลิงตู้ฉิงได้สั่งให้เขาเดินหน้าต่อไป เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินหน้า

ซึ่งอันที่จริงหากมีใครที่ก็ตามที่ลงมือกับเขา เขาเองก็ยังไม่รู้เลยเหมือนกันว่าจะตอบโต้กลับไปอย่างไรดี?

แต่โชคดีที่ไม่มีใครลงมือทำอะไรในขณะที่หลงเฉินลากรถม้าผ่าน เหยียนฮ่าวหัวและคนอื่น ๆ ต่างก็เปิดเส้นทางให้เขาไปอย่างเงียบ ๆ

หลังจากผ่านกลุ่มคนมาแล้ว หลงเฉินก็ลากรถม้ามุ่งไปยังสนามรบต่อทันที

ตู้ฉิวและเหยียนฮ่าวหัวต่างมองหน้ากันและถามว่า “แล้วเราจะทำอย่างไรกันต่อไปดี?”

หลังจากคิดสักพัก ทั้งสองคนก็พูดว่า “ตามไปดูกันก่อนก็แล้วกัน!”

หลังจากนั้นทั้งสองก็นำผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญทั้ง 250 คนไปที่สนามรบเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ในช่วงเวลาเพียงครู่เดียว กลุ่มของหลิงตู้ฉิงก็ได้มาถึงสนามรบและร่อนลงพื้น จากนั้นพวกเขาก็พากันออกมาจากรถม้าเพื่อดูสถานการณ์ในสนามรบจากระยะไกล ซึ่งพวกเขาก็สามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัดว่าในขณะนี้มีมังกรยักษ์ตัวหนึ่งกำลังพุ่งไปซ้ายทีขวาทีอยู่ที่ใจกลางกองทัพของอาณาจักรหลงซานนับล้านคนราวกับว่ามันกำลังถูกขังอยู่

“ท่านพ่อข้าจะไปช่วยพี่สี่” หลิงฟ่างหัวพูด

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ไปเถอะ แต่จงระวังตัวและอย่าลืมบอกพี่สี่ของเจ้าและคนอื่น ๆ ว่าเรามาถึงแล้ว และเรียกให้เขามาพบกับพ่อก่อน ส่วนคนอื่น ๆ อย่าพึ่งให้ทำอะไรผลีผลามในตอนนี้”

หลิงฟ่างหัวพยักหน้ารับทราบ จากนั้นร่างกายของนางก็จางหายไปต่อหน้าทุกคน ซึ่งมันคือสัญญาณที่นางใช้ทักษะเดินทางผ่านมิติไปยังใจกลางสนามรบ

เปลือกตาของหลงเฉินกระตุกเมื่อเห็นสิ่งนี้

นี่คือความสามารถที่เกิดขึ้นจากสมบัติมิติชิ้นนั้นที่เขาได้รับรายงานมางั้นเหรอ?

ต้องรู้ว่าในมหาพิภพไร้จุดจบนั้นมีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่มีความสามารถเกี่ยวกับมิติ

ในขณะนี้หลิงฟ่างหัวได้เดินทางผ่านมิติไปจนไปปรากฏตัวที่ด้านข้างมังกรตัวมหึมาเรียบร้อยแล้ว

“น้องห้า เจ้ามาแล้วงั้นเหรอ?” ร่างของหลิงว่านจุนปรากฏขึ้นจากร่างของมังกร

หลิงฟ่างหัวหัวเราะ “พี่สี่ ท่านพ่อและแม่ ๆ ได้มาถึงแล้ว เดี๋ยวข้าจะช่วยท่านเปิดเส้นทางฝ่าออกไป เมื่อครู่ท่านพ่อได้สั่งมาว่าให้ท่านออกไปพบกับเขา”

หลิงว่านจุนพยักหน้าและพูดว่า “อ่าเยี่ยมเลย ในเมื่อท่านพ่อได้มาถึงแล้ว ถ้าอย่างนั้นมันก็คงถึงเวลาที่ข้าจะต้องลงมือสักที”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 437 ถึงสนามรบ

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 437 ถึงสนามรบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากได้ยินคำพูดของตู้ฉิว ทุกคนที่พยายามหยุดเขาก็ตกตะลึง

ไม่ใช่ว่าหลงเฉินเพิ่งนำตู้ฉิว และคนอื่น ๆ ออกไปเมื่อไม่ถึง 2 ชั่วโมงที่แล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงกลับมาพร้อมกับความตื่นตระหนกและพูดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับหลงเฉิน และมาขอความช่วยเหลือ? เขาเพิ่งพาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญมากมายออกไปหยก ๆ ไม่ทันไรตอนนี้พวกเขากลับมาเพื่อขอความช่วยเหลือ?

“สงบใจและอธิบายกับพวกข้ามาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น?” เหยียนฮ่าวหัวรีบเอ่ยขึ้นกับตู้ฉิว

ไม่ต้องพูดถึงเหยียนฮ่าวหัว คนอื่น ๆ ก็สงสัยเช่นกัน

หลงเฉินเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเผ่ามังกรแถมเขายังนำคนออกไปถึง 70 คน ซึ่งนับได้ว่าเป็นกองกำลังที่เกือบจะไร้เทียมทานอยู่แล้วหากเทียบกับกองกำลังทั้งหลายในทะเลชางหมาง แต่แล้วทำไมตอนนี้กลับมีเพียงแค่ 40 คนเท่านั้นที่หนีรอดกลับมาขอความช่วยเหลืออย่างตื่นตระหนก?

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกผู้ที่รอดมาได้ไม่รู้ก็คือแม้ว่าเหลียงเฟ่ยเอ๋อจะเปิดใช้งานเหรียญตราผนึกสวรรค์ควบคู่ไปกับความสามารถในการลอบสังหารของหลิงเทียนหยุน มันจะทำให้พวกเขาขนหัวลุกได้มาก แต่ถ้าหากว่าก่อนหน้าร่างเงานับสิบของหลิงเทียนหยุนไม่ได้ถูกทำลายลงไปตอนที่อยู่ในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ผลลัพธ์ที่ออกมาพวกเขาคงจะหนีรอดมาได้ไม่ถึง 20 คน แน่นอน

หลังจากได้ยินตู้ฉิวเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เหยียนฮ่าวหัวและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกหนาวไปถึงขั้วกระดูกและอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันด้วยความตื่นตระหนก

ตู้ฉิวพูดอย่างกังวลว่า “เร็วเข้า ตอนนี้ผู้บัญชาการหลงได้ตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกมันแล้ว พวกเราต้องรีบไปช่วยเขามิฉะนั้นมันจะสายเกินไป!”

ใครบางคนแสดงสีหน้าหวาดกลัวและพูดว่า “พวกมันต้องได้รู้ความลับและสมบัติทั้งหมดของทะเลชางหมางแล้วแน่นอน! ในเมื่อเป็นแบบนี้พวกเราจะเอาปัญญาที่ไหนไปช่วยผู้บัญชาการหลงได้กัน?”

หากต้องเผชิญหน้ากับสมบัติลับของทะเลชางหมางใครจะไม่กลัว? เอาแค่ข้อมูลของสมบัติเพียงไม่กี่ชิ้นที่พวกเขาได้ทราบมามันก็แปลกประหลาดจนพวกเขาไม่สามารถเข้าใจกันได้อยู่แล้ว

ใบหน้าของเหยียนฮ่าวหัวมืดหม่นลงเช่นกัน ถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาจะเป็นผู้รับผิดชอบการรบในทะเลชางหมาง แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญนับร้อยที่อยู่กับเขาตอนนี้ก็คือผู้คนที่อยู่ในระดับการบ่มเพาะเดียวกันกับเขา ถ้าคนเหล่านี้ไม่ฟัง เขาก็ไม่มีปัญญาอะไรจะไปบังคับได้เช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็รู้สึกกลัวมากเช่นกัน

“เราต้องไตร่ตรองเรื่องนี้ให้รอบคอบ!” เหยียนฮ่าวหัวพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ถ้าเราทำอะไรผลีผลาม ไม่เพียงแต่เราจะไม่สามารถช่วยผู้บัญชาการหลงได้ พวกเราเองก็คงไม่พ้นจะถูกจับไปด้วยเช่นกัน แถมอีกอย่าง ในเมื่อผู้บัญชาการหลงก็ถูกจับไปนานแล้ว หากมันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับจริง ๆ มันก็คงจะเกิดขึ้นไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้พวกเราต้องไม่ทำอะไรผลีผลาม!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้คนอื่น ๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย

ตู้ฉิวก็ทำอะไรไม่ถูกเพราะเขารู้สึกว่าคำพูดของเหยียนฮ่าวหัวนั้นถูกต้อง อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะได้ข้อสรุป พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของพลังวิญญาณอีกสายหนึ่งที่กำลังใกล้เข้ามา จนทำให้พวกเขาต้องหันไปมอง ซึ่งภาพที่พวกเขาเห็นมันก็ทำให้พวกเขาทุกคนต้องอ้าปากค้าง เพราะมันคือภาพของมังกรตัวหนึ่งกำลังลากรถม้าที่มีกลุ่มคนอีกหลายสิบบินตามอยู่ด้านหลัง

เมื่อเห็นเช่นนี้ ตู้ฉิวและเหยียนฮ่าวหัวที่กำลังตกตะลึงก็อุทานออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ผู้บัญชาการหลง…”

พวกเขาสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่ามังกรที่ลากรถม้าคือ หลงเฉิน!

ผู้เชี่ยวชาญของภูเขาเอ้อหลง หลงเฉินที่มีสายเลือดของมังกรที่แท้จริงได้กลายเป็นสัตว์วิเศษเทียมรถม้า? แถมบรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญหลายสิบคนที่ได้รับบาดเจ็บในตอนนี้พวกเขากลับหายดีหมดแล้วแถมยังดูเหมือนว่าได้กลายเป็นคนของฝั่งตรงข้ามไปแล้วอีกต่างหาก?

ตู้ฉิวและเหยียนฮ่าวหัว และคนอื่น ๆ ต่างมองกันอย่างตกตะลึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

ในขณะนี้หลงเฉินที่เห็นกลุ่มคนของตัวเองมองดูเขาด้วยสายตาตกตะลึง เขาก็ยิ่งรู้สึกเศร้าสลด

ครึ่งวันที่แล้วเขายังคงเป็นผู้บัญชาการของกลุ่มตรงข้ามเขา ครึ่งวันต่อมาเขากลับกลายเป็นสัตว์วิเศษเทียมรถม้าให้ฝั่งศัตรู…

เมื่อเห็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ 200 กว่าคนขวางอยู่ข้างหน้า เสี่ยวเยว่เฟิงเองก็ไม่กล้าที่จะทำผลีผลาม นางหยุดรถและตะโกนขึ้น “นายท่าน มีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญมากมายขวางทางอยู่ข้างหน้า!”

เมื่อได้ยินว่ามีคนขวางทาง หลิงตู้ฉิงจึงชะโงกหน้าออกมาจากหน้าต่างรถม้าและมองไปที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญที่ขวางทางและถามว่า “พวกเจ้าแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะขวางทางพวกข้า?”

เมื่อได้ยินคำถามเช่นนี้ เหยียนฮ่าวหัวก็ไม่รู้จะตอบอะไรกลับ

“รีบปล่อยผู้บัญชาการหลงของเรามา!” ตู้ฉิวคำราม

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดขึ้นว่า “แม้ว่าข้าจะปล่อยเขาไป เขาก็คงไม่กล้าที่จะจากไปกับพวกเจ้าหรอก! เอาล่ะ ถ้าพวกเจ้าไม่คิดจะขวางทางของข้าก็จงหลีกทางไป”

เมื่อเห็นว่ากลุ่มที่ขวางอยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตี หลิงตู้ฉิงจึงปิดหน้าต่างรถม้าพร้อมกับพูดกับเสี่ยวเยว่เฟิง “ออกรถได้!”

เสี่ยวเยว่เฟิงพยักหน้าเล็กน้อย และสั่งหลงเฉินว่า “ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้พวกเขาตายก็จงให้พวกเขาหลีกทางออกไป!”

หลงเฉินมองไปที่เหยียนฮ่าวหัวและคนอื่น ๆ อย่างเศร้าโศก ในขณะที่เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขมขื่น “พวกเจ้าจงหลีกทางไป ข้าต้องผ่านทางนี้!”

เมื่อได้ยินคำสั่งของหลงเฉิน บรรดาผู้ที่เขาเคยเป็นผู้บังคับบัญชาก็เริ่มปั่นป่วนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ

ส่วนทางด้านของหลงเฉินเองก็ไม่แน่ใจว่าพวกคนเหล่านี้ที่เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจะเชื่อฟังเขาหรือไม่ในตอนนี้ แต่เนื่องจากหลิงตู้ฉิงได้สั่งให้เขาเดินหน้าต่อไป เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินหน้า

ซึ่งอันที่จริงหากมีใครที่ก็ตามที่ลงมือกับเขา เขาเองก็ยังไม่รู้เลยเหมือนกันว่าจะตอบโต้กลับไปอย่างไรดี?

แต่โชคดีที่ไม่มีใครลงมือทำอะไรในขณะที่หลงเฉินลากรถม้าผ่าน เหยียนฮ่าวหัวและคนอื่น ๆ ต่างก็เปิดเส้นทางให้เขาไปอย่างเงียบ ๆ

หลังจากผ่านกลุ่มคนมาแล้ว หลงเฉินก็ลากรถม้ามุ่งไปยังสนามรบต่อทันที

ตู้ฉิวและเหยียนฮ่าวหัวต่างมองหน้ากันและถามว่า “แล้วเราจะทำอย่างไรกันต่อไปดี?”

หลังจากคิดสักพัก ทั้งสองคนก็พูดว่า “ตามไปดูกันก่อนก็แล้วกัน!”

หลังจากนั้นทั้งสองก็นำผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญทั้ง 250 คนไปที่สนามรบเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ในช่วงเวลาเพียงครู่เดียว กลุ่มของหลิงตู้ฉิงก็ได้มาถึงสนามรบและร่อนลงพื้น จากนั้นพวกเขาก็พากันออกมาจากรถม้าเพื่อดูสถานการณ์ในสนามรบจากระยะไกล ซึ่งพวกเขาก็สามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัดว่าในขณะนี้มีมังกรยักษ์ตัวหนึ่งกำลังพุ่งไปซ้ายทีขวาทีอยู่ที่ใจกลางกองทัพของอาณาจักรหลงซานนับล้านคนราวกับว่ามันกำลังถูกขังอยู่

“ท่านพ่อข้าจะไปช่วยพี่สี่” หลิงฟ่างหัวพูด

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ไปเถอะ แต่จงระวังตัวและอย่าลืมบอกพี่สี่ของเจ้าและคนอื่น ๆ ว่าเรามาถึงแล้ว และเรียกให้เขามาพบกับพ่อก่อน ส่วนคนอื่น ๆ อย่าพึ่งให้ทำอะไรผลีผลามในตอนนี้”

หลิงฟ่างหัวพยักหน้ารับทราบ จากนั้นร่างกายของนางก็จางหายไปต่อหน้าทุกคน ซึ่งมันคือสัญญาณที่นางใช้ทักษะเดินทางผ่านมิติไปยังใจกลางสนามรบ

เปลือกตาของหลงเฉินกระตุกเมื่อเห็นสิ่งนี้

นี่คือความสามารถที่เกิดขึ้นจากสมบัติมิติชิ้นนั้นที่เขาได้รับรายงานมางั้นเหรอ?

ต้องรู้ว่าในมหาพิภพไร้จุดจบนั้นมีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่มีความสามารถเกี่ยวกับมิติ

ในขณะนี้หลิงฟ่างหัวได้เดินทางผ่านมิติไปจนไปปรากฏตัวที่ด้านข้างมังกรตัวมหึมาเรียบร้อยแล้ว

“น้องห้า เจ้ามาแล้วงั้นเหรอ?” ร่างของหลิงว่านจุนปรากฏขึ้นจากร่างของมังกร

หลิงฟ่างหัวหัวเราะ “พี่สี่ ท่านพ่อและแม่ ๆ ได้มาถึงแล้ว เดี๋ยวข้าจะช่วยท่านเปิดเส้นทางฝ่าออกไป เมื่อครู่ท่านพ่อได้สั่งมาว่าให้ท่านออกไปพบกับเขา”

หลิงว่านจุนพยักหน้าและพูดว่า “อ่าเยี่ยมเลย ในเมื่อท่านพ่อได้มาถึงแล้ว ถ้าอย่างนั้นมันก็คงถึงเวลาที่ข้าจะต้องลงมือสักที”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+